บทที่ 11 แค่ของเล่น
“นี่! ใจคอนายจะไม่กลับไปทำงานจริงเหรอวะริค” ซินซินขมวดคิ้วมองท่าทางนิ่งเงียบของน้องชายด้วยความไม่เข้าใจ อีริคทำตัวชิลมาก ทั้งที่งานที่บริษัทท่วมหัว แถมพวกที่ชอบพูดจาถากถางเขาก็คอยซ้ำเติมอยู่ไม่น้อย
อีริคหันมามองหน้าซินซินแล้วพรูลมหายใจออกด้วยอาการเหนื่อยหน่ายใจ มีเธออยู่ข้างกายเหมือนเขากำลังเลี้ยงนกแก้วมาคอว์อย่างไรอย่างนั้น มันคอยตามติดพูดเจื้อยแจ้วถาม ไต่ถามรายละเอียดน่ารำคาญใจมาก
เขาควบม้าวิ่งออกห่างจากซินซิน แล้วพามอร์แกนเข้าไปในลานซ้อมวิ่งในอาคาร ส่วนซินซินก็บังคับม้าตามหลังมา ทว่าตอนนั้นสายตาเธอกลับเหลือบเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างผอมเพรียวยืนอยู่ที่ระเบียงห้องพักแขกซึ่งอีริคไม่ได้เปิดให้ใครเข้ามาพักที่นี่นานแล้ว
“นั่นใคร” ซินซินก้มมองหน้าลูกน้องอีริคที่กำลังจูงสายบังคับม้าเธออยู่ เขามีท่าทีอ้ำอึ้งเล็กน้อย เหมือนไม่อยากตอบคำถามเธอ แต่นั่นยิ่งทำให้ซินซินสงสัย “แขกวีวีไอพีของริคเหรอ”
“ครับ” คราวนี้ลูกน้องหนุ่มพยักหน้าตอบอย่างรวดเร็ว ซินซินแสยะยิ้มมุมปาก เธอแสร้งทำเป็นไม่เห็น จากนั้นก็พาโซลาร์ไปเดินเล่นกระทั่งถึงสี่โมงเย็นของวัน
“ฉันขอค้างที่นี่นะ ไม่อยากกลับไปหาเตี่ย”
“จุ้นจ้าน”
“ไหน ๆ นายก็นอนที่นี่อยู่แล้วไง ฉันขอค้างคืนหนึ่งไม่ได้เหรอ”
“ห้องรับรองแขกไม่ว่าง”
“ทำไม มีใครเข้าพักงั้นเหรอ” ซินซินแสร้งถาม เธอกอดอกมองหน้าน้องชายซึ่งเขาเก็บอาการได้ดีเลยทีเดียว แถมยังไม่วอกแวกให้เธอจับพิรุธได้
“ไม่มี” อีริคตอบกลับมาด้วยเสียงราบเรียบ พร้อมกับเงยหน้ามองซินซินด้วยแววตาไร้อารมณ์ “อยากนอนก็นอนไป แต่ฉันคงต้องขอตัวกลับไปพักที่คอนโด”
“อา... ได้ค่า งั้นเราทำปิ้งย่างกินกันที่นี่ โอเคทุกคน ออกไปซื้อของมาทำปิ้งย่างกันดีกว่า”
“เธอนี่มันเจ้ากรรมนายเวรฉันหรือไงวะ”
“อะ...อยากให้เป็นไหมล่ะ”
“ก็เหมือนว่าจะเป็นอยู่นะ” อีริคส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย แต่เขากลับสลัดซินซินไม่หลุดสักที และแม้ว่าจะหงุดหงิดและรำคาญเธอมากแค่ไหนก็ตาม เพราะเธอไม่มีใครแล้วนอกจากเขา
“เอาเลย อยากทำอะไรก็ทำเลยครับ”
“โอ๊ะ!” หญิงสาวทำหน้าตกใจจนยกมือขึ้นมาปิดปาก “น้องชายฉันพูดเพราะแบบนี้อยากเลี้ยงไวน์พี่ใช่ไหม ทุกคน! อีริคจะเลี้ยงไวน์เราด้วย”
“หึหึ ระวังฉันเอาคืนสาหัส” เขาคาดโทษซินซิน จากนั้นจึงกลับไปที่ห้องพัก
คนโปรดที่เห็นอีริคเดินมาทางนี้ก็รีบเข้าห้องพัก เธอรีบพาตัวเองขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วแสร้งหลับ หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเสียงประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับเสียงฝีเท้าหนัก ๆ กลิ่นน้ำหอมเขาลอยมาเตะจมูกเธอก่อนที่ร่างสูงจะปรากฏตัวต่อหน้า
“ลุกขึ้น” อีริคออกคำสั่งเสียงเรียบ “ไม่ต้องมาสำออย ฉันเห็นเธอยืนอยู่ที่ระเบียงแล้ว”
“...”! คนโปรดหยัดกายลุกขึ้นมานั่ง เงยหน้ามองชายหนุ่มตาแป๋ว “จะพาโปรดไปไหนเหรอคะ”
“กลับคอนโด”
“...” เธอเม้มปากแน่น ไม่ได้แย้งอะไรเขาทั้งสิ้น กลั้นใจก้าวลงจากเตียงนอนแล้วลากเสาน้ำเกลือเดินไปที่ประตู
“เดี๋ยว” อีริคเรียกไว้
“...” หญิงสาวหันกลับมามองเขา ในใจแอบลุ้นว่าอีริคจะพูดยังไง
“ไปรอฉันที่ห้องรับรองแขก”
“ค่ะ”
“พาเธอไปรอฉันที่ห้องรับรองแขก” เขาสั่งแม่บ้านที่ยืนรออยู่หน้าห้อง ทั้งสองพยักหน้าเข้าใจแล้วพาคนโปรดไปรออีริคที่ห้องรับรองแขกตามคำสั่ง
คนอย่างซินซิน ถ้าได้สงสัยอะไรแล้วเธอไม่มีวันปล่อยให้ความสงสัยนั้นอยู่นานหรอก ไม่แน่เธออาจจะเห็นคนโปรดแล้ว แค่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้น อีริคยกยิ้มมุมปาก จากนั้นก็ให้ลูกน้องเข้ามาจัดเก็บที่นอนและทำความสะอาดเตรียมให้ซินซินมานอนพักที่นี่
สองชั่วโมงต่อมา
กลิ่นของอาหารหอมฉุยส่งกลิ่นเข้ามาในห้องรับรองแขก ทำเอาคนที่เพิ่งฟื้นจากอาการไข้ท้องร้องตามไปด้วย
“หิว~” คนโปรดเดินมาส่องช่องกระจกตรงประตูมองออกไปยังลานหน้าห้อง ซึ่งอีริคกับผู้หญิงคนนั้นกำลังนั่งกินปิ้งย่างกันอยู่ ท่าทางเอร็ดอร่อยมากเลยทีเดียว
“กลิ่นเนื้อย่างหอม ๆ มันช่างยั่วเย้าจริงนะ” ซินซินกระดกไวน์รสชาติดีเข้าปาก ตามด้วยเนื้อวากิวย่างหอม ๆ ราดซอสที่เธอปรุงเองกับมือ
“อ้วน” อีริคเอ่ยขึ้นขณะที่อีกคนกำลังเพลิดเพลินกับรสชาติอาหาร ซินซินย่นหัวคิ้วมองหน้าชายหนุ่ม สกลิลการต่อปากต่อคำของอีริคก็ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน ยิ่งเขาพูดหน้าตายยิ่งทำให้คนฟังเจ็บปวด
“เออ อ้วนก็อ้วนวะ”
“หึหึ แพกซ์มันตายห่าไปแล้วหรือไง ทำไมไม่เห็นโผล่หัวมาหาเธอบ้าง”
“ทำไม เบื่อพี่เหรอ”
“รู้ตัวเองดีนี่”
“นี่!!”
“ทะเลาะอะไรกันอีก”
“รู้เหรอว่าฉันทะเลาะกับแพกซ์”
“มองมาจากดาวอังคารก็รู้”
“เก่งนะเนี่ย”
“หึ”
“แล้วนาย...”
“อะไร” อีริคมองหน้าซินซิน เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงไหวไหล่ใส่ก็เท่านั้น ทว่าความสงสัยนั้นไม่อาจปิดเขามิด “อยากรู้เหรอว่าใครอยู่ที่นี่”
“ใครเหรอ มีคนอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ”
“รู้แล้วนี่”
“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันรู้ว่านายแอบพาคนมาพักที่นี่”
“คนขี้สงสัยอย่างเธอ ไม่ถามหาอะไรถ้าไม่มีมูลหรอก”
“โดนจับได้ซะแล้วเหรอเนี่ย”
“ไปพาเธอออกมา” อิริคสั่งพาเวลให้ไปหาคนโปรดออกมาจากห้องรับแขก
ก๊อก ก๊อก
“หลับอยู่หรือเปล่า” พาเวลเคาะประตูเรียกคนข้างใน ครู่หนึ่งประตูก็เปิดออก คนโปรดยื่นหน้าออกมาเล็กน้อย มองพาเวลตาแป๋ว “นายให้มาเรียก”
“เรียกออกไปข้างนอกนั้นเหรอคะ”
“อืม”
“...” เธอมองเสาน้ำเกลือ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ แล้วหยิบถุงน้ำเกลือเดินตามหลังพาเวลออกมาข้างนอก
“...” อีริคเอี้ยวหน้ามามองเล็กน้อย
พรึบ!
ปืนสีดำทมิฬเล็งมาที่ตัวคนโปรด
“เธอเป็นใคร” ซินซินเดินออกมาจากเก้าอี้ เล็งปืนไปหาคนโปรดและปรายตามองอีริคเพื่อดูปฏิกิริยาเขาว่าจะทำยังไง “เธอเป็นใคร ฉันถามไม่ได้ยินเหรอ”
“คะ คือว่า” คนโปรดกลัวจับใจ มือไม้สั่นเทิ้ม จะตอบกลับไปว่ายังไงดี ในเมื่อสถานะเธอเป็นแค่ของบรรณาการที่เสี่ยธวัตรส่งมาให้อีริคระบายความใคร่เท่านั้น
“ของเล่น” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นกะทันหัน
“ของเล่น ของเล่นจำเป็นต้องอยู่สุขสบายขนาดนี้เหรอ”
“...” อีริคยังนั่งดื่มไวน์ต่อโดยไม่สะทกสะท้านอะไร มีเพียงคนโปรดที่ตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว ยิ่งผู้หญิงคนตรงหน้าตัวสั่น ซินซินก็ยิ่งอยากรู้ว่าอีริคจะทำยังไงต่อ เธอขึ้นลำกล้องแล้วกดปลายประบอกปืนลงกับขมับคนโปรด คราวนี้อีริคปรายตามองเล็กน้อย
“เลิกเล่นได้แล้วน่า เกิดปืนลั่นขึ้นมา ม้าฉันตกใจตายเธอรับผิดชอบไหวเหรอ” เขาตัดรำคาญที่ซินซินเล่นใหญ่ รีบชักปืนออกมาเล็งไปที่คนโปรด แม้จะรู้ว่าเธอแค่หยอกเล่น แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยที่คนอื่นมายุ่งกับของเล่นตัวเองด้วยการเอาปืนจ่อแบบนี้
“เออว่ะ ลืมว่าม้ากูก็อยู่ที่นี่” หญิงสาวลดปืนลงแล้วส่งให้ลูกน้องเอาไปเก็บ
คนโปรดฟุบลงกับพื้น หอบหายใจแรงด้วยอาการตกใจสุดขีด
“อาการน่าเป็นห่วงนะเนี่ย ว่าแต่เธอเป็นของเล่นชนิดไหนของน้องชายฉัน” ซินซินย่อเข่าลงตรงหน้าคนโปรด ส่งมือไปหาเธอจากนั้นก็พยุงตัวคนโปรดลุกขึ้น
“ของเล่นบนเตียงฉันเอง” อีริคตอบคำถามซินซินเองทุกอย่าง
“อ๋อ” ซินซินมองรูปร่างหญิงสาว แล้วมองใบหน้าหวานของเธออย่างพิจารณา “สวยนะเนี่ย ผิวพรรณก็ดี หน้าตาก็ใช้ได้...ได้มายังไง” เธอหันไปถามอีริค
“ลูกหนี้ส่งมาให้” อีริคตอบเสียงเรียบ และดื่มไวน์ไปด้วย เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าคนถาม
การที่ถูกซินซินถามและจ้องมอง มันเหมือนคนโปรดเป็นนักโทษที่กำลังถูกคาดคั้นเอาความจริงอยู่
“ของเล่นงั้นเหรอ”
“...”! คนโปรดก้มหน้ากัดเม้มแน่น
“ที่แท้ก็ของเล่นใต้อาณัติน้องชายฉันนี่เอง”
“...”!
บทที่ 12 ตำแหน่งของเล่นชิ้นโปรดคนโปรดนั่งเงียบด้วยความที่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แม้ว่าซินซินจะเอ่ยถามเธออยู่บ่อยครั้ง แต่คนที่ตอบแทนกลับเป็นอีริค“อ๊ะ!” รู้สึกว่าแขนที่ถือถุงน้ำเกลืออยู่มันเริ่มปวดหนึบ เธอเผลอร้องออกไปเบา ๆ แล้วรีบก้มหน้า ตอนนี้เธออยากกลับเข้าไปพักผ่อนในห้องแล้ว และถ้าอยู่ต่อก็คงหนีไม่พ้นถูกด้อยค่าด้วยคำพูดเหน็บแนบของอีริค ไม่มีสิทธิ์โกรธ เพราะชีวิตอยู่ในกำมือเขาแล้ว หากอีริคยังมีความปรานีอยู่บ้างเธอคงรอดพ้นจากคมกระสุน“พาเวลนายยืนนิ่งอยู่ทำไมเนี่ย”พาเวลรีบสั่งให้ลูกน้องเข้าไปเอาที่แขวนถุงน้ำเกลือออกมาให้คนโปรด“โปรดกลับไปพักก็ได้นะคะ คุณ ๆ จะได้พักผ่อนโดยไม่ต้องมีโปรดให้รำคาญตา”“อ๋อ ที่แท้ก็คนโปรดนี่เอง”“คะ?”“เปล่าหรอก ว่าแต่เธอ...ป่วยเป็นอะไร”“ไข้หวัดธรรมดาค่ะ”“ใครใช้ให้เธอพูด ฉันสั่งตั้งแต่เมื่อไหร่”“...”!“จะดุเธอทำไม”“อย่า ยุ่ง” อีริคกดเสียงต่ำปรามซินซินอย่างจริงจัง และเธอก็รับรู้ด้วยว่าน้องชายกำลังเอาจริงอยู่ จึงไม่เซ้าซี้ “พาเธอเข้าไป” อีริคหันไปสั่งพาเวลให้พาตัวคนโปรดเข้าไปในห้องรับรองแขกคนตัวเล็กเดินนวยนาดมานั่งลงบนโซฟา ถอนหายใจออกอย่างนึกเสียดาย “เกือบ
บทที่ 13 ออดอ้อนนานหลายนาทีที่ภายในห้องอบอวลไปด้วยความกดดันจากอีริค ยิ่งเขาเงียบยิ่งดีแต่สำหรับคนโปรดนั้นไม่ใช่แบบนั้นเลย ยิ่งเขาเอาแต่เงียบและจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เธอก็ยิ่งหวาดหวั่นจนขนอ่อนตามร่างกายลุกเกลียว“เธอนอนบนโซฟาไป”“คะ คุณอีริคไปไหนเหรอคะ นอนด้วยกันก็ได้นะคะ” พอหันมองพื้นที่ว่างบนโซฟาเธอก็นึกขึ้นได้ว่าคงไม่เพียงพอสำหรับคนสองคนนอนด้วยกัน“...” อีริคไม่ได้พูดอะไร เขาลุกออกมาจากเก้าอี้ ย่างสามขุมเข้ามาหาคนโปรด จากนั้นก็จับเสาแขวนถุงน้ำเกลือเธอแน่น ทำเอาคนโปรดตัวแข็งทื่อราวกับลูกแกะตัวน้อยถูกผูกไว้กับหลัก ยิ่งเขาโน้มตัวลงมาหา หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นระรัวจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมาเต้นนอกเบ้าพรึบ!ฝ่ามือหนาผลักไหล่มนไม่แรงนัก เธอไม่ทันตั้งตัวล้มลงบนโซฟา“อย่าลุก ถ้าเธอลุกขึ้นมาแสดงว่าเธอกำลังดื้อและต่อต้านฉัน”“ค่ะ” คนโปรดไม่กล้าสบตากับอีริคจึงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น ส่วนเขาเดินออกไปข้างนอกและไม่กลับเข้ามาอีก กระทั่งถึงเช้าของวันใหม่นายแพทย์หนุ่มเจ้าของคนไข้เดินเข้ามาในห้องรับรองแขกด้วยรอยยิ้มหวานเช่นเคย เขาทำการตรวจคนโปรดอย่างละเอียดดีแล้วก็จัดยาให้เธอกินตามอาการ และวันนี้ก็ถอ
บทที่ 14 พื้นที่ส่วนตัวคนโปรดนั่งมองวิวนอกประตูที่เปิดออกกว้าง สามารถมองเห็นทั้งอีริคและซินซินได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องแอบส่องที่ช่องประตูอย่างที่เคยทำก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง ก่อนที่แม่บ้านสาวร่างท้วมถือซองสีเงินเข้ามาวางไว้ข้างตัวคนโปรด“อะไรเหรอคะ” เธอมองมันด้วยความอยากรู้“เปิดดูเอง”พอได้คำตอบมาแบบนั้น เธอก็ไม่รีรอที่จะเปิดซองสีเงินออกดู ทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสของด้านใน หัวใจดวงน้อยก็ฟูฟ่อง รับรู้ได้ว่าของด้านในคือถ้วยไอศกรีม“ไอติมช็อกโกแลต” ด้วยความดีใจ เธอเผลอกรี๊ดออกมาอย่างลืมตัวจนซินซินที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมของหันไปมองทางห้องรับรองแขก“คนโปรดกรี๊ดอะไร เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” ด้วยเห็นว่าน้องชายยังยืนนิ่ง คล้ายว่าไม่ได้ยินเสียงกรี๊ดเมื่อครู่ เธอจึงก้าวเข้าไปใกล้อีริค เอาไหล่กระแซะต้นเขาเขา “ไม่ไปดูเหรอ เธอร้องเสียงดังนะ”“ยุ่ง ห่วงงานตัวเองเถอะ”“อืม”ด้านคนที่ได้กินไอศกรีมสมใจ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตักไอศกรีมเข้าปากคำแล้วคำเล่าด้วยความพอใจ ศีรษะทุยเล็กโยกไปมาเบา ๆ ตามอารมณ์ที่ได้กินของที่อยากกิน“ทีแรกนึกว่าจะไม่ได้กินแล้ว” ไม่ได้คาดหวังด้วยซ้ำว่าอีริคจะซื้อไอ
บทที่ 15 ที่รองรับอารมณ์ NCแพกซ์เดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างซินซิน แต่สายตาเขากลับมองไปที่ห้องรับรองแขก ซึ่งตอนนี้อีริคยังไม่ออกมาจากห้องนั้น “ซิน”“ว่า”“ใครอยู่ในนั้น ทำไมน้องชายเธอหวงห้องนั้นนัก”ซินซินมองตามสายตาแพกซ์ไปที่ห้องรับรองแขก เธอเผยรอยยิ้มร้ายกาจให้เพื่อน“ของหวง”“ของหวง?”“ทุกคนย่อมมีของที่หวงแหน”“หึ”“มันไล่พวกนาออกมาหรือไง”“ก็เปล่า บอกแค่ว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว”“หึ” ซินซินแค่นหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจกับสิ่งที่แพกซ์เล่า เธอไม่ได้เป็นแม่หมอที่ดูดวงคนแม่น แต่ก็มองภาพอนาคตของอีริคออกโดยไม่ต้องเดาจากสิ่งของหรือวันเดือนปีเกิด “พื้นที่ส่วนตัวก็คือพื้นที่ส่วนตัว เพราะฉะนั้นคนอื่นห้ามย่างกายเข้าไปในนั้น”“อา...เข้าใจแล้ว” แพกซ์พยักหน้ารับรู้ พวกเขานั่งดื่มไวน์กันต่อ ขณะที่คนที่อยู่ในห้องกำลังระเริงรักอย่างเร่าร้อน“อื้อ~ คะ คุณอีริคคะ~ โปรดเสียว” คนโปรดแอ่นหน้าอกรับสัมผัสจากเรียวลิ้นสากของคนตัวโต ไม่รู้เขาคิดอะไรอยู่ จู่ ๆ ก็เปิดประตูเข้ามาและจับร่างเธอขึ้นไปนั่งคร่อมหน้าตัก จากนั้นก็เริ่มเล้าโลมด้วยการโลมเลียยอดถันจนมันกดแข็งเป็นไต “อื้อ~” ความเสียวซ่านเล่นงานเธออย่างหนัก ร
บทที่ 16 ข่าวลือหลังจากอีริคเดินออกไปอย่างหัวเสีย วงสนทนาก็จบลง แพกซ์กับเพื่อนเตรียมตัวจะกลับบ้านและอีริคก็สั่งให้พาเวลมาบอกให้แพกซ์พาซินซินกลับไปด้วย“ไม่กลับ!” กอดอกยืนกรานว่ายังไงก็ไม่กลับไปกับเพื่อนคนนี้ “กลับไปบอกริคเลย ว่าฉันไม่กลับไปกับแพกซ์ และพรุ่งนี้จะกลับเอง”“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปบอกคุณริคให้”“จุ้นจ้าน มาที่นี่ก็มากวนริคมันใช่ไหม เธอน่ะ”“เสือก!”“ปากดี” แพกซ์ทำท่าจะเดินเข้าไปหาซินซิน แต่เธอไหวตัวก่อน เลยวิ่งเข้าไปที่ห้องพักตัวเอง “วุ่นวายจริง” ชายหนุ่มหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไปจากสนามม้าอีริคนั่งเคาะนิ้วอยู่ในโต๊ะทำงานในห้องรับรองแขก สายตาพุ่งตรงไปที่ร่างเล็กที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟานุ่ม ๆครืด~ ครืด~โทรศัพท์อีริคสั่นอยู่บนโต๊ะ พอเห็นชื่อที่โชว์หราอยู่บนจอ เขาก็คว้าโทรศัพท์แล้วเดินออกมาจากห้องรับรองแขก“ถามหายาคุม เพราะเผลอปล่อยในหรือไง” เป็นซินซินที่โทรหาอีริค“เปล่า ถุงแตก”“ฮะ!” คนเป็นพี่หน้าเหวอกับคำตอบตรง ๆ ของอีริค “ถุงยางแตกเนี่ยนะ”“อืม แล้วไอ้ยาพวกนั้นต้องไปซื้อที่ไหนวะ”“นายไม่เคยซื้อติดตัวไว้เลยเหรอ ไม่นอนกับผู้หญิงอื่นทำยังไง”“ก็ใส่ถุง แต
บทที่ 17 เด็กดีหลายชั่วโมงต่อมา“ป่านนี้คุณอีริคจะทำงานถึงไหนแล้วนะ” เธอไม่รู้เลยว่าเขาทำงานเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหมหรือว่ามีเรื่องให้หงุดหงิดใจอยู่หรือเปล่า “อยากกลับไปที่สนามม้าอีกจัง”ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาโดยไม่ให้สุ่มเสียง ทว่าคนที่เดินอาด ๆ เข้ามานั้นคืออีริค แต่ใบหน้าคมเข้มดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่“คุณอีริค” คนโปรดแย้มยิ้มแล้วลุกไปหาชายหนุ่ม “ทำไมคิ้วขมวดแบบนี้คะ”“...” เสียงหายใจฮึดฮัดของอีริคทำหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ ด้วยกลัวว่าจะโดนดุเธอจึงก้มหน้าหลบสายตาชายหนุ่มทันที แต่กลับถูกเชยปลายคางให้เงยหน้าขึ้น“กินอะไร”“คะ?”“อยากกินอะไร”“อะไรก็ได้ค่ะ โปรดกินได้หมด...ถ้าคุณอีริคอยู่ด้วย”“พาเวล”“ครับนาย”“สั่งอาหารมาที่นี่ ขอไวน์ด้วย”“ครับ”“ทำไมวันนี้ดูเครียดจังเลยคะ งานยุ่งเหรอ” คำถามของเธอไม่ได้รับการตอบกลับจากอีริค ทว่าเขากลับผละตัวออกแล้วก้าวขึ้นไปนอนบนฟูกนุ่ม ๆ การกระทำที่เดาทางได้ยากแบบนี้ทำเอาคนโปรดไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้เขามากกว่านี้“เธอเลือกที่จะขอให้ฉันปล่อยเธอไปก็ได้ ทำไมไม่ขอล่ะ”“ขอ...โปรดขอแบบนั้นได้ด้วยเหรอคะ”“...” อีริคมองมา “ก็ของรางวัล ขอได้ทุกอย่าง”“
บทที่ 18 'โฮบาร์ท'หลายวันต่อมาครืด~ ครืด~“ว่ายังไง”(คนโปรดฝากถามว่านายจะเข้ามากินข้าวกับเธอไหมครับ)“ไม่ ฉันไม่เข้าไปที่คอนโด”(ครับนาย) คนที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ พาเวลทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย ด้วยหลายวันมานี้อีริคไม่มาหาเธอเลย จากวันที่เขาบอกว่าจะไปทำธุระ แล้วก็หายเงียบไปเลยตั้งหลายวัน“แต่เย็นนี้จะเข้าไปที่สนามม้า”(ครับ)“พาเธอไปพบฉันที่นั่นแล้วกัน”(ได้ครับนาย)หลังจากวางสายกับพาเวล อีริคก็ปิดแฟ้มงาน และเตรียมตัวไปที่สนามม้าหลายนาทีต่อมาคนโปรดนั่งกอดเข่าดูทีวีอยู่ในห้องเฉกเช่นทุกวันก๊อก ก๊อกรอยยิ้มหวานบนใบหน้าปรากฏขึ้นทันทีที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอรีบไปยืนรออยู่หลังประตูทันที“สวัสดีค่ะพี่พาเวล”พาเวลชะงักเล็กน้อย เพราะเขาไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อเล่นอย่างสนิทสนมแบบนี้ แต่ทว่าคนโปรดก็อยู่มานานและตอนนี้เธอก็เป็นเด็กที่เจ้านายเขาเลี้ยงเอาไว้“นายบอกให้ฉันมาพาเธอไปที่สนามม้า"“เย้ ๆ ไปสนามม้าเหรอคะ”“อืม ไม่ต้องเอาของไป นายน่าจะไม่พักที่นั่น”หญิงสาวม้วนตัวกลับมาทำตาแป๋วใส่ชายหนุ่ม เธอพร้อมออกเดินทางมาก“คุณริคจะไปพักผ่อนเหรอคะ แล้วพี่ซินซินไปไหม"“อย่าถามมาก”คนโดนดุก้มหน้า“พี่พาเ
บทที่ 19หลายนททีต่อมาคนโปรดเงยหน้ามองคนตัวโต “โปรดขี่มันเองได้ไหม แบบขี่คนเดียว” เธอกลืนน้ำลายลงคอเมื่ออีริคก้มมองหน้า เสี้ยวหนึ่งเหมือนเขายิ้มมุมปาก แต่ก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น“ไม่ได้ ม้ามันรู้จักเจ้าของ”“ค่ะ” หญิงสาวซบศีรษะกับอกแกร่ง แล้วนั่งนิ่งอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง นานหลายนาทีที่เขาพาเธอเดินเล่นอยู่ในสนามกระทั่งซินซินขี่ตัวโปรดมาเทียบ“โปรดอยากขี่ม้าไหม”“เอ่อ...” เธอเลิ่กลั่กมองหน้าชายหนุ่มอย่างขออนุญาต “โปรดกลัวตกม้าค่ะ” สีหน้านิ่งเรียบของอีริคเป็นเสมือนคำตอบดี ๆ นี่เอง“อ๋อ งั้นให้ริคพาเดินเล่นนั่นแหละ เดี๋ยวพี่พาม้าไปพักก่อน”“ค่ะ” พอซินซินบังคับม้าวิ่งออกไปไกลแล้ว อีริคจึงบังคับม้าเดินไปอีกที่หนึ่ง “พาไปไหนเหรอคะ คอกม้าอยู่ตรงโน้นนะ” เธอหันหลังมองไปที่คอกพักม้า แต่ตอนนี้อีริคกำลังพาเธอไปอีกที่หนึ่งอยู่ ซึ่งมันไม่ไกลกันมาก“จะพาไปดูอีกที่หนึ่งไง ปกติไม่ค่อยมีใครไปที่นั่นเพราะมันรกร้าง”“แล้ว...พาโปรดไปทำไมเหรอคะ หรือว่าที่นั่นมีอะไรสวยงามให้ดู”“เลิกสงสัยแล้วนั่งนิ่ง ๆ เถอะน่า”“...” หญิงสาวเม้มปาก จากนั้นก็นั่งเงียบจนม้าเดินมาหยุดอยู่ทางเดินแคบ ๆ ซึ่งเป็นทางเดินเท้า อ