บทที่ 9 สำออย
หลังจากกินข้าวเสร็จ อีริคก็ขอตัวกลับก่อนซึ่งซินซินก็ขอติดรถกลับมาด้วย
"ใจคอจะไม่อยู่คุยกับพ่อเธอหน่อยเหรอ"
"คุยอะไรอีก ในโต๊ะอาหารนายก็ดูออกว่าพ่อเหน็บแนมฉันเรื่องงานแค่ไหน อยู่ต่อก็คงถูกตำหนิอีกเหมือนเคย" หญิงสาวทำหน้าเบื่อหน่ายขั้นสุด "ขอบใจนะ ถ้านายไม่มาด้วย ป่านนี้คงถูกพ่อดุไปหลายยก"
"ถ้าเป็นฉันนะ..." อีริคไม่พูดอะไรต่อ เขาเพียงเลียริมฝีปากตัวเองแล้วเปิดประตูก้าวขึ้นรถ ส่วนซินซินหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องที่เดินตามมา บอกพวกเขาว่าไม่ต้องตามเธอกับอีริค
"แล้วนี่จะไปไหนต่อ"
"บ้าน คอนโดฯ คลับ นั่งกินไวน์ชิลๆ"
"สรุป?"
"ไม่บอก"
"เออ"
ซินซินหันไปมองนอกกระจก ก่อนจะพึมพำเสียงอ่อน
"ถ้าฉันเกิดมาเป็นผู้ชายคงดีนะ"
"ทำไมคิดแบบนั้น เกิดเป็นผู้หญิงไม่ดีตรงไหน"
"..." เธอไม่ตอบแถมยังทำหน้ามุ่ยใส่เขาอีก หากให้อธิบายว่าทำไม คงต้องจอดรถคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว และไม่รู้ว่าจะจบที่ตรงไหน เกิดมาในตระกูลคนจีนแท้ ต้นตระกูลก็อยากให้ลูกผู้ชายสืบทอดนามสกุล แต่เธอดันเกิดมาเป็นผู้หญิงนี่สิ
ครืด~ ครืด~
โทรศัพท์อีริคสั่นสะเทือนอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขาล้วงหยิบออกมากดรับสาย ทว่าโทรศัพท์กลับเชื่อมต่อกับรถทำให้ซินซินที่นั่งอยู่ด้วยกันได้ยินเสียงพาเวล น้ำเสียงเขาเหมือนกำลังตกใจด้วย
(คนโปรดน่าจะต้องปะ...)
อีริคตัดสายลูกน้องแล้วหันมามองหน้าคนข้างกาย
"คนโปรด? ใครเหรอ"
"เด็ก"
"เลี้ยงเด็ก? แล้วเด็กที่ว่าตัวโตแค่ไหนแล้ว" ซินซินพยักพเยิดหน้าถามน้องชาย แต่อีริคไม่ตอบ พอมาถึงบ้านเขาก็โบกมือให้เธอแล้วขับออกมาจากหน้าบ้านซินซิน มุ่งหน้าไปที่คอนโดมิเนียมทันที
"เอ่อนายครับ" พาเวลเลิ่กลั่กที่เห็นเจ้านายลงจากรถ เดินมาหาเขา "เธออาการไม่ค่อยดีครับ"
"นายกำลังทำฉันหงุดหงิดนะพาเวล" อีริคปรายตามองลูกน้อง เขายังหงุดหงิดใจไม่หายที่พาเวลโทรไปรบกวน
อีริคขึ้นไปที่ห้องพัก เพื่อให้เห็นกับตาว่าคนโปรดไม่สบายหนักอย่างที่พาเวลรายงาน พอเข้ามาในห้องก็เจอกับแม่บ้านที่คอยเช็ดตัวให้คนโปรดอยู่
"สำออย" ฝ่ามือหนาคว้าจับแขนเรียวเล็ก ก่อนจะออกแรงกระชากร่างเล็กลุกขึ้นมา แรงกระชากมหาศาลพาร่างเล็กลอยมากระแทกอกแกร่ง ใบหน้าสวยเหยเกเล็กน้อย จากพิษไข้ทำให้เธอไม่รับรู้ความเจ็บปวด อนึ่งร่างกายกำลังด้านช้ากับความเจ็บปวดนี้ "ฉันรู้ว่าเธอต้องการอะไร อย่ามาสำออย" อีริคยังไม่ปักใจเชื่อ ว่าคนโปรดจะป่วยหนัก
"นายครับ" พาเวลมองไปที่ใบหน้าซีดเซียว แรงกระแทกเมื่อครู่ทำให้เลือดกำเดาเธอไหลออกมาเปรอะเปื้อนเสื้ออีริค
"ฉันจะจัดการกับเธอยังไงดี!" เขากำหมัดแน่น ก่อนจะพยักหน้าให้พาเวล
สามชั่วโมงต่อมา
คนโปรดปรือตาหนักอึ้งขึ้นมองเพดานห้อง ห้องพักกว้างขวางแถมยังมีเฟอร์นิเจอร์ครบทุกอย่าง แต่มันที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เธอคุ้นเคย
"อื้อ~" หญิงสาวเปล่งเสียงครางแหบพร่า เธอรู้สึกปวดหนึบที่จมูกมาก จนต้องยกมือขึ้นมากุมไว้
"ฟื้นแล้วเหรอ" พาเวลเอ่ยถาม พร้อมกับวางถาดอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียง
"ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ ทะ ทำไมไม่คุ้นตาเลย"
"อย่าถามมาก มากินข้าวแล้วก็กินยา"
"อ๊ะ!" เธอก้าวลงจากเตียง แต่ก็ถูกรั้งไว้ด้วยสายน้ำเกลือ "ที่นี่ที่ไหน ทำไม..." เพราะวิวด้านนอกไม่ใช่วิวตึกสูงเหมือนที่เคยเห็น เธอจึงเดินออกไปที่ระเบียงและกวาดสายตามองด้วยความตื่นเต้นปนอยากรู้ว่ามันคือที่ไหนกันแน่
สนามหญ้ากว้างขวาง มีบ้านติดกันอยู่หลายหลังและมีคนใส่สูทสีดำยืนอยู่รอบบ้าน
"อาการเป็นยังไงบ้างครับ" น้ำเสียงนุ่มนวลของผู้มาใหม่เรียกความสนใจจากคนโปรดให้ละสายตาจากภาพเบื้องหน้ากลับไปมองยังต้นทางของเสียง
นายแพทย์หนุ่มในชุดทำงานสุดแสนเรียบร้อยเดินเข้ามาตรวจคนโปรดตามหน้าที่
"ไข้ลดแล้ว ยังมีอาการหอบเหนื่อยอยู่ไหมครับ"
"ค่ะ รู้สึกเหนื่อยอยู่" คนโปรดยังไม่ละสายตาจากใบหน้าอ่อนหวานของคนตรงหน้า ราวกับกำลังต้องมนต์สะกด "คุณเป็นหมอเหรอคะ"
"ครับ หมอประจำตัวคุณ" นายแพทย์หนุ่มกำลังจะเอ่ย แต่พาเวลกลับทำเสียงกระแอมกระไอก่อน "เอาเป็นว่าเราจะได้เห็นหน้ากันตลอดสามวัน"
"ค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ" คนโปรดไหว้ขอบคุณหมอ ก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งลงที่เก้าในโต๊ะเข้ามุม แล้วเลื่อนถาดอาหารมาตรงหน้า เป็นข้าวต้มกุ้งตัวโตและมีถ้วยขิงซอยอยู่ข้าง ๆ ด้วย
'อย่างน้อยเขาก็ยังปรานีฉัน ไม่ให้ตายอย่างอนาถอยู่ในห้องแคบ ๆ นั่น'
ทว่าตอนที่เธอตักข้าวต้มใส่ปาก เสียงสัตว์ชนิดหนึ่งส่งเสียงร้องดังเข้ามาในห้อง คนโปรดหันไปมองด้วยความสนใจแต่กลับถูกพาเวลเดินไปปิดผ้าม่านไว้
"เสียงเมื่อกี้เหมือนเสียงม้าเลยค่ะ ม้าใช่ไหม"
"เธอควรกินให้มาก แล้วพูดให้น้อยลงนะ" พาเวลทำเสียงดุเธอ แล้วเดินออกมาจากห้องพักในสนามม้า ที่อีริคเป็นคนสั่งให้พาคนโปรดมารักษาที่นี่ โดยเรียกหมอประจำตัวเขามารักษาเธอ แทนการพาไปโรงพยาบาล
"เธอฟื้นแล้วครับนาย หมอว่าไข้ลดแล้วแต่ก็ต้องดูอาการต่อไป"
"..." อีริคสะบัดมือเล็กน้อย เป็นการบอกให้พาเวลออกไปจากห้องทำงาน ที่เขายึดเอาห้องรับรองแขกในสนามม้า เป็นที่พักและที่ทำงานชั่วคราว
"หากคุณซินซินมา นายจะให้ผมตอบเธอว่ายังไงครับ"
"ปิดสนามม้า ปรับปรุงชั่วคราว"
"ครับนาย"
วันต่อมา 10:00
"อ้าว! ปิดปรับปรุงได้ยังไง ทำไมริคไม่เห็นบอกอะไรฉัน" ซินซินที่เตรียมของมาให้ม้าตัวโปรดทั้งสองตัวเท้าเอวทำหน้าบึ้งตึงใส่ลูกน้องของอีริค
"นายไม่ได้แจ้งครับ แต่มีการซ่อมบำรุงจริง ๆ จึงต้องปิดไม่ให้ใช้งานชั่วคราว"
"กี่ชั่วโมง?"
"สามวันครับ"
"สามวัน! ตายโหง! แล้วม้าฉันจะอยู่ยังไงเนี่ย"
"คุณพาเวลเลี้ยงให้อยู่ครับ"
"เออ ๆ ไม่กวนแล้ว" เธอเดินกลับไปที่รถ จากนั้นก็ขนของที่เตรียมมาให้ม้าลงมาจากรถ "เอาของพวกนี้ไปให้คาร์มิลกับโซลาร์ด้วย"
"ได้ครับ"
"อ่อ แล้ววันนี้ริคจะเข้ามาที่นี่ไหม"
"ไม่ครับ นายติดงาน"
"อ๋อ แล้วไป" ซินซินกลับไปที่รถแล้วขับออกไปทันที แท้จริงแล้วอีริคพักอยู่ในสนามม้าตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว
"คุณซินซินมาถามหานายด้วยนะครับ" พาเวลรับสารจากลูกน้องมา ก็รีบมารายงานเจ้านาย
"อืม"
"แต่ผมแจ้งลูกน้องแล้วว่าสนามม้าปิดปรับปรุงชั่วคราว เธอก็เลยกลับไป ฝากเพียงของใช้ของโซลาร์กับคาร์มิลไว้"
"ดีแล้ว แล้วยายนั่นเป็นยังไง"
"อาการดีขึ้นแล้วครับ"
"อืม"
"นายจะไปหาเธอไหม"
"อยากให้มันตายคามือฉันงั้นเหรอ"
พาเวลก้มหน้าทันที
"ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวนะครับ เดี๋ยวจะไปสั่งให้ลูกน้องพาม้าคุณซินซินไปเดินเล่น"
"อืม" อีริคเสยผมลวก ๆ พลางพ้นลมหายใจออกอย่างหนัก "มารยาหญิงของเธอ ใช้ไม่ได้ผลกับฉันหรอก"
บทที่ 10 แขกVVIPช่วงเที่ยงวันอีริคปิดแฟ้มเอกสารแสนน่าเบื่อ ที่รั้งให้เขาต้องนั่งอยู่ในโต๊ะมานานสองนานด้วยความเมื่อยล้า"อาหารเที่ยงพร้อมแล้วครับนาย จะกินตอนนี้เลยไหมครับ""อืม เสร็จแล้วก็ไปเอามอร์แกนออกมาด้วย""มอร์แกนพร้อมแล้วครับ แต่เดี๋ยวบ่ายนี้ต้องเข้าสปาขนกับตัดแต่งเล็บเท้า""อืม" อีริคหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบเพื่อผ่อนคลายระหว่างเดินไปที่โต๊ะอาหารที่อยู่อีกห้องหนึ่ง และมันต้องเดินผ่านห้องที่คนโปรดพักอยู่ด้วย เขาหยุดเดินแล้วพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก จากนั้นจึงเปิดประตูเข้าไปด้านใน"คุณอีริค" คนโปรดรีบดึงเสื้อเชิ้ตที่ติดกระดุมไม่เรียบร้อยขึ้นมาปกปิดหน้าอก "ที่นี่เป็นของคุณอีริคเหรอคะ""พอฟื้นขึ้นมาได้ ความอยากรู้อยากเห็นก็ทำงานเลยนะ" ชายหนุ่มเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียง พร้อมกับพ่นควันสีขาวออกจากปาก ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้องคนโปรดปิดปากปิดจมูกไอแค่ก ๆ ทั้งกลิ่นฉุนละควันของบุหรี่ที่อีริคจงใจพ่นออกมาทำให้เธอสำลักจนหน้าแดง"ออกไป" เขาสั่งพาเวลให้ออกไปจากห้อง ทันทีที่ประตูปิดสนิท อีริคก็หันไปมองหญิงสาว เขาลุกขึ้นเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียงขนาดหกฟุต"อ๊ะ! คะ คุณอีริค" ข้อมือข้างที่เสียบน้ำเกลือถูกเข
บทที่ 11 แค่ของเล่น“นี่! ใจคอนายจะไม่กลับไปทำงานจริงเหรอวะริค” ซินซินขมวดคิ้วมองท่าทางนิ่งเงียบของน้องชายด้วยความไม่เข้าใจ อีริคทำตัวชิลมาก ทั้งที่งานที่บริษัทท่วมหัว แถมพวกที่ชอบพูดจาถากถางเขาก็คอยซ้ำเติมอยู่ไม่น้อยอีริคหันมามองหน้าซินซินแล้วพรูลมหายใจออกด้วยอาการเหนื่อยหน่ายใจ มีเธออยู่ข้างกายเหมือนเขากำลังเลี้ยงนกแก้วมาคอว์อย่างไรอย่างนั้น มันคอยตามติดพูดเจื้อยแจ้วถาม ไต่ถามรายละเอียดน่ารำคาญใจมากเขาควบม้าวิ่งออกห่างจากซินซิน แล้วพามอร์แกนเข้าไปในลานซ้อมวิ่งในอาคาร ส่วนซินซินก็บังคับม้าตามหลังมา ทว่าตอนนั้นสายตาเธอกลับเหลือบเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างผอมเพรียวยืนอยู่ที่ระเบียงห้องพักแขกซึ่งอีริคไม่ได้เปิดให้ใครเข้ามาพักที่นี่นานแล้ว“นั่นใคร” ซินซินก้มมองหน้าลูกน้องอีริคที่กำลังจูงสายบังคับม้าเธออยู่ เขามีท่าทีอ้ำอึ้งเล็กน้อย เหมือนไม่อยากตอบคำถามเธอ แต่นั่นยิ่งทำให้ซินซินสงสัย “แขกวีวีไอพีของริคเหรอ”“ครับ” คราวนี้ลูกน้องหนุ่มพยักหน้าตอบอย่างรวดเร็ว ซินซินแสยะยิ้มมุมปาก เธอแสร้งทำเป็นไม่เห็น จากนั้นก็พาโซลาร์ไปเดินเล่นกระทั่งถึงสี่โมงเย็นของวัน“ฉันขอค้างที่นี่นะ ไม่อยากกลับไปหาเตี
บทที่ 12 ตำแหน่งของเล่นชิ้นโปรดคนโปรดนั่งเงียบด้วยความที่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แม้ว่าซินซินจะเอ่ยถามเธออยู่บ่อยครั้ง แต่คนที่ตอบแทนกลับเป็นอีริค“อ๊ะ!” รู้สึกว่าแขนที่ถือถุงน้ำเกลืออยู่มันเริ่มปวดหนึบ เธอเผลอร้องออกไปเบา ๆ แล้วรีบก้มหน้า ตอนนี้เธออยากกลับเข้าไปพักผ่อนในห้องแล้ว และถ้าอยู่ต่อก็คงหนีไม่พ้นถูกด้อยค่าด้วยคำพูดเหน็บแนบของอีริค ไม่มีสิทธิ์โกรธ เพราะชีวิตอยู่ในกำมือเขาแล้ว หากอีริคยังมีความปรานีอยู่บ้างเธอคงรอดพ้นจากคมกระสุน“พาเวลนายยืนนิ่งอยู่ทำไมเนี่ย”พาเวลรีบสั่งให้ลูกน้องเข้าไปเอาที่แขวนถุงน้ำเกลือออกมาให้คนโปรด“โปรดกลับไปพักก็ได้นะคะ คุณ ๆ จะได้พักผ่อนโดยไม่ต้องมีโปรดให้รำคาญตา”“อ๋อ ที่แท้ก็คนโปรดนี่เอง”“คะ?”“เปล่าหรอก ว่าแต่เธอ...ป่วยเป็นอะไร”“ไข้หวัดธรรมดาค่ะ”“ใครใช้ให้เธอพูด ฉันสั่งตั้งแต่เมื่อไหร่”“...”!“จะดุเธอทำไม”“อย่า ยุ่ง” อีริคกดเสียงต่ำปรามซินซินอย่างจริงจัง และเธอก็รับรู้ด้วยว่าน้องชายกำลังเอาจริงอยู่ จึงไม่เซ้าซี้ “พาเธอเข้าไป” อีริคหันไปสั่งพาเวลให้พาตัวคนโปรดเข้าไปในห้องรับรองแขกคนตัวเล็กเดินนวยนาดมานั่งลงบนโซฟา ถอนหายใจออกอย่างนึกเสียดาย “เกือบ
บทที่ 13 ออดอ้อนนานหลายนาทีที่ภายในห้องอบอวลไปด้วยความกดดันจากอีริค ยิ่งเขาเงียบยิ่งดีแต่สำหรับคนโปรดนั้นไม่ใช่แบบนั้นเลย ยิ่งเขาเอาแต่เงียบและจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เธอก็ยิ่งหวาดหวั่นจนขนอ่อนตามร่างกายลุกเกลียว“เธอนอนบนโซฟาไป”“คะ คุณอีริคไปไหนเหรอคะ นอนด้วยกันก็ได้นะคะ” พอหันมองพื้นที่ว่างบนโซฟาเธอก็นึกขึ้นได้ว่าคงไม่เพียงพอสำหรับคนสองคนนอนด้วยกัน“...” อีริคไม่ได้พูดอะไร เขาลุกออกมาจากเก้าอี้ ย่างสามขุมเข้ามาหาคนโปรด จากนั้นก็จับเสาแขวนถุงน้ำเกลือเธอแน่น ทำเอาคนโปรดตัวแข็งทื่อราวกับลูกแกะตัวน้อยถูกผูกไว้กับหลัก ยิ่งเขาโน้มตัวลงมาหา หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นระรัวจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมาเต้นนอกเบ้าพรึบ!ฝ่ามือหนาผลักไหล่มนไม่แรงนัก เธอไม่ทันตั้งตัวล้มลงบนโซฟา“อย่าลุก ถ้าเธอลุกขึ้นมาแสดงว่าเธอกำลังดื้อและต่อต้านฉัน”“ค่ะ” คนโปรดไม่กล้าสบตากับอีริคจึงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น ส่วนเขาเดินออกไปข้างนอกและไม่กลับเข้ามาอีก กระทั่งถึงเช้าของวันใหม่นายแพทย์หนุ่มเจ้าของคนไข้เดินเข้ามาในห้องรับรองแขกด้วยรอยยิ้มหวานเช่นเคย เขาทำการตรวจคนโปรดอย่างละเอียดดีแล้วก็จัดยาให้เธอกินตามอาการ และวันนี้ก็ถอ
บทที่ 14 พื้นที่ส่วนตัวคนโปรดนั่งมองวิวนอกประตูที่เปิดออกกว้าง สามารถมองเห็นทั้งอีริคและซินซินได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องแอบส่องที่ช่องประตูอย่างที่เคยทำก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง ก่อนที่แม่บ้านสาวร่างท้วมถือซองสีเงินเข้ามาวางไว้ข้างตัวคนโปรด“อะไรเหรอคะ” เธอมองมันด้วยความอยากรู้“เปิดดูเอง”พอได้คำตอบมาแบบนั้น เธอก็ไม่รีรอที่จะเปิดซองสีเงินออกดู ทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสของด้านใน หัวใจดวงน้อยก็ฟูฟ่อง รับรู้ได้ว่าของด้านในคือถ้วยไอศกรีม“ไอติมช็อกโกแลต” ด้วยความดีใจ เธอเผลอกรี๊ดออกมาอย่างลืมตัวจนซินซินที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมของหันไปมองทางห้องรับรองแขก“คนโปรดกรี๊ดอะไร เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” ด้วยเห็นว่าน้องชายยังยืนนิ่ง คล้ายว่าไม่ได้ยินเสียงกรี๊ดเมื่อครู่ เธอจึงก้าวเข้าไปใกล้อีริค เอาไหล่กระแซะต้นเขาเขา “ไม่ไปดูเหรอ เธอร้องเสียงดังนะ”“ยุ่ง ห่วงงานตัวเองเถอะ”“อืม”ด้านคนที่ได้กินไอศกรีมสมใจ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตักไอศกรีมเข้าปากคำแล้วคำเล่าด้วยความพอใจ ศีรษะทุยเล็กโยกไปมาเบา ๆ ตามอารมณ์ที่ได้กินของที่อยากกิน“ทีแรกนึกว่าจะไม่ได้กินแล้ว” ไม่ได้คาดหวังด้วยซ้ำว่าอีริคจะซื้อไอ
บทที่ 15 ที่รองรับอารมณ์ NCแพกซ์เดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างซินซิน แต่สายตาเขากลับมองไปที่ห้องรับรองแขก ซึ่งตอนนี้อีริคยังไม่ออกมาจากห้องนั้น “ซิน”“ว่า”“ใครอยู่ในนั้น ทำไมน้องชายเธอหวงห้องนั้นนัก”ซินซินมองตามสายตาแพกซ์ไปที่ห้องรับรองแขก เธอเผยรอยยิ้มร้ายกาจให้เพื่อน“ของหวง”“ของหวง?”“ทุกคนย่อมมีของที่หวงแหน”“หึ”“มันไล่พวกนาออกมาหรือไง”“ก็เปล่า บอกแค่ว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว”“หึ” ซินซินแค่นหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจกับสิ่งที่แพกซ์เล่า เธอไม่ได้เป็นแม่หมอที่ดูดวงคนแม่น แต่ก็มองภาพอนาคตของอีริคออกโดยไม่ต้องเดาจากสิ่งของหรือวันเดือนปีเกิด “พื้นที่ส่วนตัวก็คือพื้นที่ส่วนตัว เพราะฉะนั้นคนอื่นห้ามย่างกายเข้าไปในนั้น”“อา...เข้าใจแล้ว” แพกซ์พยักหน้ารับรู้ พวกเขานั่งดื่มไวน์กันต่อ ขณะที่คนที่อยู่ในห้องกำลังระเริงรักอย่างเร่าร้อน“อื้อ~ คะ คุณอีริคคะ~ โปรดเสียว” คนโปรดแอ่นหน้าอกรับสัมผัสจากเรียวลิ้นสากของคนตัวโต ไม่รู้เขาคิดอะไรอยู่ จู่ ๆ ก็เปิดประตูเข้ามาและจับร่างเธอขึ้นไปนั่งคร่อมหน้าตัก จากนั้นก็เริ่มเล้าโลมด้วยการโลมเลียยอดถันจนมันกดแข็งเป็นไต “อื้อ~” ความเสียวซ่านเล่นงานเธออย่างหนัก ร
บทที่ 16 ข่าวลือหลังจากอีริคเดินออกไปอย่างหัวเสีย วงสนทนาก็จบลง แพกซ์กับเพื่อนเตรียมตัวจะกลับบ้านและอีริคก็สั่งให้พาเวลมาบอกให้แพกซ์พาซินซินกลับไปด้วย“ไม่กลับ!” กอดอกยืนกรานว่ายังไงก็ไม่กลับไปกับเพื่อนคนนี้ “กลับไปบอกริคเลย ว่าฉันไม่กลับไปกับแพกซ์ และพรุ่งนี้จะกลับเอง”“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปบอกคุณริคให้”“จุ้นจ้าน มาที่นี่ก็มากวนริคมันใช่ไหม เธอน่ะ”“เสือก!”“ปากดี” แพกซ์ทำท่าจะเดินเข้าไปหาซินซิน แต่เธอไหวตัวก่อน เลยวิ่งเข้าไปที่ห้องพักตัวเอง “วุ่นวายจริง” ชายหนุ่มหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไปจากสนามม้าอีริคนั่งเคาะนิ้วอยู่ในโต๊ะทำงานในห้องรับรองแขก สายตาพุ่งตรงไปที่ร่างเล็กที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟานุ่ม ๆครืด~ ครืด~โทรศัพท์อีริคสั่นอยู่บนโต๊ะ พอเห็นชื่อที่โชว์หราอยู่บนจอ เขาก็คว้าโทรศัพท์แล้วเดินออกมาจากห้องรับรองแขก“ถามหายาคุม เพราะเผลอปล่อยในหรือไง” เป็นซินซินที่โทรหาอีริค“เปล่า ถุงแตก”“ฮะ!” คนเป็นพี่หน้าเหวอกับคำตอบตรง ๆ ของอีริค “ถุงยางแตกเนี่ยนะ”“อืม แล้วไอ้ยาพวกนั้นต้องไปซื้อที่ไหนวะ”“นายไม่เคยซื้อติดตัวไว้เลยเหรอ ไม่นอนกับผู้หญิงอื่นทำยังไง”“ก็ใส่ถุง แต
บทที่ 17 เด็กดีหลายชั่วโมงต่อมา“ป่านนี้คุณอีริคจะทำงานถึงไหนแล้วนะ” เธอไม่รู้เลยว่าเขาทำงานเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหมหรือว่ามีเรื่องให้หงุดหงิดใจอยู่หรือเปล่า “อยากกลับไปที่สนามม้าอีกจัง”ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาโดยไม่ให้สุ่มเสียง ทว่าคนที่เดินอาด ๆ เข้ามานั้นคืออีริค แต่ใบหน้าคมเข้มดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่“คุณอีริค” คนโปรดแย้มยิ้มแล้วลุกไปหาชายหนุ่ม “ทำไมคิ้วขมวดแบบนี้คะ”“...” เสียงหายใจฮึดฮัดของอีริคทำหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ ด้วยกลัวว่าจะโดนดุเธอจึงก้มหน้าหลบสายตาชายหนุ่มทันที แต่กลับถูกเชยปลายคางให้เงยหน้าขึ้น“กินอะไร”“คะ?”“อยากกินอะไร”“อะไรก็ได้ค่ะ โปรดกินได้หมด...ถ้าคุณอีริคอยู่ด้วย”“พาเวล”“ครับนาย”“สั่งอาหารมาที่นี่ ขอไวน์ด้วย”“ครับ”“ทำไมวันนี้ดูเครียดจังเลยคะ งานยุ่งเหรอ” คำถามของเธอไม่ได้รับการตอบกลับจากอีริค ทว่าเขากลับผละตัวออกแล้วก้าวขึ้นไปนอนบนฟูกนุ่ม ๆ การกระทำที่เดาทางได้ยากแบบนี้ทำเอาคนโปรดไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้เขามากกว่านี้“เธอเลือกที่จะขอให้ฉันปล่อยเธอไปก็ได้ ทำไมไม่ขอล่ะ”“ขอ...โปรดขอแบบนั้นได้ด้วยเหรอคะ”“...” อีริคมองมา “ก็ของรางวัล ขอได้ทุกอย่าง”“