“ไฟ..”
เธอชี้นิ้วไปที่เพื่อนร่วมคลาส เอ่ยเรียกชื่อเขา แล้วชี้นิ้วไปยังผู้ชายรูปหล่ออีกคนที่เหมือนเขาทุกกระเบียดนิ้วซึ่งน่าจะเป็นภาพสะท้อนจากกระจกเงา แต่ไหนล่ะ..กระจก
“ผมไฟถูกแล้ว แต่นั่น ฟืน พี่ชายฝาแฝดของผม”
“ฟืน พี่ชายฝาแฝดหรือ”
“ใช่”
จริงสิ เธอลืมความจริงข้อนี้ไปได้อย่างไร ก็สาวๆ ทั้งในและนอกคณะลือกันให้แซดว่าเขามีฝาแฝดที่ทั้งหล่อและเท่ไม่ต่างจากเขา ซึ่งเธอเองก็ไม่เคยได้เจอหน้าสักครั้งจนลืมเลือนเรื่องนี้ไปแล้ว
แต่ที่จะแตกต่างออกไปจนสามารถแยกฝาแฝดคู่นี้ออกและเป็นที่โจษจันไปทั่วเห็นจะเป็นความเจ้าชู้ ร้ายกาจ และดิบเถื่อนตามสไตล์หนุ่มวิศวะ ที่แค่มองเขาปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเขาเป็นเหมือนคำพูดพวกนั้นจริงๆ แค่เห็นหน้าก็ไม่ถูกชะตาเสียแล้ว
“สวัสดีครับคุณหนูของขวัญ ไม่เคยได้ยินชื่อ ฟืน วิดวะ ผู้ชายที่ฮ็อตที่สุดในโยธาหรือไง ถึงเรียกฉันเป็นไอ้ไฟ”
คนหล่อยืนกอดอกไขว้ขาเอนตัวพิงผนังห้องด้วยท่วงท่าสุดเท่ ดวงตาคมกริบดูดุดันมีเสน่ห์มองเธอไม่วางตา แถมยังยกยิ้มมุมปากอย่างกวนอารมณ์ที่สุด
ไอ้เรื่องหล่อ มันก็หล่ออยู่หรอก เพราะเขาสองคนหน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่เธอสัมผัสได้เลยว่าลึกลงไปในดวงตาของผู้ชายสองคนนี้มันต่างกัน
เพื่อนร่วมคลาสของเธอ แม้ดวงตาจะคมกริบมีเสน่ห์ เหมือนฝาแฝด แต่ก็ดูอ่อนโยนกว่าหมอนั่นเยอะ ของหมอนั่นน่ะเหรอ ทั้งดูดุดันเกรี้ยวกราดและรู้สึกว่ามันดูล้ำลึกอ่านยาก น่ากลัวจนไม่อยากเฉียดกรายเข้าใกล้
แถมเขายังเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ หนึ่งในคณะต้องห้ามสำหรับเธอ เพราะเธอไม่อยากทำความรู้จักกับใครที่เรียนคณะนี้ทั้งนั้น ลูกคุณหนูอย่างเธอไม่ชอบผู้ชายดิบเถื่อน เลวทราม และนอนกับผู้หญิงไม่เลือกเหมือนที่ได้ยินเสียงซุบซิบนินทาของสาวๆ ที่มักจะอกหักจากนิสัยแย่ๆ ของผู้ชายคณะนี้
“อ๋อ เคยได้ยินอยู่ ชื่อเสียงเน่าๆ ของนายออกจะลือกันให้กระฉ่อน แต่ฉันไม่อยากจะใส่ใจ”
เป๊ง!! เสียงระฆังบอกสัญญาณยกที่หนึ่ง เริ่มต้นขึ้น หนุ่มหล่อสาวสวยสบประสานสายตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
คนหล่อแค่นหัวเราะในลำคอแล้วยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ยัยคุณหนูนี่ปากดีแบบนี้นี่เอง ไอ้ไฟมันถึงบอกให้เขาคิดอีกที ว่าถ้าเธอตื่นมาแล้วเขายังจะอยากจับเธอกินอยู่ไหม
“หึ แล้วผู้ชายแบบไหนที่คุณหนูของขวัญอยากจะใส่ใจล่ะครับ”
“แบบไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่แบบนาย แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าคุณหนูเสียที อยากเป็นเบ๊ฉันหรือไง”
“ต่อให้เธออยากได้ฉันไปเป็นเบ๊ แต่ต้องเสียใจด้วยนะ ฉันไม่ชอบเป็นเบี้ยล่างใคร ยกเว้นแค่ตอนอยู่บนเตียง ถ้าอยากให้ฉันเป็นเบี้ยล่างของเธอ ก็มาขึ้นเตียงกับฉันสิ”
“ทุเรศ ผู้ชายอย่างนาย ขาอ่อนของฉันก็ไม่มีวันได้เห็นหรอก”
“ฮ่าๆๆๆ ฉันก็ไม่ได้อยากจะเห็นขาอ่อนของเธอหรอกนะ ของขวัญ”
ใช่สิ เพราะสิ่งที่เขาอยากเห็นที่สุดในร่างกายของเธอ มันไม่ใช่ขาอ่อน แต่มันคือบางอย่างที่ดูท่าจะนุ่มนิ่มล่อหน้าล่อตาเขาตั้งแต่เมื่อคืนนั่นต่างหาก
ดวงตาคมกริบวาบขึ้น มองคนตัวบางที่เพิ่งตื่นนอนราวกับลูกกวางน้อยเนื้อหวาน ที่ยิ่งแสดงความพยศออกมาเท่าไร เนื้อของเธอก็จะยิ่งหวานติดลิ้นเท่านั้น
“พอก่อน ไม่ต้องเถียงกัน ของขวัญไปอาบน้ำก่อนไหม แล้วออกไปกินข้าวต้มกัน”
แฝดน้องจำต้องลั่นระฆังบอกเวลาหมดยก เพราะขืนปล่อยให้เถียงกันไปเรื่อยๆ นอกจากเธอจะเกลียดขี้หน้าพี่ชายของเขาแล้ว เธอจะพาลมาเกลียดขี้หน้าเพื่อนร่วมคลาสอย่างเขาด้วย
“ไม่เป็นไร ขวัญกลับคอนโดดีกว่า เฮ้ย ยัยเกรซล่ะ เห็นโทรศัพท์ขวัญไหม”
“เกรซทำไมเหรอ เมื่อคืนขวัญไปกับเกรซเหรอ”
สองสาวนี่คือเพื่อนสนิทกัน ที่ทุกคนมักจะเห็นว่าตัวติดกันเสมอ จนเพื่อนผู้ชายในคลาสหลายคนที่เข้าไปจีบเธอแล้วกินแห้วกลับมาต่างสงสัยว่าเกศรินคนนี้คือแฟนตัวจริงของคุณหนูของขวัญ
“ใช่ ขวัญจะกลับไปนอนห้องเกรซ เกรซไปเข้าห้องน้ำ แต่ขวัญมารู้ตัวอีกทีก็ตอนโดนไอ้ชลัชนั่นลากออกมาแล้ว ยัยเกรซต้องตกใจมากแน่ๆ ที่กลับโต๊ะมาแล้วไม่เจอขวัญ”
ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะได้ถามถึงว่าไอ้ชลัชที่เธอเอ่ยชื่อมาแล้วถึงสองครั้งคือใคร โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมใบจิ๋วของเธอซึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงก็สั่นขึ้นมาเสียก่อน
อัคคีส่งโทรศัพท์ให้ ไม่วายแอบดูหน้าจอว่าใครกันแน่ที่โทรหาเธอ ก็เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย เมื่อคำว่า My GRACE โชว์หราอยู่
“เกรซโทรมาจริงๆ ด้วย”
“ของขวัญ นี่แกอยู่ไหน ทำไมเมื่อคืนไม่รอฉัน ฉันตามหาแกแทบแย่ โทรหาจนมือจะหัก จะบุกไปที่บ้านแกแล้วนะ”
“ใจเย็นเกรซ ฉันปลอดภัยดี ตอนนี้ฉันอยู่ที่ เอ่อ..ห้อง”
“ห้อง ห้องไหน ห้องใคร”
“เอ่อ..คอนโดน่ะ”
“ฉันจะไปหาแกเดี๋ยวนี้ รอแป๊บนะ”
“เฮ้ย ไม่ต้องมาหรอก เดี๋ยวฉันจะกลับบ้าน”
“กลับทำไม วันนี้พ่อแกจะไม่อยู่ไม่ใช่เหรอ จะกลับไปให้ไอ้ชลัชมันลวนลามหรือไง แกเป็นอะไรหรือเปล่าของขวัญ ฉันว่าแกดูแปลกๆ ไปนะ”
“ไม่มีอะไร ฉันเมาค้าง ลืมไปเลยว่าพ่อไม่อยู่ ขอบใจนะที่เตือน ฉันขอนอนต่อก่อนได้ไหม เดี๋ยวเย็นๆ โทรหาอีกที”
“ต้องโทรมานะ ถ้าแกไม่โทรมา ฉันบุกถึงห้องจริงๆ ด้วย”
“อืม แค่นี้ก่อนนะเกรซ”
“อือ ฉันก็จะนอนบ้าง หลับๆ ตื่นๆ คอยแต่จะโทรหาแกเนี่ย”
“ฉันขอโทษ”
“อือ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”
เธอวางสายไปแล้วก็ลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะกลับคอนโดของตัวเอง แม้จะรู้สึกดีที่ได้มาอยู่ในห้องของเดือนคณะที่เธอแอบปลื้มตั้งแต่สบตากันครั้งแรกในวันปฐมนิเทศน์ แต่จะอยู่ในสภาพนี้นานๆ ก็คงไม่เหมาะ
“ขวัญกลับก่อนนะไฟ ขอบคุณมากค่ะ ที่ช่วยขวัญเอาไว้ ไม่งั้นขวัญแย่แน่ๆ”
“เดี๋ยวสิ ไม่อาบน้ำกินข้าวก่อนเหรอ เดี๋ยวผมไปส่ง เมื่อคืนขวัญมารถไอ้ฟื..เอ่อ รถผม”
“ไม่เป็นไรดีกว่า ขวัญไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน ว่าแต่ที่นี่มันอยู่ส่วนไหนของกรุงเทพฯ คะ”
“H คอนโด ใกล้มหา’ลัยของเรา”
“ไฟก็อยู่ที่นี่เหรอ”
“หมายความว่าขวัญก็อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ”
“ใช่ เพิ่งย้ายมาไม่นานเอง”
“บังเอิญจัง ดีเลย งั้นขวัญกลับไปอาบน้ำที่ห้องก็ได้ แล้วมากินข้าวต้มที่ห้องผมนะ ไอ้ฟืนมันอุตส่าห์ทำให้ขวัญ”
รอยยิ้มหวานๆ หุบลงทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่ทำข้าวต้มให้เธอคือผู้ชายกวนประสาทคนนั้น แม้จะไม่อยากกิน แต่โอกาสงามๆ ที่เธอจะได้ใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมคลาสคนนี้ก็ไม่ได้มีมาบ่อยๆ จึงตอบตกลง และวันนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เธอกับเขา สนิทสนมกันจนถึงวันนี้
ดวงตากลมโตลอบมองผู้ชายที่นั่งอยู่บนพื้นพรมขนกระต่ายฝั่งตรงข้ามซึ่งกำลังรัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กราคาแพง วันนี้เธอกับเขามีนัดมาทำรายงานกันที่โต๊ะตัวเตี้ยหน้าโซฟาในห้องรับแขกของคอนโดมิเนียมสุดหรูของเขาเหมือนเดิมนึกอยากขอบคุณคืนซวยๆ คืนนั้นที่เหวี่ยงให้เขาโผล่มาช่วยเธอจากผู้ชายเลวๆ นั่นได้ทัน และทำให้เธอกับเขาได้มาสนิทสนมกันจนถึงวันนี้สองปีแล้วสินะ ที่เธอได้นั่งเรียนข้างเขา พูดคุยกับเขาทุกวัน กินข้าวด้วยกันแทบทุกมื้อ ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ รวมถึงตัวติดกันแทบจะตลอดเวลาอันที่จริงก็ไม่ได้มีแค่เธอกับเขาหรอก ที่ตัวติดกันตลอดเวลา ในกลุ่มของเธอยังมีเพื่อนผู้หญิงอีกหลายคน และหนึ่งในนั้นคือ เกรซ เกศริน เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่พยายามอย่างยิ่งยวดในการยุยงส่งเสริมให้เธอบอกความในใจกับเขา แต่เธอก็ไม่กล้าเสียทีแม้จะไม่แน่ใจว่าเขาพอจะมองออกหรือเปล่า ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขา แต่ในเมื่อเขายังคงทำตัวเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ได้ดูมีท่าทีคิดอะไรเกินเลยกับเธอแม้แต่น้อย ทำให้เธอไม่กล้าที่จะสารภาพความในใจออกไป เพราะกลัวว่าถ้าเขาไม่คิดอะไร เธอจะสูญเสียเขาไปตลอดกาลความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธ
“เสร็จซะที เมื่อยจะแย่”คนตัวบางในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูกระโปรงบานสั้นเหนือเข่ามาเป็นคืบ หักนิ้วมือและบิดกายอย่างเมื่อยขบเมื่อต้องนั่งพิมพ์รายงานวิชาสำคัญตั้งแต่เช้าจรดเย็นแทบไม่ได้พัก“ขวัญเสร็จแล้วเหรอ ของผมยังไม่เสร็จเลย”“อีกเยอะไหม เอามาสิ ขวัญช่วยพิมพ์”“ไม่เป็นไรหรอก อีกไม่เยอะแล้ว ขวัญพักเถอะ”“คุณหนูของขวัญ มาช่วยฉันทำกับข้าวดีกว่า จะได้กินข้าวเย็นกัน เดี๋ยวไอ้นุ๊กก็ต้องกลับบ้านแล้ว”คุณหนูคนสวยหันขวับมองหน้าคนปากไม่ดีตาขวาง ในแววตาแทบไม่มีความเป็นมิตรหลงเหลืออยู่สักนิด แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจของคนที่ตั้งใจกวนประสาท“ทำไมมองฉันแบบนั้น อย่าบอกนะว่าคุณหนูของขวัญทำกับข้าวไม่เป็น”เธอไม่ตอบ แต่ดวงตากลมโตวาววับเอาเรื่องนั้นมองเขาราวกับกำลังจะขู่ให้เขาหุบปาก อย่าพูดมาก ถ้ายังไม่อยากโดนเธอฆ่าตาย“ทำไม่เป็นจริงๆ เหรอเนี่ย ฮ่าๆๆๆ ไอ้ไฟ มึงไม่คิดจะสอนเพื่อนมึงหน่อยเหรอ แบบนี้ใครจะเอาทำเมียวะ”“ไอ้เหี้ยฟืน มึงเลิกกวนประสาทขวัญซะที วันนี้เวรมึง ก็ทำไป อย่าลีลา”คนตัวร้ายมองสบตาน้องชายด้วยแววตาที่รู้กัน แฝดน้องถอนหายใจยาวในความเจ้าเล่ห์ของพี่ชาย สุดท้ายก็ต้องช่วย หมอนั่นป
คนตัวบางสะดุ้งโหยง หมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็วทั้งยังชี้ปลายมีดมายังเขา ดีที่เขากระโดดถอยหลังหลบได้ทัน ไม่อย่างนั้นปลายมีดแหลมคมนั้นคงฝังเข้ามากลางหน้าอกของเขาไปแล้วแน่ๆ“เฮ้ย นี่จะฆ่าฉันเหรอ ของขวัญ”“ก็ใครใช้ให้นายมาเล่นบ้าๆ กับฉันแบบนี้ ถอยออกไปไกลๆ อย่าขยับมาใกล้ฉันอีก”“ฉันแค่จะมาดูว่าเธอหั่นผักเสร็จหรือยัง เห็นยืมงมอยู่ตั้งนาน จนฉันหุงข้าว หั่นหมู ทุบกระเทียมเสร็จแล้วเนี่ย”“ก็นายเข้ามาข้างหลังฉัน”“หึ คุณหนูของขวัญครับ ครัวนี้มันแคบ ถ้าฉันไม่เข้ามาดูเธอหั่นผักทางนั้น แล้วจะให้เข้าทางไหน”“ไม่ต้องพูดมาก คนอย่างนายเจตนามันไม่ดีตั้งแต่ต้น อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทันนายนะ ไอ้โรคจิต”“ทำไมมองฉันในแง่ร้ายแบบนั้นล่ะ ฉันไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย”นิดหน่อยน่ะ เขาไม่คิดหรอก แต่คนอย่างเขามันคิดเกินเลยไปไกลแล้วต่างหาก ก็ใครใช้ให้เธอทั้งสวยทั้งหอมแบบนี้ล่ะ ยิ่งมองเธอจากด้านหลัง เห็นบั้นท้ายงอนๆ เรียวขาขาวเนียนพ้นชายกระโปรงสั้นๆ ออกมาอีก แถมยิ่งอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนแบบนี้ เธอยิ่งดูน่ารักน่ากระแทกที่สุดจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว“เชื่อนายก็ออกลูกเป็นควายแล้ว”“ยังไม่ทันมีผัวเลย จะมีลูกแล้วเหรอ”“ไอ้บ้
“ว้าย..โอ๊ย..อ๊าย..”คือเสียงที่ดังออกมาจากห้องครัวเป็นระยะ นริศรามองไปยังหนุ่มสาวที่แทบจะหยุมหัวกันตลอดเวลา แต่แววตาของเพื่อนรักเธอที่ใช้มองไปยังผู้หญิงคนนั้นกลับอ่อนโยนอย่างที่เธอไม่เคยเห็นเขาใช้มองใครมาก่อน..แม้แต่เธอริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มแน่น หัวใจดวงน้อยปวดหน่วงแปลกๆ เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมองเธอเป็นอย่างอื่นนอกจากเพื่อนสนิท ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเคยมองเธอเป็นผู้หญิงบ้างหรือเปล่า แต่เธอกลับแอบชอบเขาจนเต็มพื้นที่ของหัวใจ“ไอ้ฟืนมันชอบผู้หญิงสวย”เสียงทุ้มของคนที่กำลังรัวนิ้วบนแป้นพิมพ์ดังขึ้น สายตาของเขาไม่ได้ละจากหน้าจอมามองเธอเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้ว่าเธอกำลังทำและกำลังคิดอะไรอยู่“แล้ว..”“คนไม่สวยแถมยังกระโดกกระเดกเหมือนทอมก็ต้องทำใจนะ”“หุบปาก ฟืนมันจะชอบใครไม่ชอบใครก็เรื่องของมัน ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”“หึ มองพี่ชายฉันซะตาปรอยขนาดนั้น อันที่จริงถ้าชอบคนหล่อๆ อย่างไอ้ฟืน ฉันก็พอแทนได้นะ เพราะหน้าเราเหมือนกัน ฉันจะหลับหูหลับตาทำให้ก็แล้วกัน ที่ห้องฉันหรือที่ห้องเธอดีล่ะ ยัยทอม”“ไอ้ทุเรศ ของขวัญน่าจะได้เห็นนะ ว่านายมันทุเรศ ไม่เหมือนภาพลักษณ์สุภาพบุรุษที่สร้างขึ้นมาบังหน้าเอาไว้ตกผู้หญิ
“ไอ้ฟืน กูขอโทษที่เอาแฟนมึง ปอยมาอ่อย ลากกูเข้าห้องน้ำ กูเลยทนไม่ไหว”ชนาธิปเอ่ยขอโทษทันทีที่อัคราเดินเข้ามาในห้องเรียน เรื่องที่เขากับคนรักของเพื่อนแอบแซ่บกันในห้องน้ำล่วงรู้ไปถึงหู เขาโทรหาเท่าไรอัคราก็ไม่ยอมรับสาย เดือดร้อนวันนี้เลยรีบมาแต่เช้าเพื่อดักรอในคลาสเรียนเสียเลย“กูไม่ได้หวงผู้หญิงคนนั้น แต่ไม่ชอบให้มึงมาทำอะไรลับหลัง ถ้ามึงอยากได้ทำไมไม่มาขอกันตรงๆ”แม้จะไม่เคยขอนอนกับผู้หญิงที่มีสถานะเป็นแฟนเพื่อน แต่กับผู้หญิงชั่วคืนคนอื่นที่มีสถานะเป็นแค่ของเล่น พวกเขาเองก็เคยผลัดกันใช้ออกบ่อยไป“กูก็ไม่ได้อยากได้แฟนมึง ไม่ได้อยากนอนด้วย แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ เล่นลากกูเข้าห้องน้ำแล้วถลกกระโปรงโชว์กู กูเลย..”ชนาธิปอึกอัก พูดไม่ได้เต็มปากนักว่าไม่อยากได้แฟนของเพื่อน เพราะน้องปอยคนนั้นก็ทั้งขาวทั้งอึ๋ม แถมพอได้ลองเข้าจริงๆ ก็โคตรเด็ดสมคำร่ำลือ“เออๆ ช่างแม่ง ทีหลังมึงต้องบอกกูสิวะ อย่าให้กูไปรู้จากคนอื่น มึงอยากได้ผู้หญิงคนไหนของกูมึงก็บอก เราสลับผู้หญิงกันใช้ออกบ่อย เรื่องแค่นี้อย่าให้มันมาทำลายความเป็นเพื่อนของเรา”“กูขอโทษ แต่นั่นแฟนมึงไง กูก็เลยกลัว..”“ที่จริงมึงแม่งก็ไม่ควรเอาแฟนก
เสียงโหวกเหวกที่เหล่าลูกคุณหนูชนชั้นไฮโซของหนุ่มสาวคณะบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์ไม่คุ้นเคย ดังมาจากกลุ่มของหนุ่มสาวเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูที่ยืนอยู่ไม่ไกลขวัญชนกมองสบตากลับชายหนุ่มรูปหล่อที่โดดเด่นที่สุดนั้นกลุ่มนั้นแล้วลอบเบะปาก แม้ใบหน้าจะเหมือนกับผู้ชายที่นั่งตรงข้ามกับเธอทุกกระเบียดนิ้ว แต่เธอบอกแล้ว ว่าแววตาและมารยาทของเขามันไม่ใช่“อุ๊ย นั่นฟืนนี่นา หน้าเหมือนแกโคตรๆ อะไฟ แต่ฉันว่าเขาดูกร้าวใจชะมัด”อัจจิมา เพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคนของขวัญชนกทำหน้าเคลิ้มฝัน เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอหล่อ แต่บุคลิกคุณชายที่เธอคุ้นเคยกับผู้ชายในคณะนี้มันทำให้เธอชินชา พอเจอสายตากร้าวดุของผู้ชายอีกคนที่หน้าเหมือนคนหล่อๆ ตรงนี้ มันทำให้หัวใจเธอสั่นอย่างไรชอบกลทั้งที่ปกติไม่เคยชอบผู้ชายคณะวิศวะเลยสักนิด“ชอบหรือไง หมอนั่นไม่ได้น่ารักเหมือนไฟหรอกนะยัยอ้อน ปากเสียจะตาย”ที่จริงขวัญชนกก็อยากจะใช้คำอื่นมากกว่าคำนี้ แต่แฝดผู้น้องของเขานั่งอยู่ทั้งคน และเธอจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ให้ดูน่ารักเสมอในสายตาเขา จึงไม่กล้าพูดจาแรงๆ ออกมา แม้ผู้ชายปากเสียคนนั้นจะคู่ควรก็ตาม“ก็คงไม่เถื่อนขนาดนั้นมั้ง เขาเป็นแฝดกับไฟนี่นา”อัจ
ระหว่างที่ชายหนุ่มทั้งสี่คนกำลังพูดถึงสาวบริหารอินเตอร์ที่ทั้งสวยทั้งหอม สาวอักษรที่กำลังโด่งดังมากในหมู่ผู้ชายก็เดินเข้ามาในโรงอาหารของคณะวิศวะสาวสวยผิวขาวในชุดนักศึกษารัดรูปท่ามกลางเหล่าหนุ่มวิศวะเสื้อช็อปสีเลือดหมูที่นั่งอยู่เต็มโรงอาหาร จึงดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ดึงดูดสายตาทุกคู่ให้จับจ้องไปยังเธอเพียงผู้เดียวแม้ด้านหลังของเธอจะมีเพื่อนสนิทเดินตามมาด้วยอีกสองคนก็ตามเมธาใช้ศอกกระทุ้งชนาธิปที่นั่งอยู่ด้านข้างให้เงยหน้าขึ้นมามองสาวอักษรคนนั้น ทำให้ชายหนุ่มทั้งกลุ่มหันไปมองด้วยความอยากรู้“ไอ้ธิป กูตาฝาดไปหรือเปล่าวะ ลัน สาวอักษร มาเดินอยู่ในดงวิศวะ”เมธาเอ่ยออกมาราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ฝันอีกครั้งเมื่อเจอสาวสวยคนดังของมหาวิทยาลัยสองคนติดๆ“มึงไม่ได้ตาฝาดไปหรอกไอ้ม่อน กูก็เห็น”ชนาธิปช่วยยืนยันในสิ่งที่เมธาเห็น ว่าทั้งหมดคือเรื่องจริง“เดี๋ยว นี่พวกมึงจะรู้จักสาวๆ ทุกคณะเลยหรือไงวะ”นริศรา สาวห้าวคนเดียวในหมู่หนุ่มห่ามพูดออกมาด้วยความหมั่นไส้ ถ้าพวกนี้หัดสนใจและทุ่มเทเรื่องการเรียนให้เหมือนเรื่องสาวๆ ป่านนี้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งคงมารออยู่ตรงหน้า นี่กว่าจะเคี่ยวเข็ญกันให้เรียนผ่านมาจนถ
“อีของขวัญ อีของขวัญอีกแล้ว มันออกไปจากบ้านแล้วทำไมยังตามมาเป็นมารของฉันอยู่ได้”กระเป๋าแบรนด์เนมไฮเอนด์ถูกทุ่มลงบนโต๊ะม้าหินข้างตึกคณะอักษรศาสตร์อย่างไม่ไยดี ทำเอาเพื่อนรักทั้งสองถลาเข้าไปกอดประคองปัดฝุ่นมันด้วยความทะนุถนอมแทบไม่ทัน“แกใจเย็นสิวะลัน แล้วของขวัญนี่มันเป็นใคร ใช่ดาวคณะบริหารอินเตอร์หรือเปล่า”ต้องตา เพื่อนรักที่เป็นลูกไล่ถามขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะคนที่สามารถปาดหน้าหนุ่มที่ชลันดาหมายปองไปก็ต้องเป็นคนระดับเดียวกันเท่านั้นถึงจะทำได้หลังจากที่ชีวิตของชลันดาดีขึ้นแบบ 300% ได้ใช้ชีวิตแบบลูกคุณหนูมานานร่วมสองปี เธอไม่เคยเอาเรื่องของขวัญชนกมาเล่าให้เพื่อนฟัง เพราะเจ้าหล่อนกระเด็นออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ไปนานแล้ว“ใช่ มันนั่นแหละ มันเป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณลุง”“อ้าว งั้นก็แปลว่าแกสองคนเป็นพี่น้องกันน่ะสิ”โซดา โพล่งออกมาประสาซื่อ ในเมื่อพ่อกับแม่มาแต่งงานกัน ลูกจากทั้งสองฝั่งก็ต้องเป็นพี่น้องกันไปโดยปริยาย แต่กลับถูกชลันดาตวัดสายตามองอย่างคาดโทษที่พูดจาไม่เข้าหู“โซดา ถ้าแกไม่รู้จะพูดอะไรก็ไม่ต้องพูดออกมาให้ฉันอารมณ์เสีย นังนั่นมันไม่ใช่พี่น้องของฉัน เพราะมันเองก็ไม่เคยมองฉันกับพี่เ
กว่าที่เขาจะสอนเธอทำเมนูโปรดของตัวเองได้ก็ลุ้นเกือบตาย เห็นทีคุณหนูของขวัญคงเหมาะกับการชี้นิ้วสั่งและนั่งรอกินข้าวแบบสวยๆ มากกว่าจะเข้าครัวแบบนี้ แต่ถ้าเขายกเลิกคอร์สทำอาหารไปก็จะไม่มีโอกาสใกล้ชิดเธออีก“ไฟยังไม่มาอีกเหรอ”หลังจากที่แทบจะทำไฟไหม้ครัวของเขา คุณหนูของขวัญก็มานั่งชะเง้อคอจนแทบจะเป็นยีราฟรอคอยอัคคีกลับมาชิมอาหารฝีมือเธอ“ฉันว่ามันไม่กลับมาง่ายๆ แล้วล่ะ น่าจะดึก อย่ารอเลย เรากินข้าวกันก่อนเถอะ”“ฉันอยากรอไฟมากกว่า เหม็นตัวเองด้วย มีแต่กลิ่นกะเพรา”เธอยกแขนขึ้นมาดม มีแต่กลิ่นฉุนๆ ของใบกะเพราและเครื่องปรุงกลิ่นเค็มๆ การทำอาหารมันไม่เหมาะกับเธอจริงๆ แต่ก็อยากแสดงความสามารถให้อัคคีเห็น เผื่อเขาจะปลื้มเธอในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง“มันจะดึก ไม่หิวหรือไง”“ไม่หิว ดึกแค่ไหนก็รอได้ งั้นฉันไปอาบน้ำสระผมก่อนนะ เดี๋ยวจะรีบมา”“ตามใจ งั้นเอาคีย์การ์ดไป เผื่อฉันยังอาบน้ำไม่เสร็จก็เปิดเข้ามานั่งรอแล้วกัน”“ขอบใจนะ”หลังจากที่เธอกลับไปอาบน้ำสระผม ทาโลชันกลิ่นดอกไม้จนหอมฟุ้งก็กลับมาที่ห้องของเขาอีกครั้ง เมื่อเดินเข้ามาก็สบตากับชายหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขายาวผ้านุ่มสีเทาเข้มซึ่งกำ
“อีของขวัญ อีของขวัญอีกแล้ว มันออกไปจากบ้านแล้วทำไมยังตามมาเป็นมารของฉันอยู่ได้”กระเป๋าแบรนด์เนมไฮเอนด์ถูกทุ่มลงบนโต๊ะม้าหินข้างตึกคณะอักษรศาสตร์อย่างไม่ไยดี ทำเอาเพื่อนรักทั้งสองถลาเข้าไปกอดประคองปัดฝุ่นมันด้วยความทะนุถนอมแทบไม่ทัน“แกใจเย็นสิวะลัน แล้วของขวัญนี่มันเป็นใคร ใช่ดาวคณะบริหารอินเตอร์หรือเปล่า”ต้องตา เพื่อนรักที่เป็นลูกไล่ถามขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะคนที่สามารถปาดหน้าหนุ่มที่ชลันดาหมายปองไปก็ต้องเป็นคนระดับเดียวกันเท่านั้นถึงจะทำได้หลังจากที่ชีวิตของชลันดาดีขึ้นแบบ 300% ได้ใช้ชีวิตแบบลูกคุณหนูมานานร่วมสองปี เธอไม่เคยเอาเรื่องของขวัญชนกมาเล่าให้เพื่อนฟัง เพราะเจ้าหล่อนกระเด็นออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ไปนานแล้ว“ใช่ มันนั่นแหละ มันเป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณลุง”“อ้าว งั้นก็แปลว่าแกสองคนเป็นพี่น้องกันน่ะสิ”โซดา โพล่งออกมาประสาซื่อ ในเมื่อพ่อกับแม่มาแต่งงานกัน ลูกจากทั้งสองฝั่งก็ต้องเป็นพี่น้องกันไปโดยปริยาย แต่กลับถูกชลันดาตวัดสายตามองอย่างคาดโทษที่พูดจาไม่เข้าหู“โซดา ถ้าแกไม่รู้จะพูดอะไรก็ไม่ต้องพูดออกมาให้ฉันอารมณ์เสีย นังนั่นมันไม่ใช่พี่น้องของฉัน เพราะมันเองก็ไม่เคยมองฉันกับพี่เ
ระหว่างที่ชายหนุ่มทั้งสี่คนกำลังพูดถึงสาวบริหารอินเตอร์ที่ทั้งสวยทั้งหอม สาวอักษรที่กำลังโด่งดังมากในหมู่ผู้ชายก็เดินเข้ามาในโรงอาหารของคณะวิศวะสาวสวยผิวขาวในชุดนักศึกษารัดรูปท่ามกลางเหล่าหนุ่มวิศวะเสื้อช็อปสีเลือดหมูที่นั่งอยู่เต็มโรงอาหาร จึงดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ดึงดูดสายตาทุกคู่ให้จับจ้องไปยังเธอเพียงผู้เดียวแม้ด้านหลังของเธอจะมีเพื่อนสนิทเดินตามมาด้วยอีกสองคนก็ตามเมธาใช้ศอกกระทุ้งชนาธิปที่นั่งอยู่ด้านข้างให้เงยหน้าขึ้นมามองสาวอักษรคนนั้น ทำให้ชายหนุ่มทั้งกลุ่มหันไปมองด้วยความอยากรู้“ไอ้ธิป กูตาฝาดไปหรือเปล่าวะ ลัน สาวอักษร มาเดินอยู่ในดงวิศวะ”เมธาเอ่ยออกมาราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ฝันอีกครั้งเมื่อเจอสาวสวยคนดังของมหาวิทยาลัยสองคนติดๆ“มึงไม่ได้ตาฝาดไปหรอกไอ้ม่อน กูก็เห็น”ชนาธิปช่วยยืนยันในสิ่งที่เมธาเห็น ว่าทั้งหมดคือเรื่องจริง“เดี๋ยว นี่พวกมึงจะรู้จักสาวๆ ทุกคณะเลยหรือไงวะ”นริศรา สาวห้าวคนเดียวในหมู่หนุ่มห่ามพูดออกมาด้วยความหมั่นไส้ ถ้าพวกนี้หัดสนใจและทุ่มเทเรื่องการเรียนให้เหมือนเรื่องสาวๆ ป่านนี้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งคงมารออยู่ตรงหน้า นี่กว่าจะเคี่ยวเข็ญกันให้เรียนผ่านมาจนถ
เสียงโหวกเหวกที่เหล่าลูกคุณหนูชนชั้นไฮโซของหนุ่มสาวคณะบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์ไม่คุ้นเคย ดังมาจากกลุ่มของหนุ่มสาวเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูที่ยืนอยู่ไม่ไกลขวัญชนกมองสบตากลับชายหนุ่มรูปหล่อที่โดดเด่นที่สุดนั้นกลุ่มนั้นแล้วลอบเบะปาก แม้ใบหน้าจะเหมือนกับผู้ชายที่นั่งตรงข้ามกับเธอทุกกระเบียดนิ้ว แต่เธอบอกแล้ว ว่าแววตาและมารยาทของเขามันไม่ใช่“อุ๊ย นั่นฟืนนี่นา หน้าเหมือนแกโคตรๆ อะไฟ แต่ฉันว่าเขาดูกร้าวใจชะมัด”อัจจิมา เพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคนของขวัญชนกทำหน้าเคลิ้มฝัน เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอหล่อ แต่บุคลิกคุณชายที่เธอคุ้นเคยกับผู้ชายในคณะนี้มันทำให้เธอชินชา พอเจอสายตากร้าวดุของผู้ชายอีกคนที่หน้าเหมือนคนหล่อๆ ตรงนี้ มันทำให้หัวใจเธอสั่นอย่างไรชอบกลทั้งที่ปกติไม่เคยชอบผู้ชายคณะวิศวะเลยสักนิด“ชอบหรือไง หมอนั่นไม่ได้น่ารักเหมือนไฟหรอกนะยัยอ้อน ปากเสียจะตาย”ที่จริงขวัญชนกก็อยากจะใช้คำอื่นมากกว่าคำนี้ แต่แฝดผู้น้องของเขานั่งอยู่ทั้งคน และเธอจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ให้ดูน่ารักเสมอในสายตาเขา จึงไม่กล้าพูดจาแรงๆ ออกมา แม้ผู้ชายปากเสียคนนั้นจะคู่ควรก็ตาม“ก็คงไม่เถื่อนขนาดนั้นมั้ง เขาเป็นแฝดกับไฟนี่นา”อัจ
“ไอ้ฟืน กูขอโทษที่เอาแฟนมึง ปอยมาอ่อย ลากกูเข้าห้องน้ำ กูเลยทนไม่ไหว”ชนาธิปเอ่ยขอโทษทันทีที่อัคราเดินเข้ามาในห้องเรียน เรื่องที่เขากับคนรักของเพื่อนแอบแซ่บกันในห้องน้ำล่วงรู้ไปถึงหู เขาโทรหาเท่าไรอัคราก็ไม่ยอมรับสาย เดือดร้อนวันนี้เลยรีบมาแต่เช้าเพื่อดักรอในคลาสเรียนเสียเลย“กูไม่ได้หวงผู้หญิงคนนั้น แต่ไม่ชอบให้มึงมาทำอะไรลับหลัง ถ้ามึงอยากได้ทำไมไม่มาขอกันตรงๆ”แม้จะไม่เคยขอนอนกับผู้หญิงที่มีสถานะเป็นแฟนเพื่อน แต่กับผู้หญิงชั่วคืนคนอื่นที่มีสถานะเป็นแค่ของเล่น พวกเขาเองก็เคยผลัดกันใช้ออกบ่อยไป“กูก็ไม่ได้อยากได้แฟนมึง ไม่ได้อยากนอนด้วย แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ เล่นลากกูเข้าห้องน้ำแล้วถลกกระโปรงโชว์กู กูเลย..”ชนาธิปอึกอัก พูดไม่ได้เต็มปากนักว่าไม่อยากได้แฟนของเพื่อน เพราะน้องปอยคนนั้นก็ทั้งขาวทั้งอึ๋ม แถมพอได้ลองเข้าจริงๆ ก็โคตรเด็ดสมคำร่ำลือ“เออๆ ช่างแม่ง ทีหลังมึงต้องบอกกูสิวะ อย่าให้กูไปรู้จากคนอื่น มึงอยากได้ผู้หญิงคนไหนของกูมึงก็บอก เราสลับผู้หญิงกันใช้ออกบ่อย เรื่องแค่นี้อย่าให้มันมาทำลายความเป็นเพื่อนของเรา”“กูขอโทษ แต่นั่นแฟนมึงไง กูก็เลยกลัว..”“ที่จริงมึงแม่งก็ไม่ควรเอาแฟนก
“ว้าย..โอ๊ย..อ๊าย..”คือเสียงที่ดังออกมาจากห้องครัวเป็นระยะ นริศรามองไปยังหนุ่มสาวที่แทบจะหยุมหัวกันตลอดเวลา แต่แววตาของเพื่อนรักเธอที่ใช้มองไปยังผู้หญิงคนนั้นกลับอ่อนโยนอย่างที่เธอไม่เคยเห็นเขาใช้มองใครมาก่อน..แม้แต่เธอริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มแน่น หัวใจดวงน้อยปวดหน่วงแปลกๆ เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมองเธอเป็นอย่างอื่นนอกจากเพื่อนสนิท ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเคยมองเธอเป็นผู้หญิงบ้างหรือเปล่า แต่เธอกลับแอบชอบเขาจนเต็มพื้นที่ของหัวใจ“ไอ้ฟืนมันชอบผู้หญิงสวย”เสียงทุ้มของคนที่กำลังรัวนิ้วบนแป้นพิมพ์ดังขึ้น สายตาของเขาไม่ได้ละจากหน้าจอมามองเธอเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้ว่าเธอกำลังทำและกำลังคิดอะไรอยู่“แล้ว..”“คนไม่สวยแถมยังกระโดกกระเดกเหมือนทอมก็ต้องทำใจนะ”“หุบปาก ฟืนมันจะชอบใครไม่ชอบใครก็เรื่องของมัน ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”“หึ มองพี่ชายฉันซะตาปรอยขนาดนั้น อันที่จริงถ้าชอบคนหล่อๆ อย่างไอ้ฟืน ฉันก็พอแทนได้นะ เพราะหน้าเราเหมือนกัน ฉันจะหลับหูหลับตาทำให้ก็แล้วกัน ที่ห้องฉันหรือที่ห้องเธอดีล่ะ ยัยทอม”“ไอ้ทุเรศ ของขวัญน่าจะได้เห็นนะ ว่านายมันทุเรศ ไม่เหมือนภาพลักษณ์สุภาพบุรุษที่สร้างขึ้นมาบังหน้าเอาไว้ตกผู้หญิ
คนตัวบางสะดุ้งโหยง หมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็วทั้งยังชี้ปลายมีดมายังเขา ดีที่เขากระโดดถอยหลังหลบได้ทัน ไม่อย่างนั้นปลายมีดแหลมคมนั้นคงฝังเข้ามากลางหน้าอกของเขาไปแล้วแน่ๆ“เฮ้ย นี่จะฆ่าฉันเหรอ ของขวัญ”“ก็ใครใช้ให้นายมาเล่นบ้าๆ กับฉันแบบนี้ ถอยออกไปไกลๆ อย่าขยับมาใกล้ฉันอีก”“ฉันแค่จะมาดูว่าเธอหั่นผักเสร็จหรือยัง เห็นยืมงมอยู่ตั้งนาน จนฉันหุงข้าว หั่นหมู ทุบกระเทียมเสร็จแล้วเนี่ย”“ก็นายเข้ามาข้างหลังฉัน”“หึ คุณหนูของขวัญครับ ครัวนี้มันแคบ ถ้าฉันไม่เข้ามาดูเธอหั่นผักทางนั้น แล้วจะให้เข้าทางไหน”“ไม่ต้องพูดมาก คนอย่างนายเจตนามันไม่ดีตั้งแต่ต้น อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทันนายนะ ไอ้โรคจิต”“ทำไมมองฉันในแง่ร้ายแบบนั้นล่ะ ฉันไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย”นิดหน่อยน่ะ เขาไม่คิดหรอก แต่คนอย่างเขามันคิดเกินเลยไปไกลแล้วต่างหาก ก็ใครใช้ให้เธอทั้งสวยทั้งหอมแบบนี้ล่ะ ยิ่งมองเธอจากด้านหลัง เห็นบั้นท้ายงอนๆ เรียวขาขาวเนียนพ้นชายกระโปรงสั้นๆ ออกมาอีก แถมยิ่งอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนแบบนี้ เธอยิ่งดูน่ารักน่ากระแทกที่สุดจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว“เชื่อนายก็ออกลูกเป็นควายแล้ว”“ยังไม่ทันมีผัวเลย จะมีลูกแล้วเหรอ”“ไอ้บ้
“เสร็จซะที เมื่อยจะแย่”คนตัวบางในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูกระโปรงบานสั้นเหนือเข่ามาเป็นคืบ หักนิ้วมือและบิดกายอย่างเมื่อยขบเมื่อต้องนั่งพิมพ์รายงานวิชาสำคัญตั้งแต่เช้าจรดเย็นแทบไม่ได้พัก“ขวัญเสร็จแล้วเหรอ ของผมยังไม่เสร็จเลย”“อีกเยอะไหม เอามาสิ ขวัญช่วยพิมพ์”“ไม่เป็นไรหรอก อีกไม่เยอะแล้ว ขวัญพักเถอะ”“คุณหนูของขวัญ มาช่วยฉันทำกับข้าวดีกว่า จะได้กินข้าวเย็นกัน เดี๋ยวไอ้นุ๊กก็ต้องกลับบ้านแล้ว”คุณหนูคนสวยหันขวับมองหน้าคนปากไม่ดีตาขวาง ในแววตาแทบไม่มีความเป็นมิตรหลงเหลืออยู่สักนิด แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจของคนที่ตั้งใจกวนประสาท“ทำไมมองฉันแบบนั้น อย่าบอกนะว่าคุณหนูของขวัญทำกับข้าวไม่เป็น”เธอไม่ตอบ แต่ดวงตากลมโตวาววับเอาเรื่องนั้นมองเขาราวกับกำลังจะขู่ให้เขาหุบปาก อย่าพูดมาก ถ้ายังไม่อยากโดนเธอฆ่าตาย“ทำไม่เป็นจริงๆ เหรอเนี่ย ฮ่าๆๆๆ ไอ้ไฟ มึงไม่คิดจะสอนเพื่อนมึงหน่อยเหรอ แบบนี้ใครจะเอาทำเมียวะ”“ไอ้เหี้ยฟืน มึงเลิกกวนประสาทขวัญซะที วันนี้เวรมึง ก็ทำไป อย่าลีลา”คนตัวร้ายมองสบตาน้องชายด้วยแววตาที่รู้กัน แฝดน้องถอนหายใจยาวในความเจ้าเล่ห์ของพี่ชาย สุดท้ายก็ต้องช่วย หมอนั่นป
ดวงตากลมโตลอบมองผู้ชายที่นั่งอยู่บนพื้นพรมขนกระต่ายฝั่งตรงข้ามซึ่งกำลังรัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กราคาแพง วันนี้เธอกับเขามีนัดมาทำรายงานกันที่โต๊ะตัวเตี้ยหน้าโซฟาในห้องรับแขกของคอนโดมิเนียมสุดหรูของเขาเหมือนเดิมนึกอยากขอบคุณคืนซวยๆ คืนนั้นที่เหวี่ยงให้เขาโผล่มาช่วยเธอจากผู้ชายเลวๆ นั่นได้ทัน และทำให้เธอกับเขาได้มาสนิทสนมกันจนถึงวันนี้สองปีแล้วสินะ ที่เธอได้นั่งเรียนข้างเขา พูดคุยกับเขาทุกวัน กินข้าวด้วยกันแทบทุกมื้อ ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ รวมถึงตัวติดกันแทบจะตลอดเวลาอันที่จริงก็ไม่ได้มีแค่เธอกับเขาหรอก ที่ตัวติดกันตลอดเวลา ในกลุ่มของเธอยังมีเพื่อนผู้หญิงอีกหลายคน และหนึ่งในนั้นคือ เกรซ เกศริน เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่พยายามอย่างยิ่งยวดในการยุยงส่งเสริมให้เธอบอกความในใจกับเขา แต่เธอก็ไม่กล้าเสียทีแม้จะไม่แน่ใจว่าเขาพอจะมองออกหรือเปล่า ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขา แต่ในเมื่อเขายังคงทำตัวเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ได้ดูมีท่าทีคิดอะไรเกินเลยกับเธอแม้แต่น้อย ทำให้เธอไม่กล้าที่จะสารภาพความในใจออกไป เพราะกลัวว่าถ้าเขาไม่คิดอะไร เธอจะสูญเสียเขาไปตลอดกาลความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธ