บทที่ 34 เอาคืนอีริคปลอบประโลมคนโปรดด้วยการรั้งตัวเธอเข้ามากอดแนบกาย ใช้ความอบอุ่นจากร่างกายตัวเองสัมผัสเธอ ให้รู้ว่าเขาพูดจริงว่าจะไม่เป็นอะไร และจะกลับมาหาเธอตามที่บอกไว้“เธออยากไปจากที่นี่ไหม”“ทำไมถามแบบนี้คะ” เธอเงยหน้ามองอีริคด้วยความประหลาดใจในคำถามเขา “อยากให้โปรดกลับไปอยู่กับเสี่ยเหรอคะ”“เปล่า ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอคิดอยากจะออกไปจากที่นี่ไหม” อีริคก้มมองสร้อยข้อมือคนโปรดที่ใส่ไม่ยอมถอดตั้งแต่วันที่เขาสวมใส่ให้เธอ เขาเองก็ไม่เคยถอดมันเหมือนกัน“ไม่อยากไปไหนค่ะ”“หากวันหนึ่งที่เธอจำเป็นต้องไปจากฉัน ถึงวันนั้นฉันจะคืนอิสระให้เธอ”“ทำไมพูดแบบนี้ โปรดงอนคุณริคจริง ๆ แล้วนะคะ”“งอนอะไรฉัน ก็พูดเผื่อเอาไว้”หญิงสาวส่ายหน้าพัลวันพร้อมกับยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากหนา“ห้ามพูดแบบนี้ โปรดรอคุณริคกลับมาอยู่ค่ะ รีบกลับมาหาโปรดอย่างปลอดภัยนะคะ โปรดจะรอฟังข่าวดี”“หึหึ เธอนี่นะ” ฝ่ามือหนาลูบศีรษะคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู “ฉันไม่เคยเอ็นดูใครมากขนาดนี้มาก่อน นับว่าเธอประสบผลสำเร็จแล้วที่ทำให้ฉันเอ็นดูได้”“ค่ะ”“อาบน้ำแล้วเข้านอน อย่านอนดึกเข้าใจไหม”“ค่ะ”อีริคลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จากนั้นจึงหันกล
บทที่ 35 คนสำคัญของอีริคอีริคเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องทรมาน ก่อนจะก้มมองข้อมือตัวเอง หัวใจแกร่งกระตุกวูบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อสร้อยข้อมือหายไป“พาเวล!” เสียงเข้มตะโกนเรียกลูกน้อง ขณะที่พาเวลกำลังจะลงมือปลิดชีพลูกน้องเสี่ยธวัตร เขาเงยหน้ามองออกไปนอกประตูแล้วให้ลูกน้องจัดการต่อ เมื่อเดินออกมาแล้วก็เห็นว่าอีริคกำลังจะขับรถออกไปข้างนอก เขาจึงวิ่งไปขวางทางรถไว้ได้ทัน“จะไปไหนครับนาย”“ขึ้นรถกับกู”“ครับ” พาเวลรีบขึ้นมาบนรถ จากนั้นอีริคก็รีบขับมุ่งหน้าไปที่ไหนก็ไม่ทราบได้ ทว่าขับมาไกลพอสมควรแล้วพาเวลถึงได้รู้ว่าอีริคกลับมาที่เดิมที่เพิ่งจัดการกับลูกน้องเสี่ยธวัตรไป เหล่าลูกน้องเขาที่กำลังเก็บกวาดสถานที่อยู่ต่างมองมาที่เจ้านายด้วยความมึนงงพาเวลมองท่าทางร้อนใจของอีริคแต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมาก“นายกลับมาทำไมครับ”“สร้อยข้อมือ” อีริคเท้าเอวมองไปที่พื้น “สร้อยข้อมือ” มาถึงตอนนี้เขาถึงร้องอ๋อในใจดังมาก เมื่อข้อมืออีริคว่างเปล่า “มันหายเหรอครับ”“อืม”“ก็แค่สร้อยข้อมือธรรมดานี่ครับ สนใจทำไม” พาเวลลอบยกยิ้มกับปฏิกิริยาของอีริคหลังจากที่เขาพูดจบประโยคนั้น “นายซื้อใหม่ได้เป็นร้อย ๆ เส้น”“ไม่เหมือน
บทที่ 36 ยกให้วันต่อมา @สนามม้า“นั่งอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้วเนี่ย พี่ว่าเข้าห้องดีกว่าไหมคนสวย เดี๋ยวฝนก็ตกแล้ว” ใช่ วันนี้ทั้งวันท้องฟ้าอึมครึมมาก ไม่มีแม้แสงแดดสาดส่องลงมา กลิ่นไอฝนคละเคล้ามากับสายลมที่พัดโกรกใบหน้าคนโปรดเรื่อย ๆ เหตุผลที่เธอมานั่งอยู่ตรงนี้เพราะรออีริคกลับมาหาอยู่ นี่เขาก็เงียบหายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่มีข่าวคราวจากลูกน้องหรือใครให้เธอได้คลายกังวลเลย“พี่ซินเข้าไปก่อนเลยค่ะ โปรดว่าจะนั่งอยู่ตรงนี้อีกนิด”“...” ซินซินมองไปตามสายตาของหญิงสาว เมื่อรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของคนโปรดแล้วเธอจึงนั่งลงข้าง ๆ กับคนโปรด “ริคมันก็เป็นแบบนี้แหละ หายไปบ้าง ทำงานแบบบ้าคลั่งบ้าง จนบางทีก็ลืมนึกถึงคนข้างหลัง เพราะแบบนี้มันถึงไม่เอาตัวเองไปผูกมัดกับใคร พี่เคยถามมันนะว่าทำไมไม่มีแฟนสักที มันก็ตอบกลับมาว่าไม่อยากเอาตัวเองไปผูกมัดกับใคร และไม่ชอบให้ใครเป็นเจ้าชีวิต”“โปรดควรถอยออกมาจากจุดนั้นไหมคะ จุดที่ทำให้คุณริคไม่สบายใจ”“นี่เราไม่รู้จริงเหรอว่าตัวเองอยู่จุดไหนของวงโคจรชีวิตของริคมันน่ะ”“...”?“หึหึ เด็กน้อยของพี่” เธอรู้สึกเอ็นดูคนโปรดเหมือนน้องสาวจริง ๆ “ไร้เดียงสาจริง ๆ ถึงว่
บทที่ 37 ไม่ปฏิเสธข่าวลือ11:00อีริคยืนมองวิวสนามม้าอยู่ที่ระเบียงห้องในเวลาห้าโมงเช้าขณะรอคนโปรดเก็บของเตรียมกลับไปพักที่บ้านเขา“เสร็จแล้วค่ะ” เธอยิ้มแป้นเดินออกมาบอกอีริค “กลับเลยไหมคะ”“อืม” ชายหนุ่มหันหลังเดินเข้ามาในห้องพักอีกครั้งแล้วสั่งให้ลูกน้องนำของใช้ของคนโปรดไปขึ้นรถระหว่างนั่งรถที่เดินทางกลับไปที่บ้านอีริค คนโปรดเทียวหันมองหน้าชายหนุ่มจนอีริคต้องเชยปลายคางเธอขึ้นมาสบตากันตรง ๆ“มีอะไร หน้าฉันมันน่ามองขนาดนั้นเหรอ” คนตัวเล็กรีบส่ายหน้าพัลวัน แล้วอธิบายให้อีริคเข้าใจ“โปรดแค่งงกับคุณริคค่ะ คุณริคกำลังคิดอะไรอยู่หรือเปล่าคะ”“ฉันไม่เคยคิดอะไร ทำทุกอย่างที่อยากทำเท่านั้น”“ค่ะ”“อย่าคิดมาก คิดมากแล้วมันจะปวดหัว”“ค่ะ” รอยยิ้มหวานค่อย ๆ เลือนหายไปจากใบหน้าสวยกับคำตอบที่ได้รับ แววตาดุดันคู่นั้นแม้จะมีความอ่อนโยนเข้ามาแทรกบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความดุดันและแข็งกร้าว อีริคก็ยังเป็นอีริคคนเดิมที่เดาอารมณ์ได้ยากมาก เขาทำทุกอย่างตามอำเภอใจตัวเองอย่างที่พูด ไม่ได้ทำตามความรู้สึกสักหน่อย “โปรดเป็นคนแรกหรือเปล่าคะ ที่คุณริคพาเข้าบ้าน” คราวนี้อีริคหันมามองหน้าหญิงสาว“หึหึ เธอถามอะไร
บทที่ 38 เผื่อฉันไม่อยู่คนโปรดเอาหูแนบที่ประตูห้องนอนตัวเองและฟังเสียงฝีเท้าของอีริค เมื่อครู่เธอได้ยินเสียงประตูเปิดและเสียงเอะอะโวยวายอยู่ชั้นล่าง เสียงคนคนนั้นคุ้นหูมาก แต่ก็ไม่อยากคิดบ้า ๆ ว่านั่นเสียงพาเวลแกรก..พรึบ!คนที่ยืนเอาหูแนบประตูอยู่แทบหงายหลังเมื่ออีริคเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาในห้อง เธอไม่ได้ยินเสียงเท้าเขาและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีริคมาตอนไหน“ยืนแอบฟังอะไร”“ปะ เปล่า”“จับได้ขนาดนี้ยังจะโกหกอีก”“ก็...”“ช่างเถอะ แล้วเมื่อคืนเธอนอนที่นี่เป็นยังไงบ้าง เจออะไรไหม”“อะไรเหรอ”“ก็...”น้ำเสียงและสีหน้าของอีริคกำลังทำให้คนโปรดรู้สึกหลอนอยู่ไม่น้อย เธอมองไปทั่วห้องพักแล้วเขยิบเข้าไปกอดแขนแกร่งไว้“อย่าบอกนะคะว่าห้องนี้มีผี”“หึหึ รู้ได้ยังไง”“กรี๊ด!!”“อ๊า!” อีริคยกมือขึ้นมาปิดหูแทบไม่ทัน เสียงแหลมปรี๊ดของคนโปรดรบกวนโสตประสาทเขามาก ๆ“อุ๊บ!” ฝ่ามือหนาปิดปากเธอไว้แน่น“หยุดร้องและมีสติหน่อย”“ก็โปรดกลัวผี”“กลัวฉันไม่ดีกว่าเหรอวะ” อีริคส่ายหน้าพรืดหนึ่ง“...”!“ตื่นแล้วก็ดี แม่บ้านทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว ลงไปกินข้าวให้ตรงเวลาด้วย”“ค่ะ”“แล้ววันนี้คุณริคจะไปไหนไหมคะ” ดวงตาใสแป๋วเ
บทที่ 39 'ป๊ะป๋า'หลายชั่วโมงต่อมาคนโปรดทำหน้าเหยเกแล้วเอาตัวไปพิงร่างสูงอย่างหมดเรี่ยวแรง เรียวแขนทั้งสองข้างแทบยกไม่ขึ้น มันปวดร้าวระบมไปหมด“คุณริค โปรดเมื่อยแล้วค่ะ”“อืม”เขาตอบกลับมาสั้น ๆ แล้วหันไปมองแก้วน้ำหวานที่แม่บ้านเพิ่งนำมาให้ แววตาและรอยยิ้มหวานของคนโปรดแสดงออกถึงความดีใจแล้วรีบยกแก้วน้ำหวานขึ้นมาดูดกลิ่นจนหมดในครั้งเดียว“อ๊า~ อร่อยมาก สดชื่นมาก...”“เหนื่อยอะไรขนาดนั้น”“โปรดเมื่อยแขน เจ็บไหล่ด้วยค่ะ” ใบหน้าสวยแดงซ่าน “คุณริคให้โปรดยืนตั้งนานแหน่ะ แถมยังไม่ให้พักอีก ครั้งแรกโปรดได้แค่นี้ก็ว่าดีแล้วนะคะ”“หึหึ ขี้บ่นจริงเด็กคนนี้”“ป๊ะป๋า”“อย่ามาเรียกอะไรแบบนั้น เดี๋ยวลูกน้องได้หมดความนับถือฉัน”“ป๊ะป๋าที่แปลว่า...”“อะไร” คิ้วหนาขมวดแน่น แต่คนโปรดกลับไม่ตอบอะไรกลับมา เธอเอาแต่อมยิ้มอยู่คนเดียวแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟา “เดี๋ยวนี้กล้าต่อปากต่อคำกับฉันมากขึ้นนะ ไม่กลัวฉันฆ่าแก้เบื่อหรือไง”“การฆ่าคนตายทำให้หายเบื่อได้เหรอคะ”“มั้ง”“โปรดรู้ว่าคุณริคไม่ทำร้ายโปรดหรอกค่ะ เพราะคุณริคเพิ่งบอกกับโปรดเองว่าจะปกป้องโปรด”“พูดตอนไหน”“เอาเป็นว่าโปรดได้ยินก็แล้วกัน”“หึ!” อีริคเก็
บทที่ 40 ยากที่จะยอมรับคนโปรดนั่งกอดเข่าอยู่ในห้องพักตัวเอง คิ้วสวยเทียวขมวดเข้าหากันและคลายออกจากกันเพราะกำลังนึกถึงเรื่องที่เธอทำกับอีริคเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา“เรา...กำลังเป็นตัววุ่นวายของคุณริคเหรอ หรือว่าเราควรถอยออกมาอยู่ในที่ตัวเอง ยายโปรดนะยายโปรด ชอบก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวคุณริคตลอดเลย ขืนเป็นอย่างนี้...ตำแหน่งของเล่นชิ้นโปรดอาจจะหลุดมือไปเป็นของคนอื่นก็ได้ แล้วเราก็จะถูกเขี่ยตกกระป๋อง” ใบหน้าสวยนิ่งเรียบก่อนที่จะซบลงกับเรียวแขนตัวเอง‘เราต้องรักษาระยะห่างกับคุณริค เพื่อให้เขามีอิสระ’หนึ่งชั่วโมงต่อมาอีริคเดินออกมาจากห้องทำงาน เขามองหน้าแม่บ้านที่เดินผ่านมาพอดีจึงเอ่ยถามเสียงเรียบ“คนโปรดไปไหน”“อ๋อ คุณคนโปรดขึ้นไปพักบนห้องนานแล้วค่ะนาย”“อืม”เมื่อได้ฟังแบบนั้นเขาจึงขึ้นไปหาเธอที่ชั้นสอง พอเปิดประตูเข้ามาในห้องพักกลับเงียบกริบ เหมือนไม่มีคนอยู่ในนี้เลย บนเตียงก็ไม่มีร่างบางนอนอยู่อย่างที่ควรจะเป็นอีริคเดินเข้ามาแล้วเปิดประตูห้องน้ำออกดูว่าคนโปรดอยู่ในนี้หรือเปล่า ปรากฏว่าเธอนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ โดยการเอาผ้านวมมาปูรองนอนในอ่างแล้วก็เอาหมอนมาหนุนศีรษะ โทรศัพท์ในมือกำลังเล
บทที่ 41 ความกลัวที่ก่อตัวขึ้นหลายชั่วโมงต่อมา“นั่งเงียบเพราะกำลังคิดทบทวนตัวเองเหรอ”“เปล่า”“เปล่าอะไร คิ้วขมวดขนาดนั้น”“ก็เปล่าไง” อีริคชักสีหน้าใส่ซินซิน“เออ ๆ เปล่าก็เปล่า”“กลับยัง จะห้าทุ่มแล้วนะ”“อยากอยู่ต่ออีกนิดหน่อย ไม่อยากกลับบ้านเลย กลับแล้วมันเศร้า”“เศร้าอะไร”“นายไม่เข้าใจหรอก คนรอบข้างฉันจำวันเกิดฉันได้หมด ยกเว้นพ่อแม่ที่ให้กำเนิด”“มีฉันจำได้ก็พอแล้วมั้ง”“ขอบคุณนะ”“อืม แล้วเพื่อนสุดที่รักของเธอไม่มาหาหรือไง”“แพกซ์น่ะเหรอ”“อืม”“ฉันไม่ให้มันมาเองแหละ”“เพื่อนกันแบบไหนวะ เป็นกูก็ไม่คบนะถ้าจะมีเพื่อนขี้งอนขนาดนี้ แต่ไอ้แพกซ์มันก็ง้อเธอตลอดนี่”“ช่างเหอะ กลับกันดีกว่า” ซินซินยกขวดไวน์ขึ้นมากระดกดื่มแล้วเดินออกไปก่อนอีริค เธอเดินมาเจอพาเวลก็ขมวดคิ้วมองหน้า “นี่ฉันคิดว่านายตายไปแล้วจริง ๆ นะพาเวล”“ขออภัยที่ทำให้คิดแบบนั้นครับ”“ไปโทษเจ้านายของนายโน่น! เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”“ครับ”“ช่วงนี้ฉันให้พาเวลไปทำงานบ่อย เลยต้องให้เขาหายไปสักพัก”“อืม”“แล้วขับรถกลับบ้านเองได้?”“ได้”“ขับกลับดี ๆ ถึงบ้านแล้วก็ไลน์มาบอกด้วย”“ค่า~”“คุณซินกลับเองไหวเหรอครับนาย” พาเวลเอ่ยถาม