ตอนที่ 8
การกลับมาของใครบางคน
ปิดเทอมแล้วข้าวทิพย์จึงไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย เธออยู่ดูแลและคอยเป็นเพื่อนอเนกจนตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้น เพราะได้กำลังใจดี
“อีกกี่เดือน ปู่จะได้เห็นหน้าหลานล่ะ”
“อีกสี่เดือนค่ะ คุณปู่คงเดินคล่องทันแน่ ๆ”
หลานคนแรกเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดสำหรับคนป่วย เขาเคยหมดหวังตั้งแต่แม่ของครามจากไปแล้วก็มาหมดกำลังใจกับทุกสิ่งทุกอย่างอีกทีเมื่อบริษัทเริ่มแย่ลง พนักงานเริ่มพากันลาออกจนในที่สุดความเครียดก็ทำให้คนที่เคยเข้มแข็งอย่างอเนกต้องกลายเป็นแบบนี้
เรื่องราวกำลังมีความสุขอยู่ดี ๆ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว แพรรำภากลับมาจากใต้ และเริ่มเข้ามาในชีวิตของคราม
“ครามคะ วันนี้คุณไปกินข้าวกับแพรนะ แพรคิดถึงคุณจะแย่ เราไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานเท่าไหร่แล้วคะ” หญิงสาวที่เคยสวยสง่าเธอกลับมาคราวนี้ด้วยใบหน้าที่มีรอยช้ำ ถึงแม้จะพยายามใช้เครื่องสำอางปกปิดแต่ก็ยังมองเห็นร่องรอย
“นานเท่ากับที่คุณมีผัว ผมก็ไม่ได้นับเสียด้วยว่านานเท่าไหร่แล้ว” คำตอบของชายหนุ่มเหมือนมีดกรีดลงไปกลางหัวใจของหญิงสาวที่เคยเป็นที่หนึ่งในหัวใจเขา
“คุณยังโกรธแพรอยู่เหรอคะ แพรก็แค่หลงผิดไป แต่ตอนนี้แพรรู้แล้วว่า ไม่มีใครรักแพรเท่าครามอีกแล้ว เรากลับมารักกันเหมือนเดิมนะคะ” หญิงสาวนั่งลงบนตักชายหนุ่ม สองมือกอดคอ ปากเล็กจูบลงที่แก้มของชายหนุ่มอย่างคุ้นเคย
“แล้วผัวคุณไปไหนเสียล่ะ ถึงได้คิดจะกลับมากินของเก่า”
ครามใช้ภาษาที่เขาไม่เคยใช้กับใคร และไม่คิดว่าตัวเองจะพูดแบบนี้ได้ด้วย เป็นคำพูดที่ดูถ่อยมากในความคิดของเขา และเขาก็ตั้งใจที่จะใช้กับแพรรำภาด้วยความสะใจ
“เลิกกันไปแล้วค่ะ พอแพรไปอยู่ที่นู่น ไม่มีวันไหนที่แพรไม่คิดถึงคุณเลย แพรถึงได้ทำตามหัวใจกลับมาครามไงคะ”
ชายหนุ่มไม่ได้เคลิ้มหรือลงเชื่อคำพูดของอดีตคนรัก แต่ตอนนี้เขากำลังคิดที่จะหาทางแก้แค้นเอาคืนกับสิ่งที่หญิงสาวทำไว้กับเขา
“ผมไม่มีเงินนะ ตอนนี้ธุรกิจก็เพิ่งฟื้น กำไรที่ได้ทั้งหมดก็เอาไปใช้หนี้หมดแล้ว คนอย่างคุณจะกลับมาหาผู้ชายจน ๆ อย่างผมแน่เหรอ”
“ครามคุณก็มองแพรแต่ในแง่ร้าย แพรรักคุณจริง ๆ นะ”
ครามเอาเวลาส่วนใหญ่ไปสนใจกับการหาทางเอาคืนอดีตคนรัก จนลืมไปว่า ตอนนี้เขากำลังมีครอบครัวแล้ว
ตอนแรกข้าวทิพย์ก็คิดว่าการที่สามีของเธอกลับบ้านดึกขึ้น เล่นโทรศัพท์บ่อยเพราะเรื่องงาน แต่ในที่สุด แพรรำภาก็มาช่วยเฉลยทุกอย่างให้หญิงสาวเข้าใจ
“สวัสดีจะข้าวทิพย์ ไม่เห็นครามเล่าให้ฟังเลยว่าเธอกำลังท้อง ยินดีด้วยนะจ๊ะ ว่าแต่ ฉันอยากเห็นหน้าพ่อของลูกจัง”
ทันทีที่แพรรำภาเหยียบเข้ามาในบ้านของคราม เขาเจอข้าวทิพย์กำลังนั่งเล่นอยู่ที่หน้าบ้าน จึงทักทายตามประสาคนเคยรู้จัก
“คุณแพรกลับจากใต้นานแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถามเพราะเธอกำลังจะเชื่อมโยงไปถึงความผิดปกติของสามีที่เกิดขึ้นมาเกือบเดือน
“กลับมาเกือบเดือนแล้ว แต่ครามสิไม่ยอมให้มาที่นี่ เอาแต่พาไปกินข้าวตอนเย็น สงสัยจะกลัวคุณพ่อจะยังไม่หายโกรธ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไปหาคุณพ่อก่อนนะ”
ข้าวทิพย์มองตามหลังแพรรำภาที่กำลังเดินเข้าบ้านไป หญิงสาวรู้สึกเหมือนจะเป็นลม เธอค่อย ๆ พยายามเอาตัวเองลงไปนั่งบนเก้าอี้ เพราะท้องที่ใหญ่ใกล้คลอดเต็มที่ ทำให้เธอทำอะไรไม่ค่อยถนัด
ข้าวทิพย์คิดย้อนกลับไป เกือบเดือนที่สามีของเธอกลับบ้านดึกเกือบทุกคืน ปล่อยให้เธอกับพ่อของเขาต้องกินข้าวเย็นกันสองคน พอกลับมาถึงก็เอาแต่เล่นโทรศัพท์ ที่ผ่านมาเธอคิดมาตลอดว่าเขากำลังยุ่งกับเรื่องงาน เพื่อทุกคนในครอบครัว แต่ความจริงแล้ว เขาหลอกเธอ เขากำลังจะกลับไปหาคนรักเก่า ทั้งที่เธอจะคลอดลูกเพียงไม่กี่วัน
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ” แพรรำภายกมือไหว้บิดาของอดีตคนรัก และพาตัวเองเดินไปนั่งที่โซฟากลางห้องรับแขก ตรงข้ามกับอเนก
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ และไม่เอาสามีนายหัวมาด้วยเหรอ”
“แพรมาคนเดียวค่ะ เราเลิกกันแล้ว ความจริงแพรกลับมาได้เกือบเดือนแล้วแต่ไม่ได้มาที่นี่ เพราะครามสิคะ พาไปนู่นไปนี่ทุกวันเลย วันนี้ แพรก็เลยแอบมาหาคุณพ่อ เพราะคิดถึงอยากมาเยี่ยมคุณพ่อค่ะ”
อเนกเข้าใจได้ทันทีว่า ลูกชายตัวแสบของเขาคงยังไม่ได้บอกอดีตคนรักว่าเขามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วแน่ ๆ
“ครามเขาคงอยากหาเพื่อนเที่ยว เพราะตอนนี้ภรรยาของเขาท้องใกล้คลอดแล้ว พ่อก็เป็นห่วงหลาน ไม่ยอมให้ครามเขาพาเมียไปไหน เขาคงดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่าอย่างหนูแพร”
ประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่า ทำให้อเนกเรียบเรียงคำพูดได้เข้าใจง่ายและทำร้ายหัวใจคนฟังได้อย่างไม่มีชิ้นดี
“คุณพ่อหมายความว่า...” แพรรำภาลากเสียงและชี้ไปที่หน้าบ้านที่เขาเจอข้าวทิพย์นั่งอยู่
“ใช่ ข้าวทิพย์เขาเป็นภรรยาคราม เดือนหน้าก็จะคลอดแล้ว ลูกชายพ่อนี่แย่จริง ๆ ไม่ยอมบอกเพื่อนรักอย่างหนูแพรเลย”
แพรรำภาเปลี่ยนสีหน้าทันที เธอสูดหายใจเข้ายาว ๆ เพื่อเรียกสติ เมื่อรู้ตัวว่ากำลังถูกหลอกด่า และกำลังโดนอดีตคนรักหลอก
“แพรไม่คิดเลยนะคะ ว่าครามเขาจะเสียใจที่ต้องเลิกกับแพร จนไม่เลือกเลย ไปเอาคนใช้มาเป็นเมีย”
“ใครบอกล่ะ ตั้งแต่ที่หนูแพรทิ้งเจ้าครามไป ลูกชายของพ่อก็ฉลาดขึ้น รู้ว่าเพชรกับกรวดมันต่างกันอย่างไร พ่อยังว่าจะขอบใจหนูแพรอยู่เลย ที่ทำให้ลูกชายพ่อตาสว่าง”
หญิงสาวกำมือแน่น อยากจะเถียงเอาชนะแต่ก็คิดคำพูดไม่ออกว่าจะพูดเถียงแบบไหน ถึงจะทำให้คนตรงหน้าเจ็บแสบเหมือนที่เธอกำลังรู้สึก
“แพรกลับก่อนนะคะ ดีใจที่เห็นคุณพ่อร่างกายดีขึ้น แต่สมองคงต้องใช้เวลา สวัสดีค่ะ” เป็นการกล่าวลาแบบรวดเร็วมาก อเนกยังไม่ทันที่จะยกมือรับไหว้ อีกฝ่ายก็เดินกระแทกเท้าออกไปจากบ้านแล้ว
ตอนที่ 9หัวใจถูกทำร้าย “วันนี้ทำไมกลับเร็วล่ะคะ” ข้าวทิพย์นั่งรอสามีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย “ทำไมยังไม่นอน มานั่งคนเดียวทำไมแบบนี้ ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนะ” ครามเดินเข้ามานั่งใกล้ภรรยาและโน้มตัวลงมาจะหอมแก้ม แต่ข้าวทิพย์กลับลุกขึ้นทันที “วันนี้คุณแพรรำภามาที่นี่ เธอบอกว่า หาเวลามาเยี่ยมคุณท่านไม่ได้เลย เพราะคุณมัวแต่พาเธอไปกินอาหารข้างนอกทุกเย็นจนมืด” ครามยืนตัวแข็งพูดอะไรไม่ออก วันนี้เธอกับแพรรำภาก็คุยกันเกือบทั้งวัน ไม่เห็นเธอบอกเขาเรื่องที่มาที่บ้านนี้เลย “ทิพย์คงไม่ต้องถามคุณต่อว่า ที่คุณต้องกลับบ้า
ตอนที่10หลานสาว กว่าคุณอเนกจะมาถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลาอยู่นานมาก เพราะต้องรอรถจากบริษัทมารับเมื่อมาถึงโรงพยาบาล คุณปู่ก็ได้รับข่าวดีข่าวแรก “คุณท่านค่ะ คุณข้าวทิพย์คลอดแล้ว เธอได้ลูกสาวค่ะ” หลานสาวคลอดแล้ว และปลอดภัยทั้งแม่และลูก “อย่าเพิ่งบอกเรื่องครามกับข้าวทิพย์นะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนบอกเอง” อเนกหันไปบอกกับเลขาฯ ท่านให้เธอไปดูแลข้าวทิพย์ ส่วนเขาคงต้องนั่งเฝ้าลูกชายอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้เพียงแต่ว่า ลูกชายของท่านมาถึงโรงพยาบาลแบบหมดสติ ข้าวทิพย์ใช้เวลาพักฟื้นในห้องคลอดอยู่สักพัก ก่อนจะพาขึ้นมาอยู่ที่ห้องพัก โดยมีเลขาฯ ของครามคอยดูแลอยู่&nbs
ตอนที่11สาวน้อยผู้เป็นของขวัญ อเนกตั้งชื่อจริงให้หลานสาว ที่เขาตั้งใจให้มีอักษร อ เหมือนชื่อของเขา “ไอริน”“สาวน้อยของปู่มาแล้ว ไอริน หลานรักของปู่” คุณปู่มือใหม่ไม่กล้าอุ้มหลาน เพราะตัวเขาเองยังไม่ได้หายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ กลัวจะทำหนูน้อยหลุดมือสาวน้อยตัวแดง คิ้วเข้มได้พ่อ ลืมตามองผู้เป็นแม่ ข้าวทิพย์เห็นหน้าลูกแล้วยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ เด็กน้อยในวันที่เกิดมา พ่อก็เกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เจอกัน และได้เห็นหน้ากันพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งว่า จะสอนหญิงสาวให้รู้จักการเอาลูกเข้าเต้าเพื่อดื่มนมจากแม่ “เดี๋ยวฉันไปดูครามก่อนนะ” อเนกขอตัว น้ำนมของหญิงสาวไหลดี และสาวน้อยไอรินก็ให้ความร่วมมือในการดูดนมแม่ เธอมองลูกน้อยด้วยความอิ่มเอมใจ
ตอนที่ 12ข่าวดี ข้าวทิพย์เดินมานั่งข้างเตียงของสามี เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจับมือเขาเพื่อส่งผ่านทุกข้อความภายในหัวใจจากมือของเธอไปยังมือของเขาที่กุมกันไว้แน่น “อุ๊ย!” ข้าวทิพย์อุทานด้วยความตกใจ เธอก้มมองไปที่มือของสามีที่เธอกำลังกุมไว้ นิ้วของเขากำลังขยับ “พยาบาลคะ คนป่วยขยับนิ้วได้แล้วค่ะ” ข้าวทิพย์หันไปบอกพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าสามี พยาบาลจึงรีบตามคุณหมอให้มาดู ครามค่อย ๆ ขยับแขน และพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามอง เธอยืนมองสามีด้วยความดีใจอย่างสุดหัวใจ หมอสั่งให้พยาบาลปิดไปทุกดวง ปิดม่าน เพื่อให้มีแสงในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนป่วยหลับไปถึงสี่วัน สายตาน่าจะยังไม่ชินกับแสง“อย่าเพิ่งลืมตานะครับ ค่อย ๆ หรี่ตา คุณหลับมาหลายวัน อาจจะไม่ชินกับแสง” หมอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการตรวจร่างกายของครามว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม หลังจากที่เขาฟื้นแล้วทุกอย่างก็เป็นที่น่าดีใจ เข้าสู่สภาวะปกติ เหลือแค่เพียงขาและนิ้วที่หักเท่านั้น “ทิพย์ลูกล่ะ ลูกของเรา” ครามถามทันทีที่คุณหมออกจากห้องและทิ้งให้เขาอยู่กับภรรยาสองคน “ลูก
ตอนที่ 1ล้มเหลว ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่ อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้ “ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ” รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ “แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แ
ตอนที่ 1แทบละลายเพราะสายตาบอส “พนักงานคนใหม่ชื่ออะไร” ภูเบศลูกชายท่านประธานบริษัทถามถึงหญิงสาวที่เขาเพิ่งเจอตอนที่มาถึงที่ทำงานในตอนเช้ากับหัวหน้าฝ่ายบัญชีด้วยอาการแสดงออกถึงความสนใจเป็นพิเศษ “คนไหนคะ” ยุพาถามตามซื่อเพราะเดือนนี้ที่แผนกของเธอมีพนักงานใหม่ถึงสองคน “ก็คนนั้น เอ่อ...คนที่ตัวเล็ก ๆ อวบหน่อยๆ” คนถามทำสีหน้าหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าไม่อยากเจาะจงชัดเจนว่าคนที่เขากำลังถามถึงมีลักษณะอย่างไร “ล้านนา ยุพาว่าคนที่คุณภูเบศหมายถึงน่าจะเป็นล้านนาค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ลูกน้องสาวถามออกไปเพราะกลัวว่าพนักงงานใหม่จะทำอะไรให้เจ้านายเธอไม่พอใจหรือเปล่าแต่เมื่อมองสบตาคนตรงหน้า ยุพาก็รีบพาตัวเองออกจากห้องท่านรองประธานทันที “ไม่รู้ใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องกันแน่” ภูเบศบ่นพึมพำมือเท้าเอวส่ายหัวไปมาในความช่างซักไซ้ของลูกน้องคนสนิท ภาพของหญิงสาวในชุดพนักงานของบริษัทที่ดูเข้ารูปทำให้เห็นหุ่นอันอวบอิ่มได้อย่างชัดเจนยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเจ้านายหนุ่มที่สุดแสนจะเจ้าชู้เป็นตัวพ่อของสังคมนักธุรกิ
ตอนที่ 2เธอทำให้ฉันรู้สึกสำคัญ ความใกล้ชิดระหว่างเจ้านายกับลูกน้องเริ่มมีมากขึ้นถึงแม้ว่าต่อหน้าคนอื่น ๆ ภูเบศจะไม่ได้แสดงอะไรออกมาเกินกว่าที่ควรจะเป็น “ฉันซื้อขนมมาฝากอยู่ตรงเครื่องถ่ายเอกสารนะ” ชายหนุ่มพูดลอย ๆ เมื่อล้านนาเดินสวนกับเขาตรงหน้าห้องของแผนกด้วยท่าทางเหมือนว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้พูดกับเธอ ขนม ข้าวหรือแม้แต่กาแฟเขาก็หมั่นซื้อมาฝากลูกน้องคนนี้มาโดยตลอด ล้านนาเองเธอเริ่มรู้สึกกับภูเบศมากเกินกว่าเจ้านายเพราะลึก ๆ หญิงสาวก็แอบคิดว่าเจ้านายของเธอดูแลห่วงใยเธอมากกว่าพนักงานคนอื่น ๆ “ล้านนาแกคิดเข้าข้างตัวเองมากไป ผู้หญิงจน ๆ ไม่สวยอย่างแกใครเขาจะมาสนใจ” สาวน้อยในวัยเป็นสาวบานสะพรั่งพูดกับกล่องขนมในมือของเธอเพื่อเตือนตัวเองไม่ให้คิดไปไกลกว่านี้ “ทุกคนคะพรุ่งนี้ท่านรองประธานจะพาพวกเราไปเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกเราทำงานล่วงเวลากันมาหลายวัน มีใครไปไม่ได้ไหมเพราะอาจจะกลับดึกหน่อย” ยุพาเดินออกมาจากห้องของเจ้านาย เธอก็มีข่าวดีมาแจ้งให้ลูกน้องทุกคนในแผนกได้รู้ “หนูไม่ไปนะคะพี่ยุพา ลูกชายไม่ค่อย
ตอนที่ 3บอสขา...ใจเย็น “เธอตรวจบัญชีของเดือนที่แล้วและทำของเดือนนี้ด้วยให้เสร็จภายในวันนี้ พรุ่งนี้พี่ต้องเอาเสนอแผนกการเงิน ส่วนนี่เงินค่าจ้างเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นนะ” ยุพาส่งธนบัตรใบสีเทาให้ลูกน้องใหม่ของเธอเพื่อเป็นค่าจ้างที่เธอให้ล้านนาช่วยทำบัญชีให้ “ขอบคุณมากค่ะ ถ้ามีงานอะไรหรือใครจะจ้างหนูทำงานอื่นพี่ยุพาบอกได้เลยนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ด้วยความดีใจนาทีนี้อะไรที่ทำแล้วได้เงิน ล้านนาพร้อมจะทำหมดเพราะบ้านของเธอกำลังจะพังต้องใช้เงินซ่อมยังโชคดีที่พ่อของเธอพอมีความรู้เรื่องช่างจึงทำเองได้แต่ยังหาเงินซื้ออุปกรณ์ซึ่งตอนนี้เธอไม่มีเงินเก็บเลยจึงต้องพยายามหารายได้พิเศษ “พี่จะพยายามหาให้แต่งานที่พี่ให้ทำห้ามคนอื่นรู้เด็ดขาดเพราะโทษของการเปิดเผยบัญชีเงินเดือนพนักงานคือไล่ออกสถานเดียว” วันนี้ภูเบศไม่เข้าบริษัทเพราะมีประชุมข้างนอก บริษัทในช่วงหลังเลิกงานจึงเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่ล้านนาจะทำบัญชีให้หัวหน้าเพราะไม่ต้องกลัวใครเห็น งานบัญชีไม่ใช่เรื่องยากสำหรับล้านนาถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้จบทางนี้มาโดยตรงแต่ก็เคยเรียนมาบ้างและก็ได้ผลการเ
ตอนที่ 1ล้มเหลว ภูษิตลูกชายเพียงคนเดียงของอดุลย์เขาขึ้นมาบริหารโรงแรมก่อนเวลาที่สมควรเพราะอดุลย์พ่อของเขามีอาการความดันโลหิตสูงอยู่บ่อย ๆ จนกลัวว่าจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก คนเป็นพ่อมองว่าลูกชายของเขาอยู่ในวัยที่สามารถดูแล ทุกอย่างแทนเขาได้แล้ว เพราะภูษิตเองก็เป็นรองประธานอยู่ อดุลย์คิดผิดเพราะเขาไม่เคยรู้ความเป็นจริงเลยว่า จริง ๆ แล้วรัชพลเพื่อนของลูกชายที่ทำหน้าที่เป็นเลขาทำทุกอย่างแทนหมด ส่วนภูษิตเอง วัน ๆ ก็เอาแต่ทำตัวโก้ไปวัน ๆ ไม่เรื่องผู้หญิง ก็เที่ยวเตร่เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาบริหารเองทั้งหมดเร็วแบบนี้ “ตอนนี้โรงแรมเราลูกค้าเข้าน้อยลงกว่าเก่าเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นายไม่คิดจะจัดการอะไรหน่อยเหรอ” รัชพลที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นเลขากรรมการประธานบริหารโรงแรม และคนเก่าที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาประธานแทนถามเพื่อนชายที่เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ “แค่ 2 เอง ช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยมาเชียงใหม่ ก็ได้ หรือถ้านายคิดว่าทำอะไรแล้วมันจะช่วยได้ก็จัดเลย ลดราคาหรืออยู่หนึ่งคืนแถมฟรีหนึ่งคืน แ
ตอนที่ 12ข่าวดี ข้าวทิพย์เดินมานั่งข้างเตียงของสามี เขายังคงนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจับมือเขาเพื่อส่งผ่านทุกข้อความภายในหัวใจจากมือของเธอไปยังมือของเขาที่กุมกันไว้แน่น “อุ๊ย!” ข้าวทิพย์อุทานด้วยความตกใจ เธอก้มมองไปที่มือของสามีที่เธอกำลังกุมไว้ นิ้วของเขากำลังขยับ “พยาบาลคะ คนป่วยขยับนิ้วได้แล้วค่ะ” ข้าวทิพย์หันไปบอกพยาบาลพิเศษที่จ้างมาเฝ้าสามี พยาบาลจึงรีบตามคุณหมอให้มาดู ครามค่อย ๆ ขยับแขน และพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามอง เธอยืนมองสามีด้วยความดีใจอย่างสุดหัวใจ หมอสั่งให้พยาบาลปิดไปทุกดวง ปิดม่าน เพื่อให้มีแสงในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนป่วยหลับไปถึงสี่วัน สายตาน่าจะยังไม่ชินกับแสง“อย่าเพิ่งลืมตานะครับ ค่อย ๆ หรี่ตา คุณหลับมาหลายวัน อาจจะไม่ชินกับแสง” หมอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการตรวจร่างกายของครามว่ามีสิ่งใดผิดปกติไหม หลังจากที่เขาฟื้นแล้วทุกอย่างก็เป็นที่น่าดีใจ เข้าสู่สภาวะปกติ เหลือแค่เพียงขาและนิ้วที่หักเท่านั้น “ทิพย์ลูกล่ะ ลูกของเรา” ครามถามทันทีที่คุณหมออกจากห้องและทิ้งให้เขาอยู่กับภรรยาสองคน “ลูก
ตอนที่11สาวน้อยผู้เป็นของขวัญ อเนกตั้งชื่อจริงให้หลานสาว ที่เขาตั้งใจให้มีอักษร อ เหมือนชื่อของเขา “ไอริน”“สาวน้อยของปู่มาแล้ว ไอริน หลานรักของปู่” คุณปู่มือใหม่ไม่กล้าอุ้มหลาน เพราะตัวเขาเองยังไม่ได้หายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ กลัวจะทำหนูน้อยหลุดมือสาวน้อยตัวแดง คิ้วเข้มได้พ่อ ลืมตามองผู้เป็นแม่ ข้าวทิพย์เห็นหน้าลูกแล้วยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ เด็กน้อยในวันที่เกิดมา พ่อก็เกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เจอกัน และได้เห็นหน้ากันพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งว่า จะสอนหญิงสาวให้รู้จักการเอาลูกเข้าเต้าเพื่อดื่มนมจากแม่ “เดี๋ยวฉันไปดูครามก่อนนะ” อเนกขอตัว น้ำนมของหญิงสาวไหลดี และสาวน้อยไอรินก็ให้ความร่วมมือในการดูดนมแม่ เธอมองลูกน้อยด้วยความอิ่มเอมใจ
ตอนที่10หลานสาว กว่าคุณอเนกจะมาถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลาอยู่นานมาก เพราะต้องรอรถจากบริษัทมารับเมื่อมาถึงโรงพยาบาล คุณปู่ก็ได้รับข่าวดีข่าวแรก “คุณท่านค่ะ คุณข้าวทิพย์คลอดแล้ว เธอได้ลูกสาวค่ะ” หลานสาวคลอดแล้ว และปลอดภัยทั้งแม่และลูก “อย่าเพิ่งบอกเรื่องครามกับข้าวทิพย์นะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนบอกเอง” อเนกหันไปบอกกับเลขาฯ ท่านให้เธอไปดูแลข้าวทิพย์ ส่วนเขาคงต้องนั่งเฝ้าลูกชายอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้เพียงแต่ว่า ลูกชายของท่านมาถึงโรงพยาบาลแบบหมดสติ ข้าวทิพย์ใช้เวลาพักฟื้นในห้องคลอดอยู่สักพัก ก่อนจะพาขึ้นมาอยู่ที่ห้องพัก โดยมีเลขาฯ ของครามคอยดูแลอยู่&nbs
ตอนที่ 9หัวใจถูกทำร้าย “วันนี้ทำไมกลับเร็วล่ะคะ” ข้าวทิพย์นั่งรอสามีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย “ทำไมยังไม่นอน มานั่งคนเดียวทำไมแบบนี้ ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนะ” ครามเดินเข้ามานั่งใกล้ภรรยาและโน้มตัวลงมาจะหอมแก้ม แต่ข้าวทิพย์กลับลุกขึ้นทันที “วันนี้คุณแพรรำภามาที่นี่ เธอบอกว่า หาเวลามาเยี่ยมคุณท่านไม่ได้เลย เพราะคุณมัวแต่พาเธอไปกินอาหารข้างนอกทุกเย็นจนมืด” ครามยืนตัวแข็งพูดอะไรไม่ออก วันนี้เธอกับแพรรำภาก็คุยกันเกือบทั้งวัน ไม่เห็นเธอบอกเขาเรื่องที่มาที่บ้านนี้เลย “ทิพย์คงไม่ต้องถามคุณต่อว่า ที่คุณต้องกลับบ้า
ตอนที่ 8การกลับมาของใครบางคน ปิดเทอมแล้วข้าวทิพย์จึงไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย เธออยู่ดูแลและคอยเป็นเพื่อนอเนกจนตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้น เพราะได้กำลังใจดี “อีกกี่เดือน ปู่จะได้เห็นหน้าหลานล่ะ” “อีกสี่เดือนค่ะ คุณปู่คงเดินคล่องทันแน่ ๆ” หลานคนแรกเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดสำหรับคนป่วย เขาเคยหมดหวังตั้งแต่แม่ของครามจากไปแล้วก็มาหมดกำลังใจกับทุกสิ่งทุกอย่างอีกทีเมื่อบริษัทเริ่มแย่ลง พนักงานเริ่มพากันลาออกจนในที่สุดความเครียดก็ทำให้คนที่เคยเข้มแข็งอย่างอเนกต้องกลายเป็นแบบนี้เรื่องราวกำลังมีความสุขอยู่ดี ๆ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว แพรรำภากลับมาจากใต้ และเริ่มเข้ามาในชีวิตของคราม&n
ตอนที่ 7คำสั่งบิดา “ครามปิดประตู แล้วมาคุยกับพ่อหน่อย” อเนกมีเรื่องที่อยากจะคุยกับลูกชายเป็นการส่วนตัว จึงสั่งให้ปิดประตูเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน “ลูกจะเอาอย่างไรกับข้าวทิพย์ และเด็กในท้อง” “ผมจะพาเธอไปฝากท้องพรุ่งนี้ครับพ่อ ผมรู้ว่าเด็กในท้องคือลูกของผมแน่นอน และผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่พอรู้ว่ากำลังจะมีลูก ผมก็ทั้งรักทั้งห่วงลูกผม” “แล้วแม่ของลูกล่ะ” อเนกถามกลับทันที เพราะลูกชายของเขาไม่ได้พูดถึงข้าวทิพย์เลย “ผมไม่รู้ครับพ่อ มันสับสนไปหมด” “ลูกจะสับสนอะไรพ่อไม่รู้ แต่ที่พ่อรู้คือ ลูกถึงเวลาต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะลูกผู้ชาย ข้าวทิพย์เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเดินไปหาลูกที่ห้อง ลูกด้วยซ้ำที่ขืนใจเธอ ความจริง ครามไม่ควรจะให้พ่อต้องมาย้ำแบบนี้ ลูกควรจะรู้ดีว่าทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง หวังว่าลูกจะคิดได้ว่านอกจากดูแลลูกในท้องของข้าวทิพย์ ลูกควรทำอะไรต่อไปกับข้าวทิพย์ด้วย” อเนกไม่อยากบอกลูกชายตรง ๆ เพราะเขาคิดว่าครามโตพอที่รู้ผิดรู้ชอบได้ด้วยตัวเอง ถ้าลูกเขาคิดไม่ได้ เขาคงต้องทำใจว่าเขาเลี้ยงลูกให้เป็นคนไร้ความรับผิดชอบ
ตอนที่ 6พยายามง้อ ครามกลับมาที่โรงพยาบาล เพื่อมาเฝ้าและดูแลข้าวทิพย์ หญิงสาวถูกพามานอนพักที่ห้องรวม ครามจึงต้องนอนเฝ้าอยู่ใต้เตียง เพราะไม่มีที่นอนให้สำหรับคนเฝ้า “คุณคราม คุณครามคะ” ข้าวทิพย์ตื่นขึ้นมาเห็นว่า ชายหนุ่มนอนหลับอยู่ใต้เตียงเธอ ด้วยสภาพที่น่าสงสาร เขามีเพียงแค่เสื้อคลุมแทนผ้าห่ม และท่านอนทับแขนตัวเองอยู่ เมื่อรู้สึกตัว เพราะได้ยินเสียงหญิงสาวเรียก ครามก็รีบลุกขึ้นมาหาคนบนเตียงทันที“ทิพย์จะเอาอะไร หิวน้ำเหรอ” “คุณกลับบ้านไปเถอะค่ะ เช้าแล้ว เดี๋ยวหมอก็มา เลือดหยุดไหลแล้ว วันนี้ก็คงได้กลับบ้าน คุณไม่ต้องมาลำบากนอนแบบนี้หรอก” “ทิพย์ ผมขอโทษ” ครามไม่รู้จะแก้ตัวด้วยคำไหน คงไม่มีคำใดดีเท่ากับคำว่าขอโทษที่ออกจากหัวใจ “เรื่องอะไรคะ ถ้าหมายถึงที่ คุณถามว่าฉันท้องกับใคร คุณถามถูกแล้วค่ะ เพราะการที่ฉันยอมให้คุณข่มเหงแบบนั้น มันแสดงว่าฉันเป็นคนใจง่าย ก็ไม่แปลกที่คุณจะคิดว่า ฉันก็คงง่ายกับคนอื่นด้วยเหมือนกัน” ข้าวทิพย์พูดจบ ยังไม่ทันที่ครามจะได้ตอบอะไรคุณหมอกับพยาบาลก็เดินมาที่เตียงเพื่อดูอาการทันที คุณหมอตรวจเช
ตอนที่ 5กำลังใจที่ไม่แสดง ครามเดินไปเดินมาอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความกระวนกระวายใจ เพราะเขารู้ตัวว่าเขาเป็นคนทำให้ข้าวทิพย์ต้องเป็นแบบนี้ “คุณเป็นสามีของคนไข้ใช่ไหมคะ” พยาบาลเดินออกจากห้องฉุกเฉินมาถามครามทันที เขาเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินนี่นานแล้ว “เอ่อ... ใช่ครับ” ชายหนุ่มลังเล แต่ในเวลานี้เขาคิดว่ามันต้องมีอะไรไม่ดีแน่ ๆ นางพยาบาลถึงได้ออกมาถามแบบนี้ “เชิญพบคุณหมอด้านในเลยค่ะ” ครามรีบเดินตามนางพยาบาลเข้าไป คุณหมอสีหน้าเครียด “ตอนนี้คนไข้ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 12 สัปดาห์ โชคยังดีนะครับที่เด็กไม่เป็นอะไร แต่คืนนี้ หมอคงต้องให้คนไข้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที” ครามเขารู้สึกชาไปทั้งตัว ‘ข้าวทิพย์ท้องหรือนี่’ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเขาต้องดีใจหรือรู้สึกอะไรไหม เขาทำอะไรไม่ถูกเลยแต่ด้วยเวลานี้ เธอมีเขาเพียงคนเดียว ชายหนุ่มจึงเดินไปหาเธอที่เตียง “เป็นอย่างไรบ้าง” ชายหนุ่มเอ่ยถามโดยที่ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา “ปวดท้องค่ะ แต่ค่อย ๆ ดีขึ้นแล้ว” “ข้าวทิพย์... เธอท้องกับใคร” ครามไม่