บทที่ 4 ต้องไม่เหมือน
คนโปรดผล็อยหลับไปเพราะความเพลีย กระทั่งตีสองของวันใหม่ เธอรู้สึกตัวตื่นเพราะเสียงลมพัดกระทบกระจกหน้าต่าง หญิงสาวปรือตาขึ้นแล้วมองไปยังต้นทางของเสียง ปรากฏว่าข้างนอกฝนตกและลมกรรโชกแรง ต้นไม้ที่ตั้งอยู่ระเบียงด้านนอกล้มระเนระนาด
เสียงฟ้าผ่าดังโครมครามไปทั่วแผ่นฟ้า พานทำให้หัวใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว ภาพความทรงจำในวันวานแสนเลวร้ายผุดขึ้น เธอจึงลงไปนั่งอยู่ข้างเตียงพร้อมกับเอาผ้านวมมาห่อตัวไว้ ราวกับมันคือป้อมปราการแรกที่ป้องกันเธอจากอันตราย
คฤหาสน์หรูอีริค
ร่างสูงในชุดสบาย ๆ เดินลงมาจากชั้นสอง ในมือถือแก้วน้ำอุ่นเดินตรงไปที่ห้องเก็บไวน์ เสียงฟ้าร้องโครมครามทำให้เท้าทั้งสองข้างหยุดชะงักอยู่กลางห้องโถงที่เป็นทางผ่านไปที่ห้องเก็บไวน์
"นายต้องการอะไรหรือเปล่าครับ"
"วันนี้นายเข้าเวรเหรอ" อีริคละสายตาจากสายฝนโปรยปรายมามองหน้าลูกน้อง จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องเก็บไวน์โดยไม่รอคำตอบ เพราะรู้ว่าพาเวลต้องเดินตามเข้ามาอยู่ดี
"วันนี้ผมเข้าเวรครับ"
"ดื่มหน่อยไหม"
"ไม่ดีกว่าครับ"
"อืม"
"ตอนนี้ลูกน้องเรากำลังเร่งตามหาตัวเสี่ยธวัตรอยู่ครับ มันหลบหนีออกจากกรุงเทพ น่าจะไปกบดานที่ต่างจังหวัด"
"หาให้เจอ"
เงินไม่กี่สิบบ้านเขาไม่นึกเสียดายอะไรหากคนที่โกงไม่ใช่เสี่ยธวัตร คนบิดพลิ้วอย่างมันต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง
"แล้วนายจะทำยังไงกับผู้หญิงคนนั้นครับ"
"ใคร"
คำถามของเจ้านายทำพาเวลงงเล็กน้อย
"ก็...คนโปรดน่ะครับ"
"ทำไม นายสนใจอยากรับช่วงต่อฉันเหรอ"
พาเวลก้มหน้าหลบสายตาเจ้านาย
"ผมไม่อาจเอื้อมครับ"
"หึหึ ไม่ได้เรื่อง" มุมปากหนายกยิ้มเย้ยหยัน เธอไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกสักหน่อย เซ็กซ์ก็ไม่ได้เรื่อง มีดีแค่ร่างกายเท่านั้น
"แล้วนายจะเลี้ยงเธอไว้แบบนี้ ไม่กลัวไอ้ธวัตรมันได้ใจเหรอครับ"
"มันคงคิดว่าฉันหลงกลกับลูกไม้ตื้น ๆ หึ...ก็แค่ที่ระบายความใคร่ จะเขี่ยทิ้งเมื่อไหร่ก็ย่อมได้"
"ครับนาย" พาเวลไม่ได้เอ่ยอะไรต่อจากนั้น เขาโค้งคำนับแล้วเดินออกมาจากห้องเก็บไวน์ ขณะที่บรรยากาศด้านนอกฝนยังไม่หยุดตกง่าย เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่ายังคงดังโครมครามทั่วแผ่นฟ้าอยู่
ช่วงเวลานี้หลายคนคงหลับใหล มีเสียงฝนเป็นตัวขับกล่อม แต่สำหรับคนโปรดแล้ว เสียงฝนและเสียงฟ้าร้องเป็นเหมือนเครื่องทรมาน เธอยังคงนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่ข้างเตียง สองมือยกขึ้นมาปิดหูตัวเองแน่น ไม่ให้ได้ยินเสียงฟ้าร้อง
เปรี้ยง!
"กรี๊ด!!" หญิงสาวกรีดร้องเสียงหลงอยู่ในห้องคนเดียว เสียงของเธอเล็ดลอดออกมาด้านนอก ลูกน้องที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเงี้ยหูฟัง
"เป็นอะไรหรือเปล่าวะ" สองหนุ่งหันมาคุยกัน
"ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ลูกพี่สั่งว่าห้ามเปิดประตูจนกว่าลูกพี่จะมา"
"เออ"
พวกเขาเลิกสนใจคนข้างในห้อง แล้วเฝ้าเวรยามต่อ
หลายชั่วโมงต่อมา
ท้องฟ้ามือครึ้มก่อนหน้า เมฆสีดำเริ่มคลายตัวออก แสงจากดวงอาทิตย์เริ่มเข้ามาให้ความสว่างในเช้าที่แสนสดใสหลังจากฝนหยุดตก
"อื้อ~" คนโปรดปรือตามองไปรอบห้อง ก่อนที่จะหยุดสายตาไว้ที่ประตูกระจกตรงระเบียง เธอคลายผ้าห่มออกจากร่างกายแล้วลุกขึ้น เดินออกไปที่ระเบียงเพื่อนำกระถางต้นไม้ที่ล้มจากลมพายุพัดเมื่อคืนขึ้นไปตั้งที่เดิมของมัน "แสงแรกของวัน" เธอไม่ได้รับแสงแดดมานานเท่าไหร่แล้วนะ อยู่กับเสี่ยธวัตรก็ถูกจองจำอยู่ใต้ชายคาที่มืดมิดตลอด ไม่รู้วันเวลาเลยด้วยซ้ำ
แกรก...
ประตูถูกเปิดเข้ามาโดยพาเวล ชายหนุ่มนำชุดใหม่มาให้คนโปรด และอาหารเช้านี้
"กินซะ"
"ขอบคุณนะคะ คุณพาเวล"
"..." ลูกน้องหนุ่มหยุดชะงัดฝีเท้า แล้วมองหน้าคนที่เรียกชื่อเขาเมื่อครู่นี้ "เธอกับฉันไม่ได้สนิทกันถึงขั้นเรียกชื่อเล่นขนาดนี้ อย่าเรียกฉันด้วยชื่อนั้นอีก"
"ค่ะ" ก็เขาชื่อพาเวล เธอได้ยินอีริคเรียกเข้าเมื่อวานนี้เต็มสองหู แต่ก็เข้าใจได้ว่าคงไม่ชอบให้คนไม่สนิทเรียกชื่อเล่นแบบสนิทสนมแบบนี้ "ข้าวไข่เจียวอีกแล้วเหรอ" เธอพึมพำกับตัวเอง แต่ดันเข้าหูพาเวลที่ยังไม่ทันได้ออกไปจากห้อง
"เลือกเอาแล้วกัน ระหว่างหิวตายกับกิน ๆ ไปซะก็จบเรื่อง"
"..."!
คนโปรดก้มหน้างุด จากนั้นจึงตักข้าวไข่เจียวเข้าปาก เคี้ยวอย่างละเอียดค่อยฝืนกลืนมันลงคอ หลังจากกินข้าวเสร็จเธอก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดตัวใหม่
เธอทำแบบนี้วนไปวนมาอยู่หลายวันโดยที่อีริคไม่เคยแวะเวียนมาที่นี่ นับตั้งแต่วันที่เขากับเธอมีอะไรกัน นี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว
"หรือว่าเขามีเด็กในสต๊อกเยอะนะ แวะเวียนไปเสพสมความสุขกับเด็ก ๆ พวกนั้นอยู่เหรอ หรือว่าฉันทำให้เขาไม่พอใจเลยถูกทิ้งอยู่ที่นี่" หัวคิ้วมนย่นเข้าหากันอย่างคิดไม่ตก
@สนามบิน
ผู้โดยสารขาเข้าประเทศทยอยเดินออกมาจากประตู หนึ่งในนั้นคือลูกพี่ลูกน้องอีริค เธอลากกระเป๋าเดินทางใบโปรดเดินออกมาพร้อมกับลูกน้องหนึ่งคน
"ฉันนึกว่าจะได้นั่งรถกลับบ้านคนเดียวซะแล้ว" ซินซินส่งยิ้มให้น้องชายที่มารอรับ แม้สีหน้าอีริคบ่งบอกชัดเจนว่าเขาเบื่อหน่ายแค่ไหนก็เถอะ
"ถือว่าเป็นเกียรติของเธอแล้ว ที่ฉันลดตัวลงมาขับรถมารับที่สนามบิน"
"หึหึ จะกี่ปีก็ยังไม่เลิกหลงตัวเองนะ"
"ไปได้แล้ว" อีริคเดินออกมาก่อน จากนั้นซินซินก็เดินตามหลังน้องชายมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหน้า "กลับมาอยู่ไทยกี่วัน" อีริคปรายตามอง
"หลายเดือน"
"น่าเบื่อ"
"เหอะ! ปากดีไม่เลิกจริง ๆ แทนที่พี่สาวกลับมาจะดีอกดีใจวิ่งเข้ามากอดด้วยความดีใจ แต่เปล่าเลย" ซินซินเบ้ปากใส่ผู้เป็นน้องด้วยความเอือมระอาใจ "ดื้อด้าน!"
"หึหึ" อีริคแค่นหัวเราะอย่างนึกขำ "ฉันไปส่งเธอแค่หน้าบ้านนะ ขี้เกียจเข้าไปข้างใน"
"อืม เข้าใจได้" เธอไม่ห้ามน้องชายเพราะรู้จักนิสัยอีริคดี เขาไม่ชอบสนทนากับผู้ใหญ่และไม่ชอบการเสแสร้งฝืนยิ้มให้กันทั้งที่ลับหลังนินทาว่าร้ายกันอยู่
"เพื่อนเธอ...ไม่มารับที่สนามบินรึไง ไหนว่าสนิทกันมาก"
"แพกซ์น่ะเหรอ" หญิงสาวแสร้งเรียกชื่อเพื่อนสนิทคนเดียวของตัวเอง
"อืม"
"ฉันไม่ให้เขามาเอง"
"อืม" อีริคครางรับในลำคอโดยไม่มองหน้าพี่สาว
"นายเถอะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง"
"ยุ่ง ไล่ล่าไอ้ธวัตรอยู่"
"ฮะ! ไอ้เสี่ยลามกนั่นน่ะเหรอ"
"อืม"
"เพลา ๆ ลงหน่อยริค ภาพลักษณ์แกยิ่งไม่ดีอยู่"
"..." อีริคหันมามองหน้าซินซินด้วยสายตาดุดัน ก่อนจะแย้มยิ้มเย็นเยือก "โลกไม่เคยใจดีกับฉัน ทำไมฉันต้องเป็นคนดีด้วยล่ะ"
"เฮ้อ..." ผู้เป็นพี่ถอนหายใจออกอย่างคิดไม่ตก เธอกับอีริคโตมาด้วยกันก็จริง แต่นิสัยต่างกันสุดขั้ว อีริคเป็นคนนิ่ง ๆ และเย็นชาไร้ความปรานี แต่จะโทษใครก็ไม่ได้ เพราะสิ่งแวดล้อมหล่อหลอมเขาให้เป็นคนแบบนี้เอง "คาร์มิลเป็นไงบ้าง" เพื่อไม่ให้บรรยากาศน่าอึดอัดใจไปมากกว่านี้ เธอจึงเอ่ยถามน้องชายเสียงเรียบ
"ดี"
"โซลาร์ล่ะ"
"ก็ดี"
ซินซินยิ้มพอใจ ชื่อที่เธอกล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นชื่อม้าตัวโปรดที่เธอฝากอีริคเลี้ยงระหว่างที่ไปทำงานต่างประเทศ
ในห้องคอนโดฯ
คนโปรดนั่งอยู่บนเตียงนอน เธอมองแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
"ไม่ได้ เราจะอยู่แบบนี้ไม่ได้" เธอเดินไปที่ประตูห้องแล้วเคาะเรียกคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง "พอจะมียาแก้ปวดไหม ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ" ไร้การตอบกลับของคนด้านนอก คนโปรดจึงเคาะประตูเรียกอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ประตูถูกเปิดออกด้วยความหงุดหงิด
"เป็นอะไรอีกวะ"
"โปรดปวดท้องค่ะ ปวดเหมือนจะตาย"
"อะไรวะ ปวดก็อดทน เจ้านายไม่ได้สั่งอะไรไว้" ประตูกำลังจะปิดลง คนโปรดจึงเอาตัวเองไปขวางทางไว้
"ขอยาได้ไหมคะ โปรดไม่ไหวแล้วจริง ๆ"
"เข้าไป"
เธอถูกผลักเข้ามาในห้อง จากนั้นพวกเขาก็ปิดประตูอย่างแรง เธอไม่ได้เดินกลับไปที่เตียงแต่กำลังเอาหูแนบประตูฟังคนสองคนสนทนากันอยู่หน้าห้อง ได้ความว่าพวกเขากำลังเกี่ยงกันโทรไปหาพาเวลและรายงานเรื่องที่เธอไม่สบาย
หลายนาทีต่อมา
"ว่าไง" พาเวลรับสายลูกน้องเสียงเครียด เสียงของเขารบกวนอีริคที่กำลังนั่งทำงานอยู่เบาะหลังรถหรู หลังจากแวะไปส่งซินซินที่บ้านแล้ว
(นังผู้หญิงมันบอกว่าปวดท้องครับพี่ เอาไงดีครับ)
"ปวดท้อง เมื่อวานยังดี ๆ อยู่เลย"
"อะไร" อีริคเอ่ยถามลูกน้อง
"ลูกน้องผมโทรมาบอกว่าคนโปรดไม่สบายครับนาย"
"..." อีริคเปิดโทรศัพท์ดูกล้องในห้อง ก่อนที่มุมปากจะยกยิ้มยากจะคาดเดา "หึหึ ลูกไม้ตื้น ๆ"
"เอาไงดีครับนาย"
"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันจัดการเอง"
"ครับ"
บทที่ 5 ลองใจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที รถยุโรปคันหรูก็ขับเข้ามาจอดที่จอดรถประจำใต้คอนโดมิเนียมหรู อีริคกระชับเสื้อสูทแล้วก้าวลงจากรถ เขาสะบัดข้อมือเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าพาเวลจะตามขึ้นไป"ไม่ต้องตาม"พาเวลหยุดชะงักทันที เขาก้มหน้าเล็กน้อยรับคำสั่งแล้วถอยกลับไปรออยู่ข้างรถ ปล่อยให้อีริคขึ้นไปข้างบนเพียงคนเดียว"สวัสดีครับนาย" ลูกน้องที่เฝ้าอยู่หน้าห้องรีบลุกขึ้นทำความเคารพอีริค"อืม ออกไปได้" เขาสั่งลูกน้องให้ออกไปจากตรงนี้ จากนั้นก็ใช้คีย์การ์ดใบพิเศษที่เขามีเปิดประตูเข้าไปข้างในห้องภายในห้องเงียบงัน มีสายลมเย็นพัดเข้ามาทางประตูตรงทางเชื่อมต่อกับระเบียง ผ้าม่านพลิ้วไหวไปตามแรงลมที่พัดเข้ามา จังหวะที่ผ้าม่านพลิ้วไหวเขาเห็นร่างเล็กยืนอยู่ บนร่างกายมีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ใช้ปกปิดร่างกาย และกางเกงยีนขาสั้นตัวน้อยที่พาเวลไปคนไปซื้อมาอีริคถอดสูทไปพาดไว้หัวเตียง ตามด้วยคลายปมเนคไท มือหนาล้วงหยิบบุหรี่มาจุดสูบ ครั้นสายตาเขาจ้องไปที่ร่างเล็ก ซึ่งเธอยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ในห้อง"อ๊ะ!" คนโปรดอุทานออกมาด้วยความตกใจ ที่เห็นอีริคนั่งสูบบุหรี่อยู่บนเตียงนอน "คะ คุณอีริคมาเมื่อไหร่คะ""..." คว
บททื 6 เด็กดีต้องได้รางวัล NCเรียวลิ้นสากแตะลงตรงแอ่งชีพจรหญิงสาว เขาเกร็งลิ้นแล้วลากไล้ไปมาเบา ๆ คนโปรดเริ่มเปล่งเสียงครางหวานเมื่อถูกเล้าโลมด้วยความอ่อนนุ่มของเรียวลิ้นสากจากคนตัวโตจากการถูกโลมเลียเป็นเวลานาน ความกระสันในร่างกายเธอก็ถูกกระตุ้น คนโปรดบิดเร้าร่างกายด้วยความมวนท้องน้อย ราวกับมีผีเสื้อนับร้อยมาบินวนท้องน้อยเธอก็ไม่ปาน"อ๊ะ! อื้อ..." ร่างแน่งน้อยสะดุ้งโหยงเมื่อถูกคมฟันครูดที่ไหล่ หลังจากอีริคสร้างรอยช้ำไว้ที่ลำคอเธอจนหนำใจแล้ว ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมผละใบหน้าออกห่างจากหน้าอกเธอ ยังคงเคล้าคลึงเต้านมกลมกลึงทั้งสองข้างอย่างเมามันปลายลิ้นสากระรัวดุนดันเม็ดบัวจนมันหดแข็งเป็นไตสู้กับจังหวะรัวลิ้นของเขา ครู่หนึ่งร่างเล็กก็บิดกายไปมา ผิวเคยขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยถูกไฟสวาทแผดเผา ร้อนวูบวาบทั่วทั้งตัว"คะ คุณอีริค" คนโปรดครางเสียงหวาน ใบหน้าเธอแดงก่ำเมื่อปรือตาขึ้นมาสบตากับอีริคพอดี "อื้อ~" ภายในมันปั่นป่วนไปหมด ยิ่งเขาบดคลึงหน้าอกเธอเท่าไหร่ ความกระสันก็ยิ่งเข้ามาแทรก เธอไม่เคยรู้สึกอยากร่วมรักมากขนาดนี้มาก่อนอีริคมองใบหน้าสวยแล้วยกยิ้มมุมปาก เขาลูบไล้ฝ่ามือกับเนินส
บทที่ 7 รางวัลชมเชยวันต่อมาระหว่างที่คนโปรดกำลังนั่งมองนกบินอยู่บนท้องฟ้า เธอก็นึกอิจฉาพวกมันขึ้นมาที่ได้โบยบินอย่างอิสระ "พวกแกมีปีกบินไปมาบนท้องฟ้า คงสนุกน่าดูนะ" หญิงสาวพึมพำเสียงพร่า โดยไม่รู้ตัวว่าพาเวลกับลูกน้องเพิ่งขนทีวีจอใหญ่ยักษ์เข้ามาในห้องก๊อก ก๊อกลูกน้องหนุ่มเคาะผนังห้องจนเกิดเสียงดัง ทำให้คนตัวเล็กหันขวับมามองโดยเร็ว เธออ้าปากค้างกับสิ่งของที่ลูกน้องพาเวลกำลังแกะออกจากกล่อง"ทีวี!""...""นะ นี่เป็นของขวัญที่โปรดขอไปเหรอคะ" ตื่นเต้นเหมือนเพิ่งเคยเห็นทีวีเป็นครั้งแรก แต่ก็เป็นทีวีเครื่องแรกที่เธอได้เป็นของขวัญจากผู้ชาย "โปรดดูได้ทั้งวันเลยไหม" เพราะมันน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอคลายเหงาได้ พาเวลไม่ตอบและให้ลูกน้องติดตั้งจนเสร็จสรรพ"นายฝากมาบอกว่า ถ้าเธอเป็นเด็กดี ทำให้นายพอใจ นายจะให้เธอขอของขวัญได้หนึ่งอย่างต่อหนึ่งความพึงพอใจของนาย""รางวัลที่ทำให้คุณอีริคพอใจเหรอคะ""..." พาเวลนิ่งเงียบ และหันไปมองลูกน้อง เขาพยักหน้าให้ลูกน้องเก็บของเตรียมออกไปจากห้อง"เดี๋ยวค่ะ แสดงว่าโปรดทำให้คุณอีริคพอใจใช่ไหมคะ""เปล่า นายบอกว่า นี่แค่รางวัลชมเชยเท่านั้น""..อ้าว -_-!"หลังจ
บทที่ 8 ป่วยจริงสองวันต่อมาอีริคเดินอาด ๆ เข้ามาในห้องทำงาน หลังจากเขาไม่ได้เข้าร่วมประชุมเมื่อสองวันก่อน พาเวลโค้งคำนับเล็กน้อยแล้ววางแฟ้มงานลงบนโต๊ะทำงานเจ้านาย"ใจคอนายจะให้ฉันทำงานทันทีที่มาถึงเลยเหรอ""ขออภัยครับนาย แต่นี่เป็นแบบสรุปการประชุมที่ผ่านมาครับ"อีริคปรายตามองเพียงนิด"เอาไปไกล ๆ มือกู" เขาเขี่ยแฟ้มงานจนหล่นลงพื้น ขณะเดียวกันประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างไร้มารยาท ทั้งพาเวลและอีริคต่างหันมอง"โอ๊ะโอ๋...มาขัดจังหวะหรือเปล่าเนี่ย""จุ้นจ้านอะไรอีกล่ะ นี่สนามม้าฉันก็ให้เข้าออกตามสบาย แล้วนี่จะมาป่วนออฟฟิศฉันอีกเหรอ""เปล่า เห็นพี่เป็นคนยังไงวะ""คนวุ่นวายคนหนึ่ง""น้อย ๆ หน่อยเหอะ""แล้วมาทำไม" อีริคกดเสียงต่ำถามซินซิน เธอยกยิ้มมุมปากยากที่จะคาดเดา"เย็นนี้พ่อนัดกินข้าวกับเพื่อน แล้วฉันต้องไปด้วยน่ะ""เลยจะให้ฉันไปเป็นเพื่อน?""ฉลาดมากน้องชาย""ไม่" อีริคปฏิเสธ"ไม่อะไรกัน ไปเหอะนะ ไปนะน้องชายพี่""อย่ามาทำให้รำคาญ" อีริคปัดมือซินซินออกจากแขน "เพื่อนเธอก็มี ชวนมันไปดิ""ไม่เอา เดี๋ยวพ่อดุเอา""นี่..." อีริคชี้หน้าซินซิน "กับกูไม่เกรงใจ แต่กับไอ้เพื่อนคนนั้นกลับเกรงใ
บทที่ 9 สำออยหลังจากกินข้าวเสร็จ อีริคก็ขอตัวกลับก่อนซึ่งซินซินก็ขอติดรถกลับมาด้วย"ใจคอจะไม่อยู่คุยกับพ่อเธอหน่อยเหรอ""คุยอะไรอีก ในโต๊ะอาหารนายก็ดูออกว่าพ่อเหน็บแนมฉันเรื่องงานแค่ไหน อยู่ต่อก็คงถูกตำหนิอีกเหมือนเคย" หญิงสาวทำหน้าเบื่อหน่ายขั้นสุด "ขอบใจนะ ถ้านายไม่มาด้วย ป่านนี้คงถูกพ่อดุไปหลายยก""ถ้าเป็นฉันนะ..." อีริคไม่พูดอะไรต่อ เขาเพียงเลียริมฝีปากตัวเองแล้วเปิดประตูก้าวขึ้นรถ ส่วนซินซินหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องที่เดินตามมา บอกพวกเขาว่าไม่ต้องตามเธอกับอีริค"แล้วนี่จะไปไหนต่อ""บ้าน คอนโดฯ คลับ นั่งกินไวน์ชิลๆ""สรุป?""ไม่บอก""เออ"ซินซินหันไปมองนอกกระจก ก่อนจะพึมพำเสียงอ่อน"ถ้าฉันเกิดมาเป็นผู้ชายคงดีนะ""ทำไมคิดแบบนั้น เกิดเป็นผู้หญิงไม่ดีตรงไหน""..." เธอไม่ตอบแถมยังทำหน้ามุ่ยใส่เขาอีก หากให้อธิบายว่าทำไม คงต้องจอดรถคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว และไม่รู้ว่าจะจบที่ตรงไหน เกิดมาในตระกูลคนจีนแท้ ต้นตระกูลก็อยากให้ลูกผู้ชายสืบทอดนามสกุล แต่เธอดันเกิดมาเป็นผู้หญิงนี่สิครืด~ ครืด~โทรศัพท์อีริคสั่นสะเทือนอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขาล้วงหยิบออกมากดรับสาย ทว่าโทรศัพท์กลับเชื่อมต่อกับรถทำใ
บทที่ 10 แขกVVIPช่วงเที่ยงวันอีริคปิดแฟ้มเอกสารแสนน่าเบื่อ ที่รั้งให้เขาต้องนั่งอยู่ในโต๊ะมานานสองนานด้วยความเมื่อยล้า"อาหารเที่ยงพร้อมแล้วครับนาย จะกินตอนนี้เลยไหมครับ""อืม เสร็จแล้วก็ไปเอามอร์แกนออกมาด้วย""มอร์แกนพร้อมแล้วครับ แต่เดี๋ยวบ่ายนี้ต้องเข้าสปาขนกับตัดแต่งเล็บเท้า""อืม" อีริคหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบเพื่อผ่อนคลายระหว่างเดินไปที่โต๊ะอาหารที่อยู่อีกห้องหนึ่ง และมันต้องเดินผ่านห้องที่คนโปรดพักอยู่ด้วย เขาหยุดเดินแล้วพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก จากนั้นจึงเปิดประตูเข้าไปด้านใน"คุณอีริค" คนโปรดรีบดึงเสื้อเชิ้ตที่ติดกระดุมไม่เรียบร้อยขึ้นมาปกปิดหน้าอก "ที่นี่เป็นของคุณอีริคเหรอคะ""พอฟื้นขึ้นมาได้ ความอยากรู้อยากเห็นก็ทำงานเลยนะ" ชายหนุ่มเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียง พร้อมกับพ่นควันสีขาวออกจากปาก ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้องคนโปรดปิดปากปิดจมูกไอแค่ก ๆ ทั้งกลิ่นฉุนละควันของบุหรี่ที่อีริคจงใจพ่นออกมาทำให้เธอสำลักจนหน้าแดง"ออกไป" เขาสั่งพาเวลให้ออกไปจากห้อง ทันทีที่ประตูปิดสนิท อีริคก็หันไปมองหญิงสาว เขาลุกขึ้นเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียงขนาดหกฟุต"อ๊ะ! คะ คุณอีริค" ข้อมือข้างที่เสียบน้ำเกลือถูกเข
บทที่ 11 แค่ของเล่น“นี่! ใจคอนายจะไม่กลับไปทำงานจริงเหรอวะริค” ซินซินขมวดคิ้วมองท่าทางนิ่งเงียบของน้องชายด้วยความไม่เข้าใจ อีริคทำตัวชิลมาก ทั้งที่งานที่บริษัทท่วมหัว แถมพวกที่ชอบพูดจาถากถางเขาก็คอยซ้ำเติมอยู่ไม่น้อยอีริคหันมามองหน้าซินซินแล้วพรูลมหายใจออกด้วยอาการเหนื่อยหน่ายใจ มีเธออยู่ข้างกายเหมือนเขากำลังเลี้ยงนกแก้วมาคอว์อย่างไรอย่างนั้น มันคอยตามติดพูดเจื้อยแจ้วถาม ไต่ถามรายละเอียดน่ารำคาญใจมากเขาควบม้าวิ่งออกห่างจากซินซิน แล้วพามอร์แกนเข้าไปในลานซ้อมวิ่งในอาคาร ส่วนซินซินก็บังคับม้าตามหลังมา ทว่าตอนนั้นสายตาเธอกลับเหลือบเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างผอมเพรียวยืนอยู่ที่ระเบียงห้องพักแขกซึ่งอีริคไม่ได้เปิดให้ใครเข้ามาพักที่นี่นานแล้ว“นั่นใคร” ซินซินก้มมองหน้าลูกน้องอีริคที่กำลังจูงสายบังคับม้าเธออยู่ เขามีท่าทีอ้ำอึ้งเล็กน้อย เหมือนไม่อยากตอบคำถามเธอ แต่นั่นยิ่งทำให้ซินซินสงสัย “แขกวีวีไอพีของริคเหรอ”“ครับ” คราวนี้ลูกน้องหนุ่มพยักหน้าตอบอย่างรวดเร็ว ซินซินแสยะยิ้มมุมปาก เธอแสร้งทำเป็นไม่เห็น จากนั้นก็พาโซลาร์ไปเดินเล่นกระทั่งถึงสี่โมงเย็นของวัน“ฉันขอค้างที่นี่นะ ไม่อยากกลับไปหาเตี
บทที่ 12 ตำแหน่งของเล่นชิ้นโปรดคนโปรดนั่งเงียบด้วยความที่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แม้ว่าซินซินจะเอ่ยถามเธออยู่บ่อยครั้ง แต่คนที่ตอบแทนกลับเป็นอีริค“อ๊ะ!” รู้สึกว่าแขนที่ถือถุงน้ำเกลืออยู่มันเริ่มปวดหนึบ เธอเผลอร้องออกไปเบา ๆ แล้วรีบก้มหน้า ตอนนี้เธออยากกลับเข้าไปพักผ่อนในห้องแล้ว และถ้าอยู่ต่อก็คงหนีไม่พ้นถูกด้อยค่าด้วยคำพูดเหน็บแนบของอีริค ไม่มีสิทธิ์โกรธ เพราะชีวิตอยู่ในกำมือเขาแล้ว หากอีริคยังมีความปรานีอยู่บ้างเธอคงรอดพ้นจากคมกระสุน“พาเวลนายยืนนิ่งอยู่ทำไมเนี่ย”พาเวลรีบสั่งให้ลูกน้องเข้าไปเอาที่แขวนถุงน้ำเกลือออกมาให้คนโปรด“โปรดกลับไปพักก็ได้นะคะ คุณ ๆ จะได้พักผ่อนโดยไม่ต้องมีโปรดให้รำคาญตา”“อ๋อ ที่แท้ก็คนโปรดนี่เอง”“คะ?”“เปล่าหรอก ว่าแต่เธอ...ป่วยเป็นอะไร”“ไข้หวัดธรรมดาค่ะ”“ใครใช้ให้เธอพูด ฉันสั่งตั้งแต่เมื่อไหร่”“...”!“จะดุเธอทำไม”“อย่า ยุ่ง” อีริคกดเสียงต่ำปรามซินซินอย่างจริงจัง และเธอก็รับรู้ด้วยว่าน้องชายกำลังเอาจริงอยู่ จึงไม่เซ้าซี้ “พาเธอเข้าไป” อีริคหันไปสั่งพาเวลให้พาตัวคนโปรดเข้าไปในห้องรับรองแขกคนตัวเล็กเดินนวยนาดมานั่งลงบนโซฟา ถอนหายใจออกอย่างนึกเสียดาย “เกือบ
ตอนพิเศษ 3 จบตอนจากเด็กน้อยแบเบาะในวันนั้น ตอนนี้น้องกันต์มีอายุครบสาวขวบพอดี เด็กชายในชุดเอื้อมยีนเดินไปหาพ่อตัวเองด้วยรอยยิ้มสดใส ในมือถือของเล่นที่เตรียมมาเล่นกับพ่อด้วย“ป๊า น้องกันต์อยากได้ของเล่นอีกครับ” น้ำเสียงและแววตาสดใสจดจ้องใบหน้าของพ่อที่กำลังนั่งทำงานอยู่กับพาเวล อีริคละสายตาจากหน้าลูกน้องมามองลูกชาย เขาอุ้มน้องกันต์ขึ้นมานั่งบนตักแล้วหอมศีรษะไปหนึ่งฟอด“หนูซื้ิอของเล่นเยอะแล้วเล่นหมดไหมครับ”“...” เด็กชายสั่นหน้า“ของเล่นเยอะแยะเลยลูก อันไหนที่หนูไม่เล่นแล้วป๊าขอเอาไปให้น้องได้ไหม น้องไม่มีของเล่น”“น้อง น้องไหนครับ”“ก็น้องที่เขาไม่มีตังค์ซื้อของเล่นครับ น้องอยู่ไกล ๆ เลย”“ได้ครับ”“งั้นน้องกันต์ไปเก็บของเล่นที่น้องกันต์ไม่เล่นแล้วกับลุงพาเวลนะ เดี๋ยวป๊าทำงานเสร็จป๊าไปหา”“ครับ”อีริคพยักหน้าให้พาเวลพาลูกชายเข้าไปในบ้าน ส่วนเราเร่งทำงานให้เสร็จ“อ้าว” คนโปรดถือจานผลไม้สดที่เธอตั้งใจจะเอาออกไปให้สองพ่อลูกที่หน้าบ้านเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกกับพาเวลเดินกลับเข้ามาในบ้าน“นายให้มาเก็บของเล่นที่คุณหนูไม่เล่นเอาไปบริจาคให้เด็กบนดอยครับ” พาเวลตอบ“อ๋อ ดีมากเลยค่ะ ของเล่นน้องกันต์
ตอนพิเศษ 2สองเดือนต่อมาเสียงอ้อแอ้ของลูกน้อยช่วยปลุกอีริคให้ตื่นจากการนอนพักสายตาในช่วงกลางวัน เขารีบลุกขึ้นมาดูลูก“พี่ริค” คนโปรดมองใบหน้าคมคายที่แสดงออกถึงความง่วงงุนด้วยความเอ็นดู “นอนต่อเถอะค่ะ โปรดดููลูกได้”“ไม่เอา ฉันหายง่วงแล้ว”“น้องกันต์หนูอย่ากวนป๊าสิลูก ป๊าไม่ได้นอนตั้งหลายคืนแล้วนะครับ”“ป๊ายินดีครับลูก” อีริคเขยิบเข้ามาใกล้แล้วก้มลงไปหอมลูกชายที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเบาะ “ตัวหอมจังเลย”“โปรดกับคุณแม่เพิ่งอาบน้ำให้เมื่อกี้เองค่ะ”“ถึงว่าละ ตัวก็หอมหน้าก็ขาว”“หึหึ”“แล้วมีคนมาหาฉันไหม”“ไม่เลยค่ะ พี่ริคนัดใครไว้เหรอคะ”“เปล่าหรอก ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย เผื่อมีคนอยากเจอหน้า”“ค่ะ”“น้องกันต์หลานป้า~” เสียงแหลม ๆ ของซินซินดังมาแต่ไกล แต่น้องกันต์กลับไม่ตกใจแถมยังดีดดิ้นและยิ้มร่าเหมือนว่ากำลังรอเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น “อ้าว” ซินซินเลิกคิ้วทักทายน้องชายแล้วรีบนั่งลง “วันนี้ป้าซินมีชุดหล่อมาฝากด้วยนะคะ”“ชุดแดง”“ใช่ ใกล้ตรุษจีนแล้วผมอยากเป็นอาตี๋น้อยครับ”“หึหึ แล้วอีกชุดล่ะ”“อีกชุดเหรอ” เธอหยิบออกมาจากถุงกระดาษ ทุกคนขำขันเมื่อได้เห็นชุดเต็ม “ชุดหมูน้อยค่า”“ลูกกูไม่ใช่หม
ตอนพิเศษ 1ห้าวันต่อมาหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาอีริคก็ได้พาคนโปรดมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านตัวเองโดยมีฮาน่ากับซินซินช่วยดูแลคนโปรดกับน้องกันต์“หลานป้าหล่อจังเลย เห็นหน้ากันกี่ครั้งก็หลง” ซินซินนั่งเฝ้าหลานชายคนแรกอยู่ข้างเบาะนอนสำหรับเด็กทารกที่เธอซื้อมาให้หลานไม่ห่างไปไหนไกล ส่วนฮาน่ากำลังสอนคนโปรดปั้มนมอยู่อีกที่หนึ่ง“คุณท่านคะ เอ่อ...คุณผู้ชายท่านจะโกรธไหมคะ ที่โปรดกับลูกมาอยู่ที่นี่” สิ่งที่เธอเป็นกังวลมาโดยตลอดก็เรื่องพ่อของอีริค ตั้งแต่ท้องจนคลอดเธอก็ไม่เห็นท่านมาที่นี่สักครั้ง และเหมือนว่าอีริคกับพ่อก็ไม่ค่อยถูกกันด้วย“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เราเพิ่งคลอดลูกอย่าไปเครียดเลย เดี๋ยวน้ำนมจะไม่ไหลเอานะลูก” ฮาน่าปลอบใจคนโปรด อันที่จริงเธอก็เปรย ๆ เรื่องอีริคมีแฟนและแฟนลูกกำลังท้องให้สามีฟังบ้างแล้ว และเมื่อวันก่อนก็เพิ่งส่งรูปน้องกันต์ให้เขาดู แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาหรือการตอบกลับจากสามี แต่เธอก็ดูออกว่าสามีนั้นพึงพอใจอยู่บ้างที่หลานคนแรกเป็นผู้ชาย“โปรดกลัวพี่ริคทะเลาะกับคุณท่านอีก”“ไม่หรอก เชื่อแม่”“ค่ะ” คนโปรดมองไปหาน้องกันต์ที่เพิ่งกินนมหลับไป “น้องกันต์กินเก่งมากเลยค่ะ ตอนกลางคืนแ
บทที่ 70 บทส่งท้ายหลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็มารวมกันอยู่ข้างบ้านซึ่งมีระแนงไม้ที่พ่อเลี้ยงปูเอาไว้ และสั่งเก้าอี้มาไว้สำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า จิบกาแฟไปด้วย“เอาอีกไหม”อีริคส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อพ่อเลี้ยงยื่นขวดไวน์มาทางเขาหมายจะรินให้เขาอีก“กินเยอะก็ปวดหัว”"ปกติไม่ปฏิเสธนี่"“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ มึงก็อย่าไปคะยั้นคะยอให้มันกิน” ชรัณเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ เมื่อก่อนจำได้ว่าเคยดื่มด้วยกันจนเข้าเรียนไม่ทัน มัวแต่อ้วกกับเมาค้างจนอาจารย์ให้ทำงานเก็บคะแนนย้อนหลังกันทั้งสามคน“ถ้าเมียมึงง่วงแล้วก็พาไปนอนได้นะเว้ย”“ง่วงยัง” อีริคเอ่ยถามคนข้างกาย แต่พอมองตาเธอแล้วยังตาแป๋วอยู่เลย “ไม่ตอบก็พอจะรู้”“โปรดขอนั่งอยู่อีกนิดนะคะ ยังสนุกอยู่เลย ชอบฟังพี่ ๆ เล่าความหลังสมัยเรียน สนุกดีค่ะ”“เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังว่าไอ้ริคมันแสบมากแค่ไหน” ชรัณเลิกคิ้วท้าทายอีริค“ปรานีกูด้วยครับ”“หึหึ” พ่อเลี้ยงหัวเราะขบขัน “สมัยก่อนก็ต่างคนต่างห้าวแหละ ไม่มีใครยอมใคร”“ยังไงเหรอคะ”“อ้าว ไหนบอกจะไม่เผาเพื่อนไง” ชรัณเลิกคิ้วถามองศาที่จู่ ๆ ก็เปิดประเด็นขึ้นมาซะอย่างนั้น“นิดหนึ่ง”“อา เล่าเลยงั้น”“เมื่อก่อนเคยไ
บทที่ 69 ความสุข“ที่ของมึงกูให้คนไปดูแล้วนะ เห็นช่างกำลังขนของมาลงกันเยอะเลย อีกไม่นานคงได้ลงเสาเข็ม” พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นระหว่างขับรถเข้ามาในทางที่ตรงไปยังไร่ปาริฉัตร“ขอบใจ” อีริคกล่าวสั้น ๆ“ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยกัน แล้วนี่เธอจะมาอยู่นานไหม” คราวนี้เขามองหน้าคนโปรด “เพราะถ้ามาอยู่นานฉันจะให้แม่บ้านและคนของฉันพาเที่ยว หลังไร่มีน้ำตกด้วย เผื่อสนใจอยากเล่นน้ำคลายร้อน”“ดีจังเลยค่ะ”“ถ้าอยากไปก็บอก จะได้ให้คนพาไป เพราะทางมันค่อนข้างรกและไปยากนิดหน่อย”“เราไปกันนะ” คนโปรดหันมามองหน้าคนรัก อีริคพยักหน้าตอบเบา ๆ แล้วมองไปโดยรอบ“อยากได้ที่สวย ๆ แบบนี้อีก มีอีกไหม” อีริคเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคน ชรัณทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยตอบ“ก็พอมีนะ มึงอยากได้ติดเขาไหมล่ะ หรืออยากได้ติดลำธารดี”“อยากได้ทั้งสองที่เลย”“เอาว่ะ เออ ๆ เดี๋ยวจะหาดูให้ ชาวบ้านแถวนี้เอาที่ดินมาเสนอขายกูเยอะอยู่ ร้อนเงินกันทั้งนั้น ส่งลูกเรียนน่ะ”“อืม”“เสียสละมากเลยนะคะ ขายที่เพื่อเอาเงินส่งลูกเรียน”“อืม แต่ลูกเหี้ยก็ไม่ไหวนะ” ชรัณยกยิ้ม“ถ้าเป็นแบบนั้นคงน่าเสียใจแทนพ่อแม่ค่ะ โปรดเองก็อยากทำให้พวกท่านภูมิใจบ้างสักครั้ง
บทที่ 68 พักผ่อนวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาในเช้าที่สดใส บรรยากาศที่สนามม้าด้านนอกมีไอหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่ว แถมอากาศยังเย็นฉ่ำสบายจนอีริคไม่ยอมตื่น“ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มสากสองฟอดเพื่อเป็นการปลุกอีริคให้ตื่น ทว่าชายหนุ่มกลับเบือนหน้าหนีสัมผัสแล้วเอามือมาปิดหน้าไว้ “ขี้เซาจัง”“ให้ฉันนอนเต็มอิ่มบ้าง ไม่ได้นอนหลับสบายแบบนี้มานานมากแล้ว” อีริคพึมพำอยู่ใต้ผ้าห่ม เมื่อได้ฟังแบบนั้นคนโปรดจึงไม่เซ้าซี้เขา เธอก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเอาผ้าคลุมไหล่มาคลุม จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก“ตื่นแล้วเหรอ” พาเวลกำลังก่อกองไฟอยู่พอดี เขาส่งยิ้มทักทายคนโปรด “ดื่มนมอุ่นหน่อยไหม”“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้สนามพร้อมกับรับแก้วนมอุ่นมาดื่ม “นมอุ่นนี่อร่อยมากเลยค่ะ”“อืม...แล้วนายยังไม่ตื่นเหรอ”“ยังค่ะ เห็นว่าอยากนอนอีกสักพัก”“อืม สงสัยคงเหนื่อยมาก ทำงานหนักมาหลายวัน”“ครับ”“พี่พาเวลล่ะคะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” เมื่อมีโอกาสได้อยู่กับพาเวลสองต่อสอง เธอจึงถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเขาบ้าง“ก็ดี ช่วงนี้ทำงานหนักหน่อยแต่ก็มีความสุข”“เห็นพี่มีความสุขกับการทำงานโปรดก็ดีใจค่ะ”“แล้วจะไปเชีย
บทที่ 67 ดูแล“หมูสุกแล้ว ทำไมหนูไม่ตักกินล่ะคะคนสวย” ซินซินสังเกตุเห็นคนโปรดนั่งมองหม้อชาบูอยู่นาน แต่เธอไม่ได้คีบหมูใส่จานตัวเอง กลับคีบให้อีริคกินเสียส่วนใหญ่“โปรดไม่ค่อยหิวค่ะพี่ซิน กินฝรั่งไปเมื่อตอนนั่งเล่นกับพี่ซินโปรดยังอิ่มอยู่เลย"“อ๋อ"“คุณริคกินเยอะ ๆ นะคะ”“คุณริค พี่ว่าเรียกแบบนั้นมันดูห่างเหินไปนะ”“…” อีริคเงยหน้ามองซินซิน “แล้วแต่จะเรียก เอาที่ตัวเองชินปาก”“ป๊ะป๋า"“แค่ก ๆ” ซินซินสำลักน้ำซุปจนหน้าแดงกับสรรพนามที่คนโปรดใช้เรียกอีริค “ป๊ะป๋าเนี่ยนะ” เธอหัวเราะอย่างขำขัน“แต่เหมือนคุณอีริคไม่ชอบเลย งั้นโปรดเรียกพี่ได้ไหมคะ พี่ริค"“…” อีริคไม่ได้ตอบกลับ เพียงส่งยิ้มให้คนโปรดรู้อย่างเดียว“แบบนี้ก็น่ารักดี” ซินซินยกมือขึ้นไปลูบผมน้องสาวด้วยความเอ็นดู “กินเยอะ ๆ นะแกน่ะ ช่วงนี้แพกซ์บอกว่าแกทำงานหนักมาก”“อืม”“พี่แพกซ์หายไปไหนเหรอคะ ไม่เห็นหน้าตั้งนานแล้ว”“เขากำลังยุ่งอยู่กับการเปิดคลับใหม่อยู่น่ะโปรด อีกสักพักเลยล่ะ”“อ๋อค่ะ” เธอหันมามองหน้าอีริค “พี่ริค…เอ่อ อยากได้เครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมคะ” รู้สึกไม่ชินปากเลยที่ต้องเรียกอีริคด้วยสรรพนามใหม่แบบนี้“อยากได้ไวน์"“อย่าเ
บทที่ 66 ทะนุถนอมสี่เดือนต่อมาหลังจากทราบว่าตัวเองตั้งท้องลูกของอีริคอยู่นั้น ตอนนี้ก็ย่างเข้าสู่เดือนที่ห้าแล้ว จากท้องแบนราบตอนนี้ท้องเธอก็เริ่มโตเท่าลูกแตงโมแล้ว“จะไปไหนเหรอคะ โปรดเตรียมชุดให้ไหม” หญิงสาวเอ่ยถามคนรักด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล วันนี้อีริคตื่นตั้งแต่เช้าไปออกกำลังกาย และเธอเห็นเขาพูดกับพาเวลด้วยสีหน้าเครียดขรึมเหมือนมีเรื่องอะไรกวนใจอยู่ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรเพราะกลัวว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องสำคัญ“ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะออกไปทำธุระข้างนอก แล้วลูกน้องจะพาเธอไปที่สนามม้านะ” อีริคเดินเข้ามาโอบเอวคนโปรดแล้วหอมขมับเธอไปหนึ่งฟอด จากนั้นจึงเดินไปที่ห้องแต่งตัว เขาใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมาด้วยชุดไพรเวตสบาย ๆ โบกมือให้คนโปรดแล้วเดินออกไปจากห้องนอนทันทีร่างอวบอิ่มเดินตามหลังคนรักมาหยุดยืนอยู่ทางลงบันไดบ้าน ครั้นจะถามเอาความให้เข้าใจก็กลัวอีริคหงุดหงิดใส่ เธอจึงไม่ถามอะไรเขาแล้วหันหลังเดินกลับห้องนอน มาหยิบกระเป๋าสะพายข้างเดินลงไปรอลูกน้องที่จะพาไปสนามม้าพักนี้อีริคพาเธอไปพักที่สนามม้าบ่อยมาก เขาให้เหตุผลว่าอากาศที่สนามม้าดีกว่าที่บ้านในเมืองที่อยู่กับควันรถและฝุ่นพีเอ็ม“นายหญิงต้องการ
บทที่ 65 รักมากคนโปรดปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วเงยมองคนตัวโตกว่า“คุณริครู้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะว่าโปรดท้อง”“เธอก็รู้ว่าไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาฉันได้”“แล้วรู้เลยเหรอคะว่าโปรดท้อง”“เปล่า ฉันให้พาเวลไปถามหมอที่โรงพยาบาล ก็เธอเองนั่นแหละที่มีพิรุธก่อน ถ้าบอกกันตั้งแต่แรกก็จบ”“โปรดกลัวว่าตัวเองจะเป็นภาระคุณริค กลัวไปหมดเลยค่ะ”“เด็กน้อย เธอเป็นเมียฉันนะ อีกอย่างเธอกำลังอุ้มท้องลูกฉันอยู่” อีริคเลื่อนสายตาลงจ้องที่ท้องแบนราบ “อีกไม่กี่เดือนเขาก็ลืมตาดูโลกแล้ว” คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับหน้าท้องคนโปรดหลังจากที่รู้ว่าเธอท้อง“โปรดใจชื้นขึ้นมากแล้วค่ะ หลังจากที่เก็บความกดดันมาหลายวัน”“ก็เธอไม่ยอมบอกฉันเอง อีกอย่างเธอเป็นคนพูดเองว่าจะไม่โกหกฉัน แต่กลับโกหกซะเอง”“ก็ตามที่โปรดบอกไปค่ะ โปรดกลัวคำว่าลูกจะไปทำลายความสุขของคุณริค”“เด็กน้อย” อีริคยกมือขึ้นลูบพวงแก้มนวล “มีอะไรก็คุยกันก่อน ไม่ใช่เก็บเอาไว้คนเดียวแล้วเอาไปคิดมากแบบนี้”“ขอโทษนะคะ ขอโทษที่โปรดปิดบังคุณริค”“เอาเถอะ อาหารมาพอดีเลย” อีริคถอยกลับมานั่งที่ตัวเอง เขาคอยตักอาการใส่จานให้คนโปรดเรื่อย ๆ จนเธอต้องดันมือเขากลับ แล้วสั่นหน้า