บทที่ 10 แขกVVIP
ช่วงเที่ยงวัน
อีริคปิดแฟ้มเอกสารแสนน่าเบื่อ ที่รั้งให้เขาต้องนั่งอยู่ในโต๊ะมานานสองนานด้วยความเมื่อยล้า
"อาหารเที่ยงพร้อมแล้วครับนาย จะกินตอนนี้เลยไหมครับ"
"อืม เสร็จแล้วก็ไปเอามอร์แกนออกมาด้วย"
"มอร์แกนพร้อมแล้วครับ แต่เดี๋ยวบ่ายนี้ต้องเข้าสปาขนกับตัดแต่งเล็บเท้า"
"อืม" อีริคหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบเพื่อผ่อนคลายระหว่างเดินไปที่โต๊ะอาหารที่อยู่อีกห้องหนึ่ง และมันต้องเดินผ่านห้องที่คนโปรดพักอยู่ด้วย เขาหยุดเดินแล้วพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก จากนั้นจึงเปิดประตูเข้าไปด้านใน
"คุณอีริค" คนโปรดรีบดึงเสื้อเชิ้ตที่ติดกระดุมไม่เรียบร้อยขึ้นมาปกปิดหน้าอก "ที่นี่เป็นของคุณอีริคเหรอคะ"
"พอฟื้นขึ้นมาได้ ความอยากรู้อยากเห็นก็ทำงานเลยนะ" ชายหนุ่มเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียง พร้อมกับพ่นควันสีขาวออกจากปาก ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้อง
คนโปรดปิดปากปิดจมูกไอแค่ก ๆ ทั้งกลิ่นฉุนละควันของบุหรี่ที่อีริคจงใจพ่นออกมาทำให้เธอสำลักจนหน้าแดง
"ออกไป" เขาสั่งพาเวลให้ออกไปจากห้อง ทันทีที่ประตูปิดสนิท อีริคก็หันไปมองหญิงสาว เขาลุกขึ้นเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียงขนาดหกฟุต
"อ๊ะ! คะ คุณอีริค" ข้อมือข้างที่เสียบน้ำเกลือถูกเขาจับไว้แน่น
"เธอคิดว่าตัวเองเลือกเดินถูกทางแล้ว?"
"..."! เธอไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขาถามเลย
"แล้วได้คิดไว้บ้างไหมว่าต้องเจอกับอะไร ในเส้นทางที่ตัวเองเลือก" แรงบีบข้อมือรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนใบหน้าสวยเหยเกด้วยความเจ็บปวด
"อ๊ะ...ปะ โปรดเจ็บนะคะ" เธอพยายามแกะนิ้วมือเขาออกทีละนิ้ว แต่กลับถูกอีริคบีบข้อมือแรงขึ้นจนปลายนิ้วซีดเหลืองเพราะเลือดไม่เดิน ความเจ็บเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า
"เลิกพยายาม ฉันขอเตือนเธอ"
"..."!
"มุกป่วยตื้น ๆ แบบนี้...ระวังจะได้ป่วยตายสมใจ" อีริคผลักร่างเล็กนอนราบกับเตียงนอน ก่อนจะก้าวขึ้นไปคร่อมตัวคนโปรดไว้ เขาเริ่มปลดกระดุมเสื้อตัวเองแต่จังหวะที่จะโน้มตัวลงไปซุกไซ้ลำคอระหง เสียงเคาะประตูกลับดังขึ้นมาก่อน
"นายครับ คุณซินซินโทรมาครับ"
"..." อีริคกำหมัดแน่น แล้วจ้องหน้าคนใต้ร่าง เขาก้าวลงจากเตียงแล้วเดินออกไปจากห้อง
"ซินซิน...ใครกัน ทำไมทำให้คุณอีริคหยุดชะงักได้แบบนี้ หรือว่าเธอเป็นเมียเขา" คนโปรดยังนอนอยู่ท่าเดิม แต่สมองกำลังคิดไปไกลกับชื่อซินซินที่พาเวลเอ่ยเมื่อครู่นี้ ชื่อนี้มีอิทธิพลกับอีริคมาก รวมถึงเธอด้วย...
(ที่บอกว่าปิดปรับปรุงอะ นายหลอกฉันเหรอ)
"หลอกอะไร ไร้สาระ" อีริคเดินไปนั่งในโต๊ะอาหาร "จะพูดอะไร มัวอ้ำอึ้งทำไม"
(รู้เหรอว่าจะพูดอะไร)
"พูดมา"
(นายแอบเอาใครไปที่สนามม้าหรือเปล่า แบบลูกค้าวีวีไอพี)
"ไร้สาระ ลูกค้าวีวีไอพีที่ไหนกัน"
(ก็นะ...ใครจะไปรู้ล่ะ ก็ถ้ามีแค่ฉันที่เข้าไปในนั้นได้ก็ดีไป ฉันจะได้เป็นวีวีไอพีคนเดียว)
"อย่างเธอเรียกกาฝากมากกว่านะ"
(นี่พี่แกนะ)
"แล้วไง"
(ไม่พูดกับแกแล้ว ฉันจะเข้าไปหาแกตอนนี้)
"เดี๋ยว" อีริคไม่ทันได้เอ่ยอะไรมากกว่านั้น ซินซินก็วางสายไปก่อน "ดื้อด้านกันจริง ๆ"
อีริคหยิบช้อนส้อมจิ้มเนื้อในจานขึ้นมากัดแล้วเคี้ยวจนแก้มตุ่ย เป็นภาพที่พาเวลไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ เขาจึงแอบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ดูเล่น ๆ
ภายในห้องพัก คนโปรดเดินออกมาสูดอากาศที่ระเบียง ทันได้เห็นม้าสีดำตัวใหญ่ มีขนเงาวับและหางยาวสยายกำลังวิ่งอยู่ในลานกว้างโดยไม่มีผู้ควบคุมมัน
"สวยจัง" เกิดมาไม่เคยเห็นม้าสวยงามขนาดนี้มาก่อน แถมตัวมันยังใหญ่ยักษ์ ม้าสายพันธุ์อื่นเทียบไม่ติดเลย "อยากลองขี่ดูจัง"
ครืด...
ประตูกระจกด้านหลังถูกเลื่อนเปิดออกโดยแม่บ้านที่มาคอยดูแล
"ควรเข้าไปพักผ่อนนะ หากนายรู้เรื่องขึ้นมา เธอก็จะเจ็บตัวอีก"
คนโปรดลูบข้อมือตัวเองเบา ๆ มันยังเป็นรอยแดงอยู่เลย
"ค่ะ" เธอฟังคำสั่งป้าแล้วหันหลังเดินเข้ามาด้านใน ครู่หนึ่งเธอได้ยินเสียงรถขับเข้ามาด้านในแล้วรถคันนั้นก็ขับผ่านไปอีกที่หนึ่ง "ที่นี่เป็นสนามม้าของคุณอีริคเหรอคะ"
"ใช่ นายชอบขี่ม้า ก็เลยสร้างที่นี่ไว้เพื่อเลี้ยงม้าและซ้อมขี่ม้า"
"ดีจังเลยนะคะ ชอบอะไรก็ทำสิ่งนั้น แถมทำอย่างจริงจังอีก"
"เธอก็นอนพัก เดี๋ยวเย็นนี้หมอมาตรวจอีก"
"ค่ะ แต่ว่าโปรดเดินเล่นที่สวนได้ไหมคะ"
"ไม่ได้ พื้นที่ส่วนตัวของนายเขา ห้ามใครเข้าออกโดยไม่ได้รับอนุญาต"
"ค่ะ" คนโปรดก้มหน้างุด จากนั้นก็ไปพักผ่อนตามที่แม่บ้านบอก ส่วนอีริคกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในห้องรับรองแขก
"ไหนบอกว่าทำงานอยู่บริษัทไง"
"ใครบอก"
"ก็ลูกน้องนาย"
"..." อีริคปรายตามองพาเวลเพียงนิด คนโดนตำหนิทางสายตารีบก้มหน้า
"อ๋อ หรือว่ากำลังแอบซุกใครไว้ที่นี่หรือเปล่าน้า...ลูกค้าวีวีไอพีหรือเปล่า"
"แล้วมาทำไม บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าปิดปรับปรุง"
"ปิดปรับปรุง? ปรับปรุงตรงไหนไม่ทราบ"
"เฮ้อ" อีริคถอนหายใจออกอย่างเบื่อหน่าย เขาคร้านจะเถียงกับคนอย่างซินซิน เพราะเถียงยังไงก็ไม่เคยชนะเธอสักที
"แต่เดี๋ยวนะ นั่นแม่บ้านที่บ้านนายไม่ใช่เหรอ พวกหล่อนมาทำอะไรที่นี่ ดูเหมือนกำลังดูแลใครอยู่นะนั่น" ไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาซินซินไปได้ เธอยกมือขึ้นมาป้องสายตามองไปที่สองแม่บ้านนั้นด้วยความสงสัย
"ลาออกจากงานแล้วไปเป็นนักสืบสิ"
หญิงสาวไม่สนใจคำพูดประชดประชันของอีริค เธอยกยิ้มมุมปากแล้วหันมามองหน้าน้องชาย
"ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"
"ไม่ต้อง ฉันรู้หรอกว่าเธอจะไปสืบอะไรไร้สาระนั่น"
"งั้นเล่า"
"ก็แค่เด็กป่วยธรรมดาคนหนึ่ง"
"ก็แค่เนี่ย" ซินซินเบ้ปากใส่อีริคด้วยความหมั่นไส้ "บอกกันตรง ๆ ตั้งแต่แรกก็จบแล้วปะ"
"เหมือนจะบอกไปแล้ว"
"อ๋อ...ลืม"
อีริควางแก้วกาแฟลง จากนั้นก็เดินออกมาจากห้องรับรองแขก รู้สึกเหนื่อยหน่ายและเมื่อยล้าเป็นพิเศษ ยิ่งเห็นหน้าซินซินเขาก็ยิ่งคันไม้คันมืออยากหาที่ระบายอารมณ์ นอกจากเธอจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ไม่เกรงกลัวเขาแล้ว ตอนนี้ซินซินยังเป็นบุคคลที่กวนบาทาเขาอีกต่างหาก
"วันนี้จะพามอร์แกนเดินไหมครับ" พาเวลเอ่ยถามทันทีที่เจ้านายเดินออกมาจากห้องรับแขกได้ เพราะเห็นว่าเขามีแขกจึงเอ่ยถามให้มั่นใจ จะได้พามอร์แกนม้าตัวโปรดอีริคออกมาใส่อานเตรียมพร้อมออกเดินเล่น
"เตรียมให้พร้อม อีกยี่สิบนาทีฉันจะไป" สั่งลูกน้องเสร็จก็เดินเลี่ยงไปที่ห้องแต่งตัว ส่วนซินซินเธอก็นำอาหารโปรดของม้าที่ตนเองเลี้ยงไปให้ที่คอกพัก
คนโปรดนั่งอยู่บนเตียงนอนในอาการมึนศีรษะเล็กน้อย อาจเป็นเพราะเธอกินยาแล้วรีบนอนเร็วเกินไป เธอพยายามนอนแล้วแต่นอนไม่หลับ และตอนนี้ก็อยากออกไปนั่งเล่นที่ระเบียงมาก ๆ
"แม่บ้านไม่อยู่...แอบออกไปนั่งสูดอากาศนิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง"
ร่างเล็กลากเสาน้ำเกลือเดินออกมาที่ระเบียงที่เป็นทางเชื่อมต่อลงไปยังลานกว้าง มีม้าสีดำตัวหนึ่งกำลังเดินเล็มหญ้าอยู่ตรงรั้วกั้นอีกฟากหนึ่ง ครู่หนึ่งพาเวลก็เดินไปจูงม้าตัวนั้นเดินหายเข้าไปในตัวอาคาร
"อดดูม้าสวยเลย" คนโปรดรู้สึกว่าอาการไข้ตัวเองดีขึ้นเพราะได้ออกมาจากห้องแสนอุดอู้นั้น อีกอย่างอากาศวันนี้ก็ไม่ถึงกับร้อนมากมาย มีสายลมเย็น ๆ พัดอยู่ตลอด แต่จะดีกว่านี้ถ้าอีริคอนุญาตให้เธอลงไปเดินเล่นได้
คนโปรดถอนหายใจ เธอตัดใจจะเดินเข้าห้องพักแต่ทันใดนั้น ม้าสีดำสวยตัวนั้นก็ถูกคนบังคับเดินออกมา คนที่บังคับม้าอยู่บนอานคืออีริค
"คุณอีริค..." รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าคนโปรด นอกจากจะเห็นอีริคในมุมที่ไม่เคยเห็นแล้ว เขาในตอนนี้ยังสะกดสายตาเธออีกต่างหาก ไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้เลย
จากที่ตัดใจจะเข้าไปพัก ตอนนี้เธอกลับนั่งไม่ติดเก้าอี้ สายตาเพ่งมองไปที่ร่างสูงใหญ่เป็นสง่าอยู่บนหลังม้า เขาทั้งดูดี เท่ และน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน
"เท่..." คนโปรดยืนยิ้มบาง ๆ อยู่ที่ระเบียงนานสองนาน กระทั่งมีม้าขนสีทองตัวหนึ่งวิ่งไปหาอีริค คนที่บังคับม้าบนอานนั้นเป็นผู้หญิงมัดผมหางม้ายาวสยาย ท่าทางจะสนิทสนมกับอีริคมากด้วย "หรือว่าคุณคนนั้นเป็นแฟนคุณอีริค"
บทที่ 11 แค่ของเล่น“นี่! ใจคอนายจะไม่กลับไปทำงานจริงเหรอวะริค” ซินซินขมวดคิ้วมองท่าทางนิ่งเงียบของน้องชายด้วยความไม่เข้าใจ อีริคทำตัวชิลมาก ทั้งที่งานที่บริษัทท่วมหัว แถมพวกที่ชอบพูดจาถากถางเขาก็คอยซ้ำเติมอยู่ไม่น้อยอีริคหันมามองหน้าซินซินแล้วพรูลมหายใจออกด้วยอาการเหนื่อยหน่ายใจ มีเธออยู่ข้างกายเหมือนเขากำลังเลี้ยงนกแก้วมาคอว์อย่างไรอย่างนั้น มันคอยตามติดพูดเจื้อยแจ้วถาม ไต่ถามรายละเอียดน่ารำคาญใจมากเขาควบม้าวิ่งออกห่างจากซินซิน แล้วพามอร์แกนเข้าไปในลานซ้อมวิ่งในอาคาร ส่วนซินซินก็บังคับม้าตามหลังมา ทว่าตอนนั้นสายตาเธอกลับเหลือบเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างผอมเพรียวยืนอยู่ที่ระเบียงห้องพักแขกซึ่งอีริคไม่ได้เปิดให้ใครเข้ามาพักที่นี่นานแล้ว“นั่นใคร” ซินซินก้มมองหน้าลูกน้องอีริคที่กำลังจูงสายบังคับม้าเธออยู่ เขามีท่าทีอ้ำอึ้งเล็กน้อย เหมือนไม่อยากตอบคำถามเธอ แต่นั่นยิ่งทำให้ซินซินสงสัย “แขกวีวีไอพีของริคเหรอ”“ครับ” คราวนี้ลูกน้องหนุ่มพยักหน้าตอบอย่างรวดเร็ว ซินซินแสยะยิ้มมุมปาก เธอแสร้งทำเป็นไม่เห็น จากนั้นก็พาโซลาร์ไปเดินเล่นกระทั่งถึงสี่โมงเย็นของวัน“ฉันขอค้างที่นี่นะ ไม่อยากกลับไปหาเตี
บทที่ 12 ตำแหน่งของเล่นชิ้นโปรดคนโปรดนั่งเงียบด้วยความที่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แม้ว่าซินซินจะเอ่ยถามเธออยู่บ่อยครั้ง แต่คนที่ตอบแทนกลับเป็นอีริค“อ๊ะ!” รู้สึกว่าแขนที่ถือถุงน้ำเกลืออยู่มันเริ่มปวดหนึบ เธอเผลอร้องออกไปเบา ๆ แล้วรีบก้มหน้า ตอนนี้เธออยากกลับเข้าไปพักผ่อนในห้องแล้ว และถ้าอยู่ต่อก็คงหนีไม่พ้นถูกด้อยค่าด้วยคำพูดเหน็บแนบของอีริค ไม่มีสิทธิ์โกรธ เพราะชีวิตอยู่ในกำมือเขาแล้ว หากอีริคยังมีความปรานีอยู่บ้างเธอคงรอดพ้นจากคมกระสุน“พาเวลนายยืนนิ่งอยู่ทำไมเนี่ย”พาเวลรีบสั่งให้ลูกน้องเข้าไปเอาที่แขวนถุงน้ำเกลือออกมาให้คนโปรด“โปรดกลับไปพักก็ได้นะคะ คุณ ๆ จะได้พักผ่อนโดยไม่ต้องมีโปรดให้รำคาญตา”“อ๋อ ที่แท้ก็คนโปรดนี่เอง”“คะ?”“เปล่าหรอก ว่าแต่เธอ...ป่วยเป็นอะไร”“ไข้หวัดธรรมดาค่ะ”“ใครใช้ให้เธอพูด ฉันสั่งตั้งแต่เมื่อไหร่”“...”!“จะดุเธอทำไม”“อย่า ยุ่ง” อีริคกดเสียงต่ำปรามซินซินอย่างจริงจัง และเธอก็รับรู้ด้วยว่าน้องชายกำลังเอาจริงอยู่ จึงไม่เซ้าซี้ “พาเธอเข้าไป” อีริคหันไปสั่งพาเวลให้พาตัวคนโปรดเข้าไปในห้องรับรองแขกคนตัวเล็กเดินนวยนาดมานั่งลงบนโซฟา ถอนหายใจออกอย่างนึกเสียดาย “เกือบ
บทที่ 13 ออดอ้อนนานหลายนาทีที่ภายในห้องอบอวลไปด้วยความกดดันจากอีริค ยิ่งเขาเงียบยิ่งดีแต่สำหรับคนโปรดนั้นไม่ใช่แบบนั้นเลย ยิ่งเขาเอาแต่เงียบและจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เธอก็ยิ่งหวาดหวั่นจนขนอ่อนตามร่างกายลุกเกลียว“เธอนอนบนโซฟาไป”“คะ คุณอีริคไปไหนเหรอคะ นอนด้วยกันก็ได้นะคะ” พอหันมองพื้นที่ว่างบนโซฟาเธอก็นึกขึ้นได้ว่าคงไม่เพียงพอสำหรับคนสองคนนอนด้วยกัน“...” อีริคไม่ได้พูดอะไร เขาลุกออกมาจากเก้าอี้ ย่างสามขุมเข้ามาหาคนโปรด จากนั้นก็จับเสาแขวนถุงน้ำเกลือเธอแน่น ทำเอาคนโปรดตัวแข็งทื่อราวกับลูกแกะตัวน้อยถูกผูกไว้กับหลัก ยิ่งเขาโน้มตัวลงมาหา หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นระรัวจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมาเต้นนอกเบ้าพรึบ!ฝ่ามือหนาผลักไหล่มนไม่แรงนัก เธอไม่ทันตั้งตัวล้มลงบนโซฟา“อย่าลุก ถ้าเธอลุกขึ้นมาแสดงว่าเธอกำลังดื้อและต่อต้านฉัน”“ค่ะ” คนโปรดไม่กล้าสบตากับอีริคจึงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น ส่วนเขาเดินออกไปข้างนอกและไม่กลับเข้ามาอีก กระทั่งถึงเช้าของวันใหม่นายแพทย์หนุ่มเจ้าของคนไข้เดินเข้ามาในห้องรับรองแขกด้วยรอยยิ้มหวานเช่นเคย เขาทำการตรวจคนโปรดอย่างละเอียดดีแล้วก็จัดยาให้เธอกินตามอาการ และวันนี้ก็ถอ
บทที่ 14 พื้นที่ส่วนตัวคนโปรดนั่งมองวิวนอกประตูที่เปิดออกกว้าง สามารถมองเห็นทั้งอีริคและซินซินได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องแอบส่องที่ช่องประตูอย่างที่เคยทำก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง ก่อนที่แม่บ้านสาวร่างท้วมถือซองสีเงินเข้ามาวางไว้ข้างตัวคนโปรด“อะไรเหรอคะ” เธอมองมันด้วยความอยากรู้“เปิดดูเอง”พอได้คำตอบมาแบบนั้น เธอก็ไม่รีรอที่จะเปิดซองสีเงินออกดู ทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสของด้านใน หัวใจดวงน้อยก็ฟูฟ่อง รับรู้ได้ว่าของด้านในคือถ้วยไอศกรีม“ไอติมช็อกโกแลต” ด้วยความดีใจ เธอเผลอกรี๊ดออกมาอย่างลืมตัวจนซินซินที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมของหันไปมองทางห้องรับรองแขก“คนโปรดกรี๊ดอะไร เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” ด้วยเห็นว่าน้องชายยังยืนนิ่ง คล้ายว่าไม่ได้ยินเสียงกรี๊ดเมื่อครู่ เธอจึงก้าวเข้าไปใกล้อีริค เอาไหล่กระแซะต้นเขาเขา “ไม่ไปดูเหรอ เธอร้องเสียงดังนะ”“ยุ่ง ห่วงงานตัวเองเถอะ”“อืม”ด้านคนที่ได้กินไอศกรีมสมใจ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตักไอศกรีมเข้าปากคำแล้วคำเล่าด้วยความพอใจ ศีรษะทุยเล็กโยกไปมาเบา ๆ ตามอารมณ์ที่ได้กินของที่อยากกิน“ทีแรกนึกว่าจะไม่ได้กินแล้ว” ไม่ได้คาดหวังด้วยซ้ำว่าอีริคจะซื้อไอ
บทที่ 15 ที่รองรับอารมณ์ NCแพกซ์เดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างซินซิน แต่สายตาเขากลับมองไปที่ห้องรับรองแขก ซึ่งตอนนี้อีริคยังไม่ออกมาจากห้องนั้น “ซิน”“ว่า”“ใครอยู่ในนั้น ทำไมน้องชายเธอหวงห้องนั้นนัก”ซินซินมองตามสายตาแพกซ์ไปที่ห้องรับรองแขก เธอเผยรอยยิ้มร้ายกาจให้เพื่อน“ของหวง”“ของหวง?”“ทุกคนย่อมมีของที่หวงแหน”“หึ”“มันไล่พวกนาออกมาหรือไง”“ก็เปล่า บอกแค่ว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว”“หึ” ซินซินแค่นหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจกับสิ่งที่แพกซ์เล่า เธอไม่ได้เป็นแม่หมอที่ดูดวงคนแม่น แต่ก็มองภาพอนาคตของอีริคออกโดยไม่ต้องเดาจากสิ่งของหรือวันเดือนปีเกิด “พื้นที่ส่วนตัวก็คือพื้นที่ส่วนตัว เพราะฉะนั้นคนอื่นห้ามย่างกายเข้าไปในนั้น”“อา...เข้าใจแล้ว” แพกซ์พยักหน้ารับรู้ พวกเขานั่งดื่มไวน์กันต่อ ขณะที่คนที่อยู่ในห้องกำลังระเริงรักอย่างเร่าร้อน“อื้อ~ คะ คุณอีริคคะ~ โปรดเสียว” คนโปรดแอ่นหน้าอกรับสัมผัสจากเรียวลิ้นสากของคนตัวโต ไม่รู้เขาคิดอะไรอยู่ จู่ ๆ ก็เปิดประตูเข้ามาและจับร่างเธอขึ้นไปนั่งคร่อมหน้าตัก จากนั้นก็เริ่มเล้าโลมด้วยการโลมเลียยอดถันจนมันกดแข็งเป็นไต “อื้อ~” ความเสียวซ่านเล่นงานเธออย่างหนัก ร
บทที่ 16 ข่าวลือหลังจากอีริคเดินออกไปอย่างหัวเสีย วงสนทนาก็จบลง แพกซ์กับเพื่อนเตรียมตัวจะกลับบ้านและอีริคก็สั่งให้พาเวลมาบอกให้แพกซ์พาซินซินกลับไปด้วย“ไม่กลับ!” กอดอกยืนกรานว่ายังไงก็ไม่กลับไปกับเพื่อนคนนี้ “กลับไปบอกริคเลย ว่าฉันไม่กลับไปกับแพกซ์ และพรุ่งนี้จะกลับเอง”“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปบอกคุณริคให้”“จุ้นจ้าน มาที่นี่ก็มากวนริคมันใช่ไหม เธอน่ะ”“เสือก!”“ปากดี” แพกซ์ทำท่าจะเดินเข้าไปหาซินซิน แต่เธอไหวตัวก่อน เลยวิ่งเข้าไปที่ห้องพักตัวเอง “วุ่นวายจริง” ชายหนุ่มหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไปจากสนามม้าอีริคนั่งเคาะนิ้วอยู่ในโต๊ะทำงานในห้องรับรองแขก สายตาพุ่งตรงไปที่ร่างเล็กที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟานุ่ม ๆครืด~ ครืด~โทรศัพท์อีริคสั่นอยู่บนโต๊ะ พอเห็นชื่อที่โชว์หราอยู่บนจอ เขาก็คว้าโทรศัพท์แล้วเดินออกมาจากห้องรับรองแขก“ถามหายาคุม เพราะเผลอปล่อยในหรือไง” เป็นซินซินที่โทรหาอีริค“เปล่า ถุงแตก”“ฮะ!” คนเป็นพี่หน้าเหวอกับคำตอบตรง ๆ ของอีริค “ถุงยางแตกเนี่ยนะ”“อืม แล้วไอ้ยาพวกนั้นต้องไปซื้อที่ไหนวะ”“นายไม่เคยซื้อติดตัวไว้เลยเหรอ ไม่นอนกับผู้หญิงอื่นทำยังไง”“ก็ใส่ถุง แต
บทที่ 17 เด็กดีหลายชั่วโมงต่อมา“ป่านนี้คุณอีริคจะทำงานถึงไหนแล้วนะ” เธอไม่รู้เลยว่าเขาทำงานเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหมหรือว่ามีเรื่องให้หงุดหงิดใจอยู่หรือเปล่า “อยากกลับไปที่สนามม้าอีกจัง”ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาโดยไม่ให้สุ่มเสียง ทว่าคนที่เดินอาด ๆ เข้ามานั้นคืออีริค แต่ใบหน้าคมเข้มดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่“คุณอีริค” คนโปรดแย้มยิ้มแล้วลุกไปหาชายหนุ่ม “ทำไมคิ้วขมวดแบบนี้คะ”“...” เสียงหายใจฮึดฮัดของอีริคทำหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ ด้วยกลัวว่าจะโดนดุเธอจึงก้มหน้าหลบสายตาชายหนุ่มทันที แต่กลับถูกเชยปลายคางให้เงยหน้าขึ้น“กินอะไร”“คะ?”“อยากกินอะไร”“อะไรก็ได้ค่ะ โปรดกินได้หมด...ถ้าคุณอีริคอยู่ด้วย”“พาเวล”“ครับนาย”“สั่งอาหารมาที่นี่ ขอไวน์ด้วย”“ครับ”“ทำไมวันนี้ดูเครียดจังเลยคะ งานยุ่งเหรอ” คำถามของเธอไม่ได้รับการตอบกลับจากอีริค ทว่าเขากลับผละตัวออกแล้วก้าวขึ้นไปนอนบนฟูกนุ่ม ๆ การกระทำที่เดาทางได้ยากแบบนี้ทำเอาคนโปรดไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้เขามากกว่านี้“เธอเลือกที่จะขอให้ฉันปล่อยเธอไปก็ได้ ทำไมไม่ขอล่ะ”“ขอ...โปรดขอแบบนั้นได้ด้วยเหรอคะ”“...” อีริคมองมา “ก็ของรางวัล ขอได้ทุกอย่าง”“
บทที่ 18 'โฮบาร์ท'หลายวันต่อมาครืด~ ครืด~“ว่ายังไง”(คนโปรดฝากถามว่านายจะเข้ามากินข้าวกับเธอไหมครับ)“ไม่ ฉันไม่เข้าไปที่คอนโด”(ครับนาย) คนที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ พาเวลทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย ด้วยหลายวันมานี้อีริคไม่มาหาเธอเลย จากวันที่เขาบอกว่าจะไปทำธุระ แล้วก็หายเงียบไปเลยตั้งหลายวัน“แต่เย็นนี้จะเข้าไปที่สนามม้า”(ครับ)“พาเธอไปพบฉันที่นั่นแล้วกัน”(ได้ครับนาย)หลังจากวางสายกับพาเวล อีริคก็ปิดแฟ้มงาน และเตรียมตัวไปที่สนามม้าหลายนาทีต่อมาคนโปรดนั่งกอดเข่าดูทีวีอยู่ในห้องเฉกเช่นทุกวันก๊อก ก๊อกรอยยิ้มหวานบนใบหน้าปรากฏขึ้นทันทีที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอรีบไปยืนรออยู่หลังประตูทันที“สวัสดีค่ะพี่พาเวล”พาเวลชะงักเล็กน้อย เพราะเขาไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อเล่นอย่างสนิทสนมแบบนี้ แต่ทว่าคนโปรดก็อยู่มานานและตอนนี้เธอก็เป็นเด็กที่เจ้านายเขาเลี้ยงเอาไว้“นายบอกให้ฉันมาพาเธอไปที่สนามม้า"“เย้ ๆ ไปสนามม้าเหรอคะ”“อืม ไม่ต้องเอาของไป นายน่าจะไม่พักที่นั่น”หญิงสาวม้วนตัวกลับมาทำตาแป๋วใส่ชายหนุ่ม เธอพร้อมออกเดินทางมาก“คุณริคจะไปพักผ่อนเหรอคะ แล้วพี่ซินซินไปไหม"“อย่าถามมาก”คนโดนดุก้มหน้า“พี่พาเ
ตอนพิเศษ 3 จบตอนจากเด็กน้อยแบเบาะในวันนั้น ตอนนี้น้องกันต์มีอายุครบสาวขวบพอดี เด็กชายในชุดเอื้อมยีนเดินไปหาพ่อตัวเองด้วยรอยยิ้มสดใส ในมือถือของเล่นที่เตรียมมาเล่นกับพ่อด้วย“ป๊า น้องกันต์อยากได้ของเล่นอีกครับ” น้ำเสียงและแววตาสดใสจดจ้องใบหน้าของพ่อที่กำลังนั่งทำงานอยู่กับพาเวล อีริคละสายตาจากหน้าลูกน้องมามองลูกชาย เขาอุ้มน้องกันต์ขึ้นมานั่งบนตักแล้วหอมศีรษะไปหนึ่งฟอด“หนูซื้ิอของเล่นเยอะแล้วเล่นหมดไหมครับ”“...” เด็กชายสั่นหน้า“ของเล่นเยอะแยะเลยลูก อันไหนที่หนูไม่เล่นแล้วป๊าขอเอาไปให้น้องได้ไหม น้องไม่มีของเล่น”“น้อง น้องไหนครับ”“ก็น้องที่เขาไม่มีตังค์ซื้อของเล่นครับ น้องอยู่ไกล ๆ เลย”“ได้ครับ”“งั้นน้องกันต์ไปเก็บของเล่นที่น้องกันต์ไม่เล่นแล้วกับลุงพาเวลนะ เดี๋ยวป๊าทำงานเสร็จป๊าไปหา”“ครับ”อีริคพยักหน้าให้พาเวลพาลูกชายเข้าไปในบ้าน ส่วนเราเร่งทำงานให้เสร็จ“อ้าว” คนโปรดถือจานผลไม้สดที่เธอตั้งใจจะเอาออกไปให้สองพ่อลูกที่หน้าบ้านเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกกับพาเวลเดินกลับเข้ามาในบ้าน“นายให้มาเก็บของเล่นที่คุณหนูไม่เล่นเอาไปบริจาคให้เด็กบนดอยครับ” พาเวลตอบ“อ๋อ ดีมากเลยค่ะ ของเล่นน้องกันต์
ตอนพิเศษ 2สองเดือนต่อมาเสียงอ้อแอ้ของลูกน้อยช่วยปลุกอีริคให้ตื่นจากการนอนพักสายตาในช่วงกลางวัน เขารีบลุกขึ้นมาดูลูก“พี่ริค” คนโปรดมองใบหน้าคมคายที่แสดงออกถึงความง่วงงุนด้วยความเอ็นดู “นอนต่อเถอะค่ะ โปรดดููลูกได้”“ไม่เอา ฉันหายง่วงแล้ว”“น้องกันต์หนูอย่ากวนป๊าสิลูก ป๊าไม่ได้นอนตั้งหลายคืนแล้วนะครับ”“ป๊ายินดีครับลูก” อีริคเขยิบเข้ามาใกล้แล้วก้มลงไปหอมลูกชายที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเบาะ “ตัวหอมจังเลย”“โปรดกับคุณแม่เพิ่งอาบน้ำให้เมื่อกี้เองค่ะ”“ถึงว่าละ ตัวก็หอมหน้าก็ขาว”“หึหึ”“แล้วมีคนมาหาฉันไหม”“ไม่เลยค่ะ พี่ริคนัดใครไว้เหรอคะ”“เปล่าหรอก ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย เผื่อมีคนอยากเจอหน้า”“ค่ะ”“น้องกันต์หลานป้า~” เสียงแหลม ๆ ของซินซินดังมาแต่ไกล แต่น้องกันต์กลับไม่ตกใจแถมยังดีดดิ้นและยิ้มร่าเหมือนว่ากำลังรอเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น “อ้าว” ซินซินเลิกคิ้วทักทายน้องชายแล้วรีบนั่งลง “วันนี้ป้าซินมีชุดหล่อมาฝากด้วยนะคะ”“ชุดแดง”“ใช่ ใกล้ตรุษจีนแล้วผมอยากเป็นอาตี๋น้อยครับ”“หึหึ แล้วอีกชุดล่ะ”“อีกชุดเหรอ” เธอหยิบออกมาจากถุงกระดาษ ทุกคนขำขันเมื่อได้เห็นชุดเต็ม “ชุดหมูน้อยค่า”“ลูกกูไม่ใช่หม
ตอนพิเศษ 1ห้าวันต่อมาหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาอีริคก็ได้พาคนโปรดมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านตัวเองโดยมีฮาน่ากับซินซินช่วยดูแลคนโปรดกับน้องกันต์“หลานป้าหล่อจังเลย เห็นหน้ากันกี่ครั้งก็หลง” ซินซินนั่งเฝ้าหลานชายคนแรกอยู่ข้างเบาะนอนสำหรับเด็กทารกที่เธอซื้อมาให้หลานไม่ห่างไปไหนไกล ส่วนฮาน่ากำลังสอนคนโปรดปั้มนมอยู่อีกที่หนึ่ง“คุณท่านคะ เอ่อ...คุณผู้ชายท่านจะโกรธไหมคะ ที่โปรดกับลูกมาอยู่ที่นี่” สิ่งที่เธอเป็นกังวลมาโดยตลอดก็เรื่องพ่อของอีริค ตั้งแต่ท้องจนคลอดเธอก็ไม่เห็นท่านมาที่นี่สักครั้ง และเหมือนว่าอีริคกับพ่อก็ไม่ค่อยถูกกันด้วย“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เราเพิ่งคลอดลูกอย่าไปเครียดเลย เดี๋ยวน้ำนมจะไม่ไหลเอานะลูก” ฮาน่าปลอบใจคนโปรด อันที่จริงเธอก็เปรย ๆ เรื่องอีริคมีแฟนและแฟนลูกกำลังท้องให้สามีฟังบ้างแล้ว และเมื่อวันก่อนก็เพิ่งส่งรูปน้องกันต์ให้เขาดู แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาหรือการตอบกลับจากสามี แต่เธอก็ดูออกว่าสามีนั้นพึงพอใจอยู่บ้างที่หลานคนแรกเป็นผู้ชาย“โปรดกลัวพี่ริคทะเลาะกับคุณท่านอีก”“ไม่หรอก เชื่อแม่”“ค่ะ” คนโปรดมองไปหาน้องกันต์ที่เพิ่งกินนมหลับไป “น้องกันต์กินเก่งมากเลยค่ะ ตอนกลางคืนแ
บทที่ 70 บทส่งท้ายหลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็มารวมกันอยู่ข้างบ้านซึ่งมีระแนงไม้ที่พ่อเลี้ยงปูเอาไว้ และสั่งเก้าอี้มาไว้สำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า จิบกาแฟไปด้วย“เอาอีกไหม”อีริคส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อพ่อเลี้ยงยื่นขวดไวน์มาทางเขาหมายจะรินให้เขาอีก“กินเยอะก็ปวดหัว”"ปกติไม่ปฏิเสธนี่"“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ มึงก็อย่าไปคะยั้นคะยอให้มันกิน” ชรัณเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ เมื่อก่อนจำได้ว่าเคยดื่มด้วยกันจนเข้าเรียนไม่ทัน มัวแต่อ้วกกับเมาค้างจนอาจารย์ให้ทำงานเก็บคะแนนย้อนหลังกันทั้งสามคน“ถ้าเมียมึงง่วงแล้วก็พาไปนอนได้นะเว้ย”“ง่วงยัง” อีริคเอ่ยถามคนข้างกาย แต่พอมองตาเธอแล้วยังตาแป๋วอยู่เลย “ไม่ตอบก็พอจะรู้”“โปรดขอนั่งอยู่อีกนิดนะคะ ยังสนุกอยู่เลย ชอบฟังพี่ ๆ เล่าความหลังสมัยเรียน สนุกดีค่ะ”“เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังว่าไอ้ริคมันแสบมากแค่ไหน” ชรัณเลิกคิ้วท้าทายอีริค“ปรานีกูด้วยครับ”“หึหึ” พ่อเลี้ยงหัวเราะขบขัน “สมัยก่อนก็ต่างคนต่างห้าวแหละ ไม่มีใครยอมใคร”“ยังไงเหรอคะ”“อ้าว ไหนบอกจะไม่เผาเพื่อนไง” ชรัณเลิกคิ้วถามองศาที่จู่ ๆ ก็เปิดประเด็นขึ้นมาซะอย่างนั้น“นิดหนึ่ง”“อา เล่าเลยงั้น”“เมื่อก่อนเคยไ
บทที่ 69 ความสุข“ที่ของมึงกูให้คนไปดูแล้วนะ เห็นช่างกำลังขนของมาลงกันเยอะเลย อีกไม่นานคงได้ลงเสาเข็ม” พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นระหว่างขับรถเข้ามาในทางที่ตรงไปยังไร่ปาริฉัตร“ขอบใจ” อีริคกล่าวสั้น ๆ“ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยกัน แล้วนี่เธอจะมาอยู่นานไหม” คราวนี้เขามองหน้าคนโปรด “เพราะถ้ามาอยู่นานฉันจะให้แม่บ้านและคนของฉันพาเที่ยว หลังไร่มีน้ำตกด้วย เผื่อสนใจอยากเล่นน้ำคลายร้อน”“ดีจังเลยค่ะ”“ถ้าอยากไปก็บอก จะได้ให้คนพาไป เพราะทางมันค่อนข้างรกและไปยากนิดหน่อย”“เราไปกันนะ” คนโปรดหันมามองหน้าคนรัก อีริคพยักหน้าตอบเบา ๆ แล้วมองไปโดยรอบ“อยากได้ที่สวย ๆ แบบนี้อีก มีอีกไหม” อีริคเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคน ชรัณทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยตอบ“ก็พอมีนะ มึงอยากได้ติดเขาไหมล่ะ หรืออยากได้ติดลำธารดี”“อยากได้ทั้งสองที่เลย”“เอาว่ะ เออ ๆ เดี๋ยวจะหาดูให้ ชาวบ้านแถวนี้เอาที่ดินมาเสนอขายกูเยอะอยู่ ร้อนเงินกันทั้งนั้น ส่งลูกเรียนน่ะ”“อืม”“เสียสละมากเลยนะคะ ขายที่เพื่อเอาเงินส่งลูกเรียน”“อืม แต่ลูกเหี้ยก็ไม่ไหวนะ” ชรัณยกยิ้ม“ถ้าเป็นแบบนั้นคงน่าเสียใจแทนพ่อแม่ค่ะ โปรดเองก็อยากทำให้พวกท่านภูมิใจบ้างสักครั้ง
บทที่ 68 พักผ่อนวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาในเช้าที่สดใส บรรยากาศที่สนามม้าด้านนอกมีไอหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่ว แถมอากาศยังเย็นฉ่ำสบายจนอีริคไม่ยอมตื่น“ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มสากสองฟอดเพื่อเป็นการปลุกอีริคให้ตื่น ทว่าชายหนุ่มกลับเบือนหน้าหนีสัมผัสแล้วเอามือมาปิดหน้าไว้ “ขี้เซาจัง”“ให้ฉันนอนเต็มอิ่มบ้าง ไม่ได้นอนหลับสบายแบบนี้มานานมากแล้ว” อีริคพึมพำอยู่ใต้ผ้าห่ม เมื่อได้ฟังแบบนั้นคนโปรดจึงไม่เซ้าซี้เขา เธอก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเอาผ้าคลุมไหล่มาคลุม จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก“ตื่นแล้วเหรอ” พาเวลกำลังก่อกองไฟอยู่พอดี เขาส่งยิ้มทักทายคนโปรด “ดื่มนมอุ่นหน่อยไหม”“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้สนามพร้อมกับรับแก้วนมอุ่นมาดื่ม “นมอุ่นนี่อร่อยมากเลยค่ะ”“อืม...แล้วนายยังไม่ตื่นเหรอ”“ยังค่ะ เห็นว่าอยากนอนอีกสักพัก”“อืม สงสัยคงเหนื่อยมาก ทำงานหนักมาหลายวัน”“ครับ”“พี่พาเวลล่ะคะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” เมื่อมีโอกาสได้อยู่กับพาเวลสองต่อสอง เธอจึงถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเขาบ้าง“ก็ดี ช่วงนี้ทำงานหนักหน่อยแต่ก็มีความสุข”“เห็นพี่มีความสุขกับการทำงานโปรดก็ดีใจค่ะ”“แล้วจะไปเชีย
บทที่ 67 ดูแล“หมูสุกแล้ว ทำไมหนูไม่ตักกินล่ะคะคนสวย” ซินซินสังเกตุเห็นคนโปรดนั่งมองหม้อชาบูอยู่นาน แต่เธอไม่ได้คีบหมูใส่จานตัวเอง กลับคีบให้อีริคกินเสียส่วนใหญ่“โปรดไม่ค่อยหิวค่ะพี่ซิน กินฝรั่งไปเมื่อตอนนั่งเล่นกับพี่ซินโปรดยังอิ่มอยู่เลย"“อ๋อ"“คุณริคกินเยอะ ๆ นะคะ”“คุณริค พี่ว่าเรียกแบบนั้นมันดูห่างเหินไปนะ”“…” อีริคเงยหน้ามองซินซิน “แล้วแต่จะเรียก เอาที่ตัวเองชินปาก”“ป๊ะป๋า"“แค่ก ๆ” ซินซินสำลักน้ำซุปจนหน้าแดงกับสรรพนามที่คนโปรดใช้เรียกอีริค “ป๊ะป๋าเนี่ยนะ” เธอหัวเราะอย่างขำขัน“แต่เหมือนคุณอีริคไม่ชอบเลย งั้นโปรดเรียกพี่ได้ไหมคะ พี่ริค"“…” อีริคไม่ได้ตอบกลับ เพียงส่งยิ้มให้คนโปรดรู้อย่างเดียว“แบบนี้ก็น่ารักดี” ซินซินยกมือขึ้นไปลูบผมน้องสาวด้วยความเอ็นดู “กินเยอะ ๆ นะแกน่ะ ช่วงนี้แพกซ์บอกว่าแกทำงานหนักมาก”“อืม”“พี่แพกซ์หายไปไหนเหรอคะ ไม่เห็นหน้าตั้งนานแล้ว”“เขากำลังยุ่งอยู่กับการเปิดคลับใหม่อยู่น่ะโปรด อีกสักพักเลยล่ะ”“อ๋อค่ะ” เธอหันมามองหน้าอีริค “พี่ริค…เอ่อ อยากได้เครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมคะ” รู้สึกไม่ชินปากเลยที่ต้องเรียกอีริคด้วยสรรพนามใหม่แบบนี้“อยากได้ไวน์"“อย่าเ
บทที่ 66 ทะนุถนอมสี่เดือนต่อมาหลังจากทราบว่าตัวเองตั้งท้องลูกของอีริคอยู่นั้น ตอนนี้ก็ย่างเข้าสู่เดือนที่ห้าแล้ว จากท้องแบนราบตอนนี้ท้องเธอก็เริ่มโตเท่าลูกแตงโมแล้ว“จะไปไหนเหรอคะ โปรดเตรียมชุดให้ไหม” หญิงสาวเอ่ยถามคนรักด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล วันนี้อีริคตื่นตั้งแต่เช้าไปออกกำลังกาย และเธอเห็นเขาพูดกับพาเวลด้วยสีหน้าเครียดขรึมเหมือนมีเรื่องอะไรกวนใจอยู่ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรเพราะกลัวว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องสำคัญ“ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะออกไปทำธุระข้างนอก แล้วลูกน้องจะพาเธอไปที่สนามม้านะ” อีริคเดินเข้ามาโอบเอวคนโปรดแล้วหอมขมับเธอไปหนึ่งฟอด จากนั้นจึงเดินไปที่ห้องแต่งตัว เขาใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมาด้วยชุดไพรเวตสบาย ๆ โบกมือให้คนโปรดแล้วเดินออกไปจากห้องนอนทันทีร่างอวบอิ่มเดินตามหลังคนรักมาหยุดยืนอยู่ทางลงบันไดบ้าน ครั้นจะถามเอาความให้เข้าใจก็กลัวอีริคหงุดหงิดใส่ เธอจึงไม่ถามอะไรเขาแล้วหันหลังเดินกลับห้องนอน มาหยิบกระเป๋าสะพายข้างเดินลงไปรอลูกน้องที่จะพาไปสนามม้าพักนี้อีริคพาเธอไปพักที่สนามม้าบ่อยมาก เขาให้เหตุผลว่าอากาศที่สนามม้าดีกว่าที่บ้านในเมืองที่อยู่กับควันรถและฝุ่นพีเอ็ม“นายหญิงต้องการ
บทที่ 65 รักมากคนโปรดปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วเงยมองคนตัวโตกว่า“คุณริครู้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะว่าโปรดท้อง”“เธอก็รู้ว่าไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาฉันได้”“แล้วรู้เลยเหรอคะว่าโปรดท้อง”“เปล่า ฉันให้พาเวลไปถามหมอที่โรงพยาบาล ก็เธอเองนั่นแหละที่มีพิรุธก่อน ถ้าบอกกันตั้งแต่แรกก็จบ”“โปรดกลัวว่าตัวเองจะเป็นภาระคุณริค กลัวไปหมดเลยค่ะ”“เด็กน้อย เธอเป็นเมียฉันนะ อีกอย่างเธอกำลังอุ้มท้องลูกฉันอยู่” อีริคเลื่อนสายตาลงจ้องที่ท้องแบนราบ “อีกไม่กี่เดือนเขาก็ลืมตาดูโลกแล้ว” คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับหน้าท้องคนโปรดหลังจากที่รู้ว่าเธอท้อง“โปรดใจชื้นขึ้นมากแล้วค่ะ หลังจากที่เก็บความกดดันมาหลายวัน”“ก็เธอไม่ยอมบอกฉันเอง อีกอย่างเธอเป็นคนพูดเองว่าจะไม่โกหกฉัน แต่กลับโกหกซะเอง”“ก็ตามที่โปรดบอกไปค่ะ โปรดกลัวคำว่าลูกจะไปทำลายความสุขของคุณริค”“เด็กน้อย” อีริคยกมือขึ้นลูบพวงแก้มนวล “มีอะไรก็คุยกันก่อน ไม่ใช่เก็บเอาไว้คนเดียวแล้วเอาไปคิดมากแบบนี้”“ขอโทษนะคะ ขอโทษที่โปรดปิดบังคุณริค”“เอาเถอะ อาหารมาพอดีเลย” อีริคถอยกลับมานั่งที่ตัวเอง เขาคอยตักอาการใส่จานให้คนโปรดเรื่อย ๆ จนเธอต้องดันมือเขากลับ แล้วสั่นหน้า