บททั้งหมดของ ให้ชะตากรรมนำทาง: บทที่ 11 - บทที่ 20

90

ตัวตนที่แท้จริง

ณ เรือนใหญ่ของตระกูลมู๋ บรรดาลูกลูกและฮูหยินของท่านแม่ทัพมู๋นั่งคุยกับ ท่านแม่ทัพอยู่"ท่านบิดาข้าโดนน้องจินเป่าทำร้ายจริงๆนะเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าน้องจินเป่านางมีวรยุทธ์กลับมาตั้งแต่ตอนไหนแล้ว นางคิดจะปกปิดเรื่องวรยุทธ์เพื่ออะไรกัน ไม่แน่ว่านางต้องการให้ท่านบิดาอับอายหรือไม่เจ้าคะ ดูข้าสองคนพี่น้องนี้สิเจ้าค่ะโดนนางแกล้งจนสะบักสะบอมเลยเจ้าคะ" มู๋จินฮุยกล่าวกับบิดา"วรยุทธ์นางกลับมาข้าก็ดีใจนะสิ แต่ทำไมนางไม่บอกข้าหรือต้องการให้ข้าตื่นเต้นไม่น่าจะอยากให้ข้าอับอายหรอก"ท่านแม่ทัพกล่าว ทำให้ฮูหยินกับลูกๆหน้าเปลี่ยนสีเลยที่เดียว เรื่องจะแย่แน่ๆถ้า วรยุทธ์ของมู๋จินเป่ากลับมาจริงๆ ไหนจะจัดการกับนางได้ยากขึ้นอีก ไหนจะท่านแม่ทัพเห็นดีเห็นงามด้วยอีก พวกเขาไม่น่าก่อเรื่องเลย ต่อไปนี้ท่านบิดาก็จะกลับไปเอ็นดูมู๋จินเป่าเหมือนเดิมแน่ๆ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว"ท่านพี่ ท่านพี่คิดดูสิเจ้าค่ะถ้าลูกมีวรยุทธ์กับมาเช่นเดินแล้ว ไม่มาบอกกล่าวกับบิดามารดาแต่ให้พี่ๆไปรู้เองเช่นนี้ นางไม่เห็นท่านพี่อยู่ในสายตาเลยนะเจ้าคะ น้องเองไม่เท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะเพราะน้องคือมารดาเลี้ยง แต่ท่านพี่ไม่คิดน้อยใจบ้างหรือเจ้าค่ะ"ฮูหยิน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
อ่านเพิ่มเติม

ให้สถานการณ์พาไป

หลังจากคุยกันเสร็จสิ้นทั้งสองก็จัดสิ่งของที่จำเป็น และดูของที่ขาดแคลน วันรุ่งขึ้นจะได้ไปจัดซื้อเตรียมหา "เบี้ยของเราสองคนก็เหลือน้อยเต็มที ก่อนที่เราจะไปเขาป่าต้องแสงจันทร์ไม่แน่ใจว่าเบี้ยเราจะหมดกันหรือป่าว "ซิงอีเป็นผู้ตรวจสอบของที่ขาดกล่าวขึ้น"คืนนี้เดียวพี่ซิงอีเอาตำราฝึกสัตว์อสูรไปศึกษาก่อนดีไหม ข้าก็อยากฝึกอยู่หรอก แต่ข้าไม่มีวรยุทธ์ข้าคิดว่าข้าคงกำหราบสัตว์อสูรไม่ได้แถมยังจะทำให้ตัวข้าเองถึงตายได้ เราต้องหาสัตว์อสูรแถบๆชายป่ามาเพื่อขายก่อนจะได้เอาเบี้ยไปซื้อของอย่างอื่น "มู๋จินเป่ากล่าว"สัตว์อสูรมันกำหราบง่ายสะที่ไหนกัน ต้องเรียนเป็นสิบปีถึงจะกำหราบได้ ที่เราหาตำรามาทั้งฝึกสัตว์อสูร ทั้งปรุงยา ทั้งหล่อหลอมอีกมันใช้เวลาอยู่พอสมควรนะ"ซิงอีพูดแบบปรงๆ"เอาแบบนี้ดีไหมเราไปหาสมุนไพรชายป่าหรือว่าเข้าไปอีกสักหน่อยดีกว่า เอามาขาย แล้วเราจะได้มีเบี้ย ข้าก็พอจำสมุนไพรได้เป็นบางชนิด ถ้าข้ายังปกติอยู่นะ ข้าว่าข้าจะรับงานตามสมาคมรับจ้างนะ แต่ตอนนี้งานสมาคมรับจ้างมันน่าจะหนักเกินไป นอกเสียจากจะทำเป็นกลุ่ม"มูจินเป่ากล่าว"งานสมาคมรับจ้างเดี่ยวหรือกลุ่ม เขาก็ต้องดูวรยุทธด้วย ใครจะกล้าจ้
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
อ่านเพิ่มเติม

แม่นางลี่หลิน

หลังจากมู๋จินเป่ากับซิงอีค้นตำราที่ท่านแม่ทัพสั่งให้บ่าวนำมาให้ ก็ไม่มีตำราสักเล่มที่น่าสนใจเลย มีแต่แผนที่หนึ่งแผ่น ที่เป็นเหมือนผังเมือง เหมือนเป็นผังบอกตำแหน่งที่ต่างๆของเมืองที่นางอยู่ รวมไปถึงเมืองข้างเคียงด้วย มองๆดูแล้วเหมือนผังของแคว้นทั้งแคว้นเลยทีเดียว ซึ่งมีเขาป่าต้องแสงจันทร์อยู่ริมบนขวาสุดของแผนที่ น่าจะเป็นแค่แคว้นเดียวเท่านั้น สถานที่แห่งนี้น่าจะมาหลายแคว้นแน่ๆ นางมองตำแหน่งที่นางอยู่และมองไปที่เขาป่าต้องแสงจันทร์ หากใช้เวลาเดินทางเท้านางต้องใช้เวลานานแน่เลยเพราะนางไม่มีวรยุทธ ส่วนซิงอีเองนางก็มีวรยุทธเพียงป้องกันตัวเท่านั้นยังไม่สามารถลอยตัวได้ด้วยซ้ำ หลังจากดูแผนที่แล้วซิงอีก็นำตำราไปเก็บ และรีบพักผ่อน ยามเช้าก่อนฟ้าสว่างทั้งสองก็เตรียมตัวกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองแต่งชุดสบายๆออกไปทางบุรุษเลยทีเดียว ทั้งสองเดินมุ่งไปทางท้ายจวนไม่ได้ออกไปด้านหน้าจวน ซิงอีแอบปีนต้นไม้มองดูลาดลาว พอดูว่าไรวีแววผู้คนก็ปีนข้ามกำแพงไป มู๋จินเป่าก็โยนถุงผ้าที่บรรจุขนมปังที่ซิงอีทำขึ้นมา และถุงผ้าที่บรรจุของใช้ในยามจำเป็นให้ซิงอี และปีนข้ามตามไป ขนาดแค่ปีนกำแพงผู้ไม่มีวรยุทธนี้ยังลำบากมาก
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
อ่านเพิ่มเติม

สัตว์อสูร

หลังจากพักผ่อนแบบหลับสนิททั้งคืนพอตื่นขึ้นมา ซิงอีก็รู้สึกผิดเพราะไม่ได้เฝ้ายาม พอลุกขึ้นได้ก็เห็นลี่หลินเตรียมอาหารเช้าให้แล้ว ซิงอีเห็นปลาย่างก็ไม่สบายใจไปกันใหญ่ นางหวาดระเวงลี่หลินอยู่แล้วด้วย มู๋จินเป่าเห็นซิงอีทำหน้าแปลกๆจึงถามขึ้น"พี่ซิงอีเป็นอะไรไป เมื่อคืนพี่เฝ้ายามดึกเลยเผลอหลับไปแล้วนอนไม่เต็มอิ่มหรือไรกัน ลงมากินปลาย่างเถอะวันนี้ลี่หลินจับปลามาได้ตัวโตเชียว" ซิงอีเลยกระโดดลงมาและก็กินปลากัน"พวกท่านอยากกินสัตว์อะไรที่ไม่ใช่ปลาหรือไม่ถ้าอยากก็บอกข้าได้เลยข้าจับสัตว์ได้เก่งนะ"ลี่หลินกล่าวในเมื่อนางยอมติดตามมู๋จินเป่าแล้วนางก็จะทำประโยชน์สูงสุดให้มู๋จินเป่า และเมื่อคืนได้สื่อสารกับเต่ามังกรหยกสีน้ำผึ้งแล้วก็รู้ว่าจินเป่าต้องการไปหาผลหลิวต้องแสงจันทร์ และน้ำอมฤตมารักษาอาการฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ และรู้ด้วยว่าในร่างกายนี้ยังขับพิษออกไม่หมดเพราะได้รับพิษชนิดเดียวกันถึงสามครา ถึงกระนั้นก็ไม่อาจฆ่าคนผู้นี้ได้ น่านับถือจริงๆ ในการเดินทางมาหนึ่งวันนางเองก็รู้ว่าทั้งสองเป็นคนดี พอนางย้อนนึกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนถ้านางฆ่าทั้งสองคนแล้วนางต้องรู้สึกผิดแน่ๆ นางอยากบอกทั้งสองว่านางเป็นตัว
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
อ่านเพิ่มเติม

ลี่หลินคือ?

หลังจากที่ลี่หลินกล่าวจบ ทุกคนก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก พวกเขารู้แต่ว่าพวกเขาต้องเดินทางไปที่เขาป่าต้องแสงจันทร์ด้วยกัน แต่การพูดคุยอื่นๆก็ยังปกติดี ในการเดินทางวันนี้ก็ได้เห็นเมืองอีกเมืองที่อยู่ข้างหน้า เมืองนี้มีชื่อว่าเมืองจันทราและถ้าผ่านเมื่องจันทราไปได้ก็จะเป็นหมู่บ้านต้องแสงจันทร์ "พวกเราเข้าพักที่เมืองจันทราก่อนดีไหม จะได้รู้ความเคลื่อนไหวของที่นี่ด้วย และพูดคุยกับชาวเมืองด้วย หรือว่าพักในป่าแถบชานเมืองและค่อยเข้าไปสืบดูดีนะ "มู๋จินเป่าเอ่ย ยังไม่ได้คำตอบก็เจอเข้ากับชายชุดดำผู้หนึ่งท่าทางแปลกๆจ้องมองพวกเขาอยู่หลังต้นไม้ พอพวกนางมองกลับก็หนีหายไป ลี่หลินจึงกระโจนตามไปทันที"คนผู้นั้นมองดูไม่น่าจะใช่มนุษย์นะ พี่ซิงอีว่าจะเป็นสัตว์อสูรหรือป่าว"มู๋จินเป่ากล่าวขณะรอลี่หลินกลับมา "จะใช้หรือไม่ก็รอดูลี่หลินแล้วกันว่าจะตามคนผู้นั้นได้ทันหรือไม่ และสักพักลี่หลินก็กลับมาเพียงคนเดียว"ข้าตามมันไม่ทันจริงๆ มันน่าจะเป็นสัตว์ระดับสูงเลยทีเดียว"ลี่หลินกล่าว"ตามไม่ทันก็ช่างมันเถอะ เราเข้าหมู่บ้านไปหาโรงเตี้ยมพักกันดีกว่า ป่านี้มีสัตว์อสูรขั้นสูงขนาดนี้คงไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเราเป็นแน่ ข
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
อ่านเพิ่มเติม

การเลื่อนวรยุทที่รวดเร็ว

หลังจากมู๋จินเป่าสลบไปสามวันก็ตื่นขึ้นมา ซิงอีก็จัดเตรียมอาหารมาให้นางแล้ว พอตื่นขึ้นมาจิตของนางก็สื่อถึงลี่หลินทันที"ข้าคือจิ้งจอกเก้าหางนามว่าลี่หลิน วรยุทธ์จิตตราสามดาวขอคาราวะเจ้านาย"เสียงของลี่หลินดังขึ้นในห่วงจิตของมู๋จินเป่า มู๋จินเป่ามองซ้ายมองขวาทำหน้างวยงงเดิมทีนางคิดว่านางน่าจะมึนๆที่พึ่งตื่นแต่พอมองไปเห็นลี่หลินโค้งตัวให้ก็ตกใจและนึกถึงเหตุการณ์ที่พึ่งตื่น ลี่หลินนางคือจิ้งจอกเก้าหาง วรยุทธนางขั้นจิตตราระดับสามดาวเลยหรอ พอคิดได้นางก็พลางมองตัวเองหลับตาและตรวจดูตัวนางเอง ทำไมไม่มีวรยุทธ ทั้งที่มีสัตว์อสูรในพันธสัญญาถึงขั้นจิตตราสามดาว ตัวนางเองก็น่าจะมีวรยุทธด้วยนี้หน่า ขั้นวรยุทธของผู้มียุทธและสัตว์อสูรรวมไปถึงพืชวิญญาณจะมีระดับเหมือนๆกันคือขั้น 1-9 จะมีระดับต้น ระดับกลาง ระดับสูงขั้นศิลา 1-9 ดาวขั้นจิตตรา 1-9 ดาวขั้นมายา 1-9 ดาวขั้นนภา 1-9 ดาวขั้นเทวะ 1-9 ดาวขั้นศักดิ์สิทธิ์ 1-9 ดาว และสูงขึ้นไปวรยุทธก่อนที่มู๋จินเป่าเองจะต้องพิษนางอยู่แค่ขั้นสี่ระดับสูงเอง ส่วนตอนนี้ซิงอีเองก็เข้าสู่ขั้นสี่ระดับสูงได้สักระยะแล้ว ว่ากันว่าผู้ที่มีวรยุทธขั้นจิตตราสี่ดาวถึงจะกำหร
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
อ่านเพิ่มเติม

สัตว์อสูรในบึงน้ำ

หลังจากซิงอีควบคุมวรยุทธให้มั่นคงได้แล้วก็ออกเดินทางต่อ ผู้มียุทธไม่จำเป็นต้องดื่มต้องกินต้องนอนคือเรื่องจริงที่สุด แต่มู๋จินเป่าคือผู้ไม่มีวรยุทธใดๆ จึงทำให้ทุกคนต้องพักกินดื่มเหมือนเดิม "พี่ซิงอีข้าสังเกตุเห็นท่านไม่ค่อยจะหิวและไม่ง่วงบ้างเลย ท่านมีสิ่งใดผิดไปจากเดิมหรือไม่"มู๋จินเป่าถามซิงอีขนะที่ตนเองกินขนมปัง ไก่ป่าย่าง เหมือนซิงอีจะเตรียมไว้ให้นางผู้เดียว บางครั้งตอนกลางคืนเหมือนทั้งสองไม่ได้นอนด้วยซ้ำ"ข้าไม่ค่อยหิวหรอก เจ้ากินเถอะอาหารและน้ำมันจำเป็นต่อร่างกายของเจ้ามาก ตอนนี้ไม่ค่อยมีแหล่งน้ำและแหล่งอาหารมากนัก สัตว์อสูรมีค่อนข้างมากทำให้มีสัตว์ธรรมดาที่เรากินได้น้อย ข้ามีวรยุทธอดอาหารก็ทนได้ส่วนเจ้าไม่สามารถทนได้"ซิงอีกล่าวกับมู๋จินเป่า ตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามาในป่าสัตว์ป่าก็น้อยลงน่าจะเป็นเพราะลี่หลินเป็นสัตว์อสูรที่มีวรยุทธสูงเลยทำให้สัตว์อื่นๆกลัว ที่พวกนางจับได้ก็มีแค่ไก่ป่าสามตัวซิงอีจึงย่างไว้และทะยอยออกมาให้มู๋จินเป่ากิน ส่วนลำธารนั้นไม่เจอเลยตั้งแต่เดินมาจึงทำให้น้ำเหลือน้อยจนซิงอีกับลี่หลินหยุดดื่มน้ำกันเพื่อจะเหลือให้มู๋จินเป่าดื่ม" ป่าแห่งนี้แปลกพิกลนักข้าสัมผัส
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
อ่านเพิ่มเติม

บุรุษที่หน้าตาคุ้นๆ

หลังจากไต่ตรองดีแล้ว ทั้งสามก็ตกลงที่จะไปรังของจรเข้ตาไฟ หลังจากเหตุการณ์ที่ จรเข้ตาไฟกระเด็นไปลี่หลินก็รับรู้แล้วว่า อันญมณีสีแดงได้ทำการคุ้มครองซิงอีเหมือนที่หยกสีน้ำผึ้งทำการคุ้มครองนายของตน แต่การที่จะคุ้มครองนั้นต้องถึงจุด วิกฤตจริง จะคุ้มครองให้ชีวิตคงอยู่แต่ก็ไม่สามารถคุ้มครองให้ปลอดภัยในการบาดเจ็บต่างๆได้ เหมือนกับตอนที่เจ้านายของนางพิษสำแดงฤทธิ์อีกครั้งหยกสีน้ำผึ้งก็สื่อกับนางให้นางทำพันธะสัญญาเพื่อการรักษาชีวิตเจ้านายไว้ หยกสีน้ำผึ้งฉลาดแต่ก็มีกฏเกณฑ์ของมันอยู่หลังจากทั้งสามลงไปยังรังของจรเข้ตาไฟ ซึ่งเป็นถ่ำเล็กๆ จรเข้ตาไฟอาศัยอยู่ตัวเดียว ภายในถ่ำเป็นสีแดง มีสาหร่ายขึ้นมากมาย มีสาหร่ายหลากสีสันมองแล้วเพลิดเพลินยิ่งนัก พอถึงรังจรเข้ตาไฟก็จัดหาอาหารให้มู๋จินเป่าเพราะมนุษย์ผู้นี้ไม่มีวรยุทธ์ยังจำเป็นต้องกินต้องดื่ม อาหารที่ทำจากเนื้อปลา และสาหร่ายเป็นส่วนใหญ่ น้ำก็เป็นน้ำสาหร่าย ทุกคนนั่งกินอาหารเป็นเพื่อนมู๋จินเป่า หลังจากอิ่มแล้ว จรเข้ตาไฟก็อนุญาตให้ลี่หลินกับมู๋จินเป่าพักผ่อนได้ และจรเข้ตาไฟก็กางอาณาเขตเพื่อรักษาความปลอดภัยของบึงน้ำในระหว่างที่ตนทำพันธสัญญา และเนื่องจากจรเ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
อ่านเพิ่มเติม

ผลหลิวต้องแสงจันทร์

หลังจากโต๊ะข้างๆนั่งลงแล้วก็มองมายังกลุ่มตนแล้วยิ้มๆ "เจ้านายบุรุษผู้นั้นที่เป็นมนุษย์ที่มีน้ำอมฤต ส่วนบุรุษอีกผู้ที่ใส่ชุดดำคือสัตว์อสูรที่อยู่หน้าหมู่บ้านจันทราที่เราผ่านมาแล้วข้าตามไม่ทัน ทั้งสองมีวรยุทธเหนือกว่าข้าไม่สามารถประเมินได้"ลี่หลินสื่อสารทางจิตกับมู๋จินเป่า มู๋จินเป่าก็มองบุรุษในชุดสีเขียวและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร คนผู้นี้มีน้ำอมฤต จริงๆหรือแล้วคนผู้นี้จะพกน้ำอมฤตไว้ทำไมกัน แล้วทำไมสัตว์อสูรของบุรุษผู้นั้นต้องบังเอิญพบพวกนางที่หน้าหมู่บ้านที่เมืองจันทราด้วย มันมีความเกี่ยวข้องกับนางหรือป่าวนะ บุรุษผู้นี้รู้จักนางหรือไร รู้ว่านางต้องพิษและนำน้ำอมฤตติดตัวมาให้นางหรือ และก็มองไปที่บุรุษชุดสีดำที่เป็นสัตว์อสูรที่ตนมองที่แรกว่าหน้าคุ้นๆที่แท้นางเคยเห็นมาก่อนแล้ว เป็นสัตว์อสูรประเภทใดกันนะวรยุทธสูงเสียด้วย หรือว่าสัตว์อสูรจะชอบน้ำอมฤตกันนะ "ลี่หลินเจ้ารู้หรือไม่ว่าน้ำอมฤตมีสรรพคุณอะไรบ้างสัตว์อสูรชอบน้ำอมฤตหรือไม่ ที่ข้าศึกษาตำราเกี่ยวกับน้ำอมฤตข้ารู้แค่ว่ามันรักษาพิษได้ทุกชนิดและปลดผลึกที่ต้องพิษได้ และอยู่ที่ถ้ำตะวันเท่านั้น"มู๋จินเป่าถามเพราะคร่ำครวญคิดก็มีแค่เรื่องเดียว
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
อ่านเพิ่มเติม

ลอบโจมตี

หลังจากออกจากโรงเตี๊ยม กลุ่มของมู๋จินเป่าก็ตั้งใจจะกลับเขาป่าเพื่อพักผ่อนในป่า ในการเดินทางมาในหมู่บ้านนี้ไม่ได้เสียเที่ยวซะทีเดียวได้รู้ว่าผลหลิวต้องแสงจันทร์มีตั้งแปดผล ได้รู้ว่าสัตว์ที่รักษาดูแลคือกระต่ายหยก และเรื่องที่น่าสนใจก็คือมีน้ำอมฤตอยู่จริงๆ ซึ่งบุรุษชุดเขียวมีมันอยู่ด้วยแต่การที่จะได้มันมาไม่ง่ายเลย หากบุรุษผู้นั้นอาศัยน้ำอมฤตในการล่อกระต่ายหยกแล้วเขาได้ผลหลิวต้องแสงจันทร์ไป พวกของตนไม่มีโอกาสที่จะได้แตะผลหลิวต้องแสงจันทร์แม้แต่ปลายก้อยเลยด้วยซ้ำ ถ้าต้องการจะซื้อ เบี้ยที่มีอยู่ก็น้อยเหลือเกิน และผลหลิวต้องแสงจันทร์ต้องมีมูลค่ามากแน่ๆ ระหว่างเดินทางเข้าป่าลี่หลินก็หยุดชะงักและเอ่ยขึ้นว่าระวังตัว แต่มันสายไปเสียแล้ว พวกของนางถูกโจมตีจากผู้ที่มีวรยุทธที่เหนือกว่ากลุ่มพวกนางมาก ทันใดนั้นลี่หลินกับสือยวี่ก็กลายร่างกลับเป็นสัตว์อสูรทันที และก็เกิดการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ มู๋จินเป่าก็หลบการโจมตีจากผู้มีวรยุทธขั้นศิลาได้ เมื่อเห็นเช่นนั้นผู้มีวรยุทธขั้นศิลาโกรธมากเนื่องจากตนโจมตีสตรี ที่ไม่มีวรยุทธใดๆเลย ไม่ได้จึงรีบออกกระบวนท่าพลางประชิดตัวมู๋จินเป่าทันที มู๋จินเป่าหยิบมีดสั้นขนาด
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
123456
...
9
DMCA.com Protection Status