บทที่ 53 ข้อเสนอ“หึหึ” พ่อเลี้ยงแสยะยิ้มพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะอย่างขำขัน ทั้งที่เธอไม่เห็นมองว่ามันน่าหัวเราะเลยสักนิด คนโปรดจ้องหน้าชายหนุ่มคนตรวงหน้าเขม็ง“ฉันไม่ได้อยากมาเป็นตัวตลกและเป็นสิ่งที่คุณจะเอาไปกล่าวอ้างหรือต่อกรกับคุณริค”“หึหึ เด็กของอีริคนี่ปากกล้าดีเหมือนกันนะ วันนั้นเธอยังแสดงออกว่ากลัวฉันอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับมองฉันด้วยสายตาดุดันท้าทายความตายแบบนั้น”“ฉันไม่รู้นะคะ ว่าคุณกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ แต่ขอบอกไว้เลยว่าฉันจะไม่เป็นจุดอ่อนของคุณริคแน่นอน”“เด็กน้อย เธอทั้งสวยทั้งฉลาดแบบนี้ ถึงว่าอีริคไม่ปล่อยให้ไปไหนไกลตัว เป็นของหวงของอีริคนี่เองสินะ” ไม่ว่าเปล่าแต่พ่อเลี้ยงยังเชยคางมนขึ้น แต่คนโปรดกลับสะบัดหน้าออกจากมือเขา“โปรดสู้คนนะ อย่าคิดว่าจะมาทำอะไรกันก็ได้”“ฉันชอบในความกล้าเธอนะสาวน้อย”“...”! เธอไม่อาจเดาความคิดพ่อเลี้ยงได้เลย ว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ และไม่รู้ว่าระหว่างคุณริคกับพ่อเลี้ยงพวกเขารู้จักกันในนามมิตรหรือศัตรู “ขอปืนกระบอกนั้นคืน แล้วฉันจะไปจากที่นี่ทันที”“เดี๋ยว”“...”“มาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ ได้ยังไงกัน ของหวงอีริคอยู่ในมือทั้งทีก็ต้องใช
บทที่ 54 เนื้อในปากเสือ@สนามม้าอีริคนอนเป็นผักอยู่บนเตียงด้วยความเบื่อหน่าย นี่คงเป็นการนอนติดเตียงที่ยาวนานที่สุดในชีวิตเขา และเป็นการเจ็บตัวที่สาหัสสุด ๆ ในชีวิตเช่นกัน“นายรับผลไม้ไหมครับ” พาเวลรับหน้าที่ดูแลเจ้านายแทนทุกคน เพราะตั้งแต่ย้ายมารักษาที่นี่ อีริคก็สั่งห้ามไม่ให้คนนอกเข้ามาในสนามม้า และยังไม่ให้ใครติดต่อเข้ามาสอบถามเรื่องอาการอีก ข่าวเรื่องที่เขาถูกเสี่ยธวัตรโจมตีก็ยังคงเป็นเรื่องฮือฮาของกลุ่มนักข่าวและวงการธุรกิจ“ไม่ โฮบาร์ทเป็นไงบ้าง” เขาปฏิเสธเสียงเรียบและถามหาลูกม้าด้วย“มันก็วิ่งเล่นอยู่กับแม่ครับ ตัวโตมากแล้วด้วย”“อืม เลี้ยงมันให้ดี”“ครับนาย”“แล้วเรื่องที่แม่ให้ไปสืบ นายได้ความอะไรมาบ้างไหม”“เอ่อ...ตอนนี้ยังไม่ได้อะไรเลยครับ แต่ว่าลูกน้องเราก็ยังไม่ออกมาจากพื้นที่ และยังค้นหาต่อไปครับ”“อืม”“นายไม่ว่าอะไรใช่ไหม ที่เรายังค้นหาตัวคนโปรดอยู่”“...” อีริคเงียบไป พาเวลจึงไม่เอ่ยถามเขาอีกและได้นำผลไม้ที่แม่บ้านปอกใส่กล่องไว้ให้ จัดลงจานแล้วเอามาป้อนเจ้านาย “กูฝากมึงด้วย ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ ถ้าเจอตัวเธอก็ให้เธอได้อิสระ”“แล้วนายก็เจ็บปวด นายไม่จำเป็นต้องทำ
บทที่ 55 เจอหน้ากันครั้งแรกหลายวันต่อมาคนโปรดเดินเรียบ ๆ มาหยุดอยู่ข้างประตู เธอดูลาดเลาดีแล้วว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านโดยเฉพาะพ่อเลี้ยงองศา เขาออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดและยังไม่กลับเข้ามาในบ้านเลย จึงเป็นโอกาสทองที่เธอจะหลบหนี“ดีละ” หญิงสาวเปิดประตูบ้านออกช้า ๆ เพื่อให้เสียงเบามากที่สุด เมื่อเปิดช่องพอดีที่ตัวเองจะลอดออกมาได้แล้วจึงรีบก้าวขาออกมา ทว่าเธอไม่รู้เลยว่าจริง ๆ แล้วพ่อเลี้ยงองศานั้นกำลังยืนคุยกับเพื่อนอยู่หน้าบ้าน ด้วยเขายืนห่างจากประตูเกือบสามเมตรคนข้างในจึงไม่ได้้ยินเสียงพูดคุยกันตอนนี้พ่อเลี้ยงกับเพื่อนหันไปมองคนโปรดที่พยายามหลบหนีออกจากปากเป็นตาเดียว ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่รู้ตัวว่าพวกเขานั้นจับได้แล้ว“ฟู่~” หญิงสาวปาดเหงื่อออกจากกรอบหน้า แล้วปิดประตูให้สนิทอย่างเบามือเหมือนเดิม จากนั้นก็ย่องถอยหลังออกมาให้ห่าง “ว๊าย!” ทันทีที่หันหลังกลับมาก็ต้องตกใจขั้นสุด“เธอทำอะไรของเธอ”“พะ พ่อเลี้ยงมายืนตรงนี้ตอนไหน”“ก็นานแล้ว นานพอที่จะเห็นเธอแอบออกมาจากบ้านฉัน”“...”!“คิดว่าจะหนีออกไปไหนได้เหรอ”“เห็นแล้วทำไมไม่บอก! อยากแกล้งกันมากหรือไง”“นี่ฉันผิด?”“ใช่!”“สมกับเป็นคนของอี
บทที่ 56 เคลียร์ใจอีริคมองหน้าพ่อเลี้ยงองศาด้วยสายตาเคียดแต้น ก่อนจะเอ่ยเสียงลอดไรฟัน“ปล่อยตัวคนโปรด อย่าเอาเธอมาเกี่ยวเรื่องนี้”“ได้ยังไง ในเมื่อเธอเป็นคนรักของนาย”“ฉันไม่…” ตั้งท่าจะปฏิเสธแล้วแท้ ๆ แต่กลับแสยะยิ้มมุมปากพร้อมกับเงยหน้ามองสบตากับอีกฝ่ายอย่างเย้ยหยัน “เรียกให้ถูกคือของเล่นชิ้นโปรด”“หึ! ของเล่นชิ้นโปรดงั้นเหรอ งั้นกูก็เล่นของเล่นชิ้นนี้ได้งั้นดิ”“อย่าแตะต้องเธอ” อีริคขบกรามแน่น“ยังไงวะ ก็ไหนบอกของเล่นไง แล้วคนอื่นเล่นไม่ได้เลย?”“ของเล่นที่แปลว่าของกูคนเดียว คนอื่นอย่าเสือก!”พ่อเลี้ยงแสยะยิ้มมุมปาก แม้ไม่ได้เจอกับอีริคหลายปีแต่สกิลปากดียังคงเสมอต้นเสมอปลาย“มึงมาปากดีในที่ของกู ไม่กลัวตายเลยว่างั้น”ทางพาเวลกับซินซินที่ได้ยินอีกฝ่ายขู่มาแบบนั้นจึงเดินเข้าไปยืนข้างอีริค บ่งบอกว่าพวกเขาพร้อมอยู่เคียงข้างอีริคเสมอ“ปล่อยตัวคนโปรดมาดี ๆ”“ไม่”“มึงต้องการอะไร หรืออยากเอาคืนกู”“ก็ใช่”“แต่กูไม่เคยทำอะไรมึงก่อน เรื่องที่ผ่านมากูไม่เคยทำอะไรผิดต่อมึง มีแต่มึงที่เข้าใจผิดไปเองทั้งนั้น”“กูเข้าใจผิดยังไง ก็มึงแย่งคนของกูไปต่อหน้าต่อตา”“กูไม่ได้แย่งของของมึง ผู้หญิงมักม
บทที่ 57 รู้สึกผิด“คราวนี้ฉันพาน้องกลับได้แล้วใช่ไหม”“เดี๋ยวสิครับ ไหน ๆ ก็มาไร่ปาริฉัตรทั้งทีแล้วต้องกินข้าวด้วยกันสักมื้อสิ” ชรัณเอ่ยด้วยความปราบปลื้มยินดีที่เพื่อนทั้งสองเคลียร์ใจกันได้ และนับว่าเป็นโอกาสทองที่ทั้งสองได้มาเจอหน้ากันในรอบหลายปี จึงอยากชวนทุกคนกินข้าวพร้อมหน้ากันหน่อย“กินข้าวเหรอคะ” คนโปรดก้มมองอีริค ซึ่งเขาไม่ได้พูดอะไรแต่กำลังมองไปที่พ่อเลี้ยงองศา“อืม กินข้าวก็ดี”“เอ๋า นี่แกหิวจริงเหรอ” ซินซินไม่เข้าใจน้องชายที่ตกปากรับคำว่าจะกินข้าวที่ไร่ปาริฉัตร“อืม ฉันหิวจริง” อีริคพยักหน้าให้คำตอบกับพี่สาวอีกครั้ง จากนั้นพาเวลก็พาอีริคเดินตามพ่อเลี้ยงองศาไปยังสถานที่ที่เขาใช้พักผ่อนเวลาเครียดจากงาน ซึ่งเป็นเพลิงเล็ก ๆ ตั้งอยู่หลังบ้าน แต่วิวด้านหลังไม่ธรรมดาเลน เป็นภูเขาและทุ่งหญ้ากว้างขวาง สายลมพัดมากระทบใบหน้าพัดพากลิ่นหอมของหญ้ามาแตะจมูก“ถ้าฉันอยากได้ที่แถวนี้ นายพอจะมีที่ให้ซื้อไหม”“อยากมาเป็นคนเชียงใหม่ว่างั้น?” พ่อเลี้ยงถามอีริค“อืม อยากทำไว้พักผ่อน”“ก็พอมี แต่ไม่ใช่แถวนี้หรอก อยู่ลึกเข้าไปด้านในโน่น รถเข้าถึง ไฟฟ้าเข้าถึงแต่...”“แต่อะไร”“เจ้าของเก่าหวงมาก ก็เ
บทที่ 58 กลับสู่อ้อมกอด“จริง ๆ กูอยากให้มึงพักผ่อนที่นี่สักคืน แต่ก็เข้าใจว่าคงอยากกอดเมียอยู่บ้านตัวเอง” พ่อเลี้ยงหันหน้าไปคุยกับอีริค ขณะที่คู่สนทนานั่งจับมือคนโปรดอยู่อีกฝั่งของโต๊ะอาหาร“เอาไว้วันหลังแล้วกัน มีอีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการ”“ไม่อวยพรนะ แต่ขอให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของคนที่คิดปองร้ายมึงแล้วกัน”“ก็ถือว่าเป็นคำอวยพรที่ดี เพราะงานที่จะกลับไปทำก็เกี่ยวกับความเป็นความตาย”“ต้องเสี่ยงมากไหมคะ”“ก็...พอสมควร” อีริคยิ้มให้คนโปรดพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบผมเธอ “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ถึงฉันจะยังนั่งวีลแชร์อยู่ แต่ก็มีปากสั่งงานได้เหมือนกัน”“แต่โปรดเพิ่งรู้ว่า...” คนโปรดหันไปมองพาเวลด้วยสีหน้าตกใจ “พี่พาเวลยังไม่ตาย พี่พาเวลยังอยู่”“หึหึ พาเวลยังไม่ตาย ฉันแค่ให้เล่นละครตบคาเธอนิดหน่อยแล้วก็ให้ไปทำงานพิเศษ”“ทำไมโกหกกันได้ลงคอคะ โปรดร้องไห้เสียใจกับพี่พาเวลตั้งหลายวัน ทั้งรู้สึกผิดอีก”“ฉันเองก็รู้สึกผิดที่ต้องหลบซ่อนเธอแบบนี้” พาเวลเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ “แต่ก็อยู่เคียงข้างนายตลอด เธอจะได้หายห่วง”“ขอบคุณนะคะ”“เอา ๆ ฉันว่าเราควรกลับได้แล้วนะ เดี๋ยวมืดค่ำไปมากกว่านี้จะเดินทางลำบากเอา”“อืม”
บทที่ 59 'โปรดเป็นเมียผม'“คุณริคคะ เอ่อ...เมื่อตอนอยู่บนเครื่อง โปรดได้ยินพี่ซินเรียกชื่อฮาน่า ใครกันเหรอคะ”“...” อีริคปรายตามองหน้าซินซินพร้อมจิ๊ปากใส่ “เธอยังไม่ต้องรู้ตอนนี้หรอก เอาไว้ฉันหายดีก่อน”“งั้นตอนนี้ก็กลับไปโรงพยาบาลนะคะ ให้พี่พาเวลพาไปตอนนี้เลย”ส่วนพาเวลาที่พยายามเร้าหรือเจ้านายอยู่หายหน พอได้รู้ว่านายกำลังจะกลับไปรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเขาก็รีบไปเตรียมรถให้พร้อม และมารอรับอีริคอยู่ที่ห้องห้องนั่งเล่น“พร้อมแล้วครับนาย”“ยิ้มแป้นเลยนะมึง”“หึหึ ก็ธรรมดาครับ ผมบังคับนายไม่ได้ แต่คราวนี้ผมรู้แล้วว่าต้องหันหน้าไปบอกใครให้พานายไปหาหมอ”“เอาใหญ่” มุมปากหนาบิดยิ้มเป็นเอกลักษณ์แล้วเงยหน้ามองคนตัวเล็ก “แล้วอาการเวียนศีรษะหายดียัง ถ้ายังไม่หายเดี๋ยวเข้าหาหมอพร้อมกันเลย”“ยังมึน ๆ อยู่ค่ะ บอกตามตรงเลยนะว่ากลิ่นน้ำพริกถ้วยนั้นติดจมูกโปรดอยู่ พอนึกถึงหน้าตามันแล้วก็จะอ้วก”“อืม”หลังจากนั้นพาเวลก็พาอีริคไปโรงพยาบาล หมอได้ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งแล้วให้เขาพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง“คราวนี้ไม่ดื้ิออยากกลับบ้านแล้วนะครับคุณริค”“หึหึ”“แน่นอนค่ะ เพราะโปรดจะกำชับเองว่าให้
บทที่ 60 สถานะมียคนโปรดยืนอึ้งกินอยู่กับที่ เธอเพิ่งเคยได้ยินคำคำนั้นจากปากอีริคครั้งแรก แม้ว่าอีริคพูดไปแล้วเกือบหนึ่งนาที แต่เสียงที่ดังก้องในหูเธอเหมือนว่าเขาเพิ่งพูดไปเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วนี้เอง“คุณริค”“เป็นเมีย?” ฮาน่าทวยคำพูดลูกชายอีกครั้ง ก่อนจะบิดยิ้มมุมปากเป็นอันรู้กัน “อ๋อเหรอ...ที่แท้หนูโปรดก็เป็นเมียลูกชายฉันนี่เอง”“มี๊” อีริคปรามแม่ทางสายตา “ผมขอเวลาคุยกับคนโปรดก่อน”“ได้ คุยกันให้ลงตัว แล้วมี๊จะกลับมาเอาคำตอบอีกทีหนึ่ง” ฮาน่าเดินเข้าไปใกล้ลูกชาย และอีริคก็รู้ว่าแม่นั้นจะหอมแก้มตนจึงเอียงตัวหลบ“มี๊อย่า”“จะอายทำไม หนูเป็นลูกมี๊นะ”อีริคเลิ่กลั่กใหญ่แล้วหันไปมองคนโปรด เธออมยิ้มมองสองแม่ลูกหยอกเย้ากันผ่านรอยยิ้มสดใส“มาให้หอมแก้มก่อน แล้วมี๊จะกลับ”“มี๊” อีริคส่ายหน้า แต่ก็ไม่วายถูกแม่จับใบหน้าให้นิ่งแล้วหอมแก้มไปฟอดใหญ่ จากนั้นฮาน่าก็เดินออกไปจากห้องพักฟื้น “เธอยิ้มอะไร”“ก็ยิ้มให้กับความน่ารักของคุณริคกับคุณฮาน่าไงคะ ที่แท้ฮาน่าที่ว่าก็คือแม่ของคุณริคนี่เอง”“อืม”“ทำไมเหรอคะ กลัวโปรดถูกคุณท่านพากลับต่างประเทศด้วยขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงขั้นโกหกว่าโปรดเป็นเมีย”“เปล่า
ตอนพิเศษ 3 จบตอนจากเด็กน้อยแบเบาะในวันนั้น ตอนนี้น้องกันต์มีอายุครบสาวขวบพอดี เด็กชายในชุดเอื้อมยีนเดินไปหาพ่อตัวเองด้วยรอยยิ้มสดใส ในมือถือของเล่นที่เตรียมมาเล่นกับพ่อด้วย“ป๊า น้องกันต์อยากได้ของเล่นอีกครับ” น้ำเสียงและแววตาสดใสจดจ้องใบหน้าของพ่อที่กำลังนั่งทำงานอยู่กับพาเวล อีริคละสายตาจากหน้าลูกน้องมามองลูกชาย เขาอุ้มน้องกันต์ขึ้นมานั่งบนตักแล้วหอมศีรษะไปหนึ่งฟอด“หนูซื้ิอของเล่นเยอะแล้วเล่นหมดไหมครับ”“...” เด็กชายสั่นหน้า“ของเล่นเยอะแยะเลยลูก อันไหนที่หนูไม่เล่นแล้วป๊าขอเอาไปให้น้องได้ไหม น้องไม่มีของเล่น”“น้อง น้องไหนครับ”“ก็น้องที่เขาไม่มีตังค์ซื้อของเล่นครับ น้องอยู่ไกล ๆ เลย”“ได้ครับ”“งั้นน้องกันต์ไปเก็บของเล่นที่น้องกันต์ไม่เล่นแล้วกับลุงพาเวลนะ เดี๋ยวป๊าทำงานเสร็จป๊าไปหา”“ครับ”อีริคพยักหน้าให้พาเวลพาลูกชายเข้าไปในบ้าน ส่วนเราเร่งทำงานให้เสร็จ“อ้าว” คนโปรดถือจานผลไม้สดที่เธอตั้งใจจะเอาออกไปให้สองพ่อลูกที่หน้าบ้านเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกกับพาเวลเดินกลับเข้ามาในบ้าน“นายให้มาเก็บของเล่นที่คุณหนูไม่เล่นเอาไปบริจาคให้เด็กบนดอยครับ” พาเวลตอบ“อ๋อ ดีมากเลยค่ะ ของเล่นน้องกันต์
ตอนพิเศษ 2สองเดือนต่อมาเสียงอ้อแอ้ของลูกน้อยช่วยปลุกอีริคให้ตื่นจากการนอนพักสายตาในช่วงกลางวัน เขารีบลุกขึ้นมาดูลูก“พี่ริค” คนโปรดมองใบหน้าคมคายที่แสดงออกถึงความง่วงงุนด้วยความเอ็นดู “นอนต่อเถอะค่ะ โปรดดููลูกได้”“ไม่เอา ฉันหายง่วงแล้ว”“น้องกันต์หนูอย่ากวนป๊าสิลูก ป๊าไม่ได้นอนตั้งหลายคืนแล้วนะครับ”“ป๊ายินดีครับลูก” อีริคเขยิบเข้ามาใกล้แล้วก้มลงไปหอมลูกชายที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเบาะ “ตัวหอมจังเลย”“โปรดกับคุณแม่เพิ่งอาบน้ำให้เมื่อกี้เองค่ะ”“ถึงว่าละ ตัวก็หอมหน้าก็ขาว”“หึหึ”“แล้วมีคนมาหาฉันไหม”“ไม่เลยค่ะ พี่ริคนัดใครไว้เหรอคะ”“เปล่าหรอก ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย เผื่อมีคนอยากเจอหน้า”“ค่ะ”“น้องกันต์หลานป้า~” เสียงแหลม ๆ ของซินซินดังมาแต่ไกล แต่น้องกันต์กลับไม่ตกใจแถมยังดีดดิ้นและยิ้มร่าเหมือนว่ากำลังรอเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น “อ้าว” ซินซินเลิกคิ้วทักทายน้องชายแล้วรีบนั่งลง “วันนี้ป้าซินมีชุดหล่อมาฝากด้วยนะคะ”“ชุดแดง”“ใช่ ใกล้ตรุษจีนแล้วผมอยากเป็นอาตี๋น้อยครับ”“หึหึ แล้วอีกชุดล่ะ”“อีกชุดเหรอ” เธอหยิบออกมาจากถุงกระดาษ ทุกคนขำขันเมื่อได้เห็นชุดเต็ม “ชุดหมูน้อยค่า”“ลูกกูไม่ใช่หม
ตอนพิเศษ 1ห้าวันต่อมาหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาอีริคก็ได้พาคนโปรดมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านตัวเองโดยมีฮาน่ากับซินซินช่วยดูแลคนโปรดกับน้องกันต์“หลานป้าหล่อจังเลย เห็นหน้ากันกี่ครั้งก็หลง” ซินซินนั่งเฝ้าหลานชายคนแรกอยู่ข้างเบาะนอนสำหรับเด็กทารกที่เธอซื้อมาให้หลานไม่ห่างไปไหนไกล ส่วนฮาน่ากำลังสอนคนโปรดปั้มนมอยู่อีกที่หนึ่ง“คุณท่านคะ เอ่อ...คุณผู้ชายท่านจะโกรธไหมคะ ที่โปรดกับลูกมาอยู่ที่นี่” สิ่งที่เธอเป็นกังวลมาโดยตลอดก็เรื่องพ่อของอีริค ตั้งแต่ท้องจนคลอดเธอก็ไม่เห็นท่านมาที่นี่สักครั้ง และเหมือนว่าอีริคกับพ่อก็ไม่ค่อยถูกกันด้วย“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เราเพิ่งคลอดลูกอย่าไปเครียดเลย เดี๋ยวน้ำนมจะไม่ไหลเอานะลูก” ฮาน่าปลอบใจคนโปรด อันที่จริงเธอก็เปรย ๆ เรื่องอีริคมีแฟนและแฟนลูกกำลังท้องให้สามีฟังบ้างแล้ว และเมื่อวันก่อนก็เพิ่งส่งรูปน้องกันต์ให้เขาดู แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาหรือการตอบกลับจากสามี แต่เธอก็ดูออกว่าสามีนั้นพึงพอใจอยู่บ้างที่หลานคนแรกเป็นผู้ชาย“โปรดกลัวพี่ริคทะเลาะกับคุณท่านอีก”“ไม่หรอก เชื่อแม่”“ค่ะ” คนโปรดมองไปหาน้องกันต์ที่เพิ่งกินนมหลับไป “น้องกันต์กินเก่งมากเลยค่ะ ตอนกลางคืนแ
บทที่ 70 บทส่งท้ายหลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็มารวมกันอยู่ข้างบ้านซึ่งมีระแนงไม้ที่พ่อเลี้ยงปูเอาไว้ และสั่งเก้าอี้มาไว้สำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า จิบกาแฟไปด้วย“เอาอีกไหม”อีริคส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อพ่อเลี้ยงยื่นขวดไวน์มาทางเขาหมายจะรินให้เขาอีก“กินเยอะก็ปวดหัว”"ปกติไม่ปฏิเสธนี่"“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ มึงก็อย่าไปคะยั้นคะยอให้มันกิน” ชรัณเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ เมื่อก่อนจำได้ว่าเคยดื่มด้วยกันจนเข้าเรียนไม่ทัน มัวแต่อ้วกกับเมาค้างจนอาจารย์ให้ทำงานเก็บคะแนนย้อนหลังกันทั้งสามคน“ถ้าเมียมึงง่วงแล้วก็พาไปนอนได้นะเว้ย”“ง่วงยัง” อีริคเอ่ยถามคนข้างกาย แต่พอมองตาเธอแล้วยังตาแป๋วอยู่เลย “ไม่ตอบก็พอจะรู้”“โปรดขอนั่งอยู่อีกนิดนะคะ ยังสนุกอยู่เลย ชอบฟังพี่ ๆ เล่าความหลังสมัยเรียน สนุกดีค่ะ”“เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังว่าไอ้ริคมันแสบมากแค่ไหน” ชรัณเลิกคิ้วท้าทายอีริค“ปรานีกูด้วยครับ”“หึหึ” พ่อเลี้ยงหัวเราะขบขัน “สมัยก่อนก็ต่างคนต่างห้าวแหละ ไม่มีใครยอมใคร”“ยังไงเหรอคะ”“อ้าว ไหนบอกจะไม่เผาเพื่อนไง” ชรัณเลิกคิ้วถามองศาที่จู่ ๆ ก็เปิดประเด็นขึ้นมาซะอย่างนั้น“นิดหนึ่ง”“อา เล่าเลยงั้น”“เมื่อก่อนเคยไ
บทที่ 69 ความสุข“ที่ของมึงกูให้คนไปดูแล้วนะ เห็นช่างกำลังขนของมาลงกันเยอะเลย อีกไม่นานคงได้ลงเสาเข็ม” พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นระหว่างขับรถเข้ามาในทางที่ตรงไปยังไร่ปาริฉัตร“ขอบใจ” อีริคกล่าวสั้น ๆ“ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยกัน แล้วนี่เธอจะมาอยู่นานไหม” คราวนี้เขามองหน้าคนโปรด “เพราะถ้ามาอยู่นานฉันจะให้แม่บ้านและคนของฉันพาเที่ยว หลังไร่มีน้ำตกด้วย เผื่อสนใจอยากเล่นน้ำคลายร้อน”“ดีจังเลยค่ะ”“ถ้าอยากไปก็บอก จะได้ให้คนพาไป เพราะทางมันค่อนข้างรกและไปยากนิดหน่อย”“เราไปกันนะ” คนโปรดหันมามองหน้าคนรัก อีริคพยักหน้าตอบเบา ๆ แล้วมองไปโดยรอบ“อยากได้ที่สวย ๆ แบบนี้อีก มีอีกไหม” อีริคเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคน ชรัณทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยตอบ“ก็พอมีนะ มึงอยากได้ติดเขาไหมล่ะ หรืออยากได้ติดลำธารดี”“อยากได้ทั้งสองที่เลย”“เอาว่ะ เออ ๆ เดี๋ยวจะหาดูให้ ชาวบ้านแถวนี้เอาที่ดินมาเสนอขายกูเยอะอยู่ ร้อนเงินกันทั้งนั้น ส่งลูกเรียนน่ะ”“อืม”“เสียสละมากเลยนะคะ ขายที่เพื่อเอาเงินส่งลูกเรียน”“อืม แต่ลูกเหี้ยก็ไม่ไหวนะ” ชรัณยกยิ้ม“ถ้าเป็นแบบนั้นคงน่าเสียใจแทนพ่อแม่ค่ะ โปรดเองก็อยากทำให้พวกท่านภูมิใจบ้างสักครั้ง
บทที่ 68 พักผ่อนวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาในเช้าที่สดใส บรรยากาศที่สนามม้าด้านนอกมีไอหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่ว แถมอากาศยังเย็นฉ่ำสบายจนอีริคไม่ยอมตื่น“ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มสากสองฟอดเพื่อเป็นการปลุกอีริคให้ตื่น ทว่าชายหนุ่มกลับเบือนหน้าหนีสัมผัสแล้วเอามือมาปิดหน้าไว้ “ขี้เซาจัง”“ให้ฉันนอนเต็มอิ่มบ้าง ไม่ได้นอนหลับสบายแบบนี้มานานมากแล้ว” อีริคพึมพำอยู่ใต้ผ้าห่ม เมื่อได้ฟังแบบนั้นคนโปรดจึงไม่เซ้าซี้เขา เธอก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเอาผ้าคลุมไหล่มาคลุม จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก“ตื่นแล้วเหรอ” พาเวลกำลังก่อกองไฟอยู่พอดี เขาส่งยิ้มทักทายคนโปรด “ดื่มนมอุ่นหน่อยไหม”“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้สนามพร้อมกับรับแก้วนมอุ่นมาดื่ม “นมอุ่นนี่อร่อยมากเลยค่ะ”“อืม...แล้วนายยังไม่ตื่นเหรอ”“ยังค่ะ เห็นว่าอยากนอนอีกสักพัก”“อืม สงสัยคงเหนื่อยมาก ทำงานหนักมาหลายวัน”“ครับ”“พี่พาเวลล่ะคะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” เมื่อมีโอกาสได้อยู่กับพาเวลสองต่อสอง เธอจึงถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเขาบ้าง“ก็ดี ช่วงนี้ทำงานหนักหน่อยแต่ก็มีความสุข”“เห็นพี่มีความสุขกับการทำงานโปรดก็ดีใจค่ะ”“แล้วจะไปเชีย
บทที่ 67 ดูแล“หมูสุกแล้ว ทำไมหนูไม่ตักกินล่ะคะคนสวย” ซินซินสังเกตุเห็นคนโปรดนั่งมองหม้อชาบูอยู่นาน แต่เธอไม่ได้คีบหมูใส่จานตัวเอง กลับคีบให้อีริคกินเสียส่วนใหญ่“โปรดไม่ค่อยหิวค่ะพี่ซิน กินฝรั่งไปเมื่อตอนนั่งเล่นกับพี่ซินโปรดยังอิ่มอยู่เลย"“อ๋อ"“คุณริคกินเยอะ ๆ นะคะ”“คุณริค พี่ว่าเรียกแบบนั้นมันดูห่างเหินไปนะ”“…” อีริคเงยหน้ามองซินซิน “แล้วแต่จะเรียก เอาที่ตัวเองชินปาก”“ป๊ะป๋า"“แค่ก ๆ” ซินซินสำลักน้ำซุปจนหน้าแดงกับสรรพนามที่คนโปรดใช้เรียกอีริค “ป๊ะป๋าเนี่ยนะ” เธอหัวเราะอย่างขำขัน“แต่เหมือนคุณอีริคไม่ชอบเลย งั้นโปรดเรียกพี่ได้ไหมคะ พี่ริค"“…” อีริคไม่ได้ตอบกลับ เพียงส่งยิ้มให้คนโปรดรู้อย่างเดียว“แบบนี้ก็น่ารักดี” ซินซินยกมือขึ้นไปลูบผมน้องสาวด้วยความเอ็นดู “กินเยอะ ๆ นะแกน่ะ ช่วงนี้แพกซ์บอกว่าแกทำงานหนักมาก”“อืม”“พี่แพกซ์หายไปไหนเหรอคะ ไม่เห็นหน้าตั้งนานแล้ว”“เขากำลังยุ่งอยู่กับการเปิดคลับใหม่อยู่น่ะโปรด อีกสักพักเลยล่ะ”“อ๋อค่ะ” เธอหันมามองหน้าอีริค “พี่ริค…เอ่อ อยากได้เครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมคะ” รู้สึกไม่ชินปากเลยที่ต้องเรียกอีริคด้วยสรรพนามใหม่แบบนี้“อยากได้ไวน์"“อย่าเ
บทที่ 66 ทะนุถนอมสี่เดือนต่อมาหลังจากทราบว่าตัวเองตั้งท้องลูกของอีริคอยู่นั้น ตอนนี้ก็ย่างเข้าสู่เดือนที่ห้าแล้ว จากท้องแบนราบตอนนี้ท้องเธอก็เริ่มโตเท่าลูกแตงโมแล้ว“จะไปไหนเหรอคะ โปรดเตรียมชุดให้ไหม” หญิงสาวเอ่ยถามคนรักด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล วันนี้อีริคตื่นตั้งแต่เช้าไปออกกำลังกาย และเธอเห็นเขาพูดกับพาเวลด้วยสีหน้าเครียดขรึมเหมือนมีเรื่องอะไรกวนใจอยู่ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรเพราะกลัวว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องสำคัญ“ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะออกไปทำธุระข้างนอก แล้วลูกน้องจะพาเธอไปที่สนามม้านะ” อีริคเดินเข้ามาโอบเอวคนโปรดแล้วหอมขมับเธอไปหนึ่งฟอด จากนั้นจึงเดินไปที่ห้องแต่งตัว เขาใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมาด้วยชุดไพรเวตสบาย ๆ โบกมือให้คนโปรดแล้วเดินออกไปจากห้องนอนทันทีร่างอวบอิ่มเดินตามหลังคนรักมาหยุดยืนอยู่ทางลงบันไดบ้าน ครั้นจะถามเอาความให้เข้าใจก็กลัวอีริคหงุดหงิดใส่ เธอจึงไม่ถามอะไรเขาแล้วหันหลังเดินกลับห้องนอน มาหยิบกระเป๋าสะพายข้างเดินลงไปรอลูกน้องที่จะพาไปสนามม้าพักนี้อีริคพาเธอไปพักที่สนามม้าบ่อยมาก เขาให้เหตุผลว่าอากาศที่สนามม้าดีกว่าที่บ้านในเมืองที่อยู่กับควันรถและฝุ่นพีเอ็ม“นายหญิงต้องการ
บทที่ 65 รักมากคนโปรดปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วเงยมองคนตัวโตกว่า“คุณริครู้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะว่าโปรดท้อง”“เธอก็รู้ว่าไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาฉันได้”“แล้วรู้เลยเหรอคะว่าโปรดท้อง”“เปล่า ฉันให้พาเวลไปถามหมอที่โรงพยาบาล ก็เธอเองนั่นแหละที่มีพิรุธก่อน ถ้าบอกกันตั้งแต่แรกก็จบ”“โปรดกลัวว่าตัวเองจะเป็นภาระคุณริค กลัวไปหมดเลยค่ะ”“เด็กน้อย เธอเป็นเมียฉันนะ อีกอย่างเธอกำลังอุ้มท้องลูกฉันอยู่” อีริคเลื่อนสายตาลงจ้องที่ท้องแบนราบ “อีกไม่กี่เดือนเขาก็ลืมตาดูโลกแล้ว” คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับหน้าท้องคนโปรดหลังจากที่รู้ว่าเธอท้อง“โปรดใจชื้นขึ้นมากแล้วค่ะ หลังจากที่เก็บความกดดันมาหลายวัน”“ก็เธอไม่ยอมบอกฉันเอง อีกอย่างเธอเป็นคนพูดเองว่าจะไม่โกหกฉัน แต่กลับโกหกซะเอง”“ก็ตามที่โปรดบอกไปค่ะ โปรดกลัวคำว่าลูกจะไปทำลายความสุขของคุณริค”“เด็กน้อย” อีริคยกมือขึ้นลูบพวงแก้มนวล “มีอะไรก็คุยกันก่อน ไม่ใช่เก็บเอาไว้คนเดียวแล้วเอาไปคิดมากแบบนี้”“ขอโทษนะคะ ขอโทษที่โปรดปิดบังคุณริค”“เอาเถอะ อาหารมาพอดีเลย” อีริคถอยกลับมานั่งที่ตัวเอง เขาคอยตักอาการใส่จานให้คนโปรดเรื่อย ๆ จนเธอต้องดันมือเขากลับ แล้วสั่นหน้า