บทที่ 46 คืนให้กลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากรถที่ถูกชนอย่างแรงจนเสียหลักลงข้างถนนมาชนต้นไม้อีกทีหนึ่ง อีริคกับคนโปรดกระเด็นออกมานอกรถ บาดเจ็บทั้งคู่ แต่อีริคเจ็บหนักเพราะแรงเหวี่ยงของรถอัดเข้ากับต้นไม้ฝั่งเขา ส่งผลให้ตัวกระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้อย่างจัง“คะ คุณริค” คนโปรดรู้สึกตัวก็รีบคลานไปหาอีริค ตอนนี้อีริคนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่ คาดว่าเขากระเด็นออกมาพาดกับต้นไม้และสีข้างมีเศษกระจกรถปักอยู่ “อึก...คุณริค” คนโปรดประคองศีรษะอีริคไว้ และเขย่าตัวเขาเพื่อให้ได้สติ บาดแผลตรงสีข้างกำลังมีเลือดไหลออกมามากมายและแผลที่ศีรษะเขาอีก“อึก...” อีริคได้สติก็รีบเงยหน้ามองคนโปรด ตอนนี้เขาขยับร่างกายไม่ไหว มันเหมือนท่อนล่างชาไปหมด “หนีไป...นะ หนีไปซะ”“ไม่ไป ถ้าจะไปก็ไปด้วยกัน” คนโปรดไม่ได้ห่วงร่างกายตัวเอง เธอเองก็บาดเจ็บที่ศีรษะมีแผลเลือดไหล แต่พยายามพยุงตัวอีริคลุกขึ้นมา “อดทนหน่อยนะคะ นะคะขอร้อง” น้ำตาไหลอาบสองแก้ม“อ๊า!!” อีริคร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาพยายามดันตัวเองลุกขึ้นแต่ก็เปล่าประโยชน์ ร่างกายบาดเจ็บสาหัสเกินจะขยับกายลุกไปไหนได้ “หนีไป ขอร้องล่ะ..”ปัง ปังเสียงปืนดังระรัวขึ้นอีกหลายนั
บทที่ 47 หายไปพาเวลนั่งก้มหน้ารอหมออยู่หน้าห้องผ่าตัดร่วมสี่ชั่วโมงเข้าแล้ว ไม่มีวี่แววของการเปิดประตูออกมารายงานอาการของคนข้างในเลยครืด~ ครืด~โทรศัพท์เครื่องหรูสั่นสะเทือนอยู่ในกระเป๋ากางเกงเขา เป็นซินซินที่โทรเข้ามา พาเวลจึงรีบกดรับสายเธอ(น้องชายฉันเป็นยังไงบ้าง) น้ำเสียงของคนปลายสายตื่นตระหนกกรอกเข้ามาในสายทันที“ตอนนี้ยังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัดเลยครับคุณซิน หมอบอกว่า...ให้ทำใจเพราะนายอาการสาหัสมาก ๆ”(...) ปลายสายเงียบไปนับนาทีก่อนเสียงสะอื้นไห้จะเล็ดลอดเข้ามาในสาย(ทำไมมันต้องเจออะไรแย่ ๆ แบบนี้วะ แล้วไอ้เลวนั่นมันยังมีชีวิตอยู่ไหม)“ไม่ครับ”(คนโปรดไปไหน คนโปรดปลอดภัยไหม)“ตอนนี้ยังหาคนโปรดไม่เจอเลยครับ ไม่รู้เธอหายไปไหน”(ให้ตายสิ แล้วยายกระต่ายน้อยของฉันจะเป็นยังไงบ้าง โอ๊ยกลุ้มใจ)“งั้นผมขอวางสายก่อนนะครับ”(เป็นยังไงแล้วอย่าลืมโทรมารายงานด้วยนะพาเวล)“ครับคุณซิน” หลังจากวางสายกับซินซิน พาเวลก็ลุกไปหาลูกน้องที่รออยู่หน้าโรงพยาบาล“พี่พาเวล นายเป็นยังไงบ้างครับพี่” ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยถามพาเวล“ตอนนี้ยังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัด น่าจะใช้เวลานานอยู่”“ครับ”“เรื่องที่ให้ไปทำเป็นยัง
บทที่ 48 สาหัสซินซินนั่งรอหมออยู่หน้าห้องไอซียู เธอได้บอกให้พาเวลไปพักผ่อนเพราะเขาอดหลับอดนอนมาหลายวันแล้ว แพกซ์เองก็นั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้ ดวงตาคมจ้องไปที่ร่างบางของเพื่อนสาวเดินสวนไปมาจนปวดเบ้าตาไปหมด“มานั่ง”“ไม่เอา”“มานั่งเถอะน่า เดี๋ยวหมอก็ออกมาแล้ว”“หมอทำไมตรวจนานแบบนี้ ปกติเขาตรวจคนไข้นานขนาดนี้เลยเหรอ”“ไม่รู้ ฉันไม่ใช่หมอ”“ไม่ได้เรื่อง!”“อ้าว” ในจังหวะที่แพกซ์จะตอบกลับไปหมอกับนางพยาบาลก็เปิดประตูออกมาจากห้องพักฟื้นของอีริคพอดี เขาจึงเบนความสนใจไปที่หมอ“น้องชายเราเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้เลือดในปอดหยุดไหลแล้วนะครับ และร่างกายก็ฟื้นตัวดีมาก หมอว่าพรุ่งนี้ก็ออกจากห้องไอซียูได้แล้ว คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ”“ค่อยยังชั่ว แล้วฉันพาน้องกลับไปรักษาที่กรุงเทพได้เลยไหมคะ”“ผมว่ารออีกสักสองวันนะครับ ให้ร่างกายเขาได้ฟื้นตัวเต็มที่ก่อน”“ค่ะ ขอบคุณหมอมาก ๆ นะคะ”“หน้าที่ผมอยู่แล้วครับ งั้นหมอขอตัวนะ”“ค่ะ”แพกซ์มองตามหลังหมอหนุ่มที่เดินออกไป แล้วดึงสายตากลับมามองหน้าซินซิน“มีแฟนเป็นหมอคงจะดีไม่น้อยเลยนะ”“อย่าเลย หมอเขาฉลาดเลือก เขาไม่มาเอาคนแบบเธอหรอก”“ปากดี! เดี๋ยวกูจับทำผัว
บทที่ 49 ซ่อน(ไม่)หาหลายวันต่อมา หลังจากย้ายตัวอีริคกลับมารักษาตัวที่กรุงเทพร่างกำยำยังนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงภายในห้องพักผู้ป่วยวีวีไอพีของโรงพยาบาลที่อีริคเป็นหุ้นส่วน พาเวลกับซินซินที่พลัดเปลี่ยนกันมาเฝ้าอีริค นั่งมองหน้ากันอยู่ที่โซฟา ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาพร้อมกันด้วยความเป็นกังวล“อีกไม่กี่นาที นายเตรียมตัวรับแรงกระแทกได้เลย” ทั้งที่เป็นคำพูดธรรมดาของซินซิน แต่กลับทำให้พาเวลขนหัวลุกได้ เพราะวันนี้แม่ของอีริคจะมาที่โรงพยาบาลหลังจากที่ท่านกลับมาเมืองไทยเพราะเรื่องลูกชาย “ผมกำลังเครียดอยู่ครับ คุณฮาน่าก็น่าจะเข้าใจผม”"อืม ฉันเอาใจช่วยนะ” ซินซินวางมือลงบนไหล่กว้างของพาเวล ทว่าจังหวะนั้นเสียงครางเบา ๆ ก็ดังขึ้น ทั้งสองหันกลับไปมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง อีริคขมวดคิ้วน้อย ๆ แล้วเปิดเปลือกตาขึ้นมองไปหาสองหนุ่มสาวที่กำลังทำหน้าตกใจมองมาที่เขา“พะ พาเวล” อีริคเรียกหาลูกน้องหนุ่ม “คนโปรด คนโปรดอยู่ไหน” เขากระซิบเสียงแผ่วถามพาเวลที่เดินมาหา“นายเป็นยังไงบ้างครับ นายเจ็บตรงไหนไหมครับ”“…” อีริคมองหน้าลูกน้อง จากนั้นจึงละสายตากลับไปหาซินซินที่ยืนร้องไห้อยู่ข้างเตียงผู้ป่วย “เธอกำลังทำให้ฉัน
บทที่ 50 ไร่ปาริฉัตรหลายนาทีต่อมาฮาน่ายังคงติดใจเรื่องสร้อยข้อมือที่ลูกชายนางกำไว้อยู่ แม้จะเค้นเอาคำตอบจากปากพาเวลยังไงก็ไม่ได้ความ มีแต่น้ำไม่มีเนื้อ พอนางหันไปถามซินซินหลานสาวก็เอาแต่ตอบว่าไม่รู้อยู่ท่าเดียว“ริค หนูมีอะไรจะบอกแม่ไหม เกี่ยวกับคนที่ชื่อคนโปรดอะไรนั่น ทำไมหนูดูใส่ใจเขาเป็นพิเศษ” นางตัดสินใจถามลูกตรงประเด็น“เธอเป็นคนที่เสี่ยธวัตรเอามาบรรณาการผมครับ”“ของบรรณากาารด้วยคนเนี่ยนะ”“ครับ”“ไอ้เวรนั่นมันต้องเลวทรามแค่ไหน ถึงได้เอาคนเป็น ๆ มาให้ลูกชายฉัน”“มันแค่อยากต่อกรกับผม”“ดีแล้วที่มันตาย ไม่งั้นมันกับมี๊คงต้องเปิดศึกกันสักครั้ง”“ว่าแต่มี๊มาคนเดียวเหรอครับ"“ใช่ลูก มี๊มาก่อนเดี๋ยวป๊าก็จะตามมา ป๊าเคลียร์งานอยู่”“อันที่จริงไม่ต้องมาก็ได้ ผมไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้น”“ขอตีได้ไหม ไม่ได้เป็นอะไรมากยังไงกัน บาดเจ็บเจียนตายขนาดนี้ไม่คิดจะบอกอะไรมี๊สักคำนะริค อย่างน้อยหนูก็ควรจะบอกแม่บ้าง นี่ถ้าแม่ไม่โทรมาหาซินคงไม่รู้เรื่องอะไรเลย”“ก็ยังไม่ตาย”“ตาริคนี่ยังไง อยากโดนมี๊ตีให้ได้เลยใช่ไหม”“ผมเจ็บแผล อยากพักผ่อน”“งั้นมี๊ออกไปรอข้างนอก โอเคไหมลูก”“ครับ”ฮาน่าลุกขึ้นแล้วโ
บทที่ 51 พ่อเลี้ยงองศาคนโปรดเดินออกมาที่หน้าบ้านหลังจากนอนหลับไปหลายชั่วโมง ร่างกายเธอยังร้าวระบมและเจ็บปวดอยู่บ้างแต่ไม่ได้มากเหมือนวันแรก ๆ แล้ว“ป้าคะ หนูพร้อมแล้วค่ะ พาหนูไปหาพ่อเลี้ยงองศาได้ไหมคะ”“รอก่อน เดี๋ยวรถของลูกน้องพ่อเลี้ยงก็จะเข้ามาที่นี่ อีกประมาณยี่สิบนาที”“ค่ะ” คนโปรดนั่งลงบนเก้าอี้ รอรถของพ่อเลี้ยงอย่างจดจ่อ รอไม่นานรถจิ๊บคันสีดำก็วิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน คุณป้าเดินมาพยุงตัวเธอขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับ ส่วนตัวนางขึ้นไปนั่งด้านหลัง “พี่ช่วยขับเบา ๆ หน่อยนะคะ”“อืม” ชายหนุ่มครางตอบเสียงเบาแล้วขับรถพาคนโปรดไปที่บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในพื้นที่มากกว่าร้อยไร่ระหว่างทางที่นั่งรถไปเรื่อย ๆ เธอก็ได้เห็นความใหญ่โตของไร่ปาริฉัตร แม่ทัศนวิสัยในการมองเห็นจะไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ก็ตามนั่งรถมาราว ๆ สามสิบนาทีก็มาถึงบ้านทรงโมเดิร์นสมัยใหม่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางลานกว้าง ๆ บ้านหลังใหญ่พอ ๆ กับบ้านของอีริคเลย แต่ที่ไม่เหมือนกันคือที่นี่ค่อนข้างเงียบและไม่มีคนคอยคุ้มกันเหมือนบ้านอีริค“พ่อเลี้ยงกลับมาแล้ว” คุณป้าเอ่ยขึ้นเพราะนางเห็นรถที่พ่อเลี้ยงใช้ขับบ่อย ๆ จอดอยู่ในโรงจอดรถ
บทที่ 52 ของเก่าอีริค“เลิกแกล้งหลับได้แล้วน่า ฉันจับลมหายใจแกได้ตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วริค” ซินซินสะกิดแขนน้องชายที่กำลังแกล้งหลับอยู่ ส่วนคนที่ถูกจับได้ก็ถอนหายใจออกอย่างเบื่อหน่าย“อะไรนักหนา กลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ”“กลับตอนไหน นี่ฉันมาอยู่เป็นเพื่อนนายนะ คุณน้าฮาน่ากลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน”“เธอก็ควรกลับไป”จังหวะนั้นแพกซ์เปิดประตูเข้ามาพอดี อีริคจึงพยักพเยิดหน้าให้ชายหนุ่มแล้วบุ้ยปากไปหาซินซินเป็นอันรู้กัน“กลับได้แล้วน่า เธอไม่อยู่ริคมันก็ดูแลตัวเองได้”“อะไร เมื่อกี้ส่งสายตาอะไรให้กันไม่ทราบ”“ก็ริคมันอยากพักผ่อนไง เธออะควรกลับไปบ้าน”“ไม่อยากกลับไง อยากอยู่เป็นเพื่อนน้อง”“ถามมันก่อนไหมว่าอยากให้อยู่หรือเปล่า”“ริค” ซินซินหันกลับมามองหน้าอีริค ทว่าอีริคกลับสั่นหน้าพรืดหนึ่งพร้อมสะบัดมือเบา ๆ เป็นเชิงบอกให้แพกซ์พาเธอกลับไปเสียตอนนี้ เพราะเขาอยากพักผ่อนให้เต็มที่โดยไม่มีเสียงเจื้อยแจ้วรบกวน “เออก็ได้ นี่อย่ามาร้องไห้ฟูมฟายกับเรื่องคนโปรดนะ”“...” อีริคยอมหันหน้ามามองหน้าซินซิน “รีบใสหัวไปก่อนที่ฉันจะสั่งให้คนมาลากเธอออกไปแทน”“เย็นลงหน่อย” แพกซ์ห้ามปรามทั้งสองพี่น้องแล้วจึงพาซินซินอ
บทที่ 53 ข้อเสนอ“หึหึ” พ่อเลี้ยงแสยะยิ้มพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะอย่างขำขัน ทั้งที่เธอไม่เห็นมองว่ามันน่าหัวเราะเลยสักนิด คนโปรดจ้องหน้าชายหนุ่มคนตรวงหน้าเขม็ง“ฉันไม่ได้อยากมาเป็นตัวตลกและเป็นสิ่งที่คุณจะเอาไปกล่าวอ้างหรือต่อกรกับคุณริค”“หึหึ เด็กของอีริคนี่ปากกล้าดีเหมือนกันนะ วันนั้นเธอยังแสดงออกว่ากลัวฉันอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับมองฉันด้วยสายตาดุดันท้าทายความตายแบบนั้น”“ฉันไม่รู้นะคะ ว่าคุณกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ แต่ขอบอกไว้เลยว่าฉันจะไม่เป็นจุดอ่อนของคุณริคแน่นอน”“เด็กน้อย เธอทั้งสวยทั้งฉลาดแบบนี้ ถึงว่าอีริคไม่ปล่อยให้ไปไหนไกลตัว เป็นของหวงของอีริคนี่เองสินะ” ไม่ว่าเปล่าแต่พ่อเลี้ยงยังเชยคางมนขึ้น แต่คนโปรดกลับสะบัดหน้าออกจากมือเขา“โปรดสู้คนนะ อย่าคิดว่าจะมาทำอะไรกันก็ได้”“ฉันชอบในความกล้าเธอนะสาวน้อย”“...”! เธอไม่อาจเดาความคิดพ่อเลี้ยงได้เลย ว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ และไม่รู้ว่าระหว่างคุณริคกับพ่อเลี้ยงพวกเขารู้จักกันในนามมิตรหรือศัตรู “ขอปืนกระบอกนั้นคืน แล้วฉันจะไปจากที่นี่ทันที”“เดี๋ยว”“...”“มาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ ได้ยังไงกัน ของหวงอีริคอยู่ในมือทั้งทีก็ต้องใช