Share

All about You️อุ่นไอรัก <4>เป็นคนง่าย ๆ อะไรก็ได้

คอนโดธามไท

ไออุ่นมองเสื้อผ้าที่ตอนนี้กลายเป็นเศษผ้าในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า มือบางค่อย ๆ เอื้อมไปหยิบเสื้อผ้าออกมาทีละชุด สักพักหยดน้ำตาก็กลิ้งหล่นลงบนพวงแก้มเนียนด้วยความเสียใจ เมื่อชุดนักเรียนและชุดไปรเวทของเธอเต็มไปด้วยรอยตัดจากกรรไกรจนขาดวิ่น

ธามไทมองไหล่บอบบางที่สั่นสะท้านด้วยความรู้สึกเห็นใจไม่น้อย มือใหญ่ค่อย ๆ เอื้อมไปเช็ดน้ำตาให้เด็กสาวด้วยความสงสาร ทำเอาคนที่กำลังร้องไห้อยู่ชะงักไปด้วยความตกใจ ด้วยไม่คิดว่าผู้ชายที่ชวนเธอมาพักอยู่ด้วยชั่วคราวจะอ่อนโยนถึงเพียงนี้

อยู่ ๆ ใจดวงน้อยก็เต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกหวั่นไหวที่ค่อย ๆ เกิดขึ้นภายในใจโดยที่ไออุ่นไม่รู้ตัว

“ร้องไห้ไปก็เท่านั้น ช่างมันเถอะ เสื้อผ้าขาดแล้วก็แล้วไป ฉันพาเธอไปซื้อใหม่ก็ได้ ไม่เห็นต้องเสียดายเลยนี่”

ธามไทบอกอีกคนที่ยิ่งเศร้าใจหนักไปกว่าเดิม เพราะตอนนี้แม้แต่เงินติดตัวเธอยังไม่มีสักบาท จะให้โทรไปขอความช่วยเหลือจากน้าญาดาน้องสาวของมารดาที่ล่วงลับไปก็รู้สึกเกรงใจ

เป็นเพราะตอนที่เธอออกจากบ้านมา น้าญาดาก็โอนเงินมาให้เธอไว้ใช้จ่ายตั้งห้าหมื่นบาทแล้ว แต่ตอนนี้เงินก้อนนั้นหายไปพร้อม ๆ กับกระเป๋าเงินที่หายไปของเธอ

 “แต่ว่า...เอ่อ คือ คือว่า”

ไออุ่นอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่กล้าพูดความจริงออกไป ลำพังที่เธอมาขออาศัยเขาอยู่นั้นก็นับว่ารบกวนเขามากเกินพอแล้ว นี่ยังต้องมาขอยืมเงินเขาอีก มันดูมากเกินไปสำหรับคนที่เพิ่งรู้จักกันได้เพียงคืนเดียวอย่างเขากับเธอ

“แต่อะไร”

ทั้งคำพูดและน้ำเสียงอีกทั้งแววตาของธามไทที่จ้องมองมา ทำให้เด็กสาวที่เหลือบตาขึ้นมองเขาเพียงแวบเดียว ต้องรีบหลุบตาลงมองพื้นด้วยความละอายใจ

แต่วูบหนึ่งก็รวบรวมความกล้าได้ เธอจึงตัดสินใจเงยหน้าขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับอีกคนที่กำลังจ้องมองมาอย่างรอคอยคำตอบ

“คือ ไอไม่มีเงินค่ะ เมื่อคืนกระเป๋าเงินไอหายไปตอนไหนก็ไม่รู้ ส่วนเงินฝากในบัญชีธนาคารก็โดนคุณพ่ออายัดไม่ให้ถอนออกมาใช้ ตอนนี้ไอมีแต่ตัวไม่มีเงินติดตัวสักบาท”

คำพูดของเด็กสาวทำเอาคนที่รอฟังคำตอบหลุดยิ้มอย่างเอ็นดู ดูเอาเถอะทั้งคำพูดและท่าทางของเธอ ทำเหมือนกำลังสารภาพบาปอยู่อย่างนั้นแหละ โดยเฉพาะสีหน้าที่ดูจะรู้สึกผิดมากทั้ง ๆ ที่คนที่ต้องรู้สึกผิดมันควรจะเป็นเขามากกว่าที่ทำลายความบริสุทธิ์ของเธอ และทำให้เธอต้องเจอกับเรื่องราวที่น่าเจ็บปวดใจเช่นนี้

“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาหรอก เสื้อผ้าพวกนี้เดี๋ยวฉันซื้อให้ใหม่เอง ไม่ต้องห่วงถือว่าเป็นการไถ่โทษแล้วกัน ที่ฉันเผลอรุนแรงกับเธอไปน่ะ”

“ไม่ได้นะคะ แม่ไอสอนว่าไม่ควรรับของจากใครฟรี ๆ โดยไม่ตอบแทนเขา อีกอย่างเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ก็เกิดจากความเข้าใจผิดและความโง่ของไอเอง คุณไม่ต้องรู้สึกผิดขนาดนั้นก็ได้ค่ะ”

ไออุ่นรีบบอกอีกฝ่ายที่กำลังขมวดคิ้วน้อย ๆ ด้วยความรู้สึกแปลกใจ

ธามไทกำลังคิดว่าในหัวของเด็กคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เพราะถ้าเป็นเขาที่เจอเรื่องแบบนี้เองกับตัว แน่นอนว่าต้องโกรธและเสียใจมากที่โดนเพื่อนหลอก แต่เธอกลับบอกให้เขาไม่ต้องรู้สึกผิด นี่เธอเสียใจที่โดนเพื่อนหลอกจนสมองกลับหรือเธอโลกสวยกันแน่นะเด็กน้อย

คุณหมอได้แต่คิดและก็สงสัยอยู่ในใจ เพราะท่าทางของไออุ่นน่ะเหมือนเด็กสาวที่ดูซื่อ ๆ ไร้พิษสงหรือมารยาหญิง แน่นอนว่าสิ่งที่เด็กสาวพูดนั้นเขาสัมผัสได้ว่ามันออกมาจากใจของเธอไร้ซึ่งการเสแสร้ง

“แล้วเธอจะตอบแทนฉันยังไงล่ะ ดูทรงแล้วคงยังเรียนอยู่ล่ะสิ หรือว่าเธอจะมาเป็นแม่บ้านชั่วคราวให้ฉัน”

คำถามของธามไททำเอาไออุ่นตาโต เด็กสาวส่ายหน้ารัว ๆ ตั้งแต่ได้ยินคำว่าแม่บ้าน จนธามไทขมวดคิ้วมุ่นด้วยความงุนงง

“เธอกวาดบ้านเป็นไหม”

เป็นอีกครั้งที่ไออุ่นทันทีที่ได้ยินคำถาม เพราะตั้งแต่เด็กจนโตเธอไม่เคยจับไม้กวาดเลยสักครั้งน่ะสิ

“ซักผ้า ล้างจาน ทำกับข้าว”

ทุกคำถามที่ธามไทเอ่ยออกไป กลับได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้ารัว ๆ จนเส้นผมยาวสลวยสยายเต็มแผ่นหลัง ส่วนคนถามได้แต่ยิ้มแหย ๆ เมื่อสิ่งที่เขาจะให้เธอทำตอบแทน กลับเป็นสิ่งที่เธอทำไม่ได้เลยสักอย่าง

“เหอะ อะไรก็ทำไม่เป็นสักอย่าง ถ้าอย่างนั้นก็กิน ๆ นอน ๆ ไปเถอะ”

“ได้เหรอคะ พี่...เอ่อ คุณจะไม่ว่าไอใช่ไหม”

แววตาทอแสงเป็นประกายราวกับว่า กำลังถูกใจคำพูดเขาทำเอาธามไทขมวดคิ้วอีกครั้งจนแทบผูกโบ

ก่อนหน้านี้ยังบอกว่าแม่สอนไม่ให้รับของจากใครฟรี ๆ โดยไม่ตอบแทน แต่พอเขาบอกให้กินนอนอยู่เฉย ๆ กลับทำหน้าดีใจราวกับลูกหมาตัวน้อยที่ดีใจจนหูและหางกระดิก

“อ้าว นี่ลืมคำสอนแม่แล้วเหรอ”

คุณหมอขี้แกล้งจงใจแกล้งดักคอ จนเด็กสาวมุ่ยหน้าลงแล้วพึมพำตอบคำถามของชายหนุ่มตรงหน้า

“ตอนคุณแม่ยังอยู่ไอก็ไม่ลืมหรอกค่ะ แต่ว่าตอนนี้คุณแม่ไม่อยู่แล้ว แบบนั้นก็ลืม ๆ มันบ้างก็ได้เนอะ”

คำตอบของไออุ่นทำเอาคุณหมอคนเก่งต้องยกมือขึ้นกุมขมับ เขารู้สึกเหมือนหัวจะปวดกับคำตอบที่ดูจะเจ้าเล่ห์ไม่น้อยของเด็กสาว

ให้ตายเถอะ ที่เขาบอกทุกคนก่อนหน้านี้ว่าไออุ่นดูซื่อ ๆ ดูเหมือนจะไม่จริงนะครับทุกคน ธามไทกำลังโดนเด็กมันหลอกครับ เห็นหน้าซื่อ ๆ ตาใส ๆ นี่ไว้ใจไม่ได้เลยจริง ๆ

“หึ ลืมมันไปบ้างก็ได้เนอะ อืมง่ายดีนะ นี่เป็นคนง่าย ๆ ใช่ไหมเรา”

“ใช่ค่ะ ง่าย ๆ อะไรก็ได้”

คำตอบของไออุ่นดูเหมือนจะง่าย ๆ ตามที่เด็กสาวบอก แต่พอเอาเข้าจริงแล้วแม้กระทั่งมื้อเย็นที่ธามไทสั่งมาจากร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งเมนูส่วนใหญ่มีแต่ผัก เด็กสาวกลับเขี่ยมันเอาไว้ข้าง ๆ ขอบจานและตักกินเฉพาะเนื้อกับข้าวอย่างเอร็ดอร่อย

“ไหนว่าเป็นคนง่าย ๆ แล้วทำไมไม่กินผัก”

คุณหมอถามคนที่กำลังเคี้ยวข้าวอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความสงสัย เพราะผักที่เด็กสาวเขี่ยออกนั้นเยอะมากจนแทบจะล้นขอบจานแล้ว

“ก็ไออุ่นไม่ชอบกินผักนี่คะ ผักมีแต่ขม ๆ ไม่เห็นจะอร่อยเลย”

พูดจบก็ตักเมนูหมูทอดกระเทียมเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ย ๆ ด้วยความเอร็ดอร่อย ส่วนธามไทได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ ไปให้เด็กสาวที่ก็ยิ้มตอบกลับเขาจนตาหยีอย่างน่ารักน่าเอ็นดู

“อืม เป็นคนง่าย ๆ ดีเนอะผักก็ไม่กิน อืม ง่าย ๆ ง่ายมากง่ายมาก ๆ”

คุณหมอแอบเหน็บไออุ่นน้อยด้วยความหมั่นไส้กับคำว่าง่าย ๆ อะไรก็ได้ของเธอ ที่ความจริงแล้วไม่ได้ง่ายเหมือนที่เธอโปรโมตตัวเองเลยสักนิด

นี่ถ้าวันไหนเขาอยากทำอาหารกินเองคงต้องมีแต่เนื้อ เนื้อ และเนื้อให้แม่คุณสินะ แบบนั้นคงได้อ้วนกันพอดี หรือเพราะเหตุนี้กันนะแก้มใสของแม่สาวง่าย ๆ อะไรก็ได้จึงได้พองลมน่าหยิกขนาดนี้

ธามไทได้แต่แอบค่อนแคะให้คนที่กำลังเพลิดเพลินกับเมนูอาหารตรงหน้าอย่างมีความสุข เมื่อเห็นว่าเธอไม่สนใจเขาแล้วก็นั่งทานข้าวต่อเงียบ ๆ โดยไม่ทักท้วงไออุ่นที่ตอนนี้ซอสเลอะปากลามไปถึงแก้มแล้ว ราวกับเด็กน้อยห้าขวบที่กำลังหัดทานข้าวเองโดยไม่ต้องมีคนคอยป้อน

“เธอนอนห้องนี้ก็แล้วกัน เป็นห้องว่างที่เอาไว้รับรองแขกน่ะ ตอนนี้ยกให้เธอเป็นเจ้าของห้องชั่วคราว”

ธามไทบอกอีกคนที่พยักหน้ารับ เด็กสาวว่าง่ายเดินตามเข้าไปในห้องที่ตกแต่งด้วยโทนค่อนข้างไปทางสีทึบ ซึ่งดูน่ากลัวและน่าวังเวงอย่างไรไม่รู้ในความรู้สึก เพราะห้องนอนของเธอที่บ้านนั้นตกแต่งด้วยโทนสีชมพู มองแล้วให้รู้สึกอบอุ่นน่านอน ผิดกับห้องของเขาที่ตกแต่งเสียน่ากลัวจนเธอขนลุก

“เอ่อ...ห้องนี้ไม่มีผีใช่ไหมคะ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

คำถามของไออุ่นทำเอาธามไทระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เพราะตั้งแต่เขาเกิดมาจนเรียนจบหมอ ก็ยังไม่เคยเห็นผีเลยสักครั้ง ถึงแม้ว่าตอนที่เรียนอยู่จะพบเจอกับเรื่องราวแปลก ๆ มากมายก็ตาม

“หึ ผีน่ะไม่มีหรอก อ้อ มีแต่ผีเลียหัวน่ะ เธออยากเจอไหมล่ะ”

คำพูดของธามไททำเอาไออุ่นขมวดคิ้วงุนงง เพราะเธอไม่เคยได้ยินหรือรู้จักกับผีที่เขาพูดมาเลยสักนิด ที่เคยดูในละครก็เห็นจะมีแต่ผีกระสือ ผีกระหัง ผีปอบอะไรแบบนี้นี่นา

แล้วอะไรมันคือผีเลียหัวกันนะ

ไออุ่นได้แต่คิดหาคำตอบอยู่ในหัวให้วุ่น คุณหมอเห็นท่าทางซื่อ ๆ นั้นแล้วกระตุกยิ้มมุมปากน้อย ๆ อย่างขบขัน

“อ้อ เกือบลืมไปเลย ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะ ฉันธามไทเรียกสั้น ๆ ว่าไทม์ก็ได้”

ธามไทแนะนำตัวเองให้อีกฝ่ายได้รู้จัก มือใหญ่ยื่นมาตรงหน้าเด็กสาวที่ค่อย ๆ ยื่นมือไปสัมผัสกับมือใหญ่ที่แสนอบอุ่น รอยยิ้มสวยแย้มยิ้มออกมาน้อย ๆ แล้วแนะนำตัวเองบ้าง

“ค่ะพี่ไทม์ หนูชื่อไออุ่น หรือจะเรียกว่าหนูไอก็ได้ค่ะ”

“อืม ไออุ่น หึ อุ่นจนร้อนสินะ”

ธามไทพึมพำเสียงเบาแล้วถอนมือออก ร่างสูงเดินหันหลังออกจากห้องไป พร้อมกับปิดประตูให้เด็กสาวอย่างแผ่วเบา

เขาเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเองโดยไม่พูดอะไรอีก เมื่อธามไทจากไปแล้วไออุ่นก็หันไปสำรวจรอบ ๆ ห้องอีกครั้งด้วยความกลัว ยิ่งมองยิ่งรู้สึกขนลุกกับความดำมืดของสีผนังห้อง จนต้องเสิร์ชอินเทอร์เน็ตหาบทสวดกันผี

หลังจากแอบท่องบทสวดตามคำแนะนำในอินเทอร์เน็ตไปแล้วครู่หนึ่ง ความรู้สึกกลัวก็ลดน้อยลง ไออุ่นก็จัดการอาบน้ำพร้อมกับสวมชุดนอนของธามไทที่ให้เธอยืมใส่ชั่วคราว ซึ่งตัวมันใหญ่มากราวกับว่าเธอกำลังใส่เสื้อผ้าโอเวอร์ไซซ์อยู่

แต่เธอไม่มีทางเลือกจึงยอมใส่มัน แล้วเดินไปล้มตัวลงนอน จัดการปิดไฟให้เรียบร้อยจนห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืดสนิท

เช้าวันต่อมา

ช่วงเช้าที่อากาศกำลังเย็นสบาย ธามไทนอนหลับตาพริ้มพร้อมกับดึงหมอนข้างเข้ามากอดราวกับต้องการความอบอุ่น

ร่างสูงยิ้มออกมาน้อย ๆ เมื่อคืนที่ผ่านมานอนหลับฝันดี แต่แล้วก็ต้องตกใจสะดุ้งตัวตื่น พร้อมกับถีบบางสิ่งบางอย่างจนหล่นจากเตียงเสียงดังตุ้บด้วยความตกใจ เมื่อฝันดีของเขากำลังกลายเป็นฝันร้าย

“อื้อ ไออุ่นเจ็บนะคะ”

เสียงเล็กที่ต่อว่าเขาอยู่ ทำเอาธามไทที่กำลังสะลึมสะลือยังตื่นไม่เต็มตาหูผึ่ง สักพักก็ลืมตาตื่นด้วยความตกใจ และพบว่าเรื่องทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นมันไม่ใช่ความฝัน หากแต่มันคือความจริงที่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียว

“เธอเข้ามานอนในห้องฉันได้ยังไง”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status