บทที่ 49 ซ่อน(ไม่)หาหลายวันต่อมา หลังจากย้ายตัวอีริคกลับมารักษาตัวที่กรุงเทพร่างกำยำยังนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงภายในห้องพักผู้ป่วยวีวีไอพีของโรงพยาบาลที่อีริคเป็นหุ้นส่วน พาเวลกับซินซินที่พลัดเปลี่ยนกันมาเฝ้าอีริค นั่งมองหน้ากันอยู่ที่โซฟา ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาพร้อมกันด้วยความเป็นกังวล“อีกไม่กี่นาที นายเตรียมตัวรับแรงกระแทกได้เลย” ทั้งที่เป็นคำพูดธรรมดาของซินซิน แต่กลับทำให้พาเวลขนหัวลุกได้ เพราะวันนี้แม่ของอีริคจะมาที่โรงพยาบาลหลังจากที่ท่านกลับมาเมืองไทยเพราะเรื่องลูกชาย “ผมกำลังเครียดอยู่ครับ คุณฮาน่าก็น่าจะเข้าใจผม”"อืม ฉันเอาใจช่วยนะ” ซินซินวางมือลงบนไหล่กว้างของพาเวล ทว่าจังหวะนั้นเสียงครางเบา ๆ ก็ดังขึ้น ทั้งสองหันกลับไปมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง อีริคขมวดคิ้วน้อย ๆ แล้วเปิดเปลือกตาขึ้นมองไปหาสองหนุ่มสาวที่กำลังทำหน้าตกใจมองมาที่เขา“พะ พาเวล” อีริคเรียกหาลูกน้องหนุ่ม “คนโปรด คนโปรดอยู่ไหน” เขากระซิบเสียงแผ่วถามพาเวลที่เดินมาหา“นายเป็นยังไงบ้างครับ นายเจ็บตรงไหนไหมครับ”“…” อีริคมองหน้าลูกน้อง จากนั้นจึงละสายตากลับไปหาซินซินที่ยืนร้องไห้อยู่ข้างเตียงผู้ป่วย “เธอกำลังทำให้ฉัน
บทที่ 50 ไร่ปาริฉัตรหลายนาทีต่อมาฮาน่ายังคงติดใจเรื่องสร้อยข้อมือที่ลูกชายนางกำไว้อยู่ แม้จะเค้นเอาคำตอบจากปากพาเวลยังไงก็ไม่ได้ความ มีแต่น้ำไม่มีเนื้อ พอนางหันไปถามซินซินหลานสาวก็เอาแต่ตอบว่าไม่รู้อยู่ท่าเดียว“ริค หนูมีอะไรจะบอกแม่ไหม เกี่ยวกับคนที่ชื่อคนโปรดอะไรนั่น ทำไมหนูดูใส่ใจเขาเป็นพิเศษ” นางตัดสินใจถามลูกตรงประเด็น“เธอเป็นคนที่เสี่ยธวัตรเอามาบรรณาการผมครับ”“ของบรรณากาารด้วยคนเนี่ยนะ”“ครับ”“ไอ้เวรนั่นมันต้องเลวทรามแค่ไหน ถึงได้เอาคนเป็น ๆ มาให้ลูกชายฉัน”“มันแค่อยากต่อกรกับผม”“ดีแล้วที่มันตาย ไม่งั้นมันกับมี๊คงต้องเปิดศึกกันสักครั้ง”“ว่าแต่มี๊มาคนเดียวเหรอครับ"“ใช่ลูก มี๊มาก่อนเดี๋ยวป๊าก็จะตามมา ป๊าเคลียร์งานอยู่”“อันที่จริงไม่ต้องมาก็ได้ ผมไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้น”“ขอตีได้ไหม ไม่ได้เป็นอะไรมากยังไงกัน บาดเจ็บเจียนตายขนาดนี้ไม่คิดจะบอกอะไรมี๊สักคำนะริค อย่างน้อยหนูก็ควรจะบอกแม่บ้าง นี่ถ้าแม่ไม่โทรมาหาซินคงไม่รู้เรื่องอะไรเลย”“ก็ยังไม่ตาย”“ตาริคนี่ยังไง อยากโดนมี๊ตีให้ได้เลยใช่ไหม”“ผมเจ็บแผล อยากพักผ่อน”“งั้นมี๊ออกไปรอข้างนอก โอเคไหมลูก”“ครับ”ฮาน่าลุกขึ้นแล้วโ
บทที่ 51 พ่อเลี้ยงองศาคนโปรดเดินออกมาที่หน้าบ้านหลังจากนอนหลับไปหลายชั่วโมง ร่างกายเธอยังร้าวระบมและเจ็บปวดอยู่บ้างแต่ไม่ได้มากเหมือนวันแรก ๆ แล้ว“ป้าคะ หนูพร้อมแล้วค่ะ พาหนูไปหาพ่อเลี้ยงองศาได้ไหมคะ”“รอก่อน เดี๋ยวรถของลูกน้องพ่อเลี้ยงก็จะเข้ามาที่นี่ อีกประมาณยี่สิบนาที”“ค่ะ” คนโปรดนั่งลงบนเก้าอี้ รอรถของพ่อเลี้ยงอย่างจดจ่อ รอไม่นานรถจิ๊บคันสีดำก็วิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน คุณป้าเดินมาพยุงตัวเธอขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับ ส่วนตัวนางขึ้นไปนั่งด้านหลัง “พี่ช่วยขับเบา ๆ หน่อยนะคะ”“อืม” ชายหนุ่มครางตอบเสียงเบาแล้วขับรถพาคนโปรดไปที่บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในพื้นที่มากกว่าร้อยไร่ระหว่างทางที่นั่งรถไปเรื่อย ๆ เธอก็ได้เห็นความใหญ่โตของไร่ปาริฉัตร แม่ทัศนวิสัยในการมองเห็นจะไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ก็ตามนั่งรถมาราว ๆ สามสิบนาทีก็มาถึงบ้านทรงโมเดิร์นสมัยใหม่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางลานกว้าง ๆ บ้านหลังใหญ่พอ ๆ กับบ้านของอีริคเลย แต่ที่ไม่เหมือนกันคือที่นี่ค่อนข้างเงียบและไม่มีคนคอยคุ้มกันเหมือนบ้านอีริค“พ่อเลี้ยงกลับมาแล้ว” คุณป้าเอ่ยขึ้นเพราะนางเห็นรถที่พ่อเลี้ยงใช้ขับบ่อย ๆ จอดอยู่ในโรงจอดรถ
บทที่ 52 ของเก่าอีริค“เลิกแกล้งหลับได้แล้วน่า ฉันจับลมหายใจแกได้ตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วริค” ซินซินสะกิดแขนน้องชายที่กำลังแกล้งหลับอยู่ ส่วนคนที่ถูกจับได้ก็ถอนหายใจออกอย่างเบื่อหน่าย“อะไรนักหนา กลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ”“กลับตอนไหน นี่ฉันมาอยู่เป็นเพื่อนนายนะ คุณน้าฮาน่ากลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน”“เธอก็ควรกลับไป”จังหวะนั้นแพกซ์เปิดประตูเข้ามาพอดี อีริคจึงพยักพเยิดหน้าให้ชายหนุ่มแล้วบุ้ยปากไปหาซินซินเป็นอันรู้กัน“กลับได้แล้วน่า เธอไม่อยู่ริคมันก็ดูแลตัวเองได้”“อะไร เมื่อกี้ส่งสายตาอะไรให้กันไม่ทราบ”“ก็ริคมันอยากพักผ่อนไง เธออะควรกลับไปบ้าน”“ไม่อยากกลับไง อยากอยู่เป็นเพื่อนน้อง”“ถามมันก่อนไหมว่าอยากให้อยู่หรือเปล่า”“ริค” ซินซินหันกลับมามองหน้าอีริค ทว่าอีริคกลับสั่นหน้าพรืดหนึ่งพร้อมสะบัดมือเบา ๆ เป็นเชิงบอกให้แพกซ์พาเธอกลับไปเสียตอนนี้ เพราะเขาอยากพักผ่อนให้เต็มที่โดยไม่มีเสียงเจื้อยแจ้วรบกวน “เออก็ได้ นี่อย่ามาร้องไห้ฟูมฟายกับเรื่องคนโปรดนะ”“...” อีริคยอมหันหน้ามามองหน้าซินซิน “รีบใสหัวไปก่อนที่ฉันจะสั่งให้คนมาลากเธอออกไปแทน”“เย็นลงหน่อย” แพกซ์ห้ามปรามทั้งสองพี่น้องแล้วจึงพาซินซินอ
บทที่ 53 ข้อเสนอ“หึหึ” พ่อเลี้ยงแสยะยิ้มพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะอย่างขำขัน ทั้งที่เธอไม่เห็นมองว่ามันน่าหัวเราะเลยสักนิด คนโปรดจ้องหน้าชายหนุ่มคนตรวงหน้าเขม็ง“ฉันไม่ได้อยากมาเป็นตัวตลกและเป็นสิ่งที่คุณจะเอาไปกล่าวอ้างหรือต่อกรกับคุณริค”“หึหึ เด็กของอีริคนี่ปากกล้าดีเหมือนกันนะ วันนั้นเธอยังแสดงออกว่ากลัวฉันอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับมองฉันด้วยสายตาดุดันท้าทายความตายแบบนั้น”“ฉันไม่รู้นะคะ ว่าคุณกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ แต่ขอบอกไว้เลยว่าฉันจะไม่เป็นจุดอ่อนของคุณริคแน่นอน”“เด็กน้อย เธอทั้งสวยทั้งฉลาดแบบนี้ ถึงว่าอีริคไม่ปล่อยให้ไปไหนไกลตัว เป็นของหวงของอีริคนี่เองสินะ” ไม่ว่าเปล่าแต่พ่อเลี้ยงยังเชยคางมนขึ้น แต่คนโปรดกลับสะบัดหน้าออกจากมือเขา“โปรดสู้คนนะ อย่าคิดว่าจะมาทำอะไรกันก็ได้”“ฉันชอบในความกล้าเธอนะสาวน้อย”“...”! เธอไม่อาจเดาความคิดพ่อเลี้ยงได้เลย ว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ และไม่รู้ว่าระหว่างคุณริคกับพ่อเลี้ยงพวกเขารู้จักกันในนามมิตรหรือศัตรู “ขอปืนกระบอกนั้นคืน แล้วฉันจะไปจากที่นี่ทันที”“เดี๋ยว”“...”“มาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ ได้ยังไงกัน ของหวงอีริคอยู่ในมือทั้งทีก็ต้องใช
บทที่ 54 เนื้อในปากเสือ@สนามม้าอีริคนอนเป็นผักอยู่บนเตียงด้วยความเบื่อหน่าย นี่คงเป็นการนอนติดเตียงที่ยาวนานที่สุดในชีวิตเขา และเป็นการเจ็บตัวที่สาหัสสุด ๆ ในชีวิตเช่นกัน“นายรับผลไม้ไหมครับ” พาเวลรับหน้าที่ดูแลเจ้านายแทนทุกคน เพราะตั้งแต่ย้ายมารักษาที่นี่ อีริคก็สั่งห้ามไม่ให้คนนอกเข้ามาในสนามม้า และยังไม่ให้ใครติดต่อเข้ามาสอบถามเรื่องอาการอีก ข่าวเรื่องที่เขาถูกเสี่ยธวัตรโจมตีก็ยังคงเป็นเรื่องฮือฮาของกลุ่มนักข่าวและวงการธุรกิจ“ไม่ โฮบาร์ทเป็นไงบ้าง” เขาปฏิเสธเสียงเรียบและถามหาลูกม้าด้วย“มันก็วิ่งเล่นอยู่กับแม่ครับ ตัวโตมากแล้วด้วย”“อืม เลี้ยงมันให้ดี”“ครับนาย”“แล้วเรื่องที่แม่ให้ไปสืบ นายได้ความอะไรมาบ้างไหม”“เอ่อ...ตอนนี้ยังไม่ได้อะไรเลยครับ แต่ว่าลูกน้องเราก็ยังไม่ออกมาจากพื้นที่ และยังค้นหาต่อไปครับ”“อืม”“นายไม่ว่าอะไรใช่ไหม ที่เรายังค้นหาตัวคนโปรดอยู่”“...” อีริคเงียบไป พาเวลจึงไม่เอ่ยถามเขาอีกและได้นำผลไม้ที่แม่บ้านปอกใส่กล่องไว้ให้ จัดลงจานแล้วเอามาป้อนเจ้านาย “กูฝากมึงด้วย ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ ถ้าเจอตัวเธอก็ให้เธอได้อิสระ”“แล้วนายก็เจ็บปวด นายไม่จำเป็นต้องทำ
บทที่ 55 เจอหน้ากันครั้งแรกหลายวันต่อมาคนโปรดเดินเรียบ ๆ มาหยุดอยู่ข้างประตู เธอดูลาดเลาดีแล้วว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านโดยเฉพาะพ่อเลี้ยงองศา เขาออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดและยังไม่กลับเข้ามาในบ้านเลย จึงเป็นโอกาสทองที่เธอจะหลบหนี“ดีละ” หญิงสาวเปิดประตูบ้านออกช้า ๆ เพื่อให้เสียงเบามากที่สุด เมื่อเปิดช่องพอดีที่ตัวเองจะลอดออกมาได้แล้วจึงรีบก้าวขาออกมา ทว่าเธอไม่รู้เลยว่าจริง ๆ แล้วพ่อเลี้ยงองศานั้นกำลังยืนคุยกับเพื่อนอยู่หน้าบ้าน ด้วยเขายืนห่างจากประตูเกือบสามเมตรคนข้างในจึงไม่ได้้ยินเสียงพูดคุยกันตอนนี้พ่อเลี้ยงกับเพื่อนหันไปมองคนโปรดที่พยายามหลบหนีออกจากปากเป็นตาเดียว ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่รู้ตัวว่าพวกเขานั้นจับได้แล้ว“ฟู่~” หญิงสาวปาดเหงื่อออกจากกรอบหน้า แล้วปิดประตูให้สนิทอย่างเบามือเหมือนเดิม จากนั้นก็ย่องถอยหลังออกมาให้ห่าง “ว๊าย!” ทันทีที่หันหลังกลับมาก็ต้องตกใจขั้นสุด“เธอทำอะไรของเธอ”“พะ พ่อเลี้ยงมายืนตรงนี้ตอนไหน”“ก็นานแล้ว นานพอที่จะเห็นเธอแอบออกมาจากบ้านฉัน”“...”!“คิดว่าจะหนีออกไปไหนได้เหรอ”“เห็นแล้วทำไมไม่บอก! อยากแกล้งกันมากหรือไง”“นี่ฉันผิด?”“ใช่!”“สมกับเป็นคนของอี
บทที่ 56 เคลียร์ใจอีริคมองหน้าพ่อเลี้ยงองศาด้วยสายตาเคียดแต้น ก่อนจะเอ่ยเสียงลอดไรฟัน“ปล่อยตัวคนโปรด อย่าเอาเธอมาเกี่ยวเรื่องนี้”“ได้ยังไง ในเมื่อเธอเป็นคนรักของนาย”“ฉันไม่…” ตั้งท่าจะปฏิเสธแล้วแท้ ๆ แต่กลับแสยะยิ้มมุมปากพร้อมกับเงยหน้ามองสบตากับอีกฝ่ายอย่างเย้ยหยัน “เรียกให้ถูกคือของเล่นชิ้นโปรด”“หึ! ของเล่นชิ้นโปรดงั้นเหรอ งั้นกูก็เล่นของเล่นชิ้นนี้ได้งั้นดิ”“อย่าแตะต้องเธอ” อีริคขบกรามแน่น“ยังไงวะ ก็ไหนบอกของเล่นไง แล้วคนอื่นเล่นไม่ได้เลย?”“ของเล่นที่แปลว่าของกูคนเดียว คนอื่นอย่าเสือก!”พ่อเลี้ยงแสยะยิ้มมุมปาก แม้ไม่ได้เจอกับอีริคหลายปีแต่สกิลปากดียังคงเสมอต้นเสมอปลาย“มึงมาปากดีในที่ของกู ไม่กลัวตายเลยว่างั้น”ทางพาเวลกับซินซินที่ได้ยินอีกฝ่ายขู่มาแบบนั้นจึงเดินเข้าไปยืนข้างอีริค บ่งบอกว่าพวกเขาพร้อมอยู่เคียงข้างอีริคเสมอ“ปล่อยตัวคนโปรดมาดี ๆ”“ไม่”“มึงต้องการอะไร หรืออยากเอาคืนกู”“ก็ใช่”“แต่กูไม่เคยทำอะไรมึงก่อน เรื่องที่ผ่านมากูไม่เคยทำอะไรผิดต่อมึง มีแต่มึงที่เข้าใจผิดไปเองทั้งนั้น”“กูเข้าใจผิดยังไง ก็มึงแย่งคนของกูไปต่อหน้าต่อตา”“กูไม่ได้แย่งของของมึง ผู้หญิงมักม