บทนำ
เธอเป็นเพียงของเล่นสนองราคะ มีหน้าที่อ้าขาอยู่เบื้องล่างร่างกายมัจจุราชเท่านั้น
02:00 น.
เรียวแขนเล็กของคนโปรดถูกพันธนาการไว้ด้วยเข็มขัดหนังราคาแพง ในขณะที่เจ้าของเข็มขัดเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตรงกลางหว่างขาของเธอ ด้วยความใคร่ในรสสวาทแสนดิบห่ามและป่าเถื่อน ทำให้เขาหลงลืมไปว่าเธอก็เป็นคน มีเลือดเนื้อและมีชีวิตจิตใจเหมือนกัน ทว่านั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาควรใส่ใจ
ร่างกายแสนยั่วเย้าของเธอเป็นเพียงเครื่องระบายความใคร่ให้กับอีริคเท่านั้น มีเซ็กซ์ พอเสร็จเขาก็กลับไป ชีวิตเธอไม่ต่างจากดอกไม้ที่เกิดอยู่ท่ามกลางขวากหนาม รอวันที่คนเดินผ่านมาเด็ดไปดอมดม หากโชคดีคงได้อยู่ในแจกันสวย ๆ
"อึก...คะ...คุณอีริคคะ~"
หญิงสาวกัดริมฝีปากตัวเองแน่นจนห่อเลือด เมื่อถูกอีกฝ่ายถาโถมแรงกายเข้าใส่อย่างไร้ความปรานี แรงกระแทกกระทั้นที่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ส่งทอดมา ส่งผลให้เตียงนอนขนาดคิงไซซ์เกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดเสียดสีกันดังขึ้นภายในห้องคอนโดมิเนียมที่ภายในโล่งเตียน ไร้เฟอร์นิเจอร์ เพราะมันเป็นเพียงสถานที่ที่อีริคใช้ระเริงบทรักกับเธอเท่านั้น
"อื้อ!" อีริคขมวดคิ้วจ้องนัยน์ตาสีดำเข้มของคนเบื้องล่างด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่นัยน์ตาสีดำดุดันไร้ความรู้สึกจดจ้องยอดถันแดงช้ำ จากนั้นเขาจึงยกมือขึ้นมาบีบเคล้นแล้วโน้มตัวลงไปดูดดันมันด้วยริมฝีปาก
ความเจ็บแสบแล่นตรงเล่นงานคนโปรดเมื่ออีกฝ่ายใช้คมเขี้ยวขรูดผิวเธอจนเกิดรอยแดงทับรอยบวมช้ำก่อนหน้านี้ รอยซ้ำรอยใหม่เกิดขึ้นซ้ำจุดเดิมจนมันเป็นแผลถลอกเล็ก ๆ บนเนินอก
"อ๊ะ...อื้อ~"
ความเจ็บปวดไม่ทันจบ ความจุกแน่นตรงกลางหว่างขาก็เข้ามาแทรก ด้วยอีริคเป็นลูกครึ่งไทย-อิตาลี ไซซ์แก่นกายเขาจึงใหญ่กว่าชายไทย ยิ่งคนโปรดแสดงออกว่าเจ็บปวดมากเท่าไหร่ อีริคยิ่งพึงพอใจมากเท่านั้น ไม่ใช่ว่าร่างกายเธอยั่วเย้าเขาอย่างเดียว แต่สีหน้าและแววตาวิงวอนที่เธอแสดงออกยังสร้างความพึงพอใจให้เขาด้วย
ความเสียวเริ่มทำให้อีริคผ่อนแรงลงหลังจากถาโถมความต้องการใส่คนเบื้องล่างมาร่วมชั่วโมง เขาไม่สนว่าเธอมีอารมณ์ร่วมไหม เพราะคนโปรดมีหน้าที่นอนอ้าขาให้เขา
"คะ...คุณอีริค" หญิงสาวมองสบตาสีดำดุดันน่าเกรงขามคู่นั้นอย่างเว้าวอน แม้ไม่มีผลแต่เธอก็อยากให้เขารับรู้ว่าร่างกายไม่ไหวแล้ว เขาใช้ร่างกายเธอมาหลายวัน และแต่ละครั้งที่ร่วมรักก็กินเวลานานจนบางครั้งเธอสลบไปทั้งที่เครื่องเพศเขายังปักแช่อยู่ในการ
ทว่าอีริคกลับจับตัวเธอพลิกให้นอนคว่ำหน้า ฝ่ามือหนาหยาบจากการจับปืนบ่อย ๆ รวบผมเธอแน่นจนใบหน้าคนโปรดเชิดขึ้น
"อึก!"
แก่นกายไซซ์หกสิบสวมเครื่องป้องกันกระแทกเข้ามาในกายหญิงสาวจนสุดความยาว จากนั้นอีริคก็เริ่มเคลื่อนไหวร่างกายอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง
เธอเจ็บ เธอจุก
แต่เธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้องขอความเห็นใจใด ๆ เจ็บปวดแค่ไหนก็แค่กลั้นเสียงร้องและทอดกายให้อีริคลงทัณฑ์สวาทเท่านั้น
ข้อมือที่ถูกพันธนาการไว้เริ่มแดงและห่อเลือดจากการเสียดสีไปมา ความทรมานพาเธอด่ำดิ่งเหมือนจะตายก็ไม่ตาย จะเป็นก็ไม่เป็น หากเปรียบเทียบก็เหมือนเธอยืนอยู่ปากเหวลึก ก้าวพาดเพียงหนึ่งก้าวเท่ากับตาย...
"ไม่ได้เรื่อง!" ร่างสูงถอดถอนแก่นกายออกจากช่องทางรักบวมเป่งด้วยความหงุดหงิด จากนั้นก็อีริคถอดเครื่องป้องกันออกจากตัวตน โยนมันลงพื้นด้วยความไม่สบอารมณ์ ก่อนจะแกะเข็มขัดออกจากมือคนโปรดแล้วลุกขึ้น ก้าวลงจากเตียง เดินออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงระงับเงียบ ๆ
"โปรดทำให้คุณอีริคไม่พอใจเหรอคะ" ริมฝีปากสั่นระริก รวบรวมความกล้าอยู่นาน แต่พอเอ่ยถามแล้ว กลับเป็นตัวเธอเองที่หวาดกลัวกับคำตอบจากอีริค
"..." ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เธอเห็นเพียงควันสีขาวที่พวยพุ่งออกจากริมฝีปากหนาเท่านั้น
คนโปรดก้มหน้าแล้วโอบอุ้มร่างกายบอบช้ำของตัวเองลงจากเครื่องทรมานนี้ เธอไม่เคยเห็นมันเป็นเตียงนอนสักครั้ง
"โปรดขอโทษนะคะ โปรดทำให้คุณอีริคอารมณ์เสีย"
"..." เขาปรายตามองมาเพียงนิด จากนั้นก็บี้บุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดลงกับราวระเบียง ก่อนจะเดินผ่านหน้าคนโปรดไปเข้าห้องน้ำด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
"โปรดแค่อยากทำให้คุณอีริคพอใจ..."
บทที่ 1 ของบรรณาการเหตุการณ์ก่อนหน้านี้"เสี่ยจะเอายังไงดีครับ ถ้าไม่มีของไปคืนมัน มันเอาเราตายแน่" ไม่มีคำพูดปลุกใจจากคนรอบกายที่สามารถทำให้เสี่ยธวัตรรู้สึกดีขึ้นมาได้"อย่าเร่งกูได้ไหมวะ กูกำลังหาทางออกอยู่เนี่ย!" เสี่ยธวัตรตะเบ็งเสียงใส่ลูกน้อง หลายวันมานี้เขาจดจ่ออยู่กับการหาของและเงินไปคืนอีริคตามสัญญาที่ให้ไว้ตั้งแต่กลางปีแทบเป็นบ้า คำพูดของอีริคตามหลอกหลอนทั้งยามนอนและยามตื่น'ถ้าไม่มีของและเงินมาคืนฉันตามกำหนด เตรียมโบกมือลาโลกใบนี้ได้เลย'คำพูดเหล่านี้เหมือนแผ่นเสียงที่ถูกเล่นวนอยู่ซ้ำ ๆ"งั้นเสี่ยลองหาของเล่นไปหลอกล่อมันดีไหมครับ เอาไปต่อรองมันก็ได้" ลูกน้องหนุ่มยื่นข้อเสนอให้เจ้านาย "เด็กในสต็อกเราเยอะแยะ ให้มันไปสักคนคงไม่เป็นไร""ให้มันตามมาฆ่ากูเร็วกว่าเดิมเหรอ มึงก็รู้ว่ามันไม่ชอบคนบิดพลิ้ว เกิดเอาของไปล่อมันสุ่มสี่สุ่มห้า มีหวังกระสุนได้เจาะกะโหลกกูแน่"ลูกน้องหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง"แล้วเสี่ยจะเอายังไง อีกไม่กี่วันแล้วนะครับ""โว๊ย! หรือว่ากูจะลองส่งของบรรณาการไปให้มันดูวะ เอาให้มันเล่นขำ ๆ ฆ่าเวลา" รอยยิ้มมีแผนการร้ายกาจผุดขึ้นบนใบหน้าเสี่ยธวัตร คนเจ้าเล่ห
บทที่ 2 คำสัญญาเขาพูดจาถากถางเธอตั้งแต่แรกเจอ แต่คนโปรดไม่เก็บมาใส่ใจขนาดนั้น การมีชีวิตรอดนั่นสำคัญกว่าที่จะมานั่งเสียใจเพราะคำดูถูกของอีริค"โปรดสัญญา... โปรดจะทำตามคำสั่งของคุณ อย่าส่งโปรดกลับไปที่นั่นเลยนะคะ""..." อีริคมองเธอด้วยสายตาเรียบนิ่ง ตอนนี้ในสายตาอีริคเธอเหมือนลูกเจี๊ยบตัวน้อยที่เพิ่งฟักออกจากไข่ กำจัดตอนนี้ก็ไม่เสียดาย แต่หากจะเลี้ยงให้เติบใหญ่และฝึกให้เชื่อง สำหรับเขาคงไม่ยากอะไร"คะ คุณท่านขา~" คราวนี้หญิงสาวกอดเรียวขาอีริคไว้แน่น อ้อนวอนเขาทุกอย่าง "ให้คนโปรดเป็นคนรับใช้ที่บ้านหลังนี้ก็ได้ ให้ทำอะไรก็ยอม""ฉันให้เธออ้าขาให้ล่ะ ยังอยากจะอยู่ที่นี่ไหม" คำถามลองใจถูกเอ่ยออกจากปากชายหนุ่ม ครู่หนึ่งเขาเห็นดวงตาไร้ชีวิตชีวาคู่นั้นวูบไหว สะท้อนความกลัวออกมา'เขาพูดเหมือนฉันมีทางเลือก จริง ๆ แล้วเสี่ยธวัตรจงใจส่งเธอมาให้อีริคระเริงความใคร่อยู่แล้ว หวังให้อีริคให้โอกาสในการหาเงินมาคืน ในเมื่อมันเป็นอย่างนั้นตั้งแต่แรก แล้วเธอมีสิทธิ์เลือกอะไรอีกเหรอ'หญิงสาวเผลอขมวดคิ้วตามความคิดตัวเอง จนลืมไปว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือคนที่จะตัดสินชะตาว่าจะอยู่หรือตาย"ไอ้เวรนั่นมันส่งเธอมาต
บทที่ 3 เอาตัวรอด NCร่างเล็กกัดปากอย่างยั่วเย้าอีกฝ่าย สกิลการอ่อยเป็นศูนย์อย่างเธอ ไม่รู้จะทำให้อีริคพึงพอใจได้แค่ไหนครั้นที่ผิวเนื้อสัมผัสกับเนื้อผ้าบนร่างกายชายหนุ่ม ทำเอาขนกายลุกซู่ไปทั้งตัว เธอช้อนตามองใบหน้าคมเข้มพร้อมกับลูบฝ่ามือลงมาหยุดที่อกแกร่ง ก่อนที่จะปลดกระดุมเสื้อออกให้ชายหนุ่ม หัวใจดวงน้อยวูบไหวเมื่อเห็นไรขนอ่อนบนแผงอกแกร่งของอีริค"เล่นพอยัง" อีริคถามเสียงเรียบ เขาปล่อยให้คนโปรดเล่นเพลินจนพอใจแล้ว"อ๊ะ!" ร่างเล็กถูกผลักจนแผ่นหลังขาวเนียนสัมผัสกับผนังห้องน้ำเย็นเฉียบ อีริคมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ก่อนที่จะยกฝ่ามือขึ้นมาเคล้าคลึงหน้าอกข้างซ้ายคนโปรดด้วยความดิบห่าม ความเจ็บตรงเล่นงานจนใบหน้าสวยเหยเก แต่จะร้องออกไปว่าเจ็บคงทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจเป็นแน่ คนโปรดกัดปากครางเสียงแหบพร่าข้างใบหูชายหนุ่มยอดถันสีน้ำตาลอ่อนถูกลิ้นสากโลมเลียอย่างฮึกเหิมจนปวดหนึบตรงเม็ดบัว อีริคสลับเปลี่ยนไปใช้ปากเคล้าคลึงเม็ดบัวอีกข้างจนมันบวมเต่งอย่างเร้าอารมณ์พรึบ!คนโปรดสะดุ้งเฮือกเบิกตาโพลงเมื่อถูกอุ้มขึ้นมานั่งบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ลมหายใจเจือกลิ่นบุหรี่จาง ๆ เคล้ากับลมหายใจเธอที่หอบถี่รัวด้ว
บทที่ 4 ต้องไม่เหมือนคนโปรดผล็อยหลับไปเพราะความเพลีย กระทั่งตีสองของวันใหม่ เธอรู้สึกตัวตื่นเพราะเสียงลมพัดกระทบกระจกหน้าต่าง หญิงสาวปรือตาขึ้นแล้วมองไปยังต้นทางของเสียง ปรากฏว่าข้างนอกฝนตกและลมกรรโชกแรง ต้นไม้ที่ตั้งอยู่ระเบียงด้านนอกล้มระเนระนาดเสียงฟ้าผ่าดังโครมครามไปทั่วแผ่นฟ้า พานทำให้หัวใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว ภาพความทรงจำในวันวานแสนเลวร้ายผุดขึ้น เธอจึงลงไปนั่งอยู่ข้างเตียงพร้อมกับเอาผ้านวมมาห่อตัวไว้ ราวกับมันคือป้อมปราการแรกที่ป้องกันเธอจากอันตรายคฤหาสน์หรูอีริคร่างสูงในชุดสบาย ๆ เดินลงมาจากชั้นสอง ในมือถือแก้วน้ำอุ่นเดินตรงไปที่ห้องเก็บไวน์ เสียงฟ้าร้องโครมครามทำให้เท้าทั้งสองข้างหยุดชะงักอยู่กลางห้องโถงที่เป็นทางผ่านไปที่ห้องเก็บไวน์"นายต้องการอะไรหรือเปล่าครับ""วันนี้นายเข้าเวรเหรอ" อีริคละสายตาจากสายฝนโปรยปรายมามองหน้าลูกน้อง จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องเก็บไวน์โดยไม่รอคำตอบ เพราะรู้ว่าพาเวลต้องเดินตามเข้ามาอยู่ดี"วันนี้ผมเข้าเวรครับ""ดื่มหน่อยไหม""ไม่ดีกว่าครับ""อืม""ตอนนี้ลูกน้องเรากำลังเร่งตามหาตัวเสี่ยธวัตรอยู่ครับ มันหลบหนีออกจากกรุงเทพ น่าจะไ
บทที่ 5 ลองใจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที รถยุโรปคันหรูก็ขับเข้ามาจอดที่จอดรถประจำใต้คอนโดมิเนียมหรู อีริคกระชับเสื้อสูทแล้วก้าวลงจากรถ เขาสะบัดข้อมือเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าพาเวลจะตามขึ้นไป"ไม่ต้องตาม"พาเวลหยุดชะงักทันที เขาก้มหน้าเล็กน้อยรับคำสั่งแล้วถอยกลับไปรออยู่ข้างรถ ปล่อยให้อีริคขึ้นไปข้างบนเพียงคนเดียว"สวัสดีครับนาย" ลูกน้องที่เฝ้าอยู่หน้าห้องรีบลุกขึ้นทำความเคารพอีริค"อืม ออกไปได้" เขาสั่งลูกน้องให้ออกไปจากตรงนี้ จากนั้นก็ใช้คีย์การ์ดใบพิเศษที่เขามีเปิดประตูเข้าไปข้างในห้องภายในห้องเงียบงัน มีสายลมเย็นพัดเข้ามาทางประตูตรงทางเชื่อมต่อกับระเบียง ผ้าม่านพลิ้วไหวไปตามแรงลมที่พัดเข้ามา จังหวะที่ผ้าม่านพลิ้วไหวเขาเห็นร่างเล็กยืนอยู่ บนร่างกายมีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ใช้ปกปิดร่างกาย และกางเกงยีนขาสั้นตัวน้อยที่พาเวลไปคนไปซื้อมาอีริคถอดสูทไปพาดไว้หัวเตียง ตามด้วยคลายปมเนคไท มือหนาล้วงหยิบบุหรี่มาจุดสูบ ครั้นสายตาเขาจ้องไปที่ร่างเล็ก ซึ่งเธอยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ในห้อง"อ๊ะ!" คนโปรดอุทานออกมาด้วยความตกใจ ที่เห็นอีริคนั่งสูบบุหรี่อยู่บนเตียงนอน "คะ คุณอีริคมาเมื่อไหร่คะ""..." คว
บททื 6 เด็กดีต้องได้รางวัล NCเรียวลิ้นสากแตะลงตรงแอ่งชีพจรหญิงสาว เขาเกร็งลิ้นแล้วลากไล้ไปมาเบา ๆ คนโปรดเริ่มเปล่งเสียงครางหวานเมื่อถูกเล้าโลมด้วยความอ่อนนุ่มของเรียวลิ้นสากจากคนตัวโตจากการถูกโลมเลียเป็นเวลานาน ความกระสันในร่างกายเธอก็ถูกกระตุ้น คนโปรดบิดเร้าร่างกายด้วยความมวนท้องน้อย ราวกับมีผีเสื้อนับร้อยมาบินวนท้องน้อยเธอก็ไม่ปาน"อ๊ะ! อื้อ..." ร่างแน่งน้อยสะดุ้งโหยงเมื่อถูกคมฟันครูดที่ไหล่ หลังจากอีริคสร้างรอยช้ำไว้ที่ลำคอเธอจนหนำใจแล้ว ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมผละใบหน้าออกห่างจากหน้าอกเธอ ยังคงเคล้าคลึงเต้านมกลมกลึงทั้งสองข้างอย่างเมามันปลายลิ้นสากระรัวดุนดันเม็ดบัวจนมันหดแข็งเป็นไตสู้กับจังหวะรัวลิ้นของเขา ครู่หนึ่งร่างเล็กก็บิดกายไปมา ผิวเคยขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยถูกไฟสวาทแผดเผา ร้อนวูบวาบทั่วทั้งตัว"คะ คุณอีริค" คนโปรดครางเสียงหวาน ใบหน้าเธอแดงก่ำเมื่อปรือตาขึ้นมาสบตากับอีริคพอดี "อื้อ~" ภายในมันปั่นป่วนไปหมด ยิ่งเขาบดคลึงหน้าอกเธอเท่าไหร่ ความกระสันก็ยิ่งเข้ามาแทรก เธอไม่เคยรู้สึกอยากร่วมรักมากขนาดนี้มาก่อนอีริคมองใบหน้าสวยแล้วยกยิ้มมุมปาก เขาลูบไล้ฝ่ามือกับเนินส
บทที่ 7 รางวัลชมเชยวันต่อมาระหว่างที่คนโปรดกำลังนั่งมองนกบินอยู่บนท้องฟ้า เธอก็นึกอิจฉาพวกมันขึ้นมาที่ได้โบยบินอย่างอิสระ "พวกแกมีปีกบินไปมาบนท้องฟ้า คงสนุกน่าดูนะ" หญิงสาวพึมพำเสียงพร่า โดยไม่รู้ตัวว่าพาเวลกับลูกน้องเพิ่งขนทีวีจอใหญ่ยักษ์เข้ามาในห้องก๊อก ก๊อกลูกน้องหนุ่มเคาะผนังห้องจนเกิดเสียงดัง ทำให้คนตัวเล็กหันขวับมามองโดยเร็ว เธออ้าปากค้างกับสิ่งของที่ลูกน้องพาเวลกำลังแกะออกจากกล่อง"ทีวี!""...""นะ นี่เป็นของขวัญที่โปรดขอไปเหรอคะ" ตื่นเต้นเหมือนเพิ่งเคยเห็นทีวีเป็นครั้งแรก แต่ก็เป็นทีวีเครื่องแรกที่เธอได้เป็นของขวัญจากผู้ชาย "โปรดดูได้ทั้งวันเลยไหม" เพราะมันน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอคลายเหงาได้ พาเวลไม่ตอบและให้ลูกน้องติดตั้งจนเสร็จสรรพ"นายฝากมาบอกว่า ถ้าเธอเป็นเด็กดี ทำให้นายพอใจ นายจะให้เธอขอของขวัญได้หนึ่งอย่างต่อหนึ่งความพึงพอใจของนาย""รางวัลที่ทำให้คุณอีริคพอใจเหรอคะ""..." พาเวลนิ่งเงียบ และหันไปมองลูกน้อง เขาพยักหน้าให้ลูกน้องเก็บของเตรียมออกไปจากห้อง"เดี๋ยวค่ะ แสดงว่าโปรดทำให้คุณอีริคพอใจใช่ไหมคะ""เปล่า นายบอกว่า นี่แค่รางวัลชมเชยเท่านั้น""..อ้าว -_-!"หลังจ
บทที่ 8 ป่วยจริงสองวันต่อมาอีริคเดินอาด ๆ เข้ามาในห้องทำงาน หลังจากเขาไม่ได้เข้าร่วมประชุมเมื่อสองวันก่อน พาเวลโค้งคำนับเล็กน้อยแล้ววางแฟ้มงานลงบนโต๊ะทำงานเจ้านาย"ใจคอนายจะให้ฉันทำงานทันทีที่มาถึงเลยเหรอ""ขออภัยครับนาย แต่นี่เป็นแบบสรุปการประชุมที่ผ่านมาครับ"อีริคปรายตามองเพียงนิด"เอาไปไกล ๆ มือกู" เขาเขี่ยแฟ้มงานจนหล่นลงพื้น ขณะเดียวกันประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างไร้มารยาท ทั้งพาเวลและอีริคต่างหันมอง"โอ๊ะโอ๋...มาขัดจังหวะหรือเปล่าเนี่ย""จุ้นจ้านอะไรอีกล่ะ นี่สนามม้าฉันก็ให้เข้าออกตามสบาย แล้วนี่จะมาป่วนออฟฟิศฉันอีกเหรอ""เปล่า เห็นพี่เป็นคนยังไงวะ""คนวุ่นวายคนหนึ่ง""น้อย ๆ หน่อยเหอะ""แล้วมาทำไม" อีริคกดเสียงต่ำถามซินซิน เธอยกยิ้มมุมปากยากที่จะคาดเดา"เย็นนี้พ่อนัดกินข้าวกับเพื่อน แล้วฉันต้องไปด้วยน่ะ""เลยจะให้ฉันไปเป็นเพื่อน?""ฉลาดมากน้องชาย""ไม่" อีริคปฏิเสธ"ไม่อะไรกัน ไปเหอะนะ ไปนะน้องชายพี่""อย่ามาทำให้รำคาญ" อีริคปัดมือซินซินออกจากแขน "เพื่อนเธอก็มี ชวนมันไปดิ""ไม่เอา เดี๋ยวพ่อดุเอา""นี่..." อีริคชี้หน้าซินซิน "กับกูไม่เกรงใจ แต่กับไอ้เพื่อนคนนั้นกลับเกรงใ