เด็กชายตัวน้อยกำลังร้องไห้จนไหล่บอบบางสะท้านขึ้นลง ทำให้น้ำตาของธามไทค่อย ๆ ไหลออกมารวมกับหยาดน้ำฝน ที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสองมือใหญ่พลันยกขึ้นโอบน้องชายเข้ามาแนบอกด้วยความรักสุดหัวใจ ถึงแม้ว่าธันวากับธามไทจะไม่ได้เติบโตมาด้วยกัน แต่คำว่าสายเลือดเดียวกันทำให้สายใยรักระหว่างพี่น้องนั้น กลับแน่นแฟ้นเกินกว่าที่ธามไทจะยอมให้ใครมาแตะต้องดวงใจของเขาได้“ฮึก ฮือ เฮียไทม์ค้าบ น้องธัน ฮึก ไม่อยากเรียนที่นี่แล้ว ฮือ”ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถทนแบกรับได้อีกต่อไป ทำให้ธันวาตัดสินใจบอกความรู้สึกของตัวเองกับพี่ชายทั้งสะอื้นธามไทมองหน้าผากของน้องชาย ที่มีรอยเขียวช้ำผ่านม่านน้ำตาด้วยหัวใจที่เจ็บปวดเขาไม่เคยรู้เลยไม่เคยคิดเลยสักนิดว่า รอยยิ้มที่ธันวามอบให้เขาก่อนที่จะเดินเข้ามาในโรงเรียนนั้น ต้องแลกกับการแบกรับความเจ็บปวดมากแค่ไหน เพียงเพื่อให้พี่ชายอย่างเขาสบายใจ ธันวาจึงไม่เคยปริปากบอกเลยว่าตัวเองนั้นต้องเจอกับอะไรบ้างในแต่ละวัน“มีเพื่อนแกล้งน้องธันใช่ไหมครับ ไหนบอกพี่ชายคนนี้สิว่าเพื่อนเขาแกล้งอะไรน้องธันบ้าง”น้ำเสียงที่อ่อนโยนเอ่ยถามน้องชาย ก่อนที่ธันวาจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับพี่ช
หลังจากวันนั้นธามไทก็จัดการกับทุกคนตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้ โดยไม่มีใครได้รับการยกเว้นแม้แต่คนเดียว โดยเฉพาะครอบครัวของก้องเกียรติที่ธามไทใช้อำนาจมืดกดดันหน่วยงานของเขา จนทำให้เขาถูกโยกย้ายไปประจำการที่จังหวัดทางภาคเหนือ สร้างความลำบากให้แก่ครอบครัวของก้องเกียรติไม่น้อยส่วนคุณครูประจำชั้นของธันวา ที่เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ถูกไล่ออกอย่างไม่ปรานี เพราะถือว่าละเลยต่อหน้าที่ดูแลเด็กในชั้นเรียน จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างบาดแผลทางจิตใจให้แก่ธันวาและคนสุดท้ายที่ธามไทไม่คิดละเว้นเช่นกัน ก็คือผู้อำนวยการโรงเรียนที่ธามไทตัดงบบริจาคจากธราเทพกรุ๊ปออกทั้งหมด ทำให้ผู้อำนวยการถึงกับล้มทั้งยืน เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ท่านเจ้าสัวยังมีชีวิตอยู่ ท่านบริจาคเงินให้การสนับสนุนโรงเรียนของเธอถึงปีละห้าล้านทีเดียวเหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้ธันวาที่ป่วยเพราะตากฝนซึมไปหลายวันทีเดียว แต่สุดท้ายความรักและความเอาใจใส่จากคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นธามไทที่คอยดูแลน้องชายตลอดเวลาที่ไม่สบายไออุ่นที่คอยเล่านิทานกล่อมเด็กชายตัวน้อยให้นอนหลับฝันดีทุกคืนไอศูรย์ที่คอยเป็นเพื่อนเล่นให้หลานชาย ในวันที่ธามไทต้องไปทำง
ในที่สุดความฝันและวันที่ไออุ่นรอคอยก็เดินทางมาถึง เมื่อเธอสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปลายแล้วพร้อมกับเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกัน และแน่นอนว่าเด็กเนิร์ดอย่างเธอกับเด็กแสบอย่างเฌอแตมเรียนจบด้วยเกรดเฉลี่ยสูงสุด 4.00 เป็นการทิ้งท้ายช่วงชีวิตในรั้วโรงเรียนมัธยมอย่างสวยงามโดยเฉพาะไออุ่นที่เธอต้องใช้ความพยายามและความอดทนเป็นอย่างมาก เพราะอายุครรภ์ที่มากขึ้นทำให้เธอมีอาการอ่อนเพลียบ่อยครั้ง แต่ว่าที่คุณแม่ก็ยังคงมาเรียนตามปกติ เพราะอยากมีช่วงเวลาดี ๆ กับเพื่อนในห้องเรียนก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเติบโตในเส้นทางที่ทุกคนเลือกเดิน“ยินดีด้วยนะคะพี่เฌอแตมพี่หนูไอ”“ดีใจด้วยนะคะรุ่นพี่ ขอให้สอบติดคณะในฝันนะคะ”“ดีใจด้วยนะหนูไอที่เรียนจบพร้อมกัน”“เรียนจบแล้วก็ขอให้พี่แตมมีแฟนกับเขาสักทีนะคะ”“อย่าลืมพาเจ้าตัวเล็กกลับมาแนะแนวน้อง ๆ ที่โรงเรียนบ้างนะคะ”เพื่อนต่างห้องและรุ่นน้องในโรงเรียน ต่างพากันนำดอกไม้มามอบให้เฌอแตมกับไออุ่น เพื่อแสดงความยินดีกับสองเพื่อนซี้ในวันอำลาสถาบัน ทำให้สองสาวรู้สึกซาบซึ้งใจบ่อน้ำตาแตกกันไปหลายครั้งทีเดียวไออุ่นที่อ่อนไหวจากฮร์โมนคุณแม่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเสียน้ำตาไปถึงสามรอบติด เมื่อ
1 ปีต่อมา“ธัน ไม่ ไป ฮึก ฮือ ฮือ ธัน”มือเล็กที่จับแขนของธันวาเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ทำให้ไอศูรย์ที่วันนี้ต้องรับบทพี่เลี้ยงหลานสาวถึงกับกุมขมับมือใหญ่เอื้อมไปจับมือของหลานสาว แล้วพยายามดึงมือเล็กออกจากมือของคุณอาตัวน้อยอย่างเบามือ แต่เด็กหญิงอันดาที่นิสัยดื้อรั้นเหมือนผู้เป็นบิดากลับจับมือของอาธันวาไว้ไม่ยอมปล่อย สร้างความหนักใจให้คุณตาไม่น้อย“อันดาจ๋า อาธันต้องไปโรงเรียนแล้วนะลูก ถ้าหนูยังไม่ยอมปล่อยตอนนี้อาธันต้องไปโรงเรียนสายแน่ ๆ เลยค่ะเด็กดี”ไอศูรย์บอกหลานสาวที่ร้องไห้น้ำตาอาบแก้มอย่างน่าสงสาร เมื่อวันนี้ทั้งธามไทและไออุ่นต่างต้องรีบออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ทำให้เด็กหญิงอันดาที่ตื่นมาไม่เจอใครร้องไห้โฮด้วยความตกใจแต่เมื่อได้เห็นหน้าคุณอาธันวา เจ้าอันดาที่กำลังร้องไห้อยู่กลับเงียบเสียงลงในทันที พลางยื่นมือไปหาคุณอาตัวน้อยที่รับหลานสาวเข้าสู่อ้อมกอดด้วยความเอ็นดู แต่ใครเลยจะรู้ว่าอันดาจะติดธันวาแจจนไม่ยอมให้เขาไปโรงเรียน“อันดาเด็กดีไม่ร้องไห้นะคะ อาธันไปโรงเรียนแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับมาเล่นกับหนูอันดาแล้ว”เด็กชายผู้มีสถานะเป็นอาพยายามปลอบใจหลานสาวตัวน้อย ที่ยังคงร้องไห้สะอึกสะอ
โรงพยาบาล Nร่างสูงของธามไทเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้เขาทำหน้าที่ควงเวรผ่าตัดแทนหมอเพลิงกัลป์ ที่หนีไปสวีตกับภรรยาอย่างคุณพยาบาลลูกพีชที่กำลังงอนสามีขั้นสุด โดยทิ้งงานผ่าตัดเอาไว้ให้เขา ผู้ชายที่ยังโสดแต่ไม่ซิงทำเอาธามไทถอนหายใจแรง ๆ อย่างเหน็ดเหนื่อยตลอดการทำหน้าที่แทนเพื่อนที่ว่าง่าย ๆ ก็คือหนีงานไปง้อเมียนั่นแหละแต่ก็นะเรื่องแค่นี้สำหรับเพื่อนสนิทอย่างเพลิงกัลป์แล้ว เขาพร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอ เพราะในยามที่เขาแฮงก์เอาต์จนไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงนอนมาทำงานได้ ก็ได้คุณหมอเพลิงกัลป์ที่กำลังนอนกอดเมียในวันหยุดนี่แหละ ที่ต้องแหกขี้ตาตื่นขึ้นมาเข้าเวรแทนเขาเช่นกัน หึ ๆ ทีใครทีมันอะเนอะ แต่ศีลเสมอกันแบบนี้แหละถึงคบกันได้นาน“เพื่อนเวร เมียงอนทีไรลำบากกูทุกที เหนื่อยจะตายห่าอยู่แล้วเนี่ย”ธามไทบ่นเบา ๆ เพียงลำพัง คุณหมอร่างสูงในชุดผ่าตัดเดินตบไหล่ด้วยความเมื่อยขบผ่านเคาน์เตอร์พยาบาลสาว ๆ ที่ต่างพากันมองเขายิ้ม ๆ แต่ธามไทกลับไม่สนใจใครเลยสักนิด อ่า ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจผู้หญิงนะ ก็แหมเขาน่ะมันเสือตัวพ่อ แต่ที่นี่มันสถานที่ทำงานยังไงล่ะ ตามจรรณยาบรรณแพทย์แล้ว
“อื้อ อ๊า ไออุ่นร้อน ฮือ ร้อน”เมื่อเสื้อตัวบางหลุดออกไปจากร่างขาวผ่อง ไออุ่นก็ยังคงรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วสรรพางค์กาย ดวงตาฉ่ำหวานเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มแปลกหน้าอย่างธามไท ราวกับกำลังอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ แต่สิ่งที่ได้รับกลับตรงกันข้าม เมื่อธามไททิ้งตัวลงมาทาบทับร่างบางเอาไว้จนทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวได้ ทำได้เพียงนอนรอสัมผัสอันวาบหวามของเขา“หึ เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอหายร้อนเองสาวน้อย”เสียงทุ้มกระซิบชิดแก้มเนียนหอมกรุ่น ทำเอาไออุ่นชะงักไปเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำความเข้าใจกับความหมายของเขา ริมฝีปากอวบอิ่มก็ถูกประกบจูบอย่างเร่าร้อนโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวเสียงหอบหายใจของสองร่างที่กำลังแลกลมหายใจอย่างดูดดื่มดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ราวกับเสียงระฆังปลุกสติของหญิงสาว จากที่กำลังรู้สึกทรมานจากความร้อนผ่าวที่แล่นไปทั่วร่าง กลับกลายเป็นความตกใจและรู้สึกกลัวเมื่ออยู่ ๆ จูบแรกของเธอก็ถูกผู้ชายคนนี้ช่วงชิงไปอย่างอุกอาจ“อื้อ อ่อย ไออุ่น อ๊ะ”เสียงเล็กครางอู้อี้อยู่ในลำคอ แต่ตอนนี้ธามไทไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาสนเพียงความหอมหวานจากริมฝีปากอวบอิ่ม ที่เมื่อได้สัมผัสอย่างจาบจ้วงก็เกิดติดใจ ทำเอาผ
เช้าวันต่อมา“ฮึก ฮือ ฮือ”ธามไทลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ เมื่อเสียงสะอื้นไห้ของใครบางคนปลุกเขาให้ตื่นจากห้วงฝันแสนหวาน ร่างสูงผุดลุกขึ้นพร้อมกับสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติ ก่อนที่สายตาจะสะดุดเข้ากับร่างบางที่กำลังนั่งคุดคู้อยู่บนพื้น โดยมีผ้าห่มผืนใหญ่พันร่างกายเอาไว้ดวงตากลมโตของเธอฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำตา มองดูแล้วก็นึกสงสารอยู่ไม่น้อย แต่แล้วอย่างไรเล่าถึงเธอจะบริสุทธิ์ไร้มลทิน ทว่าเขาก็ตอบแทนความบริสุทธิ์ของเธอไปแล้วด้วยความสุขสมไม่ใช่หรือ เช่นนั้นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องสงสารเธอสักนิดเขาได้ความบริสุทธิ์ของเธอ ส่วนเธอก็ได้เงินจากเขา ข้อตกลงนี้ถือว่าวินวินกันทั้งสองฝ่าย เขาไม่เห็นว่าจะมีใครได้เปรียบเสียเปรียบนี่ธามไทไม่ได้ให้ความสนใจร่างเล็กที่นั่งร้องไห้เงียบ ๆ อีกต่อไป เขาลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยเนื้อตัวเปล่าเปลือย ทำเอาคนที่เหลือบมาเห็นใบหน้าขึ้นสีแดงอย่างห้ามไม่อยู่ แต่เมื่อตั้งสติได้ก็รีบหันหน้าหนีไปทางอื่นทันทีเมื่อเสียงประตูห้องน้ำปิดลง ไออุ่นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาอันดากับแนน แต่ไม่ว่าจะกดโทรออกกี่สาย กลับได้ยินแต่เสียงบริการรอสาย ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่า
สวนสาธารณะธามไทค่อย ๆ ใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผลให้อีกฝ่ายอย่างเบามือ เมื่อเห็นคนเจ็บชักมือหลบ ก็จับมือบางไว้แล้วเป่าเบา ๆ ลงบนแผล ราวกับกำลังปลอบประโลมคนที่เอาแต่นั่งร้องไห้ตอนนี้ให้หายเจ็บแผลตั้งแต่ที่เขาพาเธอมาที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ กับที่เกิดเหตุ เด็กสาวก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาร้องไห้ไม่สนใจโลกจนเขาเหนื่อยแทนไม่รู้ว่าที่ร้องไห้นั้นเพราะกำลังเจ็บแผล หรือว่าเสียใจที่โดนเพื่อนรักหักหลัง แต่ดูจากน้ำตาที่ไหลราวกับเขื่อนแตก สงสัยจะเป็นอย่างหลังมากกว่าไออุ่นมองผู้ชายที่กำลังทำแผลให้เธอด้วยดวงตาพร่ามัว ดวงตาคู่กลมเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา สักพักหยดน้ำใส ๆ ก็ค่อย ๆ รินไหลกระทบลงบนแขนของธามไทคุณหมอที่กำลังพันแผลให้คนไข้เฉพาะกิจชะงักไปเล็กน้อย เงยหน้ามองเธอแวบหนึ่งแล้วผละมาทำแผลให้จนเสร็จเรียบร้อย ก่อนลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ เธอบนม้านั่ง“นี่กะจะร้องไห้ทั้งวันเลยหรือไง ตั้งแต่เช้ามาจนถึงตอนนี้เธอยังไม่หยุดร้องไห้เลยนะสาวน้อย สงสัยคงอยากได้ถ้วยสินะ”คุณหมอเอ่ยพูดติดตลกทำลายบรรยากาศอึมครึมรอบตัว คนที่กำลังร้องไห้อยู่หยุดคิดตามคำพูดของเขาชั่วครู่ เธอเงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตามองหน้าอีกฝ่ายด้วยความงุนงงใบห