All Chapters of ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า: Chapter 41 - Chapter 50

89 Chapters

บทที่ 19 กลมกลืนไปกับเจ้า หวังเพียงปลอบใจตนเอง

วันเวลาล่วงเลยจนเข้าสู่เหมันต์ฤดู อากาศเริ่มหนาวขึ้นมาเล็กน้อย หลี่เซียวรู้สึกแปลกใจยิ่งนักที่คุณชายนัดเขาตั้งแต่เมื่อวานว่าวันนี้ให้มาปลุกตนไวขึ้นอีกหน่อย แถมยังเร่งเขาให้รีบช่วยแต่งตัวให้ ทั้งที่ปกติคุณชายมักจะคำนวณเวลาได้ดี ออกจากบ้านตรงเวลาและกลับบ้านตรงเวลาไม่เคยช้าเลยสักครั้ง แต่วันนี้กลับดูรีบร้อนผิดแผกไปจากเดิม แถมชุดปกติที่เขาเคยเลือกให้ก็บอกว่าไม่ชอบแล้ว อาภรณ์สีเขียวที่มักใส่เป็นประจำถูกเปลี่ยนเป็นอาภรณ์สีฟ้าผสมเขียวซึ่งค่อนข้างเน้นไปทางสีฟ้ามากกว่า พอแต่งตัวเสร็จคุณชายก็มานั่งรออยู่ที่ข้างรถม้าไม่ยอมให้เขาพาขึ้นไปเสียที ข้างนอกอากาศไม่เย็นมากนักแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่หนาวเลย เกรงว่าหากรั้งจะอยู่ต่ออีกสักพักคุณชายกับเขาได้จับไข้แน่ ๆ กระทั่งใครคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา สายตาที่เคยมองคนอื่นด้วยความเรียบเฉยราวกับมดตัวหนึ่งก็เปลี่ยนไป หลี่เซียวจำได้ว่าครั้งแรกที่คุณชายพบเจอคู่หมั้นของตนเองยังไม่เป็นเช่นนี้เลย เอ่อ...แม้ตอนนี้คู่หมั้นคนนั้นจะไม่ใช่คู่หมั้นอีกต่อไปแล้วก็ตาม และกล่าวตามจริง หลี่เซียวคิดว่าควรเปรียบเทียบว่าไม่เคยเห็นคุณชายมองคนอื่นเช่นนี้ม
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more

บทที่ 19 (ท้าย) ไม่รูปงามหรือ

ว่านฟู่เฉิงพอผ่านประตูแรกเข้ามาได้แล้วก็ขยับมือเข็นเก้าอี้รถเข็นไปด้านหน้าด้วยตนเอง เพราะช่วงเช้าเขามักจะออกแรงเสมอเพื่อไม่ให้แขนพิการเพิ่มไปด้วย ที่ต่างไปจากเดิมก็คือมีกู่ซิงอีมาเดินเชื่องช้าอย่างผิดวิสัยอยู่ด้านข้างด้วยกัน อดีตโจรถ่อยผู้นี้ปกติเดินเหินว่องไวปานสายลม บางครั้งก็เหมือนลอยตัวได้ ปีนกำแพงปีนหน้าต่างจวนผู้อื่นดุจแมวน้อยตัวหนึ่ง มีบางครั้งเขายังเคยคิดไปว่าเรื่องเล่าเกี่ยวกับวรยุทธในการเหาะเหินเดินบนอากาศเป็นเรื่องจริงด้วยซ้ำเมื่อได้เห็นกู่ซิงอีขยับกายแต่ละที แต่ไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่อยู่กับเขาคนผู้นี้จะเดินช้าลงอย่างเห็นได้ชัด เดินอยู่ข้างกายไม่ช้าเกินหนึ่งก้าว ไม่เร็วเกินหนึ่งก้าวตลอด จนหลัง ๆ มาเขาก็เริ่มชินไปเสียแล้วที่มีกู่ซิงอีมาเดินประกบด้านข้างอยู่แบบนี้ จู่ ๆ กู่ซิงอีก็ร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจ “เอ๊ะ!” ราวกับเพิ่งนึกได้ว่าสิ่งที่ตนรู้สึกแปลกไปนั้นคือสิ่งใด “คุณชายว่านไม่สวมอาภรณ์สีเขียวแบบเดิมแล้ว ข้าเกือบจำไม่ได้แน่ะ” ปกติในตู้เสื้อผ้าคุณชายว่านที่กู่ซิงอีเจออยู่ทุกวันก็มีเพียงอาภรณ์สีเขียวอยู่เต็มตู้ไปหมด เป็นสีเขียวที่ไม่ได้ซ้ำกัน เข้มบ้างอ่อนบ้าง
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more

บทที่ 20 ตอนต้น สิ่งที่คิดมาตลอดมันแน่ชัดเสียจนเริ่มหวาดกลัว

“แม่นางเป็นอะไรหรือไม่” แม้นใบหน้าของกู่ซิงอีจะเฉยชาไร้ความรู้สึก แต่ในน้ำเสียงก็แฝงความอ่อนโยนไว้เล็กน้อย บวกกับความเยาว์วัยและรูปงามต่อให้หน้าบึ้งตึงกว่านี้ก็ทำให้ผู้คนอยากเข้าหาอยู่ดี “ข้าไม่เป็นอะไรมากเจ้าค่ะ ขอบคุณคุณชายที่ช่วยข้าไว้” สตรีนางนั้นไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ การแต่งตัวดูมีฐานะอยู่บ้าง แถมยังเอวบางร่างน้อย สาบเสื้อแหวกออกจนเห็นเนื้อหนังตรงอกอย่างชัดเจน น้ำเสียงก็หวานไพเราะน่าฟัง ทว่าว่านฟู่เฉิงกลับรู้สึกรังเกียจน้ำเสียงออดอ้อนเช่นนั้นยิ่งนัก ถึงขั้นกำพัดแน่นขึ้นจนเส้นเลือดที่มือนูนขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ เขาปิดม่านลงพยายามไม่สนใจว่าสองคนนั้นสนทนาอะไรกันต่อ ถึงจะมองออกว่าสตรีนางนั้นจงใจยั่วยวน ส่วนกู่ซิงอีก็ทึ่มทื่อไม่รู้เรื่องราว แต่อย่างไรก็ยังคงหงุดหงิดไม่เลิก ไฟกองเล็กที่สุมมาสักพักเริ่มเผาไหม้ลามเลียจนใหญ่โต มิอาจห้ามให้ตนเองไม่คิดมากได้อีก ไม่นานต่อจากนั้นเมื่อคิดว่ารถม้าจะออกตัวแล้วกลับพบว่ากู่ซิงอีเปิดประตูรถม้าด้านข้างออกแทน ใบหน้าของกู่ซิงอีไม่เย็นชาแบบเมื่อครู่แล้ว แต่กลับเจือแววอ่อนโยนแต่งแต้มรอยยิ้มละมุนไปให้คนในรถม้า เขาขยับตัวก้าวขึ้นมา
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more

บทที่ 20 ตอนปลาย เมื่อมิได้พบเจ้า

จนกระทั่งครั้งนี้เป็นรอบที่สี่แล้วที่ว่านฟู่เฉิงยกแขนข้างเดิมขึ้นมาอีก กู่ซิงอีก็ยกมือตัวเองลูบ ๆ ให้ “คุณชายว่านแขนเสื้อไม่ได้เปื้อนแล้ว” เขาอดกล่าวอย่างเหลืออดมิได้ คนผู้นี้เมามายเกินไปแล้วใช่หรือไม่! “อืม” ว่านฟู่เฉิงรับคำเสียงเบาวางแขนลงที่เดิม ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ ยังคงตอบคำถามของเหล่าพ่อค้าได้ปกติ ทว่าอีกสักพักเขาก็ยกแขนข้างเดิมขึ้นมาอีกก่อนจะเงยหน้าหันไปมองกู่ซิงอีด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง “คุณชายว่าน...” กู่ซิงอีย่อตัวลงไปนั่งชันเข่าข้างหนึ่งข้างเก้าอี้รถเข็นของว่านฟู่เฉิง แล้วกัดฟันกล่าวเสียงเบากับเขา “แขนเสื้อไม่ได้เปื้อนแล้ว!” กระนั้นก็ยังยกมือขึ้นลูบแขนให้เขาเหมือนเดิม การกระทำของสองคนนี้อยู่ในสายตาหลี่เซียวมาสักพักแล้ว เจ้าตัวเม้มปากแน่น ไม่กล้าเดาว่าจะเป็นอย่างที่ตนคิด เขากวาดตามองรอบห้องดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจคนหน้าโต๊ะทั้งสองคนเท่าไรเพราะเริ่มเมามายกันมากแล้ว หลี่เซียวจึงพรูลมหายใจด้วยความโล่งอกอยู่เงียบ ๆ เพียงคนเดียวที่มุมห้อง ไม่นานต่อจากนั้นกู่ซิงอีก็รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลขอกล่าวจบงานเพื่อพาคุณชายว่านกลับไปพัก หลี่เซียวต้องยอมรับว่
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more

บทที่ 21 เยือนบ้านเจ้าเพียงหวังได้พบหน้า

กระทั่งยามโหย่วมาเยือน (17.00 – 18.59 น.) ว่านฟู่เฉิงก็เริ่มนั่งไม่ติดกลัวกู่ซิงอีจะหนีหายไป และอีกใจก็กลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับกู่ซิงอี เขารีบเรียกหลี่เซียวเข้ามาหา วันนั้นหลังจากที่กู่ซิงอีลักพาตัวเขาไปครั้งแรก เขาก็สั่งหลี่เซียวให้ส่งคนไปตามสืบเรื่องคุณหนูรองตระกูลเซี่ยและสืบที่อยู่ของกู่ซิงอีมาด้วย ถึงได้รู้ว่าบ้านของกู่ซิงอีตั้งอยู่เขตชานเมือง “เตรียมรถม้า ไปบ้านกู่ซิงอี” ว่านฟู่เฉิงกล่าวเสียงเรียบกลบเกลื่อนความรู้สึก หลี่เซียวไม่ถามมากความด้วยความอยู่เป็นก็ขานรับหนึ่งทีแล้วรีบจากไปเตรียมรถม้าตามที่เจ้านายสั่ง กู่ซิงอีที่เตรียมรอหมักสุราจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตูรั้ว เขารีบวางของในมือลง คิดว่าเป็นเซี่ยลู่หลินที่ขาดการติดต่อไปนานเดินทางมาหาตน ในใจที่หนักอึ้งมาทั้งวันก็รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาย่องไปหาเซี่ยลู่หลินแล้วไม่เจอ จึงจำต้องบากหน้าไปขอพบตามตรง ทว่านายท่านเซี่ยก็สั่งคนในบ้านกันเขาไว้ ยามนี้พอได้ยินเสียงเคาะประตูรั้วจึงคิดว่าสหายของตนหนีออกมาได้แล้ว เพราะบ้านของเขาอยู่เขตที่ไม่ค่อยมีบ้านคนมากนัก และไม่มีใครรู้จัก ดังนั
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more

บทที่ 21 บทท้าย ความทุกข์มลาย เพียงแย้มยลหน้าท่าน

ใบหน้าของว่านฟู่เฉิงเริ่มขึ้นสีชมพูอ่อนจางลามไปยังใบหูแล้ว ปกติต่อให้เขาจะดื่มสุราไปหลายกาแต่ใบหน้าก็ยังคงขาวกระจ่างดังเดิม ทว่าบัดนี้กลับเรืองสีชมพูอ่อนขึ้นมาอย่างง่ายดายเพียงเพราะถูกคนทึ่มทื่อผู้หนึ่งสัมผัสมือไปมาเท่านั้นเอง เขาแอบมองรอยยิ้มด้านข้างที่ดูแปลกพิลึกของกู่ซิงอีด้วยไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหลงใหลอะไรในมือของเขาจนยิ้มแบบนั้นออกมา ตบท้ายด้วยการกระทำที่แปลกประหลาดนั้นกู่ซิงอีก็ยังส่งเสียงหัวเราะชอบใจออกมาอีกด้วย! ว่านฟู่เฉิงครั้นถูกปล่อยมือแล้วก็ยังปรับสภาพหัวใจที่เต้นผิดจังหวะได้ไม่ดีนัก เขาบรรจงผสมข้าวหลายอย่างและสมุนไพรที่กู่ซิงอีเตรียมไว้ให้เข้าด้วยกันตามที่อีกฝ่ายบอก เมื่อผสมเสร็จแล้วก็นำไปใส่ในไหใบใหญ่ข้างขาที่กู่ซิงอีนำมาวางไว้ให้ ว่านฟู่เฉิงยังคงนั่งทำด้วยความนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่พักใหญ่เพราะกำลังพยายามปรับอารมณ์ของตนเองให้มั่นคงอยู่ ฝั่งกู่ซิงอีก็ยกไหสุรามาเตรียมรอบนโต๊ะ เดินหยิบของมาวางไว้ใกล้ลูกมือคนใหม่ของตนไม่พัก “ผู้เฒ่าเว่ยเป็นคนสอนเจ้า?” “เป็นเขา” กู่ซิงอีที่กำลังสอนวิธีการมัดไหสุราเพื่อปิดผนึกให้แน่นก็ตอบกลับ แววตามีทั้งรอยยิ้มและความค
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more

บทที่ 22 คนพูดคิด แต่คนฟังไม่ทันสังเกต

“เหมือนจะยากไป ช่วยสอนอีกครั้งเถอะ” ว่านฟู่เฉิงเอ่ยเนิบนาบอย่างเคย คนฟังก็คิดว่าเขาพูดจริงเสียอย่างนั้น ลงมือสอนเขาอีกรอบอย่างช้า ๆ ด้วยความตั้งใจ ว่านฟู่เฉิงแอบมองใบหน้าด้านข้างที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเขามากนัก ไม่ได้สนใจว่ากู่ซิงอีพูดเรื่องอะไร หรือต้องกรองสุราอย่างไร เรื่องนี้คุณชายอย่างเขามองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าทำอย่างไรให้ได้สุราออกมาโดยไม่เปลืองแรงกรองหลายรอบ แต่เพราะอยากให้กู่ซิงอีจับมือสอนอีกรอบจึงพูดปดออกไปก็เท่านั้นเอง ใครจะไปคิดว่ากู่ซิงอีที่ฉลาดและรอบคอบกลับโดนใบหน้าไร้อารมณ์ของเขาหลอกเอาได้ ในตอนนั้นกู่ซิงอีร้อง ‘เอ๊ะ!’ ด้วยน้ำเสียงประหลาดใจหนึ่งครั้งเหมือนเพิ่งจะตระหนักได้หลังจากที่หันมาสบตากับว่านฟู่เฉิงซึ่งกำลังหันหน้ามาสบตามองกับตนอยู่ก่อนแล้ว บนใบหน้าไร้อารมณ์เมื่อครู่ปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปากทั้งสองข้าง “ท่านแกล้งข้ารึ!” เขาผละออกมาเท้าสะเอวจ้องมองอีกฝ่าย “หรือเพียงแค่ถ่วงเวลาเพราะเริ่มเบื่อแล้วกันแน่” ว่านฟู่เฉิงเพิ่งรู้ตัวว่าตนเผลอยิ้มออกไปจนความแตก จึงรีบตีหน้านิ่ง หันหน้ากลับไปมองตรง หลุบตาลงต่ำมองไหสุราข้างขา แล้วทำทีเป็นสะบัดม
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more

บทที่ 22 บทท้าย เป็นต้นพลับปลอม

กู่ซิงอีเห็นดังนั้นก็รู้ว่าตนยังห่างชั้นจากว่านฟู่เฉิงมากนักด้านการปะทะฝีปาก อีกฝ่ายพูดน้อยจนแทบนับคำได้แต่เขาก็ไม่เคยเถียงชนะเลย และเรื่องจริงที่ว่าใครมาหาใครและใครดึงดันจะอยู่มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ แต่คนผู้นี้กลับกลับดำเป็นขาวได้อย่างหน้าไม่อาย กู่ซิงอีตระหนักได้ว่าแผนที่ตนวางไว้ล้วนพังทั้งหมดเพราะเหตุใด “เป็นคุณชายว่านที่รอบคอบเสมอ” กล่าวถึงตรงนี้แล้วเขาก็กลับไปทำงานต่อ ว่านฟู่เฉิงยกยิ้มอยู่เพียงลำพังมองส่งคนจากไป จากนั้นก็รีบลงมือกรองสุราให้เสร็จ เขาเลือกที่จะสลัดความรู้สึกหนักหน่วงในใจทิ้งไปก่อน ต่อให้กู่ซิงอีจำต้องอยู่กับเขาเพราะทำเพื่อสหายก็ตาม แต่อย่างไรเสียตอนนี้กู่ซิงอีก็ยังอยู่ข้างกายเขาตลอด ยังพอมีเวลาให้เขาอีกหน่อย ดังนั้นช่วงเวลานี้เก็บเกี่ยวความรู้สึกตรงหน้าไว้ให้ได้มากที่สุดก็พอ ว่านฟู่เฉิงไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร แม้ไม่มีสิ่งใดตกถึงท้องแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกหิวมากเท่าที่ควร กระทั่งกู่ซิงอีและว่านฟู่เฉิงทำงานเสร็จก็ออกมานั่งที่เก้าอี้ไม้ไผ่ด้านนอกด้วยกัน รอบกายเต็มไปด้วยไหสุราที่เพิ่งหมักเสร็จซึ่งกู่ซิงอียกออกมาวางไว้เพื่ออาบแสงจันทร์ บน
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more

บทที่ 23 ตอนต้น สัมผัสครั้งนี้ตราตรึงชั่วนิรันดร์ (1)

ค่ำคืนนี้ไร้เมฆบดบังแสงจันทร์จึงอาบส่องได้ทั่วท้องนภา ว่านฟู่เฉิงจิตใจเบาบางไร้สิ่งใดให้กังวล เมื่อปล่อยวางเรื่องรอบกายได้จึงเผลอดื่มสุราเข้าไปแบบไม่ยั้งคิด ในระหว่างที่รอกู่ซิงอีเก็บไหสุรารอบบริเวณลานบ้านกลับไปในห้องทึบแสงห้องเดิมแล้วเขาก็นั่งดื่มอยู่คนเดียวจนหมดไปอีกหลายกา ตอนนี้เขาภูมิใจในตนเองไม่น้อยที่รู้จักหยิบสุราในไหมาเติมลงกาด้วยตนเองแล้ว ว่านฟู่เฉิงก็คือว่านฟู่เฉิง ต่อให้เริ่มเมามายแต่ก็ไม่ละทิ้งความเป็นคุณชายสูงศักดิ์ ไม่ยอมดื่มจากไหโดยตรงเพราะคิดว่าการดื่มจากกาสุราคือสุภาพที่สุด “คุณชายว่าน ท่าน ดื่มเก่งขนาดนี้เชียว” กู่ซิงอีที่เพิ่งเก็บไหสุราเสร็จและแอบไปล้างเนื้อล้างตัวพอกลับออกมาเห็นก็เอ่ยทักด้วยความแปลกใจ เพราะมองเห็นไหสุราที่ว่างเปล่ากำลังกลิ้งอยู่ข้างขาของคุณชายว่านไปมา ดูเหมือนว่าคุณชายว่านจะเติมสุราลงกาด้วยตนเองและดื่มไปจนหมดทั้งสี่ไหเล็กที่เขาเตรียมมาให้ ถึงแม้สีหน้าของว่านฟู่เฉิงจะยังเรียบเฉยดังเดิมแต่สองแก้มเริ่มขึ้นสีชมพูเจือจาง ยิ่งพอรวมกับใบหน้ารูปงามแล้วก็น่ามองไม่น้อยเลย กู่ซิงอีแทบไม่อยากละสายตาไป หากสตรีใดได้เห็นคงเป็นฝ่ายเมา
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more

บทที่ 23 ตอนปลาย สัมผัสครั้งนี้ตราตรึงชั่วนิรันดร์ (2)

หึ ท่านก็รู้ตัวนี่ กู่ซิงอีคิดเช่นนั้นในใจ แต่ก็ต้องกล่าวตามจริงว่าเขาเองก็มีส่วนที่ผิด “คุณชายว่าน...ท่านเข้าใจผิดก็ไม่แปลก ข้าเข้าหาท่านด้วยเจตนาไม่ดีตั้งแต่แรก แต่เมื่อวานข้าคิดเผื่อท่านจากใจจริงไม่มีความต้องการใดเจือปน เพียงอยากขี่ม้าไปเล่นกับท่านที่นอกเมืองก็เท่านั้น” คุณชายว่านไม่โกรธที่เขาเคยวางแผนต่าง ๆ นานาแถมยังรับปากจะจัดการเรื่องเซี่ยลู่หลินให้เขาควรขอบใจเรื่องนี้เสียด้วยซ้ำไป อีกฝ่ายแค่พลั้งปากไม่ดีนิดหน่อยและอาจเพราะฤทธิ์ของสุราร่วมด้วยเขาไม่ควรเดินหนีมาทั้งอย่างนั้น “ข้ารู้แล้ว...เป็นเพราะข้าเอาแต่ใจจนเคยชิน จึงนิสัยเสียไปบ้าง” ว่านฟู่เฉิงพรูลมหายใจแผ่วเบาทอดถอนใจให้กับนิสัยของตนเองที่แก้ไม่หาย กู่ซิงอีขมวดคิ้วสงสัย ปัดปอยผมเส้นบางที่ปรกหน้าคุณชายว่านออกให้เพื่อดูว่าเขาใช่ว่านฟู่เฉิงที่ปากร้ายชอบมองคนอื่นเหมือนต้นหญ้าหรือไม่ ทว่าดวงหน้ารูปงามยังคงกระจ่างชัดในสายตา น้ำเสียงนุ่มทุ้มก็ยังคงเป็นเสียงที่คุ้นเคย ย่อมไม่ผิดตัวแน่ ในตอนนั้นก็ได้เห็นริมฝีปากของว่านฟู่เฉิงขยับเปิดอีกรอบ “เป็นข้าผิดเอง เจ้าอย่าถือสาเลย ไว้เราไปขี่ม้ากัน...” กู่ซิงอีตก
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more
PREV
1
...
34567
...
9
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status