รอยรักเชลยอสูร

รอยรักเชลยอสูร

last updateLast Updated : 2025-04-26
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
36Chapters
58views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ต้าเฉิน มีคำสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กสาวคนหนึ่ง ที่เขาตกหลุมรัก เป็นความรักอันแสนบริสุทธิ์ ที่ไม่มีคำว่ารักหลุดออกมาให้ได้ยิน จนถึงเวลาที่ต้องไปจากเธอ โดยที่ไม่บอกเธอสักคำ ทิ้งไว้แต่เพียงแหวนเพชรพร้อมกับคำสัญญาที่ว่า "รอพี่นะตัวเล็ก" อีก 6 เดือนเขาจะกลับมา หากใจเธอยังมีเขาอยู่ให้สวมแหวนวงนี้เอาไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย เมื่อกลับมาเขาจะเห็นและจะมอบคำว่ารักให้เธอ แต่... ชะตามันช่างเล่นตลก ทำให้คำว่ารักที่เตรียมเอาไว้ให้เธอ กลับกลายเป็นความแค้นและความตายที่เขากำลังจะส่งให้ เธอ... อลิน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องสาวมาเฟีย เธอต้องชดใช้ด้วยชีวิต เขาเอาเธอมาทรมานให้สาแก่ใจและปล่อยให้ตายไปทีละนิด แต่มันไม่ง่ายเมื่อเธอคือคนที่มาเฟียรัก และเฝ้ารอมาตลอดหลายเดือน แทนที่เขาจะได้ทรมานเธอ แต่กลับเป็นเธอ... ที่ทรมานให้เขาคุ้มคลั่งแทน “คุณต้องการอะไรจากฉัน” เธอตัดสินใจถาม ในเมื่อเขาก็ออกตัวว่าไม่ใช่คนที่เธอคิดถึง “ความตาย!!! แต่ก่อนตาย มาตกนรกกับผมก่อน” จบคำ เขาก็กระชากเธอแรงๆ จนแทบจะตัวปลิว

View More

Chapter 1

บทที่ 1

จอมทัพ หรือชื่อเล่น ต้าเฉิน เจ้าของกาสิโนในต่างประเทศ และเป็นเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวในเมืองไทย 1 แห่ง เขาเป็นลูกครึ่งเสี้ยว บิดาเป็นชาวไต้หวันลูกครึ่งอเมริกัน และแม่เป็นคนไทย จึงสามารถมีธุรกิจที่ต่างประเทศได้ วันนี้เข้ากลายเป็นเจ้าของทั้งหมด เพราะทั้งบิดาและมารดาเสียชีวิต ต้องบินไปกลับไต้หวันเมืองไทย และอเมริกาเป็นว่าเล่น มาเมืองไทยคราวละเป็นเดือน 

แต่ไปเมืองนอกคราวละหลายๆ เดือนเช่นกัน ทว่ารอบนี้แทนที่เขาจะได้มาตรวจงานที่เมืองไทยอย่างเดียว กลับต้องมาจัดพิธีศพน้องสาว ที่เขาต้องดูแลแทนพ่อกับแม่ตั้งแต่ ม.6 ยันเรียนจบปริญญา ไม่รู้เพราะปัญหาชีวิตที่ไม่เคยปรึกษาพี่ชายคนนี้ ส่งผลให้เธอเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า จึงทำให้ต้าเอสจบชีวิตลงที่คอนโดมิเนี่ยม

ภายในพิธีศพถูกจัดขึ้นที่มูลนิธิ ไทย- จีน โดยมีจอมทัพเป็นเจ้าของมูลนิธิ เป็นผู้นำและคอยให้ความช่วยเหลือเหล่าคนไทยเชื้อสายจีนมาโดยตลอด ซึ่งมูลนิธิตั้งอยู่ด้านหน้าของหมู่บ้านนั่นเอง แขกเหรื่อหมุนเวียนกันเขามาร่วมงานทั้งวัน จอมทัพและลูกน้องก็ปลีกตัวมารับแขก แต่ถึงกระนั้นก็แทบจะไม่เชิญใคร 

รับรู้กันเฉพาะคนรู้จักกันแค่ระแวกใกล้ๆ ก็พอ เพราะการตายของต้าเอส มันนำมาซึ่งแต่คำติฉินนินทา มันเป็นที่เสื่อมเสียแม้ว่าเขาจะไม่แคร์ก็ตาม แต่ไม่อยากให้ใครมาว่าน้องสาวแบบนั้น จึงอยากทำแบบเงียบๆ ไม่อยากให้เป็นข่าวใหญ่โต 

คนมาร่วมงานก็แค่อยากจะมาใส่ใจ เรื่องการตายของต้าเอสเท่านั้น และคงรู้กันหมดแล้วล่ะ จอมทัพคิด พลางเดินเข้าไปในงานพร้อมด้วยลูกน้องนับสิบคน ทุกคนอยู่ในชุดสูทสีดำทั้งหมด แต่เขาค่อนข้องโดดเด่นที่สุดเพราะเป็นนายใหญ่ ผิวขาวแบบคนไทยเชื้อสายจีน สูงใหญ่แบบฝรั่ง จมูกโด่งปากกระจับชมพู แต่ดวงตาเล็กตี๋แบบเอเชีย แต่นัยตาสีน้ำตาลอ่อน จอมทัพเดินผ่านแขกที่กำลังนั่งกินโจ๊ก หลังจากที่มาไหว้เสร็จพอดี จังหวะนั้นเสียงนินทาก็ดังเข้าหู 

“เพิ่งได้ข่าวว่า พี่ชายของคนที่ตาย เป็นมาเฟียอยู่ใต้หวันด้วยนี่ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย” เสียงแขกคนหนึ่งกระซิบกัน ตามปกติ แต่ไม่มีใครรู้จักจอมทัพ ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ เพราะเขาไม่เคยเปิดเผยตัว แทบจะไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าต้าเอสมีพี่ชาย เพราะหญิงสาวขอไปใช้ชีวิตเพียงลำพังอย่างคนหัวสมัยใหม่ รักอิสระ แต่พอตายมาดันเป็นข่าวดังเสียอีก 

“ระดับมาเฟียขนาดนี้ ดันปล่อยให้น้องสาวเป็นไปเป็นเมียน้อยอ่ะเนอะ” เสียงนินทาก็ดังขึ้นอีกและมันก็เล็ดลอดเข้าหูจอมทัพ เพราะถ้าตั้งใจฟังมันก็ได้ยิน

“แหมความรัก มันไม่เข้าใครออกใครนี่น่า” คำนินทายังพ่นออกมาจากปากมนุษย์ป้าไม่หยุด แน่นอนว่าใครนินทาจอมทัพจะได้ยินชัดกว่าปกติ ขณะเดินผ่าน เขาตวัดหางตามองไปที่คนกลุ่มนั้น สายตาเย็นชา แต่น่าเกรงขามพร้อมกับบุคลิกเยื้องย่างอย่างมังกรอันแสนสง่าผ่าเผย ทำให้คนนินทาถึงกับตาด้วยอาการตาโต ก่อนจะก้มหน้าก้มตา แล้วจอมทัพก็เดินเข้าไปในงานตามปกติ แต่คล้อยหลังเสียงซุบซิบก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เพราะแขกบางคนเพิ่งจะมาวันนี้ และก็ยังคงไม่รู้ว่าจอมทัพอยู่ในงาน เพราะคิดแต่เพียงว่าเป็นแขกผู้ใหญ่มาเท่านั้น 

“พี่ชายคนที่ตายน่ะ เห็นว่าเพิ่งกลับมาจากไต้หวันด้วย” มนุษย์ป้าอีกคนเอ่ยขึ้น

“ใช่ๆ เขาว่าไปดูธุรกิจที่ฮ่องกง ใต้หวัน อเมริกา แล้วกลับมาไม่ทันน้องตาย ใครเป็นต้นเหตุการตายน่ะ เตรียมตัวเลย พวกนี้สายโหดด้วยนะคะ” มนุษย์ป้าอีกคนแทรกขึ้น

“แหม มาเฟียมีอิทธิพลในฮ่องกงใต้หวันขนาดนี้ มันต้องโหดสิคะ แล้วนี่ปล่อยให้น้องเป็นไปเมียน้อยเขาได้ล่ะเนี่ย ข่าวรู้กันทั่วทุกสำนักแล้วมั้ง นี่น่าจะฆ่าตัวตายเพราะอับอายล่ะสิท่า” 

“อะแฮ่ม! เอ่อ ขอโทษครับ เผื่อจะไม่ทราบว่า... คุณจอมทัพ หรือคุณต้าเฉินอยู่ในงาน” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น เพื่อจะได้หยุดการสนทนาของทุกคน ไม่งั้นจะสนุกกว่านี้ พร้อมกับส่งสัญญาณบอกกลุ่มที่กำลังนินทาเจ้านาย ให้หันไปมองจอมทัพ ซึ่งกำลังเคารพศพน้องสาวอยู่

“เอ่อ เอ่อคือ นะ นะ นั่นเหรอคะ” มนุษย์ป้าขี้นินทาเอ่ยถามเสียงสั่น 

“นึกว่าผู้หลักผู้ใหญ่นักการเมืองซะอีก” 

“พี่ชายครับ พี่ชายคุณต้าเอส” เขาย้ำอีกครั้งชัดๆ เน้นๆ 

“จะเข้าไปทักทายท่านหน่อยไหมครับ” ชายหนุ่มบอกอีกครั้ง ทำเอาป้าๆ ทั้งหลายถึงกับหุบปากแล้วก้มหน้ากินโจ๊กต่อ เวลาเดียวกันนั้นแขกที่เป็นเครือญาติ หรือคนไทยเชื้อสายจีนด้วยกันก็ต่างทยอยกันเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้จอมทัพต้องออกไปต้องรับด้วยตัวเอง 

“คนน้อยจังเลยคุณเฉิน” แขกผู้ใหญ่ท่านหนึ่งถามน้ำเสียงหม่นพลางมองไปรอบๆ

“ก็มีแต่พี่น้องเราครับ แล้วก็คนรู้จักใกล้ๆ กัน ผมแทบไม่อยากจะให้เป็นข่าวด้วยซ้ำ” จอมทัพเอ่ยเสียงกดต่ำเรียบๆ แต่หม่นเพราะความเศร้า พลางยืนนิ่งๆ มองไปยังแขกเหรื่อในงาน

“อาเสียใจด้วยนะเรื่องหนูเอส กะทันหันมาก ไม่คิดว่า...” 

“ครับ ไม่เป็นไร” จอมทัพรีบแทรกขึ้นทันที และยิ่งหม่นหนักเข้าไปอีกเมื่อต้องนึกถึงการจากไปของน้องสาว จนแขกผู้ใหญ่ท่านนี้ถึงกับเอามือลูบหลังเบาๆ เพราะรู้ว่าจอมทัพอดกลั้นความเสียใจเอาไว้อย่างหนัก นั่นก็เพราะว่าภายนอก จอมทัพเป็นคนที่โคตรแกร่ง เจ็บปวดเสียใจเพียงใดทำได้แค่นิ่ง เพื่อกดตัวเองให้อยู่ภายใต้ความน่าเกรงขาม ฉะนั้นเวลาเสียใจจึงทำได้แค่กัดฟันทน แม้ในหัวใจจะเจ็บปวด แหลกสลายแค่ไหนก็ตาม ฉากหน้าทุกคนจะได้เห็นแต่เพียงความเข้มแข็งดุดัน จะว่าจะแข็งกระด้างตามฉบับของมาเฟียก็ได้ ไม่มีแม้แต่หยดน้ำตา 

“เชิญคุณอาด้านในดีกว่าครับ” จอมทัพสูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับตัดบท แล้วผายมือเชิญแขกผู้ใหญ่เข้าไปด้านในเพื่อเคารพศพ จากนั้นเขาก็ยืนต้อนรับแขกไปเรื่อยๆ บางคนก็ไม่กล้าเข้ามาคุยด้วยรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร หรือแค่เขายืนเฉยๆ บวกกับสายตาอันแสนเย็นชาก็น่าเกรงขามเกินพอแล้ว อย่าต้องให้คุยเลย โดยเฉพาะกลุ่มที่นินทายิ่งไม่กล้าสบตาเลยด้วยซ้ำ

“คุณท่านครับ ไปนั่งกับแขกผู้ใหญ่ก่อนไหมคครับ” ลูกน้องคนหนึ่งถามขึ้น 

“ฉันไม่อยากคุยกับใครตอนนี้” จอมทัพตอบเสียงกดต่ำ

“ผมเข้าใจความรู้สึกครับ” ลูกน้องตอบ แต่จอมทัพก็ตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปงานอีกครั้ง เหมือนจะไปสมทบกับญาติๆ แต่ลูกน้องคนหนึ่งก็เดินมากระซิบจากทางด้านหลังพอดี 

“คุณท่านครับ ผมลากตัวมันมาแล้ว” เสียงกระซิบจากคนสนิทเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่น้ำเสียงเหี้ยม ทำให้จอมทัพชะงักฝีเท้าที่กำลังเดิน สีหน้าเรียบเฉย แต่แววตามีความดุดันเกรี้ยวกราด เมื่อได้ยินเช่นนั้นสันกรามก็ขบกันแน่นจนเห็นเส้นเลือดนูน

“คนที่หนึ่ง” เจ้านายเอ่ยคล้ายกับจะถาม

“ครับคนที่หนึ่ง อยู่หลังห้องประชุม” เมื่อได้ยินดังนั้นเจ้านายหนุ่มจึงหันไปกลับมองหน้าลูกน้องมือขวาที่ชื่อโจว์ 

“ให้คนของเราส่วนหนึ่ง ดูแลแขกในงานจนกว่าจะเสร็จ” จอมทัพบอกเสียงเรียบและเบา

“ครับ” คนสนิทรับคำ จากนั้นจอมทัพไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ ทว่ากลับเดินออกจากงานไปอย่างช้าๆ ฝีเท้าหนักแน่น เยื้องย่างสง่าน่าเกรงขาม ปรายตามองแขกในงานเล็กน้อย กระทั่งเดินพ้นออกไป

 

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
36 Chapters
บทที่ 1
จอมทัพ หรือชื่อเล่น ต้าเฉิน เจ้าของกาสิโนในต่างประเทศ และเป็นเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวในเมืองไทย 1 แห่ง เขาเป็นลูกครึ่งเสี้ยว บิดาเป็นชาวไต้หวันลูกครึ่งอเมริกัน และแม่เป็นคนไทย จึงสามารถมีธุรกิจที่ต่างประเทศได้ วันนี้เข้ากลายเป็นเจ้าของทั้งหมด เพราะทั้งบิดาและมารดาเสียชีวิต ต้องบินไปกลับไต้หวันเมืองไทย และอเมริกาเป็นว่าเล่น มาเมืองไทยคราวละเป็นเดือน แต่ไปเมืองนอกคราวละหลายๆ เดือนเช่นกัน ทว่ารอบนี้แทนที่เขาจะได้มาตรวจงานที่เมืองไทยอย่างเดียว กลับต้องมาจัดพิธีศพน้องสาว ที่เขาต้องดูแลแทนพ่อกับแม่ตั้งแต่ ม.6 ยันเรียนจบปริญญา ไม่รู้เพราะปัญหาชีวิตที่ไม่เคยปรึกษาพี่ชายคนนี้ ส่งผลให้เธอเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า จึงทำให้ต้าเอสจบชีวิตลงที่คอนโดมิเนี่ยมภายในพิธีศพถูกจัดขึ้นที่มูลนิธิ ไทย- จีน โดยมีจอมทัพเป็นเจ้าของมูลนิธิ เป็นผู้นำและคอยให้ความช่วยเหลือเหล่าคนไทยเชื้อสายจีนมาโดยตลอด ซึ่งมูลนิธิตั้งอยู่ด้านหน้าของหมู่บ้านนั่นเอง แขกเหรื่อหมุนเวียนกันเขามาร่วมงานทั้งวัน จอมทัพและลูกน้องก็ปลีกตัวมารับแขก แต่ถึงกระนั้นก็แทบจะไม่เชิญใคร รับรู้กันเฉพาะคนรู้จักกันแค่ระแวกใกล้ๆ ก็พอ เพราะการตายของต้าเ
last updateLast Updated : 2025-04-17
Read more
บทที่ 2
ห้องประชุมที่ว่าคือ อยู่บ้าน คฤหาสน์ที่เป็นดั่งศูนย์กลางการทำงานเกือบทั้งหมด มีห้องกระชุมขนาดใหญ่ ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกายและห้องมืด จอมทัพพร้อมด้วยผู้ติดตามนั่งรถกลับมาที่บ้าน ตึกที่มีไว้สำหรับประชุมอยู่ด้านหน้าพอดี เป็นทรงโดม บริเวณบ้านถูกจัดเอาไว้แบบโค้งครึ่งวงกลม พอมาถึงจอมทัพก็เดินนำเข้ามาด้านใน ผ่านห้องประชุม ห้องโถง ยาวไปจนถึงด้านหลังของห้องประชุมคือห้องออกกำลังกาย และห้องมืดที่ประตูเป็นเหล็ก เมื่อเดินถึงห้องออกกำลังกาย จอมทัพเดินไปพลางถอดเสื้อสูทไปพลาง พร้อมกับส่งให้ลูกน้องถือ ตอนนี้เหลือไว้เพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว ก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นตรงแขนศอก เผยให้เห็นรอยสักที่แขนทั้งสองข้าง เสร็จแล้วก็ถอดเข็มขัด ถอดนาฬิกา ขณะเดียวกันเขาพยายามข่มอารมณ์ที่เดือดพล่านอยู่ในใจเอาไว้ จนกระทั่งลูกน้องเปิดประตูห้องมืด เสียงดัง เอี๊ยด! ปัง! ทำเอาร่างหนึ่งซึ่งถูกคลุมศีรษะเอาไว้ด้วยผ้าสีดำถึงกับสะดุ้งตกใจ ร่างนั้นถูกมัดอยู่กับเก้าอี้ เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว จอมทัพเดินเข้าไปช้าๆ พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อไปด้วย ในจังหวะเดียวกันนั้นลูกน้องคนหนึ่ง ก็กระชากผ้าคลุมศีรษะออก เพื่อให้เห็นหน้ากันชัดๆ ชาย
last updateLast Updated : 2025-04-17
Read more
บทที่ 3
“ไม่... ไม่บอก ฉันจะไม่บอก” เขายังคงพูดด้วยน้ำเสียงขาดหายเช่นเดิม “เอาอะไรมารับประกันดีวะโจว์” จอมทัพหันไปถามลูกน้อง ซึ่งก็รู้ใจดีเหลือเกิน ลูกน้องคนสนิทถือมีดไปปักกลางโต๊ะ เท่านั้นแหละชายหนุ่มที่โดนซ้อมถึงกับตาโตด้วยความตกใจ ก่อนจะถูกนำตัวไปแล้วจับศีรษะฟุบหน้ากับโต๊ะ ลูกน้องคนหนึ่งก็จับมือเอาไว้พร้อมกับกางนิ้วออกจากกันให้หมดทุกนิ้ว “ห๊า! ไม่... ไม่นะ... พวกแกจะทำอะไร อย่า! อย่า! ได้โปรด อย่าทำอะไรฉันเลย” ชายหนุ่มเอ่ยขอร้องเสียงสั่น พร้อมกับเนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้“เกี่ยวก้อยสัญญากัน แต่นิ้วก้อยน่ะขอนะ” จอมทัพก้มหน้ากระซิบเสียงเหี้ยมก่อนจะจับมีดคมๆ เอาไว้ปักไว้กึ่งกลางระหว่างนิ้วก้อยกับนิ้วนาง“มะ มะ ไม่ อย่าคุณเฉิน อย่า อ๊า!!!! อื้อ!!!” เสียงร้องดังลั่นห้อง เมื่อจอมทัพกดมีดลงไปบนนิ้วก้อยแรงๆ แรงสุดเท่าที่กำลังจะมี กระทั่งนิ้วก้อยขนาดสะบั้นไปหนึ่งข้อ จอมทัพทำลงไปด้วยสีหน้าเย็นชา ไม่สะทกสะท้าน ส่วนลูกน้องก็ปิดผ้ายัดปากชายหนุ่มเอาไว้เพื่อไม่ให้ร้องไปมากกว่านี้ “อื้อ!!!” ชายหนุ่มได้แต่ร้องในลำคอ ดีดดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับดวงตาเหลือกล
last updateLast Updated : 2025-04-17
Read more
บทที่ 4
“เอสเป็นซึมเศร้า” จอมทัพตอบสั้นๆ พร้อมกับปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ แววตากลับมาเป็นปกติเช่นกัน เพื่อตำรวจจะได้ไม่ต้องมีประเด็น หรือสงสัยไปมากกว่านี้ เพราะเขาจะจัดการด้วยตัวเอง“อาจจะมีความเครียดจากข่าวที่เกิดขึ้นด้วย” ตำรวจให้ความเห็น“ข่าวเหรอ” จอมทัพถามย้ำก่อนจะเหลือบมองตำรวจแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ“คุณเอสเล่าอะไรให้คุณฟังบ้างไหมครับ” ตำรวจถามจอมทัพเพิ่มเติม ซึ่งเขาได้แต่เหลือบมองเท่านั้น ภายในใจมีคำตอบมากมาย แต่ไม่ตอบ“เราเป็นพี่น้องที่ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ ต่างคนต่างเติบโตกันคนละที่ แต่เมื่อไม่มีพ่อแม่ผมก็พยายามดูแลเขา แต่เขาแทบจะไม่เล่าอะไรให้ฟัง ที่ผ่านบอกแค่ว่าเครียดน่ะ ไม่อยากออกไปเจอใคร ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ผมบอกแค่ว่าเดี๋ยวผมก็กลับมา แต่ไม่ทันซะแล้ว” จอมทัพตอบแบบเลี่ยงๆ ไป “กระแสโซเชียลช่างรุนแรง สามารถฆ่าคนตายได้เลย” “ถ้าผมมีเวทมนต์ ผมจะเป่าทุกคนที่เกี่ยวข้องให้เป็นผุยผง” จอมทัพเอ่ยด้วยน้ำเสียงกดต่ำ น่ากลัว จนตำรวจถึงกับมองหน้และเหลือบมองบอดี้รอบๆ ตัว ซึ่งทุกคนก็จ้องเขม่งเลยทีเดียว เรียกได้ว่าสายตาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย ซึ่งตำรวจก็รู้แหละว่าจอมทัพเป็นใคร มีอิทธิพลครอบคลุมระดับใ
last updateLast Updated : 2025-04-17
Read more
บทที่ 5
“คุณ! คุณ! ได้ยินผมไหม” คนรับใช้ถาม ชายที่ปริศนาก็พยักหน้าแต่ไม่ได้ลืมตา คนรับใช้จึงเพ่งมองอีกครั้งให้แน่ใจ พร้อมกับจับตัวพลิก “คุณกรณ์! คุณกรณ์! โอ๊ยตายแล้ว” คนรับใช้เรียกด้วยความตกใจก่อนจะเข้าไปพยุง พร้อมกับสาวใช้อีกคน “นิ่ม ไปเรียกคุณๆ เดี๋ยวนี้ เร็ว” เขาสั่งอีกครั้ง จากนั้นสาวใช้คนเดิมก็วิ่งเข้าบ้านทันที ซึ่งเจ้านายทั้งหลายก็ยืนมองอยู่ก่อนแล้ว“มีอะไรเหรอนิ่ม” นราพี่สาวคนโตของบ้านเอ่ยถามด้วยความตกใจ “คุณกรณ์ คุณกรณ์อยู่หน้าบ้าน เหมือนถูกปองร้ายมาเลยค่ะ สภาพดูไม่ได้เลย” สิ้นคำของสาวใช้ ทุกคนก็วิ่งไปที่หน้าบ้านพร้อมกับตะโกนบอกคนขับรถให้เอารถออกโดยด่วน “กรี๊ด! กรณ์ เกิดอะไรขึ้น กรณ์” นรากรี๊ดลั่นด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเลือดโทรมกายของชายหนุ่ม“พาคุณกรณ์ไปหาหมอเถอะครับ” คนรับใช้บอก “รถกำลังมา รถกำลังมา” นราละล่ำละลักเอ่ยเสียงสั่น แทบจะเป็นลมอยู่แล้ว เพราะสภาพของกรณ์นั้นไม่รู้จะอยู่หรือตาย และในจังหวะเดียวกันนั้นรถก็แล่นมาจอดด้านหน้าพอดี ทุกคนจึงได้พยุงกรณ์ขึ้นรถ คุณหนูใหญ่ก็ขึ้นไปนั่งประคองเอาไว้ เพราะเป็นคนสนิท “ให้เราตามไปไหม พี่นรา” น้องอีกคนเอ่ยถาม“ไปๆๆ ขับรถตามไป” นราตอบเสีย
last updateLast Updated : 2025-04-17
Read more
บทที่ 6
“มะ มะ มัน... ชื่อต้าเฉิน ผมรู้จักว่าเขาเป็นนักธุรกิจ แต่ไม่ใช่”“มันให้ลูกน้องซ้อมคุณเหรอเนี่ย” “เปล่า ตัวเขาเอง เขาซ้อมผมด้วยมือของเขาเอง ไม่ให้ลูกน้องยุ่ง เขาเป็นมังกร” “เราจะทำยังไงดี ระ ระ เราต้องหนีหรือเปล่า” คีตะภัทรถามขึ้น “เราจะหนีทำไม ในเมื่อเราไม่ได้ทำอะไรผิด นังนั่นมันฆ่าตัวตายเองต่างหาก” นราตอบ“แต่มันก็เพราะ... เพราะเรานะพี่นรา เราทำให้สังคมประนามมันและเราทำให้มันเครียด”“ก็สมควรแล้วนี่ มันชั่ว เลว ต่ำ แล้วที่มันทำกับครอบครัวเราละ แทบจะบ้านแตก”“เรา ห้ามไปไหนมาไหนคนเดียว คุณนราต้องจ้างบอดี้การ์ด เขาเอาจริงแน่ และไม่รู้ว่าจะโชคดีเหมือนผมที่รอดมาหรือเปล่า” กรณ์ยังคงบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย“คนตัวตั้งตัวตี และออกความเห็นเรื่องนี้ คือคุณกรณ์นะครับ แล้วพวกเราจะกลัวทำไม” คีตะภัทรพูดขึ้นทันที “ก็เพราะพวกคุณต้องการให้เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ” “เอาล่ะๆ ไม่ต้องเถียงกัน แต่ว่าเราควรบอกคุณพ่อไหม” “บอกพ่อ พ่อก็จะยิ่งเอาเรื่องเราน่ะสิถ้ารู้ความจริงน่ะ อย่าโง่สิพี่นรา เท่านี้คุณพ่อก็... ก็เหมือนคนไม่มีวิญญาณแล้วเพราะเอาแต่คิดถึงนังนั่น งั้นขอคุณพ่อจ้างบอดี้การ์ดสักสองสามคน เพื่อความ
last updateLast Updated : 2025-04-17
Read more
บทที่ 7
“นี่มันโรงพยาบาลนะ มันไม่กล้าทำอะไรโจ่งแจ้งหรอกน่า” “ก็ได้ครับ งั้นผมกลับก่อน เจอกันพรุ่งนี้” เมื่อพูดจบคีตะภัทรก็ออกไปจากห้องพัก ขับรถกลับบ้านคนเดียว เพราะคนขับรถต้องอยู่เป็นเพื่อนนราก่อน แต่ให้ตายสิ จิตตกและระแวงไปหมด“คุณกรณ์ เขาทำอะไรคุณนอกเหนือจากนี้หรือเปล่า” นราอดถามไม่ได้เมื่ออยู่กันสองคน“มันซ้อมผม ด้วยตัวเอง ไม่ให้ลูกน้องยุ่ง มัน... เก่งมากคุณนรา โหด เหี้ยม น่ากลัว ถ้าไม่เป็นเพราะอยากให้ผมมาส่งข่าวล่ะก็ ป่านนี้ผมอาจจะตายแล้วก็ได้” “อยากเห็นหน้าจริงๆ เลย” “อย่าอยากเห็นเลยครับ มันน่ากลัวจริงๆ คุณคิดไม่ถึงหรอกเวลามีปืนจ่ออยู่ตรงหน้ามันเป็นยังไง ในห้องมืดที่มีแสงนิดเดียว เขาสามารถฆ่าผมได้เพียงแค่หมัดกับเท้า ผมแทบคลาน ตอนที่มันตัดนิ้วผม ผมเคยเห็นแต่ในหนัง” “ทำไมมันถึงโหดเหี้ยมแบบนี้” นราบอกเสียงสั่น นึกหวาดกลัว แต่เจอกับตัวเองจะเป็นอย่างไร เหมือนในหนังไหม คงน่ากลัวเกินจะคาดเดา “เราเลิกพูดเรื่องนี้นะครับ ผมว่าคุณพักเถอะ ผมก็จะพัก” เขาพูดมาเยอะแล้ว และอ่อนเพลียเหลือเกิน แต่ที่มีแรงพูดอยู่ก็เพราะว่าใจร้อนอย่างบอกเท่านั้นเอง ทุกคนจะได้ตื่นกลัว จะเหลือก็แต่น้องคนเล็กนั่นแหละที่ยั
last updateLast Updated : 2025-04-17
Read more
บทที่ 8
“ฤทธิ์เยอะ! ถ้าไม่ติดว่าคุณท่านบอกนะ เจอดีแน่” สิ้นคำอีกที หญิงสาวก็ตบผัวะเข้าให้ทั้งใบหน้าภายใต้โม่งดำนั่นแหละ “โอ๊ย! มึงเอายาสลบปิดจมูกได้แล้ว” “อื้อ! อื้อ!” หญิงสาวก็ดิ้นสิทีนี้ แม้จะพยายามกลั้นใจ แต่เพราะหายใจไม่ออก สุดท้ายก็ต้องสูดกลิ่นยาสลบเข้าไปเต็มปวด จนกระทั่งหมดฤทธิ์ทันที จากนั้นสองหนุ่มจึงได้นำถุงคลุมศีรษะอีกรอบ จากนั้นก็จับมือมัดเอาไว้ทางด้านหลัง แล้วเอนให้เธอลองไปนอนบนเบาะ พร้อมกับเอาเสื้อคลุมตัวให้เพื่อปิดขา เพราะเธอใส่เดรสและนอนแบบนั้นไม่น่าดูนัก “สวยฉิบหาย” คนที่โดนตบ เอ่ยปากชมแบบหงุดหงิด พลางส่ายหน้า“ชมไปด้วยหงุดหงิดไปด้วยแปลว่า”“แปลว่าเจ็บ มือหนักแต่สวยดุ เด็กท่าน ว่าแต่ถ้าท่านเห็นหน้าแล้วจะทำอะไรเด็กนี่ลงเหรอ” “ทำไมวะ”“ก็สวยขนาดนี้ ลงไม้ลงมือคงไม่ไหว” “สวยแต่เลว ชั่ว คุณท่านก็ไม่เอาไว้หรอกนะ และเพราะยัยนี่ทำคุณต้าเอสตายจะมาสงสารทำไมเนี่ย”“ไม่ได้สงสาร เสียดายความสวย ไม่คิดว่าคนสวยๆ จะใจดำ อำมหิตแบบนี้” “นั่นสินะ สงสารคุณท่าน เหลือญาติแค่คนเดียวก็ทิ้งไปซะล่ะ” “เลิกๆ หยุดพูดดีกว่า เรามันตัวเล็กๆ ปลายแถว เงียบปาก ให้ข้างบนเขาจัดการกันไป หมดที่เราใกล้จะหมดแล้ว
last updateLast Updated : 2025-04-17
Read more
บทที่ 9
“มะ มะ ไม่ ไม่ใช่ ฉันไม่ได้ทำ ไม่ได้ทำอะไรเลย” เธอละล่ำละลักตอบเสียงสั่น “อย่ามาแก้ตัว ไอ้กรผู้ช่วยพี่สาวเธอ มันก็แก้ตัวแบบนี้ ฉันไม่ฆ่ามันก็บุญหัวแล้ว” “พะ พะ พี่กร นายทำอะไรพี่กร” หญิงสาวถามด้วยความตกใจ“ต้องถามก่อนว่า พวกเธอทำอะไรต้าเอสต่างหาก ส่วนไอ้กรน่ะ เธอก็จะโดนเหมือนกันมันนั่นแหละ” “ฉัน ฉันไม่เกี่ยว ฉันไม่ได้ทำอะไรต้าเอส ต้าเอสฆ่าตัวตาย” สิ้นคำของเธอ เขาก็ยิ่งโกรธแล้วหันไปคว้าแจกันขว้างใส่พื้นเสียเลยเพื่อระบายอารมณ์ เพล้ง!!! ทำเอาเธอตกใจและยกขาขึ้นทันทีเพราะกลัวเศษแก้วกระเด็นใส่“อย่ามาแก้ตัว!!! คิดสิว่าทำอะไรลงไป และเพราะอะไรทำไมน้องฉันต้องมาตาย เพราะปีศาจอย่างพวกเธอไง”“ฉัน... ฉันไม่ได้ทำ ไม่ได้ทำ” หญิงสาวแก้ตัวอีกครั้ง ทว่าคราวนี้น้ำเสียงเบาลง “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ เอาเถอะถ้าจะปากแข็งกว่าไอ้กรล่ะก็ คงต้องจัดการให้หนักกว่าซะล่ะมั้ง” “อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยวด้วย ที่ต้าเอสฆ่าตัวตายไม่เกี่ยวกับฉันเลย” เธอพยายามบอกเสียงสั่น น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลรินอาบแก้มด้วยความหวาดกลัว และรู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาเล่ามานั่นแหละ เธอรู้ แม้จะไม่เกี่ยวแต่ต้าเอสก็ต้องมาตายเพราะ
last updateLast Updated : 2025-04-17
Read more
บทที่ 10
“แล้วผมล่ะครับ ผมคงปล่อยให้คุณท่านอยู่ตามลำพังไม่ได้” “ใครก็ทำอะไรฉันไม่ได้ ไปเช่าบ้านอยู่ห่างๆ ถ้าไม่เรียกไม่ต้องมายุ่ง” จอมทัพบอกเสียงเหี้ยม แต่ภายในใจของโจว์มันหวาดหวั่นจริงๆ นะ ให้ตายสิ ไม่มีลูกน้องคนไหนที่รู้ความสัมพันธ์นี้ยกเว้นโจว์คนเดียว “งั้น มีอะไรก็โทรเรียกครับ ผมจะให้บอร์ดี้การ์ดอยู่ห่างๆ” โจว์บอกด้วยความเป็นห่วงและเสียงสั่นอยู่ เพราะช็อกไม่หายเหมือนกัน “อย่ามาป้วนเปี้ยนเป็นพอ” จอมทัพบอกเสียงเหี้ยม “ครับ” โจว์ตอบกลับพลางมองหน้าจอมทัพด้วยความหวั่นใจอีกครั้ง สายตาของจอมทัพมันบ่งบอกว่า ไม่ได้พร้อมที่จะแก้แค้นให้สาสมเหมือนก่อนหน้านี้เลย โจว์คิด ก่อนจะปลีกตัวออกไปจากบ้านหลังใหญ่หลังนี้ที่ตั้งอยู่ห่างจากรีสอร์ต หรือบ้านพักตากอากาศหลังอื่น เป็นบ้านชั้นเดียวกันแบบสไตล์อังกฤษ แต่มีปล่องไฟสำหรับหน้าหนาวเช่นกัน รอบๆ บ้านรายล้อมไปด้วยสวนหย่อมและลำธาร ด้านหลังติดภูเขา และใช่นี่คือบ้านพักตากอากาศของจอมทัพเอง แต่ภายในบ้านแทบจะไม่มีอะไรนอกจากเครื่องนอน เพราะเขาไม่ได้มาพักนานแล้ว แต่สร้างเอาไว้พักผ่อนเวลาอยากมาเที่ยวเท่านั้นเอง จอมทัพสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางมองไปรอบตัว มือของเขาพร้อมกับห
last updateLast Updated : 2025-04-17
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status