บททั้งหมดของ พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี: บทที่ 61 - บทที่ 70

288

บทที่ 61

นางเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็จำได้ว่าเป็นใคร “รอง รองแม่ทัพจิ่ง...”“คุณหนูเฉียว!” จิ่งเหยียนเพิ่งรู้สึกตัว รีบหันมองห้องด้านหลังเฉียวเนี่ยนทันที แล้วขมวดคิ้ว มือกำมือเฉียวเนี่ยนไว้ด้านหลังของเขา“อย่าให้ใครรู้ว่าข้าถูกจับตัวมา” นางกำชับเสียงเบาจิ่งเหยียนเข้าใจในทันที และรีบเอ่ยว่า “ข้าจะพาคุณหนูไปทางประตูหลัง”เอ่ยจบก็จะพาเฉียวเนี่ยนไปแต่แล้วเฉียวเนี่ยนก็ร้องกลั้นเสียงออกมาด้วยความเจ็บปวดเขารีบหันกลับไป พบว่าเฉียวเนี่ยนหน้าซีดเหงื่อออกเต็มหน้าผาก“คุณหนูเป็นอะไร?” จิ่งเหยียนเป็นห่วงว่าเฉียวเนี่ยนจะถูกคนร้ายทำร้ายแต่เห็นเฉียวเนี่ยนยกมือซ้ายที่ห้อยขึ้น แล้วพูดเสียงอ่อนแรงว่า “รองแม่ทัพจิ่ง มีวิธีแก้ไขหรือไม่?”อาการบาดเจ็บแบบนี้!ถึงแม้จะเคยร่วมรบกับเซียวเหิงมาแล้วมากมาย จิ่งเหยียนก็อดใจสั่นไม่ไหว เมื่อเห็นบาดแผลที่มือของเฉียวเนี่ยนถึงว่าเขาได้ยินเสียงร้องของหญิงสาวเมื่อครู่ น่าจะเป็นเพราะคุณหนูเฉียวพยายามสลัดเชือกจนกระดูกเคลื่อนสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีจนดูแย่มาก และเอ่ยเสียงทุ้มต่ำว่า "ค่อนข้างเจ็บหน่อย แม่นางเฉียวอดทนสักหน่อยนะ"เฉียวเนี่ยนพยักหน้ารับ แล้วกัด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 62

เพราะชื่อเสียงของสตรีสำคัญที่สุดแต่ยามนี้ทุกคนที่อยู่ในที่นี่ต่างรู้ดีว่าไม่เป็นความจริงเขาโค้งคำนับตอบ แล้วหันมองเฉียวเนี่ยน “เหตุใดโรงน้ำชาหยวนไหลที่หมิงอ๋องหมายถึงจึงกลายเป็นโรงน้ำชาฝูไหลไปได้”เฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ข้างๆ บาดแผลที่มือแม้จะพันแผลเรียบร้อยแล้ว แต่แค่ขยับนิ้วก็ยังคงเจ็บมากหมอประจำจวนบอกว่าแผลของนางแม้จะไม่ร้ายแรง แต่ก็ประมาทไม่ได้ อย่างน้อยไม่ควรใช้แรงหนึ่งเดือนเมื่อได้ยินคำถามของเซียวเหิง เฉียวเนี่ยนจึงลุกขึ้นยืน แล้วหันไปตอบเซียวเหิงว่า “ขณะที่ข้าได้รับจดหมาย จดหมายเขียนว่าโรงน้ำชาฝูไหล จดหมายฉบับนั้นน่าจะยังอยู่ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งของข้า”เอ่ยถึงตรงนี้ เฉียวเนี่ยนก็หันมองหลินเย่ว์หลินเย่ว์ยืนอยู่มุมหนึ่งของห้องในที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบ ราวกับกลัวว่าจะถูกใครบางคนพบเห็นทว่าตั้งแต่เขาก้าวเข้ามา เฉียวเนี่ยนก็สังเกตเห็นเขาแล้วนางค่อยๆ เดินไปหาหลินเย่ว์ “วันนี้ท่านโหวน้อยดูเงียบเป็นพิเศษ เกิดอะไรขึ้นหรือ”ฮูหยินหลินไม่เข้าใจว่าทำไมเฉียวเนี่ยนถึงมาสนใจหลินเย่ว์ ยามนี้จึงรีบเดินเข้ามาขวาง “เจ้ารอดตายมาได้แล้ว ควรนั่งพักผ่อนก่อน อย่าไปสนใจพี่ชายเลย”ทว่าเฉี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 63

หลินเย่ว์ยังคงเงียบไม่พูดไม่จาในขณะที่ฮูหยินหลินกลับเนื้อตัวสั่นเทา เดินเข้ามาหาหลินเย่ว์ทีละก้าวนางเอื้อมมือไปดึงชายเสื้อของหลินเย่ว์เบาๆ “เย่ว์เอ๋อร์ เจ้ารีบบอกน้องสาวของเจ้าสิว่าทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิด”หลินเย่ว์สีหน้าเย็นชา เงียบอยู่เช่นนั้นยิ่งเขาเงียบ ฮูหยินหลินก็ยิ่งเป็นห่วงมากขึ้นเรื่อยๆ แรงที่ดึงเสื้อของหลินเย่ว์ก็ยิ่งรุนแรงขึ้น จนในที่สุดก็กลายเป็นการผลัก“เจ้าพูดสิ! รีบพูดเร็ว!”เสียงของนางสั่นเครือปนไปด้วยเสียงร้องไห้เมื่อเห็นว่าฮูหยินหลินตื่นเต้นเช่นนั้น หลินยวนจึงรีบเข้าไปโอบกอดฮูหยินหลิน “ท่านแม่ ท่านอย่าทำเช่นนี้เลย ท่านนั่งลงแล้วให้พี่ชายค่อยๆ เล่า ข้าเชื่อว่าพี่ชายต้องมีเหตุผลแน่นอน”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฉียวเนี่ยนมองไปที่หลินยวนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อหลินเย่ว์จ้างคนมาทำลายชื่อเสียงของนาง แต่หลินยวนกลับบอกว่าลินเย่ว์ทำเช่นนั้นเพราะมีเหตุผล นี่เป็นพี่น้องอย่างไรเนี่ย?ในฐานะผู้หญิง หลินยวนจะกล้าพูดคำเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร?แต่ดูเหมือนว่าหลินเย่ว์ได้สติกลับคืนมาเพราะคำพูดของหลินยวนถึงขั้นเหลือบมองหลินยวนด้วยแววตาขอบคุณ ก่อนจะหันมองเฉียวเน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 64

"เพราะว่าเริ่มจากข้าง่ายกว่า เพราะข้าอ่อนแอกว่า""เพื่อความสุขในอนาคตของข้า เจ้าจึงจ้างชายฉกรรจ์สองคนในราคาหนึ่งพันสองเพื่อทำลายชื่อเสียงของข้า คำพูดแบบนี้ พูดออกมาแล้ว เจ้าเองรู้สึกน่าขันหรือไม่?""หลินเย่ว์ เก็บใบหน้าที่น่ารังเกียจของเจ้าไปเถิด เจ้าไม่ได้เป็นห่วงข้า แค่ไม่อยากให้ข้ายืนสูงกว่าเจ้าเท่านั้น! เจ้าไม่ได้ทำเพื่อข้าเลย เจ้าแค่เห็นข้าได้ดีไม่ได้!"เพียงไม่กี่ประโยคก็เปิดโปงมุมที่น่าเกลียดที่สุดในใจของหลินเย่ว์ออกมาแต่หลินเย่ว์ไม่ยอมรับ "ข้าจะไม่อยากเห็นเจ้าได้ดีได้อย่างไร? การแต่งงานกับหมิงอ๋องคือเรื่องดีอย่างนั้นหรือ? แม้เจ้าจะเสียชื่อเสียงแล้วจะอย่างไร มีจวนโหวหนุนหลัง เจ้ากลัวว่าภายหลังจะไม่มีใครมาขอแต่งงานอีกหรือ?"เอ่ยจบ ภายในห้องโถงก็เงียบสงบไปชั่วขณะนอกจากเสียงสะอื้นของหลินยวนที่หยุดไม่ได้แล้ว ดูเหมือนทุกคนกำลังกลั้นหายใจสายตาของเฉียวเนี่ยนมองไปรอบๆ นางเหลือบมองฮูหยินหลิน แล้วมองท่านโหวหลิน และในที่สุดก็มองหลินเย่ว์พร้อมกับหัวเราะเสียงเบา "ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านโหวหลินและฮูหยินหลินถึงเลือกที่จะใช้ชายกระโปรงข้ารักษาสถานะที่สั่นคลอนของจวนโหว"คำพูดที่เบาหวิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 65

เอ่ยจบ เฉียวเนี่ยนก็เห็นความหวาดกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินเย่ว์ชัดเจนช่างน่าขันนัก!ระหว่างที่ต้องการทำลายนาง เขากลับพูดจาหนักแน่นและมีเหตุผลบัดนี้พอเรื่องมาถึงตัวเขา กลับร้อนรนเสียอย่างนั้น!ไม่ใช่เพียงหลินเย่ว์ แต่คนในตระกูลหลินเแทบทุกคนก็ร้อนรนเช่นกันแต่ขณะนี้เอง หลินยวนที่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ตลอดเวลาก็ลุกขึ้นยืน แล้วหันไปพูดกับเฉียวเนี่ยนว่า "พี่สาว วันนี้พี่สาวลำบากมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถิด! ยามนี้ก็ดึกมากแล้ว มีเรื่องอะไรค่อยว่ากันพรุ่งนี้ดีหรือไม่?"พอได้ยินเช่นนั้น ฮูหยินหลินก็รีบพูดขึ้นมาว่า "ใช่ๆ เนี่ยนเนี่ยน ดูสิว่าดึกมากแล้ว แถมยังทำให้แม่ทัพเซียวต้องอยู่ดึกดื่นอีกต่างหาก พรุ่งนี้เช้าค่อยมาพูดคุยกันเรื่องนี้ใหม่ดีหรือไม่?"เฉียวเนี่ยนราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าในห้องโถงยังมีเซียวเหิงยืนอยู่ด้วยนางจึงหันไปมองเขาแสงเทียนในห้องโถงส่องกระทบใบหน้าเรียบเฉยของเซียวเหิง แต่ใบหน้าอันคมชัดนั้นดูเย็นชากว่าทุกวันเขามองนางอยู่เช่นกัน ดวงตามืดมนเต็มไปด้วยอารมณ์ที่นางอ่านไม่ออกแต่กลับทำให้หัวใจของนางเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกนางสูดหายใจเข้าลึกๆวันนี้ผ่านเหตุการณ์อันเลวร้าย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 66

“ใช่ๆ ๆ หลีกทางกันหน่อย!”เหล่าสาวใช้ต่างพากันพูดจาเจื้อยแจ้วกันอย่างวุ่นวายแต่ในขณะนี้เอง เฉียวเนี่ยนกลับรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกนางมักรู้สึกว่าจวนโหวแห่งนี้เย็นชานักหนาวราวกับถ้ำน้ำแข็ง มีเพียงท่านย่าเท่านั้นที่ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นใจได้แต่ท่านย่าร่างกายไม่แข็งแรง ความทุกข์และความเจ็บปวดของนางจึงไม่อาจบอกให้ท่านย่าได้รู้นางคิดว่าค่ำคืนนี้นางคงต้องอยู่คนเดียวเพื่อทำใจให้เข้มแข็งแต่ไม่คิดว่าเพียงก้าวเข้ามาในเรือนฟางเหอ หัวใจของนางก็ไม่หนาวเย็นอย่างเคยอีกแล้วแม้มือจะบาดเจ็บ แต่หนิงซวงก็ยังคงพยุงนางกลับห้องทันทีที่นั่งลงก็มีสาวใช้นำชาอุ่นมาให้ “คุณหนูคงตกใจมากแน่ๆ นี่เป็นชาสำหรับผ่อนคลายที่ข้าเพิ่งต้มเอง คุณหนูลองดื่มดู หลับพักผ่อนให้สบายพรุ่งนี้ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเองเจ้าค่ะ”“บ่าวจะไปตักน้ำอุ่นมาให้คุณหนูอาบนะเจ้าคะ”“คุณหนู ผ้าห่มก็อุ่นพร้อมแล้ว พอดื่มชาเสร็จก็ไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนให้สบายนะเจ้าคะ”งานเหล่านี้เดิมทีเป็นหน้าที่ของหนิงซวง แต่เนื่องจากวันนี้เหิงซวงก็ได้รับบาดเจ็บไปด้วย เหล่าสาวใช้คนอื่นๆ จึงอาสาทำแทนอาจเป็นเพราะเหล่าสาวใช้เอาใจใส่เกินไป เฉียวเนี่ยนรู้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 67

เฉียวเนี่ยนมีความเร็วที่รวดเร็วมาก ท่าทางที่นางกระโจนเข้าใส่หลินยวนนั้น ราวกับยามที่นางเคยกระโจนเข้าใส่เหล่านางบ่าวที่รังแกนางในอดีต ทั้งรวดเร็วและกล้าหาญ จนฮูหยินหลินรู้สึกแค่ว่ามีอะไรบางอย่างพรวดพราดผ่านไปต่อหน้า เมื่อตั้งสติได้ หลินยวนก็ถูกเฉียวเนี่ยนกดร่างไว้ข้างใต้แล้ว“อ้าก!” หลินยวนร้องเสียงดังออกมา แต่ในทันใดนั้นก็ถูกเฉียวเนี่ยนอุดปากไว้ท่านย่าอยู่ข้างในกำลังพักผ่อน นางไม่สามารถปล่อยให้หลินยวนไปรบกวนท่านย่าได้แต่ไฟในใจของนางก็ต้องระบายออกไป!เฉียวเนี่ยนใช้มือข้างหนึ่งอุดปากหลินยวนไปพร้อมกับควบคุมร่างของหลินยวนไว้ไม่ให้ขัดขืนมืออีกข้างหนึ่งก็ตบลงไปอย่างไม่ปรานีนางอยากตีหลินยวนมานานแล้วแต่ก่อนหน้านี้ นางอดทนไว้อยู่นางคิดว่าแม้หลินยวนจะน่ารังเกียจและน่าเกลียดเพียงใด แต่อาจเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวหลินยวนและคนในตระกูลหลินเป็นเลือดสายเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงปกป้องหลินยวนมากเพียงนี้ และหลินยวนก็ทำทุกอย่างเพื่อคนในตระกูลหลินก่อนเสมอแม้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำจะทำร้ายนางอย่างรุนแรง แต่เฉียวเนี่ยนก็พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ทำร้ายหลินยวนครั้งแล้วครัั้งเล่าทว่าในวันนี้ นางอดทนไม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 68

ซูมามามองดูด้วยสายตาเย็นชา พลันเห็นฮูหยินหลินวิ่งหนีไปนี่จะไปตามคนมาช่วยหรือ?กำลังครุ่นคิด จู่ๆ ฮูหยินหลินก็วิ่งกลับมาอีกครั้งเพียงแต่ครานี้ ในมือของนางถือก้อนหินก้อนโตซูมามาตกใจ ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ได้ยินเสียงท่านโหวหลินตะโกนว่า “ฮูหยินอย่า!”แต่ก็สายไปเสียแล้วก้อนหินก้อนโตตกลงไปกระแทกศีรษะของเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนรู้สึกว่าสมองของตนเองมึนงง ในหูไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย มีเพียงเสียงอื้ออึงดังก้องจนกระทั่งหยดเลือดไหลออกมาจากมุมตา ตามมาด้วยหยดที่สอง หยดที่สาม...นางจึงได้สติ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองฮูหยินหลินที่อยู่ด้านข้างฮูหยินหลินก็ตกใจ เมื่อสบเข้ากับดวงตาของเฉียวเนี่ยนที่เปื้อนเลือด นางเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง รีบโยนก้อนหินในมือทิ้ง“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น เนี่ยนเนี่ยน เจ้าฟังแม่อธิบายก่อน” เสียงของฮูหยินหลินสั่นเครืออย่างหนัก “แม่ แม่แค่อยากให้เจ้าหยุด แม่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย...”"ปัง!"ด้านหน้าเฉียวเนี่ยนมืดสนิท ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรงท่านโหวหลินเป็นคนแรกที่ตั้งสติได้ “พวกเจ้ายังยืนบื่ออยู่ทำไม! ไปตามหมอประจำจวนมาเดี๋ยวนี้! รีบพาคุณหนูเข้าไปในห้องเร็ว!
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 69

เพียงประโยคเดียวราวกับกับแทงใจดำของฮูหยินหลินเข้าไปอย่างจัง นางลืมตาโพลงขึ้นมาทันที และน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุดนางชี้ไปที่หลินเย่ว์ เสียงสั่นเครือ “ข้า...ข้าจะคิดทำร้ายเนี่ยนเนี่ยนได้อย่างไร ข้าเลี้ยงนางมาเองกับมือเลยนะ!”พูดจบก็ร้องไห้ฟูมฟายเห็นฮูหยินหลินเป็นเช่นนั้น หลินเย่ว์ก็ตกใจ รีบขอโทษทันที “ข้าพูดผิดไป ท่านแม่อย่าโกรธเลย! เป็นความผิดของข้าเอง!”เมื่อเผชิญกับคำขอโทษของหลินเย่ว์ ฮูหยินหลินเพียงหันหลังหนี ราวกับไม่อยากฟังคำพูดของเขาเมื่อเห็นเช่นนั้น หลินเย่ว์ก็คิ้วขมวดเขาเหลือบมองใบหน้าของหลินยวน แล้วเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “ที่จริงแล้วก็ต้องโทษเนี่ยนเนี่ยนเองที่ใจร้ายทำร้ายยวนเอ๋อร์ได้ลงคอเช่นนี้!”ใบหน้าอันงดงามกลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร!แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากห้องข้างๆ“หากมิใช่คุณหนูรองพูดไม่คิด ฮูหยินเฒ่าก็คงไม่เป็นหนักเพียงนี้ คุณหนูใหญ่เพียงแค่ลงโทษคุณหนูรองแทนฮูหยินเฒ่าเท่านั้น เชื่อเถอะว่าเมื่อฮูหยินเฒ่าฟื้น ก็ต้องชื่นชมคุณหนูใหญ่แน่นอน”คนที่พูดคือซูมามานางพูดพลางเดินออกมาหาทุกคน แล้วโค้งคำนับท่านโหวหลินซูมามาคือคนเก่าแก่ของจวนโหวยามนั้น นางติด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 70

ฮูหยินหลินที่อยู่ด้านข้างก็รีบออกมาห้ามปรามว่า “นายท่าน ยวนเอ๋อร์แค่ประสงค์ดีแต่กลับกลายเป็นร้าย ท่านดูเนี่ยนเนี่ยนตีนางจนหน้าบวมขนาดนี้ ท่านจะลงโทษนางลงได้อย่างไร”ท่านโหวหลินมองไปยังครึ่งหน้าที่บวมแดงของหลินยวน แล้วนึกถึงยามที่หลินยวนกลับมาเมื่อสามปีก่อน ผอมแห้งจนน่าตกใจแทบจะเป็นหนังหุ้มกระดูกเลยทีเดียวนางเป็นลูกสาวที่พวกเขาพลัดพรากกันมาสิบห้าปี ในช่วงสิบห้าปีนั้น นางต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย!ถูกแล้ว เขาจะใจแข็งลงโทษนางได้อย่างไรกัน?หายใจเข้าลึกๆ ท่านโหวหลินจึงหันไปมองที่หลินเย่ว์ทันใดนั้นก็ไม่รอช้า เตะไปที่หลินเย่ว์ทันที “ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าลูกชายตัวดีที่ก่อเรื่องวุ่นวาย!”แต่ครานี้ หลินเย่ว์ราวกับเตรียมตัวมาล่วงหน้า หลบได้อย่างว่องไวท่านโหวหลินเตะไม่โดน ยังจะเตะต่อ แต่หลินเย่ว์ก็รีบหลบไปหลังฮูหยินหลินทันที “ท่านแม่! เมื่อวานข้าโดนท่านพ่อเตะ ยามนี้หน้าอกยังเจ็บอยู่เลย หากโดนเตะอีก ต้องตายแน่!”ถูกฮูหยินหลินบังไว้ ท่านโหวหลินจึงต้องชักเท้ากลับมองฮูหยินหลินที่ดูเหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็พูดไม่ออก เขารู้ดีว่าฮูหยินหลินจะขอร้องให้ช่วยหลินเย่ว์ท่านโหวหลินจึงทำหน้า
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
56789
...
29
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status