บททั้งหมดของ ฤาจันทราเร้นรัก: บทที่ 11 - บทที่ 20

55

5.คนขี้ขลาด (2)

“ใต้เท้าหลิว”ชายหนุ่มกับมองผู้เข้ามาหาด้วยสีเข้มขรึม ขณะสหายที่มาด้วยกันแปลกใจ หากเมื่อนางกำนัลเอ่ยต่อเขาก็ขอตัว“เอ่อ ข้ามีเรื่องขอพูดกับใต้เท้าตามลำพังได้หรือไม่เจ้าคะ”“ข้าขอตัวก่อนก็แล้วกัน”อีกฝ่ายจากไปโดยง่าย เพราะหลิวซูหยวนเป็นที่สนใจของสตรีทั้งในวังและบรรดาบุตรสาวขุนนางหรือแม้แต่ท่านหญิง หลายคนเพียงแอบเมียงทว่านางกำนัลผู้นี้ช่างกล้าหาญนักในความคิดของเขาจึงไม่อยากขัด“มีเรื่องใดหรือ”“เชิญใต้เท้าตามข้ามาทางนี้เจ้าค่ะ”หลิงเอ๋อร์ผายมือไปยังหลังต้นไม้ใหญ่ริมกำแพงอุทยานแล้วเดินนำ หลิวซูหยวนลังเลหากก็ก้าวตามด้วยความตงิดใจ กระทั่งพ้นต้นไม้มาก็เห็นร่างอรชรที่ทำเอาคิ้วเข้มขมวด ส่วนนางกำนัลสาวกลับไปดูต้นทาง“ถวายพระพรองค์หญิง”“ใต้เท้าหลิว”องค์หญิงหนิงเซียงมองผู้ที่อยู่ในหัวใจตนด้วยแววตาเต็มไปด้วยความหวัง กระนั้นก็ไม่มั่นใจนักว่าสิ่งที่นางต้องการพูดกับอีกฝ่าย ชายหนุ่มจะคิดเห็นอย่างไร“ข้า...เอ่อ...”สบตาคมเข้มนิ่งเฉยแล้วนางกลับพูดไม่ออก“องค์หญิงมีสิ่งใดรับสั่งกับกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ หากมีผู้ใดผ่านมาเห็นเข้าคงไม่เหมาะนัก”อีกฝ่ายถามเสียงเรียบ บั่นทอนกำลังใจของผู้ที่เตรียมตัวเตรียมใจมาแล
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
อ่านเพิ่มเติม

6.อยู่ต่อไปก็เหมือนตายทั้งเป็น (1)

“องค์หญิง กินอีกคำสองคำก็ยังดีนะเพคะ”หลิงเอ๋อร์พยายามคะยั้นคะยอเมื่อองค์หญิงหนิงเซียงกินอาหารไปเพียงเล็กน้อย ร่างอรชรผ่ายผอมบอบบางยิ่งกว่าเดิมจนดวงหน้างดงามซีดตอบ นางกำนัลคนสนิทที่เอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดในทุกวันเห็นแล้วก็ปวดใจนัก“เอาออกไปเถิด ข้าไม่อยากกินแล้ว”“โธ่ องค์หญิง”องค์หญิงหนิงเซียงไม่สนใจเสียงโอดของนางกำนัลคนสนิท ร่างบอบบางลุกจากโต๊ะทานอาหารกลับเข้าไปในห้องนอน หลิงเอ๋อร์จึงได้แต่พยักหน้าเรียกให้นางกำนัลอีกสองคนเข้ามาเก็บอาหารออกไปแล้วก้าวตามนายตนร่างอรชรทรุดลงนั่งตรงโต๊ะเขียนหนังสือ หลิงเอ๋อร์ก็รีบเข้ามาช่วยฝนหมึก จัดกระดาษกับพู่กันให้“ข้าอยากได้ชากุหลาบ เจ้าไปสั่งที่ห้องเครื่องให้หน่อยนะหลิงเอ๋อร์”“เพคะ”หลิงเอ๋อร์ออกไปแล้วองค์หญิงหนิงเซียงก็เริ่มเขียนอักษรลงบนกระดาษช้าๆ มือที่จับพู่กันมั่นคง แม้กายจะสั่นด้วยแรงสะอื้นเบาๆ ทว่าเมื่อน้ำตาเริ่มรื้นใกล้หยาดรินปลายนิ้วเรียวก็กรีดทิ้ง ไม่ยอมให้หยดลงบนกระดาษ ไม่นานนักหนังสือสองฉบับก็ถูกพับใส่ซอง ก่อนนางจะเขียนนามผู้ที่ต้องการส่งถึง แล้วก็เป็นเวลาเดียวกับที่หลิงเอ๋อร์เดินนำนางกำนัลอีกคนยกกากับถ้วยน้ำชาเข้ามาพร้อมขนมและรินให้นายตน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
อ่านเพิ่มเติม

6.อยู่ต่อไปก็เหมือนตายทั้งเป็น (2)

องค์หญิงหนิงเซียงนั่งรถม้าแยกกับองค์หญิงเจียวมิ่งเพื่อเวลากลับจะได้ตรงเข้าวังมาเลยเพราะดูไปแล้วน่าจะกลับเข้าเมืองค่อนข้างเย็น ไหว้พระขอพรเสร็จออกมาจากอารามก็แวะพักริมน้ำตกกินของว่าง เป็นความตั้งใจของพี่สาวที่อยากให้น้องได้ผ่อนคลายกับธรรมชาติอันสดชื่น“ทำใจให้สบายเถิดนะเซียงเอ๋อร์ อย่าได้กังวลเกินไป เสด็จพ่อทำเพื่อเจ้า องครักษ์จางเองก็เหมาะสมคู่ควร แม้เป็นองครักษ์หากก็เป็นถึงบุตรเจ้ากรมคลัง เป็นสหายสนิทของพี่รอง”องค์หญิงเจียวมิ่งสงสารน้องสาวยิ่งนัก หากก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้นอกจากให้กำลังใจ“เสด็จพ่อเองก็คงปวดพระทัย หากทรงรับรู้ว่าเจ้ากินไม่ได้นอนไม่หลับจนผ่ายผอมเช่นนี้ ดูแลตัวเองให้ดีจนถึงวันแต่งงานเถิด เจ้าสาวควรมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่งผุดผาด”ผู้เป็นน้องยิ้มบางไม่แย้งสิ่งใด นางยังทำใจไม่ได้และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำใจยอมรับการแต่งงานได้หรือไม่ได้เวลากลับองค์หญิงทั้งสองต่างก็ขึ้นรถม้าของตน องค์หญิงหนิงเซียงมีหลิงเอ๋อร์คอยดูแลอยู่ภายในรถม้าด้วย สีหน้าเจ้าตัวดูเคร่งเครียดและครุ่นคิดตลอดเวลา ทว่าองค์หญิงหนิงเซียงไม่ได้สังเกตสิ่งอื่นมากนัก ใบหน้างดงามหมองเศร้าและเหม่อลอย แม้อยู่กับพี่สาวจะทำให้ตน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
อ่านเพิ่มเติม

7.น้ำใจจากท่าน ข้าไม่ต้องการ (1)

นางหลงทาง...ผู้ที่ไม่เคยไปมาในเมืองหลวงด้วยตนเองเดินโผเผอย่างเหนื่อยล้า นับแต่หนีจากร้านผ้ามาองค์หญิงหนิงเซียงกลับก้าวไปอย่างไร้จุดหมาย หลิงเอ๋อร์กำชับว่าให้หาโรงเตี๊ยมเพื่อพักทว่านางกลับไม่รู้ว่าต้องไปทางไหน เดินไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่พบโรงเตี๊ยมและเวลาก็ใกล้จะเย็นแล้วจำเป็นต้องมีที่พักหลับนอนองค์หญิงหนิงเซียงเป็นห่วงหลิงเอ๋อร์มากกว่าตนเอง ทว่าเพราะอีกฝ่ายยอมทำทุกอย่างเพื่อตนนางจึงมุ่งมั่นที่จะหนีดรอดให้ได้‘ข้าจะทิ้งเจ้าได้อย่างไร’ขณะที่อยู่ในรถม้านางยังตัดสินใจไม่ได้ ทว่าอีกฝ่ายก็คุกเข่าอ้อนวอน‘องค์หญิงของหลิงเอ๋อร์ หลิงเอ๋อร์ไม่อยากให้ท่านทุกข์ทรมานทั้งกายใจ เห็นท่านมีคราบน้ำตาอาบแก้มในทุกวันคืน กินอาหารน้อยนิด หลิงเอ๋อร์ก็ทุกข์ทรมานไปพร้อมท่าน ยิ่งท่านทำร้ายตัวเอง หลิงเอ๋อร์ยิ่งกลัว ได้โปรด ไม่ว่าสิ่งใด ขอเพียงท่านกลับมายิ้มได้อีกครั้ง หลิงเอ๋อร์พร้อมเผชิญเพคะ’เจ้าตัวเอ่ยเจือสะอื้น ทำเอาองค์หญิงหนิงเซียงน้ำตาไหลไปด้วย ดวงตาที่เอ่อคลอด้วยน้ำตานั้นบ่งบอกว่าเจ้าตัวปวดร้าวในอกเพียงใดที่เห็นนางปราศจากความสุขทั้งกายและใจ‘ไปจากวังหลวง เพื่อพบชีวิตที่อิสระและมีความสุขอย่างแท้จริงเถิดเพคะ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
อ่านเพิ่มเติม

7.น้ำใจจากท่าน ข้าไม่ต้องการ (2)

ใจดวงน้อยสั่นไหวด้วยความไม่มั่นใจขณะนั่งอยู่ในรถม้าที่กำลังเคลื่อนมาหน้าประตูเมือง เหลือบมองผู้ที่นั่งอีกด้านในรถม้าซึ่งใบหน้านิ่งสนิทแล้วก็เม้มริมฝีปากก้มหน้าลงครุ่นคิด‘ท่านคิดจะไปที่ใด’หลังหลบทหารมายังที่หนึ่งนางสะบัดตัวจะเดินหนีอีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้น‘ข้าไม่จำเป็นต้องบอกท่าน’‘ท่านยังไม่รู้จะไปที่ใดมากกว่า’ใบหน้าเฉยชากับคำพูดกระด้างราวเย้ยหยันนั้นกวนอารมณ์นางให้ขุ่นนัก‘ไยท่านต้องมายุ่งกับข้าอีก ในเมื่อปฏิเสธข้าแล้วก็ปล่อยให้ข้าไปตามทางของข้า ไม่ต้องข้องเกี่ยวหรือใส่ใจใดๆ อีก’‘เห็นท่านกำลังพาตัวเองก้าวเข้าสู่อันตรายจะให้ข้าละเลยได้อย่างไร’ริมฝีปากอิ่มสวยขยับยิ้มหยันกับคำเอ่ยราวใส่ใจ‘ทั้งที่ท่านทำให้ข้าอับอายขายหน้า เป็นผู้หญิงไร้ยางอายไปแล้วยังบอกว่าไม่อาจละเลยอีกหรือ หึ...น้ำใจจากท่าน ข้าไม่ต้องการ’องค์หญิงหนิงเซียงเมินหน้าหนีจะเดินจากมา ทว่ากลับต้องชะงักอย่างลังเลในคำพูดของหลิวซูหยวน‘หากท่านต้องการออกนอกเมืองไปกับข้าก็ได้ อีกอย่างท่านไม่ควรอยู่ในชุดสตรี’และแล้วนางก็จำต้องให้ชายหนุ่มช่วยเหลือแม้ไม่รู้ว่าออกนอกเมืองไปแล้วจะทำอย่างไรต่อไป แต่หากยังอยู่ในนี้นางต้องถูกเจอตัวและพากล
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
อ่านเพิ่มเติม

8.ไม่อาจหวนคืน (1)

ความไม่ชินทำให้องค์หญิงหนิงเซียงไม่อาจข่มตาหลับลงได้กระทั่งใกล้รุ่งเช้า รู้สึกตัวอีกครั้งก็ลุกพรวดขึ้นนั่งแล้วมองไปโดยรอบอย่างหวาดหวั่น ความกลัวเกาะกินหัวใจนับแต่เลือกที่จะหนีมา ยอมรับว่าการได้พบหลิวซูหยวนนั้นช่วยลดทอนความวิตกกังวลได้ไม่น้อย ทว่านางยังเคืองอีกฝ่ายจึงผลักไสเขา หากมาถึงตอนนี้ที่เขายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเต็มตัวนางกลับเป็นห่วงอีกฝ่ายนางไม่อยากทำลายผู้ใดอีกแล้ว อีกอย่างนางก็ยังห่วงหลิงเอ๋อร์กับคนอื่นๆมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงเข้มจากด้านนอกองค์หญิงหนิงเซียงจึงลุกไปเปิดประตู“ข้าเองขอรับคุณหนู”เป็นเสียงของหลิวซูหยวน ชายหนุ่มคงไม่ต้องการให้ผู้ใดผิดสังเกตจึงเอ่ยกับตนเช่นนี้“กระหม่อมสั่งอาหารมาให้ท่านแล้ว หลังกินเสร็จเราต้องรีบเดินทาง ไม่นานทหารอาจตามท่านออกมานอกเมือง โรงเตี๊ยมนี้อยู่ไม่ไกลนัก”เขาบอกทันทีที่ประตูปิดลง“ท่านควรรีบกลับเข้าเมืองไม่ใช่หรือ ท่านมีงานต้องทำ หายหน้าไปอาจมีคนสงสัย”องค์หญิงหนิงเซียงเอ่ยในสิ่งที่คิด“อีกอย่าง ข้าอยากรบกวนท่าน ช่วยหาทางไปดูหลิงเอ๋อร์กับคนอื่นๆ ในตำหนักของข้าได้หรือไม่ ข้ารู้ว่าทำให้ท่านลำบากใจ แต่ข้าห่วงพวกนาง”หลิวซูหยวนถอนห
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-28
อ่านเพิ่มเติม

8.ไม่อาจหวนคืน (2)

สามวันสามคืนผ่านไปในกระท่อมกลางป่า คืนแรกนั้นองค์หญิงหนิงเซียงหวาดหวั่นกับเสียงสัตว์ในป่าจนนอนไม่หลับ ทั้งแคร่ไม้ไผ่ก็แข็งพาให้เจ็บไปทั้งแผ่นหลังและเนื้อตัวเวลานอน ทว่าในคืนต่อมาก็ค่อยๆ หลับไปได้แม้จะค่อนดึก โดยมีหลิวซูหยวนนอนด้านนอกห้องใกล้ประตูราวเฝ้าระวังภัย แต่นางก็อดเป็นห่วงชายหนุ่มไม่ได้เพราะเขาเพียงนอนกับพื้นไม้เท่านั้น ทั้งยังเสื้อคลุมตัวนอกมาให้นางห่มนอนอีกด้วย นั่นทำให้หญิงสาวรู้ว่าชายหนุ่มกลับมาเก็บพัดที่ตนปาใส่เขาในวันนั้น เพราะหล่นตอนหลิวซูหยวนถอดเสื้อออก“กลางดึกอากาศเย็นจัดนัก แล้วกระท่อมก็ชื้นเต็มไปด้วยน้ำค้าง ท่านนอนบนพื้นทุกคืนเช่นนี้หากป่วยไข้จะทำอย่างไร”องค์หญิงหนิงเซียงนั่งเท้าคางชิดริมหน้าต่าง มืออีกข้างก็ถือพัดขยับไปมา เวลานี้มันกลับมาอยู่กับนางแล้ว ขณะอีกฝ่ายกำลังต้มน้ำแกงไก่ป่าใส่เห็ดอยู่ด้านนอกในเวลาที่ฟ้ามืดแล้ว มองเห็นพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้หนา ภายในกระท่อมมีแสงจากตะเกียงเล็กพอให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน และหลิวซูหยวนก็จุดไฟไว้กองหนึ่งใกล้กับจุดที่กำลังต้มน้ำแกงเพื่อความอบอุ่นและเพิ่มความสว่าง“ข้าอยู่แดนเหนือ ออกลาดตระเวนพบเจออากาศเย็นจัดมาจนชินเสียแล้ว ท่านอ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-28
อ่านเพิ่มเติม

9.แบ่งปันไออุ่น (nc) 1

“หากท่านยังต้องการเวลา ข้าขอเพียงไออุ่นจากกายหอมละมุน ให้นอนหลับอย่างเป็นสุขใจก็เพียงพอแล้ว”ร่างอรชรถูกอุ้มมาวางบนเตียงไม้เย็นเยียบพร้อมร่างสูงใหญ่ตามมา มือหนาลูบผมและเกลี่ยไล้ส่วนที่บดบังดวงหน้าให้อย่างแผ่วเบาแม้จะเกร็งทั้งกายหากองค์หญิงหนิงเซียงไม่รู้สึกฝืนใจแต่อย่างใด ไม่ว่าต่อจากนี้หลิวซูหยวนจะพาไปพบกับสิ่งใดนางก็เต็มใจดวงหน้างามส่ายไปมาพลางแขนเรียวยกขึ้นโอบลำคอหนาพร้อมกับยิ้มหวานให้ทั้งจากริมฝีปากและดวงตา นางพร้อมแล้วทั้งกายและใจ หัวใจของนางมีเพียงหลิวซูหยวน แม้จะไม่เคยผ่านความรู้สึกลึกซึ้งมาก่อนในชีวิต หากนางก็เข้าใจถึงความรู้สึกตกหลุมรัก‘เราจะอยากเจอคนผู้นั้น หลับตาก็มองเห็นใบหน้าคนผู้นั้น แม้ไม่ได้พบเจอเนิ่นนานก็ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำไม่เลือนหาย’พี่สาวของนางเคยเอ่ยถึงความรู้สึกที่มีต่อมู่ฉางเหยียนให้นางฟังเพียงแรกพานพบก็จดจำมิลืมเลือนองค์หญิงหนิงเซียงไม่รู้ตัวว่าตนเองจดจำใบหน้าของผู้ที่ช่วยตนไว้ไม่เคยลืมกระทั่งหลิวซูหยวนปรากฏตัวขึ้นช่วยจับขโมยในวันนั้น นับแต่นั้นมา หลับตาลงนางก็ยังเห็นใบหน้าขาวคมคายกับดวงตาคู่คมกริบสะกดใจในทุกค่ำคืน“ข้าไม่รู้หรอกว่าต้องการเวลาหรือไม่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-28
อ่านเพิ่มเติม

9.แบ่งปันไออุ่น (nc) 2

หากขณะหญิงสาวยังตัวสั่นบางเบาปากอุ่นก็พรมต่ำลงกระทั่งจรดกลางร่างงดงาม ดอกไม้แสนสวยถูกลิ้มรสน้ำหวานแสนพิสุทธิ์ ริมฝีปากได้รูปจูบซับบดเบียดปลายลิ้นไล้อย่างใส่ใจส่งแรงเร้าไม่ต่างจากนิ้วแกร่งอ่อนโยนหวานซ่านทรวงหากสร้างความทรมานมากล้น ยิ่งนางชุ่มฉ่ำเท่าไรชายหนุ่มยิ่งดูดดื่มดุดัน องค์หญิงหนิงเซียงกระสับกระส่ายขยับกายไปมา สะโพกสวยไม่อาจนิ่งเฉยราวมีบางอย่างฉุดรั้งจนลอยสูง มือบางเกาะจิกไหล่กว้างอย่างลืมตัว“อื้อ”อึดใจต่อมาราวพิษร้ายกาจที่รุมเร้าพร่าผลาญจนลมหายใจหยุดชะงัก ขณะร่างทั้งกระตุกเร่า“ซูหยวน”เสียงหวานครวญพร่ามือคว้าบ่ากำยำทึ้งชุดชายหนุ่มหลุดลุ่ยโดยไม่รู้ตัว เรือนกายงดงามหอบโยนราวกำลังอยู่ในช่วงเวลายากลำบาก หากกลับกระตุ้นเลือดหนุ่มฉกรรจ์ได้ดีนัก หลิวซูหยวนหลงลืมการยับยั้งใจตนไปแล้วและเวลานี้ก็ยิ่งอยากจับมือพาให้องค์หญิงผู้สูงศักดิ์ดำเนินไปบนเส้นทางรักพร้อมกับตนร่างสาวสะคราญถูกรุกรานทั้งที่เนื้อตัวยังอ่อนระทวย ชายหนุ่มไม่เว้นช่วงเวลาให้นางได้ทันหายใจหายคอหรือมีเรี่ยวแรงกลับมา ขาเรียวสวยปวกเปียกเมื่อสองแขนกำยำสอดใต้ข้อพับเข่า ความเจ็บร้าวลึกยามถูกเบียดประชิด กายแกร่งเติมเต็มเชื่องช้าย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-28
อ่านเพิ่มเติม

10.คำรักคือคำลวง (1)

ในยามเช้าที่แสงแดดอ่อนสาดส่องดวงตาคู่งามหรี่ปรือก่อนจะเปิดขึ้น รอบกายของนางอบอุ่นด้วยมีเสื้อคลุมตัวใหญ่ของหลิวซูหยวน ทั้งพื้นไม้ด้านล่างก็ยังมีเสื้อด้านในของชายหนุ่มปูรองราวไม่ต้องการให้ความเย็นบาดผิวบาง ร่างอรชรยังเปลือยเปล่า ทว่ากลับไร้เจ้าของร่างสูงใหญ่บนเตียงไม้แล้วองค์หญิงหนิงเซียงรีบจัดแจงกับเสื้อผ้าตนเองและเก็บชุดของหลิวซูหยวนหอบแนบอก เมื่อลุกขึ้นร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปก็ทำให้ชะงักเล็กน้อย ดวงหน้าร้อนผ่าวและขึ้นสีระเรื่อเมื่อภาพยามค่ำคืนหวนเข้ามาในความคิดแต่ก็พยายามสะบัดไล่ออกไป เพราะเป็นห่วงผู้ที่ให้เสื้อคลุมสองตัวกับตนเองออกไปด้านนอกก็เห็นว่าชายหนุ่มกำลังผ่าฟืนอยู่ และมีเพียงเสื้อตัวในสีขาวบางเบาซึ่งชุ่มโชกด้วยเหงื่อก็อดหยุดยืนมองไม่ได้ ริมฝีปากอิ่มสวยระบายยิ้มด้วยความชื่นชม ภายนอกหลิวซูหยวนดูเหมือนบัณฑิตที่มีความรู้ ฉลาดเฉลียว หากเขากลับแข็งแรงคล่องแคล่วอย่างไม่น่าเชื่อ ฝีมือด้านอาวุธก็คงไม่ธรรมดาเช่นกันในเมื่อเคยเห็นชายหนุ่มจับโจรได้ด้วยพัดเพียงเล่มเดียวมาแล้ว“ท่านหิวหรือยัง”ราวหลิวซูหยวนรู้ว่านางมายืนมอง อีกฝ่ายหยุดมือแล้วหันกลับมาถาม“ข้าทำน้ำแกงปลากับเห็ดไว้ หากท่านหิ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-28
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
123456
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status