แชร์

บทที่ 163

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
กู้ชูหน่วนแบ่งยาเป็นสองส่วน กินไปครึ่งเม็ด อีกครึ่งเม็ดบดเป็นผงแล้วทาบนใบหน้า

นางส่องกระจก เห็นตุ่มหนองบนใบหน้าของตนในกระจกค่อยๆ จางหายไปอย่างรวดเร็ว มองดูไม่ได้น่ารังเกียจขนาดนั้นแล้ว ผิวก็ดูฉ่ำวาวขึ้นกว่าเดิม

เพียงแต่รอยแผลเป็นน่ากลัวที่สลับทับกันราวกับเนินเขายังคงอยู่

หากไม่กำจัดรอยแผลเป็นเหล่านี้ ใบหน้าของนางก็ยังคงอัปลักษณ์สุดจะมองเหมือนเดิม

"เห็นทีต้องรีบคิดวิธีหาหญ้าตี้อวี้ให้เจอแล้ว"

กู้ชูหน่วนผลักประตูห้องออกมาด้วยความหงุดหงิด แล้วสูดอากาศที่บริสุทธิ์

เดิมทียังพอมีความหวังว่า ขาดตัวยาไปตัวเดียวอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ นางคงจะฝันหวานเกินไป

"ยัยขี้เหร่ ในที่สุดก็หาเจ้าเจอ เจ้ามาแอบอยู่ตรงนี้ด้วยเหตุใด นี่ก็ใกล้จะยามจื่อแล้ว เจ้ายังไม่รีบกลับจวนหานอ๋องอีก หากเทพสงครามตัดขาเจ้าขึ้นมาจริงๆ จะทำเช่นไร"

เขาจะกล้าตัดหรือ

เว้นเสียแต่ว่าเขาไม่ต้องการถอนพิษแล้ว

กู้ชูหน่วนบิดขี้เกียจ ก่อนจะพูดนิ่งๆ "ดึกขนาดนี้แล้วหรือ เจ้าบาดเจ็บ ทำไมยังไม่กลับไปพักผ่อนอีก"

"ไม่ใช่เพราะห่วงเจ้าหรืออย่างไร เจ้านี่เป็นสตรีที่ทำสิ่งใดก็ไม่ได้ความเอาเสียเลย"

กู้ชูหน่วนกอดคอเข
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 164

    เจ้าสำนักนอนจมกองเลือด ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเบิกกว้าง ราวกับค้นพบความลับสำคัญบางอย่าง ตายตาไม่หลับ ถูกใครบางคนปาดคอเงยขึ้นไปมองรอบๆ หอสมุดอีกครั้ง ไร้ซึ่งร่องรอยการต่อสู้โดยสิ้นเชิง หากทายไม่ผิด น่าจะถูกคนข้างกายที่ไว้ใจเป็นอย่างยิ่งหรือคนที่ไม่เคยระแวงสงสัยฆ่าอาจารย์หรงร้องคำราม "เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ วันนี้ผู้ใดเฝ้ายามตอนดึกที่หอสมุด เจ้าสำนักวิทยายุทธล้ำเลิศถึงเพียงนั้น จะถูกคนปาดคอได้อย่างไร"บ่าวที่เฝ้ายามช่วงดึกขาอ่อน ตอบเสียงสั่น "เรียน...เรียนอาจารย์หรง หลังจากที่เจ้าสำนักมาถึงหอสมุด ก็บอกว่าตกดึกน้ำค้างลง ให้พวกเราไม่ต้องเฝ้ายาม กลับไปพักผ่อนได้เลย พวกเรา...พวกเราก็เลยกลับไป""เหลวไหล เจ้าสำนักให้พวกเจ้ากลับไป พวกเจ้าก็กลับเช่นนั้นหรือ พวกเจ้าไม่รู้จักเฝ้าจากไกลๆ หรืออย่างไร"เห็นอาจารย์หรงกำลังจะระเบิดอารมณ์ อาจารย์สวีจึงกล่าวเตือน "เจ้าสำนักใจดีมีเมตตา ที่ผ่านมาก็ให้บ่าวที่เฝ้ายามช่วงดึกกลับไปพักอยู่บ่อยๆ ใครจะคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ ท่านก็อย่าโทษพวกเขานักเลย"หลังจากที่อาจารย์ซ่างกวานตรวจสอบศพของเจ้าสำนักจนทั่วแล้วรอบหนึ่ง จึงเอ่ยถามเสียงขรึม"เมื่อครู่เกิดเหตุอั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 165

    ณ ห้องควบคุมตัวเยี่ยเฟิงอยู่ในชุดเนื้อผ้าหยาบ หลังเหยียดตรง ยืนเงียบๆ อยู่ตรงกลางรอรับการพิจารณาคดีจากสำนักบัณฑิตหลวงใบหน้าของเขาซีดขาว ไม่รู้ว่าเพราะได้รับบาดเจ็บหรือเพราะป่วยอาจารย์หรงเอ่ยเสียงกร้าว "เยี่ยเฟิง เจ้าฆ่าเจ้าสำนักใช่หรือไม่"เยี่ยเฟิงดวงตาใสสว่าง ไม่จำเป็นต้องหยุดคิดก็ตอบออกมาทันที "ไม่ใช่""พยานก็อยู่ครบ เจ้ายังกล้าแก้ตัว" อาจารย์หรงโยนผ้าคาดผมเส้นหนึ่งลงตรงหน้าเยี่ยเฟิงเนื้อผ้าของผ้าคาดผมเส้นนั้นหยาบกระด้าง และเป็นเส้นที่เขาใช้บ่อยๆ ก่อนจะเข้ามาในสำนักบัณฑิตหลวงสำนักบัณฑิตหลวงที่กว้างใหญ่มีเพียงแค่เขาผู้เดียวที่ใช้ผ้าคาดผมอัตคัดเช่นนี้"วันนี้กู้ชูหน่วนดึงแขนเสื้อเจ้าขาด แล้วก็ดึงผ้าคาดผมของเจ้าขาดเป็นท่อน ตอนเจ้าไปเปลี่ยนชุด เจ้าก็เปลี่ยนผ้าคาดผมด้วย ตอนนั้นเจ้าใช้ผ้าคาดผมเส้นนี้พอดี"สายตาเฉยชาของเยี่ยเฟิงมองไปยังผ้าคาดผมที่คุ้นเคยบนพื้น ไม่ได้ปฏิเสธทุกคนต่างก็มองไปยังผ้าคาดผมบนศีรษะของเยี่ยเฟิง ผ้าคาดผมเส้นนั้นเรียบง่ายเหมือนกัน เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เส้นเดียวกับที่ใช้ตอนค่ำ"พูดมา เหตุใดเจ้าถึงได้ฆ่าเจ้าสำนัก" อาจารย์หรงเอ่ยถามอีกครั้งเยี่ยเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 166

    "ข้าก็เชื่อเจ้า"สิ่งที่ยิ่งทำให้เยี่ยเฟิงตกตะลึงคือ ยามนี้ เซียวอวี่เชียนที่คอยตั้งตัวเป็นอริกับเขาก็ออกมาปกป้องเขาด้วย เขามีบาดแผลเต็มตัว มือข้างหนึ่งถูกพันด้วยผ้าพันแผลที่คล้องอยู่บนคอ ทว่ากลับส่งยิ้มมาให้เขา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเชื่อใจ"เพราะเหตุใด...""เพราะพวกเราเป็นเพื่อนกันอย่างไรเล่า"ทันทีที่ได้ยินคำว่าเพื่อน เยี่ยเฟิงก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ราวกับบางส่วนภายในจิตใจพังทลายเขาไม่มีเพื่อนตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่เคยมีเพื่อนเลยเขา...ไม่มีใครคบ...ทุกคนตรงหน้าในยามนี้ล้วนแต่พุ่งเป้ามาที่เขา พวกเขาไม่ต้องเข้ามาแปดเปื้อนด้วยก็ได้ดวงตาที่ปกคลุมไปด้วยความหนาวเย็นของกู้ชูหน่วนกวาดไปยังผู้คนที่อยู่ตรงนั้น ริมฝีปากแดงเอื้อนเอ่ย "พวกเจ้าบอกว่าเยี่ยเฟิงเป็นคนฆ่า หากเขาฆ่าจริง เช่นนั้นเหตุใดถึงกลับมา"ทุกคนชะงักงันทันใดนั้นเองก็มีคนตอบ "ที่เขาเข้ามาในสำนักบัณฑิตจะต้องมีเป้าหมายแน่ ยามนี้เป้าหมายนั่นอาจยังไม่บรรลุง จึงกลับมาอีกครั้ง""อ่อ เช่นนั้นเขามีเป้าหมายใด" กู้ชูหน่วนเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความตักเตือนคนผู้นั้นอึกอักอยู่นาน กลับพูดไม่ออกสักคำอาจารย์หร

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 167

    ทว่าเยี่ยเฟิงเพียงแค่ขมิบปากเบาๆ ก่อนจะฝืนยิ้มขมขื่น แล้วพูดออกมาประโยคเดียว "นึกขึ้นได้ว่าเจ้าสำนักต้องการพบข้า อาจมีเรื่องสำคัญ ข้าจึงย้อนกลับมา"ประโยคนี้ ไม่มีผู้ใดเชื่อฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลยหากเขาคิดได้เช่นนี้จริง มีหรือที่ตอนนั้นจะออกไปทางหน้าต่างเขาไม่ออกทางประตูใหญ่ กลับปีนหน้าต่างออกไป นี่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตอนนั้นจะต้องมีเหตุสุดวิสัยอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่ ทำให้เขาไม่แม้แต่จะมีเวลาเดินออกทางประตูใหญ่"รบกวนตอบคำถามเมื่อครู่ด้วย เหตุใดเจ้าถึงไม่ออกทางประตูใหญ่ แต่กลับปีนหน้าต่าง" ผู้อาวุโสเอ่ยเซียวอวี่เชียนมองทุกคนด้วยความโกรธ พลางพูดอย่างมั่นใจ "เยี่ยเฟิง เจ้าบอกพวกเขาไป เหตุใดไม่ออกทางประตูใหญ่"เซียวอวี่เชียนคิดว่าเยี่ยเฟิงจะต้องรีบตอบอย่างทันควัน ทว่าสิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงความเงียบงันหัวใจของเขาเต้นระส่ำ ก่อนจะหันไปมองเยี่ยเฟิงที่กำลังนิ่งเงียบ "เจ้ากลัวดอกพิกุลร่วงหรือไร จะทำเอาข้าร้อนใจจะตายอยู่แล้ว เจ้ารีบบอกพวกเขาถึงเหตุผลที่เจ้าปีนหน้าต่างออกไปสิ""ไม่มีเหตุผล เพียงแค่ปีนหน้าต่างเร็วกว่า""……"ทุกคนหมดคำพูด นี่มันเหตุผลอะไรกันเขาคงคิดข้ออ้างไม่ออกแล้ว

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 168

    ภายในจวนหานอ๋องเย่จิ่งหานนั่งอยู่บนรถเข็น ทอดมองไปยังดวงจันทร์สุกสกาวบนฟ้า ในมือกำลังหมุนแหวนหยกด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อยเจี้ยงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆ กำลังรายงานไปเป็นเรื่องๆ"นายท่าน คุณหนูสามถูกไล่ล่าจากหลายฝ่าย ในนั้นรวมไปถึงฮ่องเต้ ไทเฮา และคนเผ่าหมอ ผู้ที่ออกมาช่วยคุณหนูสามคือคนของสำนักซิวหลัว"ชิงเฟิงตกใจ เย่จิ่งหานเองก็ประหลาดใจอยู่บ้าง"สำนักซิวหลัว ?""ขอรับ อีกทั้งประมุขชิงหนึ่งในเจ็ดประมุขใหญ่ภายใต้เจ้าสำนักซิวหลัวเป็นผู้ลงมือเอง พวกเขามีท่าทีนอบน้อมต่อคุณหนูสามยิ่งนัก ไม่เหมือนเพิ่งพบกันครั้งแรก แต่ดูคล้ายผู้ที่รู้จักกันมาหลายปี อีกทั้งประมุขชิงยังยกฝูกวงผู้ช่วยยอดมือฉกาจให้กับคุณหนูสามด้วย"ใบหน้าหล่อเหลาของเย่จิ่งหานเผยให้เห็นความสนใจภายในแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา รอยยิ้มที่คมดุจลับด้วยขวานปีศาจดูอ่อนโยนลงไปกว่าเดิมเย่จิ่งหานหัวเราะเบาๆน่าสนใจสำนักซิวหลัวไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจมาแต่ไหนแต่ไร หลายปีมานี้ก็ไม่เคยเข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องในยุทธภพ คิดไม่ถึงว่าจะกลับเข้ามาเพราะกู้ชูหน่วนหากเขาจำไม่ผิด ฝูกวงคือองครักษ์ลับข้างกายของเจ้าสำนักซิวหลัวต่อให้ตำแหน่งของประมุขชิ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 169

    เพราะการปกป้องอย่างสุดกำลังของกู้ชูหน่วน เยี่ยเฟิงจึงเพียงแค่ถูกกักบริเวณ ทว่าผู้คนในสำนักบัณฑิตหลวงต่างก็ตัดพ้อกับความไม่ยุติธรรม พากันโจมตีไปที่เยี่ยเฟิงกู้ชูหน่วนกล่าวด้วยความจริงจัง "สามวัน ภายในสามวัน ข้าจะหาผู้ร้ายตัวจริงให้เจอ คืนความเที่ยงธรรมให้เจ้าสำนัก หากภายในสามวันข้าสืบหาผู้ร้ายไม่เจอ พวกเจ้าค่อยจัดการกับเยี่ยเฟิงก็ยังไม่สาย""ไม่ได้ เวลาสามวัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ หากเขาคิดหาวิธีอื่นทำให้ตัวเองหลุดพ้นไปได้เล่า นอกเสียจากเจ้าพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาเสียตอนนี้เลย" ผู้คนจำนวนไม่น้อยในสำนักบัณฑิตพากันวิพากษ์วิจารณ์เซียวอวี่เชียนพูดด้วยความโมโห "สำนักบัณฑิตหลวงที่แสนยิ่งใหญ่จะเฝ้าบัณฑิตเพียงคนได้ไว้ไม่ได้เลยหรือ พวกเจ้าแค่ต้องการจะจัดการเขาให้ถึงแก่ความตาย""เขาฆ่าเจ้าสำนัก ชีวิตชดใช้ด้วยชีวิตก็เป็นเรื่องปกติ""ตาข้างไหนของเจ้าเห็นว่าเขาฆ่าคนแล้วหรือ""คุณชายเซียว คุณหนูกู้ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ พวกเจ้าอย่าถูกภายนอกของเยี่ยเฟิงหลอกเอาได้ เขาชั่วช้ายิ่งนัก" อาจารย์สวียืนกรานอีกครั้งเซียวอวี่เชียนหัวเราะเยาะ ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน "ตอนนั้น

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 170

    "รอยเท้าอะไร""ดูนี่สิ" กู้ชูหน่วนชี้ไปยังจุดที่อยู่ไม่ไกลออกไปจากริมหน้าต่าง ตรงนั้นยังหลงเหลือรอยเท้าอยู่หนึ่งรอยจางๆ เพียงแต่ตำแหน่งของรอยเท้านั้นเร้นลับ อีกทั้งยังบางเบานัก หากไม่สังเกตดีๆ ก็ไม่มีทางมองเห็นอาจารย์สวีตกตะลึง "ขนาดของรอยเท้าต่างกันถึงนิ้วกว่า มีคนสองคนกระโดดหน้าต่างออกไปเช่นนั้นหรือ"เซียวอวี่เชียนตื่นเต้นออกนอกหน้า "หากเป็นเช่นนี้ นอกจากเยี่ยเฟิง ตอนนั้นที่หอสมุดยังมีใครอีกคน ซึ่งเจ้าสำนักอาจจะถูกคนผู้นั้นสังหารก็เป็นได้"อาจารย์หรงส่งเสียงค่อนแคะเบาๆ "เมื่อครู่มีคนมากมายเข้ามาในหอสมุด อาจจะเป็นของใครสักคนก็ได้"กู้ชูหน่วนมองบนใส่ "อาจารย์หรง ท่านจะอคติกับเยี่ยเฟิงแล้วโยนความผิดทุกอย่างมาที่ตัวเยี่ยเฟิงไม่ได้ พวกท่านก็แบ่งเส้นกั้นสถานที่เกิดเหตุไว้แล้วไม่ใช่หรือ ผู้ใดจะเข้ามาได้ อีกอย่าง ต่อหน้าผู้คนมากมาย ผู้ใดจะกล้ากระโดดหน้าต่าง""แต่นี่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ที่สังหารเจ้าสำนักไม่ใช่เยี่ยเฟิง""แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ที่สังหารเจ้าสำนักคือเยี่ยเฟิง ไม่ใช่หรอกหรือ""ไม่ว่าอย่างไร เขาก็น่าสงสัย จำเป็นต้องขังเอาไว้ สามวัน ภายในสามวัน หากเจ้าหาตัวคนร

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 171

    "แล้วอย่างไรต่อ..." อาจารย์สวีขู่คำราม"หลังจากนั้น...หลังจากนั้นเขาก็ปาดคออาจารย์หรง น่ากลัวเหลือเกิน การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วจนน่าขนลุก สายตาของเขายิ่งน่ากลัว ข้าไม่เคยเห็นสายตาของเยี่ยเฟิงน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน"หลี่เหิงดูเหมือนจะมีอาการตื่นตระหนกมาก ตั้งสติไม่ได้อยู่สักพักใหญ่ เอาแต่พึมพำกับตัวเองไม่หยุดผู้ที่อยู่ข้างหลี่เหิงอธิบายต่อ "จากนั้นองครักษ์ลับคุ้มกันสำนักก็ออกมา พวกเขาล้อมเยี่ยเฟิงเอาไว้ ทว่า...แปดคนยังไม่สามารถทำอะไรเยี่ยเฟิงคนเดียวได้ สุดท้ายเยี่ยเฟิงก็หนีไปได้""พวกเจ้าแน่ใจหรือว่าคนผู้นั้นคือเยี่ยเฟิง ดูผิดไปหรือเปล่า" เซียวอวี่เชียนแทรกขึ้นมากะทันหันเพราะประโยคนี้ของเขา ทำให้คนจำนวนไม่น้อยพากันจ้องมองด้วยความขุ่นเคือง"ข้าก็คิดว่าข้ามองผิดไป แต่คนมากมายขนาดนี้ล้วนแต่เห็นกันหมด ยอดฝีมือคุ้มกันสำนักก็ได้ประมือกับเขาแล้ว พวกเขาไม่มีทางจำคนผิดหรอก""นั่นสิ ใช่เยี่ยเฟิง หน้าตาเหมือนกันไม่มีผิด พวกข้าไม่มีทางจำผิด""บางทีคนผู้นั้นอาจแปลงโฉมเป็นเยี่ยเฟิงมาก็ได้" เซียวอวี่เชียนเอ่ย"องครักษ์ลับคุ้มกันสำนักก็เคยสงสัย พวกเขาจึงจงใจหยั่งเชิงเป็นการเฉพาะ ปรากฏว่าไม่ใ

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 294

    "ไม่นาน เพิ่งจะเดือนกว่าเท่านั้น" เย่จิ่งหานแม้จะกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มก็ไม่ได้ส่งไปที่ดวงตาเช่นกันหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา เขาหลงกลแผนของเผ่าเทียนเฝิน ทำให้ถูกพิษ สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไป สุดท้ายก็ถูกนางผู้นั้นลากเข้าไปในกองหญ้า จากนั้น...เมื่อคิดถึงค่ำคืนนั้น ไอความหนาวเหน็บของเย่จิ่งหานก็รุนแรงขึ้นกว่าเดิม"เทพสงครามดูน่าเกรงไม่ลดไปจากตอนนั้นเลย การต่อสู้อย่างดุเดือด สังหารผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฝินของข้าไปถึงสิบหกคน ช่างเก่งกาจยิ่งนัก""ไม่เก่งกาจเท่าเผ่าเทียนเฝินหรอก ที่ทำเป็นแค่เรื่องไร้ศักดิ์ศรีลับหลังผู้อื่นเท่านั้น"ประโยคเดียวของเย่จิ่งหานทำให้ถึงทางตัน บรรยากาศพลันครุกรุ่นความบาดหมางเคียดแค้นของทั้งสอง เกิดขึ้นนานแล้ว ระหว่างนี้ผ่านมาหลายสิบรุ่น ไม่ใช่สิ่งที่จะสะสางได้วันสองวันเชื้อเพลิงสงครามพร้อมจะลุกโชนได้ทุกเมื่อการปะทะกันระหว่างยอดฝีมือเช่นนี้ ผู้อื่นในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าเข้าร่วม เพียงแค่ถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องโดนลูกหลงในขณะที่สงครามกำลังจะเริ่มพลันมีเงาร่างสีแดงเพลิงอีกร่างลงมาจากกลางอากาศผู้ที่มาก็เป็นชายหนุ่มวัยเยาว์ เพียงแต่เ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 293

    ประโยคเดียว ทำให้บรรยากาศในโรงเตี๊ยมหมองหม่นลงไปอย่างรู้สึกได้หากหัวหน้าเผ่าหมอไม่มา แม้นายท่านหลันจะมีวิทยายุทธที่สูงล้ำ แต่การจะล้มเขาก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วแต่หัวหน้าเผ่าหมอมาด้วยตัวเอง เรื่องก็เริ่มจะตึงมือขึ้นมาเล็กน้อยที่สำคัญที่สุดคือ การสู้กับเขตกองธงหลันในคราวนี้ เผ่าเทียนเฝินจะต้องเข้ามาประสมโรงเป็นแน่ ศัตรูรายใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือเผ่าเทียนเฝิน"รีบสู้รีบจบ เอาหัวของนายท่านหลันมา แล้วค่อยล่อหัวหน้าเผ่าหมอออกมา"ซูมู่พลันเงยหน้า พูดด้วยความตกตะลึง "เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ผู้ที่มาครานี้มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นหัวหน้าเผ่าเทียนเฝินรุ่นต่อไป ด้วยแรงของเจ้าคนเดียวจะสู้เขากับหัวหน้าเผ่าหมอได้หรือ เจ้าคิดว่าเจ้าจะชนะได้หรือ หัวหน้าเผ่าหมอยกให้ข้า เจ้าตั้งใจรับมือกับเผ่าเทียนเฝินไปเถอะ""ไม่ทันแล้ว" ดวงตามืดดำคู่นั้นของเย่จิ่งหานมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ พลังลมปราณที่แข็งแกร่งจากทางนั้นค่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด้วยความเร็วสูงหากเขาทายไม่ผิด เผ่าเทียนเฝินและหัวหน้าเผ่าหมอกำลังทางนี้เย่จิ่งหานให้คนเข็นเขาออกไปพลางเอ่ย "หากเจ้าอยากช่วยข้า ก็ช่วยข้าตามหาก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 292

    ดวงตาที่นิ่งเรียบของเย่จิ่งหานไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆชายชุดครามซูมู่ยิ้มเยาะ"สำนักซิวหลัว เผ่าหมอ และเจ้า ต่างฝ่ายต่างอยู่ ไม่ก้าวล้ำซึ่งกันและกัน หากความสัมพันธ์เช่นนี้ถูกทำลาย สองพยัคฆ์ช่วงชิงกัน เผ่าเทียนเฝินจะต้องถือโอกาสเข้ามาผสมโรงเป็นแน่""เผ่าเทียนเฝินเป็นเผ่าเก่าแก่กว่าพันปี แกร่งกล้ามั่นคง วิทยายุทธหัวหน้าเผ่าเกินกว่าจะประเมินได้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้า ภายในเผ่ายังมีท่านผู้อาวุโสอีกมากมาย หรือแม้กระทั่งปรมาจารย์อาวุโส ได้ยินมาว่า หัวหน้าเผ่าเทียนเฝินรุ่นต่อไปเหนือกว่ารุ่นก่อน วิทยายุทธก็ไม่ได้แย่ไปกว่าหัวหน้าเผ่า ต่อให้ผู้ใต้บัญชาของเจ้าจะเก่งกาจเพียงใด แต่จะเทียบพวกเขาได้อย่างไร""ยิ่งไปกว่านั้นพลังอำนาจของเผ่าเทียนเฝินนั้นสลับซับซ้อนนัก มีคนของพวกเขาอยู่ทั่วทั้งใต้หล้า แคว้นเย่...เหอะ หากไม่มีเจ้า คงถูกแคว้นต่างๆ แบ่งกลืนดินแดนไปนานแล้ว ยามนี้ฮ่องเต้น้อยยังจะใจเย็นอยู่ได้อีก"เย่จิ่งหานเอ่ยเสียงขรึม "ข้าว่าเจ้าคงว่างเกินไป"ซูมู่จัดระเบียบแขนเสื้อที่ใหญ่โคร่งของเขา ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ ด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย ระหว่างที่กินผลไม้อย่างสง่างาม ปากก็พลอยคลี่ยิ้ม

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 291

    ดวงตาสุกสกาวของกู้ชูหน่วนฉายประกายความเจ้าเล่ห์ผาดหนึ่งจู่ๆ นางก็กุมหัวใจของตัวเองไว้แน่น เลือดพลันพุ่งทะลักออกมา ส่วนร่างของนางก็ล้มลงไปที่พื้น ร่างที่อ่อนแรงพูดด้วยความตกตะลึง "ผู้ใด...ผู้ใดช่างเหี้ยมโหด ถึงกับกล้า...วางยา..."ซืดดด....ทุกคนต่างก็ตกตะลึงพากันมองไปยังกู้ชูหน่วนที่นอนหลับตาปี๋จมกองเลือดอยู่อย่างไม่เชื่อสายตา สายตาเต็มไปด้วยความลนลาน“หมอหลวง รีบตามหมอหลวง”ไม่รู้ผู้ใดในกลุ่มคนตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนกเหล่าองครักษ์พากันวิ่งออกไปตามหมอหลวงอย่างรีบร้อน“พระชายา ท่านเป็นอะไรไป…”องครักษ์หญิงนางหนึ่งรวบรวมความกล้าเข้าไปจับชีพจรของนาง สีหน้าที่เดิมก็ดูหวาดกลัวอยู่แล้วพลันซีดเผือด“ไม่…ไม่มีชีพจรแล้ว…พระชายาไม่มีชีพจรแล้ว”ฟู่วววร่างของทุกคนสั่นผวาไม่มีชีพจรก็หมายความว่าตายแล้วไม่ใช่หรือคุณพระช่วย หากพระชายาเป็นอะไรไป พวกเขาจะอธิบายกับท่านอ๋องอย่างไรแต่พวกเขาคุ้มกันอย่างหนาแน่น ไม่มีทางที่ผู้ใดจะมีโอกาสวางยาพระชายาได้"ฟึบ ฟึบ ฟึบ..."ร่างที่อยู่ทั้งในที่ลับและที่สว่างต่างพากันออกไป บ้างก็ไปรายงานเย่จิ่งหาน บ้างก็ไปตามหมอ แค่เพียงในระยะเวลาสั้นๆ ผู

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 290

    หลายวันมานี้อยู่แต่ในจวนหานอ๋องมาตลอด กู้ชูหน่วนคุ้นเคยกับพื้นที่นี้เป็นอย่างดีนางคลำทางไปด้วยความชำนาญ เพิ่งจะออกจากสวนไปได้ก็ถูกผู้อารักขาขวางเอาไว้"พระชายาอยากกินขนมตงฝูดอกกุ้ยฮวา พวกเจ้ารีบหลีกไป""ท่านอ๋องมีรับสั่ง ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามออกจากสวนไปแม้แต่ก้าวเดียว โดยเฉพาะท่าน พระชายา"บ้าเอ้ยนางพรางตัวแล้ว คนพวกนี้ยังจำได้อีกหรือเหมือนจะรู้ว่านางกำลังสงสัย อารักขาจึงอธิบาย"ใต้เท้าชิงเฟิงปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอ๋องอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด เขาไม่มีทางออกไปจากเรือนทอจันทร์ อีกอย่าง ท่านอ๋องก็กำชับไว้แล้วว่าพระชายาเชี่ยวชาญเรื่องค่ายกลปากว้า แปลงกาย และบิดเบือนหลักการ ไม่ว่าผู้ใดคิดจะออกจากเรือนนี้ไปล้วนแต่เป็นไปได้ว่าคือพระชายาปลอมตัวมา""……"กู้ชูหน่วนหน้าเหวอวิเคราะห์นางได้อย่างทะลุปรุโปร่งขนาดนี้เลยหรือ"เช่นนี้หากข้าจะดื้อดึงออกไป พวกเจ้าก็จะตัดขาของข้า หรือจะคร่าชีวิตเด็กในท้องแล้วค่อยสังหารข้า ?""ข้าน้อยไม่บังอาจ แต่ท่านอ๋องรับสั่งไว้แล้ว หากพระชายาออกไปจากเรือนทอจันทร์ ให้ทุบขาของแม่นางชิวเอ๋อร์เสีย"กู้ชูหน่วนแสยะยิ้ม "วันนี้ ข้าขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ ข้าจะต้องออก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 289

    นัยน์ตาของนางดุจหยดน้ำ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงระเรื่อเป็นธรรมชาติ ระหว่างที่มอง มีรังสีความสูงสง่ามออกมาโดยไม่ต้องแสร้งทำกู้ชูหน่วนลูบใบหน้ารูปไข่ที่เกลี้ยงเกลาของนาง มุมปากยกยิ้มจางๆรูปโฉมนี้ ไม่เสียแรงที่นางดั้นด้นตามหาหญ้าตี้อวี้และดอกเยียนหลัวด้วยความยากลำบากเป็นเวลานานเดิมกู้ชูหน่วนไม่อยากคลุมผ้าคลุมหน้า ไม่รู้ว่าคิดสิ่งใด สุดท้ายนางก็หยิบผ้าคลุมหน้าออกมาปกปิดใบหน้าที่งามหยาดเยิ้มของนางเอาไว้ เผยให้เห็นเพียงแค่ดวงตาใสสว่างคู่นั้น"ชิงเฟิง""ข้าน้อยอยู่นี่ ไม่ทราบว่าพระชายามีสิ่งใดให้รับใช้""ท่านอ๋องได้ไปที่เขาหมายวิญญาณด้วยตัวเองหรือไม่""เรื่องนี้...ข้าน้อยไม่ทราบได้""ไปสืบถามมาหน่อย""พระชายา นายท่านรับสั่งเอาไว้ นอกจากคุ้มกันท่าน เรื่องอื่นห้ามยุ่ง ยิ่งห้ามพูดคุยกับพระชายา""เช่นนั้น ควาหมายของเจ้าก็คือ ข้าถูกกักขัง"“ข้าน้อยมิบังอาจ”"ในเมื่อไม่กล้า เช่นนั้นเจ้าว่า ยามนี้เจ้าควรทำอะไรเล่า" กู้ชูหน่วนเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม ดวงตาที่ใสเป็นประกายคู่นั้นฉายแววที่ต่างออกไปชิงเฟิงตัวสั่นระรัวไปชั่วขณะ พูดด้วยความตัดพ้อ "พระชายา ได้โปรดอย่าทำให้บ่าวลำบากใจเลย"

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 288

    ณ เรือนทอจันทร์ จวนหานอ๋องกู้ชูหน่วนยืนอยู่ริมหน้าต่าง ทอดมองไปยังนกบนยอดไม้ นิ้วที่ข้อต่อชัดเจนเคาะเป็นจังหวะเบาๆเย่จิ่งหานไม่ได้ยืนยันชัดเจนว่าจะไปเขาหมายวิญญาณด้วยตัวเองแต่เขาก็รับปากแล้วว่าจะช่วยแม่เฒ่าเยี่ยออกมาอย่างปลอดภัย และจะปลิดชีวิตนายท่านหลัน คงทำได้จริงเหตุใดภายในใจนางถึงได้ว้าวุ่น รู้สึกว่าจะเกิดเหตุไม่คาดคิดอะไรบางอย่างอยู่เรื่อย"แอ๊ด" ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก ชิวเอ๋อร์ยกถ้วยยาบำรุงเข้ามา"คุณหนู เหตุใดยังยืนอยู่ตรงนั้น ตอนนี้คุณหนูกำลังท้อง จะตากลมไม่ได้เด็ดขาด คุณหนูลองชิมโจ๊กรังนกที่บ่าวเคี่ยวดูสิเจ้าคะ"กู้ชูหน่วนดึงความคิดกลับมา ก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาตักกินทีละช้อนอย่างไม่ได้ใส่ใจ"รสชาติดีเลย ชิวเอ๋อร์ฝีมือยอดเยี่ยมเลยนี่"ชิวเอ๋อร์ยิ้มร่า ก่อนจะตักให้กู้ชูหน่วนเพิ่มอีกถ้วย "คุณหนู ต่างก็ว่ากันว่าเทพสงครามโหดเหี้ยม ฆ่าคนเป็นผักปลา จากที่บ่าวสังเกตในช่วงหลายวันมานี้ ที่จริงแล้วท่านอ๋องก็เป็นคนดีอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะหลังจากที่คุณหนูตั้งท้องแล้ว ท่านอ๋องดีกับคุณหนูยิ่งกว่าเดิม""อ่อ...ดีกับข้าอย่างไรหรือ" ขังนางไว้ในเรือนเล็กๆ แห่งนี้ รายล้อมไปด้วยยอดฝีมือ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 287

    ความหมายอีกนัยหนึ่งของนางก็คือ หากเขาปฏิเสธ นางก็จะพาลูกไปเจอยมบาลแม้รู้ว่ากู้ชูหน่วนกำลังขู่เขา แต่ยากจะรับประกันได้ว่านางจะไม่ทำเรื่องอะไรที่เป็นการทำร้ายเด็กกระทั่งวินาทีนี้ เย่จิ่งหานถึงได้พบว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มรู้จักนาง กู้ชูหน่วนเอาเขาเสียอยู่หมัด"เจี้ยงเสวี่ย จัดกองกำลังทหาร มุ่งหน้าไปยังเขาหมายวิญญาณทันที ข้าต้องการหัวของนายท่านหลันและตัวยายของเยี่ยเฟิงกลับมา""ขอรับ"เย่จิ่งหานกวาดสายตามองกู้ชูหน่วนผาดหนึ่ง แสร้งทำเป็นเฉยชา "ข้าไม่อยากให้ลูกต้องมาคร่าชีวิตคนตั้งแต่ยังไม่เกิด ไม่ใช่เพราะเจ้าถึงได้ส่งทหารไปที่เขาหมายวิญญาณหรอก""เจ้าค่า ท่านสั่งสมบุญแทนลูก ข้าก็ขอบคุณท่านแทนลูกด้วย"กู้ชูหน่วนโล่งใจไปเปราะหนึ่งยังดีที่ความรู้ทางการแพทย์ของนางล้ำพอ สามารถสร้างเรื่องน่ายินดีจอมปลอมขึ้นมาได้นางเดิมพันถูกแล้วเย่จิ่งหานยังมีมนุษยธรรมอยู่ ไม่ถึงขั้นไม่ยอมรับกระทั่งลูกแท้ๆ ของตัวเองมีความช่วยเหลือของเย่จิ่งหาน เยี่ยเฟิงและแม่เฒ่าเยี่ยก็น่าจะไม่เป็นไรแล้ว"ท่านอ๋อง ท่านมั่นใจนะว่าจะช่วยแม่เฒ่าเยี่ยได้น่ะ""เจ้าคิดว่าข้าเป็นพวกดีแต่ปากหรือ""เอ่อ ไม่ใช่แน่นอน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 286

    กู้ชูหน่วนนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย มือทั้งสองข้างหยิบของกินเล่นเข้าปากอย่างไม่ใส่ใจ รอดูฉากเด็ดปากของชิงเฟิง เจี้ยงเสวี่ยและชิวเอ๋อร์ล้วนแต่กลมจนเป็นตัวOแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว นางก็ท้องลูกของนายท่านแล้วหรือ จะแข็งแรงเกินไปหรือเปล่าคุณหนูท้องก่อนแต่ง จบกัน จบเห่แล้ว ต่อไปจะทำเช่นไรดีเย่จิ่งหานถามด้วยน้ำเสียงเฉยชา "แน่ใจแล้วหรือว่าท้อง ตรวจดูให้ละเอียดว่านางใช้ยาอะไรแสร้งทำเป็นท้องหรือไม่"วิชาการแพทย์ของสตรีผู้นี้ล้ำเลิศนัก ยากจะรับประกันได้ว่านางจะไม่แกล้งแสดงหมอหลวงเหงื่อเย็นไหลซึมพวกเขาก็หวังว่าจะเป็นการใช้ยาแกล้งทำเป็นท้อง หากเป็นเช่นนี้ ท่านอ๋องคงไม่ต้องฉุนเฉียวถึงขั้นนี้แต่ว่า..."ท่านอ๋อง คุณหนูสามกู้มีข่าวดีจริงๆ ชีพจรของนางไม่มีร่องรอยของการใช้ยาเลยแม้แต่น้อย""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป พวกเจ้าคงรู้ผลที่ตามมาดี"“ขอรับๆๆ""ไปให้พ้น"“ขอรับๆๆ"หมอหลวงห้าคนแทบจะล้มลุกคลุกคลานกันออกไป ด้วยกลัวว่า เทพสงครามจะลงไม้ลงมือกับพวกเขาสีหน้าเย่จิ่งหานมีความประหลาดใจ แปลกใจ ดีใจ กังวล ไม่วางใจปะปนอยู่ด้วยกัน ทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะไม่รู้ว่าตนเองคว

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status