บทที่ 5 ลองใจ
ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที รถยุโรปคันหรูก็ขับเข้ามาจอดที่จอดรถประจำใต้คอนโดมิเนียมหรู อีริคกระชับเสื้อสูทแล้วก้าวลงจากรถ เขาสะบัดข้อมือเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าพาเวลจะตามขึ้นไป
"ไม่ต้องตาม"
พาเวลหยุดชะงักทันที เขาก้มหน้าเล็กน้อยรับคำสั่งแล้วถอยกลับไปรออยู่ข้างรถ ปล่อยให้อีริคขึ้นไปข้างบนเพียงคนเดียว
"สวัสดีครับนาย" ลูกน้องที่เฝ้าอยู่หน้าห้องรีบลุกขึ้นทำความเคารพอีริค
"อืม ออกไปได้" เขาสั่งลูกน้องให้ออกไปจากตรงนี้ จากนั้นก็ใช้คีย์การ์ดใบพิเศษที่เขามีเปิดประตูเข้าไปข้างในห้อง
ภายในห้องเงียบงัน มีสายลมเย็นพัดเข้ามาทางประตูตรงทางเชื่อมต่อกับระเบียง ผ้าม่านพลิ้วไหวไปตามแรงลมที่พัดเข้ามา จังหวะที่ผ้าม่านพลิ้วไหวเขาเห็นร่างเล็กยืนอยู่ บนร่างกายมีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ใช้ปกปิดร่างกาย และกางเกงยีนขาสั้นตัวน้อยที่พาเวลไปคนไปซื้อมา
อีริคถอดสูทไปพาดไว้หัวเตียง ตามด้วยคลายปมเนคไท มือหนาล้วงหยิบบุหรี่มาจุดสูบ ครั้นสายตาเขาจ้องไปที่ร่างเล็ก ซึ่งเธอยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ในห้อง
"อ๊ะ!" คนโปรดอุทานออกมาด้วยความตกใจ ที่เห็นอีริคนั่งสูบบุหรี่อยู่บนเตียงนอน "คะ คุณอีริคมาเมื่อไหร่คะ"
"..." ควันบุหรี่พวยพุ่งออกจากปาก เขาเงยหน้ามองคนถามเพียงนิด
"โปรด...โปรดรู้สึกไม่สบายค่ะ"
"หึ!" จากที่นั่งเงียบเกือบหนึ่งนาที เขาก็แค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน "คิดว่าฉันไม่ทันเกมเธอเหรอ แค่ลูกไม้ตื้น ๆ" สายตาดุดันจ้องคนโปรด "เธอคงไม่ทันคิดสินะ ว่าถ้าเกิดฉันจับโกหกเธอได้ ผลที่ตามมาจะเป็นยังไง"
ก็นับว่าได้ผล ที่อีริคยอมมาถึงที่นี่ด้วยเหตุที่ว่าเธอไม่สบาย หญิงสาวเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม จากนั้นเธอก็นั่งลงบนหน้าตักเขา อีริคแสยะยิ้มมุมปาก มองความกล้าของคนโปรดด้วยแววตากะลิ้มกะเหลี่ย
"โดนกระแทกแค่คืนเดียวทำให้เธอขวัญกล้ามาต่อกรกับฉันขนาดนี้เลยเหรอ" เพียงไม่กี่วันคงไม่มีอะไรมาทำให้เธอขวัญกล้าขึ้น นอกเสียจากเธอมีแผนเอาตัวเข้าแลกเพื่อไม่ให้เขาส่งตัวกลับไปหาไอ้ธวัตร
อีริคดีดก้นบุหรี่ ยกขึ้นมาสูบแล้วพ่นควันสีขาวกลิ่นฉุนใส่หน้าคนโปรด หญิงสาวสำลักควันจนหน้าแดง และน้ำตาไหล
"โปรดแค่คิดถึงคุณอีริค"
"ไอ้ธวัตรมันคงสอนมาดี ถึงได้ตอแหลเก่งขนาดนี้" ขณะที่พูด ฝ่ามือหนาก็สอดเข้าไปในชายเสื้อ ลูบไล้แผ่นหลังบอบบางเบา ๆ "ปกติผู้หญิงที่ฉันเอา พวกมันมักจะดิ้นหนีตายและหวาดกลัวฉัน แต่เธอ..." ฝ่ามือหนาเริ่มลูบไล้ขึ้นมาถึงท้ายทอยคนโปรด
"อ๊ะ!"
"แต่เธอกลับเหมือนแมงเม่า ที่ชอบท้าทายเปลวไฟกำลังลุกโชน แต่ระวังปีกของเธอไว้ให้ดี ๆ ระวังจะถูกไฟแผดเผาจนตัวเองตกลงในกองไฟล่ะ"
เธอทำได้เพียงยิ้มบาง ๆ รับคำพูดเหน็บแนมนั้นอย่างเต็มใจ เพราะไม่ว่าจะแย้งเขายังไง ผลลัพธ์ก็เท่าเดิมอยู่ดี สู้ดีเธอทนฟังคำพูดถากถางหน่อย ยั่วเย้าน้อย ๆ เอาอกเอาใจเขาแต่ชีวิตดีขึ้น แบบนั้นไม่ดีกับตัวเธอกว่าเหรอ
คนโปรดมองใบหน้าคมเข้ม ก่อนที่จะเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ ทว่าอีริคกลับเบือนหน้าหนีพร้อมกับผลักหญิงสาวลงจากหน้าตัก
"ไม่อยากจูบกับโปรดเหรอคะ"
"ฉันไม่ชอบจูบกับใคร"
คำพูดหนึ่งของแม่บ้านผุดขึ้น 'นายท่านไม่ชอบสกปรก' เขาคงรังเกียจเธอมากสินะ
"โปรดจะไม่ทำค่ะ" เธอค่อย ๆ เขยิบเข้าไปหาอีริคอีกครั้ง กลิ่นน้ำหอมฝรั่งเศสแบบฉบับผู้ดีเคล้ากับกลิ่นกายหอม ๆ เมื่อยามที่เขาขยับตัว "โปรดสัญญาว่าจะไม่ดื้อ จะเป็นเด็กดีของคุณอีริคคนเดียวค่ะ" เธอซบใบหน้าลงกับหลังมือหนาของชายหนุ่มที่กุมไว้แน่น
อีริคยกยิ้มและมองท่าทางออดอ้อนของหญิงสาว ก่อนจะเชยคางมนขึ้น
"เธอควรรู้จุดยืนตัวเองนะคนโปรด"
"โปรดรู้ค่ะ โปรดจะซื่อสัตย์กับคุณอีริค จะเป็นเด็กดีของคุณอีริคค่ะ"
"หึ!"
"โปรดจะตอบแทนคุณอีริคด้วย...ร่างกาย และจะอยู่ใต้อาณัติคุณอีริคเพียงคนเดียวและตลอดไปค่ะ"
"ฉันชอบเธอนะ เรียนรู้ที่จะมีชีวิตรอดด้วยการประจบประแจงฉัน"
นัยน์ตาสีดำเบิกกว้างกับประโยคที่อีริคเพิ่งเอ่ยออกมา ความหวาดกลัวไม่อาจซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้าหวานได้มิด
ฝ่ามือหนาเชยคางมนขึ้น พาความกลัวเข้ามาครอบงำคนโปรดในตอนที่มองสบตากับชายหนุ่มตรง ๆ ความกลัวที่ไม่อาจซ่อนไว้ทำให้อีริครับรู้ได้ถึงแรงสั่นเทาของร่างกายหญิงสาว
"แต่เอาเถอะ...ฉันจะรับเอาไว้" ปลายนิ้วเรียวยาวลากไล้เรือนแก้มนวลของหญิงสาว เธอสะดุดลมหายใจตัวเองเล็กน้อยเมื่อเผลอเงยหน้าสบตากับอีริค "ใจกล้า ไม่กลัวตาย...แต่มันคือสัญชาตญาณของคนกลัวตาย" เอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ตัวเองอยู่ในสายตาผู้ล่า หวังให้ผู้ล่าเห็นใจ นั่นคือการเอาตัวรอดของคนขี้ขลาด
"อ๊ะ!" ปลายคางถูกบีบแน่น
"หึ ฉันไม่ใช่คนดี ฉันไม่ใช่พ่อพระอย่างที่เธอคิดหรอกนะคนโปรด อย่าหลงระเริงกับความคิดตัวเอง เธอโกหกตัวเองได้ไม่นานหรอก"
เธอพยายามหลอกตัวเองว่าอีริคเป็นคนดีคนหนึ่ง แม้ว่าตัวตนที่แท้จริงเขาคือมัจจุราชที่คอยจะพรากชีวิตเธอได้ทุกเมื่อก็ตาม
อีริคหยิบปืนออกมาสองกระบอก เขาถอดซองกระสุนออกมาจากตัวปืน จากนั้นก็เอากระสุนออกจนหมด "หลับตา" เขาสั่งเธอเสียงเรียบ พอคนโปรดหลับตาแล้วจึงนำกระสุนปืนใส่ลงในซองกระสุนอันหนึ่ง "ลืมตา แล้วเลือกมาหนึ่งอัน"
"..."! หญิงสาวมองซองกระสุนสองอันที่วางเคียงกันอยู่
"หนึ่งในนั้นมีกระสุนอยู่หนึ่งนัด ถ้าเลือกถูกอันไม่มีกระสุน...เธอก็รอด แต่ถ้าเลือกถูกอันที่มีกระสุน ปิ๊ว~" เขาทำท่ายิงเข้าขมับคนโปรดแล้วหัวเราะเสียงแข็งราวกับเป็นเรื่องน่าสนุก
"..." คนโปรดกัดปากแน่น มองซองกระสุนปืนทั้งสองอันไปมาด้วยความลังเลใจและหวาดกลัว ขณะเดียวกันอีริคก็ทำเสียงเขย่าประสาทเธอไม่หยุด "ปะ โปรดเลือกอันนี้"
"ได้" อีริคหยิบซองกระสุนปืนอันที่คนโปรดเลือกขึ้นมาใส่ปืน แล้วขึ้นลำกล้องเล็งไปยังขมับของหญิงสาว คนโปรดหลับตาแน่น ทั้งตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัวอย่างไม่ปิดบัง แต่เขากลับหันด้ามปืนให้เธอ "ขอให้เธอโชคดี" คำอวยพรที่เธอไม่อยากรับเลยสักนิด
สายตากดดันจ้องเข้ามาในนัยน์ตาของคนโปรด ราวกับต้องมนต์สะกดให้รับปืนกระบอกนั้นมาถือไว้ แล้วจ่อกับขมับตัวเอง
"ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม หากโชคดีเธอก็ได้ไปต่อ แต่ถ้าโชคร้าย...เอาเป็นว่าฉันจะจัดงานศพให้แล้วกัน" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าคมคาย เขาดูมีความสุขเกินมนุษย์ที่ได้เอาชีวิตคนคนหนึ่งมาล้อเล่นกับความตายแบบนี้ อีริคเริ่มนับหนึ่งช้า ๆ ในขณะที่ลมหายใจคนโปรดผะแผ่วตามเสียงทุ้มต่ำของเขา
พอเขานับถึงสอง คนโปรดก็ลั่นไกปืนทันที
"หึหึ" คนใจร้ายหัวเราะขบขัน รอยยิ้มเขย่าประสาทนั่นทำเอาร่างกายเธอสั่นเทิ้มไปหมด "โชคยังเข้าข้างเธอนะเนี่ย ปืนไม่มีกระสุน" อีริคแย่งปืนมาจากมือคนโปรด จากนั้นก็หยิบอีกกระบอกขึ้นมาขึ้นลำกล้อง
ลากไล้ปลายกระบอกปืนจากร่องอกอวบอิ่มลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งปลายกระบอกปืนหยุดอยู่ตรงเป้ากางเกงยีนขาสั้น
"ถอดเสื้อผ้าออก"
"..." คนตัวเล็กเริ่มถอดเสื้อผ้าออกอย่างอ้อยอิ่ง สถานการณ์เริ่มตึงเครียดเมื่ออีริคกดปลายกระบอกปืนลงกับเนินอกเธอ จ้องมองยอดถันสีน้ำตาลอ่อนซึ่งยังมีรอยช้ำจาง ๆ อยู่บนนั้น "จะ จริง ๆ แล้วปืนไม่มีกระสุนทั้งสองกระบอกใช่ไหมคะ"
"หึหึ" อีริคหัวเราะในลำคอ จากนั้นจึงเล็งปืนไปที่พื้น ก่อนจะลั่นไกไปหนึ่งนัด
ปัง!
"กรี๊ด!!" คนโปรดกรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจสุดขีด หัวใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นระรัวแทบหลุดออกมาเต้นนอกเบ้า เธอมองพื้นห้องที่เป็นรูพรุนด้วยความกลัว
"เกิดอะไรขึ้นครับนาย" เสียงปืนดังเล็ดลอดออกมาข้างนอก ทำให้พาเวลที่แอบตามเจ้านายขึ้นมา บุ่มบ่ามเปิดประตูเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นว่าคนโปรดเปลือยกายอยู่บนเตียงเขาจึงก้มหน้า
"..." อีริคหันมามองลูกน้องแล้วยกยิ้ม จ้องพาเวลไปและเริ่มปลดเข็มขัดหนังออกจากเอว "จะยืนดูกูเอาจนเสร็จเลยไหม หรือสนใจอยากรับช่วงต่อ"
"ขออภัยครับนาย" เขารีบออกไปจากห้องพักและปิดประตูให้เรียบร้อย
อีริคดึงสายตากลับมามองคนโปรด เธอยังหอบหายใจระรัวด้วยความตกใจจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง
"จำเอาไว้ว่าอย่าคิดแทนคนอื่น ฉันไม่ได้ใจดีขนาดนั้น" พูดจบอีริคก็ก้าวขึ้นไปคร่อมร่างเล็ก แล้วโน้มตัวลงไปซุกไซ้ลำคอระหง "เด็กดีต้องได้รางวัลสินะ"
"..."!
บททื 6 เด็กดีต้องได้รางวัล NCเรียวลิ้นสากแตะลงตรงแอ่งชีพจรหญิงสาว เขาเกร็งลิ้นแล้วลากไล้ไปมาเบา ๆ คนโปรดเริ่มเปล่งเสียงครางหวานเมื่อถูกเล้าโลมด้วยความอ่อนนุ่มของเรียวลิ้นสากจากคนตัวโตจากการถูกโลมเลียเป็นเวลานาน ความกระสันในร่างกายเธอก็ถูกกระตุ้น คนโปรดบิดเร้าร่างกายด้วยความมวนท้องน้อย ราวกับมีผีเสื้อนับร้อยมาบินวนท้องน้อยเธอก็ไม่ปาน"อ๊ะ! อื้อ..." ร่างแน่งน้อยสะดุ้งโหยงเมื่อถูกคมฟันครูดที่ไหล่ หลังจากอีริคสร้างรอยช้ำไว้ที่ลำคอเธอจนหนำใจแล้ว ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมผละใบหน้าออกห่างจากหน้าอกเธอ ยังคงเคล้าคลึงเต้านมกลมกลึงทั้งสองข้างอย่างเมามันปลายลิ้นสากระรัวดุนดันเม็ดบัวจนมันหดแข็งเป็นไตสู้กับจังหวะรัวลิ้นของเขา ครู่หนึ่งร่างเล็กก็บิดกายไปมา ผิวเคยขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยถูกไฟสวาทแผดเผา ร้อนวูบวาบทั่วทั้งตัว"คะ คุณอีริค" คนโปรดครางเสียงหวาน ใบหน้าเธอแดงก่ำเมื่อปรือตาขึ้นมาสบตากับอีริคพอดี "อื้อ~" ภายในมันปั่นป่วนไปหมด ยิ่งเขาบดคลึงหน้าอกเธอเท่าไหร่ ความกระสันก็ยิ่งเข้ามาแทรก เธอไม่เคยรู้สึกอยากร่วมรักมากขนาดนี้มาก่อนอีริคมองใบหน้าสวยแล้วยกยิ้มมุมปาก เขาลูบไล้ฝ่ามือกับเนินส
บทที่ 7 รางวัลชมเชยวันต่อมาระหว่างที่คนโปรดกำลังนั่งมองนกบินอยู่บนท้องฟ้า เธอก็นึกอิจฉาพวกมันขึ้นมาที่ได้โบยบินอย่างอิสระ "พวกแกมีปีกบินไปมาบนท้องฟ้า คงสนุกน่าดูนะ" หญิงสาวพึมพำเสียงพร่า โดยไม่รู้ตัวว่าพาเวลกับลูกน้องเพิ่งขนทีวีจอใหญ่ยักษ์เข้ามาในห้องก๊อก ก๊อกลูกน้องหนุ่มเคาะผนังห้องจนเกิดเสียงดัง ทำให้คนตัวเล็กหันขวับมามองโดยเร็ว เธออ้าปากค้างกับสิ่งของที่ลูกน้องพาเวลกำลังแกะออกจากกล่อง"ทีวี!""...""นะ นี่เป็นของขวัญที่โปรดขอไปเหรอคะ" ตื่นเต้นเหมือนเพิ่งเคยเห็นทีวีเป็นครั้งแรก แต่ก็เป็นทีวีเครื่องแรกที่เธอได้เป็นของขวัญจากผู้ชาย "โปรดดูได้ทั้งวันเลยไหม" เพราะมันน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอคลายเหงาได้ พาเวลไม่ตอบและให้ลูกน้องติดตั้งจนเสร็จสรรพ"นายฝากมาบอกว่า ถ้าเธอเป็นเด็กดี ทำให้นายพอใจ นายจะให้เธอขอของขวัญได้หนึ่งอย่างต่อหนึ่งความพึงพอใจของนาย""รางวัลที่ทำให้คุณอีริคพอใจเหรอคะ""..." พาเวลนิ่งเงียบ และหันไปมองลูกน้อง เขาพยักหน้าให้ลูกน้องเก็บของเตรียมออกไปจากห้อง"เดี๋ยวค่ะ แสดงว่าโปรดทำให้คุณอีริคพอใจใช่ไหมคะ""เปล่า นายบอกว่า นี่แค่รางวัลชมเชยเท่านั้น""..อ้าว -_-!"หลังจ
บทที่ 8 ป่วยจริงสองวันต่อมาอีริคเดินอาด ๆ เข้ามาในห้องทำงาน หลังจากเขาไม่ได้เข้าร่วมประชุมเมื่อสองวันก่อน พาเวลโค้งคำนับเล็กน้อยแล้ววางแฟ้มงานลงบนโต๊ะทำงานเจ้านาย"ใจคอนายจะให้ฉันทำงานทันทีที่มาถึงเลยเหรอ""ขออภัยครับนาย แต่นี่เป็นแบบสรุปการประชุมที่ผ่านมาครับ"อีริคปรายตามองเพียงนิด"เอาไปไกล ๆ มือกู" เขาเขี่ยแฟ้มงานจนหล่นลงพื้น ขณะเดียวกันประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างไร้มารยาท ทั้งพาเวลและอีริคต่างหันมอง"โอ๊ะโอ๋...มาขัดจังหวะหรือเปล่าเนี่ย""จุ้นจ้านอะไรอีกล่ะ นี่สนามม้าฉันก็ให้เข้าออกตามสบาย แล้วนี่จะมาป่วนออฟฟิศฉันอีกเหรอ""เปล่า เห็นพี่เป็นคนยังไงวะ""คนวุ่นวายคนหนึ่ง""น้อย ๆ หน่อยเหอะ""แล้วมาทำไม" อีริคกดเสียงต่ำถามซินซิน เธอยกยิ้มมุมปากยากที่จะคาดเดา"เย็นนี้พ่อนัดกินข้าวกับเพื่อน แล้วฉันต้องไปด้วยน่ะ""เลยจะให้ฉันไปเป็นเพื่อน?""ฉลาดมากน้องชาย""ไม่" อีริคปฏิเสธ"ไม่อะไรกัน ไปเหอะนะ ไปนะน้องชายพี่""อย่ามาทำให้รำคาญ" อีริคปัดมือซินซินออกจากแขน "เพื่อนเธอก็มี ชวนมันไปดิ""ไม่เอา เดี๋ยวพ่อดุเอา""นี่..." อีริคชี้หน้าซินซิน "กับกูไม่เกรงใจ แต่กับไอ้เพื่อนคนนั้นกลับเกรงใ
บทที่ 9 สำออยหลังจากกินข้าวเสร็จ อีริคก็ขอตัวกลับก่อนซึ่งซินซินก็ขอติดรถกลับมาด้วย"ใจคอจะไม่อยู่คุยกับพ่อเธอหน่อยเหรอ""คุยอะไรอีก ในโต๊ะอาหารนายก็ดูออกว่าพ่อเหน็บแนมฉันเรื่องงานแค่ไหน อยู่ต่อก็คงถูกตำหนิอีกเหมือนเคย" หญิงสาวทำหน้าเบื่อหน่ายขั้นสุด "ขอบใจนะ ถ้านายไม่มาด้วย ป่านนี้คงถูกพ่อดุไปหลายยก""ถ้าเป็นฉันนะ..." อีริคไม่พูดอะไรต่อ เขาเพียงเลียริมฝีปากตัวเองแล้วเปิดประตูก้าวขึ้นรถ ส่วนซินซินหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องที่เดินตามมา บอกพวกเขาว่าไม่ต้องตามเธอกับอีริค"แล้วนี่จะไปไหนต่อ""บ้าน คอนโดฯ คลับ นั่งกินไวน์ชิลๆ""สรุป?""ไม่บอก""เออ"ซินซินหันไปมองนอกกระจก ก่อนจะพึมพำเสียงอ่อน"ถ้าฉันเกิดมาเป็นผู้ชายคงดีนะ""ทำไมคิดแบบนั้น เกิดเป็นผู้หญิงไม่ดีตรงไหน""..." เธอไม่ตอบแถมยังทำหน้ามุ่ยใส่เขาอีก หากให้อธิบายว่าทำไม คงต้องจอดรถคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว และไม่รู้ว่าจะจบที่ตรงไหน เกิดมาในตระกูลคนจีนแท้ ต้นตระกูลก็อยากให้ลูกผู้ชายสืบทอดนามสกุล แต่เธอดันเกิดมาเป็นผู้หญิงนี่สิครืด~ ครืด~โทรศัพท์อีริคสั่นสะเทือนอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขาล้วงหยิบออกมากดรับสาย ทว่าโทรศัพท์กลับเชื่อมต่อกับรถทำใ
บทที่ 10 แขกVVIPช่วงเที่ยงวันอีริคปิดแฟ้มเอกสารแสนน่าเบื่อ ที่รั้งให้เขาต้องนั่งอยู่ในโต๊ะมานานสองนานด้วยความเมื่อยล้า"อาหารเที่ยงพร้อมแล้วครับนาย จะกินตอนนี้เลยไหมครับ""อืม เสร็จแล้วก็ไปเอามอร์แกนออกมาด้วย""มอร์แกนพร้อมแล้วครับ แต่เดี๋ยวบ่ายนี้ต้องเข้าสปาขนกับตัดแต่งเล็บเท้า""อืม" อีริคหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบเพื่อผ่อนคลายระหว่างเดินไปที่โต๊ะอาหารที่อยู่อีกห้องหนึ่ง และมันต้องเดินผ่านห้องที่คนโปรดพักอยู่ด้วย เขาหยุดเดินแล้วพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก จากนั้นจึงเปิดประตูเข้าไปด้านใน"คุณอีริค" คนโปรดรีบดึงเสื้อเชิ้ตที่ติดกระดุมไม่เรียบร้อยขึ้นมาปกปิดหน้าอก "ที่นี่เป็นของคุณอีริคเหรอคะ""พอฟื้นขึ้นมาได้ ความอยากรู้อยากเห็นก็ทำงานเลยนะ" ชายหนุ่มเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียง พร้อมกับพ่นควันสีขาวออกจากปาก ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้องคนโปรดปิดปากปิดจมูกไอแค่ก ๆ ทั้งกลิ่นฉุนละควันของบุหรี่ที่อีริคจงใจพ่นออกมาทำให้เธอสำลักจนหน้าแดง"ออกไป" เขาสั่งพาเวลให้ออกไปจากห้อง ทันทีที่ประตูปิดสนิท อีริคก็หันไปมองหญิงสาว เขาลุกขึ้นเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียงขนาดหกฟุต"อ๊ะ! คะ คุณอีริค" ข้อมือข้างที่เสียบน้ำเกลือถูกเข
บทที่ 11 แค่ของเล่น“นี่! ใจคอนายจะไม่กลับไปทำงานจริงเหรอวะริค” ซินซินขมวดคิ้วมองท่าทางนิ่งเงียบของน้องชายด้วยความไม่เข้าใจ อีริคทำตัวชิลมาก ทั้งที่งานที่บริษัทท่วมหัว แถมพวกที่ชอบพูดจาถากถางเขาก็คอยซ้ำเติมอยู่ไม่น้อยอีริคหันมามองหน้าซินซินแล้วพรูลมหายใจออกด้วยอาการเหนื่อยหน่ายใจ มีเธออยู่ข้างกายเหมือนเขากำลังเลี้ยงนกแก้วมาคอว์อย่างไรอย่างนั้น มันคอยตามติดพูดเจื้อยแจ้วถาม ไต่ถามรายละเอียดน่ารำคาญใจมากเขาควบม้าวิ่งออกห่างจากซินซิน แล้วพามอร์แกนเข้าไปในลานซ้อมวิ่งในอาคาร ส่วนซินซินก็บังคับม้าตามหลังมา ทว่าตอนนั้นสายตาเธอกลับเหลือบเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างผอมเพรียวยืนอยู่ที่ระเบียงห้องพักแขกซึ่งอีริคไม่ได้เปิดให้ใครเข้ามาพักที่นี่นานแล้ว“นั่นใคร” ซินซินก้มมองหน้าลูกน้องอีริคที่กำลังจูงสายบังคับม้าเธออยู่ เขามีท่าทีอ้ำอึ้งเล็กน้อย เหมือนไม่อยากตอบคำถามเธอ แต่นั่นยิ่งทำให้ซินซินสงสัย “แขกวีวีไอพีของริคเหรอ”“ครับ” คราวนี้ลูกน้องหนุ่มพยักหน้าตอบอย่างรวดเร็ว ซินซินแสยะยิ้มมุมปาก เธอแสร้งทำเป็นไม่เห็น จากนั้นก็พาโซลาร์ไปเดินเล่นกระทั่งถึงสี่โมงเย็นของวัน“ฉันขอค้างที่นี่นะ ไม่อยากกลับไปหาเตี
บทที่ 12 ตำแหน่งของเล่นชิ้นโปรดคนโปรดนั่งเงียบด้วยความที่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แม้ว่าซินซินจะเอ่ยถามเธออยู่บ่อยครั้ง แต่คนที่ตอบแทนกลับเป็นอีริค“อ๊ะ!” รู้สึกว่าแขนที่ถือถุงน้ำเกลืออยู่มันเริ่มปวดหนึบ เธอเผลอร้องออกไปเบา ๆ แล้วรีบก้มหน้า ตอนนี้เธออยากกลับเข้าไปพักผ่อนในห้องแล้ว และถ้าอยู่ต่อก็คงหนีไม่พ้นถูกด้อยค่าด้วยคำพูดเหน็บแนบของอีริค ไม่มีสิทธิ์โกรธ เพราะชีวิตอยู่ในกำมือเขาแล้ว หากอีริคยังมีความปรานีอยู่บ้างเธอคงรอดพ้นจากคมกระสุน“พาเวลนายยืนนิ่งอยู่ทำไมเนี่ย”พาเวลรีบสั่งให้ลูกน้องเข้าไปเอาที่แขวนถุงน้ำเกลือออกมาให้คนโปรด“โปรดกลับไปพักก็ได้นะคะ คุณ ๆ จะได้พักผ่อนโดยไม่ต้องมีโปรดให้รำคาญตา”“อ๋อ ที่แท้ก็คนโปรดนี่เอง”“คะ?”“เปล่าหรอก ว่าแต่เธอ...ป่วยเป็นอะไร”“ไข้หวัดธรรมดาค่ะ”“ใครใช้ให้เธอพูด ฉันสั่งตั้งแต่เมื่อไหร่”“...”!“จะดุเธอทำไม”“อย่า ยุ่ง” อีริคกดเสียงต่ำปรามซินซินอย่างจริงจัง และเธอก็รับรู้ด้วยว่าน้องชายกำลังเอาจริงอยู่ จึงไม่เซ้าซี้ “พาเธอเข้าไป” อีริคหันไปสั่งพาเวลให้พาตัวคนโปรดเข้าไปในห้องรับรองแขกคนตัวเล็กเดินนวยนาดมานั่งลงบนโซฟา ถอนหายใจออกอย่างนึกเสียดาย “เกือบ
บทที่ 13 ออดอ้อนนานหลายนาทีที่ภายในห้องอบอวลไปด้วยความกดดันจากอีริค ยิ่งเขาเงียบยิ่งดีแต่สำหรับคนโปรดนั้นไม่ใช่แบบนั้นเลย ยิ่งเขาเอาแต่เงียบและจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เธอก็ยิ่งหวาดหวั่นจนขนอ่อนตามร่างกายลุกเกลียว“เธอนอนบนโซฟาไป”“คะ คุณอีริคไปไหนเหรอคะ นอนด้วยกันก็ได้นะคะ” พอหันมองพื้นที่ว่างบนโซฟาเธอก็นึกขึ้นได้ว่าคงไม่เพียงพอสำหรับคนสองคนนอนด้วยกัน“...” อีริคไม่ได้พูดอะไร เขาลุกออกมาจากเก้าอี้ ย่างสามขุมเข้ามาหาคนโปรด จากนั้นก็จับเสาแขวนถุงน้ำเกลือเธอแน่น ทำเอาคนโปรดตัวแข็งทื่อราวกับลูกแกะตัวน้อยถูกผูกไว้กับหลัก ยิ่งเขาโน้มตัวลงมาหา หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นระรัวจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมาเต้นนอกเบ้าพรึบ!ฝ่ามือหนาผลักไหล่มนไม่แรงนัก เธอไม่ทันตั้งตัวล้มลงบนโซฟา“อย่าลุก ถ้าเธอลุกขึ้นมาแสดงว่าเธอกำลังดื้อและต่อต้านฉัน”“ค่ะ” คนโปรดไม่กล้าสบตากับอีริคจึงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น ส่วนเขาเดินออกไปข้างนอกและไม่กลับเข้ามาอีก กระทั่งถึงเช้าของวันใหม่นายแพทย์หนุ่มเจ้าของคนไข้เดินเข้ามาในห้องรับรองแขกด้วยรอยยิ้มหวานเช่นเคย เขาทำการตรวจคนโปรดอย่างละเอียดดีแล้วก็จัดยาให้เธอกินตามอาการ และวันนี้ก็ถอ