บทที่ 31 สิ่งที่อยากเป็น NCเหมือนเวลาถูกหยุดไว้ อีริคหลับตาและรับจูบจากคนตัวเล็กอย่างเต็มใจ สัมผัสอุ่นจากริมฝีปากจิ้มลิ้มยังคงตราตรึงอยู่บนริมฝีปากเขาขณะที่คนโปรดผละริมฝีปากออกไปได้ครู่หนึ่งแล้ว“โปรดไม่รู้ว่าต้องเอาตัวเองไปไว้ตรงไหนถึงจะถูกใจคุณริค โปรดขอโทษนะคะที่คิดมากเกินไป โปรดจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองให้เร็วที่สุด” เธอผินหน้าหนีแต่ก็ถูกอีริคจับใบหน้าหันมามองสบตากันเหมือนเดิม“เธอบอกเธอขอโทษฉันเพราะมีความรู้สึกเกินเลยกับฉันงั้นเหรอ”“ค่ะ โปรดรู้ว่ามันไม่ควรเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ โปรดขะ...” ริมฝีปากเธอถูกครอบครองโดยริมฝีปากของอีริค รสจูบแสนนุ่นนวลนี้อีริคเป็นฝ่ายที่มอบให้คนโปรดเองเนินนานที่เขากับคนโปรดช่วงชิงลมหายใจของกันและกันท่ามกลางความเงียบที่เกิดขึ้น มีเพียงเสียงหายใจของทั้งสองที่สอดประสานกันดังขึ้น“เธอไม่ผิดที่คิดแบบนี้”“โปรดควรจัดการกับมันยังไงดีคะ” คนโปรดเงยหน้ามองอีริคด้วยแววตาสั่นระริก เธอไม่รู้ว่าจะจัดการกับตัวเองยังไง ในเมื่อเผลอใจคิดกับเขามากกว่าสถานะที่ให้ไว้ รู้ทั้งรู้ว่าสถานะตัวเองเป็นได้แค่ไหน แต่ใจมันก็ยังดื้อรั้น “โปรด...” นิ้วชี้ของอีริคแตะลงที่ริมฝีปากเธอ ก่อ
บทที่ 32 ไม่รู้ใจตัวเองคนโปรดนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงหลังจากที่อีริคใช้ให้มาสำนึกผิด และคิดทบทวนว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง ก่อนที่เขาจะกลับจากทำงานเธอต้องรู้ว่าตัวเองทำอะไรไว้“ฉันตบคุณริคเหรอ หรือว่าด่าเขาเสีย ๆ หาย ๆ” จำได้แค่ว่ากำลังนั่งดื่มกับซินซินอยู่เท่านั้น และหลังจากนั้นเธอก็ฝัน... “หรือว่าไม่ใช่ความฝัน หรือว่าเรา” ทั้งอยากดึงทึ่งผมตัวเอง ทั้งอยากก่นด่าในความโง่เขลานี้ “นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย”หลายนาทีต่อมา“นี่ ทำไมทำหน้าไร้อารมณ์แบบนี้อะ” ซินซินเอานิ้วจิ้มต้นแขนคนโปรด วันนี้เธอได้รับคำสั่งจากน้องชายให้มาอยู่เป็นเพื่อนคนโปรดระหว่างที่อีริคออกไปทำงานอีกวัน“โปรดทำไม่ดีกับคุณริคค่ะ เมื่อวานโปรด...ดื้อกับเขา”“ดื้อเหรอ ดื้อแบบไหน”“ก็...” คนโปรดถอนหายใจ จากนั้นก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ซินซินฟัง ทำเอาคนฟังระเบิดเสียงหัวเราะชอบอกชอบใจออกมา“เก่งอะ เก่งมากเลยโปรด”“เก่งเหรอคะ”“ใช่ เก่งมากที่กล้าต่อปากต่อคำกับริค และเก่งมากที่ดื้อกับมัน” คนเป็นพี่ยิ้มขบขัน รู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่คนโปรดทำกับอีริคมาก“แต่คุณริคจะกลับมาลงโทษโปรดนะคะ โปรดกลัว”“นี่ ไม่ต้องกลัวไปหรอก เพราะไอ้บ้านั่นมันไ
บทที่ 33 เป็นห่วง18:40 น.อีริคกับซินซินกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารเย็น เมนูวันนี้เป็นบาบีคิวซี่โครงแกะย่าง และมีสลัดผักผลไม้เพิ่มมาอีกหนึ่งเมนูเพราะคนโปรดบอกอยากกิน“โปรดอยากช่วย” เธอเดินเข้ามาหาอีริคซึ่งชายหนุ่มได้ใช้ตัวเขาเองดันตัวคนโปรดออกห่างจากเตาบาบีคิวร้อน ๆ พร้อมกับมองเธอด้วยสายตาดุ “ไม่ได้เหรอคะ เผื่อจะเร็วขึ้นไง”“เร็วหรือช้ากันแน่ ไปนั่งรอก็พอแล้ว” เขาใช้แขนกันตัวคนโปรดออกแล้วบุ้ยปากไปที่เก้าอี้สนามด้านหลัง เธอจำใจเดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อไม่ให้กีดขวางการหยิบจับเครื่องปรุงของอีริคกับซินซิน “แค่อยากช่วย...”“ช่วยอยู่เฉย ๆ จะดีกว่าจ้ะคนสวย เดี๋ยวตรงนี้พวกพี่ทำเอง ได้กินเร็วสมใจแน่นอน”“ค่ะ งั้น...สู้ ๆ นะคะพี่ซิน” คนโปรดให้กำลังใจซินซินแต่จังหวะนั้นอีริคหันมามองเธอพอดี คนโปรดจึงยิ้มให้อีริคและบอกเขาโดยไม่ออกเสียงว่า 'สู้ๆ' อีริคเลิกคิ้วกลับแล้วหันกลับไปทำอาหารต่อแต่การได้นั่งดูอีริคทำอาหารแบบนี้ก็เพลินดีเหมือนกัน เธอไม่เคยรู้เลยว่าอีริคก็ทำอาหารเก่ง แถมยังหยิบจับเครื่องปรุงทุกอย่างอย่างทะมัดทะแมงอีกต่างหาก“ลองชิมสลัดไหม พี่ทำน้ำสลัดเองเลยนะโปรด” ซินซินเอ่ยถามโดยที่ยังง่วนอย
บทที่ 34 เอาคืนอีริคปลอบประโลมคนโปรดด้วยการรั้งตัวเธอเข้ามากอดแนบกาย ใช้ความอบอุ่นจากร่างกายตัวเองสัมผัสเธอ ให้รู้ว่าเขาพูดจริงว่าจะไม่เป็นอะไร และจะกลับมาหาเธอตามที่บอกไว้“เธออยากไปจากที่นี่ไหม”“ทำไมถามแบบนี้คะ” เธอเงยหน้ามองอีริคด้วยความประหลาดใจในคำถามเขา “อยากให้โปรดกลับไปอยู่กับเสี่ยเหรอคะ”“เปล่า ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอคิดอยากจะออกไปจากที่นี่ไหม” อีริคก้มมองสร้อยข้อมือคนโปรดที่ใส่ไม่ยอมถอดตั้งแต่วันที่เขาสวมใส่ให้เธอ เขาเองก็ไม่เคยถอดมันเหมือนกัน“ไม่อยากไปไหนค่ะ”“หากวันหนึ่งที่เธอจำเป็นต้องไปจากฉัน ถึงวันนั้นฉันจะคืนอิสระให้เธอ”“ทำไมพูดแบบนี้ โปรดงอนคุณริคจริง ๆ แล้วนะคะ”“งอนอะไรฉัน ก็พูดเผื่อเอาไว้”หญิงสาวส่ายหน้าพัลวันพร้อมกับยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากหนา“ห้ามพูดแบบนี้ โปรดรอคุณริคกลับมาอยู่ค่ะ รีบกลับมาหาโปรดอย่างปลอดภัยนะคะ โปรดจะรอฟังข่าวดี”“หึหึ เธอนี่นะ” ฝ่ามือหนาลูบศีรษะคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู “ฉันไม่เคยเอ็นดูใครมากขนาดนี้มาก่อน นับว่าเธอประสบผลสำเร็จแล้วที่ทำให้ฉันเอ็นดูได้”“ค่ะ”“อาบน้ำแล้วเข้านอน อย่านอนดึกเข้าใจไหม”“ค่ะ”อีริคลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จากนั้นจึงหันกล
บทที่ 35 คนสำคัญของอีริคอีริคเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องทรมาน ก่อนจะก้มมองข้อมือตัวเอง หัวใจแกร่งกระตุกวูบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อสร้อยข้อมือหายไป“พาเวล!” เสียงเข้มตะโกนเรียกลูกน้อง ขณะที่พาเวลกำลังจะลงมือปลิดชีพลูกน้องเสี่ยธวัตร เขาเงยหน้ามองออกไปนอกประตูแล้วให้ลูกน้องจัดการต่อ เมื่อเดินออกมาแล้วก็เห็นว่าอีริคกำลังจะขับรถออกไปข้างนอก เขาจึงวิ่งไปขวางทางรถไว้ได้ทัน“จะไปไหนครับนาย”“ขึ้นรถกับกู”“ครับ” พาเวลรีบขึ้นมาบนรถ จากนั้นอีริคก็รีบขับมุ่งหน้าไปที่ไหนก็ไม่ทราบได้ ทว่าขับมาไกลพอสมควรแล้วพาเวลถึงได้รู้ว่าอีริคกลับมาที่เดิมที่เพิ่งจัดการกับลูกน้องเสี่ยธวัตรไป เหล่าลูกน้องเขาที่กำลังเก็บกวาดสถานที่อยู่ต่างมองมาที่เจ้านายด้วยความมึนงงพาเวลมองท่าทางร้อนใจของอีริคแต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมาก“นายกลับมาทำไมครับ”“สร้อยข้อมือ” อีริคเท้าเอวมองไปที่พื้น “สร้อยข้อมือ” มาถึงตอนนี้เขาถึงร้องอ๋อในใจดังมาก เมื่อข้อมืออีริคว่างเปล่า “มันหายเหรอครับ”“อืม”“ก็แค่สร้อยข้อมือธรรมดานี่ครับ สนใจทำไม” พาเวลลอบยกยิ้มกับปฏิกิริยาของอีริคหลังจากที่เขาพูดจบประโยคนั้น “นายซื้อใหม่ได้เป็นร้อย ๆ เส้น”“ไม่เหมือน
บทที่ 36 ยกให้วันต่อมา @สนามม้า“นั่งอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้วเนี่ย พี่ว่าเข้าห้องดีกว่าไหมคนสวย เดี๋ยวฝนก็ตกแล้ว” ใช่ วันนี้ทั้งวันท้องฟ้าอึมครึมมาก ไม่มีแม้แสงแดดสาดส่องลงมา กลิ่นไอฝนคละเคล้ามากับสายลมที่พัดโกรกใบหน้าคนโปรดเรื่อย ๆ เหตุผลที่เธอมานั่งอยู่ตรงนี้เพราะรออีริคกลับมาหาอยู่ นี่เขาก็เงียบหายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่มีข่าวคราวจากลูกน้องหรือใครให้เธอได้คลายกังวลเลย“พี่ซินเข้าไปก่อนเลยค่ะ โปรดว่าจะนั่งอยู่ตรงนี้อีกนิด”“...” ซินซินมองไปตามสายตาของหญิงสาว เมื่อรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของคนโปรดแล้วเธอจึงนั่งลงข้าง ๆ กับคนโปรด “ริคมันก็เป็นแบบนี้แหละ หายไปบ้าง ทำงานแบบบ้าคลั่งบ้าง จนบางทีก็ลืมนึกถึงคนข้างหลัง เพราะแบบนี้มันถึงไม่เอาตัวเองไปผูกมัดกับใคร พี่เคยถามมันนะว่าทำไมไม่มีแฟนสักที มันก็ตอบกลับมาว่าไม่อยากเอาตัวเองไปผูกมัดกับใคร และไม่ชอบให้ใครเป็นเจ้าชีวิต”“โปรดควรถอยออกมาจากจุดนั้นไหมคะ จุดที่ทำให้คุณริคไม่สบายใจ”“นี่เราไม่รู้จริงเหรอว่าตัวเองอยู่จุดไหนของวงโคจรชีวิตของริคมันน่ะ”“...”?“หึหึ เด็กน้อยของพี่” เธอรู้สึกเอ็นดูคนโปรดเหมือนน้องสาวจริง ๆ “ไร้เดียงสาจริง ๆ ถึงว่
บทที่ 37 ไม่ปฏิเสธข่าวลือ11:00อีริคยืนมองวิวสนามม้าอยู่ที่ระเบียงห้องในเวลาห้าโมงเช้าขณะรอคนโปรดเก็บของเตรียมกลับไปพักที่บ้านเขา“เสร็จแล้วค่ะ” เธอยิ้มแป้นเดินออกมาบอกอีริค “กลับเลยไหมคะ”“อืม” ชายหนุ่มหันหลังเดินเข้ามาในห้องพักอีกครั้งแล้วสั่งให้ลูกน้องนำของใช้ของคนโปรดไปขึ้นรถระหว่างนั่งรถที่เดินทางกลับไปที่บ้านอีริค คนโปรดเทียวหันมองหน้าชายหนุ่มจนอีริคต้องเชยปลายคางเธอขึ้นมาสบตากันตรง ๆ“มีอะไร หน้าฉันมันน่ามองขนาดนั้นเหรอ” คนตัวเล็กรีบส่ายหน้าพัลวัน แล้วอธิบายให้อีริคเข้าใจ“โปรดแค่งงกับคุณริคค่ะ คุณริคกำลังคิดอะไรอยู่หรือเปล่าคะ”“ฉันไม่เคยคิดอะไร ทำทุกอย่างที่อยากทำเท่านั้น”“ค่ะ”“อย่าคิดมาก คิดมากแล้วมันจะปวดหัว”“ค่ะ” รอยยิ้มหวานค่อย ๆ เลือนหายไปจากใบหน้าสวยกับคำตอบที่ได้รับ แววตาดุดันคู่นั้นแม้จะมีความอ่อนโยนเข้ามาแทรกบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความดุดันและแข็งกร้าว อีริคก็ยังเป็นอีริคคนเดิมที่เดาอารมณ์ได้ยากมาก เขาทำทุกอย่างตามอำเภอใจตัวเองอย่างที่พูด ไม่ได้ทำตามความรู้สึกสักหน่อย “โปรดเป็นคนแรกหรือเปล่าคะ ที่คุณริคพาเข้าบ้าน” คราวนี้อีริคหันมามองหน้าหญิงสาว“หึหึ เธอถามอะไร
บทที่ 38 เผื่อฉันไม่อยู่คนโปรดเอาหูแนบที่ประตูห้องนอนตัวเองและฟังเสียงฝีเท้าของอีริค เมื่อครู่เธอได้ยินเสียงประตูเปิดและเสียงเอะอะโวยวายอยู่ชั้นล่าง เสียงคนคนนั้นคุ้นหูมาก แต่ก็ไม่อยากคิดบ้า ๆ ว่านั่นเสียงพาเวลแกรก..พรึบ!คนที่ยืนเอาหูแนบประตูอยู่แทบหงายหลังเมื่ออีริคเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาในห้อง เธอไม่ได้ยินเสียงเท้าเขาและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีริคมาตอนไหน“ยืนแอบฟังอะไร”“ปะ เปล่า”“จับได้ขนาดนี้ยังจะโกหกอีก”“ก็...”“ช่างเถอะ แล้วเมื่อคืนเธอนอนที่นี่เป็นยังไงบ้าง เจออะไรไหม”“อะไรเหรอ”“ก็...”น้ำเสียงและสีหน้าของอีริคกำลังทำให้คนโปรดรู้สึกหลอนอยู่ไม่น้อย เธอมองไปทั่วห้องพักแล้วเขยิบเข้าไปกอดแขนแกร่งไว้“อย่าบอกนะคะว่าห้องนี้มีผี”“หึหึ รู้ได้ยังไง”“กรี๊ด!!”“อ๊า!” อีริคยกมือขึ้นมาปิดหูแทบไม่ทัน เสียงแหลมปรี๊ดของคนโปรดรบกวนโสตประสาทเขามาก ๆ“อุ๊บ!” ฝ่ามือหนาปิดปากเธอไว้แน่น“หยุดร้องและมีสติหน่อย”“ก็โปรดกลัวผี”“กลัวฉันไม่ดีกว่าเหรอวะ” อีริคส่ายหน้าพรืดหนึ่ง“...”!“ตื่นแล้วก็ดี แม่บ้านทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว ลงไปกินข้าวให้ตรงเวลาด้วย”“ค่ะ”“แล้ววันนี้คุณริคจะไปไหนไหมคะ” ดวงตาใสแป๋วเ