Share

บทที่ 11 ของขวัญจากอาจารย์ /1

last update Last Updated: 2025-04-08 23:42:53

บทที่ 11 ของขวัญจากอาจารย์ /1

เผยคังบดกรามดังกรอด หันมาตวาดบุตรชายคนเล็กอย่างอย่างฉุนเฉียว

"หุบปาก! หากมิใช่เพราะเจ้าพ่ายแพ้คู่แข่งที่ตบะอ่อนด้อยกว่า จนทำให้ตระกูลเผยขายหน้า! มีหรือพี่ชายของเจ้าจะลงมือ! ต่อไปห้ามพูดถึงเรื่องนี้อีก ตั้งใจฝึกฝนให้มากกว่านี้ เข้าใจหรือไม่!" แม้ว่าความจริงตัวเขารู้สึกอับอาย และเจ็บแค้นไม่น้อยไปกว่าบุตรชาย ทว่าจำเป็นต้องอดกลั้น ฝืนกลืนโทสะทั้งหมดลงท้อง

ด้วยเพราะผู้ที่ทำร้ายเผยหลงจนบาดเจ็บสาหัส คือคนของไท่จื่อแห่งตำหนักเทพอนันต์ ที่แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องไว้หน้าอยู่หลายส่วน ตัวเขาเป็นเพียงเจ้าเมืองจึงมิอาจล่วงเกินอีกฝ่าย ยิ่งคิดยิ่งแค้นใจจนแทบจะกระอักเลือด!

ผู้เป็นบิดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก้าวมานั่งยังโต๊ะน้ำชากลางห้อง เอ่ยเรียกบุตรชายที่ยืนก้มหน้าเม้มปากแน่นอยู่ข้างมารดา ซึ่งเวลานี้กำลังได้รับการพัดวีจากสาวใช้หลังจากลมจับไปอีกรอบ

"หู่เอ๋อร์มานี่ นั่งลง ข้าอยากรู้ว่าเด็กผู้หญิงที่ประลองชนะเจ้าวันนี้ เป็นใครมาจากไหน ใช่ศิษย์ของสำนักกระบี่จันทราหรือเปล่า"

"นะ นาง นางเป็นผู้สมัครอิสระจากข้างนอกขอรับท่านพ่อ ส่วนเรื่องที่นางเป็นใครมาจากไหน ลูกเองก็ไม่ทราบ" เผยหู่เอ่ยตอบบิดาเสียงแผ่ว เรื่องที่เขาพ่ายแพ้ให้กับเด็กที่ไร้สำนัก

เผยคังเคาะนิ้วกับโต๊ะ จ้องหน้าบุตรชายด้วยสายตาตำหนิระคนเหยียดหยัน ก่อนเอ่ยสั่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องบุตรชายคนโต

"ไปสืบมา ข้าต้องการรู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร"

“ขอรับ”

ตกกลางคืนรวี่เยว่เข้ามาในแดนปราณ เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับนางให้ท่านอาจารย์ทั้งสองฟังอย่างละเอียด มหาเทพทั้งสองมองหน้ากัน ทอดถอนใจให้กับโชคชะตาของเด็กหญิง ทั้งที่รู้เห็นอยู่ตลอด แต่มิอาจยื่นมือเข้าไปแทรกแซง

อันที่จริงพวกเขาแทบจะทอดเงาลงไปสังหารเผยหลงด้วยตนเอง ทว่ามิอาจกระทำได้เพราะผิดกฎสวรรค์! ช่างขัดใจพวกเขาทั้งสองยิ่งนัก

รวี่เยว่มองใบหน้าหล่อเหลาสง่างาม ซึ่งดูเหมือนราบเรียบไร้อารมณ์ ทว่าปีกจมูกของทั้งคู่ดูกระตุกอย่างไรชอบกล รวมถึงแรงกดดันที่เผลอปล่อยออกมา เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าอาจารย์ทั้งสองกำลังขุ่นเคือง นั่นยังไม่นับเสียงฟ้าคำรามในแดนปราณ ณ ตอนนี้

"ท่านอาจารย์อย่าโมโหไปเลยนะเจ้าคะ เดี๋ยวจะเสียสุขภาพเอาได้ รวี่เยว่ไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย แค่ตกใจมากเท่านั้นเองเจ้าค่ะ" ร่างเล็กฉีกยิ้มน่ารักและลุกขึ้นยืน หมุนตัวไปมาแสดงให้อาจารย์ทั้งสองเห็น ว่านางไม่มีสิ่งใดบุบสลาย

วาจาไร้เดียงสาน่าเอ็นดูของลูกศิษย์ตัวน้อย ช่วยบรรเทาความขุ่นเคืองให้มหาเทพทั้งสองได้ในที่สุด

"รวี่เยว่น้อย อาจารย์มิอาจปรากฏตัวเพื่อปกป้องเจ้าด้วยตนเอง อาจารย์รู้สึกละอายใจยิ่งนัก…เช่นนั้น อาจารย์ขอมอบหุ่นภูตผู้พิทักษ์ ไว้ให้คอยปกป้องเจ้าแทนก็แล้วกัน" มหาเทพหวงหลงเรียกตุ๊กตาไม้แกะสลักเป็นรูปเด็กไม่มีเพศออกมา ก่อนหยดเลือดสีทองของตนลงไปหนึ่งหยด จากนั้นจึงยื่นให้รวี่เยว่พร้อมแหวนมิติเก็บของ

"หุ่นภูตตัวนี้แกะสลักจากกิ่งของต้นท้อสวรรค์แสนปี มีตบะระดับหยวนอิงขั้นกลาง หากจะใช้ก็เพียงเพ่งจิตเรียกมันออกมา เจ้าอยากได้ผู้พิทักษ์เป็นชายหรือหญิงให้อธิษฐานตามที่ต้องการ มันจะเปลี่ยนรูปไปตามสิ่งที่เจ้านึกคิด"

ความจริงหุ่นตัวนี้เป็นของสะสมของมหาเทวีเฟิ่งหนี่ว์…อย่างมากเขาก็โดนศรีภรรยาบิดหูอีกรอบ และหูชาอีกหน่อยจากการโดนบ่น โทษฐานที่แอบฉกของสะสมของนางมาโดยที่ไม่เอ่ยขออนุญาตก่อน แต่เพื่อศิษย์รัก หูของเขาทนได้!

"ขอบคุณเจ้าค่ะอาจารย์" รวี่เยว่รับมาด้วยความดีใจ นางโขกศีรษะให้มหาเทพหวงหลงหนึ่งที

มหาเทพชิงหลงก็ไม่น้อยหน้า เรียกเสื้อเกราะสีเขียวอมฟ้าทอประกายงดงาม ลักษณะเหมือนเกล็ดมังกร แต่กลับนุ่มลื่นมิต่างจากไหมชั้นยอด

มหาเทพหวงหลงตาโตเมื่อเห็นว่าสหายรักมอบสิ่งใดให้รวี่เยว่ รีบส่งกระแสจิตไปถามไถ่ในบัดดล

'นี่เจ้ามอบเสื้อเกราะเกล็ดมังกรของตนเองให้นางเลยรึ ไม่กลัวเมียแพ่นกบาลหรืออย่างไร'

'เกราะตัวนี้เป็นคราบที่ข้าลอกไว้เมื่อเกือบแสนปีที่แล้ว นางไม่ว่าข้าหรอก เพราะเอาไปก็ใส่ไม่ได้อยู่ดี เก็บไว้ให้รกตำหนักเปล่าๆ’ มหาเทพชิงหลงยักคิ้วให้สหายขณะกล่าวตอบ

"งดงามมากเลยเจ้าค่ะ" รวี่เยว่เป็นเด็กผู้หญิงย่อมชอบของสวยๆงามๆเป็นธรรมดา ใบหน้าเล็กระบายยิ้มจนโค้ง รีบโขกศีรษะให้ท่านอาจารย์คนงามเช่นเดียวกัน

"รวี่เยว่น้อย นี่คือเสื้อเกราะทำขึ้นจากเกล็ดมังกร ทนทานต่อพิษกัดกร่อนและอาวุธทุกชนิด ผู้ที่จะสร้างความเสียหายให้มันได้ต้องมีตบะระดับฮว่าเสินขึ้นไปเท่านั้น และในมหาพิภพทงเทียนเหอนี้ มีเพียงสิบกว่าคนเท่านั้นที่มีตบะระดับนี้ และคนพวกนี้ไม่รังแกเด็กให้เสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน"

เพราะหากตบะระดับเทพรังแกเด็กน้อย คงถูกได้ประณามไปทั่วมหาพิภพทงเทียนเหอ จนมิอาจสู้หน้าผู้ใดได้อีก ดีไม่ดีอาจถูกสวรรค์ลงทัณฑ์

รวี่เยว่ซาบซึ้งใจในความเมตตาของอาจารย์ทั้งสอง นางระบายยิ้มกว้างทั้งน้ำตา โขกศีรษะให้พวกเขาอีกครั้ง

ส่วนเรื่องตัวเลือกระหว่างสำนักหงสาจันทรา และตำหนักเทวาอนธการ มหาเทพทั้งสองบอกนางว่าไม่ต้องรีบ ถึงเวลาโชคชะตาจะนำทางให้นางเอง ตอนนี้ให้ตั้งใจบำเพ็ญและฝึกฝนการหลอมยาไปก่อน รวี่เยว่พยักหน้ารับเป็นไก่จิกข้าวสาร

คืนวันประมูลโอสถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ปรากฏว่าโอสถของนางถูกประมูลไปสูงถึงเม็ดละหนึ่งล้านห้าแสน ผู้ที่ประมูลได้ไปคือขุนนางใหญ่จากราชสำนัก เพื่อนำไปมอบให้องค์ชายที่ประสูติจากกุ้ยเฟย

ส่วนโอสถทิพย์สำหร้บใช้เลื่อนระดับ จากตบะเจี๋ยตันขั้นสมบูรณ์เพื่อบรรลุสู่ขั้นหยวนอิง ถูกประมูลไปถึงยี่สิบล้าน ราคานับว่าสูงมากแต่ก็ถือว่าคุ้มค่า และผู้ที่ได้ไปคือบุตรสาวเจ้าสำนักเพลิงจักรพรรดิ หั่วหงเหยา

หลังจากหักส่วนแบ่งสามส่วนให้หอโอสถตามข้อตกลง รวี่เยว่ก็ตรงกลับบ้านทันที เรื่องที่นางแอบออกมายามค่ำคืนเช่นนี้ หากแม่นมชุนหรือชุนอิ่งจับได้ มีหวังถูกทั้งสองบ่นจนหูชาเป็นแน่ ถึงแม้จะสั่งให้หุ่นภูตแปลงกายเป็นนาง แสร้งนอนหลับอยู่ในห้องแล้วก็ตามที…แต่รวี่เยว่ก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี

หนึ่งเดือนต่อมา

รวี่เยว่ตัดสินใจชวนแม่นมและสาวใช้เข้าไปในเมือง เพื่อไปดูร้านที่ปล่อยให้เช่าหรือขายต่อบนถนนย่านการค้า นางบอกทั้งสองว่าต้องการดูที่ทางสำหรับเปิดร้านขายขนม เพราะรู้ว่านี่คือความฝันของชุนอิ่ง

"ตอนนี้พวกเรามีเงินมากพอที่เปิดร้านแล้วนะเจ้าคะ ข้าจะขยันหลอมยาออกมาขายเยอะๆ ต่อไปข้าจะดูแลแม่นมและพี่ชุนอิ่งเองเจ้าค่ะ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 11 ของขวัญจากอาจารย์ /2

    บทที่ 11 ของขวัญจากอาจารย์ /2 วาจาของเด็กหญิงทำคนฟังขอบตาร้อนผ่าว คุณหนูของพวกนางช่างคนเป็นจิตใจงดงามและกตัญญูอย่างยิ่ง ช่างน่าเสียดายที่รองแม่ทัพเยว่หนิงลี่จากไปเร็วเหลือเกิน หวังว่าวิญญาณของนางที่อยู่บนสวรรค์จะมองเห็นและภูมิใจในตัวบุตรสาว ในขณะที่ทั้งสามกำลังยืนมองร้านที่ปิดประกาศว่าปล่อยให้เช่าอยู่นั้น บุรุษคนหนึ่งซึ่งเคยพบพวกนางอยู่สองสามครั้ง บังเอิญเดินผ่านมาแถวนั้นพอดี เขาจดจำได้อย่างแม่นยำว่าสาวใช้หน้าแฉล้มนางนั้นคือชุนอิ่ง และหญิงวัยกลางคนร่างท้วมที่มีไฝเหนือริมฝีปากด้านซ้ายคือแม่นมชุน ครั้นมองไปยังเด็กหญิงและได้เห็นใบหน้าเล็กของนาง ซึ่งเวลานี้ปราศจากปานสีชาดรูปเปลวเพลิงก็ตกตะลึง ไม่กี่เดือนก่อนตอนที่เขามาส่งจดหมายจากเมืองหลวงให้นาง เด็กหญิงยังดูอัปลักษณ์เพราะปานนั่นอยู่เลย ไยตอนนี้ถึงได้… และในชั่วขณะนั้นเอง "นั่นรวี่เยว่นี่ รวี่เยว่! เจ้านั่นเอง มาทำอะไรตรงนี้หรือ" เด็กหญิงที่ดูอายุมากกว่ารวี่เยว่สองสามปี ก้าวมาหาร่างเล็กอย่างดีใจ นางคือหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันอิสระ ที่ตกรอบไปในรอบที่สาม และนางก็เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน ที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์เดียวกันกับรวี่เยว่ หลังจ

    Last Updated : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 12 การเปลี่ยนแปลง /1

    บทที่ 12 การเปลี่ยนแปลง /1 ชายชุดดำทั้งสองแทบไม่เชื่อสายตา เด็กหญิงตรงหน้ามีธาตุมืด! หรือแท้จริงแล้ว นางคือเผ่ามนุษย์สายเลือดมารสวรรค์ชั้นสูงของตำหนักเทวาอนธการ!! หากเป็นอย่างที่คิด พูดได้คำเดียวว่า ซวยแล้ว! ซวยทั้งพวกเขาและผู้ว่าจ้าง ในมหาพิภพทงเทียนถึงได้มีคำกล่าวไว้ว่า หาเรื่องใครก็หาไป แต่อย่าริอาจไปหาเรื่องคนตำหนักเทวาอนธการ! และอย่าไปยุยั่วคนตำหนักเทพอนันต์ ขนาดราชวงศ์ของทั้งสี่อาณาจักร ยังไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกเขา!!! ความหวาดผวาจู่โจมจิตใจของนักฆ่าที่ยังรอดชีวิต เด็กหญิงตรงหน้าอายุเพียงเก้าหนาว ทว่าระดับตบะสูงถึงเจี๋ยตันขั้นกลาง แต่สิ่งที่น่าหวาดหวั่นกว่า คืออัคคีนิลกาฬในมือของนางต่างหาก!! การถูกช่วงชิงและควบคุมจิตวิญญาณ คือสิ่งที่นักบำเพ็ญเกรงกลัวเป็นที่สุด พวกเขามิอาจไปผุดไปเกิด แต่กลายเป็นวิญญาณรับใช้ของผู้ที่ช่วงชิงออกมาได้ และหากวิญญาณไม่ได้รับการปลดปล่อย ก็จะกลายเป็นทาสรับใช้ไปชั่วกัปชั่วกัลป์…ทรมานยิ่งกว่าตกนรก! “ข้าบอก ข้ายอมบอกแล้ว แต่ได้โปรดอย่าช่วงชิงจิตวิญญาณของข้าเลย” นักฆ่าอีกคนรีบส่งเสียงปากคอสั่น “จะ เจ้าเมืองเผยคังขอรับคุณหนู ที่ว่าจ้างพวกเราให้

    Last Updated : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 12 การเปลี่ยนแปลง /2

    บทที่ 12 การเปลี่ยนแปลง /2 ในโกดังเก็บสินค้าทางทิศตะวันตกของเมืองลวี่เฟิง ร่างเล็กของเด็กหญิงมีสภาพสะบักสะบอม ถูกจับมัดมือมัดเท้า ปากเล็กมีผ้ายัดไว้ ข้างกายมีชายชุดดำยืนคุมเชิงอยู่สองคน เผยคังก้าวเข้ามาในโกดัง พิศมองเด็กหญิงตรงหน้าด้วยสายตายากคาดเดา "อั่น เอ้าเอือง อ่วย อ้า อ้วย (ท่านเจ้าเมืองช่วยข้าด้วย)" เด็กหญิงส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อเห็นว่าใครก้าวเข้ามาในโกดัง ใบหน้าเล็กเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา “เอาผ้าอุดปากนางออก” เผยคังสั่งองครักษ์ หลังนั่งลงบนเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้เป็นที่เรียบร้อย ครั้นปราศจากผ้าอุดปาก เด็กหญิงก็รีบส่งเสียงขอความช่วยเหลือจากเจ้าเมืองลวี่เฟิงทันที "ท่านเจ้าเมืองเจ้าคะ ช่วยข้าด้วย มีคนใจร้ายจับข้ามาเจ้าค่ะ" ทว่าคนฟังกลับปรายตามองร่างเล็กอย่างเย็นชา "ข้าคงช่วยอะไรเจ้าไม่ได้หรอกนะแม่หนู เพราะข้าเองก็ได้รับคำสั่งมาอีกที" แววตาของรวี่เยว่เข้มขึ้นเมื่อได้ยินถ้อยคำจากปากเผยคัง นอกจากชายวัยกลางคนตรงหน้ายังมีใครที่ต้องการชีวิตของนางอีกหรือ "มีคนสั่งท่านเจ้าเมืองมาอย่างนั้นหรือเจ้าคะ! ใครหรือเจ้าคะ ไม่แน่ว่าอาจมีการเข้าใจผิดก็เป็นได้…ข้าเป็นแ

    Last Updated : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 13 เส้นทางชีวิตใหม่ /1

    บทที่ 13 เส้นทางชีวิตใหม่ /1 เมืองเทียนหวง เมืองหลวงอาณาจักรอู๋ซาง จวนเสนาธิการทหาร จดหมายจากแดนไกลลุกไหม้อยู่ในเตากำยาน กลางโถงรับรองของเรือนฟาหยาง ฮูหยินผู้เฒ่า เหวินกุ้ยเหริน มารดาของหวังเหลียง และมีศักดิ์เป็นป้าของ เหวินไป๋เหลียน ทอดมองหลานสาวคนโปรดที่เกิดจากเหวินไป๋เหลียนอย่างมาดหมาย ปีนี้หวังลู่เสียนอายุเก้าหนาว เด็กหญิงเกิดหลังหวังลี่ถิงเพียงหนึ่งเดือน จากที่เคยเป็นเพียงบุตรีของอนุ เวลานี้เด็กหญิงคือบุตรีของฮูหยินเอกอย่างสมบูรณ์ "เสียนเอ๋อร์ อีกไม่กี่วันเจ้าก็ต้องเดินทางไปสำนักเพลิงจักรพรรดิแล้ว เตรียมตัวพร้อมรึยัง" ผู้เป็นย่าเอ่ยถามด้วยสุ้มเสียงอ่อนโยน หวังลู่เสียนหน้าตาพริ้มเพราตั้งแต่เด็ก ฉายแววว่าจะเติบโตขึ้นเป็นหญิงงามเหมือนมารดา อีกทั้งเปี่ยมด้วยพรสวรรค์ อายุเพียงเก้าหนาวระดับตบะอยู่ที่หนิงชี่ขั้นปลายแล้ว สตรีสายเลือดตระกูลเหวินต่างหากที่สมควรมีชะตาหงส์ ไม่ใช่เด็กอีกคนตามคำทำนายของหอพยากรณ์!! "เสียนเอ๋อร์เตรียมตัวพร้อมแล้วเจ้าค่ะท่านย่า แต่ว่า…เสียนเอ๋อร์ไม่อยากจากท่านย่าไปเลย" เด็กหญิงในชุดผ้าไหมเนื้อดีสีชมพูอ่อนหวาน เอ่ยวาจาฉอเลาะเอาใจหญิงชรา ใบหน้าเล็กถูไ

    Last Updated : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 13 เส้นทางชีวิตใหม่ตอนปลาย /2

    บทที่ 13 เส้นทางชีวิตใหม่ ตอนปลาย/2 วันเปิดร้านผู้คนต่างให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก พวกเขาได้รับแจกถั่วเคลือบน้ำตาลเสริมพลังปราณในกายเป็นสินค้าแนะนำ ทีแรกก็ไม่มีใครเชื่อว่า เพียงแค่ขนมขบเคี้ยวจะช่วยเสริมพลังธาตุในกายได้อย่างไร รวี่เยว่จึงมอบลูกกวาดเสริมพลังของแต่ละธาตุให้แต่ละคนลองกินดู “ลูกกวาดอัคคีที่ท่านลุงเพิ่งกินเข้าไป จะช่วยให้ปราณธาตุไฟของท่านแข็งแกร่งขึ้นสองส่วนในทันที และคงอยู่ครึ่งชั่วยามเจ้าค่ะ ท่านสามารถทดสอบพลังได้ทันที” รวี่เยว่ยืนเอามือไพล่หลัง บรรยายสรรพคุณสินค้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทว่าน้ำเสียงที่เปล่งออกมากลับทรงพลังกึกก้องจนหลายคนไม่กล้าพูดแทรก ครั้นชายวัยกลางคน ที่เพิ่งกินลูกกวาดสำหรับเสริมพลังธาตุไฟเข้าไป เริ่มต้นเดินพลังดูตามคำแนะนำ ฟึ่บ!! พลังธาตุไฟในมือของเขาแข็งแกร่งขึ้นสองส่วนในพริบตา ตามสรรพคุณที่กล่าวมาจริงๆ! “โอ้ พลังธาตุของข้าแข็งแกร่งขึ้นจริงๆด้วย ยอดเยี่ยมจริงๆ แม่หนูเจ้าขายราคาเท่าไหร่ข้าขอเหมาหมด!” ชายวัยกลางคนผู้มีพลังธาตุไฟ รีบควักถุงเงินออกจากมาแหวนยื่นให้รวี่เยว่ “เจ้าจะเหมาหมดคนเดียวได้อย่างไร! ข้าเองก็อยากได้เหมือนกัน” ชายวัยกลางคนที่ยืน

    Last Updated : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 14 คำยุยง /1

    บทที่ 14 คำยุยง /1 ในขณะที่รวี่เยว่กำลังเพลิดเพลิน กับการหารายได้เข้ากระเป๋าอยู่ที่ร้านเฟิ่งหนี่ว์ในเมืองเฉินเปี้ยน เฉียนเยียนหรานคู่แค้นของรวี่เยว่ ได้นำเรื่องที่นางลงจากตำหนักแล่นไปฟ้องท่านหญิงเมิ่ง เมิ่งเฟยหลิง หลานสาวขององค์ราชินี ซึ่งแอบมีใจให้อวี้เหวินเทียนหยามาหลายปีแล้ว เมิ่งเฟยหลิงเป็นหญิงงาม กิริยามารยาทอ่อนหวานน่าทะนุถนอม หากแต่มิอาจมัดใจบุรุษเย็นชาอย่างอวี้เหวินเทียนหยาได้เสียที “ท่านหญิงเจ้าคะ รวี่เยว่แอบลงไปจากภูผาอีกแล้วเจ้าค่ะ นางทำแบบนี้ทุกสามเดือน แต่ไม่เห็นว่าท่านอ๋องจะกล่าวตำหนิหรือลงโทษนางเลยสักครั้ง หากเป็นข้าหรือคนอื่นๆทำเช่นเดียวกัน คงโดนสั่งโบยหลังขาดไปแล้ว แบบนี้มันไม่ยุติธรรมนะเจ้าค่ะ ท่านหญิงเห็นด้วยกับข้าหรือไม่” ในดวงตาของเฉียนเยียนหรานเต็มไปด้วยความเกลียดชิงอย่างไม่คิดจะปิดบัง ภาพความทรงจำในวันแรกที่ได้พบคู่แค้นหวนกลับมาอีกครา …ห้าปีก่อน รวี่เยว่ในวัยเก้าหนาวแย้มรอยยิ้มอย่างยินดี เมื่อมองเห็นตำหนักเทวาอนธการตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ร่างเล็กก้าวเท้ามุ่งไปยังจุดหมาย ทว่าเมื่อเดินขึ้นมาได้ครึ่งทางก่อนถึงประตูใหญ่ ชายหนุ่มชุดดำห้าคนซึ่งคาดว่าน่

    Last Updated : 2025-04-09
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 14 คำยุยง /2

    บทที่ 14 คำยุยง /2 ด้วยเพราะพลานุภาพอัคคีนิลกาฬในกายของรวี่เยว่ มาจากศิลามหาเทวะธาตุหยินหยาง จึงทรงพลังยิ่งกว่าอัคคีนิลกาฬของผู้ที่มีตบะในระดับเดียวกันไปมากโข ชินอ๋องอวี้เหวินเทียนหยารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนลึกลับที่เกิดขึ้น ร่างสูงแวบหายจากตำหนัก มาปรากฏกายอยู่หน้าประตูใหญ่ในเสี้ยวลมหายใจ ครั้นเห็นว่าเป็นใคร สุ้มเสียงทุ้มต่ำกล่าวถ้อยคำขึ้นอย่างยินดี “รวี่เยว่! เป็นเจ้านั่นเอง ข้าดีใจที่เจ้ายอมรับคำเชิญของข้า” อวี้เหวินเทียนหยาร่อนลงพื้นสาวเท้ามาหาร่างเล็กด้วยท่วงท่างามสง่า “เส้นทางขึ้นภูผาลำบากไม่น้อย แต่เจ้าก็สามารถผ่านขึ้นมาได้โดยปราศจากรอยขีดข่วน นับว่าฝีมือล้ำเลิศจริงๆ” ชายหนุ่มกล่าววาจาชื่นชมร่างเล็กอย่างอ่อนโยน ก่อนปรายตามองเฉียนเยียนหรานด้วยสายตาคมกริบ ถึงไม่ถามเขาก็พอคาดเดาสถานการณ์ออก คนถูกมองสะดุ้งเฮือก เหงื่อกาฬแตกเต็มเผ่นหลัง รีบก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาผู้เป็นใหญ่รองจากองค์ราชาของตำหนักเทวาอนธการ “กักบริเวณเฉียนเยียนหรานสามเดือน งดโอสถเสริมพลังทุกชนิดครึ่งปี! ส่วนบ่าวไพร่ที่ติดตามมาลงโทษตามกฎ ความผิดฐานปล่อยให้นายของตน กระทำการหยาบคายกับแขกของข้า!” “ท่านอ๋อง ไม่นะเพ

    Last Updated : 2025-04-09
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 15 การกลับมาของจอมมาร /1

    บทที่ 15 การกลับมาของจอมมาร /1 ตำหนักเทพอนันต์ นับตั้งแต่วันที่ฮั่วเฮ่อฉีเดินทางกลับตำหนักเทพอนันต์ตามคำสั่งของพระอัยกา หลังผ่านงานประมูลโอสถครั้งใหญ่ ณ เมืองลวี่เฟิง เด็กหนุ่มแสนดื้อรั้นเอาแต่ใจ เดินเข้าสู่ถ้ำบำเพ็ญของราชวงศ์ในหุบเขาเทพประทานพรด้วยตนเอง หลังได้ข่าวว่าบ้านหลังเล็กของรวี่เยว่ถูกไฟไหม้และเด็กหญิงหายตัวไป… ย้อนไปในวันที่ทราบเรื่อง ฮั่วเฮ่อฉีร้อนใจจนอยู่ไม่สุข เขาส่งคนไปสืบข่าว ทว่าคว้าน้ำเหลว ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งอย่างเผยคังกลับตายแล้วเช่นกัน องค์ไท่จื่อผู้หยิ่งยโสถึงกับยอมลดความโอหังลง เขียนสาส์นไปหาชินอ๋องของตำหนักเทวาอนธการ ถามหารวี่เยว่น้อยด้วยองค์เอง อีกฝ่ายตอบกลับมาว่านางไม่ได้มาพบเขา ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องจริง เพราะในยามนั้นรวี่เยว่ยังไม่ได้เดินทางขึ้นภูผาของตำหนักเทวาอนธการ… ห้าปีผ่านไป ในที่สุดประตูถ้ำบำเพ็ญก็เปิดออก พลังปราณตบะระดับหยวนอิงขั้นกลางพวยพุ่งออกมา ปะทะเข้ากับอากาศภายนอกจนเกิดลมกระโชกไปทั่วบริเวณ อี้หรงทำหน้าที่เฝ้าปากถ้ำรีบวิ่งไปหาสหายรักอย่างลิงโลด พวงหางสีเงินฟูฟ่องแกว่งไปมารวดเร็วจนเกิดลมแรงระลอกที่สอง องครักษ์ที่ผลัดกันมาค

    Last Updated : 2025-04-09

Latest chapter

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 54/2 อย่าทำให้ข้าโมโห

    บทที่ 54/2 อย่าทำให้ข้าโมโห จากนั้นก็ลงมือทุบตีจิกข่วน จนใบหน้าของวั่งเฉาบวมเป่งกลายเป็นหัวหมู ผ่านไปครู่หนึ่งโส่วจินจึงลากร่างอันบอบช้ำของ ของเล่นชิ้นใหม่ เอ้ย นักโทษคนใหม่ ไปแยกขังไว้ในห้องข้างๆ ช่วงสายของวันรุ่งขึ้น หวังเหลียงเดินกระสับกระส่าย วนไปวนมาอยู่หน้าจวนแม่ทัพปราบทักษิณ มารดาของเขากับจูหมัวมัวออกมาพบต้าอ๋องตั้งแต่เมื่อวานช่วงบ่าย จนถึงบัดนี้ทั้งคู่ยังไม่กลับจวน ทหารที่เฝ้าประตูกลับออกมาพร้อมพ่อบ้าน กล่าวว่าฮูหยินผู้เฒ่าและจูหมัวมัว ออกไปจากที่นี่ตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวานแล้ว ซึ่งถือเป็นความจริงไม่ได้โกหกเลยสักนิดเดียว หญิงชราถูกส่งไปหอโอสถเยว่เสียง ส่วนร่างไร้วิญญาณของจูหมัวมัวถูกพาไปทิ้งยังป่าอสูรในเวลาเดียวกัน ส่วนคนขับรถม้าอย่างฝานจื่อหรือหม่าฝาน ก็กลับมายังคฤหาสน์ตามคำสั่งของฮูหยินผู้เฒ่า นางบอกให้เขากลับมารอรับหวังเหลียงตอนเลิกงานเหมือนทุกวัน นางกับจูหมัวมัวจะหารถม้ากลับคฤหาสน์เอง เพราะต้องใช้เวลาในการสนทนากับต้าอ๋องค่อนข้างนาน หวังเหลียงเดินกลับขึ้นรถม้า ในอกเต็มด้วยความวิตกกังวล มารดาของเขาหายตัวไป หลังมาขอพบต้าอ๋อง เรื่องนี้ดูอย่างไรก็ไม่ปกติ อยากจะถามไถ่มาก

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 54/1 อย่าทำให้ข้าโมโห

    บทที่ 54 อย่าทำให้ข้าโมโห วั่งเฉาละล่ำละลักเอ่ยวาจา เตรียมปลดปล่อยพลังธาตุ…ทว่ากลับไร้ปฏิกิริยาใดๆ พลังธาตุวารีระดับเจี๋ยตันขั้นสมบูรณ์ปลายยอดระดับคอขวด ถูกกดข่มไว้ด้วยพลังอันแข็งแกร่งบางอย่าง ชายวัยกลางคนตื่นตระหนกจนแทบจิตหลุด มองหญิงสาวราวเห็นภูตผี ใบหน้าของเขาซีดขาวมิต่างจากกระดาษ ในแววตาเต็มไปด้วยความสับสนระคนหวาดกลัว 
 ในมหาพิภพทงเทียนเหอ สิ่งที่สามารถกดข่มพลังธาตุของนักพรตคนอื่นๆได้ในบัดดล มีเพียงสองประการ ประการแรกคือ เขตแดนแห่งแสงพิสุทธิ์ของผู้ครอบครองธาตุแสงระดับหยวนอิงขึ้นไป และประการที่สอง พลังที่อยู่เหนือมวลมนุษย์ทั้งปวง ทวยเทพ! ถึงแม้หญิงสาวเบื้องหน้าจะมีตบะระดับหยวนอิง หากแต่นางหาใช่เผ่ามนุษย์สายเลือดสัตว์เทพเหมือนเช่นเชื้อพระวงศ์ของตำหนักเทพอนันต์ จะมีเขตแดนแห่งแสงพิสุทธิ์ได้อย่างไร เรื่องที่นางมีธาตุมืดนั่นก็น่าเหลือเชื่อจนทำให้เขาประหลาดใจมากพอแล้ว “เจ้าเป็นใครกันแน่! เจ้าไม่ใช่หวังลี่ถิง แต่เป็นตัวปลอมใช่หรือไม่!” วั่งเฉาตกอยู่ในความหวาดผวาโพล่งวาจาออกมาขณะก้าวถอยหลัง “ถามมากเสียจริง หนวกหู” เสียงหวานดังขึ้นคล้ายรำคาญก่อนที่จะ… ครืนนน!! ปึ้ก!! แร

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 53/2 ช่วงเวลาแห่งความสนุก

    บทที่ 53/2 ช่วงเวลาแห่งความสนุก กระต่ายน้อยพองขนขู่ฟ่ออีกรอบ หันมาแหวใส่อีกฝ่ายทันควัน กล่าวว่าตนไม่ใช่เด็กน้อยเสียหน่อย ปีหน้าก็จะปักปิ่นแล้ว ถึงเวลานั้นจะกลับมาท้าเขาแข่งดื่มสุรา ใครแพ้ต้องยอมเรียกอีกฝ่ายว่า ลูกพี่ “ตกลง แล้วข้าจะรอแข่งร่ำสุรากับเจ้า! เตรียมล้างคอไว้ได้เลยอวี้เหวินอิงเอ๋อร์” “ท่านต่างหากที่ต้องเตรียมล้างคอไว้รอ หวงฝู่ฮ่าวอวี่” หลังจากปะทะคารมกันจบ ก็กลับมานั่งกินข้าวกันต่อ ทั้งคู่วางความแค้นลงชั่วคราว แต่กลับมาประลองฝีมือด้วยการแย่งชิงอาหารกันบนโต๊ะแทน รวี่เยว่ถึงกับส่ายหน้าให้กับความซุกซนของทั้งคู่ คืนนั้นองค์ชายใหญ่เสด็จกลับวังด้วยอารมณ์เบิกบานใจอย่างถึงที่สุด เขาไม่ได้สนุกเช่นนี้มานานแล้ว กงกงประจำตำหนักรีบไปรายงานจ้าวกุ้ยเฟยเป็นการเร่งด่วน องค์ชายใหญ่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ ทางด้านรวี่เยว่หลังจากส่งกระต่ายน้อยพุงโตถึงเรือน นางก็แวะไปดูสภาพของเล่นใหม่ที่ต้าอ๋องส่งมาให้ตามคำขอ ภายในคุกใต้ดินเวลานี้ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง บนร่างกายของฮูหยินผู้เฒ่าเต็มไปด้วยรอยตะปบ จากกรงเล็บของเสี่ยวเฮยมาว หญิงชรานั่งขดตัวกลม ยกมือปิดหน้าร้องไห้คร่ำครวญขอชีวิตปานขาดใจ ทว่าเสียงที่เ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 53/1 ช่วงเวลาแห่งความสนุก

    บทที่ 53 ช่วงเวลาแห่งความสนุก นอกจากซื้อขนมให้อวี้เหวินอิงเอ๋อร์แล้ว หวงฝู่ฮ่าวอวี่ยังพากระต่ายน้อยจอมซนคู่กัด และรวี่เยว่ไปเลี้ยงอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารทะเลชื่อดังของเมืองหลวง ภายในห้องอาหารส่วนตัวอันหรูหรา องค์หญิงห้าของตำหนักเทวาอนธการ สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ กระทั่งหลงจู๊ที่มาคอยดูแล ยังแอบสงสัยว่า หญิงสาวร่างเล็กหน้าตาพริ้มเพรา จะกินทุกอย่างเข้าไปหมดจริงๆ หรือ! สายตาของอวี้เหวินอิงเอ๋อร์ ผู้ไม่เคยเห็นและชิมรสชาติอาหารทะเลมาก่อน บัดนี้ทอประกายวาวโรจน์ด้วยความตื่นตาตื่นใจ เมื่อได้เห็นอาหารทะเลที่ถูกจัดวางอยู่บนโต๊ะ ทุกจานล้วนมีความงดงามและมีกลิ่นหอมอันชวนให้หลงใหล อาหารทะเลทั้งหมดสิบสองจาน หน้าตาสีสันและรูปร่างงดงามต่างกันไป ทุกจานล้วนถูกปรุงแต่งอย่างประณีต ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรมสด ที่ยังคงมีละอองน้ำทะเลอยู่ กุ้งตัวโตแกะเปลือกถูกปรุงรสด้วยเครื่องเทศหอมกรุ่น ปูม้าตัวใหญ่เนื้อแน่นราวกับเพิ่งขึ้นมาจากท้องทะเล ปลาทอดกรอบราดน้ำปรุงรสสีแดงส่งกลิ่นหอมหวานเจือความเผ็ด และอาหารทะเลจานอื่นๆอีกหลายอย่าง องค์หญิงน้อยนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ด้วยความไม่คุ้นเคยกับอาหารทะเลแสนหลากหลายนี้ จึ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 52/2 การเจรจา

    บทที่ 52/2 การเจรจา และเป็นอีกครั้งที่หวงฝู่ฮุ่ยหมิ่นชะงักค้าง หากรวี่เยว่คือนางหงส์ในคำทำนายของหอพยากรณ์จริง เช่นนั้นเขาควรทำเช่นไร บุรุษตรงหน้าคือผู้มีพระคุณของเขา หลายปีที่ผ่านมาก็ไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดตอบแทนสักครั้ง ยิ่งคิดยิ่งลำบากใจ โอรสสวรรค์ถอนหายใจแผ่วเบา เอ่ยถามอีกฝ่ายถึงเรื่องคำพยากรณ์เมื่อสิบกว่าปีก่อน ชายหนุ่มตอบกลับมาว่าเขาทราบเรื่องนี้ และเอ่ยถามผู้ปกครองอาณาจักรอู๋ซางกลับไปว่า “ท่านไม่มีความสามารถพอที่จะปกป้องอาณาจักรด้วยมือตนเองอย่างนั้นหรือ หรือว่าต้องรอพึ่งพาผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง” ทำคนฟังสะอึกนิ่งอึ้งไปอีกรอบ… “องค์ไท่จื่อ จะเอ่ยคำใดก็ช่วยไว้หน้าข้าหน่อยเถอะ ดีนะที่ตรงนี้มีแค่ท่านกับข้าและท่านอี้หรง มิฉะนั้นข้าคงขายขี้หน้าแย่” “ข้าแค่พูดความจริง แต่ท่านไม่ต้องกังวลไป หากวันใดเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมา ข้าไม่ทอดทิ้งสหายของข้าแน่นอน ข้าสัญญา” คำสัญญาของฮั่วเฮ่อฉีช่วยให้คนฟังสบายใจไปเปราะหนึ่ง ถึงชายหนุ่มจะยโสโอหังไปบ้าง แต่กลับเป็นคนใจกว้างและรักษาสัจจะยิ่งชีพ หากตัวเขาคิดแย่งชิงรวี่เยว่มาให้บุตรชาย มีหวังได้โดนจอมอหังการตรงหน้า สังหารทิ้งด้วยมือเป็นแน่!…คนผู้น

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 52/1 การเจรจา

    บทที่ 52 /1 การเจรจา เมื่อได้ยินต้าอ๋องยืนกรานที่จะให้รวี่เยว่อยู่ฟังด้วย ฮูหยินผู้เฒ่าพลันบังเกิดความลังเล ดวงตากลอกไปมาพยายามครุ่นคิดหาทางรอด ด้วยเพราะตัวนางเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ใครจะไปคาดฝันว่าเด็กคนนั้นจะดวงแข็งอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ใช่แค่รอดพ้นจากพิษร้ายและการถูกล่าสังหาร! แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากตำหนักเทวาอนธการ กระทั่งกลายมาเป็นธิดาเทพอันสู่งส่ง อากัปกิริยาของหญิงชราล้วนอยู่ในสายตาของรวี่เยว่ มุมปากพลันยกขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ หันไปกล่าวกับต้าอ๋องว่าตนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระต้องไปจัดการ หากแต่ความจริงนางเองก็อยากพิสูจน์ความจริงใจของต้าอ๋อง ว่าจะลงโทษคนตระกูลหวังให้สาสมกับความผิด อย่างที่เพิ่งกล่าวกับนางก่อนหน้านี้จริงหรือไม่ ร่างอรชรสง่างามในอ้อมแขนอุ้มแมวสีเข้มมีปีกอยู่ สาวเท้ามาหยุดข้างกายหญิงชราที่ยืนตัวสั่น พลางปรายหางตามองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง เพียงแค่นั้นยังทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าดวงวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง “ทีนี้คงพูดธุระสำคัญได้แล้วกระมัง! “เสียงของต้าอ๋องดังขึ้น เขาอยากจับหญิงชราตรงหน้า มาทรมานให้สาสมกับความเลว หากแต่ถูกรวี่เยว่ขอไว้ด้วยวาจาไร้เสีย

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 51/2 คนร้ายตัวจริง

    บทที่ 51/2 คนร้ายตัวจริง ถึงแม้ตัวเลี่ยวโร่เป้ยจะโดดเด่นเปี่ยมด้วยพรสวรรค์อย่างไร แต่กลับไม่มีสิทธิ์นั่งบัลลังก์ของอาณาจักรหวงซา ด้วยว่ามีมารดาเป็นสตรีจากอาณาจักรอู๋ซาง รวมถึงเรื่องที่นางเป็นเพียงบุตรีจากอนุ เมื่อเป็นเช่นนั้น เลี่ยวเจิงเวยจึงหารือกับสือเซิน วางแผนช่วยเขาพิชิตอาณาจักรอู๋ซาง หากทำสำเร็จเลี่ยวเจิงเวยสัญญาเป็นมั่นเหมาะว่า จะแต่งตั้งเลี่ยวโร่เป้ยขึ้นเป็นผู้ปกครองอาณาจักรอู๋ซางคนต่อไป ภายใต้ร่มเงาของอาณาจักรหวงซา เรื่องนี้วั่งเฉาหาได้รับรู้ เขาเข้าใจว่า หากหวงฝู่ฮ่าวอวี่ได้นั่งบัลลังก์ต่อจากพระบิดา สำนักกระบี่สวรรค์จะสนับสนุนวั่งเตี้ยนเถียน ให้ได้รับตำแหน่งฮองเฮาอย่างเต็มที่…ทั้งที่ความจริงตนเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งของสือเซิน …อาณาจักรหวงซาซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของมหาพิภพทงเทียนเหอ มีสายแร่หลายชนิดเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอาณาจักร ทว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย และเต็มไปด้วยภูเขาหินจึงขาดแคลนพื้นทำการเกษตร หลายร้อยปีมานี้มักเข้าโจมตีเมืองติดชายแดนของอาณาจักรอู๋ซางอยู่เนืองๆ จุดประสงค์เพื่อแย่งชิงดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ในเขตนั้นมาเป็นของตน เพิ่งจะมีการทำสัญญาสงบศึกไปเม

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 51/1 คนร้ายตัวจริง

    บทที่ 51/1 คนร้ายตัวจริง จวนอัครมหาเสนาบดี ภายในโถงรับรองของเรือนส่วนตัว วั่งเฉาเข่าทรุดกระอักเลือด รับแรงกดดันหนักหน่วงจากบุรุษในชุดผ้าไหมสีเงินที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ภายในใจอัดแน่นไปด้วยความหวาดหวั่นค่อนไปทางหวาดกลัว หวนรำลึกถึงเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อน ในวันที่บุรุษผู้นี้เดินทางมาหาเขา พร้อมยื่นข้อเสนออันแสนหอมหวานยั่วยวนเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน สิ่งที่เขาต้องลงมือทำคือการกำจัดเด็กหญิงซึ่งมีชะตาหงส์ตามคำทำนายของหอพยากรณ์ในปีนั้น เด็กผู้หญิงอายุห้าหนาว ที่เกิดกลางฤดูวสันต์หลายคนถูกกำจัด ไม่ก็ถูกทำให้ไร้ซึ่งพลังธาตุ หากแต่คาดไม่ถึงว่า หนึ่งในนั้นจะรอดพ้นการคุกคามทั้งหมดทั้งมวลมาได้! กระทั่งเติบใหญ่ขึ้นมาและกลายเป็นธิดาเทพแห่งตำหนักเทวาอนธการผู้สูงส่ง แม้แต่พยัคฆ์อนธการยังยอมรับนางเป็นคู่พันธะ! “อาจารย์ หากวั่งเฉาตายจะมีคนสงสัยได้นะขอรับ โปรดยั้งมือด้วยเถิด” เสียงทุ้มของชายหนุ่มรูปงามที่นั่งกอดกระบี่อยู่บนเก้าอี้ดังขึ้น แรงกดดันหายไปตามคำขอ วั่งเฉาหอบหายใจรีบโกยอากาศเข้าปอดหนักหน่วง นึกว่าตนจะแดดิ้นด้วยมือบุรุษตรงหน้าเสียแล้ว เพียงแค่แรงกดดันยังทำเขากระอักเลือดไปหลายคำจนแทบสิ้นสติ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 50/2ความหวาดหวั่นและยำเกรง

    บทที่ 50/2 ความหวาดหวั่นและยำเกรง บัดนี้ เด็กคนนั้นกลายเป็นธิดาเทพแห่งตำหนักเทวาอนธการอันยิ่งใหญ่ สูงส่งห่างไกลจนมิอาจเอื้อมถึง เขาเคยปรามาสนางว่าเป็นเพียงแค่ขยะไร้ประโยชน์ ทั้งที่ความจริงนางคืออัจฉริยะ จะมีสักกี่คนบนมหาพิภพทงเทียนเหอ ที่สามารถบรรลุระดับหยวนอิงตั้งแต่อายุสิบห้า!… เขาและมารดาทำลายวาสนาอันยิ่งใหญ่ที่สมควรเป็นของตนลงกับมือ! ช่างน่าแค้นใจนัก… แต่หากว่าเขาทวงสิทธิ์ความเป็นบิดาของนาง กลับคืนมาต่อหน้าธารกำนัลในเวลานี้ ไม่แน่ว่าครั้งนี้อาจได้ผล! ด้วยเพราะฮ่องเต้ทรง ให้ความสำคัญเรื่องความกตัญญู ต่อบุพการีและผู้มีพระคุณเป็นอย่างยิ่ง หวังเหลียงหยัดกายลุกขึ้นก้าวออกมาที่ขอบกั้นอัฒจันทร์ กำลังจะอ้าปากเปล่งเสียงเรียกชื่อบุตรี ทว่ากลับถูกพลังลึกลับอันแข็งแกร่ง กระแทกเข้าที่ลำคอจนจุกแน่นก่อนกระอักเลือดออกมา ครั้นเหลือบมองขึ้นไปด้านบน สายตาพลันประสบเข้ากับดวงตาสีเขียวมรกต ทรงอำนาจดุดันของพยัคฆ์อนธการ พร้อมถ้อยคำส่งผ่านพลังปราณดังกึกก้องในโสตประสาท “หากไม่อยากสลายเป็นจุณ ก็เลิกคิดตอแยกับรวี่เยว่ซะ เพราะข้าหาใช่ผู้มีจิตใจเมตตา จำใส่กระโหลกหนาๆ ของเจ้าเอาไว้ให้ดี!” 
 ร่างอรช

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status