บทที่ 44 ระยะห่างหลายชั่วโมงต่อมาควันสีขาวถูกพ่นออกจากริมฝีปากอุ่นชื้นของอีริค หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจกามแล้วเขาก็ออกมาสูบบุหรี่อย่างสบายใจอยู่ที่ระเบียงห้อง ร่างกำยำที่ยังมีเม็ดเหงื่อเกาะแพรวพราวมีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียวปกปิดความใหญ่โตไว้“เฮ้อ...” อีริคพ่นควันบุหรี่ออกจากปากอีกครั้ง คราวนี้เขาหันหลังให้ราวระเบียงแล้วทิ้งตัวพิง สายตาจับจ้องร่างบางซึ่งยังไม่ยอมลุกไปล้างเนื้อล้างตัว “ลุกไปอาบน้ำเอง หรือให้ฉันอุ้มไปอาบ?” ชายหนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง“...” คนโปรดเงยมองใบหน้าคมเข้มของคนตัวโตด้วยแววตาออดอ้อนขั้นสุด ที่ยังไม่ยอมลุกไปอาบน้ำเพราะกำลังขบคิดอยู่ว่าจะเตรียมชุดไปขึ้นดอยกับอีริคกี่ชุดดี “ไปกี่วันคะ” เธอถามเขาพร้อมชันศอกลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง จ้องริมฝีปากหนาที่เริ่มเผยอตอบ“ห้าวัน”“ค่ะ” เมื่อได้คำตอบที่แน่ชัดแล้วจึงก้าวลงจากเตียงนอน เธอเดินผ่านหน้าอีริคเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างคราบกามบนตัวให้สะอาด ระหว่างที่คนโปรดกำลังอาบน้ำ จู่ ๆ อีริคก็เปิดประเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง เขายกมือขึ้นไปค้ำผนังห้องน้ำแล้วก้มมองคนตรงหน้า“โกนหนวดเป็นไหม”“มะ ไม่เคยทำให้ใ
บทที่ 45 อุกอาจวันเดินทางคนโปรดก้าวเข้ามานั่งเบาะหลังกับอีริค ด้วยต้องขนของเอาไปบริจาคหลายอย่าง อีริคจึงเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวกับลูกน้องที่ไปคอยคุ้มกันเขาระหว่างเดินทางด้วย ส่วนพาเวลานำไปก่อนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว“เคยไปเที่ยวดอยไหม” อีริคกระชับเสื้อโปโลสีเทาที่มีโลโก้บริษัทปักอยู่ตรงแขนเสื้อ เขาหันมามองใบหน้าจิ้มลิ้มที่วันนี้แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบาง ๆ อย่างรอคำตอบ ริมฝีปากจิ้มลิ้มทาลิปสติกสีชมพูบาง ๆ ยิ่งทำให้น่ามอง“ไม่เคยเลยค่ะ” เธอส่ายหน้าตอบ“อืม” รถยนต์หรูเคลื่อนตัวออกมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่โดยมีขบวนรถขนของขับตามหลังมาติด ๆภายในรถถูกปกคลุมด้วยความเย็นฉ่ำ หลังจากบทสนทนาที่จบลงไปเมื่อหลายนาทีก่อน ในรถก็เงียบกริบ ไม่มีใครปริปากพูดอะไร กระทั่งลูกน้องอีริคเงยหน้ามองกระจกมองหลัง“นายรับกาแฟไหมครับ” ลูกน้องหนุ่มเอ่ยถามเจ้านายเพื่อทำลายความเงียบในรถ อีริคหันมามองคนโปรดแล้วถามเธอต่อ“กินอะไรไหม”“เอ่อ...อยากกินชาเย็นค่ะ”“งั้นแวะซื้อหน่อย”“ครับนาย”คนโปรดเปิดประตูลงจากรถพร้อมกับอีริค เขายืนรอเธออยู่ท้ายรถแล้วจับมือจูงเดินเข้าไปในร้านกาแฟ อีริคสั่งกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล ส่วนคนโปรด
บทที่ 46 คืนให้กลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากรถที่ถูกชนอย่างแรงจนเสียหลักลงข้างถนนมาชนต้นไม้อีกทีหนึ่ง อีริคกับคนโปรดกระเด็นออกมานอกรถ บาดเจ็บทั้งคู่ แต่อีริคเจ็บหนักเพราะแรงเหวี่ยงของรถอัดเข้ากับต้นไม้ฝั่งเขา ส่งผลให้ตัวกระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้อย่างจัง“คะ คุณริค” คนโปรดรู้สึกตัวก็รีบคลานไปหาอีริค ตอนนี้อีริคนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่ คาดว่าเขากระเด็นออกมาพาดกับต้นไม้และสีข้างมีเศษกระจกรถปักอยู่ “อึก...คุณริค” คนโปรดประคองศีรษะอีริคไว้ และเขย่าตัวเขาเพื่อให้ได้สติ บาดแผลตรงสีข้างกำลังมีเลือดไหลออกมามากมายและแผลที่ศีรษะเขาอีก“อึก...” อีริคได้สติก็รีบเงยหน้ามองคนโปรด ตอนนี้เขาขยับร่างกายไม่ไหว มันเหมือนท่อนล่างชาไปหมด “หนีไป...นะ หนีไปซะ”“ไม่ไป ถ้าจะไปก็ไปด้วยกัน” คนโปรดไม่ได้ห่วงร่างกายตัวเอง เธอเองก็บาดเจ็บที่ศีรษะมีแผลเลือดไหล แต่พยายามพยุงตัวอีริคลุกขึ้นมา “อดทนหน่อยนะคะ นะคะขอร้อง” น้ำตาไหลอาบสองแก้ม“อ๊า!!” อีริคร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาพยายามดันตัวเองลุกขึ้นแต่ก็เปล่าประโยชน์ ร่างกายบาดเจ็บสาหัสเกินจะขยับกายลุกไปไหนได้ “หนีไป ขอร้องล่ะ..”ปัง ปังเสียงปืนดังระรัวขึ้นอีกหลายนั
บทที่ 47 หายไปพาเวลนั่งก้มหน้ารอหมออยู่หน้าห้องผ่าตัดร่วมสี่ชั่วโมงเข้าแล้ว ไม่มีวี่แววของการเปิดประตูออกมารายงานอาการของคนข้างในเลยครืด~ ครืด~โทรศัพท์เครื่องหรูสั่นสะเทือนอยู่ในกระเป๋ากางเกงเขา เป็นซินซินที่โทรเข้ามา พาเวลจึงรีบกดรับสายเธอ(น้องชายฉันเป็นยังไงบ้าง) น้ำเสียงของคนปลายสายตื่นตระหนกกรอกเข้ามาในสายทันที“ตอนนี้ยังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัดเลยครับคุณซิน หมอบอกว่า...ให้ทำใจเพราะนายอาการสาหัสมาก ๆ”(...) ปลายสายเงียบไปนับนาทีก่อนเสียงสะอื้นไห้จะเล็ดลอดเข้ามาในสาย(ทำไมมันต้องเจออะไรแย่ ๆ แบบนี้วะ แล้วไอ้เลวนั่นมันยังมีชีวิตอยู่ไหม)“ไม่ครับ”(คนโปรดไปไหน คนโปรดปลอดภัยไหม)“ตอนนี้ยังหาคนโปรดไม่เจอเลยครับ ไม่รู้เธอหายไปไหน”(ให้ตายสิ แล้วยายกระต่ายน้อยของฉันจะเป็นยังไงบ้าง โอ๊ยกลุ้มใจ)“งั้นผมขอวางสายก่อนนะครับ”(เป็นยังไงแล้วอย่าลืมโทรมารายงานด้วยนะพาเวล)“ครับคุณซิน” หลังจากวางสายกับซินซิน พาเวลก็ลุกไปหาลูกน้องที่รออยู่หน้าโรงพยาบาล“พี่พาเวล นายเป็นยังไงบ้างครับพี่” ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยถามพาเวล“ตอนนี้ยังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัด น่าจะใช้เวลานานอยู่”“ครับ”“เรื่องที่ให้ไปทำเป็นยัง
บทที่ 48 สาหัสซินซินนั่งรอหมออยู่หน้าห้องไอซียู เธอได้บอกให้พาเวลไปพักผ่อนเพราะเขาอดหลับอดนอนมาหลายวันแล้ว แพกซ์เองก็นั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้ ดวงตาคมจ้องไปที่ร่างบางของเพื่อนสาวเดินสวนไปมาจนปวดเบ้าตาไปหมด“มานั่ง”“ไม่เอา”“มานั่งเถอะน่า เดี๋ยวหมอก็ออกมาแล้ว”“หมอทำไมตรวจนานแบบนี้ ปกติเขาตรวจคนไข้นานขนาดนี้เลยเหรอ”“ไม่รู้ ฉันไม่ใช่หมอ”“ไม่ได้เรื่อง!”“อ้าว” ในจังหวะที่แพกซ์จะตอบกลับไปหมอกับนางพยาบาลก็เปิดประตูออกมาจากห้องพักฟื้นของอีริคพอดี เขาจึงเบนความสนใจไปที่หมอ“น้องชายเราเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้เลือดในปอดหยุดไหลแล้วนะครับ และร่างกายก็ฟื้นตัวดีมาก หมอว่าพรุ่งนี้ก็ออกจากห้องไอซียูได้แล้ว คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ”“ค่อยยังชั่ว แล้วฉันพาน้องกลับไปรักษาที่กรุงเทพได้เลยไหมคะ”“ผมว่ารออีกสักสองวันนะครับ ให้ร่างกายเขาได้ฟื้นตัวเต็มที่ก่อน”“ค่ะ ขอบคุณหมอมาก ๆ นะคะ”“หน้าที่ผมอยู่แล้วครับ งั้นหมอขอตัวนะ”“ค่ะ”แพกซ์มองตามหลังหมอหนุ่มที่เดินออกไป แล้วดึงสายตากลับมามองหน้าซินซิน“มีแฟนเป็นหมอคงจะดีไม่น้อยเลยนะ”“อย่าเลย หมอเขาฉลาดเลือก เขาไม่มาเอาคนแบบเธอหรอก”“ปากดี! เดี๋ยวกูจับทำผัว
บทที่ 49 ซ่อน(ไม่)หาหลายวันต่อมา หลังจากย้ายตัวอีริคกลับมารักษาตัวที่กรุงเทพร่างกำยำยังนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงภายในห้องพักผู้ป่วยวีวีไอพีของโรงพยาบาลที่อีริคเป็นหุ้นส่วน พาเวลกับซินซินที่พลัดเปลี่ยนกันมาเฝ้าอีริค นั่งมองหน้ากันอยู่ที่โซฟา ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาพร้อมกันด้วยความเป็นกังวล“อีกไม่กี่นาที นายเตรียมตัวรับแรงกระแทกได้เลย” ทั้งที่เป็นคำพูดธรรมดาของซินซิน แต่กลับทำให้พาเวลขนหัวลุกได้ เพราะวันนี้แม่ของอีริคจะมาที่โรงพยาบาลหลังจากที่ท่านกลับมาเมืองไทยเพราะเรื่องลูกชาย “ผมกำลังเครียดอยู่ครับ คุณฮาน่าก็น่าจะเข้าใจผม”"อืม ฉันเอาใจช่วยนะ” ซินซินวางมือลงบนไหล่กว้างของพาเวล ทว่าจังหวะนั้นเสียงครางเบา ๆ ก็ดังขึ้น ทั้งสองหันกลับไปมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง อีริคขมวดคิ้วน้อย ๆ แล้วเปิดเปลือกตาขึ้นมองไปหาสองหนุ่มสาวที่กำลังทำหน้าตกใจมองมาที่เขา“พะ พาเวล” อีริคเรียกหาลูกน้องหนุ่ม “คนโปรด คนโปรดอยู่ไหน” เขากระซิบเสียงแผ่วถามพาเวลที่เดินมาหา“นายเป็นยังไงบ้างครับ นายเจ็บตรงไหนไหมครับ”“…” อีริคมองหน้าลูกน้อง จากนั้นจึงละสายตากลับไปหาซินซินที่ยืนร้องไห้อยู่ข้างเตียงผู้ป่วย “เธอกำลังทำให้ฉัน
บทที่ 50 ไร่ปาริฉัตรหลายนาทีต่อมาฮาน่ายังคงติดใจเรื่องสร้อยข้อมือที่ลูกชายนางกำไว้อยู่ แม้จะเค้นเอาคำตอบจากปากพาเวลยังไงก็ไม่ได้ความ มีแต่น้ำไม่มีเนื้อ พอนางหันไปถามซินซินหลานสาวก็เอาแต่ตอบว่าไม่รู้อยู่ท่าเดียว“ริค หนูมีอะไรจะบอกแม่ไหม เกี่ยวกับคนที่ชื่อคนโปรดอะไรนั่น ทำไมหนูดูใส่ใจเขาเป็นพิเศษ” นางตัดสินใจถามลูกตรงประเด็น“เธอเป็นคนที่เสี่ยธวัตรเอามาบรรณาการผมครับ”“ของบรรณากาารด้วยคนเนี่ยนะ”“ครับ”“ไอ้เวรนั่นมันต้องเลวทรามแค่ไหน ถึงได้เอาคนเป็น ๆ มาให้ลูกชายฉัน”“มันแค่อยากต่อกรกับผม”“ดีแล้วที่มันตาย ไม่งั้นมันกับมี๊คงต้องเปิดศึกกันสักครั้ง”“ว่าแต่มี๊มาคนเดียวเหรอครับ"“ใช่ลูก มี๊มาก่อนเดี๋ยวป๊าก็จะตามมา ป๊าเคลียร์งานอยู่”“อันที่จริงไม่ต้องมาก็ได้ ผมไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้น”“ขอตีได้ไหม ไม่ได้เป็นอะไรมากยังไงกัน บาดเจ็บเจียนตายขนาดนี้ไม่คิดจะบอกอะไรมี๊สักคำนะริค อย่างน้อยหนูก็ควรจะบอกแม่บ้าง นี่ถ้าแม่ไม่โทรมาหาซินคงไม่รู้เรื่องอะไรเลย”“ก็ยังไม่ตาย”“ตาริคนี่ยังไง อยากโดนมี๊ตีให้ได้เลยใช่ไหม”“ผมเจ็บแผล อยากพักผ่อน”“งั้นมี๊ออกไปรอข้างนอก โอเคไหมลูก”“ครับ”ฮาน่าลุกขึ้นแล้วโ
บทที่ 51 พ่อเลี้ยงองศาคนโปรดเดินออกมาที่หน้าบ้านหลังจากนอนหลับไปหลายชั่วโมง ร่างกายเธอยังร้าวระบมและเจ็บปวดอยู่บ้างแต่ไม่ได้มากเหมือนวันแรก ๆ แล้ว“ป้าคะ หนูพร้อมแล้วค่ะ พาหนูไปหาพ่อเลี้ยงองศาได้ไหมคะ”“รอก่อน เดี๋ยวรถของลูกน้องพ่อเลี้ยงก็จะเข้ามาที่นี่ อีกประมาณยี่สิบนาที”“ค่ะ” คนโปรดนั่งลงบนเก้าอี้ รอรถของพ่อเลี้ยงอย่างจดจ่อ รอไม่นานรถจิ๊บคันสีดำก็วิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน คุณป้าเดินมาพยุงตัวเธอขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับ ส่วนตัวนางขึ้นไปนั่งด้านหลัง “พี่ช่วยขับเบา ๆ หน่อยนะคะ”“อืม” ชายหนุ่มครางตอบเสียงเบาแล้วขับรถพาคนโปรดไปที่บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในพื้นที่มากกว่าร้อยไร่ระหว่างทางที่นั่งรถไปเรื่อย ๆ เธอก็ได้เห็นความใหญ่โตของไร่ปาริฉัตร แม่ทัศนวิสัยในการมองเห็นจะไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ก็ตามนั่งรถมาราว ๆ สามสิบนาทีก็มาถึงบ้านทรงโมเดิร์นสมัยใหม่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางลานกว้าง ๆ บ้านหลังใหญ่พอ ๆ กับบ้านของอีริคเลย แต่ที่ไม่เหมือนกันคือที่นี่ค่อนข้างเงียบและไม่มีคนคอยคุ้มกันเหมือนบ้านอีริค“พ่อเลี้ยงกลับมาแล้ว” คุณป้าเอ่ยขึ้นเพราะนางเห็นรถที่พ่อเลี้ยงใช้ขับบ่อย ๆ จอดอยู่ในโรงจอดรถ
ตอนพิเศษ 3 จบตอนจากเด็กน้อยแบเบาะในวันนั้น ตอนนี้น้องกันต์มีอายุครบสาวขวบพอดี เด็กชายในชุดเอื้อมยีนเดินไปหาพ่อตัวเองด้วยรอยยิ้มสดใส ในมือถือของเล่นที่เตรียมมาเล่นกับพ่อด้วย“ป๊า น้องกันต์อยากได้ของเล่นอีกครับ” น้ำเสียงและแววตาสดใสจดจ้องใบหน้าของพ่อที่กำลังนั่งทำงานอยู่กับพาเวล อีริคละสายตาจากหน้าลูกน้องมามองลูกชาย เขาอุ้มน้องกันต์ขึ้นมานั่งบนตักแล้วหอมศีรษะไปหนึ่งฟอด“หนูซื้ิอของเล่นเยอะแล้วเล่นหมดไหมครับ”“...” เด็กชายสั่นหน้า“ของเล่นเยอะแยะเลยลูก อันไหนที่หนูไม่เล่นแล้วป๊าขอเอาไปให้น้องได้ไหม น้องไม่มีของเล่น”“น้อง น้องไหนครับ”“ก็น้องที่เขาไม่มีตังค์ซื้อของเล่นครับ น้องอยู่ไกล ๆ เลย”“ได้ครับ”“งั้นน้องกันต์ไปเก็บของเล่นที่น้องกันต์ไม่เล่นแล้วกับลุงพาเวลนะ เดี๋ยวป๊าทำงานเสร็จป๊าไปหา”“ครับ”อีริคพยักหน้าให้พาเวลพาลูกชายเข้าไปในบ้าน ส่วนเราเร่งทำงานให้เสร็จ“อ้าว” คนโปรดถือจานผลไม้สดที่เธอตั้งใจจะเอาออกไปให้สองพ่อลูกที่หน้าบ้านเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกกับพาเวลเดินกลับเข้ามาในบ้าน“นายให้มาเก็บของเล่นที่คุณหนูไม่เล่นเอาไปบริจาคให้เด็กบนดอยครับ” พาเวลตอบ“อ๋อ ดีมากเลยค่ะ ของเล่นน้องกันต์
ตอนพิเศษ 2สองเดือนต่อมาเสียงอ้อแอ้ของลูกน้อยช่วยปลุกอีริคให้ตื่นจากการนอนพักสายตาในช่วงกลางวัน เขารีบลุกขึ้นมาดูลูก“พี่ริค” คนโปรดมองใบหน้าคมคายที่แสดงออกถึงความง่วงงุนด้วยความเอ็นดู “นอนต่อเถอะค่ะ โปรดดููลูกได้”“ไม่เอา ฉันหายง่วงแล้ว”“น้องกันต์หนูอย่ากวนป๊าสิลูก ป๊าไม่ได้นอนตั้งหลายคืนแล้วนะครับ”“ป๊ายินดีครับลูก” อีริคเขยิบเข้ามาใกล้แล้วก้มลงไปหอมลูกชายที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเบาะ “ตัวหอมจังเลย”“โปรดกับคุณแม่เพิ่งอาบน้ำให้เมื่อกี้เองค่ะ”“ถึงว่าละ ตัวก็หอมหน้าก็ขาว”“หึหึ”“แล้วมีคนมาหาฉันไหม”“ไม่เลยค่ะ พี่ริคนัดใครไว้เหรอคะ”“เปล่าหรอก ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย เผื่อมีคนอยากเจอหน้า”“ค่ะ”“น้องกันต์หลานป้า~” เสียงแหลม ๆ ของซินซินดังมาแต่ไกล แต่น้องกันต์กลับไม่ตกใจแถมยังดีดดิ้นและยิ้มร่าเหมือนว่ากำลังรอเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น “อ้าว” ซินซินเลิกคิ้วทักทายน้องชายแล้วรีบนั่งลง “วันนี้ป้าซินมีชุดหล่อมาฝากด้วยนะคะ”“ชุดแดง”“ใช่ ใกล้ตรุษจีนแล้วผมอยากเป็นอาตี๋น้อยครับ”“หึหึ แล้วอีกชุดล่ะ”“อีกชุดเหรอ” เธอหยิบออกมาจากถุงกระดาษ ทุกคนขำขันเมื่อได้เห็นชุดเต็ม “ชุดหมูน้อยค่า”“ลูกกูไม่ใช่หม
ตอนพิเศษ 1ห้าวันต่อมาหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาอีริคก็ได้พาคนโปรดมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านตัวเองโดยมีฮาน่ากับซินซินช่วยดูแลคนโปรดกับน้องกันต์“หลานป้าหล่อจังเลย เห็นหน้ากันกี่ครั้งก็หลง” ซินซินนั่งเฝ้าหลานชายคนแรกอยู่ข้างเบาะนอนสำหรับเด็กทารกที่เธอซื้อมาให้หลานไม่ห่างไปไหนไกล ส่วนฮาน่ากำลังสอนคนโปรดปั้มนมอยู่อีกที่หนึ่ง“คุณท่านคะ เอ่อ...คุณผู้ชายท่านจะโกรธไหมคะ ที่โปรดกับลูกมาอยู่ที่นี่” สิ่งที่เธอเป็นกังวลมาโดยตลอดก็เรื่องพ่อของอีริค ตั้งแต่ท้องจนคลอดเธอก็ไม่เห็นท่านมาที่นี่สักครั้ง และเหมือนว่าอีริคกับพ่อก็ไม่ค่อยถูกกันด้วย“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เราเพิ่งคลอดลูกอย่าไปเครียดเลย เดี๋ยวน้ำนมจะไม่ไหลเอานะลูก” ฮาน่าปลอบใจคนโปรด อันที่จริงเธอก็เปรย ๆ เรื่องอีริคมีแฟนและแฟนลูกกำลังท้องให้สามีฟังบ้างแล้ว และเมื่อวันก่อนก็เพิ่งส่งรูปน้องกันต์ให้เขาดู แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาหรือการตอบกลับจากสามี แต่เธอก็ดูออกว่าสามีนั้นพึงพอใจอยู่บ้างที่หลานคนแรกเป็นผู้ชาย“โปรดกลัวพี่ริคทะเลาะกับคุณท่านอีก”“ไม่หรอก เชื่อแม่”“ค่ะ” คนโปรดมองไปหาน้องกันต์ที่เพิ่งกินนมหลับไป “น้องกันต์กินเก่งมากเลยค่ะ ตอนกลางคืนแ
บทที่ 70 บทส่งท้ายหลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็มารวมกันอยู่ข้างบ้านซึ่งมีระแนงไม้ที่พ่อเลี้ยงปูเอาไว้ และสั่งเก้าอี้มาไว้สำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า จิบกาแฟไปด้วย“เอาอีกไหม”อีริคส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อพ่อเลี้ยงยื่นขวดไวน์มาทางเขาหมายจะรินให้เขาอีก“กินเยอะก็ปวดหัว”"ปกติไม่ปฏิเสธนี่"“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ มึงก็อย่าไปคะยั้นคะยอให้มันกิน” ชรัณเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ เมื่อก่อนจำได้ว่าเคยดื่มด้วยกันจนเข้าเรียนไม่ทัน มัวแต่อ้วกกับเมาค้างจนอาจารย์ให้ทำงานเก็บคะแนนย้อนหลังกันทั้งสามคน“ถ้าเมียมึงง่วงแล้วก็พาไปนอนได้นะเว้ย”“ง่วงยัง” อีริคเอ่ยถามคนข้างกาย แต่พอมองตาเธอแล้วยังตาแป๋วอยู่เลย “ไม่ตอบก็พอจะรู้”“โปรดขอนั่งอยู่อีกนิดนะคะ ยังสนุกอยู่เลย ชอบฟังพี่ ๆ เล่าความหลังสมัยเรียน สนุกดีค่ะ”“เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังว่าไอ้ริคมันแสบมากแค่ไหน” ชรัณเลิกคิ้วท้าทายอีริค“ปรานีกูด้วยครับ”“หึหึ” พ่อเลี้ยงหัวเราะขบขัน “สมัยก่อนก็ต่างคนต่างห้าวแหละ ไม่มีใครยอมใคร”“ยังไงเหรอคะ”“อ้าว ไหนบอกจะไม่เผาเพื่อนไง” ชรัณเลิกคิ้วถามองศาที่จู่ ๆ ก็เปิดประเด็นขึ้นมาซะอย่างนั้น“นิดหนึ่ง”“อา เล่าเลยงั้น”“เมื่อก่อนเคยไ
บทที่ 69 ความสุข“ที่ของมึงกูให้คนไปดูแล้วนะ เห็นช่างกำลังขนของมาลงกันเยอะเลย อีกไม่นานคงได้ลงเสาเข็ม” พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นระหว่างขับรถเข้ามาในทางที่ตรงไปยังไร่ปาริฉัตร“ขอบใจ” อีริคกล่าวสั้น ๆ“ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยกัน แล้วนี่เธอจะมาอยู่นานไหม” คราวนี้เขามองหน้าคนโปรด “เพราะถ้ามาอยู่นานฉันจะให้แม่บ้านและคนของฉันพาเที่ยว หลังไร่มีน้ำตกด้วย เผื่อสนใจอยากเล่นน้ำคลายร้อน”“ดีจังเลยค่ะ”“ถ้าอยากไปก็บอก จะได้ให้คนพาไป เพราะทางมันค่อนข้างรกและไปยากนิดหน่อย”“เราไปกันนะ” คนโปรดหันมามองหน้าคนรัก อีริคพยักหน้าตอบเบา ๆ แล้วมองไปโดยรอบ“อยากได้ที่สวย ๆ แบบนี้อีก มีอีกไหม” อีริคเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคน ชรัณทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยตอบ“ก็พอมีนะ มึงอยากได้ติดเขาไหมล่ะ หรืออยากได้ติดลำธารดี”“อยากได้ทั้งสองที่เลย”“เอาว่ะ เออ ๆ เดี๋ยวจะหาดูให้ ชาวบ้านแถวนี้เอาที่ดินมาเสนอขายกูเยอะอยู่ ร้อนเงินกันทั้งนั้น ส่งลูกเรียนน่ะ”“อืม”“เสียสละมากเลยนะคะ ขายที่เพื่อเอาเงินส่งลูกเรียน”“อืม แต่ลูกเหี้ยก็ไม่ไหวนะ” ชรัณยกยิ้ม“ถ้าเป็นแบบนั้นคงน่าเสียใจแทนพ่อแม่ค่ะ โปรดเองก็อยากทำให้พวกท่านภูมิใจบ้างสักครั้ง
บทที่ 68 พักผ่อนวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาในเช้าที่สดใส บรรยากาศที่สนามม้าด้านนอกมีไอหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่ว แถมอากาศยังเย็นฉ่ำสบายจนอีริคไม่ยอมตื่น“ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มสากสองฟอดเพื่อเป็นการปลุกอีริคให้ตื่น ทว่าชายหนุ่มกลับเบือนหน้าหนีสัมผัสแล้วเอามือมาปิดหน้าไว้ “ขี้เซาจัง”“ให้ฉันนอนเต็มอิ่มบ้าง ไม่ได้นอนหลับสบายแบบนี้มานานมากแล้ว” อีริคพึมพำอยู่ใต้ผ้าห่ม เมื่อได้ฟังแบบนั้นคนโปรดจึงไม่เซ้าซี้เขา เธอก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเอาผ้าคลุมไหล่มาคลุม จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก“ตื่นแล้วเหรอ” พาเวลกำลังก่อกองไฟอยู่พอดี เขาส่งยิ้มทักทายคนโปรด “ดื่มนมอุ่นหน่อยไหม”“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้สนามพร้อมกับรับแก้วนมอุ่นมาดื่ม “นมอุ่นนี่อร่อยมากเลยค่ะ”“อืม...แล้วนายยังไม่ตื่นเหรอ”“ยังค่ะ เห็นว่าอยากนอนอีกสักพัก”“อืม สงสัยคงเหนื่อยมาก ทำงานหนักมาหลายวัน”“ครับ”“พี่พาเวลล่ะคะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” เมื่อมีโอกาสได้อยู่กับพาเวลสองต่อสอง เธอจึงถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเขาบ้าง“ก็ดี ช่วงนี้ทำงานหนักหน่อยแต่ก็มีความสุข”“เห็นพี่มีความสุขกับการทำงานโปรดก็ดีใจค่ะ”“แล้วจะไปเชีย
บทที่ 67 ดูแล“หมูสุกแล้ว ทำไมหนูไม่ตักกินล่ะคะคนสวย” ซินซินสังเกตุเห็นคนโปรดนั่งมองหม้อชาบูอยู่นาน แต่เธอไม่ได้คีบหมูใส่จานตัวเอง กลับคีบให้อีริคกินเสียส่วนใหญ่“โปรดไม่ค่อยหิวค่ะพี่ซิน กินฝรั่งไปเมื่อตอนนั่งเล่นกับพี่ซินโปรดยังอิ่มอยู่เลย"“อ๋อ"“คุณริคกินเยอะ ๆ นะคะ”“คุณริค พี่ว่าเรียกแบบนั้นมันดูห่างเหินไปนะ”“…” อีริคเงยหน้ามองซินซิน “แล้วแต่จะเรียก เอาที่ตัวเองชินปาก”“ป๊ะป๋า"“แค่ก ๆ” ซินซินสำลักน้ำซุปจนหน้าแดงกับสรรพนามที่คนโปรดใช้เรียกอีริค “ป๊ะป๋าเนี่ยนะ” เธอหัวเราะอย่างขำขัน“แต่เหมือนคุณอีริคไม่ชอบเลย งั้นโปรดเรียกพี่ได้ไหมคะ พี่ริค"“…” อีริคไม่ได้ตอบกลับ เพียงส่งยิ้มให้คนโปรดรู้อย่างเดียว“แบบนี้ก็น่ารักดี” ซินซินยกมือขึ้นไปลูบผมน้องสาวด้วยความเอ็นดู “กินเยอะ ๆ นะแกน่ะ ช่วงนี้แพกซ์บอกว่าแกทำงานหนักมาก”“อืม”“พี่แพกซ์หายไปไหนเหรอคะ ไม่เห็นหน้าตั้งนานแล้ว”“เขากำลังยุ่งอยู่กับการเปิดคลับใหม่อยู่น่ะโปรด อีกสักพักเลยล่ะ”“อ๋อค่ะ” เธอหันมามองหน้าอีริค “พี่ริค…เอ่อ อยากได้เครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมคะ” รู้สึกไม่ชินปากเลยที่ต้องเรียกอีริคด้วยสรรพนามใหม่แบบนี้“อยากได้ไวน์"“อย่าเ
บทที่ 66 ทะนุถนอมสี่เดือนต่อมาหลังจากทราบว่าตัวเองตั้งท้องลูกของอีริคอยู่นั้น ตอนนี้ก็ย่างเข้าสู่เดือนที่ห้าแล้ว จากท้องแบนราบตอนนี้ท้องเธอก็เริ่มโตเท่าลูกแตงโมแล้ว“จะไปไหนเหรอคะ โปรดเตรียมชุดให้ไหม” หญิงสาวเอ่ยถามคนรักด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล วันนี้อีริคตื่นตั้งแต่เช้าไปออกกำลังกาย และเธอเห็นเขาพูดกับพาเวลด้วยสีหน้าเครียดขรึมเหมือนมีเรื่องอะไรกวนใจอยู่ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรเพราะกลัวว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องสำคัญ“ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะออกไปทำธุระข้างนอก แล้วลูกน้องจะพาเธอไปที่สนามม้านะ” อีริคเดินเข้ามาโอบเอวคนโปรดแล้วหอมขมับเธอไปหนึ่งฟอด จากนั้นจึงเดินไปที่ห้องแต่งตัว เขาใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมาด้วยชุดไพรเวตสบาย ๆ โบกมือให้คนโปรดแล้วเดินออกไปจากห้องนอนทันทีร่างอวบอิ่มเดินตามหลังคนรักมาหยุดยืนอยู่ทางลงบันไดบ้าน ครั้นจะถามเอาความให้เข้าใจก็กลัวอีริคหงุดหงิดใส่ เธอจึงไม่ถามอะไรเขาแล้วหันหลังเดินกลับห้องนอน มาหยิบกระเป๋าสะพายข้างเดินลงไปรอลูกน้องที่จะพาไปสนามม้าพักนี้อีริคพาเธอไปพักที่สนามม้าบ่อยมาก เขาให้เหตุผลว่าอากาศที่สนามม้าดีกว่าที่บ้านในเมืองที่อยู่กับควันรถและฝุ่นพีเอ็ม“นายหญิงต้องการ
บทที่ 65 รักมากคนโปรดปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วเงยมองคนตัวโตกว่า“คุณริครู้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะว่าโปรดท้อง”“เธอก็รู้ว่าไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาฉันได้”“แล้วรู้เลยเหรอคะว่าโปรดท้อง”“เปล่า ฉันให้พาเวลไปถามหมอที่โรงพยาบาล ก็เธอเองนั่นแหละที่มีพิรุธก่อน ถ้าบอกกันตั้งแต่แรกก็จบ”“โปรดกลัวว่าตัวเองจะเป็นภาระคุณริค กลัวไปหมดเลยค่ะ”“เด็กน้อย เธอเป็นเมียฉันนะ อีกอย่างเธอกำลังอุ้มท้องลูกฉันอยู่” อีริคเลื่อนสายตาลงจ้องที่ท้องแบนราบ “อีกไม่กี่เดือนเขาก็ลืมตาดูโลกแล้ว” คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับหน้าท้องคนโปรดหลังจากที่รู้ว่าเธอท้อง“โปรดใจชื้นขึ้นมากแล้วค่ะ หลังจากที่เก็บความกดดันมาหลายวัน”“ก็เธอไม่ยอมบอกฉันเอง อีกอย่างเธอเป็นคนพูดเองว่าจะไม่โกหกฉัน แต่กลับโกหกซะเอง”“ก็ตามที่โปรดบอกไปค่ะ โปรดกลัวคำว่าลูกจะไปทำลายความสุขของคุณริค”“เด็กน้อย” อีริคยกมือขึ้นลูบพวงแก้มนวล “มีอะไรก็คุยกันก่อน ไม่ใช่เก็บเอาไว้คนเดียวแล้วเอาไปคิดมากแบบนี้”“ขอโทษนะคะ ขอโทษที่โปรดปิดบังคุณริค”“เอาเถอะ อาหารมาพอดีเลย” อีริคถอยกลับมานั่งที่ตัวเอง เขาคอยตักอาการใส่จานให้คนโปรดเรื่อย ๆ จนเธอต้องดันมือเขากลับ แล้วสั่นหน้า