All Chapters of หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว: Chapter 21 - Chapter 30

81 Chapters

21 : นายท่านเมี่ยวผู้นี้ร่ำรวยหรือไม่

21 : นายท่านเมี่ยวผู้นี้ร่ำรวยหรือไม่ ตระกูลหลินกับตระกูลหยาง ต่างถูกเนรเทศมาอยู่ค่ายทหารเมืองเหลียงได้หนึ่งเดือนแล้ว สองสามวันแรกพวกเขาต่างได้รับคำสั่งให้ทำงานหนัก แต่หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งใดขึ้น แม่ทัพเหลียนมีคำสั่งให้พวกเขา ทำงานตามความเหมาะสม และห้ามทหารในค่ายรังแกพวกเขาอีกด้วย แต่ใช่ว่าทหารทุกคนจะฟังคำสั่ง เมื่อรังแกพวกเจ้านายไม่ได้ ก็แอบทุบตีพวกบ่าวไพร่แทน พอรู้ถึงหูของแม่ทัพเหลียนทหารนายนั้นก็ถูกทำโทษในทันที จึงทำให้ทหารในค่ายไม่กล้าหาเรื่องพวกเขาอีก เรือนพักแม่ทัพเหลียน แม่ทัพเหลียนกำลังต้อนรับสหายเก่าแก่ผู้หนึ่งอยู่ในห้องรับรอง ทหารรับใช้รีบนำน้ำชามาต้อนรับแขก “เหตุใดนายท่านเมี่ยวถึงได้มาหาข้าถึงค่ายทหารได้ล่ะ” คหบดีเมี่ยว เมี่ยวป๋อหลิน ยกถ้วยชาขึ้นจิบอึกหนึ่ง “ชาดี ๆ” เอ่ยชมแล้ววางถ้วยชาลงบนโต๊ะ สีหน้าของชายชราแลดูไม่สดชื่น คล้ายมีบางเรื่องรบกวนจิตใจอยู่ “นายท่านเมี่ยว มีอันใดก็เอ่ยมาตรง ๆ ท่านกับข้าคบหากันมานับสิบปี อย่าได้เกรงใจไปเลย” คหบดีผู้ร่ำรวยที่สุดในเมืองเหลียง ไหนเลยจะเคยแบกหน
Read more

22 : นังแพศยา !

22 : นังแพศยา ! “เอาล่ะ ถึงแม้นางไม่คู่ควรให้ข้าช่วยเหลือ แต่ว่ายังมีผู้อื่นที่คู่ควรอยู่” นางเอ่ยเสร็จก็เดินไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ พร้อมผายมือเหมือนเชิญใครสักคนให้มานั่ง รินน้ำชาใส่ถ้วยแล้วเลื่อนไปด้านหน้า “ดื่มน้ำชาก่อน” วิญญาณสตรีตั้งครรภ์ก้มหน้าแลบลิ้นดื่มน้ำชาจากถ้วย แม้ลิ้นของนางจะยาวไปเสียหน่อย แต่หลินซือเยว่มองเป็นเรื่องปกติ “คุณหนูหลินเจ้าเอ่ยกับผู้ใด” เมี่ยวฮูหยินเริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับท่าทางของนาง ราวกับว่านางกำลังนั่งดื่มชากับใครสักคนจริง ๆ หลินซือเยว่มองเห็นสีหน้าประหลาดใจของทุกคน นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เคาะนิ้วลงบนโต๊ะสองที “ตรงหน้าของข้า มีวิญญาณสตรีตั้งครรภ์นางหนึ่งนั่งอยู่ ข้าแค่มอบน้ำชาให้นางแก้กระหาย จากนั้นจะได้รู้กัน ว่าเหตุใดนางถึงได้กลายเป็นวิญญาณอาฆาต ตามติดฮูหยินรองของนายท่านเมี่ยวได้” “มีผี อ๊าย !” สาวใช้บางคนทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป ถึงกันหันหลังวิ่งออกจากห้องไป ส่วนคนที่เหลือก็ตัวสั่นงันงกกันไปหมด ฮูหยินรองที่อยู่บนเตียงเองก็หันหลังเข้าผนังห้อง ไม่กล้ามองมาทางนี้อีกเลย “นายท่านเมี่ยวฮูหยินรองมีอาก
Read more

23 : เตาอุ่นมือยี่สิบตำลึงสนใจหรือไม่ 

23 : เตาอุ่นมือยี่สิบตำลึงสนใจหรือไม่ หลินซือเยว่ให้ทหารติดตามนางไปแค่คนเดียว คหบดีเมี่ยวไม่ได้กลัวว่านางจะหนี ลำพังความสามารถเช่นนาง มีหรือจะทำไม่ได้ ตระกูลหลินทั้งตระกูลอยู่ในค่ายทหาร ยากนักที่นางจะหลบหนีไปเพียงลำพัง เขาจึงให้นายกองลู่ติดตามนางไป “ดูเจ้ามีความสุขนะนายกองลู่” “ได้ติดตามคุณหนูหลินผู้ยิ่งใหญ่ เหตุใดข้าจะไม่สุขได้เล่า” นายกองลู่ถูกส่งมารับตัวหลินซือเยว่ที่จวนคหบดีเมี่ยว เขาจึงได้ทราบข่าวจากบ่าวไพร่ในจวน ว่าหลินซือเยว่คลี่คลายปัญหาในเรือนฮูหยินรองได้แล้ว แม้ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางเขาก็ไม่สนใจ รู้แค่ว่าทำงานสำเร็จเป็นพอ “เหตุใดหิมะถึงตกหนักอีกแล้วล่ะ ข้าว่าจะแวะไปซื้อกระดาษเหลืองเสียหน่อย” หลินซือเยว่บ่นหลังเห็นหิมะโปรยปรายลงมา นายกองลู่ตาโต กระดาษเหลือง ! “คุณหนูหลินท่านเคยคิดจะวาดยันต์ขายหรือไม่ ทหารในค่ายต้องควักเงินซื้อแน่ ๆ” “นายกองลู่ยันต์ของข้าไม่ได้มีไว้ใช้ในทางนั้น อีกอย่างหากไม่ได้มีวาสนาต่อกันจริง ข้าไม่มีทางมอบยันต์ให้ผู้อื่นง่ายดายเช่นนั้น” ยกเว้นยามข้ายากจนข้นแค้น นายกองลู่คอตกใน
Read more

24 : ถูกลอบโจมตี

24 : ถูกลอบโจมตี ยามโฉ่ว (01.00-02.59) ดวงตาของหลินซือเยว่ลืมพรึบขึ้น นางหันไปปลุกนายกองลู่ ทำให้คนอื่น ๆ ให้ห้องโถงตื่นตามนางไปด้วย “คุณหนู เอ่อ คุณชายมีเรื่องอันใดหรือ” นายกองลู่ยังตื่นไม่เต็มตา เขายกมือขยี้ตามองนางอย่างแปลกใจ “เก็บของออกเดินทาง !” นางเอ่ยเสียงเข้ม ดวงตาดุดันไม่มีแววล้อเล่นแต่อย่างใด นายกองลู่ผู้ศรัทธานางเต็มเปี่ยม ไม่คิดอันใดให้มากความ รีบลุกขึ้นเก็บของตามที่นางสั่ง “ไปบอกคนขับรถม้า ให้ทิ้งม้าไปเสียเราจะเดินขึ้นเขาด้านหลังไป” นางตะโกนตามหลังนายกองลู่ ที่วิ่งออกไปยังเรือนพักม้าด้านข้าง “ขอรับ ๆ” ท่าทางของนางทำให้คนของเซวียนหมิงยู่ พากันจับอาวุธของตัวเองในทันที แต่คนที่เฝ้ายามอยู่ต่างบอกว่า ไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดจากข้างนอก เซวียนหมิงยู่ “ไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น” สวีวั่งซู “ขอรับนายท่าน” สวีวั่งซูมองคนที่สะพายกระเป๋าหน้าตาแปลกประหลาดบนหลัง ในมือยังมีห่อผ้าสองห่อถือไว้ “คุณชายพวกท่านจะรีบร้อนไปไหนกันรึ ค่ำคืนเช่นนี้มิใช่ว่าจะอันตรายหรอกหรือ ข้างนอกพายุหิมะยังตกหนักอ
Read more

25 : เจ้าคนสารเลว !

25 : เจ้าคนสารเลว ! พายุหิมะได้ผ่านพ้นไป รุ่งอรุณของวันใหม่ได้มาเยือน หลินซือเยว่ได้นอนหลับเต็มอิ่ม นางรู้สึกมีกำลังวังชามากขึ้น พลางนึกถึงตัวเองในหลายวันที่ผ่านมานี้ นางมีความเป็นคนยุคปัจจุบันมากกว่าปรมาจารย์ในอดีต เพราะความที่เป็นคนสามโลก นางจึงเหมือนยืนอยู่กลางทางแยกสามทาง จิตวิญญาณยังไม่สามารถหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ทำให้บางครั้งนางมีนิสัยเย็นชาเหมือนปรมาจารย์ แต่บางคราวก็มีอารมณ์ขันบ้างเล็กน้อยเหมือนคนยุคปัจจุบัน และยังมีอาการเหม่อลอยร่างกายไม่ขยับของเด็กปัญญาอ่อนอยู่ หวังว่าสักวันหนึ่งนางจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ “คุณหนูหลินท่านตื่นแล้วหรือ พวกเราต้องรีบกลับค่ายแล้วล่ะ ดีไม่ดีตอนนี้คนที่นั่น อาจคิดว่าท่านหนีไปแล้วก็ได้” นายกองลู่ขาดการติดต่อกับทางค่ายทหารเมืองเหลียง เขาเป็นกังวลว่าแม่ทัพเหลียนจะส่งคนออกตามหา แล้วตนเองจะมีความผิดใหญ่โต “นี่เป็นเหตุสุดวิสัย ข้าจะอธิบายให้พวกเขาเข้าใจเอง เจ้าวางใจเถอะเก็บของแล้วไปบอกคนขับรถม้า ว่าเราจะออกเดินทางด้วยเท้ากลับไปที่ค่ายกัน จากนั้นค่อยให้คนไปส่งเขากลับ แต่หากเขาอยากย้อนกลับไปที่เมืองเหลีย
Read more

26 : เก็บนางไว้ไม่ได้ !

26 : เก็บนางไว้ไม่ได้ ! องครักษ์ผู้หนึ่งไปล่าไก่ป่ามาได้ พอได้ต้มน้ำแกงไก่ให้ผู้เป็นนายได้ดื่ม ก่อนเที่ยงเซวียนหมิงยู่ก็ฟื้นฟูกำลังภายในกลับมาได้ พอลงมาถึงทางแยกที่จะกลับไปยังเมืองเหลียง ส่วนอีกทางที่มุ่งหน้าไปยังค่ายทหาร ซึ่งมีระยะทางราวสองลี้เท่า ๆ กัน “คุณหนูหลินขอรับ ข้าคงต้องขอแยกตัวกับท่านตรงนี้” คนขับรถม้าเป็นคนของจวนคหบดีเมี่ยว เขามีหน้าที่กลับไปรายงานเรื่องหลินซือเยว่ ฮู่ตงหยางพาดดาบมาที่คอของเขา “ปิดปากเจ้าให้เงียบ หากเรื่องนี้เล็ดลอดออกไป ชีวิตของเจ้าก็อย่าได้ถามหาอีกเลย” “ข้าน้อยมิกล้า ๆ” คนขับรถม้ารีบยกมือขึ้นโบกส่ายไปมา “เขาก็แค่คนขับรถม้า ชื่อแซ่ของพวกเจ้าเขายังไม่รู้จัก” หลินซือเยว่นึกเคืองคนเหล่านี้ “ไปได้แล้ว” ฮู่ตงหยางเก็บดาบ คนขับรถม้าก็โค้งคำนับให้หลินซือเยว่ จากนั้นก็เดินจากไปในทันที หลินซือเยว่หันมามองเซวียนหมิงยู่ คิ้วเฉียงดั่งคมดาบ ดวงตาดุจเหยี่ยว สันกรามคมชัด ใบหน้าดุจเทพเซียนลงมาจุติ คนผู้นี้พอได้ยืนตัวตรงแล้ว ความสูงคงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรอย่างแน่นอน นางเงยหน้ามองเขาจนเมื่อยคอไปหมด จึ
Read more

27 : สงครามไม่เกิดเร็ว ๆ นี้หรอก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ฤดูหนาว

27 : สงครามไม่เกิดเร็ว ๆ นี้หรอก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ฤดูหนาว หลินเต๋อได้พบหน้าบุตรชายอีกครั้ง การทำงานในโรงเลี้ยงม้าจึงไม่ได้ยากลำบากอีกต่อไป เขากับบุตรชายและบ่าวตระกูลหลินบางคน ได้ทำหน้าที่ดูแลทำความสะอาดโรงม้า ส่วนพี่ชายกับบุตรชายของเขานั้นได้ทำหน้าที่ดูแลคลังอาวุธ “ซีฮันลำบากเจ้าแล้ว” หลินเต๋อเอ่ยกับบุตรชาย ที่มีหน้าตาหล่อเหลาไม่ต่างจากเขาในวัยหนุ่มเลย “ไม่ได้ลำบากอันใดหรอกท่านพ่อ ตอนอยู่เมืองหลู่ข้าก็ทำหน้าที่นายทหารชั้นผู้น้อยอยู่แล้ว” “ได้ข่าวว่าที่นั่นเป็นกองทัพของแม่ทัพโจว ตอนที่น้องสาวของเจ้าจะได้แต่งงานกับคุณชายโจว ข้ายังคิดว่าอนาคตของเจ้า ต้องรุ่งโรจน์อย่างแน่นอน ไหนเลยจะคิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้” หลินเต๋อกวาดมูลม้าไปบ่นไป “เสียดายที่ข้าไม่ได้เจอหน้าน้องรอง” เอ่ยถึงน้องสาวผู้อาภัพคนนี้ หลินซีฮันมีสีหน้าหมองหม่นลง “นางไม่ได้ลำบากอะไรหรอก แม่ทัพเหลียนผู้นี้นับว่าไม่เลว ให้สตรียังสาวทำงานหน่วยเสบียง เห็นแม่ของเจ้าบอกกับหลินอ้ายมา เยว่เอ๋อร์ได้ไปอยู่ที่โรงสมุนไพรกับเผิงฉือ อ้อ เผิงฉือคือคนที่เลี้ยงดูนางตอนอยู่อารามเต๋า”
Read more

28 : คืนส่งท้ายปี  

28 : คืนส่งท้ายปี หลินอ้ายได้รับมอบหมายให้มาส่งข่าวที่โรงสมุนไพร ว่าทางตระกูลหลินได้รับอนุญาต ให้รวมตัวกันไหว้บรรพบุรุษในช่วงคืนส่งท้ายปีได้ ทหารส่วนใหญ่ต่างกลับไปฉลองตรุษจีนกับครอบครัว เหลือเพียงบางส่วนที่ต้องอยู่ทำหน้าที่ กับเหล่านักโทษทั้งหลาย “ได้ข้าจะบอกคุณหนูให้ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” เผิงฉือมองหลินอ้ายที่ตอนนี้เนื้อตัวไม่ได้ผอมแห้งเหมือนอดีตอีกต่อไป เขากลับมีกล้ามเนื้อเหมือนทหารชั้นผู้น้อยขึ้นมาบ้าง “ข้าอยู่ในโรงเลี้ยงม้ากับนายท่านรอง งานหนักบ้างเบาบ้างแต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก เงินที่คุณหนูมอบให้ข้า ข้าได้วานให้คนซื้อของกินของใช้มาให้ เอ่อ แต่ว่าเสื้อผ้าของนายท่านรองกับคุณชายใหญ่มีน้อย รวมถึงของท่านแม่กับน้องสาวของคุณหนูรอง เกรงว่าจะลำบากอยู่ไม่น้อย ท่านป้าเผิงว่าข้าควรบอกคุณหนูรองหรือไม่” หลินอ้ายรู้ว่าหลินซือเยว่มีเงินติดตัวอยู่บ้าง แต่เหตุใดนางถึงทำเหมือนไม่สนใจไยดีครอบครัวของตัวเอง เผิงฉือยิ้มบาง ๆ “คุณหนูของข้าลำบากอยู่ในอารามเต๋าตั้งสิบปี พวกเขาอยู่ที่นี่แค่สองสามเดือนเท่านั้น เฮอะ นี่เทียบกันได้ที่ไหน แต่เอาเถอะข้าจะบอกคุณหน
Read more

29 : ฉลองคืนข้ามปีด้วยกันครั้งแรก

29 : ฉลองคืนข้ามปีด้วยกันครั้งแรก เสียงจุดประทัดจุดพลุดังขึ้น ท้องฟ้าสว่างไสวตามมา เหล่าบุรุษส่งเสียงให้ชนไหสุรากันอีกหน เถียนฮูหยินปรายตามองฮูหยินเฒ่า กำลังแจกจ่ายเกี๊ยวข้ามปีให้คนบ้านใหญ่ ความจริงเกี๊ยวยังพอเหลืออยู่บ้าง แต่นางกลับไม่ยอมแจกคนบ้านรอง “ท่านแม่มอบเกี๊ยวให้น้องรองกับซีฮันด้วยเถอะ” เป็นหลินเฉินที่เอ่ยขอกับมารดา ฮูหยินเฒ่ากลอกตาใส่บุตรชายคนโตเล็กน้อย จำใจให้เกี๊ยวแก่พวกเขาคนละหนึ่งชิ้น หลินเต๋อไม่กล้าแม้แต่จะกิน เขายัดเกี๊ยวเข้าปากของภรรยาอย่างรวดเร็ว “ฮูหยินเจ้ารีบกินเร็วเข้า” “ท่านพี่” เมื่อเกี๊ยวเข้าปากนางไปแล้ว มีหรือจะคายออกมาได้ หลินซีฮันแบ่งเกี๊ยวเป็นสองชิ้นน้อย ๆ มอบให้หลินซูฮวากับหลินซือเยว่คนละชิ้น “พวกเจ้ากินเถอะข้าไม่หิว” หลินซือเยว่ไม่รับ นางดันเกี๊ยวชิ้นนั้นกลับคืนเขาไป “ข้าไม่ได้อดอยากอย่างที่ท่านย่าเอ่ยมาจริง ๆ นั่นแหละ พี่ใหญ่ท่านกินเถอะ” เพราะทุกคนมัวแต่สนใจเกี๊ยวในมือ กับเสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหว จึงไม่มีใครได้ยินคำพูดของหลินซือเยว่ เมื่อนั่งไม่ได้ต้องยืนกินเกี๊ยวกันเช่นนี
Read more

30 : วันปีใหม่

30 : วันปีใหม่ คนบ้านรองตระกูลหลินนั้น รู้สึกเหมือนได้ฝันไป เมื่อคืนพวกเขาได้กินอาหารอย่างมีความสุข ได้หลับนอนในที่อุ่นสบาย หลินซูฮวาลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงนอน นางขยี้ตาแรง ๆ นึกว่าตาฝาดไป ไม่ได้ตื่นขึ้นมาในกระโจมเหม็นอับเหมือนเช่นทุกวัน นางคลานลงจากเตียงอย่างตกใจ มองเห็นร่องรอยผ้าปูนอนที่ถูกพับเก็บอย่างดี “ซูฮวาเจ้าตื่นแล้วหรือ พี่สาวเจ้าเล่า” เถียนฮูหยินไม่ได้นอนหลับสบายมานานหลายเดือน จึงได้หลับลึกกว่าทุกคืนที่ผ่านมา “พี่รองกับป้าเผิงน่าจะตื่นแล้วเจ้าค่ะ” หลินซูฮวารีบปีนขึ้นไปบนเตียง “ท่านแม่พี่รองนางอยู่สุขสบายยิ่งนัก ทำไมนางไม่พาข้ากับท่านแม่มาอยู่ที่นี่ด้วย” เถียนฮูหยินขึงตามองบุตรสาวอย่างไม่พอใจ “เจ้าคิดว่าพี่สาวของเจ้าสุขสบายรึ เช่นนั้นเจ้าลองถูกขับไล่ออกจากตระกูล ไปอยู่ในอารามเต๋าตั้งแต่อายุห้าปีแทนนางดูสิ” หลินซูฮวาเพิ่งเคยเห็นมารดาตัวเองโกรธเช่นนี้ “ท่านแม่ข้าผิดไปแล้ว” เถียนฮูหยินจับมือบุตรสาวคนเล็กไว้ “ซูฮวาข้าไม่อยากให้เจ้าริษยาพี่สาวของเจ้า นางลำบากมาตลอดสิบปี ความลำบากของเจ้าแค่สามเดือน มีหรือจะเทียบนางได้ ยาม
Read more
PREV
123456
...
9
DMCA.com Protection Status