บทที่ 37 ไม่ปฏิเสธข่าวลือ11:00อีริคยืนมองวิวสนามม้าอยู่ที่ระเบียงห้องในเวลาห้าโมงเช้าขณะรอคนโปรดเก็บของเตรียมกลับไปพักที่บ้านเขา“เสร็จแล้วค่ะ” เธอยิ้มแป้นเดินออกมาบอกอีริค “กลับเลยไหมคะ”“อืม” ชายหนุ่มหันหลังเดินเข้ามาในห้องพักอีกครั้งแล้วสั่งให้ลูกน้องนำของใช้ของคนโปรดไปขึ้นรถระหว่างนั่งรถที่เดินทางกลับไปที่บ้านอีริค คนโปรดเทียวหันมองหน้าชายหนุ่มจนอีริคต้องเชยปลายคางเธอขึ้นมาสบตากันตรง ๆ“มีอะไร หน้าฉันมันน่ามองขนาดนั้นเหรอ” คนตัวเล็กรีบส่ายหน้าพัลวัน แล้วอธิบายให้อีริคเข้าใจ“โปรดแค่งงกับคุณริคค่ะ คุณริคกำลังคิดอะไรอยู่หรือเปล่าคะ”“ฉันไม่เคยคิดอะไร ทำทุกอย่างที่อยากทำเท่านั้น”“ค่ะ”“อย่าคิดมาก คิดมากแล้วมันจะปวดหัว”“ค่ะ” รอยยิ้มหวานค่อย ๆ เลือนหายไปจากใบหน้าสวยกับคำตอบที่ได้รับ แววตาดุดันคู่นั้นแม้จะมีความอ่อนโยนเข้ามาแทรกบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความดุดันและแข็งกร้าว อีริคก็ยังเป็นอีริคคนเดิมที่เดาอารมณ์ได้ยากมาก เขาทำทุกอย่างตามอำเภอใจตัวเองอย่างที่พูด ไม่ได้ทำตามความรู้สึกสักหน่อย “โปรดเป็นคนแรกหรือเปล่าคะ ที่คุณริคพาเข้าบ้าน” คราวนี้อีริคหันมามองหน้าหญิงสาว“หึหึ เธอถามอะไร
บทที่ 38 เผื่อฉันไม่อยู่คนโปรดเอาหูแนบที่ประตูห้องนอนตัวเองและฟังเสียงฝีเท้าของอีริค เมื่อครู่เธอได้ยินเสียงประตูเปิดและเสียงเอะอะโวยวายอยู่ชั้นล่าง เสียงคนคนนั้นคุ้นหูมาก แต่ก็ไม่อยากคิดบ้า ๆ ว่านั่นเสียงพาเวลแกรก..พรึบ!คนที่ยืนเอาหูแนบประตูอยู่แทบหงายหลังเมื่ออีริคเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาในห้อง เธอไม่ได้ยินเสียงเท้าเขาและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีริคมาตอนไหน“ยืนแอบฟังอะไร”“ปะ เปล่า”“จับได้ขนาดนี้ยังจะโกหกอีก”“ก็...”“ช่างเถอะ แล้วเมื่อคืนเธอนอนที่นี่เป็นยังไงบ้าง เจออะไรไหม”“อะไรเหรอ”“ก็...”น้ำเสียงและสีหน้าของอีริคกำลังทำให้คนโปรดรู้สึกหลอนอยู่ไม่น้อย เธอมองไปทั่วห้องพักแล้วเขยิบเข้าไปกอดแขนแกร่งไว้“อย่าบอกนะคะว่าห้องนี้มีผี”“หึหึ รู้ได้ยังไง”“กรี๊ด!!”“อ๊า!” อีริคยกมือขึ้นมาปิดหูแทบไม่ทัน เสียงแหลมปรี๊ดของคนโปรดรบกวนโสตประสาทเขามาก ๆ“อุ๊บ!” ฝ่ามือหนาปิดปากเธอไว้แน่น“หยุดร้องและมีสติหน่อย”“ก็โปรดกลัวผี”“กลัวฉันไม่ดีกว่าเหรอวะ” อีริคส่ายหน้าพรืดหนึ่ง“...”!“ตื่นแล้วก็ดี แม่บ้านทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว ลงไปกินข้าวให้ตรงเวลาด้วย”“ค่ะ”“แล้ววันนี้คุณริคจะไปไหนไหมคะ” ดวงตาใสแป๋วเ
บทที่ 39 'ป๊ะป๋า'หลายชั่วโมงต่อมาคนโปรดทำหน้าเหยเกแล้วเอาตัวไปพิงร่างสูงอย่างหมดเรี่ยวแรง เรียวแขนทั้งสองข้างแทบยกไม่ขึ้น มันปวดร้าวระบมไปหมด“คุณริค โปรดเมื่อยแล้วค่ะ”“อืม”เขาตอบกลับมาสั้น ๆ แล้วหันไปมองแก้วน้ำหวานที่แม่บ้านเพิ่งนำมาให้ แววตาและรอยยิ้มหวานของคนโปรดแสดงออกถึงความดีใจแล้วรีบยกแก้วน้ำหวานขึ้นมาดูดกลิ่นจนหมดในครั้งเดียว“อ๊า~ อร่อยมาก สดชื่นมาก...”“เหนื่อยอะไรขนาดนั้น”“โปรดเมื่อยแขน เจ็บไหล่ด้วยค่ะ” ใบหน้าสวยแดงซ่าน “คุณริคให้โปรดยืนตั้งนานแหน่ะ แถมยังไม่ให้พักอีก ครั้งแรกโปรดได้แค่นี้ก็ว่าดีแล้วนะคะ”“หึหึ ขี้บ่นจริงเด็กคนนี้”“ป๊ะป๋า”“อย่ามาเรียกอะไรแบบนั้น เดี๋ยวลูกน้องได้หมดความนับถือฉัน”“ป๊ะป๋าที่แปลว่า...”“อะไร” คิ้วหนาขมวดแน่น แต่คนโปรดกลับไม่ตอบอะไรกลับมา เธอเอาแต่อมยิ้มอยู่คนเดียวแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟา “เดี๋ยวนี้กล้าต่อปากต่อคำกับฉันมากขึ้นนะ ไม่กลัวฉันฆ่าแก้เบื่อหรือไง”“การฆ่าคนตายทำให้หายเบื่อได้เหรอคะ”“มั้ง”“โปรดรู้ว่าคุณริคไม่ทำร้ายโปรดหรอกค่ะ เพราะคุณริคเพิ่งบอกกับโปรดเองว่าจะปกป้องโปรด”“พูดตอนไหน”“เอาเป็นว่าโปรดได้ยินก็แล้วกัน”“หึ!” อีริคเก็
บทที่ 40 ยากที่จะยอมรับคนโปรดนั่งกอดเข่าอยู่ในห้องพักตัวเอง คิ้วสวยเทียวขมวดเข้าหากันและคลายออกจากกันเพราะกำลังนึกถึงเรื่องที่เธอทำกับอีริคเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา“เรา...กำลังเป็นตัววุ่นวายของคุณริคเหรอ หรือว่าเราควรถอยออกมาอยู่ในที่ตัวเอง ยายโปรดนะยายโปรด ชอบก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวคุณริคตลอดเลย ขืนเป็นอย่างนี้...ตำแหน่งของเล่นชิ้นโปรดอาจจะหลุดมือไปเป็นของคนอื่นก็ได้ แล้วเราก็จะถูกเขี่ยตกกระป๋อง” ใบหน้าสวยนิ่งเรียบก่อนที่จะซบลงกับเรียวแขนตัวเอง‘เราต้องรักษาระยะห่างกับคุณริค เพื่อให้เขามีอิสระ’หนึ่งชั่วโมงต่อมาอีริคเดินออกมาจากห้องทำงาน เขามองหน้าแม่บ้านที่เดินผ่านมาพอดีจึงเอ่ยถามเสียงเรียบ“คนโปรดไปไหน”“อ๋อ คุณคนโปรดขึ้นไปพักบนห้องนานแล้วค่ะนาย”“อืม”เมื่อได้ฟังแบบนั้นเขาจึงขึ้นไปหาเธอที่ชั้นสอง พอเปิดประตูเข้ามาในห้องพักกลับเงียบกริบ เหมือนไม่มีคนอยู่ในนี้เลย บนเตียงก็ไม่มีร่างบางนอนอยู่อย่างที่ควรจะเป็นอีริคเดินเข้ามาแล้วเปิดประตูห้องน้ำออกดูว่าคนโปรดอยู่ในนี้หรือเปล่า ปรากฏว่าเธอนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ โดยการเอาผ้านวมมาปูรองนอนในอ่างแล้วก็เอาหมอนมาหนุนศีรษะ โทรศัพท์ในมือกำลังเล
บทที่ 41 ความกลัวที่ก่อตัวขึ้นหลายชั่วโมงต่อมา“นั่งเงียบเพราะกำลังคิดทบทวนตัวเองเหรอ”“เปล่า”“เปล่าอะไร คิ้วขมวดขนาดนั้น”“ก็เปล่าไง” อีริคชักสีหน้าใส่ซินซิน“เออ ๆ เปล่าก็เปล่า”“กลับยัง จะห้าทุ่มแล้วนะ”“อยากอยู่ต่ออีกนิดหน่อย ไม่อยากกลับบ้านเลย กลับแล้วมันเศร้า”“เศร้าอะไร”“นายไม่เข้าใจหรอก คนรอบข้างฉันจำวันเกิดฉันได้หมด ยกเว้นพ่อแม่ที่ให้กำเนิด”“มีฉันจำได้ก็พอแล้วมั้ง”“ขอบคุณนะ”“อืม แล้วเพื่อนสุดที่รักของเธอไม่มาหาหรือไง”“แพกซ์น่ะเหรอ”“อืม”“ฉันไม่ให้มันมาเองแหละ”“เพื่อนกันแบบไหนวะ เป็นกูก็ไม่คบนะถ้าจะมีเพื่อนขี้งอนขนาดนี้ แต่ไอ้แพกซ์มันก็ง้อเธอตลอดนี่”“ช่างเหอะ กลับกันดีกว่า” ซินซินยกขวดไวน์ขึ้นมากระดกดื่มแล้วเดินออกไปก่อนอีริค เธอเดินมาเจอพาเวลก็ขมวดคิ้วมองหน้า “นี่ฉันคิดว่านายตายไปแล้วจริง ๆ นะพาเวล”“ขออภัยที่ทำให้คิดแบบนั้นครับ”“ไปโทษเจ้านายของนายโน่น! เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”“ครับ”“ช่วงนี้ฉันให้พาเวลไปทำงานบ่อย เลยต้องให้เขาหายไปสักพัก”“อืม”“แล้วขับรถกลับบ้านเองได้?”“ได้”“ขับกลับดี ๆ ถึงบ้านแล้วก็ไลน์มาบอกด้วย”“ค่า~”“คุณซินกลับเองไหวเหรอครับนาย” พาเวลเอ่ยถาม
บทที่ 42 คนขี้ขลาด04:00 นคนโปรดลุกขึ้นมานั่งมองดาวที่ริมหน้าต่าง อีริคพูดจบและออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เหมือนเขาเพิ่งพูดประโยคนั้นไม่กี่นาทีนี้เอง น้ำเสียงและคำพูดยังดังวนอยู่ในหูเธอ“โปรดเลือกที่จะอยู่ตรงนี้แล้ว โปรดยังเลือกได้อีกเหรอคะ ว่าอยู่ตรงนี้จะอันตรายหรือไม่อันตราย” หญิงสาวตัดพ้อเสียงเศร้าพลางปาดน้ำตาออกจากพวงแก้ม เธอยอมรับความรู้สึกตัวเองอย่างแมน ๆ เลยว่าคิดเกินเลยกับอีริคไปแล้ว และไม่อาจห้ามปรามตัวเองไม่ให้คิดได้ด้วย “แต่เราเป็นได้แค่นี้นี่...จะเอาอะไรไปการันตีกับคุณริคว่าเรารักเขาจริง ๆ ไม่ได้อยากเอาใจหรือเลียแข้งเลียขาเพื่อให้เขาเอ็นดู” ความรู้สึกที่กลั่นออกมานั้นล้วนเป็นความอ่อนไหวที่เธอมีให้อีริค จนเกิดคำว่า 'รัก' ขึ้นมาในใจขณะนั้นประตูก็ถูกเปิดเข้ามาโดยอีริค ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาคโปรดและมองเธอด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม“ทำไมยังไม่นอน”“เอ่อ โปรดนอนไม่หลับค่ะ เดี๋ยวจะนอนแล้ว”“นอนไม่หลับนานแค่ไหนแล้ว”“ก็...” เธอก้มหน้าหลบสายตาอีริค เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจับได้ว่าเธอนั้นแกล้งหลับ“งั้นเธอก็ได้ยินที่ฉันพูดน่ะสิ”“...”“ดี จะได้ไม่ต้องพูดอะไรซ้ำรอบสอง”“...”!“หากรักตัวกลัวตายแ
บทที่ 43 หน้าที่ NCเวลาหกโมงเช้าที่อีริคนั่งเงียบอยู่ที่ระเบียงห้องของแพกซ์ ขณะเดียวกันแพกซ์ก็กำลังพาซินซินเข้าไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นในห้องน้ำ เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นครู่หนึ่งก็เงียบไป“ดูแลเธอด้วย”“อืม”“เดี๋ยวเด้~” ซินซินดึงรั้งแขนน้องชายจนอีริคหันกลับมามองเธออีกครั้ง “นายมาหาฉันเพราะเหงาเหรอ หรือว่าเพราะคนโปรด”“จุ้น!”“นี่! นี่!!”“เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมฮะ” แพกซ์พาซินซินไปนอนบนเตียง จากนั้นก็เดินออกมาที่หน้าห้องหมายจะมาส่งอีริค ทว่าเขากลับเดินหายเข้าไปในลิฟต์พอดี จึงไม่ทันได้ร่ำลากันคนโปรดเดินลงมาจากห้องพักเพื่อมากินอาหารเช้าตามคำสั่งของอีริคที่บอกให้เธอลงมากินข้าวให้ตรงเวลา พอลงมาก็เห็นลูกน้องเขาเดินตรวจตราสวนกันไปมาอยู่บริเวณหน้าบ้านและข้างบ้าน ซึ่งบริเวณข้างบ้านนั้นเธอเห็นลูกน้องเขาคุมเข้มมาก และห้ามคนนอกเข้าไปพื้นที่ตรงนั้นด้วยด้วยความใจลอยเอาแต่มองไปทางข้างบ้าน เธอเลยเดินไปเรื่อย ๆ จนชนเข้ากับอีริคที่เพิ่งเดินเข้ามาเมื่อครู่นี้“ขะ ขอโทษค่ะ โปรดไม่ทันได้มอง”“ก็เห็นอยู่ว่ากำลังใจลอย”“...”!“สายป่านนี้แล้วยังไม่ไปกินข้าวอีก จำที่ฉันบอกไม่ได้หรือไง”“ได้ค่ะ โปรดกำลังจะไ
บทที่ 44 ระยะห่างหลายชั่วโมงต่อมาควันสีขาวถูกพ่นออกจากริมฝีปากอุ่นชื้นของอีริค หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจกามแล้วเขาก็ออกมาสูบบุหรี่อย่างสบายใจอยู่ที่ระเบียงห้อง ร่างกำยำที่ยังมีเม็ดเหงื่อเกาะแพรวพราวมีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียวปกปิดความใหญ่โตไว้“เฮ้อ...” อีริคพ่นควันบุหรี่ออกจากปากอีกครั้ง คราวนี้เขาหันหลังให้ราวระเบียงแล้วทิ้งตัวพิง สายตาจับจ้องร่างบางซึ่งยังไม่ยอมลุกไปล้างเนื้อล้างตัว “ลุกไปอาบน้ำเอง หรือให้ฉันอุ้มไปอาบ?” ชายหนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง“...” คนโปรดเงยมองใบหน้าคมเข้มของคนตัวโตด้วยแววตาออดอ้อนขั้นสุด ที่ยังไม่ยอมลุกไปอาบน้ำเพราะกำลังขบคิดอยู่ว่าจะเตรียมชุดไปขึ้นดอยกับอีริคกี่ชุดดี “ไปกี่วันคะ” เธอถามเขาพร้อมชันศอกลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง จ้องริมฝีปากหนาที่เริ่มเผยอตอบ“ห้าวัน”“ค่ะ” เมื่อได้คำตอบที่แน่ชัดแล้วจึงก้าวลงจากเตียงนอน เธอเดินผ่านหน้าอีริคเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างคราบกามบนตัวให้สะอาด ระหว่างที่คนโปรดกำลังอาบน้ำ จู่ ๆ อีริคก็เปิดประเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง เขายกมือขึ้นไปค้ำผนังห้องน้ำแล้วก้มมองคนตรงหน้า“โกนหนวดเป็นไหม”“มะ ไม่เคยทำให้ใ