Share

บทที่ 280

Author: จิ้งซิง
“อื้อ?! อื้อ ๆ ๆ!”

เสอจิ่ว?

เสอจิ่วมาแล้ว!

ในที่สุดพวกเขาก็มาช่วยข้าแล้ว!

เวินซื่อนังตัวแสบสมควรตาย วันตายของนางใกล้เข้ามาแล้ว!

เวินเยวี่ยแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ

น่าเสียดายหากไม่ได้อยู่ในกำมือของเวินซื่อ ตอนนี้นางคงอยากปรี่เข้าไปตรงที่มีเสียงของเสอจิ่วในทันที

เวินเยวี่ยที่ถูกปิดตาไว้มองอะไรไม่เห็นเลย ทำได้เพียงแยกแยะสถานการณ์ตรงหน้าโดยอาศัยเสียงที่เพิ่งได้ยิน

“เวินซื่อ!”

เมื่อเสอจิ่วและคนอื่น ๆ เห็นเวินเยวี่ยที่มีสภาพอันน่าเวทนาในเวลานี้ ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

แน่นอน ยกเว้นจินซือถู

เขาอาจเป็นคนผ่าเหล่าเพียงคนเดียวในสามคนที่รู้สึกว่าฉากนี้เป็นที่น่าพึงพอใจของทุกคน

น่าเสียดายที่ตอนนี้อยู่ต่อหน้าสองคนนั้น เขายังต้องเสแสร้งอยู่

ดังนั้นก่อนที่เสอจิ่วและคนอื่น ๆ จะได้เอ่ยปาก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองกลั้นหัวเราะไม่อยู่ จึงคำรามลั่นด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว “ท่านก็ไม่รักษาคำพูดเลย เหตุใดถึงปฏิบัติต่อคุณหนูเวินเยวี่ยของเราเช่นนี้? ดูสภาพของนางในตอนนี้สิ ท่านทำอะไรกับนางกันแน่?!”

ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ก็ทำได้ดีทีเดียว!

เวินซื่อเหลือบมองเขา สังเกตเห็นความชื่นชมที่หลบซ่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 281

    “ดี”เพิ่งสิ้นเสียงเสอจิ่ว ยังไม่ทันที่เวินซื่อจะได้เอ่ยปาก ม่อโฉวซือไท่ข้างกายนางรับปากอย่างไม่ลังเลม่อโฉวซือไท่หันมองเวินซื่อ แววตาแน่วแน่มาก “ข้าไปเอง เจ้าอย่าขยับ”เวินซื่ออ้าปากค้างเดิมทีนางอยากบอกว่านางควรไปอย่างไรนั่นเป็นศพของมารดานางแต่เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของม่อโฉวซือไท่ เวินซื่อลังเลสักครู่ จากนั้นพยักหน้าเชื่องช้า“ได้ อาจารย์ท่านไปเถอะ ระวังตัวด้วย”กับพวกเสอจิ่วทั้งสามที่อยู่ฝั่งตรงข้าม จินซือถูลอบมองเวินซื่อแวบหนึ่ง จากนั้นก็ถามอย่างไม่ตั้งใจ “ให้ข้าไปหรือไม่?”เสอจิ่วเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่ เสอชี เจ้าไป”เสอชีที่ปกปิดตัวอย่างมิดชิดพยักหน้ารับคำสั่ง “ขอรับ”ผู้ที่อยู่ในลำดับเจ็ดเชื่อฟังผู้ที่อยู่ในลำดับเก้าขนาดนี้เชียว?หรือการเรียงลำดับของคนพวกนี้ไม่ได้นำหน้าด้วยหนึ่ง แต่นำหน้าด้วยเก้าหรือ?จินซือถูเหลือบมองเสอชีอย่างครุ่นคิดแวบหนึ่ง จากนั้นยักไหล่ แล้วหลีกทางให้หลังจากเสอชีวางโลงศพชั้นนอกลง ก้าวเท้าเดินไปยังฝั่งตรงข้ามขณะเดียวกัน ม่อโฉวซือไท่จับลูกประคำในมือแน่นแล้วเดินไปทีละก้าวเสอจิ่วจ้องแม่ชีเฒ่าตรงหน้าเขม็งจู่ๆ เขานึกขึ้นได้ว่าเมื่อสามวันก่อนเค

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 282

    ภายใต้คำสั่งของเวินเยวี่ย เสอจิ่วด้านหลังนางยิ้มจางๆ “น้อมรับคำสั่งของท่าน คุณหนูเวินเยวี่ย”น้ำเสียงแหบแห้งดังขึ้น เสียง “ฟ่อฟ่อ” ดังขึ้นจากทั่วสารทิศงูพิษสีเขียวหลายสิบตัวรีบเลื้อยเข้าไปหาพวกเวินซื่อทั้งสามคนอย่างรวดเร็วแล้วล้อมพวกนางไว้ทั้งหน้าหลังซ้ายขวาจนไม่มีทางหนีเวินเยวี่ยที่เห็นภาพนี้ รู้สึกราวกับตัวเองได้เห็นจุดจบของพวกเวินซื่อทั้งสามคนแล้ว โดยเฉพาะเวินซื่อ ในไม่ช้านางต้องคุกเข่าลงตรงหน้าตัวเองแล้วร้องไห้ขอร้อง!“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...”เวินเยวี่ยอดไม่ได้จึงหัวเราะเสียงดังขึ้นมา ทว่าในขณะนั้นเอง สีหน้าของนางเปลี่ยนทันใด เสียงดัง “พรวด” กระอักบางสิ่งออกมา“คุณหนูเวินเยวี่ย!”เสอจิ่วตกใจ เห็นเพียงเลือดที่เวินเยวี่ยกระอักออกมาเป็นสีดำ!“เจ้าวางยาพิษไว้ก่อนหรือ!”เสอจิ่วจ้องเวินซื่ออย่างโกรธแค้นเวินซื่อมองงูพิษเหล่านั้นที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “หากข้าไม่วางยาพิษไว้ก่อน จะป้องกันคนต่ำช้าอย่างพวกเจ้าได้อย่างไร?”“ให้ตายสิ! นำยาถอนพิษมาให้ข้า!”“ย่อมได้แน่นอน แต่เจ้าต้องปล่อยพวกเราไปก่อน”เวินซื่อยิ้มจางๆ“แค่ก แค่ก แค่ก ห้ามให้พวกนางไป!”เวินเยวี่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 283

    ในยามที่เห็นแมงป่องเหล่านั้น เดิมทีเสอจิ่วและเสอชียังหันมองจินซือถูอย่างระแวงทว่าเมื่อเห็นสีหน้าที่ตะลึงยิ่งกว่าพวกเขา ความคลางแคลงจึงลดน้อยไปบ้าง“ไป! ไปเดี๋ยวนี้!”แมงป่องเหล่านั้นไม่ใช่แมงป่องทั่วไป หากเป็นเช่นนี้ต่อไปงูของเขาต้องถูกฆ่าตายจนหมดแน่!เสอจิ่วไม่ลังเลอีกต่อไป จับตัวเวินเยวี่ยพร้อมกับเสอชีแล้วหันหลังหนีไป“ไม่! ข้าไม่ไป! พวกเจ้ามันไร้ประโยชน์ แค่ผู้หญิงสามคนยังจัดการไม่ได้!”เวินเยวี่ยโกรธจนกัดฟันแทบแหลกหมดปากทว่าคราวนี้เสอจิ่วกับเสอชีกลับไม่ฟังที่นางพูด บังคับพาตัวนางไปด้วยจินซือถูหันจ้องมองเวินซื่อหนึ่งครั้ง แล้วรีบตามพวกเขาไปทันทีเมื่อเสอจิ่วหนีไป พวกงูพิษที่ยังมีชีวิตอยู่ต่างพากันหลบหนีแน่นอน ตัวที่หนีไม่เร็ว ย่อมถูกแมงป่องเหล่านั้นของเวินซื่อฆ่าตาย“พวกเขาหนีไปแล้ว”ม่อโฉวซือไท่ขมวดคิ้วมองทิศทางที่พวกเสอจิ่วกับเวินเยวี่ยหนีไปแต่จากนั้นเหมือนนางคิดถึงบางอย่าง จึงคลายคิ้ว “โชคดี ที่พวกเราวางแผนไว้แล้ว”“คาดว่าอีกเดี๋ยวท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนน่าจะจับตัวไว้ได้”ในที่สุดการปะทะกันก็จบลงสักที เวินซื่อโล่งอกอย่างอดไม่ได้“เก็บกวาดสักหน่อย แล้วไปจาก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 284

    “อู๋โยว!”ม่อโฉวซือไท่กับจู๋เยวี่ยอุทานพร้อมกันเวินซื่อถูกเวินจื่อเฉินโผเข้าใส่จนล้มลงพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัวแต่นางไม่มีเวลาสนใจเรื่องนี้ รีบลุกขึ้นมองดูเวินจื่อเฉิน เห็นเพียงบนแขนของเขาถูกงูพิษที่เหลือเพียงครึ่งท่อนกัดเอาไว้แน่น!จู๋เยวี่ยรีบสะบัดหัวงูออกทันที จากนั้นใช้กระบี่แทงจนทะลุแต่น่าเสียดายที่ต่อให้เป็นเช่นนั้น ก็สายไปเสียแล้วเวินซื่อรีบเปิดแขนเสื้อของเวินจื่อเฉินออก เห็นเพียงบนแขนของเขาบริเวณที่ถูกกัดกลายเป็นผืนสีดำคล้ำ“รีบมัดแขนส่วนบนของเขา! มัดให้แน่นหน่อย!”ม่อโฉวซือไท่มอบศพของหลานจื่อจวินให้เวินซื่อ จากนั้นระหว่างที่จู๋เยวี่ยกำลังมัดแขนให้เวินจื่อเฉิน จึงรีบนำยาถอนพิษออกมาหนึ่งเม็ด แล้วให้เวินจื่อเฉินกินแต่งูของเสอจิ่วล้วนมีพิษร้ายแรงเฉพาะตัว ยาถอนพิษเหล่านี้ทำได้เพียงบรรเทา ไม่สามารถขจัดพิษที่อยู่ในร่างเวินจื่อเฉินสิ่งสำคัญคือ ต่อให้บรรเทาก็คงยื้อเวลาได้ไม่นานนัก อย่างมากก็ไม่เกินหนึ่งเค่อ เวินจื่อเฉินต้องตายด้วยพิษงูนี้“น้อง...น้องพี่ เจ้าไม่เป็นไรนะ? งูนั่น...เจ้าอยู่ห่างไว้...อันตราย...”เวินจื่อเฉินทำราวกับไม่ตระหนักเลยสักนิดว่าตอนนี้เขาตกอยู่ในอัน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 285

    ความเงียบงันของนางทำให้ม่อโฉวซือไท่ตกอยู่ในความเงียบทันใดศิษย์อาจารย์สองคนหันมองหน้ากันมุมปากม่อโฉวซือไท่กระตุก “บอกเจ้ากี่ครั้งแล้ว พิษกับยาถอนพิษต้องคิดค้นพร้อมกัน?”เวินซื่อกล่าวเสียงอ่อย “....เวลากระชั้นชิดเกินไป จึงคิดไม่ทัน...เอาเถอะ อีกเดี๋ยวข้ากลับไปจะเริ่มคิดค้นทันทีเจ้าค่ะ!”โชคดีที่ข่าวดีส่งมาเสียก่อนเมื่อด้านเป่ยเฉินหยวนนำกองทัพธงดำมาถึงละแวกใกล้เคียง จับตัวอีกฝ่ายได้จริงเรียกได้ว่าพวกของเสอจิ่วที่หนีรอดไปได้ตกสู่หลุมพลางของเป่ยเฉินหยวนอย่างจังทว่าตอนที่กำลังจะทำสำเร็จนั้น คนของจวนเจิ้นกั๋วกงมาแล้ว“พวกเขามาทำอะไร?”สีหน้าของเวินซื่อดูไม่ค่อยดีนักเป่ยเฉินหยวนรู้ว่าเมื่อนางได้ยินเช่นนี้ต้องอารมณ์เสียแน่ จึงพูดอย่างระอา “พวกเขาพาเวินเยวี่ยไปแล้ว จินซือถูหนีไปหนึ่งคน แต่เสอชีกับเสอจิ่วถูกจับตัว คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับท่าน ดังนั้นข้าจึงให้คนนำตัวมาให้ท่านแล้ว”เป่ยเฉินหยวนจงใจปล่อยจินซือถูไปเพราะเวินเยวี่ยแจ้งเรื่องข้อตกลงระหว่างทั้งสองกับเขาแต่แรกดังนั้นเป่ยเฉินหยวนจึงให้ผู้ใต้บัญชาปล่อยช่องทางที่ยากสังเกตเห็นแก่จินซือถู จินซือถูเข้าใจดีจึงทิ้งเสอชีกับเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 286

    เวินซื่อลุกพรวด เตรียมลงจากรถม้าไปปะทะกับท่านพ่อตัวดีของนางทว่าขณะนี้ ม่อโฉวซือไท่ยื่นมือไปขวางนางเอาไว้ม่อโฉวซือไท่ส่ายหน้าให้นาง “เจ้าไม่ต้องไป ดูแลท่านแม่ของเจ้าให้ดี มอบให้อาจารย์จัดการเถอะ”พูดจบ ม่อโฉวซือไท่ลงจากรถม้าเวินเฉวียนเซิ่งสามพ่อลูกที่ได้ยินความเคลื่อนไหวของรถม้าด้านหลังหันมอง เดิมทั้งสามนึกว่าจะได้เห็นเวินซื่อ แต่น่าเสียดายที่เป็นม่อโฉวซือไท่ม่อโฉวซือไท่ไม่ได้พูดคุยกับเวินเฉวียนเซิ่งทันทีสายตาของนางกวาดมองเวินฉางอวิ้นก่อน จากนั้นค่อยกวาดมองเวินจื่อเยวี่ย“ดูท่าวันนี้น้องสี่ของพวกเจ้าไม่ได้มาด้วย ก็น่าจะใช่ ร่างกายของเขาขี่ม้าไม่ได้”ม่อโฉวซือไท่กล่าวเสียงเรียบ“น้องสี่ของข้ามาหรือไม่มาไม่เกี่ยวกับท่าน เวินซื่อล่ะ ให้นางออกมาพบพวกข้า!”ยามนี้เมื่อมีเวินเฉวียนเซิ่งอยู่ เวินจื่อเยวี่ยจึงใจกล้าไม่น้อยมองม่อโฉวซือไท่อย่างรำคาญแวบหนึ่ง ซ้ำยังเรียกชื่อเวินซื่อออกมาโดยตรง“นามของธิดาศักดิ์สิทธิ์เจ้าเรียกขานโดยตรงได้หรือ?”สำหรับเด็กที่ไม่รู้จักสำนึกผิดเช่นนี้ ม่อโฉวซือไท่ไม่คิดจะไว้หน้ากันนางหันไปเหน็บแนมเวินเฉวียนเซิ่ง “ทำไม หลังจากจื่อจวินจากไป เจ้าที่เป็

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 287

    “เป่ยเฉินหยวน!”เวินเฉวียนเซิ่งช้ากว่าลูกชายคนโตหนึ่งก้าว เมื่อเขาก้าวไปข้างกายลูกชายคนที่สาม แล้วก้มหน้ามอง ขาข้างนั้นหักจนหักไม่ได้อีกแล้วเวินเฉวียนเซิ่งจ้องเป่ยเฉินหยวนอย่างโกรธแค้น “ท่านมีสิทธิ์อะไรลงมือกับลูกข้าเช่นนี้! ที่ท่านถีบเขาเมื่อครู่หมายจะเอาชีวิตลูกข้าหรือ?”เป่ยเฉินหยวนนั่งอยู่หลังม้าไม่สะทกสะท้าน แค่นหัวเราะใส่เวินเฉวียนเซิ่งที่คิดจะทำให้เรื่องใหญ่โต “เจิ้นกั๋วกง ข้าอยู่ที่นี่เพื่อคุ้มกันความปลอดภัยของธิดาศักดิ์สิทธิ์ตามพระบัญชา ลูกชายท่านคิดจะฝ่าการป้องกันของกองทัพธงดำ คิดจะบุกเข้าไปใกล้รถม้าของธิดาศักดิ์สิทธิ์ การกระทำอุกอาจเช่นนี้ ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา ต่อให้ข้าถีบเขาจนตายท่านจะทำอะไรได้?”“ข้าเห็นว่าคนที่กำเริบเสิบสานเป็นท่านมากกว่า!”เวินเฉวียนเซิ่งสีหน้าถมึงทึง “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะ ท่านปกป้องนางเด็กเวินซื่อมากขนาดนี้ เกรงว่าคงไม่เพียงเพราะพระบัญชาของฝ่าบาทกระมัง?”“ท่านคิดเช่นไรกับเวินซื่อ ในใจท่านรู้อยู่แก่ใจดี นึกว่าคนอื่นตาบอดกันหมดอย่างนั้นหรือ?”“เพียะ!”เมื่อสิ้นเสียงเวินเฉวียนเซิ่ง สีหน้าม่อโฉวซือไท่เปลี่ยนฉับพลัน ยกมือขึ้นแล้วฟาดลงบนหน้าเวินเฉว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 288

    ไม่ว่าอย่างไร เขาต้องนำร่างของหลานจื่อจวินกลับไปให้ได้ตอนมีชีวิตหลานจื่อจวินคือคนของจวนเจิ้นกั๋วกง ตอนตายก็ต้องเป็นผีของจวนเจิ้นกั๋วกงศพของนางต้องฝังในสุสานที่เขาเตรียมไว้ให้นางเท่านั้นจากนี้ร้อยปี พวกเขาสองสามีภรรยาจะฝังร่วมกัน“อ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ท่านอย่าใช้คำพูดเหล่านี้มาหลบหลีกคำถามที่ข้าถามท่าน วันนี้หากท่านไม่อยากให้กระทบต่อชื่อเสียงของเวินซื่อ ให้นางมอบร่างของแม่นางคืนมาซะ ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาพวกท่านต้องรับกรรมเอง...” “ไม่ต้องพูดมาก!”เป่ยเฉินหยวนเอ่ยขัดเวินเฉวียนเซิ่งกะทันหันวินาทีต่อมา เขากระโดดลงจากหลังม้า ก้าวยาวๆ ไปตรงหน้าเวินเฉวียนเซิ่งเวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากอีกฝ่าย เขากำหมัดแน่นยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เมื่อเป่ยเฉินหยวนเดินมาถึงตรงหน้า วินาทีที่อีกฝ่ายก้มมองเขาด้วยความสูงที่ได้เปรียบกว่า เวินเฉวียนเซิ่งรู้สึกอดสูอย่างประหลาด โดยเฉพาะจากนี้ที่อีกฝ่ายเอ่ยปากพูดคำเหล่านั้น ความอัปยศอดสูยิ่งพุ่งขึ้นไปยอดสุด“ข้าไม่เหมือนเจิ้นกั๋วกงอย่างท่าน ไม่ยี่หระที่จะใช้ชื่อเสียงของสตรีมาข่มขู่อีกฝ่าย แต่วันนี้เมื่อท่านคิดใช้ชื่อเสียง

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 390

    สมุนไพรทั้งหมดนี้ในที่ดินกุยอวิ๋น เป็นสิ่งที่นางได้ตกลงไว้แล้วว่าจะมอบให้กับเป่ยเฉินหยวนเป็นสมุนไพรสำหรับทหารในกองทัพธงดำที่ออกรบเพื่อราชวงศ์ต้าหมิงมาหลายปี จนสุดท้ายร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล พิการ และเจ็บปวดบัดนี้ สมุนไพรที่ปลูกไว้ได้หนึ่งเดือนแล้วกลับถูกพวกเขาทำลายไปกว่าครึ่ง แถมยังไม่เว้นแม้แต่แปลงสมุนไพรร้ายกาจถึงเพียงนี้ นางจะกลืนความโกรธแค้นนี้ลงไปได้อย่างไรนางจะไม่ปล่อยคนที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไป และคนร้ายตรงหน้าเหล่านี้ นางก็จะไม่ปล่อยไปเช่นกัน“ท่านลุงหลาน ต้องรับพวกเขาให้ดี”ผู้เฒ่าหลานไม่คิดว่าเวินซื่อจะมีด้านนี้ด้วยเดิมทีเขาคิดว่าปกติแล้วคุณหนูน้อยผู้อ่อนโยนและใจดีมาโดยตลอดนั้น จะเหมือนกับคุณหนูใหญ่มากแต่คาดไม่ถึงว่า ภายใต้ความอ่อนโยนของคุณหนูน้อย จะยังมีด้านที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ซ่อนอยู่ช่าง...เหมือนกับนายท่านในตอนนั้นไม่มีผิด!ดวงตาที่แก่ชราของผู้เฒ่าหลานฉายแววเฉียบคม จ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาร้อนแรง ราวกับว่าเขามองเห็นภาพของเจ้าบ้านสกุลหลานในอดีตในตัวของนางมองจนหัวใจที่สงบนิ่งมานานหลายปีของเขาถึงกับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานายท่าน สกุลหลานของพวกเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 389

    “รบกวนลุงหลานเริ่มจัดหาคนในวันพรุ่งนี้ ช่วงสองสามวันนี้ลำบากท่านแล้ว”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ลำบากหรอก เพียงแต่ว่าคนร้ายที่วางยาพิษยังจับตัวไม่ได้ หากพวกเราแก้ไขตอนนี้ เกรงว่าคนร้ายนั่นจะกลับมาอีก”เวินซื่อย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีนางยิ้มเล็กน้อย “ลุงหลานวางใจได้ พรุ่งนี้ท่านจัดหาคนได้เลย คืนนี้พวกเราจะจับคน”......คืนนั้นควรจะเป็นเวลาที่เข้าสู่ห้วงนิทรา แต่กลับมีคนจำนวนหนึ่งถือถังไม้คนละใบ หลบเลี่ยงคนลาดตระเวนเหล่านั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาแอบเข้าไปในที่ดินกุยอวิ๋นอีกครั้งอย่างชำนาญ“หัวหน้า เมื่อวานพวกเราสาดยาพิษที่แปลงสมุนไพรทางตะวันออก ทางใต้ก็สาดไปหลายแห่งแล้ว คืนนี้จะเปลี่ยนไปสาดทางตะวันตกหรือทางเหนือดี?”“ได้ ไปดูทางตะวันตกก่อนก็แล้วกัน ถึงอย่างไรคุณชายสามก็บอกว่าต้องสาดให้หมด ต้องทำหมดทุกทาง”ดังนั้น คนร้ายที่ปิดบังใบหน้าทั้งเจ็ดแปดคนจึงอ้อมผ่านไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกไม่นานนัก พวกเขาก็วิ่งมาถึงที่หมาย“เจ้าสอง เจ้าสาม พวกเจ้าสองคนไปดูต้นทาง มีอะไรก็รีบเป่านกหวีด เจ้าสี่ เจ้าห้า เจ้าหก พวกเจ้าสามคนไปตักน้ำ เจ้าเจ็ด เจ้ามาทำลายสมุนไพรกับข้า”“ได้เลย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 388

    “คนร้ายกระจอกๆ พวกนั้นจับตัวได้หรือไม่?”“พวกที่มาครั้งแรกจับได้แล้วขอรับ แต่ไม่กี่วันต่อมา ก็มีมาอีกสองสามคน แถมยังระมัดระวังตัวยิ่งกว่า เจ้าเล่ห์มาก พิษที่เทในแปลงสมุนไพรก็เป็นฝีมือของพวกที่มาครั้งที่สองนี้”เวินซื่อเอ่ยถาม “มีคนได้รับผลกระทบบ้างหรือไม่?”ผู้เฒ่าหลานส่ายหน้า “ยาพิษที่เทนั้นดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่แปลงสมุนไพรของเราเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนมากนัก”เวินซื่อแค่นหัวเราะ “หากวางยาพิษคน เรื่องนี้คงไม่ง่ายดายเช่นนี้แล้ว”หลังจากที่นางทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็กำชับว่า “รบกวนลุงหลานเดินทางรอบนี้ ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืด ข้าจะไปดูที่ดินกุยอวิ๋นก่อน”ม่อโฉวซือไท่ก็อยู่ด้วยพอดี นางได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์จะไปกับพวกเจ้าด้วย ไปดูสักหน่อย”“ข้าก็ไปด้วยๆ !”ฉางเสี่ยวหานรีบยกมือออกจากอารามสุ่ยเยว่ ก็มีรถม้าเรียบง่ายคันหนึ่งจอดรออยู่ด้านนอกนี่เป็นสิ่งที่เวินซื่อสั่งให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาระยะทางระหว่างที่ดินกุยอวิ๋นถึงอารามสุ่ยเยว่ก็ไม่ถือว่าใกล้ จะให้พ่อบ้านหลานที่อายุมากแล้วเดินไปเดินมาก็คงไม่ได้ดังนั้น เวินซื่อจึงให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 387

    เป่ยเฉินหยวนไม่คิดว่านางจะยังจำเรื่องนี้ได้ และยังจัดสรรที่ดินไว้ให้เขาแล้วเขารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งอู๋โยวที่ดีเช่นนี้ เขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?เพียงแต่ว่าคนสกุลอันนั่นพูดถูก เขามีความคิดต่ำทราม หากถูกคนอื่นรู้เข้า นั่นก็เท่ากับทำลายการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น ทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของผู้อื่น เป็นเรื่องที่เลวทรามอย่างยิ่งดังนั้น เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้จึงทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้อย่างระมัดระวังเมื่อไม่มีอันหลันซิน ขบวนก็ไม่ได้ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ไม่นานก็ออกเดินทางต่อสองวันต่อมา ขบวนที่เดินทางไกลไปยังลู่โจวในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองหลวงแล้วครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ฝ่าบาททรงนำเหล่าขุนนางมาต้อนรับที่ประตูเมืองหลวงด้วยพระองค์เองสถานการณ์ยิ่งใหญ่เอิกเกริกเช่นนี้ ทำเอาเวินซื่อตกใจไม่น้อยภายหลังเวินซื่อถึงได้รู้ว่า ที่แท้ข่าวคราวจากลู่โจวก็แพร่เข้ามาถึงในเมืองหลวงแล้วหลังจากขอฝนที่จินโจวแก้ปัญหาภัยแล้งได้แล้ว เวินซื่อก็มีชื่อเสียงเรื่องการสวดอธิษฐานขอพรให้ผู้ประสบภัยพิบัติที่ลู่โจวเพิ่มขึ้นมาอีกตอนนี้ชื่อเสียงของนางไม่ได้เลื่องลือแค่ในเมืองหลวงและจินโจวสองแห่งเท่าน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 386

    ภายในป่า เงียบสงบไปครู่หนึ่ง ถึงมีเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ ดังขึ้น“เจ้าพูดถูก ข้าไม่คู่ควร”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเย็นชา สายตาเย็นเยียบ “แต่เจ้าไม่คู่ควรยิ่งกว่า”“เจ้าอยากจะใช้คนร้ายที่หลบหนีไปได้มาบีบบังคับข้า น่าเสียดาย ข้าไม่หลงกลเจ้า”เป่ยเฉินหยวนพูดจบก็ยกมือขึ้น กองทัพธงดำจำนวนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นทันที ล้อมอันหลันซินเอาไว้อันหลันซินตกใจทันที ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี“ท่านคิดจะทำอะไร?”เป่ยเฉินหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ขอบคุณอู๋โยวให้ดีเถอะ หากมิใช่เพราะนาง หัวของเจ้าคงถูกข้าตัดเอาไปเตะเล่นนานแล้ว”พูดจบเขาก็หันหลังกลับไปออกคำสั่ง “เอาตัวไป มัดให้แน่นแล้วส่งไปให้หนิงหย่วนโหว ให้เขาเฝ้าไว้ให้ดีๆ ขอแค่ไม่ตาย จะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าคนหนีไป ข้าจะเอาเรื่องกับเขา”“พ่ะย่ะค่ะ!”กองทัพธงดำหลายนายรีบเข้ามาทันทีไม่!ไม่ได้!นางจะถูกพาตัวไปไม่ได้!นางอุตส่าห์รอโอกาสนี้มาอย่างยากลำบาก หากถูกพาตัวไปแล้ว ต่อไปนางจะกลับมาหาอาซื่อได้อย่างไร!อันหลันซินเห็นท่าไม่ดี อ้าปากกำลังจะร้องตะโกน“อึก...”น่าเสียดายที่นางเพิ่งจะส่งเสียงออกมา ฝักกระบี่ก็ฟาดลงบนคอของนางอย่างแรงทำให้นางสลบไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 385

    คนที่ปรากฏตัวอยู่ด้านนอกรถม้าของเป่ยเฉินหยวนคืออันหลันซิน“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน หม่อมฉันจะทำอะไรท่านได้ ท่านจะระแวงหม่อมฉันขนาดนี้ไปทำไมเพคะ?”อันหลันซินยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้นเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้ว สายตาไม่พอใจ “มีธุระก็พูด ไม่มีธุระก็ไสหัวไป”ท่าทีที่ไม่เกรงใจเมื่อเทียบกับรอยยิ้มที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อครู่ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆอันหลันซินแค่นเสียงหัวเราะในใจเสแสร้งอะไรกันตอนนี้รู้จักปฏิบัติต่อสตรีอื่นอย่างแตกต่างเพราะอาซื่อ แต่ต่อไปความพิเศษเช่นนี้ไม่แน่ว่าจะตกไปอยู่กับสตรีอื่นอย่างไรเสีย บุรุษในโลกนี้ก็เหมือนกันหมดอันหลันซินระงับความรังเกียจในใจ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน “เอาละ รู้ว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ชอบหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันมีข้อแลกเปลี่ยน อยากจะคุยกับท่านสักหน่อยเพคะ”นางพูดเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนกลับไม่มองนางแม้แต่น้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก “อย่างเจ้า มีคุณสมบัติอะไรมาทำข้อตกลงกับข้า?”“ที่ข้ายอมให้เจ้าอยู่ในขบวนนี้จนถึงตอนนี้ ก็เพียงเพราะเห็นแก่หน้าอู๋โยว”รอยยิ้มบนใบหน้าของอันหลันซินแข็งค้าง กัดฟันเล็กน้อย“เหอะๆ หม่อมฉั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 384

    เป่ยเฉินหยวนนอนเอนกายอย่างสบายอารมณ์อยู่ในรถม้า ในขณะเดียวกันก็นอนอยู่ข้างกายเวินซื่อ หลับตาพริ้มขยับศีรษะอย่างมีความสุข ตอบคำถามของนางทีละประโยค“ได้ ไม่แรง ไม่ได้ดึงเลย ปวดนิดหน่อย เพราะซื่อเอ๋อร์ลูบให้ หัวก็เลยไม่ปวดมากแล้ว”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่นางยังจำตำแหน่งกดจุดต่างๆ บนศีรษะที่อาจารย์ม่อโฉวสอนได้ ผสมผสานกับวิธีการนวด แล้วนวดให้เป่ยเฉินหยวน ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะดีเลยทีเดียวเวินซื่อที่คิดว่าได้ผลจริงๆ ก็ยังคงตั้งใจจ้องมองศีรษะของเป่ยเฉินหยวน จดจ่ออยู่กับการผสมผสานวิธีการนวดและกดจุดต่างๆ ของนางหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในรถม้าดูเหมือนจะเงียบสงบลงอย่างสิ้นเชิงเงียบจนแม้ว่าภายนอกจะมีเสียงล้อรถดังอยู่ ก็ยังได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอภายในรถม้าเวินซื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป่ยเฉินหยวนไม่รู้ว่าหลับตาลงตั้งแต่เมื่อไรแล้วเวินซื่อเห็นดังนั้น มือที่วางอยู่บนศีรษะของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง จนกระทั่งพอสมควรแล้ว นางถึงได้ชักมือกลับก้มหน้าลงมองสีหน้าที่อ่อนล้าระหว่างคิ้วของเป่ยเฉินหยวน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เวินซื่อก็หยิบขวดน้ำทิพย์ออกมาจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 383

    “ปวดหัวหรือ? เกิดอะไรขึ้น? ปวดเป็นพักๆ หรือว่าปวดมากตลอดเวลา?”พอเวินซื่อได้ยินเป่ยเฉินหยวนบอกว่าตนเองปวดหัว ก็ไม่ทันได้ใส่ใจกับคำเรียกที่ดูเหมือนจะสนิทสนมเกินไปนั่น รีบถามอย่างกระวนกระวาย“ปวดเป็นพักๆ เหมือนกับมีคนมากมายพูดอยู่ในหัวของข้า หนวกหูมาก ปวดเหลือเกิน”เป่ยเฉินหยวนมองนางอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มผู้ซึ่งปกติแล้วสูงใหญ่และพึ่งพาได้เสมอ เวลานี้กลับดูอ่อนแอเหมือนหมาป่าตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำได้เพียงส่งเสียงร้องครางกับคนตรงหน้าเพื่อระบายความเจ็บปวดของตนเวินซื่อไม่เคยเห็นเป่ยเฉินหยวนในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้มาก่อนแม้แต่ครั้งแรกที่เห็นเขาป่วยที่ริมลำธารเล็กๆ หลังภูเขานั่น เป่ยเฉินหยวนในตอนนั้นก็ยังคงสติไว้ได้บ้างแต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้ กลับเหมือนแสดงด้านที่อ่อนแอยามเจ็บป่วยออกมาให้นางเห็นอย่างไม่มีปิดบังเวินซื่อจึงลูบหน้าผากเขาด้วยความสงสารทันที แล้วจับชีพจร “ไม่ปวดแล้วๆ ตอนนี้ข้าจะสวดมนต์ให้ท่านอ๋องเดี๋ยวนี้ ท่านนั่งฟังดีๆ อีกเดี๋ยวก็จะไม่ปวดแล้ว”แต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้กลับเหมือนจะมีความคิดต่อต้านขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเวินซื่อที่กำลังจะชักกลับ เอ่ยด้วยน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 382

    นางมองเวินซื่อด้วยความอาลัยอาวรณ์หางตากลับเหลือบไปมองเป่ยเฉินหยวนและเด็กสาวที่อยู่ข้างโต๊ะนั่นอย่างเย็นชาเพิ่มมาอีกคนแล้วแต่ไม่เป็นไร ยังไม่จบหรอกหลังจากที่นายท่านสกุลผังกลับไปแล้ว ไม่นานก็ส่งสัญญาขายตัวมาให้ตามคาด ทั้งยังเขียนหนังสือหย่าอนุภรรยาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมาหนึ่งฉบับจริงๆเมื่อได้สัญญาขายตัวและหนังสือหย่าอนุภรรยา อันหลันซินก็ไปจากที่นี่เวินซื่อให้จู๋เยวี่ยติดตามไประยะหนึ่งแน่นอนว่าเพื่อจับตาดู“เป็นอย่างไรบ้าง?”หลังจากที่จู๋เยวี่ยกลับมา เวินซื่อก็เอ่ยถาม“ดูเหมือนว่าจะมีเศษเงินที่ซ่อนเอาไว้ ซื้อของกินเล็กน้อย ห่อไว้แล้วก็ออกจากเมืองไป ดูท่าทางน่าจะกลับเมืองหลวง”กลับเมืองหลวง...จินโจวอยู่ห่างจากเมืองหลวงขนาดนี้ นางคิดจะเดินเท้ากลับไปหรือ?แล้วยังมีบิดาของนางในเมืองหลวง ทั้งภรรยาเอกและพี่สาวต่างมารดาพวกนั้น คงจะไม่ปล่อยนางไปกระมัง?ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคิดจะกลับไป?เวินซื่อขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คลายปมคิ้วไม่สิ นางจะเป็นห่วงอันหลันซินทำไมกัน?ต่อจากนี้ไปอันหลันซินจะเป็นตายร้ายดีก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางที่นางช่วยครั้งนี้ก็เพราะเห็นแก่คว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status