All Chapters of ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม: Chapter 161 - Chapter 170

380 Chapters

บทที่ 161

เย่จิ่งหานเลิกคิ้ว "ทำไม ข้าจะไปไหนต้องบอกเจ้าด้วยหรือ"นางผู้นี้ ช่วยเหลือนางแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่ขอบคุณสักคำ ยังคิดจะไล่เขาไปอีก"ได้ที่ไหนกันเล่า เพียงแต่ท่านผู้มีอำนาจใหญ่โตมาอยู่ในสำนักบัณฑิตเช่นนี้ ดูสิ ทำพวกเขาตกใจกลัวกันหมด แล้วพวกเขาจะมีกะจิตกะใจเรียนได้อย่างไร ข้าช่วยท่านสร้างกุศลอยู่หรอกนะ"กู้ชูหน่วนชี้ไปยังเหล่านักเรียนที่นั่งคุกเข่าตัวสั่นอยู่เต็มสำนักบัณฑิต สายตาแฝงไว้ด้วยความหยอกเย้าเซียวอวี่เชียนและคนอื่นๆ คิดว่าเทพสงครามไม่มีทางยอมกลับไปง่ายๆ แน่ คิดไม่ถึงว่าเย่จิ่งหานเพียงแค่โบกมือ ชิงเฟิงก็เข้าใจในทันที พลันเข็นรถเข็นออกไปจากสำนักบัณฑิตหลวงทิ้งไว้เพียงแค่ประโยคเรียบๆ ประโยคเดียว "หากคืนนี้ไม่กลับจวนอีก เจ้าคอยดูแล้วกันว่าสี่เท้าของเจ้า จะยังเก็บรักษาไว้ได้อยู่หรือไม่"เอ๊ะ...เทพสงครามกลับไปง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือเขามาที่นี่แค่เพื่อช่วยยัยขี้เหร่จริงๆ หรือย้อนนึกถึงท่าทีที่เทพสงครามมีต่อกู้ชูหน่วนหลายๆ ครั้ง เซียวอวี่เชียนเหมือนจะพอเข้าใจแล้วว่า บางทีเทพสงครามอาจจะไม่ได้พูดยากอย่างที่คิดส่วนกู้ชูหน่วนกลับกระตุกมุมปากเบาๆสี่เท้า ?ว่านางเป็นสุนัขเช่นนั้น
Read more

บทที่ 162

ผ่านไปแสนนาน ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนตะโกนออกมาก่อนว่าเพลงดี ถึงได้เรียกสติทุกคนกลับมาได้ทุกคนมองเยี่ยเฟิงด้วยความตกตะลึงไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึง เขารอบรู้ปรีชาก็พอว่า แต่ยังเล่นฉินได้ไพเราะถึงเพียงนี้อีกทุกคนในสำนักบัณฑิตต่างพากันกระซิบกระซาบ"ฝีมือการบรรเลงฉินของเยี่ยเฟิง หากเทียบกับอาจารย์ซ่างกวาน เรียกได้ว่าสูสีกันเลยทีเดียว""ก็ใช่น่ะสิ ข้าไม่เคยได้ยินผู้ใดบรรเลงฉินได้จับใจเช่นนี้มาก่อน ทำเอาใจข้าแตกเป็นเสี่ยงแล้ว เหตุใดเสียงฉินของเขาถึงได้เศร้าสลดเพียงนั้น""ข้าคิดว่าฝีมือฉินของคุณหนูสองกู้ดีมากแล้วเสียอีก ยามนี้พอเทียบกับเยี่ยเฟิง ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย น่าเสียดายที่การประลองศิลปะไม่มีการแข่งประลองฉิน ไม่เช่นนั้นเยี่ยเฟิงจะต้องชนะแน่"สีหน้าของกู้ชูอวิ๋นมืดดำนางเสียสิทธิ์ในการร่วมประลองศิลปะไป เดิมตั้งใจจะมีชื่อเสียงกระฉ่อนเมืองหลวงด้วยสิ่งนี้ คิดไม่ถึงว่ากลับถูกเยี่ยเฟิงเอาชนะเสียได้เขาก็แค่บัณฑิตยากจนผู้หนึ่ง เหตุใดจึงได้เล่นฉินได้ดีถึงเพียงนี้ที่ผ่านมา ไม่ว่านางจะยืนอยู่ที่ใดก็ล้วนแต่เจิดจรัสดึงดูดสายตาที่สุดเสมอ ยามนี้นางกลับถูกด้อยค่าลงไปครั้งแล้วครั้งเล่าขืนเ
Read more

บทที่ 163

กู้ชูหน่วนแบ่งยาเป็นสองส่วน กินไปครึ่งเม็ด อีกครึ่งเม็ดบดเป็นผงแล้วทาบนใบหน้านางส่องกระจก เห็นตุ่มหนองบนใบหน้าของตนในกระจกค่อยๆ จางหายไปอย่างรวดเร็ว มองดูไม่ได้น่ารังเกียจขนาดนั้นแล้ว ผิวก็ดูฉ่ำวาวขึ้นกว่าเดิมเพียงแต่รอยแผลเป็นน่ากลัวที่สลับทับกันราวกับเนินเขายังคงอยู่หากไม่กำจัดรอยแผลเป็นเหล่านี้ ใบหน้าของนางก็ยังคงอัปลักษณ์สุดจะมองเหมือนเดิม"เห็นทีต้องรีบคิดวิธีหาหญ้าตี้อวี้ให้เจอแล้ว"กู้ชูหน่วนผลักประตูห้องออกมาด้วยความหงุดหงิด แล้วสูดอากาศที่บริสุทธิ์เดิมทียังพอมีความหวังว่า ขาดตัวยาไปตัวเดียวอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ นางคงจะฝันหวานเกินไป"ยัยขี้เหร่ ในที่สุดก็หาเจ้าเจอ เจ้ามาแอบอยู่ตรงนี้ด้วยเหตุใด นี่ก็ใกล้จะยามจื่อแล้ว เจ้ายังไม่รีบกลับจวนหานอ๋องอีก หากเทพสงครามตัดขาเจ้าขึ้นมาจริงๆ จะทำเช่นไร"เขาจะกล้าตัดหรือเว้นเสียแต่ว่าเขาไม่ต้องการถอนพิษแล้วกู้ชูหน่วนบิดขี้เกียจ ก่อนจะพูดนิ่งๆ "ดึกขนาดนี้แล้วหรือ เจ้าบาดเจ็บ ทำไมยังไม่กลับไปพักผ่อนอีก""ไม่ใช่เพราะห่วงเจ้าหรืออย่างไร เจ้านี่เป็นสตรีที่ทำสิ่งใดก็ไม่ได้ความเอาเสียเลย"กู้ชูหน่วนกอดคอเข
Read more

บทที่ 164

เจ้าสำนักนอนจมกองเลือด ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเบิกกว้าง ราวกับค้นพบความลับสำคัญบางอย่าง ตายตาไม่หลับ ถูกใครบางคนปาดคอเงยขึ้นไปมองรอบๆ หอสมุดอีกครั้ง ไร้ซึ่งร่องรอยการต่อสู้โดยสิ้นเชิง หากทายไม่ผิด น่าจะถูกคนข้างกายที่ไว้ใจเป็นอย่างยิ่งหรือคนที่ไม่เคยระแวงสงสัยฆ่าอาจารย์หรงร้องคำราม "เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ วันนี้ผู้ใดเฝ้ายามตอนดึกที่หอสมุด เจ้าสำนักวิทยายุทธล้ำเลิศถึงเพียงนั้น จะถูกคนปาดคอได้อย่างไร"บ่าวที่เฝ้ายามช่วงดึกขาอ่อน ตอบเสียงสั่น "เรียน...เรียนอาจารย์หรง หลังจากที่เจ้าสำนักมาถึงหอสมุด ก็บอกว่าตกดึกน้ำค้างลง ให้พวกเราไม่ต้องเฝ้ายาม กลับไปพักผ่อนได้เลย พวกเรา...พวกเราก็เลยกลับไป""เหลวไหล เจ้าสำนักให้พวกเจ้ากลับไป พวกเจ้าก็กลับเช่นนั้นหรือ พวกเจ้าไม่รู้จักเฝ้าจากไกลๆ หรืออย่างไร"เห็นอาจารย์หรงกำลังจะระเบิดอารมณ์ อาจารย์สวีจึงกล่าวเตือน "เจ้าสำนักใจดีมีเมตตา ที่ผ่านมาก็ให้บ่าวที่เฝ้ายามช่วงดึกกลับไปพักอยู่บ่อยๆ ใครจะคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ ท่านก็อย่าโทษพวกเขานักเลย"หลังจากที่อาจารย์ซ่างกวานตรวจสอบศพของเจ้าสำนักจนทั่วแล้วรอบหนึ่ง จึงเอ่ยถามเสียงขรึม"เมื่อครู่เกิดเหตุอั
Read more

บทที่ 165

ณ ห้องควบคุมตัวเยี่ยเฟิงอยู่ในชุดเนื้อผ้าหยาบ หลังเหยียดตรง ยืนเงียบๆ อยู่ตรงกลางรอรับการพิจารณาคดีจากสำนักบัณฑิตหลวงใบหน้าของเขาซีดขาว ไม่รู้ว่าเพราะได้รับบาดเจ็บหรือเพราะป่วยอาจารย์หรงเอ่ยเสียงกร้าว "เยี่ยเฟิง เจ้าฆ่าเจ้าสำนักใช่หรือไม่"เยี่ยเฟิงดวงตาใสสว่าง ไม่จำเป็นต้องหยุดคิดก็ตอบออกมาทันที "ไม่ใช่""พยานก็อยู่ครบ เจ้ายังกล้าแก้ตัว" อาจารย์หรงโยนผ้าคาดผมเส้นหนึ่งลงตรงหน้าเยี่ยเฟิงเนื้อผ้าของผ้าคาดผมเส้นนั้นหยาบกระด้าง และเป็นเส้นที่เขาใช้บ่อยๆ ก่อนจะเข้ามาในสำนักบัณฑิตหลวงสำนักบัณฑิตหลวงที่กว้างใหญ่มีเพียงแค่เขาผู้เดียวที่ใช้ผ้าคาดผมอัตคัดเช่นนี้"วันนี้กู้ชูหน่วนดึงแขนเสื้อเจ้าขาด แล้วก็ดึงผ้าคาดผมของเจ้าขาดเป็นท่อน ตอนเจ้าไปเปลี่ยนชุด เจ้าก็เปลี่ยนผ้าคาดผมด้วย ตอนนั้นเจ้าใช้ผ้าคาดผมเส้นนี้พอดี"สายตาเฉยชาของเยี่ยเฟิงมองไปยังผ้าคาดผมที่คุ้นเคยบนพื้น ไม่ได้ปฏิเสธทุกคนต่างก็มองไปยังผ้าคาดผมบนศีรษะของเยี่ยเฟิง ผ้าคาดผมเส้นนั้นเรียบง่ายเหมือนกัน เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เส้นเดียวกับที่ใช้ตอนค่ำ"พูดมา เหตุใดเจ้าถึงได้ฆ่าเจ้าสำนัก" อาจารย์หรงเอ่ยถามอีกครั้งเยี่ยเ
Read more

บทที่ 166

"ข้าก็เชื่อเจ้า"สิ่งที่ยิ่งทำให้เยี่ยเฟิงตกตะลึงคือ ยามนี้ เซียวอวี่เชียนที่คอยตั้งตัวเป็นอริกับเขาก็ออกมาปกป้องเขาด้วย เขามีบาดแผลเต็มตัว มือข้างหนึ่งถูกพันด้วยผ้าพันแผลที่คล้องอยู่บนคอ ทว่ากลับส่งยิ้มมาให้เขา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเชื่อใจ"เพราะเหตุใด...""เพราะพวกเราเป็นเพื่อนกันอย่างไรเล่า"ทันทีที่ได้ยินคำว่าเพื่อน เยี่ยเฟิงก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ราวกับบางส่วนภายในจิตใจพังทลายเขาไม่มีเพื่อนตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่เคยมีเพื่อนเลยเขา...ไม่มีใครคบ...ทุกคนตรงหน้าในยามนี้ล้วนแต่พุ่งเป้ามาที่เขา พวกเขาไม่ต้องเข้ามาแปดเปื้อนด้วยก็ได้ดวงตาที่ปกคลุมไปด้วยความหนาวเย็นของกู้ชูหน่วนกวาดไปยังผู้คนที่อยู่ตรงนั้น ริมฝีปากแดงเอื้อนเอ่ย "พวกเจ้าบอกว่าเยี่ยเฟิงเป็นคนฆ่า หากเขาฆ่าจริง เช่นนั้นเหตุใดถึงกลับมา"ทุกคนชะงักงันทันใดนั้นเองก็มีคนตอบ "ที่เขาเข้ามาในสำนักบัณฑิตจะต้องมีเป้าหมายแน่ ยามนี้เป้าหมายนั่นอาจยังไม่บรรลุง จึงกลับมาอีกครั้ง""อ่อ เช่นนั้นเขามีเป้าหมายใด" กู้ชูหน่วนเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความตักเตือนคนผู้นั้นอึกอักอยู่นาน กลับพูดไม่ออกสักคำอาจารย์หร
Read more

บทที่ 167

ทว่าเยี่ยเฟิงเพียงแค่ขมิบปากเบาๆ ก่อนจะฝืนยิ้มขมขื่น แล้วพูดออกมาประโยคเดียว "นึกขึ้นได้ว่าเจ้าสำนักต้องการพบข้า อาจมีเรื่องสำคัญ ข้าจึงย้อนกลับมา"ประโยคนี้ ไม่มีผู้ใดเชื่อฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลยหากเขาคิดได้เช่นนี้จริง มีหรือที่ตอนนั้นจะออกไปทางหน้าต่างเขาไม่ออกทางประตูใหญ่ กลับปีนหน้าต่างออกไป นี่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตอนนั้นจะต้องมีเหตุสุดวิสัยอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่ ทำให้เขาไม่แม้แต่จะมีเวลาเดินออกทางประตูใหญ่"รบกวนตอบคำถามเมื่อครู่ด้วย เหตุใดเจ้าถึงไม่ออกทางประตูใหญ่ แต่กลับปีนหน้าต่าง" ผู้อาวุโสเอ่ยเซียวอวี่เชียนมองทุกคนด้วยความโกรธ พลางพูดอย่างมั่นใจ "เยี่ยเฟิง เจ้าบอกพวกเขาไป เหตุใดไม่ออกทางประตูใหญ่"เซียวอวี่เชียนคิดว่าเยี่ยเฟิงจะต้องรีบตอบอย่างทันควัน ทว่าสิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงความเงียบงันหัวใจของเขาเต้นระส่ำ ก่อนจะหันไปมองเยี่ยเฟิงที่กำลังนิ่งเงียบ "เจ้ากลัวดอกพิกุลร่วงหรือไร จะทำเอาข้าร้อนใจจะตายอยู่แล้ว เจ้ารีบบอกพวกเขาถึงเหตุผลที่เจ้าปีนหน้าต่างออกไปสิ""ไม่มีเหตุผล เพียงแค่ปีนหน้าต่างเร็วกว่า""……"ทุกคนหมดคำพูด นี่มันเหตุผลอะไรกันเขาคงคิดข้ออ้างไม่ออกแล้ว
Read more

บทที่ 168

ภายในจวนหานอ๋องเย่จิ่งหานนั่งอยู่บนรถเข็น ทอดมองไปยังดวงจันทร์สุกสกาวบนฟ้า ในมือกำลังหมุนแหวนหยกด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อยเจี้ยงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆ กำลังรายงานไปเป็นเรื่องๆ"นายท่าน คุณหนูสามถูกไล่ล่าจากหลายฝ่าย ในนั้นรวมไปถึงฮ่องเต้ ไทเฮา และคนเผ่าหมอ ผู้ที่ออกมาช่วยคุณหนูสามคือคนของสำนักซิวหลัว"ชิงเฟิงตกใจ เย่จิ่งหานเองก็ประหลาดใจอยู่บ้าง"สำนักซิวหลัว ?""ขอรับ อีกทั้งประมุขชิงหนึ่งในเจ็ดประมุขใหญ่ภายใต้เจ้าสำนักซิวหลัวเป็นผู้ลงมือเอง พวกเขามีท่าทีนอบน้อมต่อคุณหนูสามยิ่งนัก ไม่เหมือนเพิ่งพบกันครั้งแรก แต่ดูคล้ายผู้ที่รู้จักกันมาหลายปี อีกทั้งประมุขชิงยังยกฝูกวงผู้ช่วยยอดมือฉกาจให้กับคุณหนูสามด้วย"ใบหน้าหล่อเหลาของเย่จิ่งหานเผยให้เห็นความสนใจภายในแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา รอยยิ้มที่คมดุจลับด้วยขวานปีศาจดูอ่อนโยนลงไปกว่าเดิมเย่จิ่งหานหัวเราะเบาๆน่าสนใจสำนักซิวหลัวไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจมาแต่ไหนแต่ไร หลายปีมานี้ก็ไม่เคยเข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องในยุทธภพ คิดไม่ถึงว่าจะกลับเข้ามาเพราะกู้ชูหน่วนหากเขาจำไม่ผิด ฝูกวงคือองครักษ์ลับข้างกายของเจ้าสำนักซิวหลัวต่อให้ตำแหน่งของประมุขชิ
Read more

บทที่ 169

เพราะการปกป้องอย่างสุดกำลังของกู้ชูหน่วน เยี่ยเฟิงจึงเพียงแค่ถูกกักบริเวณ ทว่าผู้คนในสำนักบัณฑิตหลวงต่างก็ตัดพ้อกับความไม่ยุติธรรม พากันโจมตีไปที่เยี่ยเฟิงกู้ชูหน่วนกล่าวด้วยความจริงจัง "สามวัน ภายในสามวัน ข้าจะหาผู้ร้ายตัวจริงให้เจอ คืนความเที่ยงธรรมให้เจ้าสำนัก หากภายในสามวันข้าสืบหาผู้ร้ายไม่เจอ พวกเจ้าค่อยจัดการกับเยี่ยเฟิงก็ยังไม่สาย""ไม่ได้ เวลาสามวัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ หากเขาคิดหาวิธีอื่นทำให้ตัวเองหลุดพ้นไปได้เล่า นอกเสียจากเจ้าพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาเสียตอนนี้เลย" ผู้คนจำนวนไม่น้อยในสำนักบัณฑิตพากันวิพากษ์วิจารณ์เซียวอวี่เชียนพูดด้วยความโมโห "สำนักบัณฑิตหลวงที่แสนยิ่งใหญ่จะเฝ้าบัณฑิตเพียงคนได้ไว้ไม่ได้เลยหรือ พวกเจ้าแค่ต้องการจะจัดการเขาให้ถึงแก่ความตาย""เขาฆ่าเจ้าสำนัก ชีวิตชดใช้ด้วยชีวิตก็เป็นเรื่องปกติ""ตาข้างไหนของเจ้าเห็นว่าเขาฆ่าคนแล้วหรือ""คุณชายเซียว คุณหนูกู้ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ พวกเจ้าอย่าถูกภายนอกของเยี่ยเฟิงหลอกเอาได้ เขาชั่วช้ายิ่งนัก" อาจารย์สวียืนกรานอีกครั้งเซียวอวี่เชียนหัวเราะเยาะ ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน "ตอนนั้น
Read more

บทที่ 170

"รอยเท้าอะไร""ดูนี่สิ" กู้ชูหน่วนชี้ไปยังจุดที่อยู่ไม่ไกลออกไปจากริมหน้าต่าง ตรงนั้นยังหลงเหลือรอยเท้าอยู่หนึ่งรอยจางๆ เพียงแต่ตำแหน่งของรอยเท้านั้นเร้นลับ อีกทั้งยังบางเบานัก หากไม่สังเกตดีๆ ก็ไม่มีทางมองเห็นอาจารย์สวีตกตะลึง "ขนาดของรอยเท้าต่างกันถึงนิ้วกว่า มีคนสองคนกระโดดหน้าต่างออกไปเช่นนั้นหรือ"เซียวอวี่เชียนตื่นเต้นออกนอกหน้า "หากเป็นเช่นนี้ นอกจากเยี่ยเฟิง ตอนนั้นที่หอสมุดยังมีใครอีกคน ซึ่งเจ้าสำนักอาจจะถูกคนผู้นั้นสังหารก็เป็นได้"อาจารย์หรงส่งเสียงค่อนแคะเบาๆ "เมื่อครู่มีคนมากมายเข้ามาในหอสมุด อาจจะเป็นของใครสักคนก็ได้"กู้ชูหน่วนมองบนใส่ "อาจารย์หรง ท่านจะอคติกับเยี่ยเฟิงแล้วโยนความผิดทุกอย่างมาที่ตัวเยี่ยเฟิงไม่ได้ พวกท่านก็แบ่งเส้นกั้นสถานที่เกิดเหตุไว้แล้วไม่ใช่หรือ ผู้ใดจะเข้ามาได้ อีกอย่าง ต่อหน้าผู้คนมากมาย ผู้ใดจะกล้ากระโดดหน้าต่าง""แต่นี่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ที่สังหารเจ้าสำนักไม่ใช่เยี่ยเฟิง""แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ที่สังหารเจ้าสำนักคือเยี่ยเฟิง ไม่ใช่หรอกหรือ""ไม่ว่าอย่างไร เขาก็น่าสงสัย จำเป็นต้องขังเอาไว้ สามวัน ภายในสามวัน หากเจ้าหาตัวคนร
Read more
PREV
1
...
1516171819
...
38
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status