All Chapters of ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า: Chapter 51 - Chapter 60

89 Chapters

บทที่ 24 วาโยพัดโบก อาชาพุ่งทะยาน เจ้าและข้าเคียงคู่

แสงแดดสีทองส่องผ่านช่องหน้าต่างกระทบลงบนพื้นห้อง อรุณรุ่งแม้จะหนาวเย็นแต่กลับดูอบอุ่นขึ้นมาจากลำแสงเหล่านั้น กู่ซิงอีตื่นมาก็พบว่าคุณชายว่านแต่งตัวเสร็จแล้วกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นของตัวเองที่อยู่ข้างเตียง พอเห็นเขาตื่นก็รีบขยับเอนตัวเข้ามาถามเขาว่า “เรื่องขี่ม้ายังจำได้หรือไม่ว่าเมื่อคืนเจ้าบอกว่าอย่างไร” กู่ซิงอีแม้จะยังมึนงงจากความง่วงงุนอยู่บ้างแต่ก็พยักหน้ารับไปพลางลุกขึ้นมานั่ง “เมื่อครู่เหมือนข้าจะได้ยินเสียงม้าอยู่ด้านนอก” น้อยนักที่ว่านฟู่เฉิงจะดูตื่นเต้นถึงเพียงนี้ นอกจากน้ำเสียงที่กระชับขึ้นแล้วดวงตาก็เปล่งประกายร่วมด้วย กู่ซิงอีเผลอมองและจดจำท่าทางของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว ในตอนนั้นก็พูดขึ้นว่า “มาเร็วถึงเพียงนี้?” เขาขยับลุกออกจากเตียงหวังจะเดินออกไปดู แต่ระหว่างเดินไปได้สองก้าวก็ถูกว่านฟู่เฉิงเอื้อมมือมาสุดแขนเพื่อคว้าชายเสื้อเขาไว้ก่อน “ใส่เสื้อผ้าดี ๆ” ว่านฟู่เฉิงขมวดคิ้วมุ่น กู่ซิงอีพอได้ฟังก็รีบกวาดตาไปมองหาเสื้อคลุมสีฟ้าของตนเองที่อยู่ไม่ไกล ก้าวสองทีก็ดึงมาสวมไว้บนร่างแล้วจึงหายออกไปจากห้อง ไม่นานก็วิ่งกลับเข้ามาด้วยความตื่น
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more

บทที่ 24 + 25 วันสิ้นปีมีเพียงเจ้าและข้า

สายลมเย็นปะทะเข้าที่ใบหน้า ต้นไม้ข้างทางราวกับวิ่งผ่านตัวของพวกเขาไปด้วยความไว หมู่เมฆบนท้องฟ้าคล้ายเคลื่อนตัวเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากสิ่งเหล่านั้นตลอดทางก็ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของคุณชายว่านดังขึ้นไม่หยุด กู่ซิงอีที่เริ่มประคองสติได้ก็รู้สึกว่านี่ไม่ปกติแล้ว คนด้านหลังคือคุณชายว่านตัวจริงใช่หรือไม่ ทำงานมาด้วยกันหลายเดือนไม่เคยเห็นคุณชายว่านหัวเราะมากขนาดนี้มาก่อน แล้วการที่ควบคุมม้าได้เก่งขนาดนี้นี่คือครั้งแรกจริงหรือ แต่พอคิดได้ว่าคนที่เอาแต่นั่งรถเข็นและทำแต่งานอยู่แค่ในจวนกับร้านว่านมาตลอดได้มาท่องไปบนหลังม้าตามที่ใจอยากไปได้ กู่ซิงอีคล้ายเห็นตัวเองช่วยลูกนกตัวหนึ่งที่ตกมาจากรัง ฟูมฟักเลี้ยงดูจนเจ้านกน้อยสามารถโผบินได้ด้วยปีกของตนเอง หัวใจพลันอ่อนวูบลง ไม่คิดเซ้าซี้ถามให้มากความอีก เขายื่นมือข้างหนึ่งที่ไม่ได้จับมือของคุณชายว่านออกไปด้านข้าง ให้สายลมได้พัดผ่านฝ่ามือไป ความเย็นของแรงลมที่สัมผัสผ่านซอกนิ้วก็พาให้รู้สึกจั๊กจี้น้อย ๆ กู่ซิงอีเผลอยกยิ้มแผ่วเบาจนดวงตาทอประกายแสงอ่อนโยน บัดนี้ไม่รู้ตนหรือว่านฟู่เฉิงกันแน่ที่เป็นลูกนกตกจากรังแล้วถูกอีกฝ่
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more

บทที่ 25 (2.3) ใครจะไปนั่งรอเจ้ากัน

“ก็ได้ ๆ ข้าผิดเอง เป็นข้าผิดเองทั้งหมด” กู่ซิงอีหัวเราะเสียงเบาวางไหสุราลงบนตักของว่านฟู่เฉิงให้เขาถือไว้ให้ ส่วนตนเองก็ขยับตัวไปซ้อนอยู่ด้านหลังพาเขากลับเข้าไปด้านในห้องด้วยกัน “คุณชายว่านคงไม่ได้มานั่งรอข้ากระมัง” กู่ซิงอีโน้มตัวลงไปถาม “ข้าจะไปนั่งรอเจ้าทำไม” ว่านฟู่เฉิงตอบเสียงเรียบ ติดจะหงุดหงิดเล็กน้อยตามนิสัยเดิมที่เป็นมาตลอด แต่แน่นอนว่ามีเพียงเขาที่รู้ว่าในใจไม่ได้หงุดหงิดอะไร ทำเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องจริงเท่านั้น “ไม่ได้รอแล้วจะไปนั่งตากลมหนาวทำไมกัน” กู่ซิงอีพึมพำเดินกลับไปปิดประตูห้องลง ก่อนจะถอดชุดคลุมกันลมหนาวที่มีสีเดียวกันกับว่านฟู่เฉิงออกไป ชุดคลุมตัวนี้ก็เป็นว่านฟู่เฉิงมอบให้ แต่เพราะมันดูโดดเด่นเกินฐานะไปกู่ซิงอีจึงนำขนสัตว์ที่คอทิ้งไว้ที่จวนตระกูลว่านแทน “ถ้าเจ้าอยากเข้าข้างตนเองก็ตามใจเถอะ” ว่านฟู่เฉิงยังคงตีหน้าเรียบเฉย วางไหสุราและเตาอุ่นมือลงบนโต๊ะน้ำชากลางห้อง ก่อนจะถอดชุดคลุมบนตัวออกเพราะกู่ซิงอียื่นมือมารอรับอยู่ตรงหน้าแล้ว “เอ๊ะ จริงสิ ไปเรียกหลี่เซียวกับพ่อบ้านมากินเลี้ยงวันสิ้นปีด้วยกันดีกว่า” กู่ซิงอีเอ่ยขึ้นหลังจากนำชุดคลุมของทั้
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more

บทที่ 25 (3.3) ครั้งนี้ได้ร่ำสุรากับเจ้า

“นานเท่าไรแล้ว” “ตั้งแต่ข้าอายุสิบหก” เรื่องนี้หากเล่าย้อนไปเขาก็คิดถึงเหตุผลหนึ่งขึ้นมา แต่กลับไม่อยากกล่าวถึงเท่าไรนัก ในปีนั้นครอบครัวของเขายังอยู่กันพร้อมหน้า บิดา แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดา ทุกอย่างสำหรับเขาราบรื่นไร้สิ่งกวนใจ แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดล้มป่วยขึ้นมา ไม่สบายหนักจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อกลับมามีสติอีกครั้งถึงได้พบว่าขาของตนเองใช้การไม่ได้เสียแล้ว ชีวิตคล้ายดิ่งลงเหวลึก ทั้งหวาดกลัวและไม่เชื่อว่าเป็นความจริง ช่วงนั้นเขาเอาแต่ใจมากนัก ทั้งโวยวายและหงุดหงิดใส่ทุกคน กว่าจะกลับมามีท่าทางสงบเสงี่ยมได้แบบทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ก่อนหน้าที่เขาจะเลิกเอาแต่ใจบิดาก็มาด่วนจากไป เขาเลยต้องรับช่วงต่อ ดูแลกิจการ ดูแลจวน ทั้งต้องดูแลครอบครัว หากตอนนั้นมีกู่ซิงอีคอยช่วยอย่างทุกวันนี้คงดีไม่น้อย หลังจากที่บิดาจากไปได้ไม่นาน แม่เลี้ยงและน้องชายก็เกิดอุบัติเหตุรถม้าตกเขาเสียชีวิตไป เขาจึงอยู่ตัวคนเดียวมาหลายปีแล้ว เหตุผลที่เขาไม่อยากเล่าก็คือขาของตนอาจเกิดจากแม่เลี้ยงที่เขารักและเคารพเหมือนมารดาแท้ ๆ เป็นคนวางยา เพราะไม่อยากให้ใครล่วงรู้เวลาท่านหมอ
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more

บทที่ 26 (1.2) เจ้าทึ่มน้อยมาเกี้ยวสาว

วันเวลาผ่านไปเร็วยิ่งนัก ไม่นานฤดูใบไม้ผลิของปีนี้ก็เริ่มต้นมาได้ครึ่งทางแล้ว วันนี้กู่ซิงอีไม่มีงานที่ต้องสะสางจึงถือเป็นวันหยุดพักผ่อน ช่วงเช้าเขายังคงมาที่จวนตระกูลว่านเหมือนเคย แต่ครึ่งวันหลังกลับขอตัวจากไปก่อน ว่านฟู่เฉิงรู้สึกผิดสังเกตและรู้สึกตะขิดตะขวงในใจ ทว่าก็ไม่อาจรั้งจะตามกู่ซิงอีไปได้ วันนี้ไม่ใช่วันพระจันทร์เต็มดวงเขาไม่มีข้ออ้างไปเที่ยวเล่นที่บ้านกู่ซิงอีอย่างที่ทำมาเป็นประจำ ยามนี้จึงได้แต่มองกู่ซิงอียกมือโบกไปมาแล้วหายออกไปจนสุดสายตา ในช่วงบ่ายหลังจากกู่ซิงอีจากไปได้ไม่นานตัวเขาก็ได้รับเทียบเชิญจากเถ้าแก่หลิวให้ไปพบปะสังสรรค์กัน ด้วยความที่ปฏิเสธอีกฝ่ายมาหลายรอบแล้วดังนั้นวันนี้จึงคิดจะไปสักครั้ง อีกอย่างสถานที่ที่เถ้าแก่หลิวเชิญไปก็เป็นหอรื่นรมย์ไม่ใช่หอเริงรมย์เขาจึงตอบรับกลับไป ไหนเลยจะคิดว่าพอก้าวเข้ามาที่สวนด้านหลังของหอรื่นรมย์เพราะไม่อยากเจอผู้คนด้านหน้ากลับพบใครบางคนที่คุ้นตาเข้าพอดี “ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณชายกู่ออกมาจากหอรื่นรมย์เสียได้” ยิ่งได้รู้มาจากหลี่เซียวก่อนเข้ามาว่าหอรื่นรมย์แห่งนี้เน้นเรื่องอย่างว่าเป็นส่วนใหญ่ไม่ต่างจาก
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more

บทที่ 26 (2.2) + 27 ใจจริงไม่ใช่คนดีขนาดนั้น

ว่านฟู่เฉิงกลับไม่รับไป เพียงยื่นหน้ามากัดลงไปครึ่งลูกเท่านั้น สิ่งแรกที่รับรู้ได้คือความหวาน ต่อมาเป็นเสียงแตกหักของน้ำตาล ก่อนจะตามมาด้วยรสเปรี้ยวของผลซานจา เขาไม่ชินกับรสชาติแบบนี้เลยสักนิด พอเคี้ยวไปได้สักพักก็คิดว่าไม่ได้แย่เท่าไรแต่ก็รู้สึกว่าตนก็ไม่ได้ชอบกินจริง ๆ นั่นแหละ แถมยังรู้สึกว่ามันน่าหนวกหูด้วย ทว่าพอได้เงยหน้าขึ้นสบตากับคนข้างกายแล้วกลับรู้สึกอยากเห็นกู่ซิงอีกัดถังหูลู่แบบวันนั้นขึ้นมามากกว่าเดิม ต่อให้จะหนวกหูแต่ก็ยินดีที่จะฟัง และคงมีแค่ว่านฟู่เฉิงเท่านั้นที่รู้ว่าตนไม่ได้อยากกินตั้งแต่แรกแต่จงใจทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไร “ที่เหลือยกให้เจ้า” “คุณชายคงไม่ชอบจริง ๆ” กู่ซิงอีพึมพำไม่ได้คิดมากถึงระยะห่างของทั้งสองคน และคิดว่าว่านฟู่เฉิงเพียงแค่อยากลองกินดูสักครั้ง พอลองแล้วก็คงไม่ชอบถึงได้ยกให้ตนทั้งหมด ว่านฟู่เฉิงพอได้ยินเสียงก๊อบแก๊บข้างหูก็หันไปมองดูคล้ายไม่จงใจ เป็นจังหวะที่ริมฝีปากสีชมพูอ่อนราวดอกท้อของกู่ซิงอีกำลังครอบถังหูลู่ลูกที่เขากัดไว้ครึ่งหนึ่งเข้าไปในปากตนเองพอดี คนมองพลันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ จิตใจปั่นป่วนขึ้นมา ริมฝีปากนุ่มนิ่มที่มีรสหวานผสมเปรี
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more

บทที่ 27 (2.3) ย่อมไม่มีวันปล่อยเจ้าไป

ว่านฟู่เฉิงหันมองคนข้างกายทันที คล้ายฟังผิดไป มือกำเชือกจูงเสี่ยวลู่แน่นขึ้นอีกนิด “ซื้อให้ข้าหรือ” เขานึกว่าเสียงตัวเองจะไม่ออกมาจากลำคอเสียแล้ว ในอกรู้สึกแน่นตื้อไปหมด แต่กลับเป็นความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก “อืม” กล่าวถึงตรงนี้ก็นึกหัวเราะเยาะตนเองในใจ ว่านฟู่เฉิงเป็นใครกัน เขาเป็นใครกัน ไยต้องมอบสิ่งที่ผู้อื่นมีมากจนแทบไม่ต้องการแล้วให้อีกด้วย เป็นการกระทำที่ไม่คิดหน้าคิดหลังเสียจริง ทว่าในตอนนั้นแขนกลับถูกมือเรียวยาวของคนข้างกายจับไว้พอดีเขารีบหันไปมอง “คุณชายว่านไม่สบายตรงไหน...” “เรากลับไปเลือกกันเถอะ” ว่านฟู่เฉิงไม่รอให้กู่ซิงอีพูดจบประโยค ขยับเสื้อคลุมตัวนอกออกให้กู่ซิงอีดูที่เอวของเขา “ข้าไม่มีหยกห้อยพอดี เดี๋ยวข้าซื้ออีกชิ้นแลกกันกับเจ้าดีหรือไม่” กู่ซิงอีก้มมองด้วยความสงสัย เมื่อเช้าก็เห็นห้อยอยู่ไม่ใช่หรือไร หรือเพราะเปลี่ยนอาภรณ์ตัวใหม่ไปตอนเย็นเลยลืมใส่คืน แต่จะมาบอกว่าไม่มีก็ไม่น่าจะใช้คำนี้ได้นะ ว่านฟู่เฉิงที่ถูกจ้องมองตรงเอวก็ลอบกลืนน้ำลายเม้มปากเป็นเส้นตรงด้วยความประหม่า เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอยากรู้ของกู่ซิงอีก็กลัวจะโดนจับได้ว่าเขาเพิ่ง
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more

บทที่ 27 (3.3) +28 ขอให้เป็นเช่นนี้ตลอดไป

กู่ซิงอีไม่ได้รู้เรื่องราวอันใด ยังคงดื่มด่ำกับธรรมชาติที่งดงามเบื้องหน้า หลายปีก่อนเขาเคยมากับเซี่ยลู่หลินอยู่ครั้งหนึ่ง แต่ต่อมาก็มีเพียงเขาที่เดินทางมาถนนเส้นนี้เพียงลำพังพร้อมกับสุราในน้ำเต้าหนึ่งใบ ร่ำสุราไปตลอดทางสัมผัสกับสรรพสิ่งรอบกายเพียงลำพัง เขายกมือขึ้นรับสายลมรอกลีบดอกไม้ที่ปลิวผ่านมา ครั้นได้มาในจำนวนหนึ่งและลองสัมผัสดูก็พบว่ามันนุ่มมากเหลือเกิน จับไปแทบไม่รู้สึกอะไร ทว่าผิวสัมผัสกับสีของมันทำให้นึกถึงใครบางคนขึ้นมา กู่ซิงอีหันมองข้างกายก็ได้พบคนที่ตนคิดว่าเหมือนกลีบดอกไม้ในมือกำลังจ้องตนเองอยู่ก่อนแล้ว หลายปีก่อนได้เชยชมดอกไม้เหล่านี้เพียงลำพังก็ไม่ได้รู้สึกเหงาเท่าไร แต่พอมีว่านฟู่เฉิงมาด้วยกันเช่นนี้พลันตระหนักได้ว่าที่ผ่านมาตนเองโดดเดี่ยวเพียงไร และอาจเพราะมีคนข้างกายอยู่ด้วยกู่ซิงอีจึงเผลอยิ้มด้วยความสบายใจออกมาเมื่อสัมผัสได้ถึงความสุขที่เกิดขึ้นในใจ คราแรกว่านฟู่เฉิงทำได้เพียงมองใบหน้าด้านข้างของกู่ซิงอีเท่านั้น แต่พอเจ้าตัวหันมามองเขาบัดนี้ถึงเพิ่งสามารถยลโฉมอีกฝ่ายได้เต็มสายตา รอยยิ้มที่งดงามส่งมอบมาให้ แววตาที่เจิดจ้ากว่าดวงตะวันและจันทร
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more

บทที่ 28 (2.3) ยกความดีความชอบให้เจ้า

แต่เพราะข้าวทุ่งใหม่ยังไม่ทันได้เริ่มเก็บเกี่ยว พวกเขาจึงได้ข้าวของรอบที่แล้วมาแทน แต่กู่ซิงอีก็บอกว่าใช้ได้เหมือนกัน ไม่มีปัญหาอะไรตามมาทีหลัง แถมคืนวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงพอดี ทุกอย่างช่างพอเหมาะพอเจาะ กู่ซิงอีที่กังวลมาสักพักว่าข้าวจะมาส่งไม่ทันก็กลับมาร่าเริงสดใสได้เหมือนเดิม ตัวว่านฟู่เฉิงคิดแค่อยากจะเอาใจเสี่ยวอีของตนเท่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงกำไรหรือกลัวจะขาดทุนอย่างหาได้ยาก เขาไม่ชอบเห็นกู่ซิงอีมีสีหน้าเศร้าสร้อยและไม่อยากให้กู่ซิงอีต้องมีความกังวลใจ ทุกครั้งที่เห็นอีกฝ่ายมีท่าทางเช่นนั้นเขาก็จะรู้สึกปวดแน่นในอกตลอด ดังนั้นเขาจึงใช้เงินแก้ปัญหา เสนอกว้านซื้อข้าวสาลีและข้าวเหนียวจากชาวนาแถบนั้นจนหมด แถมยังลามไปยันหมู่บ้านข้าง ๆ กันอีกสามสี่แห่งด้วยเพื่อให้กู่ซิงอีมีข้าวหมักสุราไปตลอดปี เจ้าตัวจะได้ไม่ต้องมากังวลเรื่องนี้อีก และยิ่งพอนึกถึงกู่ซิงอีที่มองมายังเขาอย่างกับเทพเซียนบนสวรรค์ลงมาโปรดโลกมนุษย์ ตัวเขาก็มือใหญ่ใจใหญ่ ซื้อข้าวที่ใช้สำหรับหุงกินทั่วไปซึ่งกู่ซิงอีไม่ได้ใช้หมักสุรามาทั้งหมดอีกด้วย! เถ้าแก่เฟิงที่มาหาเขาก่อนออกเดินทางพอไ
last updateLast Updated : 2025-03-16
Read more

บทที่ 28 +29 ดาวนำโชค

“ขอบคุณคุณชาย ขอบคุณคุณชาย!” เถ้าแก่เฟิงจะมาขอคำชมแต่กลับได้เงินจำนวนหนึ่งกลับไปแทน อย่างนี้ก็เท่ากับคำชมแล้วไม่ใช่หรือไรแถมได้เงินอีกด้วย ดียิ่งนัก ๆ เฟิงถังจึงตอบรับด้วยความอารมณ์ดี ลืมเรื่องที่กำลังจะพูดไปเสียสนิท “ข้าจะรีบนำบัญชีส่งตามมาทันทีขอรับ” ทำงานกับคุณชายนอกจากจะได้เงินค่าแรงที่เหมาะสมแล้ว เวลามีผลกำไรเกินที่คุณชายกำหนดทุกสิ้นปีก็จะได้เงินตอบแทนมาด้วยจำนวนหนึ่ง แต่ไม่คิดว่ารอบนี้ที่ทำกำไรให้ได้ถึงสามเท่าก็ยังจะได้เงินตอบแทนกลับมาเพิ่มอีกด้วย! “อืม” กู่ซิงอีรีบนำตั๋วเงินกลับไปนั่งนับที่โต๊ะทำงานของตนเองซึ่งอยู่ทางขวามือของว่านฟู่เฉิง ส่วนเถ้าแก่เฟิงพอมอบตั๋วเงินที่ตนเองเพิ่งช่วยเก็บขึ้นมาไปให้เด็กหนุ่มแล้วก็ตามหลี่เซียวไปพักอีกห้องแทน ระหว่างทางก็ถามถึงชื่อของเด็กหนุ่มในห้องทำงานของคุณชายกับหลี่เซียว จึงได้รู้ชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่าย ไม่นานนักกู่ซิงอีก็นำเงินที่แบ่งย่อยเพื่อสะดวกในการแจกจ่ายมามอบให้จำนวนหนึ่งแถมนำเงินที่ว่านั้นใส่ลงไปในถุงผ้าไหมราคาแพงอย่างไม่นึกเสียดาย เถ้าแก่เฟิงเห็นแล้วก็แปลกใจเล็กน้อย และหลังจากได้มีสมาธิอยู่กับตนเองก็นึกถึงเ
last updateLast Updated : 2025-03-16
Read more
PREV
1
...
456789
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status