“อื้อ อ๊า ไออุ่นร้อน ฮือ ร้อน”
เมื่อเสื้อตัวบางหลุดออกไปจากร่างขาวผ่อง ไออุ่นก็ยังคงรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วสรรพางค์กาย ดวงตาฉ่ำหวานเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มแปลกหน้าอย่างธามไท ราวกับกำลังอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ แต่สิ่งที่ได้รับกลับตรงกันข้าม เมื่อธามไททิ้งตัวลงมาทาบทับร่างบางเอาไว้จนทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวได้ ทำได้เพียงนอนรอสัมผัสอันวาบหวามของเขา
“หึ เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอหายร้อนเองสาวน้อย”
เสียงทุ้มกระซิบชิดแก้มเนียนหอมกรุ่น ทำเอาไออุ่นชะงักไปเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำความเข้าใจกับความหมายของเขา ริมฝีปากอวบอิ่มก็ถูกประกบจูบอย่างเร่าร้อนโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว
เสียงหอบหายใจของสองร่างที่กำลังแลกลมหายใจอย่างดูดดื่มดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ราวกับเสียงระฆังปลุกสติของหญิงสาว จากที่กำลังรู้สึกทรมานจากความร้อนผ่าวที่แล่นไปทั่วร่าง กลับกลายเป็นความตกใจและรู้สึกกลัวเมื่ออยู่ ๆ จูบแรกของเธอก็ถูกผู้ชายคนนี้ช่วงชิงไปอย่างอุกอาจ
“อื้อ อ่อย ไออุ่น อ๊ะ”
เสียงเล็กครางอู้อี้อยู่ในลำคอ แต่ตอนนี้ธามไทไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาสนเพียงความหอมหวานจากริมฝีปากอวบอิ่ม ที่เมื่อได้สัมผัสอย่างจาบจ้วงก็เกิดติดใจ ทำเอาผู้ชายที่ไม่เคยหลงใหลในรสสัมผัสของผู้หญิงคนไหนมาก่อนอย่างธามไทพึงพอใจไม่น้อย
ลิ้นร้อนจากริมฝีปากหนาค่อย ๆ ไล้เลียกลีบปากของเด็กสาวอย่างช่ำชอง จนคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์จูบมาก่อนหลงเคลิ้มไปกับสัมผัสของผู้ชายแปลกหน้าที่กำลังจะทำมิดีมิร้ายกับร่างกายเธอ
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ
ธามไทบดจูริมฝีปากหวานอย่างเอาแต่ใจ จนร่างบางเริ่มทุบแผ่นอกหนาเมื่อลมหายใจเริ่มขาดช่วง เขาถึงปล่อยมือบางให้เป็นอิสระ ทว่าเสือก็คือเสือเมื่อจู่โจมริมฝีปากอวบอิ่มไม่ได้ ก็ไล้ลงต่ำเลื่อนมือใหญ่ไปกอบกุมก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นทั้งบีบทั้งเคล้นจนมันขึ้นรอยมือ
ยิ่งได้สัมผัสความต้องการในร่างบางก็ยิ่งทวีเพิ่มขึ้นไปอีก ผิวเนื้อเนียนละเอียดที่กำลังเด้งรับแรงบีบขยำจากฝ่ามือใหญ่ คุณหมอหนุ่มอดใจไม่ไหวเผลอลงน้ำหนักมือแรงจนผิวขาว ๆ กลายเป็นสีแดงช้ำ ไหนจะภาพเบื้องหน้าที่คนสวยนอนหอบหายใจอย่างยั่วยวน กับจังหวะหน้าอกอวบกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจนั่นอีก ยิ่งทำให้อุณหภูมิร่างกายปะทุขึ้นสูง
“หอมไปทั้งตัวเลยสาวน้อย เธอกำลังทำให้ฉันคลั่งนะรู้ไหม”
น้ำเสียงแหบพร่ากระซิบบอกหญิงสาว ที่ตอนนี้ภายในใจดวงน้อยกำลังบอกให้เธอถอยหนี แต่การกระทำของเธอกลับตรงกันข้าม เมื่อลิ้นร้อนชื้นของชายหนุ่มแปลกหน้าค่อย ๆ แตะสัมผัสลงบนยอดอกอิ่มของสาวแรกแย้ม
ความชื้นแฉะจากสัมผัสแปลกใหม่ทำให้ไออุ่นสะดุ้งตัวน้อย ๆ ด้วยความตกใจกับความรู้สึกวูบวาบแปลกใหม่ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน
ทั้ง ๆ ที่เธอควรจะรังเกียจและหาทางหนีออกไปจากห้องนี้ แต่ร่างกายกลับบดเบียดเข้าหาเขาราวกับคนไม่รู้จักพอ ไอร้อนจากกายสูงตรงหน้ายิ่งทำให้เธอขยับเข้าไปซุกซบราวกับว่า ความต้องการบางอย่างทำให้เธอไม่สามารถพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ได้
ยิ่งถูกสัมผัสมากเท่าไหร่ ไออุ่นก็ยิ่งต้องการจนควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
“อ๊ะ ไออุ่น อื้อ ระ รู้สึกแปลก ๆ อ๊า”
เสียงหวานร้องบอกเมื่อเขาทั้งดูดทั้งเลียหน้าอกอวบใหญ่ ริมฝีปากหนาไม่ผละออกจากยอดปทุมถันแม้แต่เสี้ยววินาที ราวกับทารกน้อยกำลังดูดนมมารดาด้วยความกระหาย
มือบางที่ควรผลักไสเขาออก กลับยกขึ้นมาโอบกอดเขาเอาไว้ ทั้งยังลูบไแผ่นหลังหนั่นเนื้อที่ชื้นเหงื่อเบา ๆ เพื่อระบายความรู้สึกที่เธอไม่รู้ว่าต้องเรียกมันว่าอะไรด้วยความไม่ประสา
“หึ ไม่เอาน่าคนสวย อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้เลยว่าเธอเสียวจนต้องการฉันขนาดไหน”
ธามไทเงยหน้าขึ้นมาพูดราวกับรู้ทัน ด้วยความมัวเมาในอกขาวทำให้ไม่มีเวลายั้งคิดอะไรแล้ว เขาคิดว่าเธอนั้นแกล้งทำเป็นไร้เดียงสา เพราะคงไม่มีผู้หญิงบริสุทธิ์หรือไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนรับงานแบบนี้กันหรอก
ตั้งแต่ที่เขาใช้บริการผู้หญิงที่ผับนี้มา หรือต่อให้เป็นที่อื่นเขายังไม่เคยเจอสาวบริสุทธิ์เลยสักคน แต่สำหรับผู้หญิงที่กำลังร้องครางเสียงหวานคนนี้ ไอ้วัตรเด็กดีลสาวให้เขามันบอกคำเดียวสั้น ๆ ว่าเด็ด จนเขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเด็ดของมันจะสักเท่าไหร่กันเชียว
“อะ ไออุ่น ไม่รู้จริง ๆ ค่ะ อ๊ะ”
เด็กน้อยพยายามส่ายหน้าปฏิเสธข้อกล่าวหา จนผมยาวสลวยสยายเต็มหมอน นั่นยิ่งทำให้ใบหน้าสวยหวานแลดูเซ็กซี่ขึ้นไม่น้อย
ผู้หญิงอะไรบางมุมก็น่ารัก บางมุมก็แอบเซ็กซี่ขยี้ใจ
ธามไทได้แต่คิดในใจ จนเมื่อถูกหน้าอกอวบทั้งถูไถและเสียดสีกับแผงอกแกร่งภายใต้เสื้อเชิ้ตอยู่นาน ก็ตัดใจผละออกจากร่างบางไปจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองที่น่าเกะกะสิ้นดีออกอย่างรวดเร็ว
“หึ รู้ไม่รู้เดี๋ยวรู้กัน”
เสียงทุ้มเอ่ยเย้าอย่างเจ้าเล่ห์ เมื่อปลดเปลื้องอาภรณ์ครบทุกชิ้นก็สาวเท้ากลับขึ้นเตียงกว้างอีกครั้ง กายกำยำทาบทับร่างบางที่นอนบิดเร่าตามแรงอารมณ์ มือหนาที่จับมีดผ่าตัดมาทั้งวัน ยามนี้กำลังรูดสาวท่อนเอ็นให้ขยายตัวใหญ่ขึ้นตามความต้องการ
เขาน่ะอยากปลดปล่อยจนแทบทนไม่ไหวแล้ว
ในจังหวะที่ไออุ่นกำลังมึนงงเผลอมองตามมือใหญ่ ที่กำลังรูดท่อนเอ็นขึ้นลงไปมาก็ได้แต่เบิกตากว้างอย่างตกใจ
เธอเพิ่งเคยเห็นความใหญ่โตของบุรุษเพศเป็นครั้งแรก
“หึ ตกใจกับความใหญ่ของฉันล่ะสิ คงไม่เคยเจอคนที่ใหญ่เท่าฉันมาก่อนใช่ไหมล่ะ ไม่เป็นไรสาวน้อย เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอมีความสุขเอง ใหญ่ ๆ แบบนี้รับรองฟินทั้งคืน หึ”
ธามไทยังคงพูดโอ้อวดความใหญ่โตของตัวเอง แน่นอนว่าเขาค่อนข้างทระนงตนอยู่ไม่น้อยว่าเรื่องขนาดน่ะ เขาไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาผู้หญิงทุกคนที่เคยสัมผัสความเสียวจากเจ้าลูกชายที่เขาภาคภูมิ ต่างก็ร่ำร้องอยากโดนของเขาสัมผัสอีกสักครั้งสองครั้งกันทั้งนั้น
“มะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ ฮือ ไม่ใช่”
“แล้วแบบไหนล่ะที่ใช่สำหรับเธอ”
ร่างสูงทิ้งตัวลงมาทาบทับร่างบางมากขึ้น จนแทบไร้ช่องว่างระหว่างกายเนื้อของสองร่างที่แนบชิดกันทุกส่วน เขาก้มกระซิบถามเธออีกครั้งด้วยน้ำเสียงกระเส่า ทว่ากลับไร้คำตอบจากร่างบางที่กำลังกลั้นเสียงหลังถูกเขาแกล้งถูไถแท่งร้อนสัมผัสเนินเนื้ออวบ
มือหนาค่อย ๆ แยกเรียวขาที่พยายามหนีบเข้าหากันออกกว้าง และด้วยความที่สู้แรงของชายหนุ่มไม่ไหวก็ต้องจำยอมอ้าขารับตัวตนของเขาเข้ามา
ดวงตาคมสอดประสานสายตากับดวงตากลมโตที่แลดูหวาดกลัว เธอดูตื่นตระหนกราวกับลูกกวางน้อยหลงทาง ทว่าพ่อเสือกลับแสยะยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ มือหนาจับสองขาอ้าออกตั้งชันเป็นรูปตัวเอ็ม แล้วแทรกตัวไปอยู่กลางกายสาวมากขึ้น จัดการรูดรั้งแท่งร้อนเตรียมความพร้อม ค่อย ๆ ส่งท่อนเอ็นใหญ่เข้าไปในร่องรักสีหวานช้า ๆ พยายามดุนดันช่องทางคับแน่น จนหญิงสาวไม่ประสาในรสรักสะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บปวด
“อ๊ะ ไออุ่นเจ็บ ฮือ อย่าดันเข้ามานะ ไอเจ็บ”
เสียงหวานร้องบอกด้วยความน่าสงสาร ถึงแม้ความรู้สึกอึดอัดจะยังไม่ได้รับการปลดปล่อย แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับมันทำให้เธอกลัวจนตัวสั่น มือบางยกขึ้นห้ามไม่ให้เขาดันความใหญ่โตเข้ามา แต่กลับถูกธามไทรวบมือทั้งสองข้างเอาไว้เหนือศีรษะทำให้ร่างเล็กหมดหนทางขัดขืน
“อย่าแกล้งเจ็บเพื่อเรียกค่าตัวเพิ่มเลยสาวน้อย ใหญ่ขนาดนี้เธอคงจะชินจนช่ำชองแล้วมากกว่า”
สวบ ปึก
จบประโยคธามไทก็อัดกระแทกความใหญ่โตเข้าไปในร่องรักที่ฝืดเคือง เป็นเพราะไร้น้ำหวานหล่อลื่นด้วยความกระสันใคร่ในอารมณ์อยาก ต่อให้น้ำตาของสาวน้อยจะรินไหลไม่ขาดสายเขาก็หาได้สนใจไม่
“กรี๊ดดดด ฮึก ฮือ ไอเจ็บ เจ็บ ฮือ”
ทว่าเมื่อเข้าไปได้เพียงแค่ครึ่งทาง คุณหมอก็ชะงักไปด้วยความตกใจ เมื่อเขากำลังเจอกับเรื่องที่โคตรเซอร์ไพรส์
แม้จะสับสนแต่ความต้องการกลับมีมากกว่าความสงสัย เมื่อสอดประสานกายเข้าไปได้เพียงแค่ครึ่งลำ เลือดสีแดงสดค่อยไหล ๆ ออกมาชโลมความใหญ่โต ทว่าเขากลับไม่ทันได้สังเกตแม้แต่น้อย
เขาไม่คิดว่าท่าทีของเด็กสาวที่ไม่ประสีประสานั่นเป็นเพราะเธอยังบริสุทธิ์ แต่เขากลับคิดไปว่ามันคือมารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนที่เขาเคยผ่านมานักต่อนักแล้วมากกว่า
“ฮือ ฮือ ไอเจ็บ อย่าทำไอเลยนะ ฮือ ”
น้ำเสียงสั่นระริกร้องขอด้วยความน่าสงสาร แต่ความต้องการของธามไทที่มีมากกว่าความเห็นใจหรือสงสาร มันสั่งให้เขาเดินหน้าต่อไปและห้ามหยุด เพราะหากหยุดกลางคัน เขาคงได้แทบคลั่งกับความต้องการที่ไม่ได้รับการปลดปล่อยแน่
“ชู่ว อดทนหน่อยนะสาวน้อย เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้ว”
“กรี๊ดด อุ๊บ”
ธามไทตัดสินใจกดกายกระแทกทีเดียวท่อนเอ็นใหญ่ก็เข้าไปภายในความคับแน่นจนสุดทาง ทำให้เลือดสีแดงสดไหลเปรอะผ้าปูที่นอนเป็นวงกว้าง ไออุ่นที่เจ็บปวดจนแทบขาดใจเตรียมกรีดร้องสุดเสียง แต่คนเจ้าเล่ห์ไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสร้องออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อริมฝีปากสีไวน์ก้มลงประกบจูบปิดปากของเธอเอาไว้
ปึก ปึก ปึก
ธามไทไม่ปล่อยให้ตัวเองอารมณ์ค้างนาน ถึงแม้จะรู้ว่าสาวน้อยใต้ร่างนั้นบริสุทธิ์ผุดผ่องเพียงไร แต่ความต้องการที่อยู่เหนือความรู้สึกทุกอย่าง กลับสั่งให้เขาเดินหน้าต่อไป โดยไม่รอให้เด็กสาวปรับตัวกับความใหญ่โตเลยสักนิด
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ
ริมฝีปากสีไวน์กลืนกินกลีบปากอวบอิ่มแตกจนได้เลือด คุณหมอก็ใจดีดูดเลียรอยเลือกให้อย่างไม่นึกรังเกียจ ส่วนช่วงล่างก็รัวกระแทกเข้าหาร่องรักอุ่นร้อนอย่างไม่ปรานี แม้เจ้าของมันจะน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวดอยู่ก็ตาม
เรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ เธอไม่เคยคิดเลยว่าการออกมาเผชิญโลกกว้างโดยไร้มือของบิดาคอยโอบอุ้ม จะทำให้เธอต้องพบเจอกับเรื่องที่เลวร้ายถึงเพียงนี้
“ฮือ เจ็บ เอาออกไปนะ ไอเจ็บ”
เมื่อริมฝีปากไร้พันธนาการ ไออุ่นก็ร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บ ยิ่งเขากระแทกเข้ามาลึกเท่าไหร่ สาวน้อยที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องเซ็กซ์ก็ยิ่งร้องอ้อนวอนผู้ชายแปลกหน้าที่กำลังย่ำยีเธออยู่
“เอาออกไม่ทันแล้วสาวน้อย ลูกชายของฉันมันต้องการเธอเหลือเกิน”
“แต่ไอเจ็บ ฮือ ไอเจ็บ”
ไออุ่นร้องไห้ออกมาด้วยความน่าสงสาร คุณหมอที่มักใจอ่อนกับเด็กและผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงสวยจึงก้มลงไปจูบซับน้ำตาให้ราวกับปลอบโยนเธอให้หายจากความเจ็บปวด
ทว่าแท้ที่จริงแล้วเขากำลังล่อหลอกเธอให้ตายใจต่างหากเล่า
เมื่อเสียงร้องอ้อนวอนค่อย ๆ เงียบลง ชายหนุ่มก็เลื่อนใบหน้าลงมาดูดชิมยอดอกอวบด้วยความกระหายอีกครั้ง ความเสียวจากสัมผัสแปลกใหม่ที่เขามอบให้ ทำให้ความรู้สึกเจ็บในคราแรกนั้นค่อย ๆ ทุเลาลง กลับกลายเป็นมีความรู้สึกบางอย่างเข้ามาแทนที่
ปึก ปึก ปึก
เสียงรัวกระแทกยังคงดังขึ้นไปทั่วทั้งสนามรักชั่วคราว มือบางของไออุ่นถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ด้วยความเผลอใจจากความเสียวกระสัน ทำให้เธอยกมือขึ้นโอบกอดแผ่นหลังชื้นเหงื่อของธามไทไว้ จนเมื่อถึงขีดสุดของห้วงอารมณ์ในทุกจังหวะการสอดประสาน ยิ่งเสียวเธอก็ยิ่งจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้าง เพื่อระบายความรู้สึกเสียวซ่าน
“อ๊า อย่าเกร็ง ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับฉันแล้วเธอจะมีความสุข”
เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบชิดใบหูหอมกรุ่น เมื่อเขารู้สึกว่าร่างบางยังคงเกร็งกับจังหวะสอดประสานที่เขากำลังเร่งเครื่อง เพื่อให้เราทั้งคู่มีความสุขไปพร้อมกัน
ในจังหวะที่ไออุ่นค่อย ๆ คลายความรู้สึกเกร็งลง ชายหนุ่มก็รัวกระแทกเข้าหาร่องรักสีแดงช้ำจนร่างบางหัวสั่นหัวคลอน เขาจงใจกดกายกระแทกเน้นย้ำจุดกระสันของอิสตรี ทำเอาคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเกร็งตอดรัดความใหญ่โตเอาไว้จนแทบขยับต่อไม่ได้
“อ๊า สาวน้อยอย่าตอดแรงนักสิ ระวังคืนนี้จะไม่ได้นอนเอานะ”
ร่างสูงหลุดเสียงครางออกมาด้วยความเสียว พลางพูดแกมขู่จนเธอต้องเบือนหน้าหนีอย่างสับสน เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เธอควรรู้สึกเจ็บปวด เสียใจหรือมีความสุขดี เมื่อความรู้สึกที่เธอไม่รู้จักกำลังจะได้รับการปลดปล่อย
อยู่ ๆ น้ำตาก็รินไหลลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เมื่อสติที่หายไปค่อย ๆ กลับคืนมา เธอหวนคิดไปถึงตอนที่เพื่อนสาวทั้งสองคนกำลังประคองเธอมาส่งให้ผู้ชายคนนี้
ไม่คิดเลยว่าความรักความไว้ใจที่เธอมีให้เพื่อนเต็มร้อย จะถูกตอบแทนด้วยการหักหลังและทำให้เธอได้พบกับเรื่องที่เลวร้ายแบบนี้
ในขณะที่ไออุ่นกำลังจมดิ่งกับความรู้สึกเสียใจที่โดนเพื่อนรักหักหลังและทำร้ายธามไทก็ค่อย ๆ ใช้ความช่ำชองของเขาหลอกล่อไออุ่นให้หลงอยู่ในวังวนของความเร่าร้อน จนทำให้เธอลืมเรื่องที่โดนเพื่อนรักหักหลังไปเสียสนิท
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ธามไทตักตวงความสุขจากร่างบาง ที่ตอนนี้แทบหมดแรงไปกับบทรักที่เขามอบให้มาค่อนคืน
เขาพาเธอท่องไปในโลกแห่งความสุข จนเธอสุขสมไปหลายต่อหลายครั้ง ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ หลับตาลงเมื่อฤทธิ์ยาค่อย ๆ หมดลงและความเหนื่อยล้าทำให้เธออยากจะพักผ่อน
“ฮู่ว แม่งโคตรมันเลย”
ธามไทพึมพำเสียงเบา เมื่อเขาปลดปล่อยความสุขสมครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้ จนตอนนี้คนตัวเล็กใต้ร่างสลบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ร่างสูงค่อย ๆ ถอนตัวตนออกมาจากร่องรักบวมช้ำ เพราะถูกเขาตักตวงความสุขนานหลายชั่วโมง เมื่อเห็นคนตัวเล็กหลับสนิท เขาจึงพลิกตัวนอนลงข้างกัน ก่อนจะหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราตามอีกคนไปอย่างอ่อนเพลียไม่ต่างกัน
แต่ใครเล่าจะรู้ว่าหลังจากคืนนี้ไป ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของคนทั้งคู่กำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
เช้าวันต่อมา“ฮึก ฮือ ฮือ”ธามไทลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ เมื่อเสียงสะอื้นไห้ของใครบางคนปลุกเขาให้ตื่นจากห้วงฝันแสนหวาน ร่างสูงผุดลุกขึ้นพร้อมกับสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติ ก่อนที่สายตาจะสะดุดเข้ากับร่างบางที่กำลังนั่งคุดคู้อยู่บนพื้น โดยมีผ้าห่มผืนใหญ่พันร่างกายเอาไว้ดวงตากลมโตของเธอฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำตา มองดูแล้วก็นึกสงสารอยู่ไม่น้อย แต่แล้วอย่างไรเล่าถึงเธอจะบริสุทธิ์ไร้มลทิน ทว่าเขาก็ตอบแทนความบริสุทธิ์ของเธอไปแล้วด้วยความสุขสมไม่ใช่หรือ เช่นนั้นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องสงสารเธอสักนิดเขาได้ความบริสุทธิ์ของเธอ ส่วนเธอก็ได้เงินจากเขา ข้อตกลงนี้ถือว่าวินวินกันทั้งสองฝ่าย เขาไม่เห็นว่าจะมีใครได้เปรียบเสียเปรียบนี่ธามไทไม่ได้ให้ความสนใจร่างเล็กที่นั่งร้องไห้เงียบ ๆ อีกต่อไป เขาลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยเนื้อตัวเปล่าเปลือย ทำเอาคนที่เหลือบมาเห็นใบหน้าขึ้นสีแดงอย่างห้ามไม่อยู่ แต่เมื่อตั้งสติได้ก็รีบหันหน้าหนีไปทางอื่นทันทีเมื่อเสียงประตูห้องน้ำปิดลง ไออุ่นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาอันดากับแนน แต่ไม่ว่าจะกดโทรออกกี่สาย กลับได้ยินแต่เสียงบริการรอสาย ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่า
สวนสาธารณะธามไทค่อย ๆ ใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผลให้อีกฝ่ายอย่างเบามือ เมื่อเห็นคนเจ็บชักมือหลบ ก็จับมือบางไว้แล้วเป่าเบา ๆ ลงบนแผล ราวกับกำลังปลอบประโลมคนที่เอาแต่นั่งร้องไห้ตอนนี้ให้หายเจ็บแผลตั้งแต่ที่เขาพาเธอมาที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ กับที่เกิดเหตุ เด็กสาวก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาร้องไห้ไม่สนใจโลกจนเขาเหนื่อยแทนไม่รู้ว่าที่ร้องไห้นั้นเพราะกำลังเจ็บแผล หรือว่าเสียใจที่โดนเพื่อนรักหักหลัง แต่ดูจากน้ำตาที่ไหลราวกับเขื่อนแตก สงสัยจะเป็นอย่างหลังมากกว่าไออุ่นมองผู้ชายที่กำลังทำแผลให้เธอด้วยดวงตาพร่ามัว ดวงตาคู่กลมเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา สักพักหยดน้ำใส ๆ ก็ค่อย ๆ รินไหลกระทบลงบนแขนของธามไทคุณหมอที่กำลังพันแผลให้คนไข้เฉพาะกิจชะงักไปเล็กน้อย เงยหน้ามองเธอแวบหนึ่งแล้วผละมาทำแผลให้จนเสร็จเรียบร้อย ก่อนลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ เธอบนม้านั่ง“นี่กะจะร้องไห้ทั้งวันเลยหรือไง ตั้งแต่เช้ามาจนถึงตอนนี้เธอยังไม่หยุดร้องไห้เลยนะสาวน้อย สงสัยคงอยากได้ถ้วยสินะ”คุณหมอเอ่ยพูดติดตลกทำลายบรรยากาศอึมครึมรอบตัว คนที่กำลังร้องไห้อยู่หยุดคิดตามคำพูดของเขาชั่วครู่ เธอเงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตามองหน้าอีกฝ่ายด้วยความงุนงงใบห
คอนโดธามไทไออุ่นมองเสื้อผ้าที่ตอนนี้กลายเป็นเศษผ้าในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า มือบางค่อย ๆ เอื้อมไปหยิบเสื้อผ้าออกมาทีละชุด สักพักหยดน้ำตาก็กลิ้งหล่นลงบนพวงแก้มเนียนด้วยความเสียใจ เมื่อชุดนักเรียนและชุดไปรเวทของเธอเต็มไปด้วยรอยตัดจากกรรไกรจนขาดวิ่นธามไทมองไหล่บอบบางที่สั่นสะท้านด้วยความรู้สึกเห็นใจไม่น้อย มือใหญ่ค่อย ๆ เอื้อมไปเช็ดน้ำตาให้เด็กสาวด้วยความสงสาร ทำเอาคนที่กำลังร้องไห้อยู่ชะงักไปด้วยความตกใจ ด้วยไม่คิดว่าผู้ชายที่ชวนเธอมาพักอยู่ด้วยชั่วคราวจะอ่อนโยนถึงเพียงนี้อยู่ ๆ ใจดวงน้อยก็เต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกหวั่นไหวที่ค่อย ๆ เกิดขึ้นภายในใจโดยที่ไออุ่นไม่รู้ตัว“ร้องไห้ไปก็เท่านั้น ช่างมันเถอะ เสื้อผ้าขาดแล้วก็แล้วไป ฉันพาเธอไปซื้อใหม่ก็ได้ ไม่เห็นต้องเสียดายเลยนี่”ธามไทบอกอีกคนที่ยิ่งเศร้าใจหนักไปกว่าเดิม เพราะตอนนี้แม้แต่เงินติดตัวเธอยังไม่มีสักบาท จะให้โทรไปขอความช่วยเหลือจากน้าญาดาน้องสาวของมารดาที่ล่วงลับไปก็รู้สึกเกรงใจเป็นเพราะตอนที่เธอออกจากบ้านมา น้าญาดาก็โอนเงินมาให้เธอไว้ใช้จ่ายตั้งห้าหมื่นบาทแล้ว แต่ตอนนี้เงินก้อนนั้นหายไปพร้อม ๆ กับกระเป
ธามไทเอ่ยถามคนตัวเล็กที่ยกมือขึ้นมาขยี้ตาอย่างงัวเงีย ร่างเล็กไม่ตอบในทันทีแต่ค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้นด้วยความรู้สึกง่วงซึมและรู้สึกเจ็บที่ก้น แต่ถึงอย่างนั้นความง่วงก็ทำให้เธอเดินมาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนโดยไม่สนใจร่างสูงของธามไทเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ยังมีใจส่งเสียงงัวเงียเอ่ยตอบธามไทกลับไป“ประตูไม่ได้ล็อกค่ะไอก็เลยเปิดเข้ามา ห้องนั้นน่ากลัวไอไม่กล้านอนคนเดียว”ไออุ่นตอบกลับธามไททั้ง ๆ ที่ยังคงหลับตาอยู่ ส่วนมือบางก็เอื้อมไปดึงผ้าห่มผืนใหญ่มาห่มแล้วนอนหลับอย่างสบายใจ โดยไม่ได้สนใจธามไทที่ยกมือขึ้นเกาหัวด้วยความงุนงงเลยแม้แต่น้อยเขากำลังนึกคิดว่าเธอเข้ามาห้องของเขาตอนไหน เพราะเขาไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด แล้วเมื่อครู่ยังคว้าเธอเข้ามากอดราวกับเป็นหมอนข้างอีก สักพักภาพในหัวของชายหนุ่มก็ตัดมาตอนที่กำลังนอนหลับฝันดี จู่ ๆ ก็สะดุ้งตัวตื่นจากฝันร้ายจนเผลอถีบคนตัวเล็กจนตกเตียงอีก“แต่นี่มันเช้าแล้ว กลับไปนอนที่ห้องของเธอได้แล้ว”ธามไทบอกไออุ่นที่ยังคงนอนหลับสบาย ร่างกำยำค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้ ๆ เธอแล้วเขย่าที่ไหล่บางเบา ๆ เพื่อปลุกให้เธอกลับไปนอนที่ห้อง ทว่ากลับไร้การตอบสนองใด ๆ จากคนที่กำลังนอนหลับด้วยค
“นี่ไปเดินห้างนะไม่ได้ไปเที่ยวผับ”ธามไทท้วงไออุ่นอย่างรู้สึกขัดตาและขัดใจ เมื่อกระโปรงที่เธอสวมมันสั้นจนแทบโชว์แก้มก้นอยู่แล้ว ส่วนเสื้อก็ตัวเล็กเกินไปจนปิดหน้าอกของคนตัวเล็กแทบไม่มิดกลับกันไออุ่นได้แต่ทำหน้างง ๆ เพราะชุดที่เธอกำลังใส่อยู่ ธามไทเป็นคนสั่งมาให้เธอเองเพื่อให้เธอมีชุดใส่บ้าง แต่พอเธอใส่ออกมาเขากลับบอกว่าเหมือนชุดไปเที่ยวผับเสียอย่างนั้น...เอาใจไม่ถูกแล้วนะ“แต่พี่เป็นคนสั่งมาให้ไอเองนะคะ” คำพูดของเด็กสาวทำเอาคิ้วที่กำลังขมวดมุ่นด้วยความขัดใจคลายลงทันตาเห็น คนขี้เก๊กที่ถูกช็อตฟีลกะพริบตาปริบ ๆ แล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ขึ้นมาทันที กลายเป็นไออุ่นเองที่เริ่มรู้สึกหมั่นไส้กับอาการที่คล้ายจะเป็นไบโพลาร์ของเขา“ฉันสั่งมาสองชุดนี่ งั้นไปเปลี่ยนอีกชุดสิ น่าจะเรียบร้อยมากกว่านี้”คนหน้ามึนบอกไออุ่นด้วยใบหน้าเรียบเฉย เด็กสาวย่นจมูกใส่คนเอาแต่ใจด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็ยอมหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องนอนเพื่อเปลี่ยนชุดตามคำสั่งของเขาชุดเอี๊ยมกระโปรงสีครีมน่ารักสมวัยเป็นตัวที่ถูกเลือก ก็นับว่าเขาเป็นคนมีสไตล์คนหนึ่งที่เลือกเสื้อผ้าถูกใจเธอรอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้าของเด็กสาว เธอเอื้อมไ
“ฮ่า อิ่มจังเลย ขอบคุณนะคะที่ให้ยืมเงินซื้อเสื้อผ้า แถมยังใจดีเลี้ยงชาบูไออีก พี่ป๋าจัง...”ร่างบางทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟานุ่มทันทีที่กลับถึงคอนโด แล้วหันมายกมือไหว้ขอบคุณคนที่เธอเรียกว่าป๋าอย่างขำ ๆ ริมฝีปากอิ่มฉีกยิ้มกว้างให้เขาด้วยความจริงใจจนตาหยี ในขณะที่คนรับบทป๋าสายเปย์ทำเพียงฉีกยิ้มตอบกลับเธอเพียงแวบเดียวเท่านั้น สักพักก็กลับไปทำหน้านิ่งเหมือนเดิม เมื่อย้อนคิดไปถึงวีรกรรมที่แสนแสบของคนตัวเล็กเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาภาพเด็กสาวที่บอกว่าตัวเองเป็นคนง่าย ๆ แต่ตอนนั้นกำลังงอแงอยากกินชาบูทั้งยังรุงรังกอดแขนเขาไม่ยอมปล่อย แถมยังทำท่าจะร้องไห้อยู่ที่หน้าร้านจนคนผ่านไปผ่านมามองเขาด้วยสายตาตำหนิไม่อาจรู้ได้ว่ามองด้วยสายตาแบบไหน แต่ที่ได้ยินลอย ๆ ผ่านหูมาคือทุกคนเข้าใจว่าเขาคือพี่ชายใจร้ายที่ไม่ยอมตามใจน้องสาวที่อยากกินชาบู และแน่นอนว่าต่อให้ธามไทจะบอกว่าตัวเองหน้าหนาขนาดไหน แต่สุดท้ายแล้วคนที่ไม่ชอบกินชาบูอย่างเขา ก็จำใจยอมให้ไออุ่นควงแขนลากเข้าร้านด้วยรอยยิ้ม ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังเบะปากน้ำตาจะเล็ดอยู่เลยเฮอะ เอารางวัลออสการ์ไปเลยเถอะ ถ้าจะเปลี่ยนอารมณ์ไวจนเขาตามไม่ทันแบบนี้“ใจดีหรือจำ
เช้าวันจันทร์ไออุ่นที่อยู่ในชุดนักเรียนค่อย ๆ เปิดประตูเดินออกมาจากห้องนอนแล้วมานั่งลงบนโต๊ะทานข้าว พลางชำเลืองมองไปทางห้องครัวเป็นระยะ ๆ ด้วยความหิว เพราะปกติแล้วเธอจะทานมื้อเช้าเวลาหกโมงครึ่ง แต่วันนี้พ่อครัวของเธอยังปรุงข้าวต้มหมูไม่เสร็จเลย“พี่ไทม์ขา หนูไอหิวข้าวแล้วนะคะ”สรรพนามเรียกขานเขาที่เปลี่ยนไปพร้อม ๆ กับคำแทนตัวเองที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู ทำเอามือที่กำลังคนข้าวต้มในหม้ออ่อนแรงจนแทบทำตะหลิวหลุดมือเพราะตั้งแต่ที่เขาให้ไออุ่นมาอาศัยอยู่ด้วย เธอมักจะเรียกเขาด้วยคำว่าคุณในช่วงแรกไม่ก็เรียกพี่เฉย ๆ มาตลอด แต่มาเช้านี้เธอกลับเรียกเขาว่าพี่ไทม์ด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อย ฟังแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยเข้ากับเขาสักเท่าไหร่นักเราไม่ได้เป็นพี่น้องที่คลานตามกันมาสักหน่อย จะมาเรียกพี่อะไรกันล่ะยัยหนู แต่ห่างกันตั้ง 9 ปีขนาดนี้เรียกเฮียไทม์ยังน่าฟังกว่าตั้งเยอะ“เสร็จแล้ว ๆ เร่งกันขนาดนี้มาทำเองเลยไหมยัยหนูไอ”ถึงตัวจะอยู่ในครัว แต่ธามไทก็ยังตอบโต้ด้วยประโยคที่คนฟังอยากจะบึนปากใส่อย่างงอน ๆทำมาเป็นแขวะเธอ ที่จริงเขานั่นแหละตื่นสายจนทำให้มื้อเช้าของเธอต้องเลื่อนเวลาออกไปรอไม่นานร่างสูงของธามไทจก
“ใครจะมาส่งก็เรื่องของหนูไอ เธอไม่ควรเสือกจ้ะแม่งูพิษ”ธามไทตอกกลับอันดาแทนไออุ่นด้วยความโมโหแทนคนตัวเล็ก ยิ่งเห็นเธอเลือกที่จะเงียบไม่ยอมตอบโต้อดีตเพื่อนรักที่ทำร้ายตัวเองจนใจพังก็ยิ่งสงสารความเงียบสำหรับบางคนอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่สำหรับคนบางแล้วยิ่งเงียบตัวเองยิ่งเจ็บหนัก ส่วนคนที่เป็นฝ่ายกระทำกลับยิ่งได้ใจอันดาเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่ผลักเธอจนเซถอยหลัง เด็กสาวชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ แล้วเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับธามไทอย่างไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย เพราะรอบข้างเธอเต็มไปด้วยเพื่อนในโรงเรียน อีกทั้งยังมีอาจารย์ที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าโรงเรียน เขาไม่มีทางกล้าทำอะไรเธออย่างแน่นอน และที่สำคัญเธอก็แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง เขาคงไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นผู้ชายหน้าตัวเมียที่ทำร้ายเด็กผู้หญิงตัวเล็กหรอกนะ“นี่อย่าบอกนะคะว่า แค่คืนเดียวพี่กับไอก็ตกลงเป็นผัวเมียกันแล้วอะ ถึงได้มารับมาส่งกันหวานเชียว”คำพูดของอันดาเรียกสายตาของเพื่อน ๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาให้หันมามองไออุ่นอีกครั้งด้วยความอยากรู้อยากเห็น ในขณะที่ธามไทได้แต่ขบกรามแน่นด้วยความไม่พอใจเด็กเมื่อวานซืนอย่างอันดาเหอะ นิสัยไม่ด
1 ปีต่อมา“ธัน ไม่ ไป ฮึก ฮือ ฮือ ธัน”มือเล็กที่จับแขนของธันวาเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ทำให้ไอศูรย์ที่วันนี้ต้องรับบทพี่เลี้ยงหลานสาวถึงกับกุมขมับมือใหญ่เอื้อมไปจับมือของหลานสาว แล้วพยายามดึงมือเล็กออกจากมือของคุณอาตัวน้อยอย่างเบามือ แต่เด็กหญิงอันดาที่นิสัยดื้อรั้นเหมือนผู้เป็นบิดากลับจับมือของอาธันวาไว้ไม่ยอมปล่อย สร้างความหนักใจให้คุณตาไม่น้อย“อันดาจ๋า อาธันต้องไปโรงเรียนแล้วนะลูก ถ้าหนูยังไม่ยอมปล่อยตอนนี้อาธันต้องไปโรงเรียนสายแน่ ๆ เลยค่ะเด็กดี”ไอศูรย์บอกหลานสาวที่ร้องไห้น้ำตาอาบแก้มอย่างน่าสงสาร เมื่อวันนี้ทั้งธามไทและไออุ่นต่างต้องรีบออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ทำให้เด็กหญิงอันดาที่ตื่นมาไม่เจอใครร้องไห้โฮด้วยความตกใจแต่เมื่อได้เห็นหน้าคุณอาธันวา เจ้าอันดาที่กำลังร้องไห้อยู่กลับเงียบเสียงลงในทันที พลางยื่นมือไปหาคุณอาตัวน้อยที่รับหลานสาวเข้าสู่อ้อมกอดด้วยความเอ็นดู แต่ใครเลยจะรู้ว่าอันดาจะติดธันวาแจจนไม่ยอมให้เขาไปโรงเรียน“อันดาเด็กดีไม่ร้องไห้นะคะ อาธันไปโรงเรียนแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับมาเล่นกับหนูอันดาแล้ว”เด็กชายผู้มีสถานะเป็นอาพยายามปลอบใจหลานสาวตัวน้อย ที่ยังคงร้องไห้สะอึกสะอ
ในที่สุดความฝันและวันที่ไออุ่นรอคอยก็เดินทางมาถึง เมื่อเธอสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปลายแล้วพร้อมกับเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกัน และแน่นอนว่าเด็กเนิร์ดอย่างเธอกับเด็กแสบอย่างเฌอแตมเรียนจบด้วยเกรดเฉลี่ยสูงสุด 4.00 เป็นการทิ้งท้ายช่วงชีวิตในรั้วโรงเรียนมัธยมอย่างสวยงามโดยเฉพาะไออุ่นที่เธอต้องใช้ความพยายามและความอดทนเป็นอย่างมาก เพราะอายุครรภ์ที่มากขึ้นทำให้เธอมีอาการอ่อนเพลียบ่อยครั้ง แต่ว่าที่คุณแม่ก็ยังคงมาเรียนตามปกติ เพราะอยากมีช่วงเวลาดี ๆ กับเพื่อนในห้องเรียนก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเติบโตในเส้นทางที่ทุกคนเลือกเดิน“ยินดีด้วยนะคะพี่เฌอแตมพี่หนูไอ”“ดีใจด้วยนะคะรุ่นพี่ ขอให้สอบติดคณะในฝันนะคะ”“ดีใจด้วยนะหนูไอที่เรียนจบพร้อมกัน”“เรียนจบแล้วก็ขอให้พี่แตมมีแฟนกับเขาสักทีนะคะ”“อย่าลืมพาเจ้าตัวเล็กกลับมาแนะแนวน้อง ๆ ที่โรงเรียนบ้างนะคะ”เพื่อนต่างห้องและรุ่นน้องในโรงเรียน ต่างพากันนำดอกไม้มามอบให้เฌอแตมกับไออุ่น เพื่อแสดงความยินดีกับสองเพื่อนซี้ในวันอำลาสถาบัน ทำให้สองสาวรู้สึกซาบซึ้งใจบ่อน้ำตาแตกกันไปหลายครั้งทีเดียวไออุ่นที่อ่อนไหวจากฮร์โมนคุณแม่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเสียน้ำตาไปถึงสามรอบติด เมื่อ
หลังจากวันนั้นธามไทก็จัดการกับทุกคนตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้ โดยไม่มีใครได้รับการยกเว้นแม้แต่คนเดียว โดยเฉพาะครอบครัวของก้องเกียรติที่ธามไทใช้อำนาจมืดกดดันหน่วยงานของเขา จนทำให้เขาถูกโยกย้ายไปประจำการที่จังหวัดทางภาคเหนือ สร้างความลำบากให้แก่ครอบครัวของก้องเกียรติไม่น้อยส่วนคุณครูประจำชั้นของธันวา ที่เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ถูกไล่ออกอย่างไม่ปรานี เพราะถือว่าละเลยต่อหน้าที่ดูแลเด็กในชั้นเรียน จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างบาดแผลทางจิตใจให้แก่ธันวาและคนสุดท้ายที่ธามไทไม่คิดละเว้นเช่นกัน ก็คือผู้อำนวยการโรงเรียนที่ธามไทตัดงบบริจาคจากธราเทพกรุ๊ปออกทั้งหมด ทำให้ผู้อำนวยการถึงกับล้มทั้งยืน เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ท่านเจ้าสัวยังมีชีวิตอยู่ ท่านบริจาคเงินให้การสนับสนุนโรงเรียนของเธอถึงปีละห้าล้านทีเดียวเหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้ธันวาที่ป่วยเพราะตากฝนซึมไปหลายวันทีเดียว แต่สุดท้ายความรักและความเอาใจใส่จากคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นธามไทที่คอยดูแลน้องชายตลอดเวลาที่ไม่สบายไออุ่นที่คอยเล่านิทานกล่อมเด็กชายตัวน้อยให้นอนหลับฝันดีทุกคืนไอศูรย์ที่คอยเป็นเพื่อนเล่นให้หลานชาย ในวันที่ธามไทต้องไปทำง
เด็กชายตัวน้อยกำลังร้องไห้จนไหล่บอบบางสะท้านขึ้นลง ทำให้น้ำตาของธามไทค่อย ๆ ไหลออกมารวมกับหยาดน้ำฝน ที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสองมือใหญ่พลันยกขึ้นโอบน้องชายเข้ามาแนบอกด้วยความรักสุดหัวใจ ถึงแม้ว่าธันวากับธามไทจะไม่ได้เติบโตมาด้วยกัน แต่คำว่าสายเลือดเดียวกันทำให้สายใยรักระหว่างพี่น้องนั้น กลับแน่นแฟ้นเกินกว่าที่ธามไทจะยอมให้ใครมาแตะต้องดวงใจของเขาได้“ฮึก ฮือ เฮียไทม์ค้าบ น้องธัน ฮึก ไม่อยากเรียนที่นี่แล้ว ฮือ”ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถทนแบกรับได้อีกต่อไป ทำให้ธันวาตัดสินใจบอกความรู้สึกของตัวเองกับพี่ชายทั้งสะอื้นธามไทมองหน้าผากของน้องชาย ที่มีรอยเขียวช้ำผ่านม่านน้ำตาด้วยหัวใจที่เจ็บปวดเขาไม่เคยรู้เลยไม่เคยคิดเลยสักนิดว่า รอยยิ้มที่ธันวามอบให้เขาก่อนที่จะเดินเข้ามาในโรงเรียนนั้น ต้องแลกกับการแบกรับความเจ็บปวดมากแค่ไหน เพียงเพื่อให้พี่ชายอย่างเขาสบายใจ ธันวาจึงไม่เคยปริปากบอกเลยว่าตัวเองนั้นต้องเจอกับอะไรบ้างในแต่ละวัน“มีเพื่อนแกล้งน้องธันใช่ไหมครับ ไหนบอกพี่ชายคนนี้สิว่าเพื่อนเขาแกล้งอะไรน้องธันบ้าง”น้ำเสียงที่อ่อนโยนเอ่ยถามน้องชาย ก่อนที่ธันวาจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับพี่ช
คฤหาสน์หลังใหญ่ของไอศูรย์ นอกจากธามไทที่ย้ายจากคอนโดมาอยู่ที่บ้านของพ่อตาแล้ว เขายังพาน้องชายมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน ซึ่งไอศูรย์ก็ไม่ขัดข้องและยินดีเป็นอย่างมาก ที่ครอบครัวของเขามีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาถึงสองคนนั่นก็คือสองพี่น้องธามไทและธันวาตัวน้อยที่ช่างพูดช่างเจรจา จนทำให้ไอศูรย์รู้สึกเอ็นดูเด็กชายไม่น้อย เขาจึงมักจะซื้อของเล่นมาฝากเสมอ ทำให้เด็กน้อยมีความสุขมากกับการต้อนรับที่แสนอบอุ่นจากครอบครัวของพี่สะใภ้“กินเยอะ ๆ นะน้องธันจะได้โตไว ๆ”กับข้าวรสมือนมหวานถูกตักวางลงบนจานของเด็กชายธันวา ที่เงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มกว้างให้ไอศูรย์ ก่อนที่เด็กชายตัวน้อยจะรีบตักกับข้าวที่คุณอาตักให้ส่งเข้าปากทันทีด้วยความเอร็ดอร่อย“กับข้าวฝีมือของนมหวานอร่อยที่สุดเลยครับ”เมื่อเคี้ยวอาหารจนละเอียดและกลืนเรียบร้อยแล้ว ธันวาก็หันไปยกนิ้วให้นมหวานที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทันที เมื่อได้รับคำชมจากเด็กชายตัวน้อยที่ชื่นชอบอาหารฝีมือของเธอมาก“พี่หนูไอทำตามสัญญาแล้วน้าว่า ถ้าน้องธันมาอยู่กับเฮียไทม์เมื่อไหร่น้องธันก็จะได้กินกับข้าวฝีมือนมหวานทุกวันเลย”ไออุ่นที่นั่งข้างกันหันไปบอกเด็กน้อยถึงคำสัญญาที่เธอเคยเอาไว้ แล้วลงมือต
โรงเรียนมัธยม A“ป๊าฝันไม่ยอมนะ ฝันเจ็บขนาดนี้มันต้องโดนไล่ออก”ทอฝันจับแขนบิดาที่นั่งข้าง ๆ พร้อมกับมองหน้าไออุ่นที่นั่งดูดนมกล่องอย่างไม่สนใจไยดีสองพ่อลูกตรงหน้าส่วนเฌอแตมก็นั่งเล่นเกมในโทรศัพท์ด้วยท่าทีสบาย ๆ โดยไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวบิดาของทอฝันแต่อย่างใด ทำให้ธนพลที่กำลังมองเด็กสาวสองตรงหน้าชักสีหน้าเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ เมื่อทั้งสองคนทำเหมือนกับว่าเขาเป็นอากาศธาตุที่ไม่มีตัวตน“เมื่อไหร่ผู้ปกครองของเด็กสองคนนี้จะมาถึงครับอาจารย์ นี่ก็ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะครับ”ธนพลเอ่ยถามอาจารย์ศรีพัชรินหรือหัวหน้าฝ่ายปกครอง เด็กนักเรียนมักจะเรียกเธอว่า ‘อาจารย์แม่’ ด้วยความรู้สึกไม่พอใจ เมื่อต้องมานั่งรอผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนที่เขารู้จักดีว่าเป็นใคร เพราะทุกคนต่างอยู่ในแวดวงนักธุรกิจกันทั้งนั้น“ถ้าคุณลุงรอไม่ไหวจะกลับก่อนก็ได้นะคะ เพราะแตมกับหนูไอก็อยากจะกลับไปเรียนแล้วเหมือนกัน”เฌอแตมที่นั่งเล่นเกมรีบเงยหน้าขึ้นบอกบิดาของทอฝันทันทีด้วยรอยยิ้มอย่างกวน ๆ ก่อนที่อาจารย์ศรีพัชรินจะหันมาถลึงตาใส่เธอให้สำรวมกิริยามารยาทมากกว่านี้ เพราะอย่างไรแล้วคนตรงหน้าก็อายุมากกว่าเธอ ฉะนั้นจึงไม่ควรแสดง
หลังจากแต่งงานไออุ่นก็กลับไปเรียนต่อในเทอมสองตามปกติ แม้ว่าบิดากับสามีจะพากันไม่เห็นด้วย กับการตัดสินใจกลับไปเรียนของเธอก็ตาม เพราะไออุ่นกำลังตั้งครรภ์ทั้งคู่จึงเป็นห่วงกลัวว่า ในระหว่างที่เรียนอาจจะทำให้หญิงสาวรู้สึกเครียดจนส่งผลกระทบกับลูกในท้องแต่ไออุ่นก็ยังยืนยันคำเดิมว่า เธออยากจะเรียนจบชั้นมัธยมพร้อมกับเพื่อน ๆ ในห้องที่ต่างรอคอยการกลับมาของเธอ ส่วนความเครียดที่อาจเกิดขึ้นจากการได้ยินคำพูดติฉินนินทาจากเพื่อนในโรงเรียนนั้น ไออุ่นไม่ได้สนใจหรือให้ค่ากับเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้เธอไม่ใช่ไออุ่นเด็กน้อยไร้เดียงสาในวันวานอีกแล้ว“วันนี้ตั้งใจเรียนนะคะเด็กดี อย่าลืมกินอาหารที่สามีคนนี้ตั้งใจทำให้คุณแม่กับเจ้าตัวเล็กอย่างสุดฝีมือด้วยนะคะ”ไออุ่นก้มลงมองกล่องข้าวที่อยู่บนตักของเธอ พลันใบหน้าสวยหวานไร้เครื่องสำอางเผยยิ้มกว้างออกมาด้วยความซาบซึ้งใจ กับความรักและความเอาใจใส่ของสามีที่มีให้อย่างสม่ำเสมอไม่ว่าสามีจะทำงานดึกแค่ไหนหรือเหนื่อยจากงานมากเท่าไหร่ เขาก็มักจะตื่นขึ้นมาทำมื้อเช้าให้เธอกับบิดาและน้องธันทานเสมอ“ไม่ลืมแน่นอนค่ะ คุณพ่อตั้งใจทำให้หนูไอกับเจ้าตัวเล็กขนาดนี้ หนูไ
วันแต่งงานเสียงขบวนแห่ขันหมากที่ดังมาแต่ไกล ทำให้ไออุ่นที่อยู่ในชุดไทยวิ่งไปที่หน้าต่างและชะโงกหน้ามองขบวนแห่ของเจ้าบ่าวด้วยความตื่นเต้นดวงตาใสกระจ่างเลื่อนไปยังบุรุษร่างสูงใหญ่กับใบหน้าคมคร้ามที่โดดเด่นมาแต่ไกล ว่าที่เจ้าสาวหันไปส่งยิ้มที่ดูราวกับบุปผาขยายกลีบรับสายลมฤดูใบไม้ผลิให้เพื่อนสนิทที่รีบวิ่งเข้ามายืนข้าง ๆ เธอด้วยความตื่นเต้นไม่แพ้กัน“เฮียไทม์ หล่อจังเลย”เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นตาของธามไท เฌอแตมก็เอ่ยชมขึ้นมาด้วยความจริงใจ ทำเอารอยยิ้มของไออุ่นกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่เธอจะแสร้งเอ่ยถามเพื่อนถึงผู้ชายที่ยืนข้าง ๆ ว่าที่เจ้าบ่าว“แล้วคนข้าง ๆ เฮียไทม์ล่ะหล่อไหม”“หูย หล่อขนาดนี้สเปกแตมเลย”เฌอแตมหลุดปากพูดออกไปตามที่ใจคิด แต่พอเพ่งมองดี ๆ ดวงตากลมโตก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ จึงรีบยกมือเล็กขึ้นปิดปากทันควันใบหน้าของสาวน้อยวัยแรกแย้มค่อย ๆ ขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายที่หลุดพูดความรู้สึกในใจออกไปให้เพื่อนได้รับรู้ตึกตัก ตึกตัก ตึกตักหัวใจดวงน้อยพลันเต้นแรงอย่างไม่รู้สาเหตุ เมื่อเธอเผลอสบตากับเจ้าของใบหน้าคมคายอย่างลมหนาว ที่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าต่างห้องนอนของไออุ่น
โรงพยาบาล N“ตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม”กฤษฎิ์เอ่ยถามธามไทที่นั่งอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ถึงการตัดสินใจหันหลังให้กับอาชีพหมอ และก้าวเดินต่อไปในฐานะนักธุรกิจ ที่ต้องกุมบังเหียนดูแลทั้งกิจการของธราเทพผู้เป็นบิดาที่ล่วงลับไป กับธุรกิจของว่าที่พ่อตาอย่างไอศูรย์ทางด้านคุณหมอที่คิดมาดีแล้วพยักหน้าตอบรับด้วยรอยยิ้ม แววตาคู่นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นไม่เปลี่ยนใจเขาเรียนรู้การเป็นนักธุรกิจมาตั้งแต่เด็ก จนเข้าสู่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ๆ เขาก็เบนเข็มทิศจากการเป็นนักธุรกิจตั้งแต่วัยเยาว์ก้าวสู่เส้นทางของหมอซึ่งพ่อเลี้ยงอย่างท่านโฮชิก็ไม่ได้เอ่ยห้ามเลยแม้แต่น้อย แต่ท่านกลับสนับสนุนในสิ่งที่เขาอยากจะเรียนรู้ ด้วยการบอกให้เขามุ่งมั่นตั้งใจเรียนและคว้าเกียรตินิยมมาให้ได้ ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ท่านผิดหวังเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของสหรัฐอเมริกา คุณหมอธามไทสามารถคว้ามาครอบครองได้สมปรารถนา“ครับ ไทม์อยากสานต่อธุรกิจของพ่อเพื่อปูทางเอาไว้ให้น้องธัน วันหนึ่งที่น้องโตขึ้นธุรกิจของพ่อไทม์จะยกให้น้องดูแลทั้งหมดครับ”กฤษฎิ์พยักหน้ารับอย่างเข้าใจในเหตุผลของคนพี่ว่า ทำไมเขาถึงเลือกที่จะหันหลังให