ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม의 모든 챕터: 챕터 141 - 챕터 150

380 챕터

บทที่ 141

หญิงวัยกลางคนเดิมทีตั้งใจจะจัดการกับเด็กหนุ่มก่อน แล้วค่อยกลับมาจัดการกู้ชูหน่วน แต่ปรากฏว่าคำพูดของกู้ชูหน่วนฟังไม่เข้าหู นางจึงเปลี่ยนใจทันที"สาวน้อยปากดีนักนะ เอากระดิ่งภินวิญญาณมาให้ข้า ข้าอาจให้เจ้าตายอย่างสงบ แต่หากไม่ เจ้าจะจมกองเลือด""ข้าเป็นคนที่ใครก็มาข่มขู่ได้อย่างนั้นหรือ?" กู้ชูหน่วนเลิกคิ้วย้อนถาม"เหอะ เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา"หญิงวัยกลางคนส่งเสียงเหยียดหยาม นางเหยียบปลายเท้าเบาๆ แล้วปลดปล่อยหัตถ์โลหิตออกไปโจมตีกู้ชูหน่วนกู้ชูหน่วนพิงกำแพงไว้ กอดอก ยืนสงบนิ่ง ราวกับมั่นใจว่าเด็กหนุ่มต้องมาช่วยนางแน่ๆและก็เป็นอย่างที่นางคิด ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังถูกเหล่านักฆ่าล้อมอยู่ เขาก็ยังสามารถเตะหม้อเหล็กจากร้านตีเหล็กไปขวางการโจมตีของหญิงวัยกลางคนได้ทันหม้อเหล็กสัมผัสกับหัตถ์โลหิตแล้วละลายทันทีแม้แต่เหล่านักฆ่าชุดดำก็ตกตะลึงพลังปีศาจโลหิตแข็งแกร่งมากสามารถละลายหม้อเหล็กได้ในพริบตา พลังภายในต้องแข็งแกร่งเพียงใดเด็กหนุ่มเบิกตากว้าง ไม่คาดคิดว่าพลังปีศาจโลหิตของหญิงวัยกลางคนจะร้ายกาจขนาดนี้ เขาอยากจะไปช่วยกู้ชูหน่วน แต่ถูกล้อมไว้ ชายแคระก็พุ่งเข้ามาโจมตีเขาไม่หยุด แทบอ
더 보기

บทที่ 142

"ปัง..."เสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับระเบิดกลางอากาศดังขึ้นอีกครั้งหญิงวัยกลางคนงถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าซีดเผือก เด็กหนุ่มกระอักเลือดออกมาหนึ่งอึก อวัยวะภายในปั่นป่วนอย่างรุนแรง หากไม่เกาะผนังไว้ คงล้มลงไปแล้ว“เจ้ากล้าใช้การต่อสู้แบบแลกชีวิตมาสู้กับข้าอย่างนี้หรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากสู้กันต่อ ข้าอาจไม่ตาย แต่เจ้าต้องตายแน่”“แค่ชีวิตสกปรกโสโครก ตายไปก็ตายไป” เด็กหนุ่มพยายามกลืนเลือดที่ค้างอยู่ในคอลง ให้ตัวเองดูเป็นปกติมากที่สุดหญิงวัยกลางคนตะคอก “ตกลงนางกับเจ้าเป็นอะไรกันแน่?”“ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น แค่ไม่อยากให้เจ้าได้กระดิ่งภินวิญญาณนั่น”“ดีมาก บัญชีนี้พวกข้าเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานจะจดจำไว้ เจ้าจงรอรับการล้างแค้นอย่างบ้าคลั่งของพวกข้าได้เลย”หญิงวัยกลางคนเบิกตาจ้องกู้ชูหน่วนและเด็กหนุ่ม ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง สุดท้ายก็ไม่รู้ว่านึกถึงอะไรจึงจากไปด้วยความแค้นหลังนางจากไป เด็กหนุ่มก็รีบกุมหน้าอกแน่น กระอักเลือดออกมาอีกหนึ่งอึกใหญ่ ขาของเขาคุกเข่าลงไปโดยไม่รู้ตัว ราวกับกำลังแบกรับความเจ็บปวดอันแสนสาหัส"ไม่เป็นไรใช่หรือไม่"กู้ชูหน่วนทิ้งเมล็ดแตงโม แล้วเดินไปหาเขา"ปัง
더 보기

บทที่ 143

กู้ชูหน่วนกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา "เป็นพวกเจ้าเองที่พาข้าวิ่งมาตลอดทาง และมองข้าเป็นหญิงผู้อ่อนแอที่ไม่มีทางสู้ แล้วข้าจะไม่ตอบสนองความต้องการแบบผู้ชายเป็นใหญ่ของพวกเจ้าได้อย่างไร""…"เซียวอวี่เชียนโกรธจนตัวสั่นเด็กหนุ่มก็สีหน้าไม่สู้ดีมีดาบจำนวนมากขนาดนี้ หมายความว่าพวกเขาโดนฟันอย่างเปล่าประโยน์เมื่อเห็นว่ามีคนกลุ่มใหม่ล้อมพวกเขาเข้ามา กู้ชูหน่วนก็หรี่ตาลง มุมปากยกขึ้นยิ้มเยาะ "ตัวเอกมาแล้ว"ในขณะที่เซียวอวี่เชียนและเด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น ทั้งคู่ก็แข็งทื่อดวงตาเย็นชาของเด็กหนุ่มหรี่ลงทันที หายใจหนักขึ้น ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยกู้ชูหน่วนมองออกเขากำลังกลัว กลัวคนกลุ่มนี้เซียวอวี่เชียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง "หน้ากากกะโหลก พวกเจ้าเป็นคนของสิบสองกองธงแห่งเผ่าหมอใช่หรือไม่?เผ่าหมอ?เหอะ โลกยุทธภพมีเผ่าหมอด้วยหรือ?กู้ชูหน่วนพิจารณาอีกฝ่ายอย่างละเอียดแต่กลับพบว่าอีกฝ่ายมีเพียงสามสิบหกคนเท่านั้น แต่ละคนถือธงบุปผา และสวมเสื้อคลุมสีดำ ใบหน้าปิดด้วยหน้ากากกะโหลกศีรษะหัวหน้าคือชายหนุ่มวัยยังน้อย ผู้ซึ่งไม่ได้สวมหน้ากาก ใบหน้าดูหล่อเหลา แต่แววตากลับเผยความโหดเหี้ยมเป็นระยะ
더 보기

บทที่ 144

ก่อนที่เด็กหนุ่มจะตอบ กู้ชูหน่วนก็ลูบคางพลางเอ่ยอย่างใจเย็นว่า “ด้วยความสามารถของเจ้า เจ้าคงคิดว่าการตัดแขนขา ควักตา และตัดหูของข้าคงง่ายดายราวกับบี้มดตัวหนึ่งใช่หรือไม่? ถ้าเช่นนั้น ทำไมเจ้าถึงต้องลำบากเขาด้วย?”“หรือว่าเขามีเรื่องบาดหมางกับเจ้า เจ้าเลยเกลียดเขา? จุ จุ จุ ดูท่าทางของเขาสิ ช่างน่าสงสารเสียจริงๆ ข้าว่าคงไม่กล้าเป็นศัตรูกับเจ้าหรอก ให้ข้าเดานะ เจ้าคงอิจฉาเขามากกว่า อิจฉาที่เขามีหน้าตาหล่อเหลากว่าเจ้า หรืออาจอิจฉาที่เขาได้ดิบได้ดีในเผ่าหมอมากกว่าเจ้า เลยคิดแผนทรมานเขา”ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนพูดสีหน้าของเจียงซวี่ก็ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ แววตาที่โหดเหี้ยมก็ยิ่งรุนแรงขึ้น“ดูเหมือนข้าจะเดาถูกนะ” กู้ชูหน่วนมองเด็กหนุ่มราวกับสงสารเขา“ลองดูตัวเองสิ ติดตามนายอะไรเนี่ย กลับตัวกลับใจเถิด เจ้าปกป้องข้าจนโดนแทงมาขนาดนี้ ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี”เด็กหนุ่มไม่แม้แต่จะมองกู้ชูหน่วน แค่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆเจียงซวี่หัวเราะลั่นทันที “เดาถูกแล้วจะอย่างไร ข้าแค่ต้องการเห็นเขาทรมาน เขาใจดีนักมิใช่หรือ ข้าอยากจะดูว่า เพื่อให้มีรอดชีวิต เขาจะยอมฆ่าเจ้าหรือไม่”“ข้าขอเดาเพิ่มนะ คงเป็นครั้งแรกที่เจ้
더 보기

บทที่ 145

เจียงซวี่มองลงมาที่นางด้วยสายตาเหยียดหยามกู้ชูหน่วนล้วงหากระดิ่งภินวิญญาณในอกพลางเอ่ยด้วยท่าทางเฉยเมยว่า "พวกเจ้าต้องการกระดิ่งภินวิญญาณนี้ใช่หรือไม่ ข้าให้พวกเจ้าก็ได้ ไม่เห็นมีประโยชน์กับข้าอยู่แล้ว"เอ่ยจบ นางก็เหวี่ยงกระดิ่งภินวิญญาณไปข้างหน้าทันที"ฟึบ ฟึบ ฟึบ..."เผ่าหมอต่างแย่งชิงกระดิ่งภินวิญญาณ ขณะเดียวกัน กู้ชูหน่วนก็หรี่ตาลงและเหวี่ยงเข็มเงินนับสิบเล่มไปยังเหล่ากองธงของฝ่ายตรงข้ามที่ล้อมพวกนางไว้ จากนั้นก็เหวี่ยงเซียวอวี่เชียนออกไปด้วยมือเดียว"ไป""ยัยขี้เหร่ ข้าไม่ไป""หยุดพล่ามได้แล้ว กลับไปเรียกคนมาช่วยเร็ว""ปัง..."กล่องไม้ดำตกลงพื้นเสียงดังสนั่น ทำให้เหล่ากองธงที่อยู่ใกล้ได้รับบาดเจ็บหลายคนเจียงซวี่ก็ถูกควันโขมงไปด้วยเขาตะคอกด้วยความโกรธ “สาวน้อย! กล้าหลอกข้า!”“อุ๊ย! ขอโทษด้วย โมโหไปหน่อย เผลอโยนของผิดไป”“จับตัวนางไว้! ข้าจะฉีกนางเป็นชิ้นๆ!”ไม่รอให้เจียงซวี่พูดจบ เหล่ากองธงก็ปิดล้อมกู้ชูหน่วนไว้แล้ว พวกเขารีบโบกธงที่มีลวดลายของดอกกล้วยไม้ใส่กู้ชูหน่วนธงของพวกเขาไม่ได้ทำจากผ้า แต่เป็นใบมีดบางๆ ราวกับฟันอันแหลมคม เมื่อถูกฟาดด้วยธงนี้ ย่อมต้องตายคาท
더 보기

บทที่ 146

ชายชราคำรามเดือดดาล ส่งกำลังภายในผ่านฝ่ามือพุ่งไปยังกู้ชูหน่วนฝ่ามือนั่นมีกำลังภายในอยู่แปดส่วน ดูท่าแล้วคงไม่คิดเอาชีวิตกู้ชูหน่วนเซียวอวี่เชียนเจ็บหนักอาการร่อแร่ เอาตัวเองแทบไม่รอดกู้ชูหน่วนเองก็ถูกสมุนอื่นล้อมไว้จนไร้ทางหนี หมายจะหลบหลีกฝ่ามือนั้นช่างยากนักแต่หากจะโต้กลับ ตัวเองก็ไม่มีกำลังภายในแล้ว คนที่เจ็บย่อมต้องเป็นนางคนหนุ่มก้าวถอยหลัง หมายจะยื่นมือเข้าไปช่วยทันใดนั้นเอง ฝ่ามือทีทรงพลังยิ่งกว่าก็พุ่งเข้ามาจากไกลลิบ"ปึ้ก..."สองฝ่ามือปะทะกัน พื้นดินสะท้านทรุดเป็นหลุมกว้างร่างของทุนคนต่างโงนเงน แทบยืนไม่อยู่ขณะเดียวกันเงาคนหลายสิบก็กระโดดตามลงมา กันยอดฝีมือเผ่าหมอที่ล้อมกู้ชูหน่วนชายชราตกใจไม่น้อย "สำนักซิวหลัว"เจียงซวี่เองก็ตกใจไม่แพ้กันสำนักซิวหลัวคือหนึ่งในสำนักลับสุดยอดแห่งยุทธภพ แต่ไหนแต่ไรมามิเคยเปิดเผยใบหน้าให้เห็นง่ายๆ และไม่ลงรอยกับเผ่าหมอ แต่ยามนี้กลับปรากฏตัวขึ้น ทั้งยังช่วยเหลือกู้ชูหน่วนอีก หรือว่าพวกก็ต้องการกระดิ่งภินวิญญาณเหมือนกัน?เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอกไม่ว่าสำนักซิวหลัวจะมีเป้าหมายอะไร อย่างน้อยก็ช่วยชีวิตกู้ชูหน่วนเอาไว้กู
더 보기

บทที่ 147

เจียงซวี่เอ่ยเสียงขุ่น "ประมุขชิง ท่านให้ท้ายลูกน้องเพียงนี้เลยหรือ?"ประมุขชิงควงขลุ่ยอย่างเพลิดเพลิน ภายในแววตาเอื่อยเฉื่อยนั้นแฝงไปด้วยความเย็นชาที่ยาจะสังเกตเห็น น้ำเสียงของเขาไพเราะรื่นหู เหมือนดังเสียงน้ำพุ ทว่าถ้อยคำที่เอ่ยออกมากลับทำเอาเจียงซวี่โมโหจนแทบกระอักเลือด"ลูกน้องข้าตรงไปตรงมา ไม่ปลิ้นปล้อนเหมือนใครบางคน ใช้อำนาจรังแกคน เจ้าตำหนักเจียงเห็นว่าเขาควรแก้ไขหรือไม่?""สะ... สำนักซิวหลัวของพวกเจ้ามิอาจล่วงเดิน เผ่าหมอของพวกข้าก็มิอาจล่วงเกินเช่นกัน ต่อให้ต้องตายกันไปข้างหน้า พวกเจ้าก็ไม่มีทางไ้ด้อะไรกลับไป""ด้วยฝีมือเจ้าน่ะหรือ? หากอยากตายก็รีบตายไปเถิด ของบางอย่างต้องเอาคืนทั้งต้นทั้งดอก""หมายความว่าอย่างไร?""พูดอย่างไรก็หมายความเช่นนั้น"ไม่รอให้เจียงซวี่ตั้งสติ เหรินหู่ก็เควี้ยงค้อนเหล็กหนักหนึ่งร้อยชั่งออกไปเป็นการทักทายหากสองคนข้างกายเจียงซวี่หูหาไม่ไวพอ ตั้งรับได้ทันท่วงที เกรงว่าเจียงซวี่คนถูกค้อนเหล็กทุบตายไปแล้วทั่งสองฝั่งตะลุมบอนกันบรรดาเผ่าหมอที่เดิมแสนน่าเกรงขาม ไม่อาจประมาณฝีมือมือได้ เมื่อพบกับคนจากสำนักซิวหลัวกลับถูกซัดจนหมอบเหรินหู่และฝูกวง
더 보기

บทที่ 148

หญิงนางนี้ บ้าไปแล้วเหรินหู่วิ่งโทกเทกเข้ามา ฉีกยิ้มเอ่ย "ค้อนเหล็กของข้านี้ ช่างเหล็กชื่อดังใช้เหล็กดำตีขึ้นมา เจ้าชอบหรือไ่ม่ หากเจ้าชอบ ข้าก็จะยกให้เจ้า"กู้ชูหน่วนรังเกียจเหลือหลาย "ทั้งหนักทั้งเทอะทะ เจ้าเก็บไว้เองเถิด"เมื่อนึกถึงภาพที่เหรินหู่ฟาดคนเผ่าหมอตายเป็นเบือเมื่อครู่นี้ เซียวอวี่เชียนก็ชักกลัวขึ้นมา ร่างแข็งเกร็งอย่างห้ามไม่อยู่ กลัวว่าเหรินหู่จะค้อนทุบนางตายเอาในพริบตาแต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ นอกจากเหรินหู่จะไม่โกรธแล้ว ยังยิ้มแก้เก้อพลางเอ่ยอีก "นั่นสิ เจ้าเป็นหญิงจะถือค้อนเหล็กเช่นนี้ก็ไม่งามจริงๆ เช่นนั้นข้าให้คนทำค้อนเหล็กน้อยให้เจ้าไหม"เฮ้ย...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?สำนักซิวหลัวคุยกันง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือ?กู้ชูหน่วนเมินเหรินหู่เสียดื้อๆ เดินมาหยุดอยู่หน้าฝูกวง"เจ้าชื่ออะไรรึ?""ฝูกวง ฝูที่แปลว่าสะท้อน กวงที่แปลว่าแสงสว่าง" ทั้งยังเป็นชื่อที่เจ้าสำนักของพวกเขาตั้งให้ ผ่านมาหลายปี แค่คนในสำนักยังคงอิจฉาที่เจ้าสำนักตั้งชื่อให้เขาจนถึงทุกวันนี้"ฝูกวง เป็นชื่อที่ไพเราะนัก แสงสว่างที่สาดส่องโลก"ฝูกวงตัวสั่น ขอบตาแดงก่ำอย่างห้ามไม่อยู่แสงสว่างที่สาดส่องโลก...
더 보기

บทที่ 149

เหรินหู่วิ่งตามเข้ามา เอ่ยเสียงตื่นเต้น "คุณหนูสาม ท่านว่าข้าเป็นองครักษ์ลับของท่านได้หรือไม่? ฝีมือข้าก็ไม่แพ้ฝูกวง แค่ค้อนเดียวก็ฝาดคนตายได้เป็นเจ็ดแปดคนเชียวนะ"กู้ชูหน่วนกวาดตามองร่างบึกบึนของเขา มุมปากพลันกระตุก "เจ้าอ้วนเกินไป ข้าเลี้ยงไม่ไหวหรอก""ท่านไม่ต้องเลี้ยงข้า ข้าเลี้ยงตัวเองได้""พอได้แล้ว เจ้าคิดว่าที่สำนักว่างมากหรือไร" ประมุขชิงเอ่ยเสียงเย็น"แต่ว่า... แต่ว่า...""กลับมาได้แล้ว"เหรินหู่ไม่พอใจนัก แต่ไม่กล้าขัดขืน ทำได้เพียงมองฝูกวงที่ใบหน้ายิ้มแย้มด้วยสายตาอิจฉา"คุณหนูสาม แล้วพบกันใหม่""เดี๋ยวก่อน เหตุใดพวกเจ้าถึงช่วยข้า"ประมุขชิงยิ้มละมุนดุจลมวสันต์ คนไม่รู้คงนึกว่าเขาเป็นบัณฑิตคงแก่เรียนอ่อนปวกเปียก"อาจเป็นเพราะมีวาสนาต่อกันกระมัง สำนักซิวหลัวนั้นให้ความสำคัญกับคำว่าวาสนานัก"กู้ชูหน่วนอยากจะถามต่อ ทว่าบรรดาคนจากสำนักซิวหลัวกลับหายไปในพริบตาพวกเขามาเร็วไปเร็ว เร็วเสียจนมองไม่ทันด้วยซ้ำว่าไปทางไหนในตรอกที่เมื่อครู่คนแน่นไปหมด ยามนี้เหลือเพียงนาง เซียวอวี่เชียน และฝูกวง แม้แต่ชายหนุ่มพวกนั้นหายไปตอนไหน พวกนางเองก็ไม่รู้ลมหนาวพัดผ่าน กลิ่นคาวเลือ
더 보기

บทที่ 150

"ข้าไม่เป็นไร แค่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้พักผ่อน กลางคืนนอนสักหน่อยก็หายแล้วขอรับ""เจ้านี่นะ ยังหนุ่มยังแน่น ทำงานเยอะปานนี้ สักวันจะเหนื่อยตายเอา เอาล่ะๆ ข้านวดแป้งเอง อย่างไรวันนี้ลูกค้าก็ไม่มาก เจ้ากลับไปพักผ่อนเถิด ข้าให้ค่าแรงเท่าเดิม"เจ้าของร้านแย่งงานเขาทำ แต่เยี่ยเฟิงปฏิเสธ "เวลานี้ถึงข้ากลับไปนอนก็นอนไม่หลับ สู้อยู่ช่วยงานดีกว่า""เจ้าเด็กคนนี้ ทำให้เขาปวดใจเก่งจริงๆ ว่าแต่อาการป่วยย่าเจ้าดีขึ้นบ้างหรือไม่? ข้าได้ยินมาว่ามีหมอพเนจรมาเยือนทางทิศเหนือของเมือง ฝีมือดีนัก หากย่าเจ้ายังอาการไม่ดีขึ้น บางทีลองให้หมอคนใหม่รักษาดูอาจจะหายก็ได้ "มือของเยี่ยเฟิงชะงักลง แววตาเฉยชาพลันเป็นประกาย "หมอพเนจรทางเหนือของเมืองหรือขอรับ?""ใช่แล้ว ได้ยินมาว่ารักษาคนพิการมาหลายคนแล้ว เพื่อนบ้านข้าไปหาหมอมาไม่รู้กี่คน หูหนวกรักษาไม่หาย แต่พอหมอคนนั้นรักษา กินยาไม่กี่ชุด ยาออกฤทธิ์ก็หายทันที เจ้าว่าวิเศษหรือไม่?""ไม่รู้ว่าหมอท่านนั้น... ค่ารักษาแพงหรือไม่?" ยามเยี่ยเฟิงเอ่ยถาม ท่าท่างระแวดระวัง ทั้งยังดูประหม่า"ไม่แพง ไม่แพงเลย เพื่อนบ้านข้าจ่ายแค่หนึ่งร้อยอีแปะ""หนึ่งร้อยอีแปะ... ไม่แพงจริง
더 보기
이전
1
...
1314151617
...
38
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status