“นี่เป็นแบล็กการ์ดหลงเถิง ข้างในบัตรมีเงินอยู่ห้าร้อยล้านบาท สามารถใช้ได้ทุกร้านค้าที่อยู่ในเครือหอการค้าหลงเถิงเมืองเทียนไห่ครับ”“อีกทั้งท่านเองคงเพิ่งมาถึง น่าจะยังไม่มีที่พัก นี่เป็นบัตรคีย์การ์ดวิลล่าของโซนสกายพาเลซหนึ่งครับ ได้โปรดรับมันไว้เถอะ”“ใจกว้างดีนะครับ มีเรื่องอะไรก็ว่ามาเถอะ” เย่เทียนหยู่เผยแววตาลึกล้ำราวกับเขามองทุกอย่างออกอยู่แล้ว“ราชามังกรช่างปรีชา หยางเฉียนเฉียนลูกสาวของกระผมมักมีอาการตัวเย็นมาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมานี้ เราหาหมอมาไม่น้อย แต่ไร้หนทางครับ” หยางต้าฝูรีบพูด“ไม่ต้องกังวล แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น รอพรุ่งนี้ผมหาเวลาว่างไปช่วยเธอรักษาก็พอแล้ว”“ยอดไปเลยครับ กระผมขอขอบคุณท่านราชามังกร!”หยางต้าฝูพูดด้วยความตื่นเต้น เขาเองก็ได้สอบถามผู้คนไปทั่วสารทิศ จนในที่สุดก็ค้นพบความลับอันยิ่งใหญ่ราชามังกรหนุ่มองค์ใหม่กลายเป็นแพทย์เซียนที่เขาตามหามาแสนนานแต่หาไม่พบเสียที เป็นแพทย์เซียนที่ชอบหลบซ่อนตัวช่างเหลือเชื่อจริง ๆ ใครจะคิดว่า แพทย์เซียนในตำนานจะยังเด็กขนาดนี้ และยังเป็นราชามังกรแห่งหลงเหมินอีกด้วยหลังจากได้รับคำตอบแล้ว หยางต้าฝูมีความสุขมากเขาจึงพูดขึ
“เทียนหยู่ ตั้งแต่ปู่ได้รับสายจากแพทย์เซียนเฒ่า ปู่ก็รอหลานมาตลอดเลย ในที่สุดวันนี้หลานก็มาสักที แล้วนั่นจะยังยืนอยู่หน้าประตูทำไมเล่า?”หลังจากที่ท่านปู่ได้รับแจ้งการมาถึงและรออยู่สักพักแล้วพบว่าเขาไม่เข้าไป ท่านปู่จึงมาถึงหน้าประตูด้วยตัวเองเย่เทียนหยู่หันมองก่อนจะเรียกเขาพร้อมรอยยิ้ม “ท่านปู่หลิน!”“พวกหลานรู้จักกันรึ?” ท่านปู่มองดูหลานสาวที่อยู่ด้านข้างแล้วถามขึ้นด้วยความสงสัยสีหน้าของหลินหว่านหรูกร่อยไปเล็กน้อยในพริบตา“เจอกันตอนกลางวันน่ะครับ” เย่เทียนหยู่รีบช่วยอธิบาย“อย่างนั้นก็บังเอิญจริง ๆ บางที นี่อาจเป็นพรหมลิขิตของสวรรค์ก็ได้ พอดีวันนี้เป็นฤกษ์ดีสำหรับการแต่งงาน รอเราทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว พวกหลานก็ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ท่านปู่หลินพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง แพทย์เซียนเฒ่ามีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นลูกศิษย์ของเขาก็น่าจะเก่งมากเช่นกันเย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สุดท้ายเขาจะตระหนักได้ว่าสาวสวยคนนี้คือคู่หมั้นของเขา หลินหว่านหรู เขาอดไม่ได้ที่จะมองดูรูปร่างของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง โดยเฉพาะ ‘ส่วนสำคัญ’หลินหว่านหรูเองก็สังเกตเห็นสายตาลามกของเ
“ฝันไปเถอะย่ะ ต่อให้ฉันต้องไปชอบหมาตัวไหนก็คงไม่ชอบนายหรอก!”หลินหว่านหรูพูดด้วยความโมโห ชายหนุ่มที่ทั้งหล่อ รวย มีความสามารถมากกว่านายยังมีอีกตั้งเท่าไร ฉันยังไม่ถูกใจเลย แล้วจะให้ถูกใจนายเนี่ยนะ?“หว่านหรู!”ในตอนนั้นเอง ผู้หญิงหน้าตาสละสวยที่สวมชุดสุดร้อนแรงคนหนึ่งเดินเข้ามา กางเกงขาสั้นยาวถึงสะโพกกับเสื้อยืดรัดสะดือเผยให้เห็นเรียวขาและเอวเรียวบางของเธออย่างสมบูรณ์ อีกทั้งเนินขาวเนียนนั้นก็สะดุดตามากเธอเหลือบมองเย่เทียนหยู่ข้าง ๆ อย่างไม่ตั้งใจเขาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดา ๆ แต่รูปร่างหน้าตาดีใช้ได้ แต่อย่างว่า คนบ้านนอกจากภูเขาแบบเขาไม่ว่าเขาจะใส่ชุดอะไร ก็คงเหมือนกับคางคกใส่สูทอยู่ดีเพ้อฝัน“มาสักที”หลินหว่านหรูกล่าวทักทาย ก่อนจะพูดกับเย่เทียนหยู่ “นี่คือเพื่อนสนิทของฉัน ซูถิง”เย่เทียนหยู่ยื่นมือออกแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “สวัสดีครับ!”แต่ซูถิงไม่ชายตามองเขาเลยด้วยซ้ำ เธอจับมือของหลินว่านหรูแล้วพูดว่า “เราไปกันเถอะ นายน้อยหลิวและคนอื่น ๆ กำลังรอเราอยู่”หลินหว่านหรูพยักหน้า จากนั้นก็หันมาเรียกเขา “คุณก็มาด้วยกันสิ!”ซูถิงปรากฏตัวแค่เพียงเพื่อจัดการกับเขา ทำให้เขาลำ
ทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นี่เขากล้าขึ้นไปจริง ๆ เหรอ ก่อนจะพากันหัวเราะ“ฮ่า ๆ ฉันล่ะตลกเป็นบ้า คนบ้านนอกอย่างแกยังกล้าพูดจาอวดเบ่งขนาดนี้”“...”เย่เทียนหยู่ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจพวกเขา เขาหยิบดาบขึ้นมาแล้วเร่งเร้า: “ยังไม่รีบอีก?”หลิวเจี๋ยรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาจึงเดินเข้าไปแล้วพูดว่า “แกไม่สวมอุปกรณ์ป้องกันเหรอ?”“ไม่จำเป็นหรอก”เมื่อหลิวเจี๋ยได้ยินแบบนั้นก็โกรธจัด เขายิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ดี ถ้าอีกพักแกเจ็บตัวก็อย่ามาโทษฉันภายหลังแล้วกัน” เขาคิดจะใช้โอกาสนี้ทำให้มือและเท้าของเขาพิการ“พูดมากจริงจังเลยครับ” เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วไม่ต้องพูดว่าหลิวเจี๋ยโกรธมากขนาดนั้น แต่ทุกคนต่างก็หมดคำจะพูดแค่ดูท่าถือดาบของเขา ก็มองออกเลยว่าเป็นคนนอกวงการ ดันกล้ามาอวดแบบนี้ นี่มันรนหาที่ตายชัด ๆ ไม่ใช่เหรอ?หลินหว่านหรูกังวลเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่ชอบเย่เทียนหยู่ และอยากให้เขาออกจากชีวิตเธอไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่เธอก็ไม่ได้อยากให้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเขาซูถิงปลอบเธอทันที: “หว่านหรู ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นไรหรอกหน่า นายน้อยหลิวมีทักษะมากและก็รู้จักขอบเขตด้วย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรอก”หลินห
“?”ความสนใจของทุกคนถูกดึงดูดเหมือนกันหมด“พวกคุณคงไม่รู้สินะ ว่าคืนนี้ประธานหยางแห่งหอการค้าหลงเถิงจะจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำด้วยตนเองเพื่อเป็นเกียรติแก่แขกคนสำคัญ”“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ เป็นคนใหญ่คนโตแบบไหนกันนะที่ทำให้ประธานหยางถึงกับมาต้อนรับด้วยตัวเองน่ะ?”“แน่นอนว่าเป็นคนที่ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าเลยล่ะ ตอนนี้มีเพียงเหล่าตระกูลผู้ร่ำรวยที่เข้าร่วมหอการค้าเท่านั้นที่ได้รับการแจ้งเตือน”หลิวเจี๋ยยิ้มและพูดว่า “หว่านหรู ตระกูลหลินยื่นขอเข้าร่วมหอการค้าหลงเถิงมานานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? คืนนี้จะเป็นโอกาส”“ยังไงเหรอคะ?” หลินหว่านหรูรู้สึกหัวใจสั่นไหวทันทีแม้ว่าพวกเขาจะยื่นขอแล้ว และก็ได้เข้าเป็นหนึ่งในรายชื่อใหญ่ แต่สุดท้ายก็มีเพียงสามตระกูลเท่านั้น และความหวังของพวกเขาก็ริบหรี่เสียเหลือเกิน“ง่ายมาก อาหารค่ำคืนนี้ผมสามารถพาคนไปด้วยได้หนึ่งคน คุณเข้าไปกับผมนะ ผมจะช่วยให้คุณได้รู้จักเจ้าหน้าที่อาวุโสของหอการค้า ถึงตอนนั้นยังต้องกลัวว่าจะไม่ได้เข้าร่วมหอการค้าอีกเหรอ?”“ก็จริงนะ ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ต้องเตรียมตัวให้ดี” หลินว่านหรูกล่าวทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เทียนหยู่ก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า
ทุกคนตกใจมากหลินหว่านหรูก็ตกตะลึงเช่นกัน หรือคนที่ดูโลโซบ้าน ๆ แบบเขาจะเป็นผู้มีอำนาจมหาศาลจริง ๆ?แต่ในตอนนั้นเอง หลิวเจี๋ยได้รับข่าวและต้องประหลาดใจอีกครั้ง “คุณหนูตระกูลหยางล้มป่วยกะทันหันและอาการสาหัสมาก”“อะไรนะ นี่มันเรื่องใหญ่เลยนะ”“ใช่ ฉันได้ยินมาว่าประธานหยางรักหลานสาวคนนี้มากและคอยปกป้องเธออยู่เสมอ นอกจากญาติและเพื่อนแล้วไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเธอหน้าตาเป็นยังไง”“ก็นั่นน่ะสิ ฉันได้ยินมาว่าเธอสวยมากเทียบได้กับนางฟ้านางสวรรค์เลยล่ะ”“ผมเข้าใจแล้ว” หลิวเจี๋ยตระหนักทันที: “ประธานหยางคงยกเลิกงานเลี้ยงอาหารค่ำต้องเป็นเพราะลูกสาวของเขาป่วยแน่”“ใช่ ๆ ประธานหยางรักลูกสาวคนนี้มาก ต้องเป็นแบบนั้นแน่!”“ฉันว่าแล้วเชียว ว่าอย่างหมอนี่จะไปกำหนดเรื่องของประธานหยางได้ยังไง”“ก็นั่นสินะ แค่เรื่องบังเอิญแท้ ๆ เกือบโดนมันทำตัวเก๊กสำเร็จแล้วเชียว”“ไร้ยางอายชะมัดเลย”ในตอนนั้นเอง เย่เทียนหยู่ได้รับโทรศัพท์ ซึ่งเป็นข้อความขอความช่วยเหลือจากหยางต้าฝูเขาขอที่อยู่และเตรียมไปที่นั่นทันทีเดิมทีหลินหว่านหรูรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่ไม่มีทางเป็นผู้มีอำนาจได้แน่ เมื่อเธอได้ยินคำพูดของหลิวเจี๋
“ใช่ครับ”เย่เทียนหยู่พยักหน้า ก่อนจะหยิบกล่องออกมาแล้วนั่งลงและเตรียมทำการฝังเข็ม“เดี๋ยวก่อน แกกำลังจะทำอะไร!” หยางปินดุเขา“รักษาไงครับ!”“ใครให้แกรักษา ฉันจะบอกแกไว้นะ ว่าฉันได้เชิญแพทย์เซียนหลี่ต้าเซียนแห่งเมืองจิงเฉิงมาแล้ว เขาใกล้ถึงแล้วด้วย แกรีบไสหัวออกไปซะ”หยางปินทั้งดุทั้งพึมพำ นี่พ่อเลอะเลือนรึไง อย่างไอ้เด็กหนุ่มนี่เนี่ยนะแพทย์เซียน มองดูก็รู้แล้วว่าเป็นมิจฉาชีพหวังอวิ๋นยังคงนิ่งเงียบ เห็นได้ชัดว่าเธอยอมรับแนวทางของลูกชายของเธอเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วในตอนนั้นเอง ก็มีร่างของคนสองคนปรากฏตัวที่ประตู หนึ่งในนั้นคือชายชรามีหนวดเคราสีขาวมาพร้อมกับกล่องยาเมื่อหยางปินเห็น เขาก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความสุขทันทีและพูดว่า “แพทย์เซียนหลี่ ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว รีบมาตรวจดูน้องสาวของผมเถอะครับ”“ได้!” แพทย์เซียนหลี่พยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ“มัวยืนบื้ออะไรอยู่ ทำไมยังไม่ออกไปจากที่นี่ล่ะ ถ้าแกมาขัดขวางการรักษาน้องสาวล่ะก็ สิบชีวิตของแกก็ไม่พอให้ชดใช้หรอก” หยางปินสาปแช่งเย่เทียนหยู่เย่เทียนหยู่ส่ายหัวแล้วหลบไปด้านข้างถ้าไม่ใช่เพราะชีวิตมนุษย์ เขาก็คงจะจากไปแล้วแพทย์เซียน
“แม่งเอ้ย มึงไม่รู้แล้วใครจะรู้วะ มึงเป็นแพทย์เซียนนะ”หยางปินคำรามด้วยความโกรธ ยังนึกว่าตนจะได้ทำประโยชน์ครั้งใหญ่แต่กลับกลายเป็นเช่นนี้หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเฉียนเฉียน พ่อของเธอจะต้องถลกหนังเขาแน่ในตอนนั้นเอง อาการสั่นของหยางเฉียนเฉียนยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ โดยแทบไม่มีการเคลื่อนไหวเลย ราวกัยเธอได้ตายไปแล้วใบหน้าของหยางปินเริ่มย่ำแย่มากขึ้นเรื่อย ๆ เขานึกถึงคำพูดของเย่เทียนหยู่ขึ้นมา มันแม่นยำมาก และตอนนี้เขาอาจทำผิดพลาดครั้งใหญ่ในขณะนี้ เขาคิดถึงคำพูดของเย่เทียนหยูที่บอกว่าเขาจะต้องเสียใจและตอนนี้เขาเสียใจจริง ๆในตอนนั้นเอง ในที่สุดหยางต้าฝูก็กลับมา ทันทีที่เขาเข้ามาและเห็นเย่เทียนหยู่เขาก็ถามอย่างกังวล: “ท่าราชามั…คุณชายเย่ เฉียนเฉียนเป็นยังไงบ้างครับ?”เย่เทียนหยู่ส่ายหัวมองดูหยางปินแล้วพูดว่า “ถามเขาสิ!”หยางต้าฝูมองไปที่ผู้คนที่ตื่นตระหนก แล้วเห็นแพทย์เซียนหลี่ยืนถือเข็มอยู่ข้างเขา เขาคาดเดาความเป็นไปได้คร่าว ๆ และพูดด้วยความโกรธว่า “หยางปิน เกิดอะไรขึ้น!”หยางปินถูกพ่อของเขาดุด้วยความโกรธและหวาดกลัวจนแทบสิ้นสติใบหน้าของแพทย์เซียนหลี่ซีดลงและเขาพูดอย่างขมขื่น: “ประธาน
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก