บทที่ 7 รางวัลชมเชย
วันต่อมา
ระหว่างที่คนโปรดกำลังนั่งมองนกบินอยู่บนท้องฟ้า เธอก็นึกอิจฉาพวกมันขึ้นมาที่ได้โบยบินอย่างอิสระ "พวกแกมีปีกบินไปมาบนท้องฟ้า คงสนุกน่าดูนะ" หญิงสาวพึมพำเสียงพร่า โดยไม่รู้ตัวว่าพาเวลกับลูกน้องเพิ่งขนทีวีจอใหญ่ยักษ์เข้ามาในห้อง
ก๊อก ก๊อก
ลูกน้องหนุ่มเคาะผนังห้องจนเกิดเสียงดัง ทำให้คนตัวเล็กหันขวับมามองโดยเร็ว เธออ้าปากค้างกับสิ่งของที่ลูกน้องพาเวลกำลังแกะออกจากกล่อง
"ทีวี!"
"..."
"นะ นี่เป็นของขวัญที่โปรดขอไปเหรอคะ" ตื่นเต้นเหมือนเพิ่งเคยเห็นทีวีเป็นครั้งแรก แต่ก็เป็นทีวีเครื่องแรกที่เธอได้เป็นของขวัญจากผู้ชาย "โปรดดูได้ทั้งวันเลยไหม" เพราะมันน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอคลายเหงาได้ พาเวลไม่ตอบและให้ลูกน้องติดตั้งจนเสร็จสรรพ
"นายฝากมาบอกว่า ถ้าเธอเป็นเด็กดี ทำให้นายพอใจ นายจะให้เธอขอของขวัญได้หนึ่งอย่างต่อหนึ่งความพึงพอใจของนาย"
"รางวัลที่ทำให้คุณอีริคพอใจเหรอคะ"
"..." พาเวลนิ่งเงียบ และหันไปมองลูกน้อง เขาพยักหน้าให้ลูกน้องเก็บของเตรียมออกไปจากห้อง
"เดี๋ยวค่ะ แสดงว่าโปรดทำให้คุณอีริคพอใจใช่ไหมคะ"
"เปล่า นายบอกว่า นี่แค่รางวัลชมเชยเท่านั้น"
"..อ้าว -_-!"
หลังจากตอบคำถามนั้นเสร็จ พาเวลกับลูกน้องก็ออกไปจากห้องคอนโดฯทันที พร้อมกับโทรไปรายงานเจ้านายด้วยว่าทำภารกิจที่สั่งเสร็จสิ้นแล้ว
@สนามม้า
ม้าสายพันธุ์ Arabian สีดำขนเงาวับจากการถูกดูแลเป็นอย่างดีกำลังวิ่งอยู่ในลานที่ปูพื้นด้วยทรายละเอียดชนิดพิเศษ โดยอีริคเป็นคนควบคุมม้าตัวโปรดอยู่บนอาน
"นี่! ใจคอแกจะไม่เข้าประชุมสำคัญบ่ายนี้เลยเหรอ" ซินซินป้องปากตะโกนถามอีริคถึงเรื่องประชุมบ่ายนี้ เพราะอีริคไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปแต่งตัวเตรียมเข้าประชุมเลย เขายังพาม้าวิ่งสบายใจเฉิบ "อ้าวพาเวล เจ้านายของนายไม่เข้าประชุมแล้วเหรอ" เมื่อพาเวลเดินเข้ามา เธอจึงถามเขา
"นายบอกว่า พวกที่เข้าประชุมมีแต่พวกหน้าไหว้หลังหลอก ขี้เกียจเข้าไปนั่งฟังพวกมันตอแหลใส่กันครับ"
"เหอะ! นี่ขนาดนี้แล้วเหรอ" เธอไม่อยากเชื่อว่าอีริคจะพัฒนาสกิลการด่าคนได้เจ็บแสบขนาดนี้ "เออ แต่ก็จริงนั่นแหละ" ตอนแรกเธออึ้งกับสิ่งที่อีริคทำ แต่พอนึกไปนึกมา ก็เห็นด้วยกับอีริคซะงั้น "แล้วนายหายไปไหนมาเนี่ย หายไปตั้งนาน"
"ฉันสั่งมันไปทำงานเองแหละ" อีริคเป็นคนตอบคำถามแทนพาเวล เขาลงจากม้าตัวโปรด ลูบแผงคอมันเบา ๆ แล้วโยนหมวกกับถุงมือให้พาเวลเอาไปเก็บ "เฮ้อ...ฉันจะเข้าประชุมทำไม ในเมื่อพวกนั้นไม่อยากเห็นหน้า"
"ก็แหง เจ้านายหน้าหมาแบบนี้ ใครก็คงไม่อยากเห็น"
อีริคยกยิ้มมุมปาก คนที่กล้าด่าและกล้าต่อกรกับเขาแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น ก็คงนะมีแต่ซินซินคนเดียว เพราะเธอเองก็ไม่ได้เกรงกลัวใคร รวมถึงเขาด้วย
"แล้วกินไรดี ฉันจะสั่งอาหารมากินที่นี่ และเดี๋ยวจะพาโซลาร์เดินเล่นด้วย"
"นี่มันสนามม้า ไม่ใช่โรงแรมนะแม่คุณ"
"แล้วจะทำไม"
"เป็นหุ้นส่วนฉันเลยไหมล่ะ"
"หึ!"
"ทำไม ทะเลาะกับพ่อตัวเองอีกแล้วเหรอ" เขาพอรู้เรื่องอยู่บ้าง ว่าคุณลุงกับซินซินไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ เพียงเพราะซินซินเป็นผู้หญิง และคุณลุงอยากได้ลูกผู้ชายมาสืบทอดตำแหน่งงาน ซินซินเหมือนเป็นจุดด่างพร้อยของคุณลุง ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็มักจะถูกตำหนิมากกว่าชมเชยเสมอ
"ก็แหง ฉันมันลูกผู้หญิงนี่ ทำอะไรเตี่ยก็ไม่ชอบ"
"แล้วจะด้อยค่าตัวเองไปทำไม เธอเป็นผู้หญิงที่ผู้หญิงคนอื่นไม่สามารถเป็นได้"
"ยังไงวะ"
"ก็...ไม่รู้" อีริคยกมือขึ้นไปลูบศีรษะพี่สาว
"ขอบใจแกมากนะ ที่เห็นฉันเป็นผู้หญิงตัวน้อย ๆ คนหนึ่ง"
"หึหึ เชื่อเถอะ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น"
"อ้าว" ซินซินเท้าเอวทำหน้ามุ่ยใส่อีริค "แล้วนี่แกใช้ให้พาเวลไปทำอะไรมาเนี่ย หายไปตั้งนาน"
"....อยากรู้?"
"อืม"
"หึ พอดีให้มันไปเลี้ยงสัตว์"
"สัตว์? ตัวอะไรวะ หมา? ม้าอีกตัว? หรือว่า..."
"ขอมะนาวโซดา" อีริคตัดบทเพราะรำคาญความสงสัยของซินซิน จากนั้นเขาจึงลุกขึ้น เดินออกมาจากสนามซ้อม
"แอบเลี้ยงสัตว์อีกแล้วสินะ" เธอไม่ได้โง่แต่ก็พอเดาออกว่าสัตว์เลี้ยงที่อีริคว่ามานั้น ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงทั่วไป แค่น่าจะเป็นคนมากกว่า
ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
คนโปรดนั่งกอดเข่าอยู่บนฟูกนุ่ม ๆ สายตาเธอเพ่งมองภาพเคลื่อนไหวบนจอทีวีขนาดห้าสิบห้านิ้ว ก็จริงอยู่ที่มีทีวีแล้วจะไม่เหงา แต่ทว่าการดูทีวีคนเดียวมันเหงากว่า
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นลูกน้องของอีริคก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมถาดอาหาร
"เดี๋ยวค่ะ" คนโปรดเรียกชายหนุ่ม เขาวางถาดอาหารลงบนพื้นแล้วทำท่าจะเดินออกไปทันที "ทำไมวันนี้คุณพาเวลไม่เอาอาหารมาให้ฉันล่ะคะ"
"..." เพราะถูกสั่งไว้ว่าห้ามพูดคุยอะไรกับหญิงสาว เขาจึงไม่ตอบกลับแล้วเดินออกมาจากห้อง
คนโปรดถอนหายใจออกเบา ๆ แล้วลุกขึ้นไปเอาถาดอาหารมานั่งกินบนเตียง อาหารวันนี้เป็นข้าวหมูทอดกับไข่ดาว ดีหน่อยที่วันนี้มีผลไม้ให้ด้วย
"คุณอีริคทำอะไรอยู่นะ..." เธอเขี่ยข้าวในจานเล่น แล้วเงยหน้ามองข่าวสารในทีวี ปรากฏว่ามีข่าวของอีริคด้วย คนโปรดตั้งใจดูมาก ๆ และเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย "เวลาเขาใส่สูท ทำไมดูหล่อและสุขุมจัง" พอเห็นเขาใส่สูทออกทีวีแล้ว เธอแทบมองไม่ออกเลยว่าเขาเป็นคนในร้าย "ชีวิตฉันดีขึ้นกว่าเดิม แต่เหมือนนกน้อยอยู่ในกรงทองเลย" เธอมองออกไปข้างนอก และถอนหายใจ
'แต่ถ้างี่เง่า อยากให้เขาสนใจมากไปเราก็จะกลายเป็นสิ่งของที่เขามองข้าม เพราะฉะนั้นฉันต้องอดทน...แต่ว่าของรางวัลชิ้นต่อไปจะเป็นอะไรดีนะ'
"เฮ้อ~" คนโปรดเอนหลังนอนราบกับฟูกนุ่ม ๆ โดยไม่รู้เลยว่าอีริคกำลังดูความเคลื่อนไหวของเธอผ่านโทรศัพท์มือถืออยู่
ชายหนุ่มเงยหน้ามองคนที่นั่งกินสเต๊กอยู่ฝั่งตรงข้าม
"อดอยากมาจากไหน เมืองนอกเมืองนาไม่มีสเต๊กกินเหรอ"
"ปากดีนะแก" ซินซินเบ้ปากใส่ "ก็เพราะมันมีแต่รสชาติเหี้ย ๆ ไง นี่ของไทยถูกปากก็เลยกินเยอะ"
"อืม"
"แล้วแกดูอะไรอยู่ตั้งนานสองนาน" เธอมองโทรศัพท์ในมือน้องชาย หากไม่ทักท้วงอีริคคงไม่เก็บโทรศัพท์ไปง่าย ๆ
"เปล่า"
"อืม..." เธอหรี่ตามองน้องชายอย่างจับผิด
บทที่ 8 ป่วยจริงสองวันต่อมาอีริคเดินอาด ๆ เข้ามาในห้องทำงาน หลังจากเขาไม่ได้เข้าร่วมประชุมเมื่อสองวันก่อน พาเวลโค้งคำนับเล็กน้อยแล้ววางแฟ้มงานลงบนโต๊ะทำงานเจ้านาย"ใจคอนายจะให้ฉันทำงานทันทีที่มาถึงเลยเหรอ""ขออภัยครับนาย แต่นี่เป็นแบบสรุปการประชุมที่ผ่านมาครับ"อีริคปรายตามองเพียงนิด"เอาไปไกล ๆ มือกู" เขาเขี่ยแฟ้มงานจนหล่นลงพื้น ขณะเดียวกันประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างไร้มารยาท ทั้งพาเวลและอีริคต่างหันมอง"โอ๊ะโอ๋...มาขัดจังหวะหรือเปล่าเนี่ย""จุ้นจ้านอะไรอีกล่ะ นี่สนามม้าฉันก็ให้เข้าออกตามสบาย แล้วนี่จะมาป่วนออฟฟิศฉันอีกเหรอ""เปล่า เห็นพี่เป็นคนยังไงวะ""คนวุ่นวายคนหนึ่ง""น้อย ๆ หน่อยเหอะ""แล้วมาทำไม" อีริคกดเสียงต่ำถามซินซิน เธอยกยิ้มมุมปากยากที่จะคาดเดา"เย็นนี้พ่อนัดกินข้าวกับเพื่อน แล้วฉันต้องไปด้วยน่ะ""เลยจะให้ฉันไปเป็นเพื่อน?""ฉลาดมากน้องชาย""ไม่" อีริคปฏิเสธ"ไม่อะไรกัน ไปเหอะนะ ไปนะน้องชายพี่""อย่ามาทำให้รำคาญ" อีริคปัดมือซินซินออกจากแขน "เพื่อนเธอก็มี ชวนมันไปดิ""ไม่เอา เดี๋ยวพ่อดุเอา""นี่..." อีริคชี้หน้าซินซิน "กับกูไม่เกรงใจ แต่กับไอ้เพื่อนคนนั้นกลับเกรงใ
บทที่ 9 สำออยหลังจากกินข้าวเสร็จ อีริคก็ขอตัวกลับก่อนซึ่งซินซินก็ขอติดรถกลับมาด้วย"ใจคอจะไม่อยู่คุยกับพ่อเธอหน่อยเหรอ""คุยอะไรอีก ในโต๊ะอาหารนายก็ดูออกว่าพ่อเหน็บแนมฉันเรื่องงานแค่ไหน อยู่ต่อก็คงถูกตำหนิอีกเหมือนเคย" หญิงสาวทำหน้าเบื่อหน่ายขั้นสุด "ขอบใจนะ ถ้านายไม่มาด้วย ป่านนี้คงถูกพ่อดุไปหลายยก""ถ้าเป็นฉันนะ..." อีริคไม่พูดอะไรต่อ เขาเพียงเลียริมฝีปากตัวเองแล้วเปิดประตูก้าวขึ้นรถ ส่วนซินซินหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องที่เดินตามมา บอกพวกเขาว่าไม่ต้องตามเธอกับอีริค"แล้วนี่จะไปไหนต่อ""บ้าน คอนโดฯ คลับ นั่งกินไวน์ชิลๆ""สรุป?""ไม่บอก""เออ"ซินซินหันไปมองนอกกระจก ก่อนจะพึมพำเสียงอ่อน"ถ้าฉันเกิดมาเป็นผู้ชายคงดีนะ""ทำไมคิดแบบนั้น เกิดเป็นผู้หญิงไม่ดีตรงไหน""..." เธอไม่ตอบแถมยังทำหน้ามุ่ยใส่เขาอีก หากให้อธิบายว่าทำไม คงต้องจอดรถคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว และไม่รู้ว่าจะจบที่ตรงไหน เกิดมาในตระกูลคนจีนแท้ ต้นตระกูลก็อยากให้ลูกผู้ชายสืบทอดนามสกุล แต่เธอดันเกิดมาเป็นผู้หญิงนี่สิครืด~ ครืด~โทรศัพท์อีริคสั่นสะเทือนอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขาล้วงหยิบออกมากดรับสาย ทว่าโทรศัพท์กลับเชื่อมต่อกับรถทำใ
บทที่ 10 แขกVVIPช่วงเที่ยงวันอีริคปิดแฟ้มเอกสารแสนน่าเบื่อ ที่รั้งให้เขาต้องนั่งอยู่ในโต๊ะมานานสองนานด้วยความเมื่อยล้า"อาหารเที่ยงพร้อมแล้วครับนาย จะกินตอนนี้เลยไหมครับ""อืม เสร็จแล้วก็ไปเอามอร์แกนออกมาด้วย""มอร์แกนพร้อมแล้วครับ แต่เดี๋ยวบ่ายนี้ต้องเข้าสปาขนกับตัดแต่งเล็บเท้า""อืม" อีริคหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบเพื่อผ่อนคลายระหว่างเดินไปที่โต๊ะอาหารที่อยู่อีกห้องหนึ่ง และมันต้องเดินผ่านห้องที่คนโปรดพักอยู่ด้วย เขาหยุดเดินแล้วพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก จากนั้นจึงเปิดประตูเข้าไปด้านใน"คุณอีริค" คนโปรดรีบดึงเสื้อเชิ้ตที่ติดกระดุมไม่เรียบร้อยขึ้นมาปกปิดหน้าอก "ที่นี่เป็นของคุณอีริคเหรอคะ""พอฟื้นขึ้นมาได้ ความอยากรู้อยากเห็นก็ทำงานเลยนะ" ชายหนุ่มเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียง พร้อมกับพ่นควันสีขาวออกจากปาก ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้องคนโปรดปิดปากปิดจมูกไอแค่ก ๆ ทั้งกลิ่นฉุนละควันของบุหรี่ที่อีริคจงใจพ่นออกมาทำให้เธอสำลักจนหน้าแดง"ออกไป" เขาสั่งพาเวลให้ออกไปจากห้อง ทันทีที่ประตูปิดสนิท อีริคก็หันไปมองหญิงสาว เขาลุกขึ้นเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียงขนาดหกฟุต"อ๊ะ! คะ คุณอีริค" ข้อมือข้างที่เสียบน้ำเกลือถูกเข
บทที่ 11 แค่ของเล่น“นี่! ใจคอนายจะไม่กลับไปทำงานจริงเหรอวะริค” ซินซินขมวดคิ้วมองท่าทางนิ่งเงียบของน้องชายด้วยความไม่เข้าใจ อีริคทำตัวชิลมาก ทั้งที่งานที่บริษัทท่วมหัว แถมพวกที่ชอบพูดจาถากถางเขาก็คอยซ้ำเติมอยู่ไม่น้อยอีริคหันมามองหน้าซินซินแล้วพรูลมหายใจออกด้วยอาการเหนื่อยหน่ายใจ มีเธออยู่ข้างกายเหมือนเขากำลังเลี้ยงนกแก้วมาคอว์อย่างไรอย่างนั้น มันคอยตามติดพูดเจื้อยแจ้วถาม ไต่ถามรายละเอียดน่ารำคาญใจมากเขาควบม้าวิ่งออกห่างจากซินซิน แล้วพามอร์แกนเข้าไปในลานซ้อมวิ่งในอาคาร ส่วนซินซินก็บังคับม้าตามหลังมา ทว่าตอนนั้นสายตาเธอกลับเหลือบเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างผอมเพรียวยืนอยู่ที่ระเบียงห้องพักแขกซึ่งอีริคไม่ได้เปิดให้ใครเข้ามาพักที่นี่นานแล้ว“นั่นใคร” ซินซินก้มมองหน้าลูกน้องอีริคที่กำลังจูงสายบังคับม้าเธออยู่ เขามีท่าทีอ้ำอึ้งเล็กน้อย เหมือนไม่อยากตอบคำถามเธอ แต่นั่นยิ่งทำให้ซินซินสงสัย “แขกวีวีไอพีของริคเหรอ”“ครับ” คราวนี้ลูกน้องหนุ่มพยักหน้าตอบอย่างรวดเร็ว ซินซินแสยะยิ้มมุมปาก เธอแสร้งทำเป็นไม่เห็น จากนั้นก็พาโซลาร์ไปเดินเล่นกระทั่งถึงสี่โมงเย็นของวัน“ฉันขอค้างที่นี่นะ ไม่อยากกลับไปหาเตี
บทที่ 12 ตำแหน่งของเล่นชิ้นโปรดคนโปรดนั่งเงียบด้วยความที่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แม้ว่าซินซินจะเอ่ยถามเธออยู่บ่อยครั้ง แต่คนที่ตอบแทนกลับเป็นอีริค“อ๊ะ!” รู้สึกว่าแขนที่ถือถุงน้ำเกลืออยู่มันเริ่มปวดหนึบ เธอเผลอร้องออกไปเบา ๆ แล้วรีบก้มหน้า ตอนนี้เธออยากกลับเข้าไปพักผ่อนในห้องแล้ว และถ้าอยู่ต่อก็คงหนีไม่พ้นถูกด้อยค่าด้วยคำพูดเหน็บแนบของอีริค ไม่มีสิทธิ์โกรธ เพราะชีวิตอยู่ในกำมือเขาแล้ว หากอีริคยังมีความปรานีอยู่บ้างเธอคงรอดพ้นจากคมกระสุน“พาเวลนายยืนนิ่งอยู่ทำไมเนี่ย”พาเวลรีบสั่งให้ลูกน้องเข้าไปเอาที่แขวนถุงน้ำเกลือออกมาให้คนโปรด“โปรดกลับไปพักก็ได้นะคะ คุณ ๆ จะได้พักผ่อนโดยไม่ต้องมีโปรดให้รำคาญตา”“อ๋อ ที่แท้ก็คนโปรดนี่เอง”“คะ?”“เปล่าหรอก ว่าแต่เธอ...ป่วยเป็นอะไร”“ไข้หวัดธรรมดาค่ะ”“ใครใช้ให้เธอพูด ฉันสั่งตั้งแต่เมื่อไหร่”“...”!“จะดุเธอทำไม”“อย่า ยุ่ง” อีริคกดเสียงต่ำปรามซินซินอย่างจริงจัง และเธอก็รับรู้ด้วยว่าน้องชายกำลังเอาจริงอยู่ จึงไม่เซ้าซี้ “พาเธอเข้าไป” อีริคหันไปสั่งพาเวลให้พาตัวคนโปรดเข้าไปในห้องรับรองแขกคนตัวเล็กเดินนวยนาดมานั่งลงบนโซฟา ถอนหายใจออกอย่างนึกเสียดาย “เกือบ
บทที่ 13 ออดอ้อนนานหลายนาทีที่ภายในห้องอบอวลไปด้วยความกดดันจากอีริค ยิ่งเขาเงียบยิ่งดีแต่สำหรับคนโปรดนั้นไม่ใช่แบบนั้นเลย ยิ่งเขาเอาแต่เงียบและจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เธอก็ยิ่งหวาดหวั่นจนขนอ่อนตามร่างกายลุกเกลียว“เธอนอนบนโซฟาไป”“คะ คุณอีริคไปไหนเหรอคะ นอนด้วยกันก็ได้นะคะ” พอหันมองพื้นที่ว่างบนโซฟาเธอก็นึกขึ้นได้ว่าคงไม่เพียงพอสำหรับคนสองคนนอนด้วยกัน“...” อีริคไม่ได้พูดอะไร เขาลุกออกมาจากเก้าอี้ ย่างสามขุมเข้ามาหาคนโปรด จากนั้นก็จับเสาแขวนถุงน้ำเกลือเธอแน่น ทำเอาคนโปรดตัวแข็งทื่อราวกับลูกแกะตัวน้อยถูกผูกไว้กับหลัก ยิ่งเขาโน้มตัวลงมาหา หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นระรัวจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมาเต้นนอกเบ้าพรึบ!ฝ่ามือหนาผลักไหล่มนไม่แรงนัก เธอไม่ทันตั้งตัวล้มลงบนโซฟา“อย่าลุก ถ้าเธอลุกขึ้นมาแสดงว่าเธอกำลังดื้อและต่อต้านฉัน”“ค่ะ” คนโปรดไม่กล้าสบตากับอีริคจึงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น ส่วนเขาเดินออกไปข้างนอกและไม่กลับเข้ามาอีก กระทั่งถึงเช้าของวันใหม่นายแพทย์หนุ่มเจ้าของคนไข้เดินเข้ามาในห้องรับรองแขกด้วยรอยยิ้มหวานเช่นเคย เขาทำการตรวจคนโปรดอย่างละเอียดดีแล้วก็จัดยาให้เธอกินตามอาการ และวันนี้ก็ถอ
บทที่ 14 พื้นที่ส่วนตัวคนโปรดนั่งมองวิวนอกประตูที่เปิดออกกว้าง สามารถมองเห็นทั้งอีริคและซินซินได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องแอบส่องที่ช่องประตูอย่างที่เคยทำก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง ก่อนที่แม่บ้านสาวร่างท้วมถือซองสีเงินเข้ามาวางไว้ข้างตัวคนโปรด“อะไรเหรอคะ” เธอมองมันด้วยความอยากรู้“เปิดดูเอง”พอได้คำตอบมาแบบนั้น เธอก็ไม่รีรอที่จะเปิดซองสีเงินออกดู ทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสของด้านใน หัวใจดวงน้อยก็ฟูฟ่อง รับรู้ได้ว่าของด้านในคือถ้วยไอศกรีม“ไอติมช็อกโกแลต” ด้วยความดีใจ เธอเผลอกรี๊ดออกมาอย่างลืมตัวจนซินซินที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมของหันไปมองทางห้องรับรองแขก“คนโปรดกรี๊ดอะไร เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” ด้วยเห็นว่าน้องชายยังยืนนิ่ง คล้ายว่าไม่ได้ยินเสียงกรี๊ดเมื่อครู่ เธอจึงก้าวเข้าไปใกล้อีริค เอาไหล่กระแซะต้นเขาเขา “ไม่ไปดูเหรอ เธอร้องเสียงดังนะ”“ยุ่ง ห่วงงานตัวเองเถอะ”“อืม”ด้านคนที่ได้กินไอศกรีมสมใจ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตักไอศกรีมเข้าปากคำแล้วคำเล่าด้วยความพอใจ ศีรษะทุยเล็กโยกไปมาเบา ๆ ตามอารมณ์ที่ได้กินของที่อยากกิน“ทีแรกนึกว่าจะไม่ได้กินแล้ว” ไม่ได้คาดหวังด้วยซ้ำว่าอีริคจะซื้อไอ
บทที่ 15 ที่รองรับอารมณ์ NCแพกซ์เดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างซินซิน แต่สายตาเขากลับมองไปที่ห้องรับรองแขก ซึ่งตอนนี้อีริคยังไม่ออกมาจากห้องนั้น “ซิน”“ว่า”“ใครอยู่ในนั้น ทำไมน้องชายเธอหวงห้องนั้นนัก”ซินซินมองตามสายตาแพกซ์ไปที่ห้องรับรองแขก เธอเผยรอยยิ้มร้ายกาจให้เพื่อน“ของหวง”“ของหวง?”“ทุกคนย่อมมีของที่หวงแหน”“หึ”“มันไล่พวกนาออกมาหรือไง”“ก็เปล่า บอกแค่ว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว”“หึ” ซินซินแค่นหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจกับสิ่งที่แพกซ์เล่า เธอไม่ได้เป็นแม่หมอที่ดูดวงคนแม่น แต่ก็มองภาพอนาคตของอีริคออกโดยไม่ต้องเดาจากสิ่งของหรือวันเดือนปีเกิด “พื้นที่ส่วนตัวก็คือพื้นที่ส่วนตัว เพราะฉะนั้นคนอื่นห้ามย่างกายเข้าไปในนั้น”“อา...เข้าใจแล้ว” แพกซ์พยักหน้ารับรู้ พวกเขานั่งดื่มไวน์กันต่อ ขณะที่คนที่อยู่ในห้องกำลังระเริงรักอย่างเร่าร้อน“อื้อ~ คะ คุณอีริคคะ~ โปรดเสียว” คนโปรดแอ่นหน้าอกรับสัมผัสจากเรียวลิ้นสากของคนตัวโต ไม่รู้เขาคิดอะไรอยู่ จู่ ๆ ก็เปิดประตูเข้ามาและจับร่างเธอขึ้นไปนั่งคร่อมหน้าตัก จากนั้นก็เริ่มเล้าโลมด้วยการโลมเลียยอดถันจนมันกดแข็งเป็นไต “อื้อ~” ความเสียวซ่านเล่นงานเธออย่างหนัก ร
ตอนพิเศษ 3 จบตอนจากเด็กน้อยแบเบาะในวันนั้น ตอนนี้น้องกันต์มีอายุครบสาวขวบพอดี เด็กชายในชุดเอื้อมยีนเดินไปหาพ่อตัวเองด้วยรอยยิ้มสดใส ในมือถือของเล่นที่เตรียมมาเล่นกับพ่อด้วย“ป๊า น้องกันต์อยากได้ของเล่นอีกครับ” น้ำเสียงและแววตาสดใสจดจ้องใบหน้าของพ่อที่กำลังนั่งทำงานอยู่กับพาเวล อีริคละสายตาจากหน้าลูกน้องมามองลูกชาย เขาอุ้มน้องกันต์ขึ้นมานั่งบนตักแล้วหอมศีรษะไปหนึ่งฟอด“หนูซื้ิอของเล่นเยอะแล้วเล่นหมดไหมครับ”“...” เด็กชายสั่นหน้า“ของเล่นเยอะแยะเลยลูก อันไหนที่หนูไม่เล่นแล้วป๊าขอเอาไปให้น้องได้ไหม น้องไม่มีของเล่น”“น้อง น้องไหนครับ”“ก็น้องที่เขาไม่มีตังค์ซื้อของเล่นครับ น้องอยู่ไกล ๆ เลย”“ได้ครับ”“งั้นน้องกันต์ไปเก็บของเล่นที่น้องกันต์ไม่เล่นแล้วกับลุงพาเวลนะ เดี๋ยวป๊าทำงานเสร็จป๊าไปหา”“ครับ”อีริคพยักหน้าให้พาเวลพาลูกชายเข้าไปในบ้าน ส่วนเราเร่งทำงานให้เสร็จ“อ้าว” คนโปรดถือจานผลไม้สดที่เธอตั้งใจจะเอาออกไปให้สองพ่อลูกที่หน้าบ้านเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกกับพาเวลเดินกลับเข้ามาในบ้าน“นายให้มาเก็บของเล่นที่คุณหนูไม่เล่นเอาไปบริจาคให้เด็กบนดอยครับ” พาเวลตอบ“อ๋อ ดีมากเลยค่ะ ของเล่นน้องกันต์
ตอนพิเศษ 2สองเดือนต่อมาเสียงอ้อแอ้ของลูกน้อยช่วยปลุกอีริคให้ตื่นจากการนอนพักสายตาในช่วงกลางวัน เขารีบลุกขึ้นมาดูลูก“พี่ริค” คนโปรดมองใบหน้าคมคายที่แสดงออกถึงความง่วงงุนด้วยความเอ็นดู “นอนต่อเถอะค่ะ โปรดดููลูกได้”“ไม่เอา ฉันหายง่วงแล้ว”“น้องกันต์หนูอย่ากวนป๊าสิลูก ป๊าไม่ได้นอนตั้งหลายคืนแล้วนะครับ”“ป๊ายินดีครับลูก” อีริคเขยิบเข้ามาใกล้แล้วก้มลงไปหอมลูกชายที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเบาะ “ตัวหอมจังเลย”“โปรดกับคุณแม่เพิ่งอาบน้ำให้เมื่อกี้เองค่ะ”“ถึงว่าละ ตัวก็หอมหน้าก็ขาว”“หึหึ”“แล้วมีคนมาหาฉันไหม”“ไม่เลยค่ะ พี่ริคนัดใครไว้เหรอคะ”“เปล่าหรอก ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย เผื่อมีคนอยากเจอหน้า”“ค่ะ”“น้องกันต์หลานป้า~” เสียงแหลม ๆ ของซินซินดังมาแต่ไกล แต่น้องกันต์กลับไม่ตกใจแถมยังดีดดิ้นและยิ้มร่าเหมือนว่ากำลังรอเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น “อ้าว” ซินซินเลิกคิ้วทักทายน้องชายแล้วรีบนั่งลง “วันนี้ป้าซินมีชุดหล่อมาฝากด้วยนะคะ”“ชุดแดง”“ใช่ ใกล้ตรุษจีนแล้วผมอยากเป็นอาตี๋น้อยครับ”“หึหึ แล้วอีกชุดล่ะ”“อีกชุดเหรอ” เธอหยิบออกมาจากถุงกระดาษ ทุกคนขำขันเมื่อได้เห็นชุดเต็ม “ชุดหมูน้อยค่า”“ลูกกูไม่ใช่หม
ตอนพิเศษ 1ห้าวันต่อมาหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาอีริคก็ได้พาคนโปรดมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านตัวเองโดยมีฮาน่ากับซินซินช่วยดูแลคนโปรดกับน้องกันต์“หลานป้าหล่อจังเลย เห็นหน้ากันกี่ครั้งก็หลง” ซินซินนั่งเฝ้าหลานชายคนแรกอยู่ข้างเบาะนอนสำหรับเด็กทารกที่เธอซื้อมาให้หลานไม่ห่างไปไหนไกล ส่วนฮาน่ากำลังสอนคนโปรดปั้มนมอยู่อีกที่หนึ่ง“คุณท่านคะ เอ่อ...คุณผู้ชายท่านจะโกรธไหมคะ ที่โปรดกับลูกมาอยู่ที่นี่” สิ่งที่เธอเป็นกังวลมาโดยตลอดก็เรื่องพ่อของอีริค ตั้งแต่ท้องจนคลอดเธอก็ไม่เห็นท่านมาที่นี่สักครั้ง และเหมือนว่าอีริคกับพ่อก็ไม่ค่อยถูกกันด้วย“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เราเพิ่งคลอดลูกอย่าไปเครียดเลย เดี๋ยวน้ำนมจะไม่ไหลเอานะลูก” ฮาน่าปลอบใจคนโปรด อันที่จริงเธอก็เปรย ๆ เรื่องอีริคมีแฟนและแฟนลูกกำลังท้องให้สามีฟังบ้างแล้ว และเมื่อวันก่อนก็เพิ่งส่งรูปน้องกันต์ให้เขาดู แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาหรือการตอบกลับจากสามี แต่เธอก็ดูออกว่าสามีนั้นพึงพอใจอยู่บ้างที่หลานคนแรกเป็นผู้ชาย“โปรดกลัวพี่ริคทะเลาะกับคุณท่านอีก”“ไม่หรอก เชื่อแม่”“ค่ะ” คนโปรดมองไปหาน้องกันต์ที่เพิ่งกินนมหลับไป “น้องกันต์กินเก่งมากเลยค่ะ ตอนกลางคืนแ
บทที่ 70 บทส่งท้ายหลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็มารวมกันอยู่ข้างบ้านซึ่งมีระแนงไม้ที่พ่อเลี้ยงปูเอาไว้ และสั่งเก้าอี้มาไว้สำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า จิบกาแฟไปด้วย“เอาอีกไหม”อีริคส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อพ่อเลี้ยงยื่นขวดไวน์มาทางเขาหมายจะรินให้เขาอีก“กินเยอะก็ปวดหัว”"ปกติไม่ปฏิเสธนี่"“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ มึงก็อย่าไปคะยั้นคะยอให้มันกิน” ชรัณเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ เมื่อก่อนจำได้ว่าเคยดื่มด้วยกันจนเข้าเรียนไม่ทัน มัวแต่อ้วกกับเมาค้างจนอาจารย์ให้ทำงานเก็บคะแนนย้อนหลังกันทั้งสามคน“ถ้าเมียมึงง่วงแล้วก็พาไปนอนได้นะเว้ย”“ง่วงยัง” อีริคเอ่ยถามคนข้างกาย แต่พอมองตาเธอแล้วยังตาแป๋วอยู่เลย “ไม่ตอบก็พอจะรู้”“โปรดขอนั่งอยู่อีกนิดนะคะ ยังสนุกอยู่เลย ชอบฟังพี่ ๆ เล่าความหลังสมัยเรียน สนุกดีค่ะ”“เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังว่าไอ้ริคมันแสบมากแค่ไหน” ชรัณเลิกคิ้วท้าทายอีริค“ปรานีกูด้วยครับ”“หึหึ” พ่อเลี้ยงหัวเราะขบขัน “สมัยก่อนก็ต่างคนต่างห้าวแหละ ไม่มีใครยอมใคร”“ยังไงเหรอคะ”“อ้าว ไหนบอกจะไม่เผาเพื่อนไง” ชรัณเลิกคิ้วถามองศาที่จู่ ๆ ก็เปิดประเด็นขึ้นมาซะอย่างนั้น“นิดหนึ่ง”“อา เล่าเลยงั้น”“เมื่อก่อนเคยไ
บทที่ 69 ความสุข“ที่ของมึงกูให้คนไปดูแล้วนะ เห็นช่างกำลังขนของมาลงกันเยอะเลย อีกไม่นานคงได้ลงเสาเข็ม” พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นระหว่างขับรถเข้ามาในทางที่ตรงไปยังไร่ปาริฉัตร“ขอบใจ” อีริคกล่าวสั้น ๆ“ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยกัน แล้วนี่เธอจะมาอยู่นานไหม” คราวนี้เขามองหน้าคนโปรด “เพราะถ้ามาอยู่นานฉันจะให้แม่บ้านและคนของฉันพาเที่ยว หลังไร่มีน้ำตกด้วย เผื่อสนใจอยากเล่นน้ำคลายร้อน”“ดีจังเลยค่ะ”“ถ้าอยากไปก็บอก จะได้ให้คนพาไป เพราะทางมันค่อนข้างรกและไปยากนิดหน่อย”“เราไปกันนะ” คนโปรดหันมามองหน้าคนรัก อีริคพยักหน้าตอบเบา ๆ แล้วมองไปโดยรอบ“อยากได้ที่สวย ๆ แบบนี้อีก มีอีกไหม” อีริคเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคน ชรัณทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยตอบ“ก็พอมีนะ มึงอยากได้ติดเขาไหมล่ะ หรืออยากได้ติดลำธารดี”“อยากได้ทั้งสองที่เลย”“เอาว่ะ เออ ๆ เดี๋ยวจะหาดูให้ ชาวบ้านแถวนี้เอาที่ดินมาเสนอขายกูเยอะอยู่ ร้อนเงินกันทั้งนั้น ส่งลูกเรียนน่ะ”“อืม”“เสียสละมากเลยนะคะ ขายที่เพื่อเอาเงินส่งลูกเรียน”“อืม แต่ลูกเหี้ยก็ไม่ไหวนะ” ชรัณยกยิ้ม“ถ้าเป็นแบบนั้นคงน่าเสียใจแทนพ่อแม่ค่ะ โปรดเองก็อยากทำให้พวกท่านภูมิใจบ้างสักครั้ง
บทที่ 68 พักผ่อนวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาในเช้าที่สดใส บรรยากาศที่สนามม้าด้านนอกมีไอหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่ว แถมอากาศยังเย็นฉ่ำสบายจนอีริคไม่ยอมตื่น“ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มสากสองฟอดเพื่อเป็นการปลุกอีริคให้ตื่น ทว่าชายหนุ่มกลับเบือนหน้าหนีสัมผัสแล้วเอามือมาปิดหน้าไว้ “ขี้เซาจัง”“ให้ฉันนอนเต็มอิ่มบ้าง ไม่ได้นอนหลับสบายแบบนี้มานานมากแล้ว” อีริคพึมพำอยู่ใต้ผ้าห่ม เมื่อได้ฟังแบบนั้นคนโปรดจึงไม่เซ้าซี้เขา เธอก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเอาผ้าคลุมไหล่มาคลุม จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก“ตื่นแล้วเหรอ” พาเวลกำลังก่อกองไฟอยู่พอดี เขาส่งยิ้มทักทายคนโปรด “ดื่มนมอุ่นหน่อยไหม”“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้สนามพร้อมกับรับแก้วนมอุ่นมาดื่ม “นมอุ่นนี่อร่อยมากเลยค่ะ”“อืม...แล้วนายยังไม่ตื่นเหรอ”“ยังค่ะ เห็นว่าอยากนอนอีกสักพัก”“อืม สงสัยคงเหนื่อยมาก ทำงานหนักมาหลายวัน”“ครับ”“พี่พาเวลล่ะคะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” เมื่อมีโอกาสได้อยู่กับพาเวลสองต่อสอง เธอจึงถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเขาบ้าง“ก็ดี ช่วงนี้ทำงานหนักหน่อยแต่ก็มีความสุข”“เห็นพี่มีความสุขกับการทำงานโปรดก็ดีใจค่ะ”“แล้วจะไปเชีย
บทที่ 67 ดูแล“หมูสุกแล้ว ทำไมหนูไม่ตักกินล่ะคะคนสวย” ซินซินสังเกตุเห็นคนโปรดนั่งมองหม้อชาบูอยู่นาน แต่เธอไม่ได้คีบหมูใส่จานตัวเอง กลับคีบให้อีริคกินเสียส่วนใหญ่“โปรดไม่ค่อยหิวค่ะพี่ซิน กินฝรั่งไปเมื่อตอนนั่งเล่นกับพี่ซินโปรดยังอิ่มอยู่เลย"“อ๋อ"“คุณริคกินเยอะ ๆ นะคะ”“คุณริค พี่ว่าเรียกแบบนั้นมันดูห่างเหินไปนะ”“…” อีริคเงยหน้ามองซินซิน “แล้วแต่จะเรียก เอาที่ตัวเองชินปาก”“ป๊ะป๋า"“แค่ก ๆ” ซินซินสำลักน้ำซุปจนหน้าแดงกับสรรพนามที่คนโปรดใช้เรียกอีริค “ป๊ะป๋าเนี่ยนะ” เธอหัวเราะอย่างขำขัน“แต่เหมือนคุณอีริคไม่ชอบเลย งั้นโปรดเรียกพี่ได้ไหมคะ พี่ริค"“…” อีริคไม่ได้ตอบกลับ เพียงส่งยิ้มให้คนโปรดรู้อย่างเดียว“แบบนี้ก็น่ารักดี” ซินซินยกมือขึ้นไปลูบผมน้องสาวด้วยความเอ็นดู “กินเยอะ ๆ นะแกน่ะ ช่วงนี้แพกซ์บอกว่าแกทำงานหนักมาก”“อืม”“พี่แพกซ์หายไปไหนเหรอคะ ไม่เห็นหน้าตั้งนานแล้ว”“เขากำลังยุ่งอยู่กับการเปิดคลับใหม่อยู่น่ะโปรด อีกสักพักเลยล่ะ”“อ๋อค่ะ” เธอหันมามองหน้าอีริค “พี่ริค…เอ่อ อยากได้เครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมคะ” รู้สึกไม่ชินปากเลยที่ต้องเรียกอีริคด้วยสรรพนามใหม่แบบนี้“อยากได้ไวน์"“อย่าเ
บทที่ 66 ทะนุถนอมสี่เดือนต่อมาหลังจากทราบว่าตัวเองตั้งท้องลูกของอีริคอยู่นั้น ตอนนี้ก็ย่างเข้าสู่เดือนที่ห้าแล้ว จากท้องแบนราบตอนนี้ท้องเธอก็เริ่มโตเท่าลูกแตงโมแล้ว“จะไปไหนเหรอคะ โปรดเตรียมชุดให้ไหม” หญิงสาวเอ่ยถามคนรักด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล วันนี้อีริคตื่นตั้งแต่เช้าไปออกกำลังกาย และเธอเห็นเขาพูดกับพาเวลด้วยสีหน้าเครียดขรึมเหมือนมีเรื่องอะไรกวนใจอยู่ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรเพราะกลัวว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องสำคัญ“ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะออกไปทำธุระข้างนอก แล้วลูกน้องจะพาเธอไปที่สนามม้านะ” อีริคเดินเข้ามาโอบเอวคนโปรดแล้วหอมขมับเธอไปหนึ่งฟอด จากนั้นจึงเดินไปที่ห้องแต่งตัว เขาใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมาด้วยชุดไพรเวตสบาย ๆ โบกมือให้คนโปรดแล้วเดินออกไปจากห้องนอนทันทีร่างอวบอิ่มเดินตามหลังคนรักมาหยุดยืนอยู่ทางลงบันไดบ้าน ครั้นจะถามเอาความให้เข้าใจก็กลัวอีริคหงุดหงิดใส่ เธอจึงไม่ถามอะไรเขาแล้วหันหลังเดินกลับห้องนอน มาหยิบกระเป๋าสะพายข้างเดินลงไปรอลูกน้องที่จะพาไปสนามม้าพักนี้อีริคพาเธอไปพักที่สนามม้าบ่อยมาก เขาให้เหตุผลว่าอากาศที่สนามม้าดีกว่าที่บ้านในเมืองที่อยู่กับควันรถและฝุ่นพีเอ็ม“นายหญิงต้องการ
บทที่ 65 รักมากคนโปรดปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วเงยมองคนตัวโตกว่า“คุณริครู้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะว่าโปรดท้อง”“เธอก็รู้ว่าไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาฉันได้”“แล้วรู้เลยเหรอคะว่าโปรดท้อง”“เปล่า ฉันให้พาเวลไปถามหมอที่โรงพยาบาล ก็เธอเองนั่นแหละที่มีพิรุธก่อน ถ้าบอกกันตั้งแต่แรกก็จบ”“โปรดกลัวว่าตัวเองจะเป็นภาระคุณริค กลัวไปหมดเลยค่ะ”“เด็กน้อย เธอเป็นเมียฉันนะ อีกอย่างเธอกำลังอุ้มท้องลูกฉันอยู่” อีริคเลื่อนสายตาลงจ้องที่ท้องแบนราบ “อีกไม่กี่เดือนเขาก็ลืมตาดูโลกแล้ว” คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับหน้าท้องคนโปรดหลังจากที่รู้ว่าเธอท้อง“โปรดใจชื้นขึ้นมากแล้วค่ะ หลังจากที่เก็บความกดดันมาหลายวัน”“ก็เธอไม่ยอมบอกฉันเอง อีกอย่างเธอเป็นคนพูดเองว่าจะไม่โกหกฉัน แต่กลับโกหกซะเอง”“ก็ตามที่โปรดบอกไปค่ะ โปรดกลัวคำว่าลูกจะไปทำลายความสุขของคุณริค”“เด็กน้อย” อีริคยกมือขึ้นลูบพวงแก้มนวล “มีอะไรก็คุยกันก่อน ไม่ใช่เก็บเอาไว้คนเดียวแล้วเอาไปคิดมากแบบนี้”“ขอโทษนะคะ ขอโทษที่โปรดปิดบังคุณริค”“เอาเถอะ อาหารมาพอดีเลย” อีริคถอยกลับมานั่งที่ตัวเอง เขาคอยตักอาการใส่จานให้คนโปรดเรื่อย ๆ จนเธอต้องดันมือเขากลับ แล้วสั่นหน้า