บทที่ 10 แขกVVIP
ช่วงเที่ยงวัน
อีริคปิดแฟ้มเอกสารแสนน่าเบื่อ ที่รั้งให้เขาต้องนั่งอยู่ในโต๊ะมานานสองนานด้วยความเมื่อยล้า
"อาหารเที่ยงพร้อมแล้วครับนาย จะกินตอนนี้เลยไหมครับ"
"อืม เสร็จแล้วก็ไปเอามอร์แกนออกมาด้วย"
"มอร์แกนพร้อมแล้วครับ แต่เดี๋ยวบ่ายนี้ต้องเข้าสปาขนกับตัดแต่งเล็บเท้า"
"อืม" อีริคหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบเพื่อผ่อนคลายระหว่างเดินไปที่โต๊ะอาหารที่อยู่อีกห้องหนึ่ง และมันต้องเดินผ่านห้องที่คนโปรดพักอยู่ด้วย เขาหยุดเดินแล้วพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก จากนั้นจึงเปิดประตูเข้าไปด้านใน
"คุณอีริค" คนโปรดรีบดึงเสื้อเชิ้ตที่ติดกระดุมไม่เรียบร้อยขึ้นมาปกปิดหน้าอก "ที่นี่เป็นของคุณอีริคเหรอคะ"
"พอฟื้นขึ้นมาได้ ความอยากรู้อยากเห็นก็ทำงานเลยนะ" ชายหนุ่มเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียง พร้อมกับพ่นควันสีขาวออกจากปาก ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้อง
คนโปรดปิดปากปิดจมูกไอแค่ก ๆ ทั้งกลิ่นฉุนละควันของบุหรี่ที่อีริคจงใจพ่นออกมาทำให้เธอสำลักจนหน้าแดง
"ออกไป" เขาสั่งพาเวลให้ออกไปจากห้อง ทันทีที่ประตูปิดสนิท อีริคก็หันไปมองหญิงสาว เขาลุกขึ้นเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียงขนาดหกฟุต
"อ๊ะ! คะ คุณอีริค" ข้อมือข้างที่เสียบน้ำเกลือถูกเขาจับไว้แน่น
"เธอคิดว่าตัวเองเลือกเดินถูกทางแล้ว?"
"..."! เธอไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขาถามเลย
"แล้วได้คิดไว้บ้างไหมว่าต้องเจอกับอะไร ในเส้นทางที่ตัวเองเลือก" แรงบีบข้อมือรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนใบหน้าสวยเหยเกด้วยความเจ็บปวด
"อ๊ะ...ปะ โปรดเจ็บนะคะ" เธอพยายามแกะนิ้วมือเขาออกทีละนิ้ว แต่กลับถูกอีริคบีบข้อมือแรงขึ้นจนปลายนิ้วซีดเหลืองเพราะเลือดไม่เดิน ความเจ็บเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า
"เลิกพยายาม ฉันขอเตือนเธอ"
"..."!
"มุกป่วยตื้น ๆ แบบนี้...ระวังจะได้ป่วยตายสมใจ" อีริคผลักร่างเล็กนอนราบกับเตียงนอน ก่อนจะก้าวขึ้นไปคร่อมตัวคนโปรดไว้ เขาเริ่มปลดกระดุมเสื้อตัวเองแต่จังหวะที่จะโน้มตัวลงไปซุกไซ้ลำคอระหง เสียงเคาะประตูกลับดังขึ้นมาก่อน
"นายครับ คุณซินซินโทรมาครับ"
"..." อีริคกำหมัดแน่น แล้วจ้องหน้าคนใต้ร่าง เขาก้าวลงจากเตียงแล้วเดินออกไปจากห้อง
"ซินซิน...ใครกัน ทำไมทำให้คุณอีริคหยุดชะงักได้แบบนี้ หรือว่าเธอเป็นเมียเขา" คนโปรดยังนอนอยู่ท่าเดิม แต่สมองกำลังคิดไปไกลกับชื่อซินซินที่พาเวลเอ่ยเมื่อครู่นี้ ชื่อนี้มีอิทธิพลกับอีริคมาก รวมถึงเธอด้วย...
(ที่บอกว่าปิดปรับปรุงอะ นายหลอกฉันเหรอ)
"หลอกอะไร ไร้สาระ" อีริคเดินไปนั่งในโต๊ะอาหาร "จะพูดอะไร มัวอ้ำอึ้งทำไม"
(รู้เหรอว่าจะพูดอะไร)
"พูดมา"
(นายแอบเอาใครไปที่สนามม้าหรือเปล่า แบบลูกค้าวีวีไอพี)
"ไร้สาระ ลูกค้าวีวีไอพีที่ไหนกัน"
(ก็นะ...ใครจะไปรู้ล่ะ ก็ถ้ามีแค่ฉันที่เข้าไปในนั้นได้ก็ดีไป ฉันจะได้เป็นวีวีไอพีคนเดียว)
"อย่างเธอเรียกกาฝากมากกว่านะ"
(นี่พี่แกนะ)
"แล้วไง"
(ไม่พูดกับแกแล้ว ฉันจะเข้าไปหาแกตอนนี้)
"เดี๋ยว" อีริคไม่ทันได้เอ่ยอะไรมากกว่านั้น ซินซินก็วางสายไปก่อน "ดื้อด้านกันจริง ๆ"
อีริคหยิบช้อนส้อมจิ้มเนื้อในจานขึ้นมากัดแล้วเคี้ยวจนแก้มตุ่ย เป็นภาพที่พาเวลไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ เขาจึงแอบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ดูเล่น ๆ
ภายในห้องพัก คนโปรดเดินออกมาสูดอากาศที่ระเบียง ทันได้เห็นม้าสีดำตัวใหญ่ มีขนเงาวับและหางยาวสยายกำลังวิ่งอยู่ในลานกว้างโดยไม่มีผู้ควบคุมมัน
"สวยจัง" เกิดมาไม่เคยเห็นม้าสวยงามขนาดนี้มาก่อน แถมตัวมันยังใหญ่ยักษ์ ม้าสายพันธุ์อื่นเทียบไม่ติดเลย "อยากลองขี่ดูจัง"
ครืด...
ประตูกระจกด้านหลังถูกเลื่อนเปิดออกโดยแม่บ้านที่มาคอยดูแล
"ควรเข้าไปพักผ่อนนะ หากนายรู้เรื่องขึ้นมา เธอก็จะเจ็บตัวอีก"
คนโปรดลูบข้อมือตัวเองเบา ๆ มันยังเป็นรอยแดงอยู่เลย
"ค่ะ" เธอฟังคำสั่งป้าแล้วหันหลังเดินเข้ามาด้านใน ครู่หนึ่งเธอได้ยินเสียงรถขับเข้ามาด้านในแล้วรถคันนั้นก็ขับผ่านไปอีกที่หนึ่ง "ที่นี่เป็นสนามม้าของคุณอีริคเหรอคะ"
"ใช่ นายชอบขี่ม้า ก็เลยสร้างที่นี่ไว้เพื่อเลี้ยงม้าและซ้อมขี่ม้า"
"ดีจังเลยนะคะ ชอบอะไรก็ทำสิ่งนั้น แถมทำอย่างจริงจังอีก"
"เธอก็นอนพัก เดี๋ยวเย็นนี้หมอมาตรวจอีก"
"ค่ะ แต่ว่าโปรดเดินเล่นที่สวนได้ไหมคะ"
"ไม่ได้ พื้นที่ส่วนตัวของนายเขา ห้ามใครเข้าออกโดยไม่ได้รับอนุญาต"
"ค่ะ" คนโปรดก้มหน้างุด จากนั้นก็ไปพักผ่อนตามที่แม่บ้านบอก ส่วนอีริคกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในห้องรับรองแขก
"ไหนบอกว่าทำงานอยู่บริษัทไง"
"ใครบอก"
"ก็ลูกน้องนาย"
"..." อีริคปรายตามองพาเวลเพียงนิด คนโดนตำหนิทางสายตารีบก้มหน้า
"อ๋อ หรือว่ากำลังแอบซุกใครไว้ที่นี่หรือเปล่าน้า...ลูกค้าวีวีไอพีหรือเปล่า"
"แล้วมาทำไม บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าปิดปรับปรุง"
"ปิดปรับปรุง? ปรับปรุงตรงไหนไม่ทราบ"
"เฮ้อ" อีริคถอนหายใจออกอย่างเบื่อหน่าย เขาคร้านจะเถียงกับคนอย่างซินซิน เพราะเถียงยังไงก็ไม่เคยชนะเธอสักที
"แต่เดี๋ยวนะ นั่นแม่บ้านที่บ้านนายไม่ใช่เหรอ พวกหล่อนมาทำอะไรที่นี่ ดูเหมือนกำลังดูแลใครอยู่นะนั่น" ไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาซินซินไปได้ เธอยกมือขึ้นมาป้องสายตามองไปที่สองแม่บ้านนั้นด้วยความสงสัย
"ลาออกจากงานแล้วไปเป็นนักสืบสิ"
หญิงสาวไม่สนใจคำพูดประชดประชันของอีริค เธอยกยิ้มมุมปากแล้วหันมามองหน้าน้องชาย
"ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"
"ไม่ต้อง ฉันรู้หรอกว่าเธอจะไปสืบอะไรไร้สาระนั่น"
"งั้นเล่า"
"ก็แค่เด็กป่วยธรรมดาคนหนึ่ง"
"ก็แค่เนี่ย" ซินซินเบ้ปากใส่อีริคด้วยความหมั่นไส้ "บอกกันตรง ๆ ตั้งแต่แรกก็จบแล้วปะ"
"เหมือนจะบอกไปแล้ว"
"อ๋อ...ลืม"
อีริควางแก้วกาแฟลง จากนั้นก็เดินออกมาจากห้องรับรองแขก รู้สึกเหนื่อยหน่ายและเมื่อยล้าเป็นพิเศษ ยิ่งเห็นหน้าซินซินเขาก็ยิ่งคันไม้คันมืออยากหาที่ระบายอารมณ์ นอกจากเธอจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ไม่เกรงกลัวเขาแล้ว ตอนนี้ซินซินยังเป็นบุคคลที่กวนบาทาเขาอีกต่างหาก
"วันนี้จะพามอร์แกนเดินไหมครับ" พาเวลเอ่ยถามทันทีที่เจ้านายเดินออกมาจากห้องรับแขกได้ เพราะเห็นว่าเขามีแขกจึงเอ่ยถามให้มั่นใจ จะได้พามอร์แกนม้าตัวโปรดอีริคออกมาใส่อานเตรียมพร้อมออกเดินเล่น
"เตรียมให้พร้อม อีกยี่สิบนาทีฉันจะไป" สั่งลูกน้องเสร็จก็เดินเลี่ยงไปที่ห้องแต่งตัว ส่วนซินซินเธอก็นำอาหารโปรดของม้าที่ตนเองเลี้ยงไปให้ที่คอกพัก
คนโปรดนั่งอยู่บนเตียงนอนในอาการมึนศีรษะเล็กน้อย อาจเป็นเพราะเธอกินยาแล้วรีบนอนเร็วเกินไป เธอพยายามนอนแล้วแต่นอนไม่หลับ และตอนนี้ก็อยากออกไปนั่งเล่นที่ระเบียงมาก ๆ
"แม่บ้านไม่อยู่...แอบออกไปนั่งสูดอากาศนิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง"
ร่างเล็กลากเสาน้ำเกลือเดินออกมาที่ระเบียงที่เป็นทางเชื่อมต่อลงไปยังลานกว้าง มีม้าสีดำตัวหนึ่งกำลังเดินเล็มหญ้าอยู่ตรงรั้วกั้นอีกฟากหนึ่ง ครู่หนึ่งพาเวลก็เดินไปจูงม้าตัวนั้นเดินหายเข้าไปในตัวอาคาร
"อดดูม้าสวยเลย" คนโปรดรู้สึกว่าอาการไข้ตัวเองดีขึ้นเพราะได้ออกมาจากห้องแสนอุดอู้นั้น อีกอย่างอากาศวันนี้ก็ไม่ถึงกับร้อนมากมาย มีสายลมเย็น ๆ พัดอยู่ตลอด แต่จะดีกว่านี้ถ้าอีริคอนุญาตให้เธอลงไปเดินเล่นได้
คนโปรดถอนหายใจ เธอตัดใจจะเดินเข้าห้องพักแต่ทันใดนั้น ม้าสีดำสวยตัวนั้นก็ถูกคนบังคับเดินออกมา คนที่บังคับม้าอยู่บนอานคืออีริค
"คุณอีริค..." รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าคนโปรด นอกจากจะเห็นอีริคในมุมที่ไม่เคยเห็นแล้ว เขาในตอนนี้ยังสะกดสายตาเธออีกต่างหาก ไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้เลย
จากที่ตัดใจจะเข้าไปพัก ตอนนี้เธอกลับนั่งไม่ติดเก้าอี้ สายตาเพ่งมองไปที่ร่างสูงใหญ่เป็นสง่าอยู่บนหลังม้า เขาทั้งดูดี เท่ และน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน
"เท่..." คนโปรดยืนยิ้มบาง ๆ อยู่ที่ระเบียงนานสองนาน กระทั่งมีม้าขนสีทองตัวหนึ่งวิ่งไปหาอีริค คนที่บังคับม้าบนอานนั้นเป็นผู้หญิงมัดผมหางม้ายาวสยาย ท่าทางจะสนิทสนมกับอีริคมากด้วย "หรือว่าคุณคนนั้นเป็นแฟนคุณอีริค"
บทที่ 11 แค่ของเล่น“นี่! ใจคอนายจะไม่กลับไปทำงานจริงเหรอวะริค” ซินซินขมวดคิ้วมองท่าทางนิ่งเงียบของน้องชายด้วยความไม่เข้าใจ อีริคทำตัวชิลมาก ทั้งที่งานที่บริษัทท่วมหัว แถมพวกที่ชอบพูดจาถากถางเขาก็คอยซ้ำเติมอยู่ไม่น้อยอีริคหันมามองหน้าซินซินแล้วพรูลมหายใจออกด้วยอาการเหนื่อยหน่ายใจ มีเธออยู่ข้างกายเหมือนเขากำลังเลี้ยงนกแก้วมาคอว์อย่างไรอย่างนั้น มันคอยตามติดพูดเจื้อยแจ้วถาม ไต่ถามรายละเอียดน่ารำคาญใจมากเขาควบม้าวิ่งออกห่างจากซินซิน แล้วพามอร์แกนเข้าไปในลานซ้อมวิ่งในอาคาร ส่วนซินซินก็บังคับม้าตามหลังมา ทว่าตอนนั้นสายตาเธอกลับเหลือบเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างผอมเพรียวยืนอยู่ที่ระเบียงห้องพักแขกซึ่งอีริคไม่ได้เปิดให้ใครเข้ามาพักที่นี่นานแล้ว“นั่นใคร” ซินซินก้มมองหน้าลูกน้องอีริคที่กำลังจูงสายบังคับม้าเธออยู่ เขามีท่าทีอ้ำอึ้งเล็กน้อย เหมือนไม่อยากตอบคำถามเธอ แต่นั่นยิ่งทำให้ซินซินสงสัย “แขกวีวีไอพีของริคเหรอ”“ครับ” คราวนี้ลูกน้องหนุ่มพยักหน้าตอบอย่างรวดเร็ว ซินซินแสยะยิ้มมุมปาก เธอแสร้งทำเป็นไม่เห็น จากนั้นก็พาโซลาร์ไปเดินเล่นกระทั่งถึงสี่โมงเย็นของวัน“ฉันขอค้างที่นี่นะ ไม่อยากกลับไปหาเตี
บทที่ 12 ตำแหน่งของเล่นชิ้นโปรดคนโปรดนั่งเงียบด้วยความที่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แม้ว่าซินซินจะเอ่ยถามเธออยู่บ่อยครั้ง แต่คนที่ตอบแทนกลับเป็นอีริค“อ๊ะ!” รู้สึกว่าแขนที่ถือถุงน้ำเกลืออยู่มันเริ่มปวดหนึบ เธอเผลอร้องออกไปเบา ๆ แล้วรีบก้มหน้า ตอนนี้เธออยากกลับเข้าไปพักผ่อนในห้องแล้ว และถ้าอยู่ต่อก็คงหนีไม่พ้นถูกด้อยค่าด้วยคำพูดเหน็บแนบของอีริค ไม่มีสิทธิ์โกรธ เพราะชีวิตอยู่ในกำมือเขาแล้ว หากอีริคยังมีความปรานีอยู่บ้างเธอคงรอดพ้นจากคมกระสุน“พาเวลนายยืนนิ่งอยู่ทำไมเนี่ย”พาเวลรีบสั่งให้ลูกน้องเข้าไปเอาที่แขวนถุงน้ำเกลือออกมาให้คนโปรด“โปรดกลับไปพักก็ได้นะคะ คุณ ๆ จะได้พักผ่อนโดยไม่ต้องมีโปรดให้รำคาญตา”“อ๋อ ที่แท้ก็คนโปรดนี่เอง”“คะ?”“เปล่าหรอก ว่าแต่เธอ...ป่วยเป็นอะไร”“ไข้หวัดธรรมดาค่ะ”“ใครใช้ให้เธอพูด ฉันสั่งตั้งแต่เมื่อไหร่”“...”!“จะดุเธอทำไม”“อย่า ยุ่ง” อีริคกดเสียงต่ำปรามซินซินอย่างจริงจัง และเธอก็รับรู้ด้วยว่าน้องชายกำลังเอาจริงอยู่ จึงไม่เซ้าซี้ “พาเธอเข้าไป” อีริคหันไปสั่งพาเวลให้พาตัวคนโปรดเข้าไปในห้องรับรองแขกคนตัวเล็กเดินนวยนาดมานั่งลงบนโซฟา ถอนหายใจออกอย่างนึกเสียดาย “เกือบ
บทที่ 13 ออดอ้อนนานหลายนาทีที่ภายในห้องอบอวลไปด้วยความกดดันจากอีริค ยิ่งเขาเงียบยิ่งดีแต่สำหรับคนโปรดนั้นไม่ใช่แบบนั้นเลย ยิ่งเขาเอาแต่เงียบและจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เธอก็ยิ่งหวาดหวั่นจนขนอ่อนตามร่างกายลุกเกลียว“เธอนอนบนโซฟาไป”“คะ คุณอีริคไปไหนเหรอคะ นอนด้วยกันก็ได้นะคะ” พอหันมองพื้นที่ว่างบนโซฟาเธอก็นึกขึ้นได้ว่าคงไม่เพียงพอสำหรับคนสองคนนอนด้วยกัน“...” อีริคไม่ได้พูดอะไร เขาลุกออกมาจากเก้าอี้ ย่างสามขุมเข้ามาหาคนโปรด จากนั้นก็จับเสาแขวนถุงน้ำเกลือเธอแน่น ทำเอาคนโปรดตัวแข็งทื่อราวกับลูกแกะตัวน้อยถูกผูกไว้กับหลัก ยิ่งเขาโน้มตัวลงมาหา หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นระรัวจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมาเต้นนอกเบ้าพรึบ!ฝ่ามือหนาผลักไหล่มนไม่แรงนัก เธอไม่ทันตั้งตัวล้มลงบนโซฟา“อย่าลุก ถ้าเธอลุกขึ้นมาแสดงว่าเธอกำลังดื้อและต่อต้านฉัน”“ค่ะ” คนโปรดไม่กล้าสบตากับอีริคจึงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น ส่วนเขาเดินออกไปข้างนอกและไม่กลับเข้ามาอีก กระทั่งถึงเช้าของวันใหม่นายแพทย์หนุ่มเจ้าของคนไข้เดินเข้ามาในห้องรับรองแขกด้วยรอยยิ้มหวานเช่นเคย เขาทำการตรวจคนโปรดอย่างละเอียดดีแล้วก็จัดยาให้เธอกินตามอาการ และวันนี้ก็ถอ
บทที่ 14 พื้นที่ส่วนตัวคนโปรดนั่งมองวิวนอกประตูที่เปิดออกกว้าง สามารถมองเห็นทั้งอีริคและซินซินได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องแอบส่องที่ช่องประตูอย่างที่เคยทำก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง ก่อนที่แม่บ้านสาวร่างท้วมถือซองสีเงินเข้ามาวางไว้ข้างตัวคนโปรด“อะไรเหรอคะ” เธอมองมันด้วยความอยากรู้“เปิดดูเอง”พอได้คำตอบมาแบบนั้น เธอก็ไม่รีรอที่จะเปิดซองสีเงินออกดู ทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสของด้านใน หัวใจดวงน้อยก็ฟูฟ่อง รับรู้ได้ว่าของด้านในคือถ้วยไอศกรีม“ไอติมช็อกโกแลต” ด้วยความดีใจ เธอเผลอกรี๊ดออกมาอย่างลืมตัวจนซินซินที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมของหันไปมองทางห้องรับรองแขก“คนโปรดกรี๊ดอะไร เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” ด้วยเห็นว่าน้องชายยังยืนนิ่ง คล้ายว่าไม่ได้ยินเสียงกรี๊ดเมื่อครู่ เธอจึงก้าวเข้าไปใกล้อีริค เอาไหล่กระแซะต้นเขาเขา “ไม่ไปดูเหรอ เธอร้องเสียงดังนะ”“ยุ่ง ห่วงงานตัวเองเถอะ”“อืม”ด้านคนที่ได้กินไอศกรีมสมใจ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตักไอศกรีมเข้าปากคำแล้วคำเล่าด้วยความพอใจ ศีรษะทุยเล็กโยกไปมาเบา ๆ ตามอารมณ์ที่ได้กินของที่อยากกิน“ทีแรกนึกว่าจะไม่ได้กินแล้ว” ไม่ได้คาดหวังด้วยซ้ำว่าอีริคจะซื้อไอ
บทที่ 15 ที่รองรับอารมณ์ NCแพกซ์เดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างซินซิน แต่สายตาเขากลับมองไปที่ห้องรับรองแขก ซึ่งตอนนี้อีริคยังไม่ออกมาจากห้องนั้น “ซิน”“ว่า”“ใครอยู่ในนั้น ทำไมน้องชายเธอหวงห้องนั้นนัก”ซินซินมองตามสายตาแพกซ์ไปที่ห้องรับรองแขก เธอเผยรอยยิ้มร้ายกาจให้เพื่อน“ของหวง”“ของหวง?”“ทุกคนย่อมมีของที่หวงแหน”“หึ”“มันไล่พวกนาออกมาหรือไง”“ก็เปล่า บอกแค่ว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว”“หึ” ซินซินแค่นหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจกับสิ่งที่แพกซ์เล่า เธอไม่ได้เป็นแม่หมอที่ดูดวงคนแม่น แต่ก็มองภาพอนาคตของอีริคออกโดยไม่ต้องเดาจากสิ่งของหรือวันเดือนปีเกิด “พื้นที่ส่วนตัวก็คือพื้นที่ส่วนตัว เพราะฉะนั้นคนอื่นห้ามย่างกายเข้าไปในนั้น”“อา...เข้าใจแล้ว” แพกซ์พยักหน้ารับรู้ พวกเขานั่งดื่มไวน์กันต่อ ขณะที่คนที่อยู่ในห้องกำลังระเริงรักอย่างเร่าร้อน“อื้อ~ คะ คุณอีริคคะ~ โปรดเสียว” คนโปรดแอ่นหน้าอกรับสัมผัสจากเรียวลิ้นสากของคนตัวโต ไม่รู้เขาคิดอะไรอยู่ จู่ ๆ ก็เปิดประตูเข้ามาและจับร่างเธอขึ้นไปนั่งคร่อมหน้าตัก จากนั้นก็เริ่มเล้าโลมด้วยการโลมเลียยอดถันจนมันกดแข็งเป็นไต “อื้อ~” ความเสียวซ่านเล่นงานเธออย่างหนัก ร
บทที่ 16 ข่าวลือหลังจากอีริคเดินออกไปอย่างหัวเสีย วงสนทนาก็จบลง แพกซ์กับเพื่อนเตรียมตัวจะกลับบ้านและอีริคก็สั่งให้พาเวลมาบอกให้แพกซ์พาซินซินกลับไปด้วย“ไม่กลับ!” กอดอกยืนกรานว่ายังไงก็ไม่กลับไปกับเพื่อนคนนี้ “กลับไปบอกริคเลย ว่าฉันไม่กลับไปกับแพกซ์ และพรุ่งนี้จะกลับเอง”“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปบอกคุณริคให้”“จุ้นจ้าน มาที่นี่ก็มากวนริคมันใช่ไหม เธอน่ะ”“เสือก!”“ปากดี” แพกซ์ทำท่าจะเดินเข้าไปหาซินซิน แต่เธอไหวตัวก่อน เลยวิ่งเข้าไปที่ห้องพักตัวเอง “วุ่นวายจริง” ชายหนุ่มหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไปจากสนามม้าอีริคนั่งเคาะนิ้วอยู่ในโต๊ะทำงานในห้องรับรองแขก สายตาพุ่งตรงไปที่ร่างเล็กที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟานุ่ม ๆครืด~ ครืด~โทรศัพท์อีริคสั่นอยู่บนโต๊ะ พอเห็นชื่อที่โชว์หราอยู่บนจอ เขาก็คว้าโทรศัพท์แล้วเดินออกมาจากห้องรับรองแขก“ถามหายาคุม เพราะเผลอปล่อยในหรือไง” เป็นซินซินที่โทรหาอีริค“เปล่า ถุงแตก”“ฮะ!” คนเป็นพี่หน้าเหวอกับคำตอบตรง ๆ ของอีริค “ถุงยางแตกเนี่ยนะ”“อืม แล้วไอ้ยาพวกนั้นต้องไปซื้อที่ไหนวะ”“นายไม่เคยซื้อติดตัวไว้เลยเหรอ ไม่นอนกับผู้หญิงอื่นทำยังไง”“ก็ใส่ถุง แต
บทที่ 17 เด็กดีหลายชั่วโมงต่อมา“ป่านนี้คุณอีริคจะทำงานถึงไหนแล้วนะ” เธอไม่รู้เลยว่าเขาทำงานเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหมหรือว่ามีเรื่องให้หงุดหงิดใจอยู่หรือเปล่า “อยากกลับไปที่สนามม้าอีกจัง”ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาโดยไม่ให้สุ่มเสียง ทว่าคนที่เดินอาด ๆ เข้ามานั้นคืออีริค แต่ใบหน้าคมเข้มดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่“คุณอีริค” คนโปรดแย้มยิ้มแล้วลุกไปหาชายหนุ่ม “ทำไมคิ้วขมวดแบบนี้คะ”“...” เสียงหายใจฮึดฮัดของอีริคทำหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ ด้วยกลัวว่าจะโดนดุเธอจึงก้มหน้าหลบสายตาชายหนุ่มทันที แต่กลับถูกเชยปลายคางให้เงยหน้าขึ้น“กินอะไร”“คะ?”“อยากกินอะไร”“อะไรก็ได้ค่ะ โปรดกินได้หมด...ถ้าคุณอีริคอยู่ด้วย”“พาเวล”“ครับนาย”“สั่งอาหารมาที่นี่ ขอไวน์ด้วย”“ครับ”“ทำไมวันนี้ดูเครียดจังเลยคะ งานยุ่งเหรอ” คำถามของเธอไม่ได้รับการตอบกลับจากอีริค ทว่าเขากลับผละตัวออกแล้วก้าวขึ้นไปนอนบนฟูกนุ่ม ๆ การกระทำที่เดาทางได้ยากแบบนี้ทำเอาคนโปรดไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้เขามากกว่านี้“เธอเลือกที่จะขอให้ฉันปล่อยเธอไปก็ได้ ทำไมไม่ขอล่ะ”“ขอ...โปรดขอแบบนั้นได้ด้วยเหรอคะ”“...” อีริคมองมา “ก็ของรางวัล ขอได้ทุกอย่าง”“
บทที่ 18 'โฮบาร์ท'หลายวันต่อมาครืด~ ครืด~“ว่ายังไง”(คนโปรดฝากถามว่านายจะเข้ามากินข้าวกับเธอไหมครับ)“ไม่ ฉันไม่เข้าไปที่คอนโด”(ครับนาย) คนที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ พาเวลทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย ด้วยหลายวันมานี้อีริคไม่มาหาเธอเลย จากวันที่เขาบอกว่าจะไปทำธุระ แล้วก็หายเงียบไปเลยตั้งหลายวัน“แต่เย็นนี้จะเข้าไปที่สนามม้า”(ครับ)“พาเธอไปพบฉันที่นั่นแล้วกัน”(ได้ครับนาย)หลังจากวางสายกับพาเวล อีริคก็ปิดแฟ้มงาน และเตรียมตัวไปที่สนามม้าหลายนาทีต่อมาคนโปรดนั่งกอดเข่าดูทีวีอยู่ในห้องเฉกเช่นทุกวันก๊อก ก๊อกรอยยิ้มหวานบนใบหน้าปรากฏขึ้นทันทีที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอรีบไปยืนรออยู่หลังประตูทันที“สวัสดีค่ะพี่พาเวล”พาเวลชะงักเล็กน้อย เพราะเขาไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อเล่นอย่างสนิทสนมแบบนี้ แต่ทว่าคนโปรดก็อยู่มานานและตอนนี้เธอก็เป็นเด็กที่เจ้านายเขาเลี้ยงเอาไว้“นายบอกให้ฉันมาพาเธอไปที่สนามม้า"“เย้ ๆ ไปสนามม้าเหรอคะ”“อืม ไม่ต้องเอาของไป นายน่าจะไม่พักที่นั่น”หญิงสาวม้วนตัวกลับมาทำตาแป๋วใส่ชายหนุ่ม เธอพร้อมออกเดินทางมาก“คุณริคจะไปพักผ่อนเหรอคะ แล้วพี่ซินซินไปไหม"“อย่าถามมาก”คนโดนดุก้มหน้า“พี่พาเ