Semua Bab หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก: Bab 271 - Bab 280

390 Bab

บทที่ 271

ราวกับว่ามาจากสำนักเดียวกันแต่จินซือถูกลับบอกว่าเขาเคยเห็นเสอจิ่วแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นและเมื่อดูจากท่าทีที่เขาพูดถึงเสอจิ่ว ก็ดูเหมือนจะไม่รู้จักจริง ๆเนื่องจากเป็นความสงสัยเพียงเล็กน้อย ดังนั้นเวินซื่อจึงไม่ได้คิดอะไรต่อเพราะถึงอย่างไรตอนนี้นางก็ไม่มีเวลาให้เสียเปล่ามากนักเวินซื่อกลับเข้ามาในมิติในหยกอีกครั้ง ในเมื่อช้าเร็วเสอจิ่วก็จะมาหาถึงเรือนอยู่แล้ว เช่นนั้นนางก็จะเตรียมรับมืออีกฝ่ายเป็นอย่างดี……ในขณะเดียวกัน...เมืองหลวงภายในจวนเจิ้นกั๋วกง“เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เชื่อว่าน้องหกจะทำเรื่องแบบนี้! ต้องเป็นเวินซื่อที่ใส่ร้ายน้องหกอีกเป็นแน่!”หลังจากกลับไปในวันนั้น เวินฉางอวิ้นที่ผิดหวังกับพ่อของตัวเองเป็นอย่างมาก ก็ไม่ลังเลที่จะบอกน้องชายทั้งสองของตัวเองเรื่องที่มารดาถูกขโมยร่างไปปฏิกิริยาของทั้งสองนั้นตื่นเต้นมากน่าเสียดาย ความตื่นเต้นของพวกเขากลับไม่เหมือนที่เวินฉางอวิ้นคิดไว้“ตอนนี้สำคัญหรือว่าน้องห้ากับน้องหกใครใส่ร้ายหรือใครเป็นคนทำ? สิ่งที่สำคัญมิใช่ร่างของท่านแม่ที่ถูกขโมยไปจริง ๆ และพวกเราควรหาวิธีเอาร่างของนางคืนมาโดยเร็วที่สุดหรอกหรือ?!”“ข้าย่อมรู้
Baca selengkapnya

บทที่ 272

หลังจากกลับมาที่ห้องของตัวเองแล้ว เวินจื่อเยวี่ยก็นำว่าวเด็กเล่นตัวหนึ่งออกมาจากกล่องไม้ขนาดใหญ่ใบหนึ่งอย่างระมัดระวังว่าวตัวนี้เป็นตัวที่มารดาทำให้เขาเองกับมือตอนที่เขายังเด็ก แต่ตั้งแต่มารดาล่วงลับไป เขาก็ไม่ได้เอาออกมาอีกเลยจนกระทั่งวันนี้ ในที่สุดเขาก็หยิบว่าวตัวนี้ออกมาอีกครั้งแต่กลับไม่ใช่เพราะแม่ของเขาน้องหกต้องถูกเวินซื่อซ่อนตัวไว้แน่ หากต้องการให้เวินซื่อปล่อยตัวน้องหกออกมา ก็ต้องนำสิ่งของที่เวินซื่อให้ความสำคัญมาแลกเปลี่ยนกับนาง”ส่วนสิ่งที่เวินซื่อให้ความสำคัญมากที่สุดคือของสิ่งใดนั้น ความจริงเวินจื่อเยวี่ยและพวกเขาต่างรู้แน่ชัดมาโดยตลอดเพราะถึงอย่างไรตอนแรกที่เวินซื่อทูลขอราชโองการออกบวชเป็นชีนั้น พอลับหลังพวกเขาก็ต้องการนำป้ายวิญญาณของมารดาไปด้วยต่อมาก็ใช้พี่รองมาข่มขู่พวกเขา เอาสินเดิมของมารดาไปด้วยบัดนี้ข้าวของของมารดาในครอบครัวนี้เหลืออยู่เพียงไม่กี่ชิ้นแล้วว่าวตัวนี้...ความจริงเวินจื่อเยวี่ยเสียดายมาก โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าจะนำว่าวตัวนี้ไปแลกเปลี่ยนกับเวินซื่อ เขาก็ยิ่งตัดใจไม่ลงแต่ว่าน้องหกยังอยู่กับเวินซื่อเวลานี้เวินซื่อยังป้ายกิตติศัพท์ว่าน้องห
Baca selengkapnya

บทที่ 273

พอเวินซื่อได้ฟังก็รู้ทันทีว่าเขาต้องการแลกเปลี่ยนอะไรกับนางแต่ก็ไม่รู้ว่าสิ่งของในมือเวินจื่อเยวี่ยจะมีคุณค่าเพียงพอหรือไม่เวินซื่อในขณะนี้ยังไม่รู้ว่าเวินจื่อเยวี่ยเอาสิ่งของอะไรมาเมื่อนางออกไปและได้เห็นว่าวในมือของเวินจื่อเยวี่ยแล้ว นางก็หัวเราะออกมาด้วยความโมโห“นึกไม่ถึงเลยว่าท่านจะเอาว่าวที่ท่านแม่ทำให้ท่านกับมือออกมาจริง ๆ?!”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ในเมื่อเจ้ารู้ว่าว่าวนี้มีความหมายต่อข้าอย่างไร ข้าก็จะไม่พูดไร้สาระให้มากนัก เจ้าต้องการสิ่งของของท่านแม่มิใช่หรือ? ตอนนี้ข้าจะมอบว่าวตัวนี้ให้กับเจ้า แต่เจ้าต้องส่งตัวน้องหกออกมา”เวินซื่ออดหัวเราะเยาะไม่ได้ “เวินจื่อเยวี่ย ข้านึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าท่านจะทำเพื่อเวินเยวี่ยจนถึงขั้นนี้ ท่านคงไม่ได้คิดจะไม่ยอมรับแม้แต่แม่ของตัวเองเพื่อนางหรอกนะ?”“ข้าไม่ได้ไม่ยอมรับท่านแม่!”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดนี้ของเวินซื่อก็เอ่ยโต้แย้งทันที“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าลักพาตัวน้องหกไป ข้าจะไม่มีทางเอาสิ่งของของท่านแม่ออกมาหรอก!”เวินซื่อเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว “ดังนั้นระหว่างแม่ของตัวเองกับคนนอกคนเดียว ท่านก็เลือกคนนอก!”“เ
Baca selengkapnya

บทที่ 274

“เจ้าว่าอะไรนะ?”เวินจื่อเยวี่ยมองเวินซื่ออย่างไม่เชื่อสายตาเวินซื่อพูดซ้ำอย่างเย็นชาอีกรอบหนึ่ง “ข้าบอกว่า ข้าไม่แลก! ตอนนี้ได้ยินชัดเจนหรือยัง? ยังต้องการให้ข้าพูดซ้ำอีกรอบหรือไม่?”“เวินซื่อ! เจ้า...!”ขณะที่เวินจื่อเยวี่ยเรียกชื่อเวินซื่ออีกครั้ง เงาสีดำก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาทันทีเวินจื่อเยวี่ยตกใจในทันใด ชักกริชออกมาโดยสัญชาตญาณ คิดจะป้องกันตัวแต่การเคลื่อนไหวของเขาช้าเกินไปเขาเพิ่งชักกริชออกมาก็ถูกจู๋เยวี่ยปัดมันทิ้งไป จากนั้นจู๋เยวี่ยก็ใช้มืออีกข้างหนึ่งกำหมัด ต่อยหน้าเวินจื่อเยวี่ยอย่างแรง“พลั่ก!”เวินจื่อเยวี่ยโดนต่อยอย่างจังจนล้มลงกับพื้นแต่ไม่รอให้เขาลุกขึ้นโต้ตอบกลับ จู๋เยวี่ยก็ประทับฝ่าเท้าเข้าที่หน้าอกอีกครั้ง ถีบเขากระเด็นออกไปการถีบครั้งนี้ทำให้เวินจื่อเยวี่ยแทบกระอักเลือด“เจ้า...เจ้าเป็นใครกัน?! ถึงกล้าลงไม้ลงมือกับคุณชายอย่างข้า!”เวินจื่อเยวี่ยในเวลานี้ยังไม่แสดงปฏิกิริยาใด ๆเขาพูดว่า “คุณชายอย่างข้า” เพื่อที่จะข่มขู่จู๋เยวี่ยแต่ขณะที่เวินซื่อก้าวเข้ามาทีละก้าวจากทางด้านหลัง เดินเข้ามาหาเวินจื่อเยวี่ยอย่างช้า ๆ จู๋เยวี่ยเข้ามายืนอกผายไหล่ผึ่งอ
Baca selengkapnya

บทที่ 275

โชคดีที่เตรียมตัวไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นตอนนี้คงโดนงูพิษตัวนั้นกัดไปแล้ว“ขอถามสักหน่อยได้หรือไม่ ใครเป็นคนแจ้งข้อมูลนี้ให้ท่านทราบ?”ชายวัยกลางคนเสอจิ่วหัวเราะเสียงแหบพร่า “คนทรยศเช่นนี้ข้าเสอจิ่วน่าจะกำจัดเขาให้พ้นไปตั้งแต่เนิ่น ๆ”เวินซื่อคงไม่ทรยศต่อจินซือถูในเวลานี้แน่นอนนางเพียงส่งเสียงยิ้มเยาะ “นายของพวกเจ้าขี้ขลาดเกินไป แค่ข่มขู่ให้ทุกคนตกใจไปอย่างนั้นเอง แค่นี้ยังต้องถามคนอื่นอีกหรือ?”“จุ๊ ๆ คำพูดนี้พูดได้มีเหตุผลมาก”เสอจิ่วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “แต่ข้าอยากรู้มาก ธิดาศักดิ์สิทธิ์ พวกท่านข่มขู่คุณหนูของข้าอย่างไร”ท่าทีที่เขาถามคำถามนี้อย่างยิ้มแย้ม เต็มไปด้วยการแสดงความน่าเกรงขามเหมือนกับวางแผนถามให้กระจ่าง จากนั้นค่อยแก้แค้นให้เวินเยวี่ยอย่างหนักน่าเสียดายต่อให้เขาจะแสดงความน่าเกรงขาม เวินซื่อก็ไม่เกรงกลัวเขาเลย“วิธีการของข้ามีมากมาย หากเจ้าอยากรู้มากละก็ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสาธิตให้ดูบนร่างกายของเจ้า”เวินซื่อยิ้มเล็กน้อยเช่นกัน ในดวงตามีแววเย็นชาอย่างเหลือล้น“ช่างมันเถอะ ร่างกายของข้าเสอจิ่วยังมีความลับใหญ่หลวงเก็บซ่อนอยู่ ไม่อาจปล่อยให้ธิดาศักดิ์สิทธิ์สาธิตบ
Baca selengkapnya

บทที่ 276

หลังจากนัดเวลาแลกตัวกันแล้ว เสอจิ่วก็หันหลังเดินจากไปแต่ทันทีที่เขาออกจากเรือนเล็กของเวินซื่อ ก็สังเกตเห็นบางอย่างโดยฉับพลัน พลางหันหน้ามองไปในทิศทางหนึ่งจากนั้นก็เห็นแม่ชีเฒ่าหน้าตาบึ้งตึงผู้หนึ่งยืนอยู่ใต้ประตูพระจันทร์ที่อยู่ไม่ไกลนัก กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาขุ่นมัวเสอจิ่วไม่เห็นแม่ชีเฒ่าผู้นี้อยู่ในสายตาเขาสะบัดเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง งูหลายตัวก็โผล่หัวออกมาจากใต้เสื้อผ้าของเขา ส่งเสียงขู่ “ฟ่อฟ่อ” ไปทางแม่ชีเฒ่าเสอจิ่วยังนึกว่าจะได้เห็นแม่ชีเฒ่าผู้นั้นตกใจจนเสียขวัญ แต่นึกไม่ถึงว่าสีหน้าของแม่ชีเฒ่าผู้นั้นจะไม่เปลี่ยนแปลงสักนิดเสอจิ่วส่งเสียง “หึ” ในทันที รู้สึกเบื่อหน่ายก่อนจะหันหลังกลับหายเข้าไปในอารามสุ่ยเยว่ในเรือนเล็ก หลังจากที่เสอจิ่วจากไปแล้วจู๋เยวี่ยก็ทำการตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกเรือนเล็กจนทั่วการตรวจสอบครั้งนี้ ได้พบงูพิษมากกว่าสิบตัว“เสอจิ่วผู้นี้มาครั้งหนึ่ง เรือนเล็กของข้าหลังนี้ก็แทบจะกลายเป็นรังงูไปแล้ว”หลังจากฆ่างูพิษพวกนั้นหมดแล้ว จู๋เยวี่ยก็รวบรวมซากงูพิษไว้ด้วยกันด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เตรียมจะจัดการเผาพวกมันทิ้งทันทีและในขณะนี้เอง เสียงของม่อโ
Baca selengkapnya

บทที่ 277

คำพูดนี้ดูเหมือนกลัวว่าม่อโฉวซือไท่จะคิดมากเกินไป ดังนั้นจึงตั้งใจอธิบายโดยเฉพาะแต่เหมือนเขายิ่งอธิบายมากเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนอยากปกปิดแต่กลับเปิดเผยกว่าเดิมเวินซื่อเชิดหน้าลุกขึ้นยืน “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง ถ้าอย่างนั้นท่านอ๋องรีบเข้ามานั่งก่อนเถิด ข้าจะเข้าไปชงชาร้อน ๆ”นางสาวเท้าวิ่งเข้าไปในห้องอย่างเร่งรีบเหลือเพียงเป่ยเฉินหยวนและม่อโฉวซือไท่อยู่ในเรือนม่อโฉวซือไท่กล่าวอย่างราบเรียบ “ความคิดของท่านอ๋องชัดเจนเกินไป แม้ว่าท่านจะคิดอะไรก็จงสำรวมไว้บ้าง ตอนนี้อู๋โยวยังเป็นคนของอารามสุ่ยเยว่ของเรา ท่านทำเช่นนี้มีแต่จะเป็นผลเสียต่อการบำเพ็ญตนของนางเท่านั้น”เป่ยเฉินหยวนไม่ควรโต้แย้งในขณะนี้จริง ๆหลังจากเขาได้รับจดหมายแล้ว ก็เป็นห่วงมากเหลือเกิน ถึงได้วิ่งมาหาอย่างทนไม่ไหวแต่หลังจากมาถึงแล้ว เมื่อเห็นม่อโฉวซือไท่อยู่ในเรือนเล็ก เขาถึงรู้ตัวว่าการกระทำของตัวเองนั้นบุ่มบ่ามเพียงใดการวิ่งมาหาถึงเรือนสตรีในยามกลางดึก หากถูกใครที่มีเจตนาไม่ดีเห็นเข้า อาจทำให้ชื่อเสียงของอู๋โยวแพร่กระจายออกไปในทางเสื่อมเสียได้เป่ยเฉินหยวนเอ่ยขึ้นมาอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เป็นความผิดของข
Baca selengkapnya

บทที่ 278

หลังจากที่เป่ยเฉินหยวนกลับไปแล้ว เวินซื่อก็กลับเข้ามาในมิติอีกครั้งแต่คราวนี้นางไม่ได้ไปหาเวินเยวี่ยอีกอีกสามวันก็จะเป็นเวลาแลกตัวภายในสามวันนี้ นางจำเป็นต้องตระเตรียมการบางอย่างก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องรับมือกับชายวัยกลางคนผู้นั้นที่มีนามว่าเสอจิ่วอีกฝ่ายชำนาญเรื่องการใช้พิษ เรื่องนี้อาจารย์ของนางสามารถรับมือได้แต่อีกฝ่ายยังสามารถควบคุมงูได้อีกซ้ำยังเป็นงูพิษร้ายแรงอีกด้วยเรื่องนี้หากยังไม่คิดหาวิธีแก้ไข ถึงเวลานั้นพวกนางก็จะยิ่งเป็นฝ่ายถูกกระทำเพราะถึงอย่างไรต่อให้ไม่เกรงกลัว ก็ยังกลัวถูกงูกัดอยู่ดีดังนั้นหลังจากกลับเข้ามาในมิติแล้ว เวินซื่อจึงขึ้นไปบนชั้นสองก่อนตอนนี้ที่นี่ไม่เพียงแต่มีพวกสมุนไพรที่มีความเป็นพิษวางอยู่เท่านั้น แต่ยังมีแมลงพิษอีกหลายตัวด้วยมีมดคันไฟ มีคางคก แล้วยังมีแมงมุมพิษจำนวนหนึ่งอีกด้วยแต่หลังจากที่เวินซื่อกวาดสายตามองพวกมันแล้ว สุดท้ายก็ไปหยุดอยู่ที่แมงป่องกว่าสิบตัวในมุมหนึ่งถ้าให้บอกว่าพิษที่ร้ายแรงที่สุดในบรรดาสัตว์มีพิษทั้งห้า ก็ต้องเป็นแมงป่องที่เป็นผู้นำของสัตว์มีพิษทั้งห้าอยู่แล้วไม่ใช่เพราะพิษบนตัวพวกมันเท่านั้น แต่ยังเป็น
Baca selengkapnya

บทที่ 279

เวินจื่อเฉินที่คิดถึงน้องสาวมากจริง ๆ ไม่อยากยอมแพ้ จึงไล่ตามไปอีกครั้ง การไล่ตามครั้งนี้ถึงได้สังเกตเห็นว่า ทิศทางที่น้องสาวของเขาต้องการไปไม่ใช่เมืองหลวง และไม่ใช่หมู่บ้านสองแห่งที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงหลังจากรออยู่สักพักใหญ่ ถึงมองเห็นว่าไม่ไกลจากถนนข้างหน้ามีศาลาพักร้อนหลังหนึ่งที่มีไว้ให้ผู้คนที่สัญจรไปมาได้หยุดพัก เวินจื่อเฉินมองไปที่ศาลาพักร้อนหลังนั้นจากระยะไกล “ศาลาปี้เยวี่ย? พวกน้องหญิงมาทำอะไรที่นี่?”ขณะที่เขากำลังงุนงงอยู่นั้น ก็สังเกตเห็นคนสามคนที่สวมเสื้อผ้าผิดแผกไปเดินออกมาจากอีกด้านหนึ่งของศาลาปี้เยวี่ยเวินจื่อเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยทันที พลางหยุดฝีเท้าลงเขาที่รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ วิ่งไปที่ซ่อนตัวที่หลังต้นไม้ใหญ่เงียบ ๆ จากนั้นก็โผล่หัวออกมามองไปทางด้านนั้น“เวินจื่อเฉินตามมาแล้ว”ม่อโฉวซือไท่ชำเลืองมองผ่านหางตาไปทางด้านหลัง พลางเอ่ยเตือนเวินซื่อเวินซื่อไม่ได้มองไปทางด้านหลังเลย พลางเอ่ยอย่างราบเรียบ “ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ขอเพียงอีกประเดี๋ยวไม่ออกมาขัดขวางข้าก็พอ”ม่อโฉวซือไท่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกอาจารย์กับศิษย์จดจ่ออยู่ที่การรับมือกับเสอจิ่วและพวกทั้ง
Baca selengkapnya

บทที่ 280

“อื้อ?! อื้อ ๆ ๆ!”เสอจิ่ว?เสอจิ่วมาแล้ว!ในที่สุดพวกเขาก็มาช่วยข้าแล้ว!เวินซื่อนังตัวแสบสมควรตาย วันตายของนางใกล้เข้ามาแล้ว!เวินเยวี่ยแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจน่าเสียดายหากไม่ได้อยู่ในกำมือของเวินซื่อ ตอนนี้นางคงอยากปรี่เข้าไปตรงที่มีเสียงของเสอจิ่วในทันทีเวินเยวี่ยที่ถูกปิดตาไว้มองอะไรไม่เห็นเลย ทำได้เพียงแยกแยะสถานการณ์ตรงหน้าโดยอาศัยเสียงที่เพิ่งได้ยิน“เวินซื่อ!”เมื่อเสอจิ่วและคนอื่น ๆ เห็นเวินเยวี่ยที่มีสภาพอันน่าเวทนาในเวลานี้ ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่นอน ยกเว้นจินซือถูเขาอาจเป็นคนผ่าเหล่าเพียงคนเดียวในสามคนที่รู้สึกว่าฉากนี้เป็นที่น่าพึงพอใจของทุกคนน่าเสียดายที่ตอนนี้อยู่ต่อหน้าสองคนนั้น เขายังต้องเสแสร้งอยู่ดังนั้นก่อนที่เสอจิ่วและคนอื่น ๆ จะได้เอ่ยปาก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองกลั้นหัวเราะไม่อยู่ จึงคำรามลั่นด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว “ท่านก็ไม่รักษาคำพูดเลย เหตุใดถึงปฏิบัติต่อคุณหนูเวินเยวี่ยของเราเช่นนี้? ดูสภาพของนางในตอนนี้สิ ท่านทำอะไรกับนางกันแน่?!”ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ก็ทำได้ดีทีเดียว!เวินซื่อเหลือบมองเขา สังเกตเห็นความชื่นชมที่หลบซ่
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
2627282930
...
39
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status