Home / วาย / ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า / บทที่ 16 (2.3) สารภาพจำชื่อตอนไม่ได้แล้ว

Share

บทที่ 16 (2.3) สารภาพจำชื่อตอนไม่ได้แล้ว

last update Last Updated: 2025-03-10 02:00:14

เมื่อครู่เพียงนิดหลี่เซียวที่รอคำชมอยู่ก็งุนงง มองคุณชายสลับกับเด็กหนุ่มผู้นั้นที่ดูร้อนรนด้วยความไม่เข้าใจ กระทั่งคนหนึ่งจากไป คนหนึ่งมองตาม เขาก็ยังมองสองคนนั้นสลับกันไปมาด้วยความไม่กระจ่างแจ้งอยู่ดี ในตอนนั้นก็ทันได้เห็นสายตาแปลกประหลาดของคุณชายที่ไม่เคยมีมาก่อนยามมองแผ่นหลังของเด็กหนุ่มผู้นั้นจากไปได้ทัน หลี่เซียวพลันรู้สึกประหวั่นใจขึ้นมา คล้ายหมอกจางที่ดูบางเบาแต่เมื่อยื่นมือออกไปก็แทบมองไม่เห็นมือของตนเอง เป็นความรู้สึกที่เหมือนว่าตนกำลังจะโชคร้ายก็ไม่ปาน

และในท้ายที่สุดราวกับพายุฝนมาเยือนยามที่ตนอยู่นอกบ้านไร้ที่บดบัง สายตาคุณชายว่านที่หันกลับมามองเขาแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง นิ่งเสียจนมืดมนหม่นแสงไร้ชีวิตชีวา ประหนึ่งคนผู้นี้เป็นเพียงรูปปั้นหยกแกะสลักที่งดงามชิ้นหนึ่งเท่านั้น

กาลก่อนคุณชายมีสีหน้าสองอย่างเท่านั้น คือเรียบเฉยและขมวดคิ้วนาน ๆ ครั้ง แม้จะบอกว่ายามนี้จะเหมือนใบหน้าปกติที่ไม่แสดงอารมณ์ แต่หลี่เซียวที่เติบโตมาในตระกูลว่านตั้งแต่จำความได้ย่อมรู้ว่าไม่ได้เป็นแบบที่ผ่านมาแน่นอน

ด้านว่านฟู่เฉิงพอเห็นอีกฝ่ายมีท่าทางหวาดกลัวเขาก็ชักสีหน้าใส่ หลี่เซียวจึ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 16 3.3 ไม่บอกชื่อตอน ปล่อยให้ลุ้นเล่นๆ

    “...” ว่านฟู่เฉิงมิใช่เทพเซียนย่อมไม่รู้ดีถึงขนาดนั้น อันที่จริงตัวเขาก็นั่งอยุู่ตรงนี้มาสักพักแล้วเหมือนกันและไม่รู้ว่ากู่ซิงอีอยู่อีกฝากฝั่งของกำแพง จนกระทั่งเมื่อครู่มีสายลมหอบหนึ่งพัดผ่านช่องลมบนกำแพงเข้ามาในจวนพอดี สายลมเย็นสบายระลอกนั้นได้นำพากลิ่นที่มีเฉพาะบนตัวของกู่ซิงอีมาด้วย เขาถึงได้ลองเอ่ยทักออกไป “คุณชายว่านยังจำก่อนที่ข้าจากไปได้หรือไม่ ที่ท่านว่าสัญญายังคงเหมือนเดิม” กู่ซิงอีพอเดินมาถึงแล้วก็กล่าวถามเสียงเบาไม่เหมือนยามปกติที่มีชีวิตชีวา เพราะนี่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก งานหมั้นถูกจัดไปแล้ว คล้ายสัญญาฉบับหนึ่งที่มีแขกในงานเป็นสักขีพยาน ฝ่ายเจ้าบ่าวถูกถอนหมั้นย่อมไม่เป็นไร แต่ฝ่ายสตรีแม้ต่อให้เป็นผู้ถอนหมั้นเสียเองอย่างไรก็ต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน มีแต่จะเสียหายหนัก ด้านนายท่านเซี่ยงานนี้ก็คงไม่ยอมเลิกราได้โดยง่าย อีกอย่างตัวเขากับเสี่ยวลู่ก็ไม่ได้มีสิ่งใดมาแลกเปลี่ยนมากพอที่จะขอร้องให้คุณชายว่านออกหน้ายกเลิกพันธะการหมั้นหมายด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องที่ก่อนหน้านี้คุณชายว่านเสนอมาก็เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อจนเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงแค่อยากหลอกให้เขาพาตนเองกลับมาเท่าน

    Last Updated : 2025-03-10
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 17 (1.2) งดงามมากนัก แต่มิอาจให้ใครได้ยลโฉม

    แสงสีทองเพิ่งจะอาบท้องนภา น้ำค้างยังไม่ทันแห้งเหือด คนในชุดฟ้าเนื้อผ้าหยาบที่มีกลิ่นกายพิเศษผู้นั้นก็โผล่มาแต่เช้าตรู่ ใบหน้าแย้มยิ้มยืนอยู่ข้างเตียงของว่านฟู่เฉิง ทั่วร่างเต็มไปด้วยพลังที่มากล้น ให้ความรู้สึกเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงตะวัน ว่านฟู่เฉิงเพิ่งจะลืมตาลุกขึ้นมานั่งก็เจอกู่ซิงอียืนอยู่ข้างคนสนิทของเขาแล้ว อันที่จริงเพียงคิดว่าให้กู่ซิงอีช่วยงานในส่วนของตนบางส่วนเท่านั้นไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจว่าตัวเองต้องทำทุกอย่างให้เขาขนาดนี้จริง ๆ แต่พอมาถึงตรงนี้ว่านฟู่เฉิงก็ไม่คิดจะกล่าวความจริงออกไป “อรุณสวัสดิ์ขอรับนายท่าน” กู่ซิงอีแย้มยิ้มบางกล่าวอย่างกระฉับกระเฉง ในขณะที่หลี่เซียวซึ่งยืนอยู่ข้างกายก็หันมองด้วยความสงสัย อันที่จริงเมื่อวานช่วงที่เขาทำงานตามที่คุณชายสั่งการไว้เสร็จแล้วก็มารายงานกับเจ้านาย ถึงได้รู้ว่ากู่ซิงอีจะมาช่วยงานข้างกายคุณชาย แต่ไม่คิดว่าจะโผล่มาตั้งแต่เช้าขนาดนี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกมีลางสังหรณ์ว่าตนเองจะถูกแย่งงานอย่างไรไม่รู้ และยามนี้หลี่เซียวก็จำได้แล้วว่าคนที่คุณชายบอกว่าเป็นเพียงคนผ่านทางมาก็กู่ซิงอีนี่เอง และก็เป็นคนที่เดินมาเคาะรถของคุณชา

    Last Updated : 2025-03-10
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 17 (2.2)+ 18 ปล้นคนแล้ว

    ในห้องทำงานของคุณชายที่ดูคับแคบขึ้นมาจากเดิมเพียงเล็กน้อยก็มีเสียงดีดลูกคิดดังขึ้นตลอดเวลา ยามเริ่มแรกเสียงนั้นเบาบางคล้ายไม่คุ้นชินและกังวล ครึ่งวันให้หลังเสียงนั้นก็ดังไม่หยุด มือหนึ่งของกู่ซิงอีสะบัดลูกไม้กลมกลึงผ่านแกนกลางของเส้นไม้จากตัวลูกคิดขึ้นไปไม่หยุด แล้วก็ดึงลงไม่หยุดเช่นกัน อีกมือก็ตวัดพู่กันไปด้วย แถมบางครั้งมือที่หยุดดีดไปแล้วก็หยิบตั๋วเงินขึ้นมานับอยู่สองรอบแล้ววางลงในหีบเก็บเงินข้างขา จากนั้นก็เริ่มคำนวณตั๋วเงินร้านค้าอีกร้านต่อ เป็นอย่างนี้อยู่ครึ่งค่อนวันจนหลี่เซียวคิดว่าตนได้เห็นคุณชายคนที่สองเข้าแล้ว! ว่านฟู่เฉิงเองคราแรกยังคิดว่ากู่ซิงอีต้องบ่นสักหน่อยที่งานล้นมือขนาดนี้และต้องเสียใจที่มารับปากเขาแน่ แต่ตอนนี้ก็เบาใจได้แล้ว กลับเป็นตัวเขาที่ตอนนี้แทบไม่ได้ทำงานเลยเอาแต่มองคนด้านขวามือเป็นระยะ ทว่าในตอนนี้ก็เพิ่งจะหันไปเห็นหลี่เซียวที่ยืนอยู่ไม่ไกลกำลังมองกู่ซิงอีอยู่เช่นเดียวกัน ในใจรู้สึกแปลกพิกลคล้ายไม่พอใจอะไรบางอย่างขึ้นมา แต่กลับไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ยามนี้เพียงเดาไปว่าเพราะหลี่เซียวเอาแต่ยืนเฉย ๆ วัน ๆ ไม่ค่อยช่วยงานเขาได้มากเท่าคนที่มาใหม่ แต

    Last Updated : 2025-03-10
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 18 มิอาจมองแต่เพียงภายนอก

    ต่อจากนั้นไม่นานคนสองคนก็มาถึงชานเมือง ว่านฟู่เฉิงยังคิดว่ากู่ซิงอีจะไปที่กระท่อมไม้ไผ่หลังเดิมเสียอีก แต่เส้นทางกลับอยู่คนละทิศคนละทาง “คุณชายว่านเมื่อยล้าหรือไม่” กู่ซิงอีลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย ปกติคุณชายว่านมักจะมีเบาะรองนั่งที่เก้าอี้รถเข็นของตนเสมอเพราะต้องนั่งทั้งวัน แต่วันนี้ตนรีบมาปล้นคนจนเกินไป เตรียมได้แค่ทำความสะอาดรถขนของกับทำอาหารมาเล็กน้อยไว้กินระหว่างทางเท่านั้น “ตอนนี้ยังไม่” ว่านฟู่เฉิงหัวใจอุ่นวาบ ตอบตามความจริง หลายวันที่ผ่านมากู่ซิงอีมักจะสังเกตเสมอว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร อย่างตอนกินข้าวก็จะจำได้ว่าเขาไม่กินของมันหรือหนังหมู อาหารวันก่อนที่แม่ครัวเตรียมให้ก็มีหมูสามชั้นตุ๋นสมุนไพรสีน้ำตาลชิ้นพอดีคำมาด้วย แต่หนังหมูกับชั้นไขมันก็ถูกตัดออกไปจนหมด หากมองผ่านก็ดูเหมือนมีคนแอบกินเพราะมีฝั่งหนึ่งที่สีแตกต่างจากส่วนที่เหลืออย่างชัดเจนทำให้มองดูก็รู้ว่าไม่ได้ถูกตุ๋นด้วยเนื้อล้วน ๆ ตั้งแต่แรก แน่นอนว่าว่านฟู่เฉิงรู้ว่าเป็นฝีมือใคร ตอนนั้นเขาถึงขั้นหลุดขำออกมาเพราะรอยตัดเหมือนรอยคนแอบกินจริง ๆ ราวกับได้มีเจ้าหนูตัวน้อยมาอยู่ดูแลข้างกายเขา คอยแอบทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบให้

    Last Updated : 2025-03-10
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 18 (บทท้าย) ต่อแต่นี้ ข้าจะเป็นขาให้ท่านเอง

    ตอนนี้ผ่านมาร่วมเดือนแล้ว ดูเหมือนคนที่เขาคิดว่าเป็นจอมเสเพลผู้นี้ก็คล้ายจะคำนวณเวลาได้แม่นยำ ในทุกเจ็ดวันมักจะทำให้ตัวเขาไม่มีงานทำไปหนึ่งวัน กลายเป็นว่าวันที่ว่างก็จะถูกกู่ซิงอีปล้นคนออกมาอีกตามเคย ในรอบที่สองนั้นเขามีเบาะนั่งส่วนตัวแล้ว แถมลาตัวอ้วนก็ถูกหลี่เซียวเปลี่ยนเป็นม้าให้แทน ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาสิ่งที่เขารอคอยมาตลอดก็คือคำว่า ‘ข้ามาปล้นคนแล้ว!’ ของกู่ซิงอีเท่านั้น ครั้งนี้ก็เป็นรอบที่สี่ที่กู่ซิงอีแบกเขาขึ้นบนหลัง พามาเที่ยวเขตนอกเมืองอีกตามเคย สายลมวันนี้เย็นสบายไม่หนาวมากนัก แต่สารทฤดูกำลังผ่านพ้นไปแล้ว เหมันต์ฤดูใกล้เข้ามาเยือน อีกไม่นานคงไม่ได้ออกมาเที่ยวอีก ว่านฟู่เฉิงขยับแขนกระชับตัวกู่ซิงอีแน่นขึ้นอีกนิด ด้วยกลัวว่าหากอากาศเย็นลงมากกว่านี้กู่ซิงอีคงไม่มาปล้นคนอีกแล้วจึงกังวลใจเล็กน้อยอยู่ตลอดเวลา และกำลังคิดว่าหากถึงวันที่ไม่มีงานต้องสะสางอีกฝ่ายจะไปไหนบ้างในวันนั้น “ถ้าหากขาของข้าเป็นปกติ ข้าคงไปเที่ยวเล่นไกล ๆ กว่านี้กับเจ้าได้” ว่านฟู่เฉิงโน้มตัวไปด้านหน้าเอาคางพิงไหล่ของกู่ซิงอีด้วยความเคยชิน กล่าวเสียงเบาข้างใบหูของอีกฝ่าย ยาม

    Last Updated : 2025-03-11
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 19 กลมกลืนไปกับเจ้า หวังเพียงปลอบใจตนเอง

    วันเวลาล่วงเลยจนเข้าสู่เหมันต์ฤดู อากาศเริ่มหนาวขึ้นมาเล็กน้อย หลี่เซียวรู้สึกแปลกใจยิ่งนักที่คุณชายนัดเขาตั้งแต่เมื่อวานว่าวันนี้ให้มาปลุกตนไวขึ้นอีกหน่อย แถมยังเร่งเขาให้รีบช่วยแต่งตัวให้ ทั้งที่ปกติคุณชายมักจะคำนวณเวลาได้ดี ออกจากบ้านตรงเวลาและกลับบ้านตรงเวลาไม่เคยช้าเลยสักครั้ง แต่วันนี้กลับดูรีบร้อนผิดแผกไปจากเดิม แถมชุดปกติที่เขาเคยเลือกให้ก็บอกว่าไม่ชอบแล้ว อาภรณ์สีเขียวที่มักใส่เป็นประจำถูกเปลี่ยนเป็นอาภรณ์สีฟ้าผสมเขียวซึ่งค่อนข้างเน้นไปทางสีฟ้ามากกว่า พอแต่งตัวเสร็จคุณชายก็มานั่งรออยู่ที่ข้างรถม้าไม่ยอมให้เขาพาขึ้นไปเสียที ข้างนอกอากาศไม่เย็นมากนักแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่หนาวเลย เกรงว่าหากรั้งจะอยู่ต่ออีกสักพักคุณชายกับเขาได้จับไข้แน่ ๆ กระทั่งใครคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา สายตาที่เคยมองคนอื่นด้วยความเรียบเฉยราวกับมดตัวหนึ่งก็เปลี่ยนไป หลี่เซียวจำได้ว่าครั้งแรกที่คุณชายพบเจอคู่หมั้นของตนเองยังไม่เป็นเช่นนี้เลย เอ่อ...แม้ตอนนี้คู่หมั้นคนนั้นจะไม่ใช่คู่หมั้นอีกต่อไปแล้วก็ตาม และกล่าวตามจริง หลี่เซียวคิดว่าควรเปรียบเทียบว่าไม่เคยเห็นคุณชายมองคนอื่นเช่นนี้ม

    Last Updated : 2025-03-11
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 19 (ท้าย) ไม่รูปงามหรือ

    ว่านฟู่เฉิงพอผ่านประตูแรกเข้ามาได้แล้วก็ขยับมือเข็นเก้าอี้รถเข็นไปด้านหน้าด้วยตนเอง เพราะช่วงเช้าเขามักจะออกแรงเสมอเพื่อไม่ให้แขนพิการเพิ่มไปด้วย ที่ต่างไปจากเดิมก็คือมีกู่ซิงอีมาเดินเชื่องช้าอย่างผิดวิสัยอยู่ด้านข้างด้วยกัน อดีตโจรถ่อยผู้นี้ปกติเดินเหินว่องไวปานสายลม บางครั้งก็เหมือนลอยตัวได้ ปีนกำแพงปีนหน้าต่างจวนผู้อื่นดุจแมวน้อยตัวหนึ่ง มีบางครั้งเขายังเคยคิดไปว่าเรื่องเล่าเกี่ยวกับวรยุทธในการเหาะเหินเดินบนอากาศเป็นเรื่องจริงด้วยซ้ำเมื่อได้เห็นกู่ซิงอีขยับกายแต่ละที แต่ไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่อยู่กับเขาคนผู้นี้จะเดินช้าลงอย่างเห็นได้ชัด เดินอยู่ข้างกายไม่ช้าเกินหนึ่งก้าว ไม่เร็วเกินหนึ่งก้าวตลอด จนหลัง ๆ มาเขาก็เริ่มชินไปเสียแล้วที่มีกู่ซิงอีมาเดินประกบด้านข้างอยู่แบบนี้ จู่ ๆ กู่ซิงอีก็ร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจ “เอ๊ะ!” ราวกับเพิ่งนึกได้ว่าสิ่งที่ตนรู้สึกแปลกไปนั้นคือสิ่งใด “คุณชายว่านไม่สวมอาภรณ์สีเขียวแบบเดิมแล้ว ข้าเกือบจำไม่ได้แน่ะ” ปกติในตู้เสื้อผ้าคุณชายว่านที่กู่ซิงอีเจออยู่ทุกวันก็มีเพียงอาภรณ์สีเขียวอยู่เต็มตู้ไปหมด เป็นสีเขียวที่ไม่ได้ซ้ำกัน เข้มบ้างอ่อนบ้าง

    Last Updated : 2025-03-11
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 20 ตอนต้น สิ่งที่คิดมาตลอดมันแน่ชัดเสียจนเริ่มหวาดกลัว

    “แม่นางเป็นอะไรหรือไม่” แม้นใบหน้าของกู่ซิงอีจะเฉยชาไร้ความรู้สึก แต่ในน้ำเสียงก็แฝงความอ่อนโยนไว้เล็กน้อย บวกกับความเยาว์วัยและรูปงามต่อให้หน้าบึ้งตึงกว่านี้ก็ทำให้ผู้คนอยากเข้าหาอยู่ดี “ข้าไม่เป็นอะไรมากเจ้าค่ะ ขอบคุณคุณชายที่ช่วยข้าไว้” สตรีนางนั้นไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ การแต่งตัวดูมีฐานะอยู่บ้าง แถมยังเอวบางร่างน้อย สาบเสื้อแหวกออกจนเห็นเนื้อหนังตรงอกอย่างชัดเจน น้ำเสียงก็หวานไพเราะน่าฟัง ทว่าว่านฟู่เฉิงกลับรู้สึกรังเกียจน้ำเสียงออดอ้อนเช่นนั้นยิ่งนัก ถึงขั้นกำพัดแน่นขึ้นจนเส้นเลือดที่มือนูนขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ เขาปิดม่านลงพยายามไม่สนใจว่าสองคนนั้นสนทนาอะไรกันต่อ ถึงจะมองออกว่าสตรีนางนั้นจงใจยั่วยวน ส่วนกู่ซิงอีก็ทึ่มทื่อไม่รู้เรื่องราว แต่อย่างไรก็ยังคงหงุดหงิดไม่เลิก ไฟกองเล็กที่สุมมาสักพักเริ่มเผาไหม้ลามเลียจนใหญ่โต มิอาจห้ามให้ตนเองไม่คิดมากได้อีก ไม่นานต่อจากนั้นเมื่อคิดว่ารถม้าจะออกตัวแล้วกลับพบว่ากู่ซิงอีเปิดประตูรถม้าด้านข้างออกแทน ใบหน้าของกู่ซิงอีไม่เย็นชาแบบเมื่อครู่แล้ว แต่กลับเจือแววอ่อนโยนแต่งแต้มรอยยิ้มละมุนไปให้คนในรถม้า เขาขยับตัวก้าวขึ้นมา

    Last Updated : 2025-03-11

Latest chapter

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ บทส่งท้าย ตราบจนนิรันดร์

    ค่ำคืนวันนี้ไร้ดวงจันทร์คอยส่องแสงอย่างเคย ทางเบื้องหน้ามืดสนิทจนแทบมองไม่เห็นทางเดิน แต่กู่‍ซิง‍อีกลับไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวอย่างที่คิด อาจเป็นเพราะยามนี้เขาได้ขี่อยู่บนหลังผู้อื่น ลำตัวแนบชิดกับคนที่กำลังเดินอยู่จนไร้ช่องว่างระหว่างกาย รับรู้ได้ถึงแผ่นหลังที่สั่นไหวเบา ‍ๆ‍ ทำให้รู้ว่ายังมีใครอีกคนอยู่กับตนเสมอ กู่‍ซิง‍อีกระชับอ้อมแขนที่เกี่ยวคอคนออกแรงอยู่เพิ่มขึ้นอีกนิด “อีกนานหรือไม่” เขาเอ่ยถามออกไปเพราะรู้สึกว่าตนถูกแบกมาไกลมากแล้ว กระนั้นว่าน‍ฟู่‍เฉิงก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเดิน “เสี่ยว‍อี เหนื่อยแล้วหรือ” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเดินช้าลงและย่ำเท้าด้วยความเบา ด้วยเกรงว่าตนอาจจะเดินเร็วไปจนตัวสะเทือนทำให้คนที่อยู่บนหลังรู้สึกไม่สบายตัว “ข้าจะเหนื่อยได้อย่างไร ท่านเป็นคนแบกข้าอยู่นะ” กู่‍ซิง‍อีซบคางลงที่ไหล่ของว่าน‍ฟู่‍เฉิง ใจจริงแล้วเขาอยากให้เวลาหยุดอยู่เช่นนี้ตลอดไปเลยต่างหาก ถึงได้กำลังกลัวว่าจุดหมายปลายทางจะมาถึงเร็วเกินไป กระนั้นก็ยังอดห่วงว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงจะหนักอยู่ดีเลยไม่ได้บอกความในใจออกไป กู่‍ซิง‍อีเพิ่งได้รู้ว่าเมื่อก่อนตอนที่ว่าน‍ฟู่‍เฉิงถูกเขาแบกขึ้นบนหลังเดินไ

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 10 กาลก่อนท่านเป็นคนเอ่ย ว่าข้าไร้มารยาท

    หลี่เซียวที่กำลังเดินอยู่ในจวนก็พบกับคุณชายของตนกำลังเดินมาหาด้วยท่าทางเร่งรีบ เขาไม่ได้เดินไปหาอย่างที่ควรจะเป็น กลับรอคุณชายเดินเข้ามาหาตนที่หยุดรออยู่ก่อนแล้วแทน พลางคิดในใจว่า เอาอีกแล้ว ‍!‍ “เห็นเสี่ยว‍อีของข้าหรือไม่” นั่นไง จะมีสิ่งใดที่เขาเดาผิดไปจากท่าทางเร่งรีบของคุณชายได้อีก ‍!‍ “เมื่อ‍ครู่พอคุณชายกู่เตรียมรากบัวต้มน้ำตาลอยู่ในครัวเสร็จแล้วคิดจะถือนำไปให้คุณชายด้วยตัวเอง แต่ไม่ทันระวังเผลอสะดุดจนของในมือหกรดตัวเอง ตอนนี้น่าจะกำลังไปเปลี่ยนชุดขอรับ” “สะดุดหรือ ‍!‍ แล้วเสี่ยว‍อีบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงพูดค่อนข้างเร็วอย่างหาได้อยาก แทบจะยืนไม่ติดที่อยู่แล้ว ตอนนี้ร่างกายอยู่ตรงนี้แต่หัวใจกลับลอยไปไกลแล้ว “ไม่เป็นอะไรมากขอรับ คุณชายกู่ทรงตัวได้ทันจึงไม่ได้ล้มพับไปกับพื้น แถมรากบัวก็มิได้ร้อนมากและก็เพียงเปื้อนโดนปลายอาภรณ์เล็กน้อยเท่านั้น” สิ่งที่หลี่เซียวไม่ได้กล่าวจนหมดก็คือกู่‍ซิง‍อีนั้นร้อนรนขนาดไหนหลังจากทำขนมหกใส่ตัวเอง เอ่ยปากบ่นอยู่หลายประโยคว่าชุดนั้นคุณชายเป็นคนเลือกให้ตนเองกับมือแถมยังแพงมากด้วย ครั้นบ่นเสร็จก็รีบจาก

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 9 ถูกจับได้เสียแล้ว

    ด้วยเพราะรู้ว่ากู่‍ซิง‍อีหลับลึกขนาดไหน ว่าน‍ฟู่‍เฉิงจึงใช้เรื่องนี้ในการแอบเอาเปรียบกู่‍ซิง‍อีอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นเมื่อคืนที่เขาตื่นมากลางดึกและพบว่ามีใครแอบขยับมาซุกกายแนบชิดตนอยู่ แบบนั้นมีหรือจะอดใจไหว เผลอกัดกู่‍ซิง‍อีไปหลายทีจนกระทั่งอีกฝ่ายส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอเหมือนจะรู้สึกตัวเขาถึงได้แสร้งหลับลงไปตามเดิม แต่กลับไม่ได้ปล่อยคนในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ เมื่อก่อนจะแอบทำทีไรต้องหักห้ามใจตลอด แต่บัดนี้ทั้งคู่ตบแต่งกันแล้ว เขาขอเชยชมสักนิดก็คงไม่เป็นไรกระมัง แต่อาจเพราะเผลอตัวมากไป กลับกระทำการไม่แนบเนียน โดนจับได้ตั้งแต่อีกฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมา “คุณ‍ชาย‍ว่าน เมื่อคืนทำอะไรแปลก ‍ๆ‍ หรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงหันมองคนที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง เพราะกู่‍ซิง‍อีขี้ร้อนเป็นทุนเดิมเวลาสวมเสื้อผ้านอนมักจะมัดหลวม ‍ๆ‍ พอตื่นนอนมาทีไรเสื้อผ้าที่มัดไม่แน่นก็จะหลุดลุ่ยอย่างเช่นตอนนี้ อาภรณ์ที่เปิดกว้างเผยให้เห็นแผ่นอกขาวเนียนบางส่วนที่มีรอยช้ำจาง ‍ๆ‍ ผมดำเงาชี้ฟูเล็กน้อย ดวงตาก็หรี่เล็กลงยังไม่ทันลืมตาได้เต็มที่ แต่กลับถามเหมือนรู้บางอย่างเช่นนี้ เล่นเอาคนที่กำลังยกน้ำชาไปให้รู้สึกร

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.2 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา

    รุ่งอรุณก่อนวันงานเทศกาลฉีเฉียว “เสี่ยว‍อี เจ้ากำลังจะไปที่ใด” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาและกำลังลุกขึ้นนั่งก็ทันได้เห็นกู่‍ซิง‍อีที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จเข้าพอดี แถมดูท่าทางรีบร้อนเหมือนจะออกไปจากห้อง เมื่อถามเสร็จเขาก็เบนสายตามองดูท้องฟ้าข้างนอกหน้าต่าง ฟ้ายังไม่ทันสว่างเท่าไรนักน่าจะเลยยามเฉิน[1]มาเพียงไม่นาน ([1] ยามเฉิน คือ 07.00 – 08.59 น. ) แน่นอนว่าปกติทั้งสองคนต่างพากันตื่นเช้ากว่านี้นัก แต่เมื่อวานคุยกันแล้วว่าจะหยุดทำงานสามวัน เหตุใดกู่‍ซิง‍อีถึงลุกมาแต่งตัวคล้ายจะไปทำงานอีก ต่อให้ปกติพวกเขาจะสลับทำงานที่จวนและที่ร้านว่าน และวันนี้คือวันที่ต้องทำงานที่จวน ทว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงอยากให้ดูไม่มีความน่าสงสัยจึงเปลี่ยนเป็นหยุดงานทั้งหมดแทน คำกล่าวเช่นนั้นก็รวมถึงงานที่จวนก็ไม่ต้องทำมิใช่หรือ หยุดก็คือหยุด ไหนเลยกลับคาดไม่ถึงว่ากู่‍ซิง‍อีจะไม่เข้าใจสิ่งที่หมายถึงให้หยุดอยู่จวนจริง ‍ๆ‍ ครั้นพอได้เห็นอีกฝ่ายแต่งตัวก็คิดว่าจะออกไปที่ห้องทำงาน “ไปร้านขนมไฉ่ที่ข้าชอบอย่างไรเล่า นานครั้งเราถึงจะว่างในช่วงเช้าแบบนี้ รอบนี้ก็ไม่ต้องวานให้คนอื่นไปต่อแถวแทน ได้

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (4.4)

    อีกทั้งด้ายแดงที่เด่นชัดแม้อยู่ห่างไกลกันถึงเพียงนี้จากข้อมือแต่ละข้างของว่าน‍ฟู่‍เฉิงและกู่‍ซิง‍อีก็ดูคล้ายกันยิ่งนัก คนแอบมองจิตใจลนลานรีบหันกลับไปด้วยดวงตาเบิกโพลง ก้าวเดินตามหลังคนนำทางไปติด ‍ๆ‍ ด้วยท่าทางที่เร่งรีบขึ้นกว่าเดิมราวกับกำลังโดนไฟไล่เผาก้นมา สิ่งที่คนภายนอกกล่าวมาเรื่องฮูหยินของตระ‍กูล‍ว่านไม่มีที่มาที่ไปที่แน่ชัดหลอมรวมกับการกระทำของคนทั้งสองด้านหลัง และยังบวกกับก่อนหน้านี้ที่ได้พูดคุยกับกู่‍ซิง‍อีก็คล้ายว่างานทั้งหมดของตระ‍กูล‍ว่านได้ตกอยู่ในมือกู่‍ซิง‍อีแล้ว ดังนั้นทุกอย่างที่นึกขึ้นได้จึงไม่ใช่ตนคิดไปเองแน่ ‍ๆ‍ ทว่าเซี่ย‍หลี่‍จวินแม้จะได้ล่วงรู้ความลับเรื่องนี้เข้าแต่ก็ไม่ได้คิดจะป่าวประกาศให้คนอื่นได้รับรู้หรอก เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเป็นหลัก เนื่องจากตระ‍กูล‍ว่านเป็นคนเปิดเส้นทางหลายสายให้เขา ดังนั้นนอกจากแตะว่าน‍ฟู่‍เฉิงไม่ได้แล้ว ก็ยิ่งห้ามทำให้กู่‍ซิง‍อีไม่พอใจอีกด้วย ‍!‍ ถ้าล่วงรู้อนาคตได้ว่าเรื่องราวจะดำเนินมาเป็นแบบนี้เขาคงจะเห็นใจกู่‍ซิง‍อีอีกสักหน่อย บางทีตัวเขาอาจได้ผลประโยชน์มากกว่าให้บุตรสาวของตนตบแต่งกับน้องชายบุญธรรมของว่าน‍ฟู่

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (3+4.)

    “ขอรับ ‍!‍” หลี่เซียวรีบร้อนรับคำก่อนจากไป ฉี‍หย่าหันมองซ้ายขวาด้วยความตกใจ นางจะถูกปฏิบัติอย่างนี้จริง ‍ๆ‍ หรือ นางไม่งดงามหรือไรทำไมคุณ‍ชาย‍ว่านถึงไม่คิดจะสนใจหรือเมตตานางสักนิด แม้จะต้องยอมรับว่าสองคนตรงหน้านางรูปงามไร้ที่ติ แต่นางไม่คิดว่าตนเองจะด้อยค่าถึงเพียงนี้ ‍!‍ จังหวะนั้นเองประตูห้องบานเดิมพลันเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นนาย‍ท่าน‍เซี่ยเดินออกมา พอเห็นบ่าวในจวนของตนที่นั่งกองกับพื้นก็ฉงน ที่แท้คนที่ส่งเสียงดังเมื่อ‍ครู่ก็คือฉี‍หย่าสาวรับใช้ที่บุตรสาวทิ้งไว้ที่จวนเมื่อสองปีก่อน สตรีนางนี้แม้หน้าตาจะงดงามแต่กลับทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง มีดีแค่ดนตรีกับร่ายรำ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรกับการทำงานในจวนได้เล่า ดังนั้นสำหรับเขาแล้วนางแทบไม่มีสิ่งใดให้ใช้งานได้เลย ตัวเขาแทบไม่อยากพามาทว่านางก็ดื้อดึงขอตามมาจนได้ เขายังกลัวว่าฮูหยินของตนจะเข้าใจผิดด้วยซ้ำ บัดนี้ยังจะมาสร้างความเดือดร้อนให้อีก ช่างน่าขายหน้าจริง ‍ๆ‍ เซี่ย‍หลี่‍จวินหันมองว่าน‍ฟู่‍เฉิงด้วยความระวัง กลัวว่าสิ่งที่เคยสัญญาไว้จะถูกยกเลิกเพียงเพราะบ่าวรับใช้ในจวนของตนเอง “คุณ‍ชาย‍ว่าน เป็นข้าไม่อบรมบ่

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (2.4)

    แล้วนางไหนเลยจะคาดเดาอนาคตได้ ตนย้ายไปอยู่ตระ‍กูล‍เซี่ยเพียงไม่นานยังไม่มีโอกาสได้มาพบคุณ‍ชาย‍ว่านเลยสักครั้ง คุณชายผู้นี้ก็ตบแต่งภรรยาเสียแล้ว แต่นางยินยอม ยินยอมเป็นเพียงอนุภรรยาคนหนึ่งของเขาก็ได้ การค้าของตระ‍กูล‍ว่านเติบโตในชั่วข้ามคืนแค่ไหน ใครในเมือง‍จางไม่รู้บ้างเล่า ดังนั้นทุกวันนางจึงตั้งตารอคอยมาโดยตลอด กาลก่อนแม้คุณ‍ชาย‍ว่านจะนั่งเก้าอี้รถเข็นแต่อย่างไรก็ยังรูปงามมากนัก บัดนี้พอเดินเหินได้ปกติด้วยใบหน้าสง่างามเป็นทุนเดิมก็ไม่ต่างอะไรกับเทพเซียนลงมาเดินบนดิน พอได้พบเห็นคนที่ตนคะนึงหาอีกคราก็พาให้หัวใจนางเต้นผิดจังหวะ ใบหน้าพลันขึ้นสีแดงด้วยความขวยเขิน “คุณ‍ชาย‍ว่าน...” นางเอ่ยเรียกเสียงหวาน “...เจ้ามาทำไม” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงกลับไม่สบอารมณ์ทันทีที่ได้เจอนาง นึกรังเกียจสายตาเช่นนี้ยิ่งนัก หากเป็นกู่‍ซิง‍อีมองเขาด้วยสายตาแบบนี้เจ้าตัวคงไม่อาจหนีรอดเขาไปได้ แต่พอเป็นสตรีตรงหน้าส่งสายตาเฉกเช่นนี้มาให้เขากลับรู้สึกอยากจะอาเจียนขึ้นมา ถึงขั้นดึงหลี่เซียวมาบังตัวเองไว้ครึ่งหนึ่ง “คุณ‍ชาย‍ว่านถามเช่นนี้ ข้าเสียใจยิ่งนัก” ฉี‍หย่าตอบด้วยน้ำเสียงน้อยใจ เดินก้าว

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (1.4)

    วันนี้หลี่เซียวรอจังหวะที่ว่าน‍ฟู่‍เฉิงอยู่ตัวคนเดียวถึงได้มีโอกาสเข้ามาเตือนอะไรบางอย่าง “คุณชาย ไม่รู้ว่าสองสามวันที่ผ่านมาคุณชายเห็นรายงานร้านค้าที่เพิ่มขึ้นมาในถนนสายฝนแล้วหรือยังขอรับ” “มีงานเทศกาลหรือ ‍?‍” ช่วงนี้งานปกติที่เขาเคยทำล้วนส่งมอบให้ฮูหยินของตนเกือบทั้งหมด ส่วนตัวเองไปมองหาลู่ทางการขยายกิจการแทน ขณะนี้เองก็กำลังดูเครื่องประดับที่ส่งมาจากแคว้นอื่นด้วยความตั้งใจ พอถูกถามจึงไม่ได้ทันคิดถึงว่าวันนี้คือวันที่เท่าไร มีงานอะไรสำคัญหรือไม่ เพราะนอกจากจะนับวันรอที่จะได้หยุดเพื่อออกไปชมต้นไม้ใบหญ้าลำธารกับคนของใจแล้ว วันเวลาอย่างอื่นล้วนไม่อยู่ในสายตาของเขา แต่ที่ถามออกไปได้อย่างแม่นยำและถูกถึงเก้าส่วนก็เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาล้วน ‍ๆ‍ เนื่องจากถนนสายฝนเป็นหนึ่งในกิจการร้านค้าที่เขามีมากที่สุดในเมือง‍จาง หากมีร้านค้าเพิ่มขึ้นมาก็หมายถึงมีการแบ่งพื้นที่หน้าร้านแต่เดิมจากหนึ่งเป็นสองร้าน หรือก็คืออาจมีงานเทศกาลยามค่ำคืนร่วมด้วย แถมบางครั้งยังเป็นตระ‍กูล‍ว่านที่ต้องออกหน้ารับจัดงานด้วยซ้ำ แต่แน่นอนว่าในส่วนนี้เขาย่อมมีผู้ดูแลแทนอยู่แล้วเลยไม่ค่อยสนใจที่หลี่เซี

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 7 ตกถังข้าวสารแล้ว งานไม่ต้องทำก็ได้

    ใกล้เข้าเหมันตฤดูแล้ว ว่าน‍ฟู่‍เฉิงยืนกอดอกมองคนขนของเข้ามาในจวน เขาสั่งไหมาเยอะมาก เอามาทุกขนาดที่หาได้ หากคำนวณผ่านตาคร่าว ‍ๆ‍ ตั้งแต่ครึ่งก้านธูปที่แล้วไหที่ถูกขนเข้าไปก็ปาไปหลายร้อยใบแล้ว กู่‍ซิง‍อีที่เดินหาวหวอดออกมาก็มองตามกลุ่มคนมากมายซึ่งกำลังพากันขนไหเข้าไปด้านหลังจวน “ท่านสั่งไหมาทำไมเยอะแยะ” เมื่อเดินเข้ามาใกล้ถึงคนรักของตนก็เอ่ยถามออกไป “ไว้ให้เจ้าหมักสุรา” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงกล่าวแย้มยิ้ม ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเดินเข้ามาจนถึงตนเอง ว่าน‍ฟู่‍เฉิงก็ก้าวยาว ‍ๆ‍ เดินไปหยุดยืนข้างกายดวงใจของตนแล้ว เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจมองมาทางนี้จึงขยับหอมแก้มกู่‍ซิง‍อีด้วยความรวดเร็วไปหนึ่งที กู่‍ซิง‍อีตกใจจนตัวแข็ง รีบหันมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นใครก็โล่งใจ แต่อดที่จะมองค้อนเขาไปทีหนึ่งมิได้ “เหอะ ท่านยังคิดจะใช้ข้าทำงานอีก ‍!‍ ข้าตกถังข้าวสารแล้ว ไหนเลยจะไปทำงานให้เหนื่อย” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงไม่ได้เสียใจหรือน้อยใจกลับยกยิ้มมองกู่‍ซิง‍อีและพูดเสริมว่า “ข้าสั่งทำห้องหมักสุราโดยเฉพาะไว้ให้เจ้าแล้วไม่ต้องรวมกับครัวของจวนแบบครั้งก่อนอีก และทั้งข้าว ไห เชือก ผ้ากรองก็มีให้ใช้ไม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status