บทที่ 31 สิ่งที่อยากเป็น NCเหมือนเวลาถูกหยุดไว้ อีริคหลับตาและรับจูบจากคนตัวเล็กอย่างเต็มใจ สัมผัสอุ่นจากริมฝีปากจิ้มลิ้มยังคงตราตรึงอยู่บนริมฝีปากเขาขณะที่คนโปรดผละริมฝีปากออกไปได้ครู่หนึ่งแล้ว“โปรดไม่รู้ว่าต้องเอาตัวเองไปไว้ตรงไหนถึงจะถูกใจคุณริค โปรดขอโทษนะคะที่คิดมากเกินไป โปรดจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองให้เร็วที่สุด” เธอผินหน้าหนีแต่ก็ถูกอีริคจับใบหน้าหันมามองสบตากันเหมือนเดิม“เธอบอกเธอขอโทษฉันเพราะมีความรู้สึกเกินเลยกับฉันงั้นเหรอ”“ค่ะ โปรดรู้ว่ามันไม่ควรเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ โปรดขะ...” ริมฝีปากเธอถูกครอบครองโดยริมฝีปากของอีริค รสจูบแสนนุ่นนวลนี้อีริคเป็นฝ่ายที่มอบให้คนโปรดเองเนินนานที่เขากับคนโปรดช่วงชิงลมหายใจของกันและกันท่ามกลางความเงียบที่เกิดขึ้น มีเพียงเสียงหายใจของทั้งสองที่สอดประสานกันดังขึ้น“เธอไม่ผิดที่คิดแบบนี้”“โปรดควรจัดการกับมันยังไงดีคะ” คนโปรดเงยหน้ามองอีริคด้วยแววตาสั่นระริก เธอไม่รู้ว่าจะจัดการกับตัวเองยังไง ในเมื่อเผลอใจคิดกับเขามากกว่าสถานะที่ให้ไว้ รู้ทั้งรู้ว่าสถานะตัวเองเป็นได้แค่ไหน แต่ใจมันก็ยังดื้อรั้น “โปรด...” นิ้วชี้ของอีริคแตะลงที่ริมฝีปากเธอ ก่อ
บทที่ 32 ไม่รู้ใจตัวเองคนโปรดนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงหลังจากที่อีริคใช้ให้มาสำนึกผิด และคิดทบทวนว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง ก่อนที่เขาจะกลับจากทำงานเธอต้องรู้ว่าตัวเองทำอะไรไว้“ฉันตบคุณริคเหรอ หรือว่าด่าเขาเสีย ๆ หาย ๆ” จำได้แค่ว่ากำลังนั่งดื่มกับซินซินอยู่เท่านั้น และหลังจากนั้นเธอก็ฝัน... “หรือว่าไม่ใช่ความฝัน หรือว่าเรา” ทั้งอยากดึงทึ่งผมตัวเอง ทั้งอยากก่นด่าในความโง่เขลานี้ “นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย”หลายนาทีต่อมา“นี่ ทำไมทำหน้าไร้อารมณ์แบบนี้อะ” ซินซินเอานิ้วจิ้มต้นแขนคนโปรด วันนี้เธอได้รับคำสั่งจากน้องชายให้มาอยู่เป็นเพื่อนคนโปรดระหว่างที่อีริคออกไปทำงานอีกวัน“โปรดทำไม่ดีกับคุณริคค่ะ เมื่อวานโปรด...ดื้อกับเขา”“ดื้อเหรอ ดื้อแบบไหน”“ก็...” คนโปรดถอนหายใจ จากนั้นก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ซินซินฟัง ทำเอาคนฟังระเบิดเสียงหัวเราะชอบอกชอบใจออกมา“เก่งอะ เก่งมากเลยโปรด”“เก่งเหรอคะ”“ใช่ เก่งมากที่กล้าต่อปากต่อคำกับริค และเก่งมากที่ดื้อกับมัน” คนเป็นพี่ยิ้มขบขัน รู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่คนโปรดทำกับอีริคมาก“แต่คุณริคจะกลับมาลงโทษโปรดนะคะ โปรดกลัว”“นี่ ไม่ต้องกลัวไปหรอก เพราะไอ้บ้านั่นมันไ
บทที่ 33 เป็นห่วง18:40 น.อีริคกับซินซินกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารเย็น เมนูวันนี้เป็นบาบีคิวซี่โครงแกะย่าง และมีสลัดผักผลไม้เพิ่มมาอีกหนึ่งเมนูเพราะคนโปรดบอกอยากกิน“โปรดอยากช่วย” เธอเดินเข้ามาหาอีริคซึ่งชายหนุ่มได้ใช้ตัวเขาเองดันตัวคนโปรดออกห่างจากเตาบาบีคิวร้อน ๆ พร้อมกับมองเธอด้วยสายตาดุ “ไม่ได้เหรอคะ เผื่อจะเร็วขึ้นไง”“เร็วหรือช้ากันแน่ ไปนั่งรอก็พอแล้ว” เขาใช้แขนกันตัวคนโปรดออกแล้วบุ้ยปากไปที่เก้าอี้สนามด้านหลัง เธอจำใจเดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อไม่ให้กีดขวางการหยิบจับเครื่องปรุงของอีริคกับซินซิน “แค่อยากช่วย...”“ช่วยอยู่เฉย ๆ จะดีกว่าจ้ะคนสวย เดี๋ยวตรงนี้พวกพี่ทำเอง ได้กินเร็วสมใจแน่นอน”“ค่ะ งั้น...สู้ ๆ นะคะพี่ซิน” คนโปรดให้กำลังใจซินซินแต่จังหวะนั้นอีริคหันมามองเธอพอดี คนโปรดจึงยิ้มให้อีริคและบอกเขาโดยไม่ออกเสียงว่า 'สู้ๆ' อีริคเลิกคิ้วกลับแล้วหันกลับไปทำอาหารต่อแต่การได้นั่งดูอีริคทำอาหารแบบนี้ก็เพลินดีเหมือนกัน เธอไม่เคยรู้เลยว่าอีริคก็ทำอาหารเก่ง แถมยังหยิบจับเครื่องปรุงทุกอย่างอย่างทะมัดทะแมงอีกต่างหาก“ลองชิมสลัดไหม พี่ทำน้ำสลัดเองเลยนะโปรด” ซินซินเอ่ยถามโดยที่ยังง่วนอย
บทที่ 34 เอาคืนอีริคปลอบประโลมคนโปรดด้วยการรั้งตัวเธอเข้ามากอดแนบกาย ใช้ความอบอุ่นจากร่างกายตัวเองสัมผัสเธอ ให้รู้ว่าเขาพูดจริงว่าจะไม่เป็นอะไร และจะกลับมาหาเธอตามที่บอกไว้“เธออยากไปจากที่นี่ไหม”“ทำไมถามแบบนี้คะ” เธอเงยหน้ามองอีริคด้วยความประหลาดใจในคำถามเขา “อยากให้โปรดกลับไปอยู่กับเสี่ยเหรอคะ”“เปล่า ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอคิดอยากจะออกไปจากที่นี่ไหม” อีริคก้มมองสร้อยข้อมือคนโปรดที่ใส่ไม่ยอมถอดตั้งแต่วันที่เขาสวมใส่ให้เธอ เขาเองก็ไม่เคยถอดมันเหมือนกัน“ไม่อยากไปไหนค่ะ”“หากวันหนึ่งที่เธอจำเป็นต้องไปจากฉัน ถึงวันนั้นฉันจะคืนอิสระให้เธอ”“ทำไมพูดแบบนี้ โปรดงอนคุณริคจริง ๆ แล้วนะคะ”“งอนอะไรฉัน ก็พูดเผื่อเอาไว้”หญิงสาวส่ายหน้าพัลวันพร้อมกับยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากหนา“ห้ามพูดแบบนี้ โปรดรอคุณริคกลับมาอยู่ค่ะ รีบกลับมาหาโปรดอย่างปลอดภัยนะคะ โปรดจะรอฟังข่าวดี”“หึหึ เธอนี่นะ” ฝ่ามือหนาลูบศีรษะคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู “ฉันไม่เคยเอ็นดูใครมากขนาดนี้มาก่อน นับว่าเธอประสบผลสำเร็จแล้วที่ทำให้ฉันเอ็นดูได้”“ค่ะ”“อาบน้ำแล้วเข้านอน อย่านอนดึกเข้าใจไหม”“ค่ะ”อีริคลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จากนั้นจึงหันกล
บทที่ 35 คนสำคัญของอีริคอีริคเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องทรมาน ก่อนจะก้มมองข้อมือตัวเอง หัวใจแกร่งกระตุกวูบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อสร้อยข้อมือหายไป“พาเวล!” เสียงเข้มตะโกนเรียกลูกน้อง ขณะที่พาเวลกำลังจะลงมือปลิดชีพลูกน้องเสี่ยธวัตร เขาเงยหน้ามองออกไปนอกประตูแล้วให้ลูกน้องจัดการต่อ เมื่อเดินออกมาแล้วก็เห็นว่าอีริคกำลังจะขับรถออกไปข้างนอก เขาจึงวิ่งไปขวางทางรถไว้ได้ทัน“จะไปไหนครับนาย”“ขึ้นรถกับกู”“ครับ” พาเวลรีบขึ้นมาบนรถ จากนั้นอีริคก็รีบขับมุ่งหน้าไปที่ไหนก็ไม่ทราบได้ ทว่าขับมาไกลพอสมควรแล้วพาเวลถึงได้รู้ว่าอีริคกลับมาที่เดิมที่เพิ่งจัดการกับลูกน้องเสี่ยธวัตรไป เหล่าลูกน้องเขาที่กำลังเก็บกวาดสถานที่อยู่ต่างมองมาที่เจ้านายด้วยความมึนงงพาเวลมองท่าทางร้อนใจของอีริคแต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมาก“นายกลับมาทำไมครับ”“สร้อยข้อมือ” อีริคเท้าเอวมองไปที่พื้น “สร้อยข้อมือ” มาถึงตอนนี้เขาถึงร้องอ๋อในใจดังมาก เมื่อข้อมืออีริคว่างเปล่า “มันหายเหรอครับ”“อืม”“ก็แค่สร้อยข้อมือธรรมดานี่ครับ สนใจทำไม” พาเวลลอบยกยิ้มกับปฏิกิริยาของอีริคหลังจากที่เขาพูดจบประโยคนั้น “นายซื้อใหม่ได้เป็นร้อย ๆ เส้น”“ไม่เหมือน
บทที่ 36 ยกให้วันต่อมา @สนามม้า“นั่งอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้วเนี่ย พี่ว่าเข้าห้องดีกว่าไหมคนสวย เดี๋ยวฝนก็ตกแล้ว” ใช่ วันนี้ทั้งวันท้องฟ้าอึมครึมมาก ไม่มีแม้แสงแดดสาดส่องลงมา กลิ่นไอฝนคละเคล้ามากับสายลมที่พัดโกรกใบหน้าคนโปรดเรื่อย ๆ เหตุผลที่เธอมานั่งอยู่ตรงนี้เพราะรออีริคกลับมาหาอยู่ นี่เขาก็เงียบหายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่มีข่าวคราวจากลูกน้องหรือใครให้เธอได้คลายกังวลเลย“พี่ซินเข้าไปก่อนเลยค่ะ โปรดว่าจะนั่งอยู่ตรงนี้อีกนิด”“...” ซินซินมองไปตามสายตาของหญิงสาว เมื่อรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของคนโปรดแล้วเธอจึงนั่งลงข้าง ๆ กับคนโปรด “ริคมันก็เป็นแบบนี้แหละ หายไปบ้าง ทำงานแบบบ้าคลั่งบ้าง จนบางทีก็ลืมนึกถึงคนข้างหลัง เพราะแบบนี้มันถึงไม่เอาตัวเองไปผูกมัดกับใคร พี่เคยถามมันนะว่าทำไมไม่มีแฟนสักที มันก็ตอบกลับมาว่าไม่อยากเอาตัวเองไปผูกมัดกับใคร และไม่ชอบให้ใครเป็นเจ้าชีวิต”“โปรดควรถอยออกมาจากจุดนั้นไหมคะ จุดที่ทำให้คุณริคไม่สบายใจ”“นี่เราไม่รู้จริงเหรอว่าตัวเองอยู่จุดไหนของวงโคจรชีวิตของริคมันน่ะ”“...”?“หึหึ เด็กน้อยของพี่” เธอรู้สึกเอ็นดูคนโปรดเหมือนน้องสาวจริง ๆ “ไร้เดียงสาจริง ๆ ถึงว่
บทที่ 37 ไม่ปฏิเสธข่าวลือ11:00อีริคยืนมองวิวสนามม้าอยู่ที่ระเบียงห้องในเวลาห้าโมงเช้าขณะรอคนโปรดเก็บของเตรียมกลับไปพักที่บ้านเขา“เสร็จแล้วค่ะ” เธอยิ้มแป้นเดินออกมาบอกอีริค “กลับเลยไหมคะ”“อืม” ชายหนุ่มหันหลังเดินเข้ามาในห้องพักอีกครั้งแล้วสั่งให้ลูกน้องนำของใช้ของคนโปรดไปขึ้นรถระหว่างนั่งรถที่เดินทางกลับไปที่บ้านอีริค คนโปรดเทียวหันมองหน้าชายหนุ่มจนอีริคต้องเชยปลายคางเธอขึ้นมาสบตากันตรง ๆ“มีอะไร หน้าฉันมันน่ามองขนาดนั้นเหรอ” คนตัวเล็กรีบส่ายหน้าพัลวัน แล้วอธิบายให้อีริคเข้าใจ“โปรดแค่งงกับคุณริคค่ะ คุณริคกำลังคิดอะไรอยู่หรือเปล่าคะ”“ฉันไม่เคยคิดอะไร ทำทุกอย่างที่อยากทำเท่านั้น”“ค่ะ”“อย่าคิดมาก คิดมากแล้วมันจะปวดหัว”“ค่ะ” รอยยิ้มหวานค่อย ๆ เลือนหายไปจากใบหน้าสวยกับคำตอบที่ได้รับ แววตาดุดันคู่นั้นแม้จะมีความอ่อนโยนเข้ามาแทรกบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความดุดันและแข็งกร้าว อีริคก็ยังเป็นอีริคคนเดิมที่เดาอารมณ์ได้ยากมาก เขาทำทุกอย่างตามอำเภอใจตัวเองอย่างที่พูด ไม่ได้ทำตามความรู้สึกสักหน่อย “โปรดเป็นคนแรกหรือเปล่าคะ ที่คุณริคพาเข้าบ้าน” คราวนี้อีริคหันมามองหน้าหญิงสาว“หึหึ เธอถามอะไร
บทที่ 38 เผื่อฉันไม่อยู่คนโปรดเอาหูแนบที่ประตูห้องนอนตัวเองและฟังเสียงฝีเท้าของอีริค เมื่อครู่เธอได้ยินเสียงประตูเปิดและเสียงเอะอะโวยวายอยู่ชั้นล่าง เสียงคนคนนั้นคุ้นหูมาก แต่ก็ไม่อยากคิดบ้า ๆ ว่านั่นเสียงพาเวลแกรก..พรึบ!คนที่ยืนเอาหูแนบประตูอยู่แทบหงายหลังเมื่ออีริคเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาในห้อง เธอไม่ได้ยินเสียงเท้าเขาและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีริคมาตอนไหน“ยืนแอบฟังอะไร”“ปะ เปล่า”“จับได้ขนาดนี้ยังจะโกหกอีก”“ก็...”“ช่างเถอะ แล้วเมื่อคืนเธอนอนที่นี่เป็นยังไงบ้าง เจออะไรไหม”“อะไรเหรอ”“ก็...”น้ำเสียงและสีหน้าของอีริคกำลังทำให้คนโปรดรู้สึกหลอนอยู่ไม่น้อย เธอมองไปทั่วห้องพักแล้วเขยิบเข้าไปกอดแขนแกร่งไว้“อย่าบอกนะคะว่าห้องนี้มีผี”“หึหึ รู้ได้ยังไง”“กรี๊ด!!”“อ๊า!” อีริคยกมือขึ้นมาปิดหูแทบไม่ทัน เสียงแหลมปรี๊ดของคนโปรดรบกวนโสตประสาทเขามาก ๆ“อุ๊บ!” ฝ่ามือหนาปิดปากเธอไว้แน่น“หยุดร้องและมีสติหน่อย”“ก็โปรดกลัวผี”“กลัวฉันไม่ดีกว่าเหรอวะ” อีริคส่ายหน้าพรืดหนึ่ง“...”!“ตื่นแล้วก็ดี แม่บ้านทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว ลงไปกินข้าวให้ตรงเวลาด้วย”“ค่ะ”“แล้ววันนี้คุณริคจะไปไหนไหมคะ” ดวงตาใสแป๋วเ
ตอนพิเศษ 3 จบตอนจากเด็กน้อยแบเบาะในวันนั้น ตอนนี้น้องกันต์มีอายุครบสาวขวบพอดี เด็กชายในชุดเอื้อมยีนเดินไปหาพ่อตัวเองด้วยรอยยิ้มสดใส ในมือถือของเล่นที่เตรียมมาเล่นกับพ่อด้วย“ป๊า น้องกันต์อยากได้ของเล่นอีกครับ” น้ำเสียงและแววตาสดใสจดจ้องใบหน้าของพ่อที่กำลังนั่งทำงานอยู่กับพาเวล อีริคละสายตาจากหน้าลูกน้องมามองลูกชาย เขาอุ้มน้องกันต์ขึ้นมานั่งบนตักแล้วหอมศีรษะไปหนึ่งฟอด“หนูซื้ิอของเล่นเยอะแล้วเล่นหมดไหมครับ”“...” เด็กชายสั่นหน้า“ของเล่นเยอะแยะเลยลูก อันไหนที่หนูไม่เล่นแล้วป๊าขอเอาไปให้น้องได้ไหม น้องไม่มีของเล่น”“น้อง น้องไหนครับ”“ก็น้องที่เขาไม่มีตังค์ซื้อของเล่นครับ น้องอยู่ไกล ๆ เลย”“ได้ครับ”“งั้นน้องกันต์ไปเก็บของเล่นที่น้องกันต์ไม่เล่นแล้วกับลุงพาเวลนะ เดี๋ยวป๊าทำงานเสร็จป๊าไปหา”“ครับ”อีริคพยักหน้าให้พาเวลพาลูกชายเข้าไปในบ้าน ส่วนเราเร่งทำงานให้เสร็จ“อ้าว” คนโปรดถือจานผลไม้สดที่เธอตั้งใจจะเอาออกไปให้สองพ่อลูกที่หน้าบ้านเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกกับพาเวลเดินกลับเข้ามาในบ้าน“นายให้มาเก็บของเล่นที่คุณหนูไม่เล่นเอาไปบริจาคให้เด็กบนดอยครับ” พาเวลตอบ“อ๋อ ดีมากเลยค่ะ ของเล่นน้องกันต์
ตอนพิเศษ 2สองเดือนต่อมาเสียงอ้อแอ้ของลูกน้อยช่วยปลุกอีริคให้ตื่นจากการนอนพักสายตาในช่วงกลางวัน เขารีบลุกขึ้นมาดูลูก“พี่ริค” คนโปรดมองใบหน้าคมคายที่แสดงออกถึงความง่วงงุนด้วยความเอ็นดู “นอนต่อเถอะค่ะ โปรดดููลูกได้”“ไม่เอา ฉันหายง่วงแล้ว”“น้องกันต์หนูอย่ากวนป๊าสิลูก ป๊าไม่ได้นอนตั้งหลายคืนแล้วนะครับ”“ป๊ายินดีครับลูก” อีริคเขยิบเข้ามาใกล้แล้วก้มลงไปหอมลูกชายที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเบาะ “ตัวหอมจังเลย”“โปรดกับคุณแม่เพิ่งอาบน้ำให้เมื่อกี้เองค่ะ”“ถึงว่าละ ตัวก็หอมหน้าก็ขาว”“หึหึ”“แล้วมีคนมาหาฉันไหม”“ไม่เลยค่ะ พี่ริคนัดใครไว้เหรอคะ”“เปล่าหรอก ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย เผื่อมีคนอยากเจอหน้า”“ค่ะ”“น้องกันต์หลานป้า~” เสียงแหลม ๆ ของซินซินดังมาแต่ไกล แต่น้องกันต์กลับไม่ตกใจแถมยังดีดดิ้นและยิ้มร่าเหมือนว่ากำลังรอเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น “อ้าว” ซินซินเลิกคิ้วทักทายน้องชายแล้วรีบนั่งลง “วันนี้ป้าซินมีชุดหล่อมาฝากด้วยนะคะ”“ชุดแดง”“ใช่ ใกล้ตรุษจีนแล้วผมอยากเป็นอาตี๋น้อยครับ”“หึหึ แล้วอีกชุดล่ะ”“อีกชุดเหรอ” เธอหยิบออกมาจากถุงกระดาษ ทุกคนขำขันเมื่อได้เห็นชุดเต็ม “ชุดหมูน้อยค่า”“ลูกกูไม่ใช่หม
ตอนพิเศษ 1ห้าวันต่อมาหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาอีริคก็ได้พาคนโปรดมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านตัวเองโดยมีฮาน่ากับซินซินช่วยดูแลคนโปรดกับน้องกันต์“หลานป้าหล่อจังเลย เห็นหน้ากันกี่ครั้งก็หลง” ซินซินนั่งเฝ้าหลานชายคนแรกอยู่ข้างเบาะนอนสำหรับเด็กทารกที่เธอซื้อมาให้หลานไม่ห่างไปไหนไกล ส่วนฮาน่ากำลังสอนคนโปรดปั้มนมอยู่อีกที่หนึ่ง“คุณท่านคะ เอ่อ...คุณผู้ชายท่านจะโกรธไหมคะ ที่โปรดกับลูกมาอยู่ที่นี่” สิ่งที่เธอเป็นกังวลมาโดยตลอดก็เรื่องพ่อของอีริค ตั้งแต่ท้องจนคลอดเธอก็ไม่เห็นท่านมาที่นี่สักครั้ง และเหมือนว่าอีริคกับพ่อก็ไม่ค่อยถูกกันด้วย“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เราเพิ่งคลอดลูกอย่าไปเครียดเลย เดี๋ยวน้ำนมจะไม่ไหลเอานะลูก” ฮาน่าปลอบใจคนโปรด อันที่จริงเธอก็เปรย ๆ เรื่องอีริคมีแฟนและแฟนลูกกำลังท้องให้สามีฟังบ้างแล้ว และเมื่อวันก่อนก็เพิ่งส่งรูปน้องกันต์ให้เขาดู แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาหรือการตอบกลับจากสามี แต่เธอก็ดูออกว่าสามีนั้นพึงพอใจอยู่บ้างที่หลานคนแรกเป็นผู้ชาย“โปรดกลัวพี่ริคทะเลาะกับคุณท่านอีก”“ไม่หรอก เชื่อแม่”“ค่ะ” คนโปรดมองไปหาน้องกันต์ที่เพิ่งกินนมหลับไป “น้องกันต์กินเก่งมากเลยค่ะ ตอนกลางคืนแ
บทที่ 70 บทส่งท้ายหลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็มารวมกันอยู่ข้างบ้านซึ่งมีระแนงไม้ที่พ่อเลี้ยงปูเอาไว้ และสั่งเก้าอี้มาไว้สำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า จิบกาแฟไปด้วย“เอาอีกไหม”อีริคส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อพ่อเลี้ยงยื่นขวดไวน์มาทางเขาหมายจะรินให้เขาอีก“กินเยอะก็ปวดหัว”"ปกติไม่ปฏิเสธนี่"“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ มึงก็อย่าไปคะยั้นคะยอให้มันกิน” ชรัณเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ เมื่อก่อนจำได้ว่าเคยดื่มด้วยกันจนเข้าเรียนไม่ทัน มัวแต่อ้วกกับเมาค้างจนอาจารย์ให้ทำงานเก็บคะแนนย้อนหลังกันทั้งสามคน“ถ้าเมียมึงง่วงแล้วก็พาไปนอนได้นะเว้ย”“ง่วงยัง” อีริคเอ่ยถามคนข้างกาย แต่พอมองตาเธอแล้วยังตาแป๋วอยู่เลย “ไม่ตอบก็พอจะรู้”“โปรดขอนั่งอยู่อีกนิดนะคะ ยังสนุกอยู่เลย ชอบฟังพี่ ๆ เล่าความหลังสมัยเรียน สนุกดีค่ะ”“เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังว่าไอ้ริคมันแสบมากแค่ไหน” ชรัณเลิกคิ้วท้าทายอีริค“ปรานีกูด้วยครับ”“หึหึ” พ่อเลี้ยงหัวเราะขบขัน “สมัยก่อนก็ต่างคนต่างห้าวแหละ ไม่มีใครยอมใคร”“ยังไงเหรอคะ”“อ้าว ไหนบอกจะไม่เผาเพื่อนไง” ชรัณเลิกคิ้วถามองศาที่จู่ ๆ ก็เปิดประเด็นขึ้นมาซะอย่างนั้น“นิดหนึ่ง”“อา เล่าเลยงั้น”“เมื่อก่อนเคยไ
บทที่ 69 ความสุข“ที่ของมึงกูให้คนไปดูแล้วนะ เห็นช่างกำลังขนของมาลงกันเยอะเลย อีกไม่นานคงได้ลงเสาเข็ม” พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นระหว่างขับรถเข้ามาในทางที่ตรงไปยังไร่ปาริฉัตร“ขอบใจ” อีริคกล่าวสั้น ๆ“ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยกัน แล้วนี่เธอจะมาอยู่นานไหม” คราวนี้เขามองหน้าคนโปรด “เพราะถ้ามาอยู่นานฉันจะให้แม่บ้านและคนของฉันพาเที่ยว หลังไร่มีน้ำตกด้วย เผื่อสนใจอยากเล่นน้ำคลายร้อน”“ดีจังเลยค่ะ”“ถ้าอยากไปก็บอก จะได้ให้คนพาไป เพราะทางมันค่อนข้างรกและไปยากนิดหน่อย”“เราไปกันนะ” คนโปรดหันมามองหน้าคนรัก อีริคพยักหน้าตอบเบา ๆ แล้วมองไปโดยรอบ“อยากได้ที่สวย ๆ แบบนี้อีก มีอีกไหม” อีริคเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคน ชรัณทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยตอบ“ก็พอมีนะ มึงอยากได้ติดเขาไหมล่ะ หรืออยากได้ติดลำธารดี”“อยากได้ทั้งสองที่เลย”“เอาว่ะ เออ ๆ เดี๋ยวจะหาดูให้ ชาวบ้านแถวนี้เอาที่ดินมาเสนอขายกูเยอะอยู่ ร้อนเงินกันทั้งนั้น ส่งลูกเรียนน่ะ”“อืม”“เสียสละมากเลยนะคะ ขายที่เพื่อเอาเงินส่งลูกเรียน”“อืม แต่ลูกเหี้ยก็ไม่ไหวนะ” ชรัณยกยิ้ม“ถ้าเป็นแบบนั้นคงน่าเสียใจแทนพ่อแม่ค่ะ โปรดเองก็อยากทำให้พวกท่านภูมิใจบ้างสักครั้ง
บทที่ 68 พักผ่อนวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาในเช้าที่สดใส บรรยากาศที่สนามม้าด้านนอกมีไอหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่ว แถมอากาศยังเย็นฉ่ำสบายจนอีริคไม่ยอมตื่น“ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มสากสองฟอดเพื่อเป็นการปลุกอีริคให้ตื่น ทว่าชายหนุ่มกลับเบือนหน้าหนีสัมผัสแล้วเอามือมาปิดหน้าไว้ “ขี้เซาจัง”“ให้ฉันนอนเต็มอิ่มบ้าง ไม่ได้นอนหลับสบายแบบนี้มานานมากแล้ว” อีริคพึมพำอยู่ใต้ผ้าห่ม เมื่อได้ฟังแบบนั้นคนโปรดจึงไม่เซ้าซี้เขา เธอก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเอาผ้าคลุมไหล่มาคลุม จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก“ตื่นแล้วเหรอ” พาเวลกำลังก่อกองไฟอยู่พอดี เขาส่งยิ้มทักทายคนโปรด “ดื่มนมอุ่นหน่อยไหม”“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้สนามพร้อมกับรับแก้วนมอุ่นมาดื่ม “นมอุ่นนี่อร่อยมากเลยค่ะ”“อืม...แล้วนายยังไม่ตื่นเหรอ”“ยังค่ะ เห็นว่าอยากนอนอีกสักพัก”“อืม สงสัยคงเหนื่อยมาก ทำงานหนักมาหลายวัน”“ครับ”“พี่พาเวลล่ะคะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” เมื่อมีโอกาสได้อยู่กับพาเวลสองต่อสอง เธอจึงถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเขาบ้าง“ก็ดี ช่วงนี้ทำงานหนักหน่อยแต่ก็มีความสุข”“เห็นพี่มีความสุขกับการทำงานโปรดก็ดีใจค่ะ”“แล้วจะไปเชีย
บทที่ 67 ดูแล“หมูสุกแล้ว ทำไมหนูไม่ตักกินล่ะคะคนสวย” ซินซินสังเกตุเห็นคนโปรดนั่งมองหม้อชาบูอยู่นาน แต่เธอไม่ได้คีบหมูใส่จานตัวเอง กลับคีบให้อีริคกินเสียส่วนใหญ่“โปรดไม่ค่อยหิวค่ะพี่ซิน กินฝรั่งไปเมื่อตอนนั่งเล่นกับพี่ซินโปรดยังอิ่มอยู่เลย"“อ๋อ"“คุณริคกินเยอะ ๆ นะคะ”“คุณริค พี่ว่าเรียกแบบนั้นมันดูห่างเหินไปนะ”“…” อีริคเงยหน้ามองซินซิน “แล้วแต่จะเรียก เอาที่ตัวเองชินปาก”“ป๊ะป๋า"“แค่ก ๆ” ซินซินสำลักน้ำซุปจนหน้าแดงกับสรรพนามที่คนโปรดใช้เรียกอีริค “ป๊ะป๋าเนี่ยนะ” เธอหัวเราะอย่างขำขัน“แต่เหมือนคุณอีริคไม่ชอบเลย งั้นโปรดเรียกพี่ได้ไหมคะ พี่ริค"“…” อีริคไม่ได้ตอบกลับ เพียงส่งยิ้มให้คนโปรดรู้อย่างเดียว“แบบนี้ก็น่ารักดี” ซินซินยกมือขึ้นไปลูบผมน้องสาวด้วยความเอ็นดู “กินเยอะ ๆ นะแกน่ะ ช่วงนี้แพกซ์บอกว่าแกทำงานหนักมาก”“อืม”“พี่แพกซ์หายไปไหนเหรอคะ ไม่เห็นหน้าตั้งนานแล้ว”“เขากำลังยุ่งอยู่กับการเปิดคลับใหม่อยู่น่ะโปรด อีกสักพักเลยล่ะ”“อ๋อค่ะ” เธอหันมามองหน้าอีริค “พี่ริค…เอ่อ อยากได้เครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมคะ” รู้สึกไม่ชินปากเลยที่ต้องเรียกอีริคด้วยสรรพนามใหม่แบบนี้“อยากได้ไวน์"“อย่าเ
บทที่ 66 ทะนุถนอมสี่เดือนต่อมาหลังจากทราบว่าตัวเองตั้งท้องลูกของอีริคอยู่นั้น ตอนนี้ก็ย่างเข้าสู่เดือนที่ห้าแล้ว จากท้องแบนราบตอนนี้ท้องเธอก็เริ่มโตเท่าลูกแตงโมแล้ว“จะไปไหนเหรอคะ โปรดเตรียมชุดให้ไหม” หญิงสาวเอ่ยถามคนรักด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล วันนี้อีริคตื่นตั้งแต่เช้าไปออกกำลังกาย และเธอเห็นเขาพูดกับพาเวลด้วยสีหน้าเครียดขรึมเหมือนมีเรื่องอะไรกวนใจอยู่ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรเพราะกลัวว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องสำคัญ“ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะออกไปทำธุระข้างนอก แล้วลูกน้องจะพาเธอไปที่สนามม้านะ” อีริคเดินเข้ามาโอบเอวคนโปรดแล้วหอมขมับเธอไปหนึ่งฟอด จากนั้นจึงเดินไปที่ห้องแต่งตัว เขาใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมาด้วยชุดไพรเวตสบาย ๆ โบกมือให้คนโปรดแล้วเดินออกไปจากห้องนอนทันทีร่างอวบอิ่มเดินตามหลังคนรักมาหยุดยืนอยู่ทางลงบันไดบ้าน ครั้นจะถามเอาความให้เข้าใจก็กลัวอีริคหงุดหงิดใส่ เธอจึงไม่ถามอะไรเขาแล้วหันหลังเดินกลับห้องนอน มาหยิบกระเป๋าสะพายข้างเดินลงไปรอลูกน้องที่จะพาไปสนามม้าพักนี้อีริคพาเธอไปพักที่สนามม้าบ่อยมาก เขาให้เหตุผลว่าอากาศที่สนามม้าดีกว่าที่บ้านในเมืองที่อยู่กับควันรถและฝุ่นพีเอ็ม“นายหญิงต้องการ
บทที่ 65 รักมากคนโปรดปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วเงยมองคนตัวโตกว่า“คุณริครู้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะว่าโปรดท้อง”“เธอก็รู้ว่าไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาฉันได้”“แล้วรู้เลยเหรอคะว่าโปรดท้อง”“เปล่า ฉันให้พาเวลไปถามหมอที่โรงพยาบาล ก็เธอเองนั่นแหละที่มีพิรุธก่อน ถ้าบอกกันตั้งแต่แรกก็จบ”“โปรดกลัวว่าตัวเองจะเป็นภาระคุณริค กลัวไปหมดเลยค่ะ”“เด็กน้อย เธอเป็นเมียฉันนะ อีกอย่างเธอกำลังอุ้มท้องลูกฉันอยู่” อีริคเลื่อนสายตาลงจ้องที่ท้องแบนราบ “อีกไม่กี่เดือนเขาก็ลืมตาดูโลกแล้ว” คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับหน้าท้องคนโปรดหลังจากที่รู้ว่าเธอท้อง“โปรดใจชื้นขึ้นมากแล้วค่ะ หลังจากที่เก็บความกดดันมาหลายวัน”“ก็เธอไม่ยอมบอกฉันเอง อีกอย่างเธอเป็นคนพูดเองว่าจะไม่โกหกฉัน แต่กลับโกหกซะเอง”“ก็ตามที่โปรดบอกไปค่ะ โปรดกลัวคำว่าลูกจะไปทำลายความสุขของคุณริค”“เด็กน้อย” อีริคยกมือขึ้นลูบพวงแก้มนวล “มีอะไรก็คุยกันก่อน ไม่ใช่เก็บเอาไว้คนเดียวแล้วเอาไปคิดมากแบบนี้”“ขอโทษนะคะ ขอโทษที่โปรดปิดบังคุณริค”“เอาเถอะ อาหารมาพอดีเลย” อีริคถอยกลับมานั่งที่ตัวเอง เขาคอยตักอาการใส่จานให้คนโปรดเรื่อย ๆ จนเธอต้องดันมือเขากลับ แล้วสั่นหน้า