All Chapters of ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า: Chapter 31 - Chapter 40

89 Chapters

บทที่ 14 (2.4) รังเกียจหรือไม่

“หันหลัง” ว่านฟู่เฉิงใช้มือข้างที่ยกอยู่เปลี่ยนไปตบไหล่ของกู่ซิงอีแทน ใบหน้าที่เรียบนิ่งดูกังวลเล็กน้อย กู่ซิงอีเหมือนจะเข้าใจท่าทางอึดอัดของเขาได้ พอรับคำในลำคอแล้วก็หมุนตัวไปตามที่เขาบอก ในตอนนั้นแขนใหญ่ของคุณชายว่านก็พาดมาที่ไหล่ของเขา กู่ซิงอีช่วยขยับอีกฝ่ายขึ้นมาบนแผ่นหลังตัวเองด้วยอีกแรง ก่อนจะยืนขึ้นอย่างมั่นคงพากลับไปที่เก้าอี้รถเข็นแล้วทั้งคู่ก็เดินทางกลับไปที่กระท่อมด้วยกัน ตอนมาถึงสีของท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นแล้ว มองเห็นดวงจันทร์ได้เลือนราง โจรถ่อยอย่างกู่ซิงอีรู้งานยิ่งนัก ครั้นเมื่อมาถึงก็รีบต้มน้ำให้คุณชายว่านอาบก่อน แล้วพาคนบนเก้าอี้รถเข็นไปที่ห้องอาบน้ำ “ไม่ต้องอุ้ม พยุงข้าก็พอ” ว่านฟู่เฉิงที่พอถอดเสื้อตัวนอกออกเสร็จแล้วก็รีบเอ่ยปากบอกก่อน มองดูถังน้ำที่ไม่สูงมากนักก็คิดว่าตัวเองสามารถลงไปได้โดยไม่ต้องให้กู่ซิงอีลงมืออุ้มอีก กู่ซิงอีพักหลังก็เชื่อฟังเป็นพิเศษ ยื่นแขนไปโอบลำตัวของว่านฟู่เฉิงไว้ แต่เจ้าตัวกลับจับแขนเขาออกมาไว้ข้างตัวแทน กู่ซิงอีก็เกร็งแขนรอ มองดูว่านฟู่เฉิงขยับตัวยืนขึ้นมาจากการใช้แรงที่มือของตนพยุงร่างกาย ก่อนจะ
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

บทที่ 14 (3.4) มิเคยคิดเกินเลย

แต่ว่านฟู่เฉิงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ากู่ซิงอีแตกต่างจากผู้คนรอบตัวของเขามากจริง ๆ ในตอนนี้เลยพลอยคิดไปว่าที่ตนคาดหวังคงเพราะต้องการยืนยันให้แน่ชัดว่าไม่ได้มองคนผิดไปก็เท่านั้นเอง หวังเพียงต้องการให้อีกฝ่ายมาทำงานด้วยกันตามความตั้งใจเดิมตั้งแต่แรก มิได้คิดเกินเลยจริง ๆ ไม่ได้คิดเลย... ทว่าตอนที่ถามออกไปแล้วหัวใจของว่านฟู่เฉิงกลับบีบรัดแน่นเล็กน้อย ลมหายใจก็สะดุดไม่เป็นจังหวะ แต่ความรู้สึกนั้นก็ผ่านมาเพียงชั่วครู่เท่านั้นเพราะทันทีที่ถามจบกู่ซิงอีก็ตอบออกมาทันที “ย่อมไม่อยู่แล้ว!” กู่ซิงอีลุกพรวดพราดยืนขึ้นตบอกตัวเอง “ข้าไม่เคยคิดว่าท่านแตกต่างจากผู้อื่น แถมความสามารถของท่านก็เป็นสิ่งที่ผู้คนโดยรอบล้วนประจักษ์แก่สายตา มีคนหนุ่มในรุ่นราวคราวเดียวกับท่านคนไหนบ้างที่เก่งพอ ๆ กับท่าน หาได้ยากยิ่งนัก ไยท่านจะต้องคิดมากเช่นนั้น” ประโยคนี้คือสิ่งที่ออกมาจากใจของเขาล้วน ๆ แต่กู่ซิงอีกลับไม่ได้คิดไปจนสุดทางว่าคำถามของคุณชายว่านค่อนข้างแปลกเล็กน้อย ว่านฟู่เฉิงได้เห็นแววตากระจ่างชัดยิ่งกว่าดาราบนท้องฟ้าของกู่ซิงอีก็เผลอยิ้มบางออกมาเป็นครั้งแรก บางเบาจนแทบมองไม่เห็น แต่ก
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

บทที่ 14 (4.4)+15 (1.2) ซื้อตัวข้าเถอะ

หากคนผู้หนึ่งไม่เปิดใจรับใครง่าย ๆ ขนาดแค่จะสนิทชิดเชื้อยังหาทางเข้าไม่เจอ เช่นนั้นคุณหนูรองเซี่ยทำอย่างไรกันกู่ซิงอีถึงขั้นยอมแม้กระทั่งเอาชีวิตของตนเองมาเสี่ยงขนาดนี้ นางดูไม่ได้ฉลาดมากนักย่อมไม่ได้เจ้าเล่ห์เจ้าแผนการจนเกินไป ดังนั้นอาจมีทางเดียวนั่นคือมอบความจริงใจให้กู่ซิงอีจากใจจริง กู่ซิงอีถึงยอมเปิดใจรับนางเป็นสหาย “ทำไมเจ้าถึงสนิทกับคุณหนูรองเซี่ยได้” ในเมื่อขี้เกียจเสียเวลาไตร่ตรองให้มากความ มิสู้ถามออกไปเลยจะดีกว่า เพราะเวลานี้ตนก็ถือสิทธิ์เหนือกว่าหนึ่งขั้น การหมั้นหมายในครั้งนี้มีเขาเป็นผู้ชี้ชะตา อย่างไรเสียกู่ซิงอีก็ต้องยอมบอกเขาอยู่แล้ว “ตอนนั้นข้าอายุเพียงสิบสี่ปีและเพิ่งเสียญาติเพียงคนเดียวที่มีไป เด็กคนหนึ่งซึ่งไม่เคยเผชิญโลกกว้างได้สูญเสียกำแพงที่คอยปกป้องตนเองไป จิตใจย่อมอ่อนแอ ตอนนั้นข้าไม่รู้สึกอะไรนอกจากน้ำตาที่ไหลอาบแก้มและความสิ้นหวังภายในใจ นั่งร้องไห้ที่หน้าหลุมศพอยู่สามวันเต็ม เป็นเสี่ยวลู่ที่นั่งรถม้าผ่านมาเจอเข้าจึงได้ช่วยปลอบข้าให้ได้สติขึ้นมา นางห่างจากข้าหนึ่งปี แต่ตัวกลับเล็กยิ่งนัก สมัยก่อนเสี่ยวลู่มักชอบสวมชุดสีเหลืองสว่างและเพราะมีเน
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

บทที่ 15 + บทที่ 16 งานหมั้นหมายเรียบร้อยดี

“ก่อนหน้านี้ข้าเคยกล่าวกับคุณชายว่านเรื่องหนึ่ง เกรงว่าหากกล่าวอีกก็กลัวจะทำร้ายความรู้สึกของคุณชายว่าน แต่ไม่พูดก็ไม่ได้ ตอนที่ผู้เฒ่าเว่ยยังมีชีวิตอยู่ข้ากับเขาราวกับไม้เบื่อไม้เมา ตีกันทุกวัน แต่พอเขาจากไปข้าถึงได้รู้ซึ้งว่าข้าสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง ทำอาหาร หาเงินเลี้ยงชีพ ดูแลเสื้อผ้า กวาดถูบ้านเรือน ทุกอย่างล้วนมาจากการสั่งสอนของเขา สิ่งที่ข้าอยากจะบอกท่านก็คือ คนเราเมื่อสูญเสียจึงรู้ว่าสิ่งนั้นมีค่ามากเพียงไร” กู่ซิงอีกล่าวเสียงกังวานไม่เหมือนเศร้าสร้อย ราวกับเข้าใจอย่างกระจ่างแล้วว่าความลำบากในตอนนั้นส่งผลกับตนในตอนนี้อย่างไร แต่ก็ยังมีความทอดถอนใจในอดีตอยู่ส่วนลึกปะปนมาด้วย เป็นความรู้สึกที่ว่าหากรู้ว่าจะสูญเสียไปคงตั้งใจพูดคุยกันให้มากขึ้นอีกหน่อย ว่านฟู่เฉิงพลันก้มมองขาของตนเองและเข้าใจว่าอีกฝ่ายกล่าวถึงเรื่องเมื่อวานที่เขาเอาแต่ถามคำถามเดิมซ้ำไปซ้ำมา คราที่เขาเดินไม่ได้ช่วงแรกก็คงรู้สึกสิ้นหวังเหมือนกับกู่ซิงอีที่เสียญาติเพียงคงเดียวไปกระมัง แต่ตอนนั้นเขาไร้คนข้างกายคอยปลอบโยน ไม่มีลูกเจี๊ยบนำทางแบบคนด้านหน้า กระนั้นแม้จะน้อยใจในโชคชะตาตอนนั้นแต่คำพูดต่
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

บทที่ 16 (2.3) สารภาพจำชื่อตอนไม่ได้แล้ว

เมื่อครู่เพียงนิดหลี่เซียวที่รอคำชมอยู่ก็งุนงง มองคุณชายสลับกับเด็กหนุ่มผู้นั้นที่ดูร้อนรนด้วยความไม่เข้าใจ กระทั่งคนหนึ่งจากไป คนหนึ่งมองตาม เขาก็ยังมองสองคนนั้นสลับกันไปมาด้วยความไม่กระจ่างแจ้งอยู่ดี ในตอนนั้นก็ทันได้เห็นสายตาแปลกประหลาดของคุณชายที่ไม่เคยมีมาก่อนยามมองแผ่นหลังของเด็กหนุ่มผู้นั้นจากไปได้ทัน หลี่เซียวพลันรู้สึกประหวั่นใจขึ้นมา คล้ายหมอกจางที่ดูบางเบาแต่เมื่อยื่นมือออกไปก็แทบมองไม่เห็นมือของตนเอง เป็นความรู้สึกที่เหมือนว่าตนกำลังจะโชคร้ายก็ไม่ปาน และในท้ายที่สุดราวกับพายุฝนมาเยือนยามที่ตนอยู่นอกบ้านไร้ที่บดบัง สายตาคุณชายว่านที่หันกลับมามองเขาแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง นิ่งเสียจนมืดมนหม่นแสงไร้ชีวิตชีวา ประหนึ่งคนผู้นี้เป็นเพียงรูปปั้นหยกแกะสลักที่งดงามชิ้นหนึ่งเท่านั้น กาลก่อนคุณชายมีสีหน้าสองอย่างเท่านั้น คือเรียบเฉยและขมวดคิ้วนาน ๆ ครั้ง แม้จะบอกว่ายามนี้จะเหมือนใบหน้าปกติที่ไม่แสดงอารมณ์ แต่หลี่เซียวที่เติบโตมาในตระกูลว่านตั้งแต่จำความได้ย่อมรู้ว่าไม่ได้เป็นแบบที่ผ่านมาแน่นอน ด้านว่านฟู่เฉิงพอเห็นอีกฝ่ายมีท่าทางหวาดกลัวเขาก็ชักสีหน้าใส่ หลี่เซียวจึ
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

บทที่ 16 3.3 ไม่บอกชื่อตอน ปล่อยให้ลุ้นเล่นๆ

“...” ว่านฟู่เฉิงมิใช่เทพเซียนย่อมไม่รู้ดีถึงขนาดนั้น อันที่จริงตัวเขาก็นั่งอยุู่ตรงนี้มาสักพักแล้วเหมือนกันและไม่รู้ว่ากู่ซิงอีอยู่อีกฝากฝั่งของกำแพง จนกระทั่งเมื่อครู่มีสายลมหอบหนึ่งพัดผ่านช่องลมบนกำแพงเข้ามาในจวนพอดี สายลมเย็นสบายระลอกนั้นได้นำพากลิ่นที่มีเฉพาะบนตัวของกู่ซิงอีมาด้วย เขาถึงได้ลองเอ่ยทักออกไป “คุณชายว่านยังจำก่อนที่ข้าจากไปได้หรือไม่ ที่ท่านว่าสัญญายังคงเหมือนเดิม” กู่ซิงอีพอเดินมาถึงแล้วก็กล่าวถามเสียงเบาไม่เหมือนยามปกติที่มีชีวิตชีวา เพราะนี่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก งานหมั้นถูกจัดไปแล้ว คล้ายสัญญาฉบับหนึ่งที่มีแขกในงานเป็นสักขีพยาน ฝ่ายเจ้าบ่าวถูกถอนหมั้นย่อมไม่เป็นไร แต่ฝ่ายสตรีแม้ต่อให้เป็นผู้ถอนหมั้นเสียเองอย่างไรก็ต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน มีแต่จะเสียหายหนัก ด้านนายท่านเซี่ยงานนี้ก็คงไม่ยอมเลิกราได้โดยง่าย อีกอย่างตัวเขากับเสี่ยวลู่ก็ไม่ได้มีสิ่งใดมาแลกเปลี่ยนมากพอที่จะขอร้องให้คุณชายว่านออกหน้ายกเลิกพันธะการหมั้นหมายด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องที่ก่อนหน้านี้คุณชายว่านเสนอมาก็เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อจนเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงแค่อยากหลอกให้เขาพาตนเองกลับมาเท่าน
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

บทที่ 17 (1.2) งดงามมากนัก แต่มิอาจให้ใครได้ยลโฉม

แสงสีทองเพิ่งจะอาบท้องนภา น้ำค้างยังไม่ทันแห้งเหือด คนในชุดฟ้าเนื้อผ้าหยาบที่มีกลิ่นกายพิเศษผู้นั้นก็โผล่มาแต่เช้าตรู่ ใบหน้าแย้มยิ้มยืนอยู่ข้างเตียงของว่านฟู่เฉิง ทั่วร่างเต็มไปด้วยพลังที่มากล้น ให้ความรู้สึกเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงตะวัน ว่านฟู่เฉิงเพิ่งจะลืมตาลุกขึ้นมานั่งก็เจอกู่ซิงอียืนอยู่ข้างคนสนิทของเขาแล้ว อันที่จริงเพียงคิดว่าให้กู่ซิงอีช่วยงานในส่วนของตนบางส่วนเท่านั้นไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจว่าตัวเองต้องทำทุกอย่างให้เขาขนาดนี้จริง ๆ แต่พอมาถึงตรงนี้ว่านฟู่เฉิงก็ไม่คิดจะกล่าวความจริงออกไป “อรุณสวัสดิ์ขอรับนายท่าน” กู่ซิงอีแย้มยิ้มบางกล่าวอย่างกระฉับกระเฉง ในขณะที่หลี่เซียวซึ่งยืนอยู่ข้างกายก็หันมองด้วยความสงสัย อันที่จริงเมื่อวานช่วงที่เขาทำงานตามที่คุณชายสั่งการไว้เสร็จแล้วก็มารายงานกับเจ้านาย ถึงได้รู้ว่ากู่ซิงอีจะมาช่วยงานข้างกายคุณชาย แต่ไม่คิดว่าจะโผล่มาตั้งแต่เช้าขนาดนี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกมีลางสังหรณ์ว่าตนเองจะถูกแย่งงานอย่างไรไม่รู้ และยามนี้หลี่เซียวก็จำได้แล้วว่าคนที่คุณชายบอกว่าเป็นเพียงคนผ่านทางมาก็กู่ซิงอีนี่เอง และก็เป็นคนที่เดินมาเคาะรถของคุณชา
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

บทที่ 17 (2.2)+ 18 ปล้นคนแล้ว

ในห้องทำงานของคุณชายที่ดูคับแคบขึ้นมาจากเดิมเพียงเล็กน้อยก็มีเสียงดีดลูกคิดดังขึ้นตลอดเวลา ยามเริ่มแรกเสียงนั้นเบาบางคล้ายไม่คุ้นชินและกังวล ครึ่งวันให้หลังเสียงนั้นก็ดังไม่หยุด มือหนึ่งของกู่ซิงอีสะบัดลูกไม้กลมกลึงผ่านแกนกลางของเส้นไม้จากตัวลูกคิดขึ้นไปไม่หยุด แล้วก็ดึงลงไม่หยุดเช่นกัน อีกมือก็ตวัดพู่กันไปด้วย แถมบางครั้งมือที่หยุดดีดไปแล้วก็หยิบตั๋วเงินขึ้นมานับอยู่สองรอบแล้ววางลงในหีบเก็บเงินข้างขา จากนั้นก็เริ่มคำนวณตั๋วเงินร้านค้าอีกร้านต่อ เป็นอย่างนี้อยู่ครึ่งค่อนวันจนหลี่เซียวคิดว่าตนได้เห็นคุณชายคนที่สองเข้าแล้ว! ว่านฟู่เฉิงเองคราแรกยังคิดว่ากู่ซิงอีต้องบ่นสักหน่อยที่งานล้นมือขนาดนี้และต้องเสียใจที่มารับปากเขาแน่ แต่ตอนนี้ก็เบาใจได้แล้ว กลับเป็นตัวเขาที่ตอนนี้แทบไม่ได้ทำงานเลยเอาแต่มองคนด้านขวามือเป็นระยะ ทว่าในตอนนี้ก็เพิ่งจะหันไปเห็นหลี่เซียวที่ยืนอยู่ไม่ไกลกำลังมองกู่ซิงอีอยู่เช่นเดียวกัน ในใจรู้สึกแปลกพิกลคล้ายไม่พอใจอะไรบางอย่างขึ้นมา แต่กลับไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ยามนี้เพียงเดาไปว่าเพราะหลี่เซียวเอาแต่ยืนเฉย ๆ วัน ๆ ไม่ค่อยช่วยงานเขาได้มากเท่าคนที่มาใหม่ แต
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

บทที่ 18 มิอาจมองแต่เพียงภายนอก

ต่อจากนั้นไม่นานคนสองคนก็มาถึงชานเมือง ว่านฟู่เฉิงยังคิดว่ากู่ซิงอีจะไปที่กระท่อมไม้ไผ่หลังเดิมเสียอีก แต่เส้นทางกลับอยู่คนละทิศคนละทาง “คุณชายว่านเมื่อยล้าหรือไม่” กู่ซิงอีลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย ปกติคุณชายว่านมักจะมีเบาะรองนั่งที่เก้าอี้รถเข็นของตนเสมอเพราะต้องนั่งทั้งวัน แต่วันนี้ตนรีบมาปล้นคนจนเกินไป เตรียมได้แค่ทำความสะอาดรถขนของกับทำอาหารมาเล็กน้อยไว้กินระหว่างทางเท่านั้น “ตอนนี้ยังไม่” ว่านฟู่เฉิงหัวใจอุ่นวาบ ตอบตามความจริง หลายวันที่ผ่านมากู่ซิงอีมักจะสังเกตเสมอว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร อย่างตอนกินข้าวก็จะจำได้ว่าเขาไม่กินของมันหรือหนังหมู อาหารวันก่อนที่แม่ครัวเตรียมให้ก็มีหมูสามชั้นตุ๋นสมุนไพรสีน้ำตาลชิ้นพอดีคำมาด้วย แต่หนังหมูกับชั้นไขมันก็ถูกตัดออกไปจนหมด หากมองผ่านก็ดูเหมือนมีคนแอบกินเพราะมีฝั่งหนึ่งที่สีแตกต่างจากส่วนที่เหลืออย่างชัดเจนทำให้มองดูก็รู้ว่าไม่ได้ถูกตุ๋นด้วยเนื้อล้วน ๆ ตั้งแต่แรก แน่นอนว่าว่านฟู่เฉิงรู้ว่าเป็นฝีมือใคร ตอนนั้นเขาถึงขั้นหลุดขำออกมาเพราะรอยตัดเหมือนรอยคนแอบกินจริง ๆ ราวกับได้มีเจ้าหนูตัวน้อยมาอยู่ดูแลข้างกายเขา คอยแอบทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบให้
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

บทที่ 18 (บทท้าย) ต่อแต่นี้ ข้าจะเป็นขาให้ท่านเอง

ตอนนี้ผ่านมาร่วมเดือนแล้ว ดูเหมือนคนที่เขาคิดว่าเป็นจอมเสเพลผู้นี้ก็คล้ายจะคำนวณเวลาได้แม่นยำ ในทุกเจ็ดวันมักจะทำให้ตัวเขาไม่มีงานทำไปหนึ่งวัน กลายเป็นว่าวันที่ว่างก็จะถูกกู่ซิงอีปล้นคนออกมาอีกตามเคย ในรอบที่สองนั้นเขามีเบาะนั่งส่วนตัวแล้ว แถมลาตัวอ้วนก็ถูกหลี่เซียวเปลี่ยนเป็นม้าให้แทน ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาสิ่งที่เขารอคอยมาตลอดก็คือคำว่า ‘ข้ามาปล้นคนแล้ว!’ ของกู่ซิงอีเท่านั้น ครั้งนี้ก็เป็นรอบที่สี่ที่กู่ซิงอีแบกเขาขึ้นบนหลัง พามาเที่ยวเขตนอกเมืองอีกตามเคย สายลมวันนี้เย็นสบายไม่หนาวมากนัก แต่สารทฤดูกำลังผ่านพ้นไปแล้ว เหมันต์ฤดูใกล้เข้ามาเยือน อีกไม่นานคงไม่ได้ออกมาเที่ยวอีก ว่านฟู่เฉิงขยับแขนกระชับตัวกู่ซิงอีแน่นขึ้นอีกนิด ด้วยกลัวว่าหากอากาศเย็นลงมากกว่านี้กู่ซิงอีคงไม่มาปล้นคนอีกแล้วจึงกังวลใจเล็กน้อยอยู่ตลอดเวลา และกำลังคิดว่าหากถึงวันที่ไม่มีงานต้องสะสางอีกฝ่ายจะไปไหนบ้างในวันนั้น “ถ้าหากขาของข้าเป็นปกติ ข้าคงไปเที่ยวเล่นไกล ๆ กว่านี้กับเจ้าได้” ว่านฟู่เฉิงโน้มตัวไปด้านหน้าเอาคางพิงไหล่ของกู่ซิงอีด้วยความเคยชิน กล่าวเสียงเบาข้างใบหูของอีกฝ่าย ยาม
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more
PREV
1234569
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status