บทที่ 37 ไม่ปฏิเสธข่าวลือ11:00อีริคยืนมองวิวสนามม้าอยู่ที่ระเบียงห้องในเวลาห้าโมงเช้าขณะรอคนโปรดเก็บของเตรียมกลับไปพักที่บ้านเขา“เสร็จแล้วค่ะ” เธอยิ้มแป้นเดินออกมาบอกอีริค “กลับเลยไหมคะ”“อืม” ชายหนุ่มหันหลังเดินเข้ามาในห้องพักอีกครั้งแล้วสั่งให้ลูกน้องนำของใช้ของคนโปรดไปขึ้นรถระหว่างนั่งรถที่เดินทางกลับไปที่บ้านอีริค คนโปรดเทียวหันมองหน้าชายหนุ่มจนอีริคต้องเชยปลายคางเธอขึ้นมาสบตากันตรง ๆ“มีอะไร หน้าฉันมันน่ามองขนาดนั้นเหรอ” คนตัวเล็กรีบส่ายหน้าพัลวัน แล้วอธิบายให้อีริคเข้าใจ“โปรดแค่งงกับคุณริคค่ะ คุณริคกำลังคิดอะไรอยู่หรือเปล่าคะ”“ฉันไม่เคยคิดอะไร ทำทุกอย่างที่อยากทำเท่านั้น”“ค่ะ”“อย่าคิดมาก คิดมากแล้วมันจะปวดหัว”“ค่ะ” รอยยิ้มหวานค่อย ๆ เลือนหายไปจากใบหน้าสวยกับคำตอบที่ได้รับ แววตาดุดันคู่นั้นแม้จะมีความอ่อนโยนเข้ามาแทรกบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความดุดันและแข็งกร้าว อีริคก็ยังเป็นอีริคคนเดิมที่เดาอารมณ์ได้ยากมาก เขาทำทุกอย่างตามอำเภอใจตัวเองอย่างที่พูด ไม่ได้ทำตามความรู้สึกสักหน่อย “โปรดเป็นคนแรกหรือเปล่าคะ ที่คุณริคพาเข้าบ้าน” คราวนี้อีริคหันมามองหน้าหญิงสาว“หึหึ เธอถามอะไร
บทที่ 38 เผื่อฉันไม่อยู่คนโปรดเอาหูแนบที่ประตูห้องนอนตัวเองและฟังเสียงฝีเท้าของอีริค เมื่อครู่เธอได้ยินเสียงประตูเปิดและเสียงเอะอะโวยวายอยู่ชั้นล่าง เสียงคนคนนั้นคุ้นหูมาก แต่ก็ไม่อยากคิดบ้า ๆ ว่านั่นเสียงพาเวลแกรก..พรึบ!คนที่ยืนเอาหูแนบประตูอยู่แทบหงายหลังเมื่ออีริคเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาในห้อง เธอไม่ได้ยินเสียงเท้าเขาและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีริคมาตอนไหน“ยืนแอบฟังอะไร”“ปะ เปล่า”“จับได้ขนาดนี้ยังจะโกหกอีก”“ก็...”“ช่างเถอะ แล้วเมื่อคืนเธอนอนที่นี่เป็นยังไงบ้าง เจออะไรไหม”“อะไรเหรอ”“ก็...”น้ำเสียงและสีหน้าของอีริคกำลังทำให้คนโปรดรู้สึกหลอนอยู่ไม่น้อย เธอมองไปทั่วห้องพักแล้วเขยิบเข้าไปกอดแขนแกร่งไว้“อย่าบอกนะคะว่าห้องนี้มีผี”“หึหึ รู้ได้ยังไง”“กรี๊ด!!”“อ๊า!” อีริคยกมือขึ้นมาปิดหูแทบไม่ทัน เสียงแหลมปรี๊ดของคนโปรดรบกวนโสตประสาทเขามาก ๆ“อุ๊บ!” ฝ่ามือหนาปิดปากเธอไว้แน่น“หยุดร้องและมีสติหน่อย”“ก็โปรดกลัวผี”“กลัวฉันไม่ดีกว่าเหรอวะ” อีริคส่ายหน้าพรืดหนึ่ง“...”!“ตื่นแล้วก็ดี แม่บ้านทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว ลงไปกินข้าวให้ตรงเวลาด้วย”“ค่ะ”“แล้ววันนี้คุณริคจะไปไหนไหมคะ” ดวงตาใสแป๋วเ
บทที่ 39 'ป๊ะป๋า'หลายชั่วโมงต่อมาคนโปรดทำหน้าเหยเกแล้วเอาตัวไปพิงร่างสูงอย่างหมดเรี่ยวแรง เรียวแขนทั้งสองข้างแทบยกไม่ขึ้น มันปวดร้าวระบมไปหมด“คุณริค โปรดเมื่อยแล้วค่ะ”“อืม”เขาตอบกลับมาสั้น ๆ แล้วหันไปมองแก้วน้ำหวานที่แม่บ้านเพิ่งนำมาให้ แววตาและรอยยิ้มหวานของคนโปรดแสดงออกถึงความดีใจแล้วรีบยกแก้วน้ำหวานขึ้นมาดูดกลิ่นจนหมดในครั้งเดียว“อ๊า~ อร่อยมาก สดชื่นมาก...”“เหนื่อยอะไรขนาดนั้น”“โปรดเมื่อยแขน เจ็บไหล่ด้วยค่ะ” ใบหน้าสวยแดงซ่าน “คุณริคให้โปรดยืนตั้งนานแหน่ะ แถมยังไม่ให้พักอีก ครั้งแรกโปรดได้แค่นี้ก็ว่าดีแล้วนะคะ”“หึหึ ขี้บ่นจริงเด็กคนนี้”“ป๊ะป๋า”“อย่ามาเรียกอะไรแบบนั้น เดี๋ยวลูกน้องได้หมดความนับถือฉัน”“ป๊ะป๋าที่แปลว่า...”“อะไร” คิ้วหนาขมวดแน่น แต่คนโปรดกลับไม่ตอบอะไรกลับมา เธอเอาแต่อมยิ้มอยู่คนเดียวแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟา “เดี๋ยวนี้กล้าต่อปากต่อคำกับฉันมากขึ้นนะ ไม่กลัวฉันฆ่าแก้เบื่อหรือไง”“การฆ่าคนตายทำให้หายเบื่อได้เหรอคะ”“มั้ง”“โปรดรู้ว่าคุณริคไม่ทำร้ายโปรดหรอกค่ะ เพราะคุณริคเพิ่งบอกกับโปรดเองว่าจะปกป้องโปรด”“พูดตอนไหน”“เอาเป็นว่าโปรดได้ยินก็แล้วกัน”“หึ!” อีริคเก็
บทที่ 40 ยากที่จะยอมรับคนโปรดนั่งกอดเข่าอยู่ในห้องพักตัวเอง คิ้วสวยเทียวขมวดเข้าหากันและคลายออกจากกันเพราะกำลังนึกถึงเรื่องที่เธอทำกับอีริคเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา“เรา...กำลังเป็นตัววุ่นวายของคุณริคเหรอ หรือว่าเราควรถอยออกมาอยู่ในที่ตัวเอง ยายโปรดนะยายโปรด ชอบก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวคุณริคตลอดเลย ขืนเป็นอย่างนี้...ตำแหน่งของเล่นชิ้นโปรดอาจจะหลุดมือไปเป็นของคนอื่นก็ได้ แล้วเราก็จะถูกเขี่ยตกกระป๋อง” ใบหน้าสวยนิ่งเรียบก่อนที่จะซบลงกับเรียวแขนตัวเอง‘เราต้องรักษาระยะห่างกับคุณริค เพื่อให้เขามีอิสระ’หนึ่งชั่วโมงต่อมาอีริคเดินออกมาจากห้องทำงาน เขามองหน้าแม่บ้านที่เดินผ่านมาพอดีจึงเอ่ยถามเสียงเรียบ“คนโปรดไปไหน”“อ๋อ คุณคนโปรดขึ้นไปพักบนห้องนานแล้วค่ะนาย”“อืม”เมื่อได้ฟังแบบนั้นเขาจึงขึ้นไปหาเธอที่ชั้นสอง พอเปิดประตูเข้ามาในห้องพักกลับเงียบกริบ เหมือนไม่มีคนอยู่ในนี้เลย บนเตียงก็ไม่มีร่างบางนอนอยู่อย่างที่ควรจะเป็นอีริคเดินเข้ามาแล้วเปิดประตูห้องน้ำออกดูว่าคนโปรดอยู่ในนี้หรือเปล่า ปรากฏว่าเธอนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ โดยการเอาผ้านวมมาปูรองนอนในอ่างแล้วก็เอาหมอนมาหนุนศีรษะ โทรศัพท์ในมือกำลังเล
บทที่ 41 ความกลัวที่ก่อตัวขึ้นหลายชั่วโมงต่อมา“นั่งเงียบเพราะกำลังคิดทบทวนตัวเองเหรอ”“เปล่า”“เปล่าอะไร คิ้วขมวดขนาดนั้น”“ก็เปล่าไง” อีริคชักสีหน้าใส่ซินซิน“เออ ๆ เปล่าก็เปล่า”“กลับยัง จะห้าทุ่มแล้วนะ”“อยากอยู่ต่ออีกนิดหน่อย ไม่อยากกลับบ้านเลย กลับแล้วมันเศร้า”“เศร้าอะไร”“นายไม่เข้าใจหรอก คนรอบข้างฉันจำวันเกิดฉันได้หมด ยกเว้นพ่อแม่ที่ให้กำเนิด”“มีฉันจำได้ก็พอแล้วมั้ง”“ขอบคุณนะ”“อืม แล้วเพื่อนสุดที่รักของเธอไม่มาหาหรือไง”“แพกซ์น่ะเหรอ”“อืม”“ฉันไม่ให้มันมาเองแหละ”“เพื่อนกันแบบไหนวะ เป็นกูก็ไม่คบนะถ้าจะมีเพื่อนขี้งอนขนาดนี้ แต่ไอ้แพกซ์มันก็ง้อเธอตลอดนี่”“ช่างเหอะ กลับกันดีกว่า” ซินซินยกขวดไวน์ขึ้นมากระดกดื่มแล้วเดินออกไปก่อนอีริค เธอเดินมาเจอพาเวลก็ขมวดคิ้วมองหน้า “นี่ฉันคิดว่านายตายไปแล้วจริง ๆ นะพาเวล”“ขออภัยที่ทำให้คิดแบบนั้นครับ”“ไปโทษเจ้านายของนายโน่น! เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”“ครับ”“ช่วงนี้ฉันให้พาเวลไปทำงานบ่อย เลยต้องให้เขาหายไปสักพัก”“อืม”“แล้วขับรถกลับบ้านเองได้?”“ได้”“ขับกลับดี ๆ ถึงบ้านแล้วก็ไลน์มาบอกด้วย”“ค่า~”“คุณซินกลับเองไหวเหรอครับนาย” พาเวลเอ่ยถาม
บทที่ 42 คนขี้ขลาด04:00 นคนโปรดลุกขึ้นมานั่งมองดาวที่ริมหน้าต่าง อีริคพูดจบและออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เหมือนเขาเพิ่งพูดประโยคนั้นไม่กี่นาทีนี้เอง น้ำเสียงและคำพูดยังดังวนอยู่ในหูเธอ“โปรดเลือกที่จะอยู่ตรงนี้แล้ว โปรดยังเลือกได้อีกเหรอคะ ว่าอยู่ตรงนี้จะอันตรายหรือไม่อันตราย” หญิงสาวตัดพ้อเสียงเศร้าพลางปาดน้ำตาออกจากพวงแก้ม เธอยอมรับความรู้สึกตัวเองอย่างแมน ๆ เลยว่าคิดเกินเลยกับอีริคไปแล้ว และไม่อาจห้ามปรามตัวเองไม่ให้คิดได้ด้วย “แต่เราเป็นได้แค่นี้นี่...จะเอาอะไรไปการันตีกับคุณริคว่าเรารักเขาจริง ๆ ไม่ได้อยากเอาใจหรือเลียแข้งเลียขาเพื่อให้เขาเอ็นดู” ความรู้สึกที่กลั่นออกมานั้นล้วนเป็นความอ่อนไหวที่เธอมีให้อีริค จนเกิดคำว่า 'รัก' ขึ้นมาในใจขณะนั้นประตูก็ถูกเปิดเข้ามาโดยอีริค ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาคโปรดและมองเธอด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม“ทำไมยังไม่นอน”“เอ่อ โปรดนอนไม่หลับค่ะ เดี๋ยวจะนอนแล้ว”“นอนไม่หลับนานแค่ไหนแล้ว”“ก็...” เธอก้มหน้าหลบสายตาอีริค เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจับได้ว่าเธอนั้นแกล้งหลับ“งั้นเธอก็ได้ยินที่ฉันพูดน่ะสิ”“...”“ดี จะได้ไม่ต้องพูดอะไรซ้ำรอบสอง”“...”!“หากรักตัวกลัวตายแ
บทที่ 43 หน้าที่ NCเวลาหกโมงเช้าที่อีริคนั่งเงียบอยู่ที่ระเบียงห้องของแพกซ์ ขณะเดียวกันแพกซ์ก็กำลังพาซินซินเข้าไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นในห้องน้ำ เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นครู่หนึ่งก็เงียบไป“ดูแลเธอด้วย”“อืม”“เดี๋ยวเด้~” ซินซินดึงรั้งแขนน้องชายจนอีริคหันกลับมามองเธออีกครั้ง “นายมาหาฉันเพราะเหงาเหรอ หรือว่าเพราะคนโปรด”“จุ้น!”“นี่! นี่!!”“เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมฮะ” แพกซ์พาซินซินไปนอนบนเตียง จากนั้นก็เดินออกมาที่หน้าห้องหมายจะมาส่งอีริค ทว่าเขากลับเดินหายเข้าไปในลิฟต์พอดี จึงไม่ทันได้ร่ำลากันคนโปรดเดินลงมาจากห้องพักเพื่อมากินอาหารเช้าตามคำสั่งของอีริคที่บอกให้เธอลงมากินข้าวให้ตรงเวลา พอลงมาก็เห็นลูกน้องเขาเดินตรวจตราสวนกันไปมาอยู่บริเวณหน้าบ้านและข้างบ้าน ซึ่งบริเวณข้างบ้านนั้นเธอเห็นลูกน้องเขาคุมเข้มมาก และห้ามคนนอกเข้าไปพื้นที่ตรงนั้นด้วยด้วยความใจลอยเอาแต่มองไปทางข้างบ้าน เธอเลยเดินไปเรื่อย ๆ จนชนเข้ากับอีริคที่เพิ่งเดินเข้ามาเมื่อครู่นี้“ขะ ขอโทษค่ะ โปรดไม่ทันได้มอง”“ก็เห็นอยู่ว่ากำลังใจลอย”“...”!“สายป่านนี้แล้วยังไม่ไปกินข้าวอีก จำที่ฉันบอกไม่ได้หรือไง”“ได้ค่ะ โปรดกำลังจะไ
บทที่ 44 ระยะห่างหลายชั่วโมงต่อมาควันสีขาวถูกพ่นออกจากริมฝีปากอุ่นชื้นของอีริค หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจกามแล้วเขาก็ออกมาสูบบุหรี่อย่างสบายใจอยู่ที่ระเบียงห้อง ร่างกำยำที่ยังมีเม็ดเหงื่อเกาะแพรวพราวมีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียวปกปิดความใหญ่โตไว้“เฮ้อ...” อีริคพ่นควันบุหรี่ออกจากปากอีกครั้ง คราวนี้เขาหันหลังให้ราวระเบียงแล้วทิ้งตัวพิง สายตาจับจ้องร่างบางซึ่งยังไม่ยอมลุกไปล้างเนื้อล้างตัว “ลุกไปอาบน้ำเอง หรือให้ฉันอุ้มไปอาบ?” ชายหนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง“...” คนโปรดเงยมองใบหน้าคมเข้มของคนตัวโตด้วยแววตาออดอ้อนขั้นสุด ที่ยังไม่ยอมลุกไปอาบน้ำเพราะกำลังขบคิดอยู่ว่าจะเตรียมชุดไปขึ้นดอยกับอีริคกี่ชุดดี “ไปกี่วันคะ” เธอถามเขาพร้อมชันศอกลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง จ้องริมฝีปากหนาที่เริ่มเผยอตอบ“ห้าวัน”“ค่ะ” เมื่อได้คำตอบที่แน่ชัดแล้วจึงก้าวลงจากเตียงนอน เธอเดินผ่านหน้าอีริคเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างคราบกามบนตัวให้สะอาด ระหว่างที่คนโปรดกำลังอาบน้ำ จู่ ๆ อีริคก็เปิดประเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง เขายกมือขึ้นไปค้ำผนังห้องน้ำแล้วก้มมองคนตรงหน้า“โกนหนวดเป็นไหม”“มะ ไม่เคยทำให้ใ
ตอนพิเศษ 3 จบตอนจากเด็กน้อยแบเบาะในวันนั้น ตอนนี้น้องกันต์มีอายุครบสาวขวบพอดี เด็กชายในชุดเอื้อมยีนเดินไปหาพ่อตัวเองด้วยรอยยิ้มสดใส ในมือถือของเล่นที่เตรียมมาเล่นกับพ่อด้วย“ป๊า น้องกันต์อยากได้ของเล่นอีกครับ” น้ำเสียงและแววตาสดใสจดจ้องใบหน้าของพ่อที่กำลังนั่งทำงานอยู่กับพาเวล อีริคละสายตาจากหน้าลูกน้องมามองลูกชาย เขาอุ้มน้องกันต์ขึ้นมานั่งบนตักแล้วหอมศีรษะไปหนึ่งฟอด“หนูซื้ิอของเล่นเยอะแล้วเล่นหมดไหมครับ”“...” เด็กชายสั่นหน้า“ของเล่นเยอะแยะเลยลูก อันไหนที่หนูไม่เล่นแล้วป๊าขอเอาไปให้น้องได้ไหม น้องไม่มีของเล่น”“น้อง น้องไหนครับ”“ก็น้องที่เขาไม่มีตังค์ซื้อของเล่นครับ น้องอยู่ไกล ๆ เลย”“ได้ครับ”“งั้นน้องกันต์ไปเก็บของเล่นที่น้องกันต์ไม่เล่นแล้วกับลุงพาเวลนะ เดี๋ยวป๊าทำงานเสร็จป๊าไปหา”“ครับ”อีริคพยักหน้าให้พาเวลพาลูกชายเข้าไปในบ้าน ส่วนเราเร่งทำงานให้เสร็จ“อ้าว” คนโปรดถือจานผลไม้สดที่เธอตั้งใจจะเอาออกไปให้สองพ่อลูกที่หน้าบ้านเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกกับพาเวลเดินกลับเข้ามาในบ้าน“นายให้มาเก็บของเล่นที่คุณหนูไม่เล่นเอาไปบริจาคให้เด็กบนดอยครับ” พาเวลตอบ“อ๋อ ดีมากเลยค่ะ ของเล่นน้องกันต์
ตอนพิเศษ 2สองเดือนต่อมาเสียงอ้อแอ้ของลูกน้อยช่วยปลุกอีริคให้ตื่นจากการนอนพักสายตาในช่วงกลางวัน เขารีบลุกขึ้นมาดูลูก“พี่ริค” คนโปรดมองใบหน้าคมคายที่แสดงออกถึงความง่วงงุนด้วยความเอ็นดู “นอนต่อเถอะค่ะ โปรดดููลูกได้”“ไม่เอา ฉันหายง่วงแล้ว”“น้องกันต์หนูอย่ากวนป๊าสิลูก ป๊าไม่ได้นอนตั้งหลายคืนแล้วนะครับ”“ป๊ายินดีครับลูก” อีริคเขยิบเข้ามาใกล้แล้วก้มลงไปหอมลูกชายที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเบาะ “ตัวหอมจังเลย”“โปรดกับคุณแม่เพิ่งอาบน้ำให้เมื่อกี้เองค่ะ”“ถึงว่าละ ตัวก็หอมหน้าก็ขาว”“หึหึ”“แล้วมีคนมาหาฉันไหม”“ไม่เลยค่ะ พี่ริคนัดใครไว้เหรอคะ”“เปล่าหรอก ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย เผื่อมีคนอยากเจอหน้า”“ค่ะ”“น้องกันต์หลานป้า~” เสียงแหลม ๆ ของซินซินดังมาแต่ไกล แต่น้องกันต์กลับไม่ตกใจแถมยังดีดดิ้นและยิ้มร่าเหมือนว่ากำลังรอเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น “อ้าว” ซินซินเลิกคิ้วทักทายน้องชายแล้วรีบนั่งลง “วันนี้ป้าซินมีชุดหล่อมาฝากด้วยนะคะ”“ชุดแดง”“ใช่ ใกล้ตรุษจีนแล้วผมอยากเป็นอาตี๋น้อยครับ”“หึหึ แล้วอีกชุดล่ะ”“อีกชุดเหรอ” เธอหยิบออกมาจากถุงกระดาษ ทุกคนขำขันเมื่อได้เห็นชุดเต็ม “ชุดหมูน้อยค่า”“ลูกกูไม่ใช่หม
ตอนพิเศษ 1ห้าวันต่อมาหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาอีริคก็ได้พาคนโปรดมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านตัวเองโดยมีฮาน่ากับซินซินช่วยดูแลคนโปรดกับน้องกันต์“หลานป้าหล่อจังเลย เห็นหน้ากันกี่ครั้งก็หลง” ซินซินนั่งเฝ้าหลานชายคนแรกอยู่ข้างเบาะนอนสำหรับเด็กทารกที่เธอซื้อมาให้หลานไม่ห่างไปไหนไกล ส่วนฮาน่ากำลังสอนคนโปรดปั้มนมอยู่อีกที่หนึ่ง“คุณท่านคะ เอ่อ...คุณผู้ชายท่านจะโกรธไหมคะ ที่โปรดกับลูกมาอยู่ที่นี่” สิ่งที่เธอเป็นกังวลมาโดยตลอดก็เรื่องพ่อของอีริค ตั้งแต่ท้องจนคลอดเธอก็ไม่เห็นท่านมาที่นี่สักครั้ง และเหมือนว่าอีริคกับพ่อก็ไม่ค่อยถูกกันด้วย“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เราเพิ่งคลอดลูกอย่าไปเครียดเลย เดี๋ยวน้ำนมจะไม่ไหลเอานะลูก” ฮาน่าปลอบใจคนโปรด อันที่จริงเธอก็เปรย ๆ เรื่องอีริคมีแฟนและแฟนลูกกำลังท้องให้สามีฟังบ้างแล้ว และเมื่อวันก่อนก็เพิ่งส่งรูปน้องกันต์ให้เขาดู แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาหรือการตอบกลับจากสามี แต่เธอก็ดูออกว่าสามีนั้นพึงพอใจอยู่บ้างที่หลานคนแรกเป็นผู้ชาย“โปรดกลัวพี่ริคทะเลาะกับคุณท่านอีก”“ไม่หรอก เชื่อแม่”“ค่ะ” คนโปรดมองไปหาน้องกันต์ที่เพิ่งกินนมหลับไป “น้องกันต์กินเก่งมากเลยค่ะ ตอนกลางคืนแ
บทที่ 70 บทส่งท้ายหลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็มารวมกันอยู่ข้างบ้านซึ่งมีระแนงไม้ที่พ่อเลี้ยงปูเอาไว้ และสั่งเก้าอี้มาไว้สำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า จิบกาแฟไปด้วย“เอาอีกไหม”อีริคส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อพ่อเลี้ยงยื่นขวดไวน์มาทางเขาหมายจะรินให้เขาอีก“กินเยอะก็ปวดหัว”"ปกติไม่ปฏิเสธนี่"“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ มึงก็อย่าไปคะยั้นคะยอให้มันกิน” ชรัณเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ เมื่อก่อนจำได้ว่าเคยดื่มด้วยกันจนเข้าเรียนไม่ทัน มัวแต่อ้วกกับเมาค้างจนอาจารย์ให้ทำงานเก็บคะแนนย้อนหลังกันทั้งสามคน“ถ้าเมียมึงง่วงแล้วก็พาไปนอนได้นะเว้ย”“ง่วงยัง” อีริคเอ่ยถามคนข้างกาย แต่พอมองตาเธอแล้วยังตาแป๋วอยู่เลย “ไม่ตอบก็พอจะรู้”“โปรดขอนั่งอยู่อีกนิดนะคะ ยังสนุกอยู่เลย ชอบฟังพี่ ๆ เล่าความหลังสมัยเรียน สนุกดีค่ะ”“เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังว่าไอ้ริคมันแสบมากแค่ไหน” ชรัณเลิกคิ้วท้าทายอีริค“ปรานีกูด้วยครับ”“หึหึ” พ่อเลี้ยงหัวเราะขบขัน “สมัยก่อนก็ต่างคนต่างห้าวแหละ ไม่มีใครยอมใคร”“ยังไงเหรอคะ”“อ้าว ไหนบอกจะไม่เผาเพื่อนไง” ชรัณเลิกคิ้วถามองศาที่จู่ ๆ ก็เปิดประเด็นขึ้นมาซะอย่างนั้น“นิดหนึ่ง”“อา เล่าเลยงั้น”“เมื่อก่อนเคยไ
บทที่ 69 ความสุข“ที่ของมึงกูให้คนไปดูแล้วนะ เห็นช่างกำลังขนของมาลงกันเยอะเลย อีกไม่นานคงได้ลงเสาเข็ม” พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นระหว่างขับรถเข้ามาในทางที่ตรงไปยังไร่ปาริฉัตร“ขอบใจ” อีริคกล่าวสั้น ๆ“ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยกัน แล้วนี่เธอจะมาอยู่นานไหม” คราวนี้เขามองหน้าคนโปรด “เพราะถ้ามาอยู่นานฉันจะให้แม่บ้านและคนของฉันพาเที่ยว หลังไร่มีน้ำตกด้วย เผื่อสนใจอยากเล่นน้ำคลายร้อน”“ดีจังเลยค่ะ”“ถ้าอยากไปก็บอก จะได้ให้คนพาไป เพราะทางมันค่อนข้างรกและไปยากนิดหน่อย”“เราไปกันนะ” คนโปรดหันมามองหน้าคนรัก อีริคพยักหน้าตอบเบา ๆ แล้วมองไปโดยรอบ“อยากได้ที่สวย ๆ แบบนี้อีก มีอีกไหม” อีริคเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคน ชรัณทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยตอบ“ก็พอมีนะ มึงอยากได้ติดเขาไหมล่ะ หรืออยากได้ติดลำธารดี”“อยากได้ทั้งสองที่เลย”“เอาว่ะ เออ ๆ เดี๋ยวจะหาดูให้ ชาวบ้านแถวนี้เอาที่ดินมาเสนอขายกูเยอะอยู่ ร้อนเงินกันทั้งนั้น ส่งลูกเรียนน่ะ”“อืม”“เสียสละมากเลยนะคะ ขายที่เพื่อเอาเงินส่งลูกเรียน”“อืม แต่ลูกเหี้ยก็ไม่ไหวนะ” ชรัณยกยิ้ม“ถ้าเป็นแบบนั้นคงน่าเสียใจแทนพ่อแม่ค่ะ โปรดเองก็อยากทำให้พวกท่านภูมิใจบ้างสักครั้ง
บทที่ 68 พักผ่อนวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาในเช้าที่สดใส บรรยากาศที่สนามม้าด้านนอกมีไอหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่ว แถมอากาศยังเย็นฉ่ำสบายจนอีริคไม่ยอมตื่น“ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มสากสองฟอดเพื่อเป็นการปลุกอีริคให้ตื่น ทว่าชายหนุ่มกลับเบือนหน้าหนีสัมผัสแล้วเอามือมาปิดหน้าไว้ “ขี้เซาจัง”“ให้ฉันนอนเต็มอิ่มบ้าง ไม่ได้นอนหลับสบายแบบนี้มานานมากแล้ว” อีริคพึมพำอยู่ใต้ผ้าห่ม เมื่อได้ฟังแบบนั้นคนโปรดจึงไม่เซ้าซี้เขา เธอก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเอาผ้าคลุมไหล่มาคลุม จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก“ตื่นแล้วเหรอ” พาเวลกำลังก่อกองไฟอยู่พอดี เขาส่งยิ้มทักทายคนโปรด “ดื่มนมอุ่นหน่อยไหม”“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้สนามพร้อมกับรับแก้วนมอุ่นมาดื่ม “นมอุ่นนี่อร่อยมากเลยค่ะ”“อืม...แล้วนายยังไม่ตื่นเหรอ”“ยังค่ะ เห็นว่าอยากนอนอีกสักพัก”“อืม สงสัยคงเหนื่อยมาก ทำงานหนักมาหลายวัน”“ครับ”“พี่พาเวลล่ะคะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” เมื่อมีโอกาสได้อยู่กับพาเวลสองต่อสอง เธอจึงถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเขาบ้าง“ก็ดี ช่วงนี้ทำงานหนักหน่อยแต่ก็มีความสุข”“เห็นพี่มีความสุขกับการทำงานโปรดก็ดีใจค่ะ”“แล้วจะไปเชีย
บทที่ 67 ดูแล“หมูสุกแล้ว ทำไมหนูไม่ตักกินล่ะคะคนสวย” ซินซินสังเกตุเห็นคนโปรดนั่งมองหม้อชาบูอยู่นาน แต่เธอไม่ได้คีบหมูใส่จานตัวเอง กลับคีบให้อีริคกินเสียส่วนใหญ่“โปรดไม่ค่อยหิวค่ะพี่ซิน กินฝรั่งไปเมื่อตอนนั่งเล่นกับพี่ซินโปรดยังอิ่มอยู่เลย"“อ๋อ"“คุณริคกินเยอะ ๆ นะคะ”“คุณริค พี่ว่าเรียกแบบนั้นมันดูห่างเหินไปนะ”“…” อีริคเงยหน้ามองซินซิน “แล้วแต่จะเรียก เอาที่ตัวเองชินปาก”“ป๊ะป๋า"“แค่ก ๆ” ซินซินสำลักน้ำซุปจนหน้าแดงกับสรรพนามที่คนโปรดใช้เรียกอีริค “ป๊ะป๋าเนี่ยนะ” เธอหัวเราะอย่างขำขัน“แต่เหมือนคุณอีริคไม่ชอบเลย งั้นโปรดเรียกพี่ได้ไหมคะ พี่ริค"“…” อีริคไม่ได้ตอบกลับ เพียงส่งยิ้มให้คนโปรดรู้อย่างเดียว“แบบนี้ก็น่ารักดี” ซินซินยกมือขึ้นไปลูบผมน้องสาวด้วยความเอ็นดู “กินเยอะ ๆ นะแกน่ะ ช่วงนี้แพกซ์บอกว่าแกทำงานหนักมาก”“อืม”“พี่แพกซ์หายไปไหนเหรอคะ ไม่เห็นหน้าตั้งนานแล้ว”“เขากำลังยุ่งอยู่กับการเปิดคลับใหม่อยู่น่ะโปรด อีกสักพักเลยล่ะ”“อ๋อค่ะ” เธอหันมามองหน้าอีริค “พี่ริค…เอ่อ อยากได้เครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมคะ” รู้สึกไม่ชินปากเลยที่ต้องเรียกอีริคด้วยสรรพนามใหม่แบบนี้“อยากได้ไวน์"“อย่าเ
บทที่ 66 ทะนุถนอมสี่เดือนต่อมาหลังจากทราบว่าตัวเองตั้งท้องลูกของอีริคอยู่นั้น ตอนนี้ก็ย่างเข้าสู่เดือนที่ห้าแล้ว จากท้องแบนราบตอนนี้ท้องเธอก็เริ่มโตเท่าลูกแตงโมแล้ว“จะไปไหนเหรอคะ โปรดเตรียมชุดให้ไหม” หญิงสาวเอ่ยถามคนรักด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล วันนี้อีริคตื่นตั้งแต่เช้าไปออกกำลังกาย และเธอเห็นเขาพูดกับพาเวลด้วยสีหน้าเครียดขรึมเหมือนมีเรื่องอะไรกวนใจอยู่ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรเพราะกลัวว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องสำคัญ“ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะออกไปทำธุระข้างนอก แล้วลูกน้องจะพาเธอไปที่สนามม้านะ” อีริคเดินเข้ามาโอบเอวคนโปรดแล้วหอมขมับเธอไปหนึ่งฟอด จากนั้นจึงเดินไปที่ห้องแต่งตัว เขาใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมาด้วยชุดไพรเวตสบาย ๆ โบกมือให้คนโปรดแล้วเดินออกไปจากห้องนอนทันทีร่างอวบอิ่มเดินตามหลังคนรักมาหยุดยืนอยู่ทางลงบันไดบ้าน ครั้นจะถามเอาความให้เข้าใจก็กลัวอีริคหงุดหงิดใส่ เธอจึงไม่ถามอะไรเขาแล้วหันหลังเดินกลับห้องนอน มาหยิบกระเป๋าสะพายข้างเดินลงไปรอลูกน้องที่จะพาไปสนามม้าพักนี้อีริคพาเธอไปพักที่สนามม้าบ่อยมาก เขาให้เหตุผลว่าอากาศที่สนามม้าดีกว่าที่บ้านในเมืองที่อยู่กับควันรถและฝุ่นพีเอ็ม“นายหญิงต้องการ
บทที่ 65 รักมากคนโปรดปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วเงยมองคนตัวโตกว่า“คุณริครู้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะว่าโปรดท้อง”“เธอก็รู้ว่าไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาฉันได้”“แล้วรู้เลยเหรอคะว่าโปรดท้อง”“เปล่า ฉันให้พาเวลไปถามหมอที่โรงพยาบาล ก็เธอเองนั่นแหละที่มีพิรุธก่อน ถ้าบอกกันตั้งแต่แรกก็จบ”“โปรดกลัวว่าตัวเองจะเป็นภาระคุณริค กลัวไปหมดเลยค่ะ”“เด็กน้อย เธอเป็นเมียฉันนะ อีกอย่างเธอกำลังอุ้มท้องลูกฉันอยู่” อีริคเลื่อนสายตาลงจ้องที่ท้องแบนราบ “อีกไม่กี่เดือนเขาก็ลืมตาดูโลกแล้ว” คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับหน้าท้องคนโปรดหลังจากที่รู้ว่าเธอท้อง“โปรดใจชื้นขึ้นมากแล้วค่ะ หลังจากที่เก็บความกดดันมาหลายวัน”“ก็เธอไม่ยอมบอกฉันเอง อีกอย่างเธอเป็นคนพูดเองว่าจะไม่โกหกฉัน แต่กลับโกหกซะเอง”“ก็ตามที่โปรดบอกไปค่ะ โปรดกลัวคำว่าลูกจะไปทำลายความสุขของคุณริค”“เด็กน้อย” อีริคยกมือขึ้นลูบพวงแก้มนวล “มีอะไรก็คุยกันก่อน ไม่ใช่เก็บเอาไว้คนเดียวแล้วเอาไปคิดมากแบบนี้”“ขอโทษนะคะ ขอโทษที่โปรดปิดบังคุณริค”“เอาเถอะ อาหารมาพอดีเลย” อีริคถอยกลับมานั่งที่ตัวเอง เขาคอยตักอาการใส่จานให้คนโปรดเรื่อย ๆ จนเธอต้องดันมือเขากลับ แล้วสั่นหน้า