บททั้งหมดของ ชายาอสรพิษ: บทที่ 81 - บทที่ 90

119

แย่งตัวคน

 “น้อยคนนักที่กล้าทดสอบพลังกับแท่นวิญญาณ เจ้าเป็นคนแรกในรอบสิบปีที่ผ่านการทดสอบ หนำซ้ำยังมีคุณสมบัติเต็มสิบส่วน” เจ้าหน้าที่มองแท่นวิญญาณที่ถูกทำลายจนต้องกลืนน้ำลายหลายครั้ง หากลำดับในแท่นวิญญาณมีมากกว่านี้ เกรงว่าพลังยุทธ์ของหลี่หลิงเฟิ่งคงไต่ขึ้นได้อีก ทำเอาเขาอดเสียดายขึ้นมาไม่ได้สายตาที่มองหลี่หลิงเฟิ่งอ่อนโยนขึ้นหลายเท่าเหล่าอาจารย์ได้ยินเสียงถล่มจึงเร่งรุดมาออกันหน้าประตู ทันเห็นหลี่หลิงเฟิ่งเปิดเผยพลังยุทธ์บางส่วน นอกจากคนของหอโอสถที่รู้ตื้นลึกหนาบางของหลี่หลิงเฟิ่งอยู่บ้าง คนอื่นล้วนงุนงงอย่างไรก็ตาม คนเก่งไม่สนภูมิหลัง ในเมื่อเด็กสาวตรงหน้าพวกเขามีคุณสมบัติยอดเยี่ยมย่อมต้องแย่งตัวมาเป็นของพวกตนให้ได้“เอ่อ หลิงเฟิ่งครั้งก่อนเจ้าเป็นแขกของเจ้าสำนักเรา หอโอสถไม่อาจนิ่งดูดายได้ ไม่ว่าเจ้าจะเลือกเข้าฝากตัวกับหอใด ชื่อของเจ้าก็ยังจะแขวนอยู่ในหอโอสถ พวกเราอ้าแขนต้อนรับเจ้าทุกเมื่อ” หู่กวงหรือผู้อาวุโสแปดเอ่ยขึ้นคนแรก ทั้งตื่นเต้นทั้งขลาดกลัว พูดออกมาไม่เป็นประโยค เขาไม่มีความกล้ารับอาจารย์อาเข้ามาเป็นศิษย์ ทุกการ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
อ่านเพิ่มเติม

พ่อสามีตัวตึง

ต้นยามซื่อ รุ่ยกงกง ขันทีประจำตัวฮ่องเต้เฉินคังนำรถม้ามารับหลี่หลิงเฟิ่งด้วยตนเอง หลี่หลิงเฟิ่งขึ้นไปนั่ง รอจนกระทั่งด้านในรถม้าไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจึงออกเดินทาง หลี่หลิงเฟิ่งคิดว่าฮ่องเต้เฉินคังต้องการหาเรื่องนาง ความอิจฉาริษยาทำคนตายไวขึ้นได้รถม้าแล่นไปไม่นานก็มาจอดใกล้ห้องทรงพระอักษร ความจริงนางเดินมาเองได้ พระราชวังใกล้เพียงนี้ แต่รุ่ยกงกงให้เหตุผลว่านางเข้าวังครั้งแรกไม่คุ้นทาง ฝ่าบาทจึงส่งเขามารับเข้าวังเพื่อความสะดวกว่าที่พ่อสามีคนนี้มีเมตตาหรือเสแสร้งกันแน่ ไว้ใจให้นางเข้ามาในห้องทรงพระอักษรตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน ไม่ใช่ว่าเป็นเขตหวงห้ามหรอกหรือ หลี่หลิงเฟิ่งคิดหนักทั้งคืนช่างเถอะ เข้าไปก็รู้เอง“ลูกสะใภ้ เจ้ามาแล้วหรือ” เสียงสรวลบนเก้าอี้ดังชัดถึงหน้าประตู เมื่อเห็นสาวน้อยหน้าตางดงามเดินเข้ามารอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งอบอุ่นหลี่หลิงเฟิ่งยอบกายคำนับเรียก ‘ฝ่าบาท’ เสียงเบา ในใจแอบบ่น ยังไม่ทันแต่งเข้าก็เรียกสะใภ้เต็มปากเต็มคำแล้ว“ไม่ต้องมากพิธี” ฮ่องเต้เฉินคังทำท่าจับจูงให้นางนั่งลงบนเก้าอี้ที่จัดไว้ให้ บนโต๊ะมีอาหารที่นางชอบเตรียมไว้หลายอย่าง ตอนนี้เองนางถึงมีเวลาสังเกตอย่างละ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
อ่านเพิ่มเติม

ลอบสังหาร

ขบวนรถม้าของหลี่หลิงเฟิ่งพร้อมขันทีออกจากวังหลวงก็เป็นเวลาสายมากแล้ว ช่วงเวลานี้ผู้คนต่างตื่นมาทำหน้าที่ประจำวันของตนเองกันหมด ถนนสายอื่นจึงคึกคักไม่น้อย เช่นเดียวกับสำนักศึกษาหลวงที่คนส่วนใหญ่ย่อมศึกษาอยู่ในหอและโถงเรียนรวมกันแทบทุกคน ละแวกใกล้ๆ นี้นับรวมพวกหลี่หลิงเฟิ่งแล้วมีคนอยู่ข้างนอกไม่ถึงยี่สิบคนหลี่หลิงเฟิ่งไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน จึงบอกสารถีชั่วคราวให้เปลี่ยนเส้นทางไปยังป่าทึบด้านหลังหอฝึกอสูรอันเป็นแหล่งอาศัยของเหล่าสัตว์อสูร เนื่องจากป่ามีพื้นที่ขนาดใหญ่ ทางเข้าจึงมีหลายทาง สารถีขับรถม้าเลือกทางเข้าที่ใกล้วังหลวงที่สุด ซึ่งไกลจากด้านหน้าสำนักศึกษาหลวงที่สุดเช่นกันยิ่งเข้ามาลึกเท่าไหร่คนบนถนนยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ เส้นทางเริ่มเปลี่ยวจนถึงตอนนี้นอกจากพวกนางก็ไม่พบใครอื่น รถม้าเริ่มแล่นช้าลง หลี่หลิงเฟิ่งที่นั่งเอกเขนกอยู่ด้านในสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล กำลังจะร้องเตือนสารถีและขันทีคุ้มกัน ปรากฏว่ารถม้าหยุดกึกเสียนี่เสียงสวบสาบจากพงหญ้าข้างถนนดังขึ้นหลายครั้ง พร้อมได้ยินเสียงตะโกนจากผู้คุ้มกันและเสียงชักกระบี่กลางอากาศดังลอดเข้ามา“มีมือสังหาร!”สัตว์อสูรทั้งสองออกมาจากมิติมา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
อ่านเพิ่มเติม

สถานการณ์ที่ล้มเหลว

 “อีกไกลไหมกว่าจะถึงเขตสัตว์อสูร” ยันต์คืนฟ้าขั้นต่ำประสิทธิภาพย่ำแย่ พวกนางโผล่มายังป่าทึบไม่ไกลจากถนนมากนัก แถมผู้คุ้มกันทั้งสี่บาดเจ็บค่อนข้างหนัก จำต้องหยุดพักเป็นระยะ“พวกเราไม่เคยผ่านทางนี้มาก่อนขอรับ” เหล่าขันทีส่ายหน้า พลางกินยาลูกกลอนกลืนวิญญาณและลูกกลอนสะกดสำนึกที่หลี่หลิงเฟิ่งให้มา เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ พวกเขาต่างมองหลี่หลิงเฟิ่งในมุมมองใหม่ นั่งพักสักครู่จึงเดินกันต่อว่าที่พระชายาจะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร อันใดดีนางล้วนมีหมด แถมยังเผื่อคนของนางโดยไม่ตระหนี่เลยสักนิดในป่าทึบมีหมอกหนา มองเห็นข้างหน้าไม่ชัดเจน พวกนางเดินหลงในนี้ราวครึ่งชั่วยาม ไม่รู้ว่าตนเองอยู่ส่วนไหนของป่า อีกทั้งไม่กล้าหยุดพักนานเกินไป เสียงฝีเท้าที่อยู่ห่างไกล ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หลี่หลิงเฟิ่งเห็นท่าไม่ดีจึงเสนอความคิด“พวกเราแยกกันหนี” ทั้งกลุ่มแยกกันเป็นสามทาง โดยมีหลี่หลิงเฟิ่งแยกออกมาคนเดียว ผู้คุ้มกันกลัวว่าจะเป็นตัวถ่วงของเจ้านายจึงจับคู่กันหนี‘นายท่าน ทางนี้’ หลี่หลิงเฟิ่งวกกลับทางเดิมตามที่ถ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
อ่านเพิ่มเติม

จุดจบของคนประมาท

 “เหอะๆ อย่าเพิ่งดีใจไป” เสียงหวานใสดังเข้าโสตประสาทจากข้างหลัง ร่างของหัวหน้ามือสังหารแข็งทื่อ หันกลับไปมองด้านหลัง ทว่าไม่ทันการณ์ พลังยุทธ์สองธาตุรวมเป็นหนึ่ง ผลักเขากระเด็นเข้ากับลำต้นไม้ที่ห่างออกไปหลายจั้งจอมทำลายล้าง!“นี่มันวิชาพิสดารอันใด” หัวหน้ามือสังหารกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว ดวงตาเบิกโพลงมองหลี่หลิงเฟิ่งอย่างไม่เชื่อสายตา“แน่นอนว่าข้าคนเดียวสู้พวกเจ้าไม่ได้ แต่หากมีข้าอีกห้าคนเล่า” ต้องขอบคุณศัตรูที่ทำให้นางจนตรอก ระหว่างสู้ไม่พร้อมยอมตาย ทำให้จู่ๆ ก็จับทางวิชาเพลิงพิรุณลืมเลือนจนฝึกขั้นแรกสำเร็จสลายร่างรวมเป็นหนึ่ง ความหมายเป็นแบบนี้เองร่างที่เหลือของนางสอดคล้องตามจิตสำนึก ออกกระบวนท่าไม่ซ้ำกันแม้แต่น้อย ต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นนภาก็ต้องหลีกหนี เพิ่งขั้นหนึ่งยังขนาดนี้ นางอยากรู้ขึ้นมาบ้างแล้วว่าหากไปถึงขั้นเจ็ดจะแยกได้กี่ร่าง วิชานี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!ฟึ่บๆๆๆๆเหล่าลูกบอลไฟลาวาเพลิงสะเก็ดไฟจากฟากฟ้าเกลียวคลื่นแห่งไฟ ตีแสกหน้าของเขา ระ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
อ่านเพิ่มเติม

พบคนงามใต้อ่างน้ำ

 ตำหนักในแห่งวังหลังลมหนาวเย็นยะเยือกพัดผ่านตำหนักหรูหราหลังหนึ่ง เหล่าขันทีนางกำนัลรับใช้ถูกไล่ออกจากตำหนัก เพลานี้เหลือเพียงสตรีงดงามทรงภูมิฐานนางหนึ่งนั่งอยู่บนพื้นเงยหน้ามองผู้มา ตำหนักที่ตกแต่งอย่างประณีตเมื่อกาลก่อน เละเทะจากการบันดาลโทสะของผู้มาใหม่“ครั้งก่อนข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าอย่ายุ่งกับนาง แต่เจ้ากลับไม่ฟังคำเตือนของข้า ส่งคนไปลอบสังหารนาง” น้ำเสียงเรียบนิ่งจนน่าขนลุก มือข้างหนึ่งบีบคอนางจนเลือดบนขมับของเจ้าของตำหนักปูดโปน อ้าปากพยายามหอบอากาศเข้าไป“นางสมควรตาย!” นางเหลือกตามองคนตรงหน้า สองมือกำแขนอีกฝ่ายแน่น เค้นเสียงแหบแห้งกล่าวแรงบีบแน่นขึ้นตามอารมณ์ของเขา ยกยิ้มเหี้ยมตอบ “หากต้องการท้าทายความอดทนของข้า เจ้าจะลองแตะต้องนางอีกครั้งก็ได้”เมื่อเห็นสตรีในกำมือเริ่มชักกระตุก ใบหน้าไร้สีเลือด เขาจึงยอมผละมือออก หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งจากอกเสื้อมาเช็ดอย่างประณีต“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะทำอะไรในวังแห่งนี้ แต่หากล้ำเส้นข้าล่ะก็...ตำแหน่งของเจ้าคงถึงเวลาหาคนมาแทนที่แ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
อ่านเพิ่มเติม

อยู่ก่อนแต่ง

 “สตรีใจดำ ใช้ความรุนแรงในครอบครัว” โม่จื่อหลิงทำท่าทางน้อยใจ มือข้างหนึ่งกุมหน้าซีกซ้ายของตน“ท่านจะออกไปดีๆ หรือให้ข้าถีบส่ง” หลี่หลิงเฟิ่งที่ตอนนี้เปลี่ยนมาอยู่ในชุดลำลอง ผมเปียกชื้นลู่ลงถึงบั้นเอว หยดน้ำบนผมยาวดำขลับราวน้ำหมึกหยดติ๋งๆ ตามพื้น กระทบจิตใจคนมองจนคันยุบยิบ อยากหยิบผ้าแห้งช่วยเช็ดผมให้นางใจจะขาด“ฝ่าบาทมีราชโองการอนุญาตให้พวกเราศึกษาดูใจกัน...” โม่จื่อหลิงมองร่องรอยเปียกชื้นตามชุดแนบเข้ากับลำตัว หวนนึกถึงฉากวาบหวามในห้องอาบน้ำ ใบหูแดงเถือก ภายในกายร้อนรุ่มขึ้นมาอีกหน ชายหนุ่มรีบเสมองไปทางอื่นด้วยกลัวจะหักห้ามใจตนเองไม่ได้“อยู่ด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องนอนห้องเดียวกัน บนชั้นนี้มีอยู่หลายห้อง ท่านเลือกก็มาสักห้อง” หลี่หลิงเฟิ่งหัวเราะเสียงเย็น มองท่าทางเก้กังของอีกฝ่ายก็รู้ว่าในใจของบุรุษเพศคิดสิ่งใดอยู่นางอยากจะตบอีกสักป๊าบจะได้หลาบจำ“แต่ข้าอยากนอนกับเจ้า” ชัดเจนตรงประเด็นหลี่หลิงเฟิ่งตกตะลึง คำพูดหยาบโลนเช่นนี้ก็พูดออกมาอย่างไม่อายปาก นางโกรธจัดพ่นคำไม่น่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
อ่านเพิ่มเติม

อยู่เฉยๆเรื่องก็มา

 เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นรอบด้าน ผู้คนจับกลุ่มล้อมวง มองเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น ท่ามกลางบรรยากาศร้อนระอุ หลี่หลิงเฟิ่งยืนอยู่ตรงกลาง เผชิญหน้ากับจวงลี่รุ่น คุณชายตระกูลจวง ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยอารมณ์เดือดดาลเขาแค่นเสียงหัวเราะเยาะ ดวงตาคมฉายแววเหยียดหยาม ทำเหมือนหลี่หลิงเฟิ่งเป็นเพียงเศษฝุ่นใต้เท้าของเขา เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดังลั่น ราวกับต้องการให้ทุกคนได้ยินชัดเจน“ข้าพูดกับองค์ชายอยู่ เป็นแค่คู่หมั้นไร้ค่าอย่างเจ้าอย่าริอาจมาแส่!”คำพูดของเขาทำให้ผู้คนบางส่วนหลุดหัวเราะเบาๆ บางคนแสดงสีหน้าสงสารหลี่หลิงเฟิ่ง แต่ไม่มีใครกล้าออกมาแสดงความเห็น แต่ละคนต่างจับจ้องไปที่นางด้วยความคิดหลากหลายหลี่หลิงเฟิ่งไม่ได้ตอบโต้ทันที นางยืนนิ่งเพียงยิ้มบางกลับไป ดวงตาเยือกเย็นสบเข้ากับเขาโดยตรง สายตานั้นราวกับน้ำแข็งที่กดทับลงบนหัวใจของจวงลี่รุ่น“หรือเจ้าคิดว่าการเป็นคู่หมั้นขององค์ชายรองจะทำให้เจ้ามีค่ามากขึ้น ฮ่าๆ อย่าฝันลมๆ แล้งๆ ไปหน่อยเลย!” จวงลี่รุ่นกล่าวพร้อมแค่นเสียงหัวเราะเยาะผู้คนรอบข้างซุบซิบกันดังขึ้น
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
อ่านเพิ่มเติม

มีคนมารนหาที่ตายอีกแล้ว

 สองร่างที่สง่างามจับจูงมือเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดิน ทิ้งไว้เพียงเสียงลมแผ่วเบาและบรรยากาศที่เงียบงัน ร่างของจวงลี่รุ่นที่ยังคงนอนสั่นสะท้านอยู่กับพื้น และผู้คนที่ยืนอึ้งมองตามพวกเขาอย่างไม่อาจละสายตาได้เมื่อห่างจากฝูงชน โม่จื่อหลิงที่จับมือหลี่หลิงเฟิ่งไว้ตั้งแต่ต้นก็ปล่อยมือนางอย่างแผ่วเบา เขาหยุดเดิน หันมามองนางด้วยสายตาลึกซึ้ง“ทำให้เจ้าต้องได้รับความอยุติธรรมเสียแล้ว” น้ำเสียงของเขาเจือด้วยความรู้สึกผิด ทว่าความอ่อนโยนกลับทำให้หลี่หลิงเฟิ่งรู้สึกเหมือนถูกโอบกอดด้วยคำพูดนั้นหลี่หลิงเฟิ่งส่ายหน้าเบาๆ แม้ใบหน้านางยังคงสงบนิ่ง แต่ในแววตากลับฉายความอ่อนโยนที่ไม่อาจปกปิด“ท่านไม่จำเป็นต้องออกหน้า” นางเอ่ยเสียงเรียบ “พลังยุทธ์ระดับเขา ข้าสู้ได้สบาย”โม่จื่อหลิงมองนางนิ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ พลางยกยิ้มมุมปาก“นางมารน้อย เจ้าช่างดื้อรั้นนัก” เขากล่าวเสียงเบา น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความเอ็นดูเขาไม่ต้องการให้นางต้องแข็งแกร่งมากขนาดนี้ ในใจลึกๆ เขาหวังให้นางพึ่งพาเขามากขึ้น อยากให้
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
อ่านเพิ่มเติม

เตรียมตัว

 หลังจากจวงเหมยหลิงถูกเหยียนสุ่ยพากลับไป บรรยากาศรอบตัวก็ค่อยๆ สงบลง โม่จื่อหลิงและหลี่หลิงเฟิ่งเดินเคียงข้างกันไปยังศาลาริมน้ำ“เจ้านี่ไม่เคยยอมเสียเปรียบใครเลยจริงๆ” โม่จื่อหลิงกล่าวพลางมองนางด้วยสายตาเอ็นดูหลี่หลิงเฟิ่งมองเขา “ไม่ยอมเสียเปรียบหรือ ข้าเพียงแค่ปกป้องศักดิ์ศรีของตนเองเท่านั้น”“แต่ข้ากลับชอบที่เจ้าเป็นเช่นนี้ที่สุด” เขากล่าว น้ำเสียงนุ่มลึกที่เจือความชื่นชม รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าของเขาไม่จางหายคำพูดนั้นทำให้หลี่หลิงเฟิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง นางเบือนหน้าหนีสายตาที่เต็มด้วยความรู้สึกลึกซึ้งคู่นั้น“หลิงเฟิ่ง ข้าต้องขออภัยแทนศิษย์ของข้าด้วย” เหยียนสุ่ยกลับมาอีกครั้ง ทำลายบรรยากาศคลุมเครือลง เขารีบเอ่ยเรื่องสำคัญทันที “แต่วันนี้ข้ามีเรื่องสำคัญอยากหารือกับเจ้า”เหยียนสุ่ยหยิบแผ่นกระดาษออกมา พร้อมกับร่างภาพของอาวุธล้ำค่าหลายชิ้น แม้หอหลอมอาวุธจะสามารถหลอมออกมาได้ ทว่าไม่เพียงพอในเมื่ออาวุธชั้นยอดนั้นสร้างออกมาไม่ง่าย ตัวเขาเองสร้างได้เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-18
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
789101112
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status