Share

บทที่ 284

Penulis: จิ้งซิง
“อู๋โยว!”

ม่อโฉวซือไท่กับจู๋เยวี่ยอุทานพร้อมกัน

เวินซื่อถูกเวินจื่อเฉินโผเข้าใส่จนล้มลงพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

แต่นางไม่มีเวลาสนใจเรื่องนี้ รีบลุกขึ้นมองดูเวินจื่อเฉิน เห็นเพียงบนแขนของเขาถูกงูพิษที่เหลือเพียงครึ่งท่อนกัดเอาไว้แน่น!

จู๋เยวี่ยรีบสะบัดหัวงูออกทันที จากนั้นใช้กระบี่แทงจนทะลุ

แต่น่าเสียดายที่ต่อให้เป็นเช่นนั้น ก็สายไปเสียแล้ว

เวินซื่อรีบเปิดแขนเสื้อของเวินจื่อเฉินออก เห็นเพียงบนแขนของเขาบริเวณที่ถูกกัดกลายเป็นผืนสีดำคล้ำ

“รีบมัดแขนส่วนบนของเขา! มัดให้แน่นหน่อย!”

ม่อโฉวซือไท่มอบศพของหลานจื่อจวินให้เวินซื่อ จากนั้นระหว่างที่จู๋เยวี่ยกำลังมัดแขนให้เวินจื่อเฉิน จึงรีบนำยาถอนพิษออกมาหนึ่งเม็ด แล้วให้เวินจื่อเฉินกิน

แต่งูของเสอจิ่วล้วนมีพิษร้ายแรงเฉพาะตัว ยาถอนพิษเหล่านี้ทำได้เพียงบรรเทา ไม่สามารถขจัดพิษที่อยู่ในร่างเวินจื่อเฉิน

สิ่งสำคัญคือ ต่อให้บรรเทาก็คงยื้อเวลาได้ไม่นานนัก อย่างมากก็ไม่เกินหนึ่งเค่อ เวินจื่อเฉินต้องตายด้วยพิษงูนี้

“น้อง...น้องพี่ เจ้าไม่เป็นไรนะ? งูนั่น...เจ้าอยู่ห่างไว้...อันตราย...”

เวินจื่อเฉินทำราวกับไม่ตระหนักเลยสักนิดว่าตอนนี้เขาตกอยู่ในอัน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 285

    ความเงียบงันของนางทำให้ม่อโฉวซือไท่ตกอยู่ในความเงียบทันใดศิษย์อาจารย์สองคนหันมองหน้ากันมุมปากม่อโฉวซือไท่กระตุก “บอกเจ้ากี่ครั้งแล้ว พิษกับยาถอนพิษต้องคิดค้นพร้อมกัน?”เวินซื่อกล่าวเสียงอ่อย “....เวลากระชั้นชิดเกินไป จึงคิดไม่ทัน...เอาเถอะ อีกเดี๋ยวข้ากลับไปจะเริ่มคิดค้นทันทีเจ้าค่ะ!”โชคดีที่ข่าวดีส่งมาเสียก่อนเมื่อด้านเป่ยเฉินหยวนนำกองทัพธงดำมาถึงละแวกใกล้เคียง จับตัวอีกฝ่ายได้จริงเรียกได้ว่าพวกของเสอจิ่วที่หนีรอดไปได้ตกสู่หลุมพลางของเป่ยเฉินหยวนอย่างจังทว่าตอนที่กำลังจะทำสำเร็จนั้น คนของจวนเจิ้นกั๋วกงมาแล้ว“พวกเขามาทำอะไร?”สีหน้าของเวินซื่อดูไม่ค่อยดีนักเป่ยเฉินหยวนรู้ว่าเมื่อนางได้ยินเช่นนี้ต้องอารมณ์เสียแน่ จึงพูดอย่างระอา “พวกเขาพาเวินเยวี่ยไปแล้ว จินซือถูหนีไปหนึ่งคน แต่เสอชีกับเสอจิ่วถูกจับตัว คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับท่าน ดังนั้นข้าจึงให้คนนำตัวมาให้ท่านแล้ว”เป่ยเฉินหยวนจงใจปล่อยจินซือถูไปเพราะเวินเยวี่ยแจ้งเรื่องข้อตกลงระหว่างทั้งสองกับเขาแต่แรกดังนั้นเป่ยเฉินหยวนจึงให้ผู้ใต้บัญชาปล่อยช่องทางที่ยากสังเกตเห็นแก่จินซือถู จินซือถูเข้าใจดีจึงทิ้งเสอชีกับเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 286

    เวินซื่อลุกพรวด เตรียมลงจากรถม้าไปปะทะกับท่านพ่อตัวดีของนางทว่าขณะนี้ ม่อโฉวซือไท่ยื่นมือไปขวางนางเอาไว้ม่อโฉวซือไท่ส่ายหน้าให้นาง “เจ้าไม่ต้องไป ดูแลท่านแม่ของเจ้าให้ดี มอบให้อาจารย์จัดการเถอะ”พูดจบ ม่อโฉวซือไท่ลงจากรถม้าเวินเฉวียนเซิ่งสามพ่อลูกที่ได้ยินความเคลื่อนไหวของรถม้าด้านหลังหันมอง เดิมทั้งสามนึกว่าจะได้เห็นเวินซื่อ แต่น่าเสียดายที่เป็นม่อโฉวซือไท่ม่อโฉวซือไท่ไม่ได้พูดคุยกับเวินเฉวียนเซิ่งทันทีสายตาของนางกวาดมองเวินฉางอวิ้นก่อน จากนั้นค่อยกวาดมองเวินจื่อเยวี่ย“ดูท่าวันนี้น้องสี่ของพวกเจ้าไม่ได้มาด้วย ก็น่าจะใช่ ร่างกายของเขาขี่ม้าไม่ได้”ม่อโฉวซือไท่กล่าวเสียงเรียบ“น้องสี่ของข้ามาหรือไม่มาไม่เกี่ยวกับท่าน เวินซื่อล่ะ ให้นางออกมาพบพวกข้า!”ยามนี้เมื่อมีเวินเฉวียนเซิ่งอยู่ เวินจื่อเยวี่ยจึงใจกล้าไม่น้อยมองม่อโฉวซือไท่อย่างรำคาญแวบหนึ่ง ซ้ำยังเรียกชื่อเวินซื่อออกมาโดยตรง“นามของธิดาศักดิ์สิทธิ์เจ้าเรียกขานโดยตรงได้หรือ?”สำหรับเด็กที่ไม่รู้จักสำนึกผิดเช่นนี้ ม่อโฉวซือไท่ไม่คิดจะไว้หน้ากันนางหันไปเหน็บแนมเวินเฉวียนเซิ่ง “ทำไม หลังจากจื่อจวินจากไป เจ้าที่เป็

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 287

    “เป่ยเฉินหยวน!”เวินเฉวียนเซิ่งช้ากว่าลูกชายคนโตหนึ่งก้าว เมื่อเขาก้าวไปข้างกายลูกชายคนที่สาม แล้วก้มหน้ามอง ขาข้างนั้นหักจนหักไม่ได้อีกแล้วเวินเฉวียนเซิ่งจ้องเป่ยเฉินหยวนอย่างโกรธแค้น “ท่านมีสิทธิ์อะไรลงมือกับลูกข้าเช่นนี้! ที่ท่านถีบเขาเมื่อครู่หมายจะเอาชีวิตลูกข้าหรือ?”เป่ยเฉินหยวนนั่งอยู่หลังม้าไม่สะทกสะท้าน แค่นหัวเราะใส่เวินเฉวียนเซิ่งที่คิดจะทำให้เรื่องใหญ่โต “เจิ้นกั๋วกง ข้าอยู่ที่นี่เพื่อคุ้มกันความปลอดภัยของธิดาศักดิ์สิทธิ์ตามพระบัญชา ลูกชายท่านคิดจะฝ่าการป้องกันของกองทัพธงดำ คิดจะบุกเข้าไปใกล้รถม้าของธิดาศักดิ์สิทธิ์ การกระทำอุกอาจเช่นนี้ ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา ต่อให้ข้าถีบเขาจนตายท่านจะทำอะไรได้?”“ข้าเห็นว่าคนที่กำเริบเสิบสานเป็นท่านมากกว่า!”เวินเฉวียนเซิ่งสีหน้าถมึงทึง “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะ ท่านปกป้องนางเด็กเวินซื่อมากขนาดนี้ เกรงว่าคงไม่เพียงเพราะพระบัญชาของฝ่าบาทกระมัง?”“ท่านคิดเช่นไรกับเวินซื่อ ในใจท่านรู้อยู่แก่ใจดี นึกว่าคนอื่นตาบอดกันหมดอย่างนั้นหรือ?”“เพียะ!”เมื่อสิ้นเสียงเวินเฉวียนเซิ่ง สีหน้าม่อโฉวซือไท่เปลี่ยนฉับพลัน ยกมือขึ้นแล้วฟาดลงบนหน้าเวินเฉว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 288

    ไม่ว่าอย่างไร เขาต้องนำร่างของหลานจื่อจวินกลับไปให้ได้ตอนมีชีวิตหลานจื่อจวินคือคนของจวนเจิ้นกั๋วกง ตอนตายก็ต้องเป็นผีของจวนเจิ้นกั๋วกงศพของนางต้องฝังในสุสานที่เขาเตรียมไว้ให้นางเท่านั้นจากนี้ร้อยปี พวกเขาสองสามีภรรยาจะฝังร่วมกัน“อ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ท่านอย่าใช้คำพูดเหล่านี้มาหลบหลีกคำถามที่ข้าถามท่าน วันนี้หากท่านไม่อยากให้กระทบต่อชื่อเสียงของเวินซื่อ ให้นางมอบร่างของแม่นางคืนมาซะ ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาพวกท่านต้องรับกรรมเอง...” “ไม่ต้องพูดมาก!”เป่ยเฉินหยวนเอ่ยขัดเวินเฉวียนเซิ่งกะทันหันวินาทีต่อมา เขากระโดดลงจากหลังม้า ก้าวยาวๆ ไปตรงหน้าเวินเฉวียนเซิ่งเวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากอีกฝ่าย เขากำหมัดแน่นยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เมื่อเป่ยเฉินหยวนเดินมาถึงตรงหน้า วินาทีที่อีกฝ่ายก้มมองเขาด้วยความสูงที่ได้เปรียบกว่า เวินเฉวียนเซิ่งรู้สึกอดสูอย่างประหลาด โดยเฉพาะจากนี้ที่อีกฝ่ายเอ่ยปากพูดคำเหล่านั้น ความอัปยศอดสูยิ่งพุ่งขึ้นไปยอดสุด“ข้าไม่เหมือนเจิ้นกั๋วกงอย่างท่าน ไม่ยี่หระที่จะใช้ชื่อเสียงของสตรีมาข่มขู่อีกฝ่าย แต่วันนี้เมื่อท่านคิดใช้ชื่อเสียง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 289

    เวินฉางอวิ้นตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิมจะบอกว่าใช่ก็ไม่ได้ จะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้อีกทั้งที่เมื่อครู่คนที่บุกเข้ามาคือเจ้าสาม แต่ตอนนี้กระบี่กลับมาแนบติดลำคอของเขาเกิดอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่พอใจ แล้วบั่นคอเขาในกระบี่เดียวจะทำเช่นไร?เพราะเมื่อครู่เจ้าสามบุกเข้าไปแล้วจริงๆ!ความผิดนี้เขาต้องมารับแทนจริงหรือ?ทำให้เวินฉางอวิ้นในยามนี้เกิดความโกรธเคืองที่มีต่อบิดาและน้องชายเล็กน้อยบิดาคนหนึ่งนำเอาชื่อเสียงของน้องห้ามาข่มขู่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนน้องชายคนหนึ่งบอกให้เขาอย่าบุ่มบ่ามแต่เขากลับบุ่มบ่าม!ทั้งสองคนก่อเรื่อง แต่เขากลับต้องมารับโทษแทน นี่มันอะไรกัน?เวินฉางอวิ้นรู้สึกเสียใจเล็กน้อย หากรู้แต่แรกว่าวันนี้จะเป็นเช่นนี้เขาจะไม่ตามบิดากับน้องสามมาที่นี่แม้ร่างของท่านแม่ยังอยู่ในมือน้องห้า แต่ไม่ว่าอย่างไร ด้วยความกตัญญูที่น้องห้ามีต่อท่านแม่ คงไม่ปล่อยให้ร่างของท่านแม่เป็นอะไรไปแน่นอนรอให้น้องห้าหายโกรธบ้างแล้ว เขาค่อยไปหาน้องห้าคนเดียว ไม่ดีกว่าหรือ?เวินฉางอวิ้นที่ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจอดมองบิดาอย่างตัดพ้อไม่ได้ “ท่านพ่อ ท่านกับน้องสามก่อเรื่องพอหรือยัง? วันนี้ขอให้พอเท่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 290

    หันมองเวินจื่อเฉินที่ยังหมดสติ แล้วหันมองเวินซื่อที่กอดร่างมารดาไว้แน่นสายตาของม่อโฉวซือไท่หยุดมองร่างที่ถูกห่อเอาไว้สักครู่ จากนั้นจึงเอ่ยกับเวินซื่ออย่างห่วงใย “ไม่ต้องเป็นห่วง เวินจื่อเฉินไม่เป็นไร อาจารย์จะไม่ยอมให้เวินเฉวียนเซิ่งมาแย่งชิงร่างของแม่เจ้าอีก”เมื่อเวินซื่อได้ยินประโยคแรก สายตาเหม่อลอยหันกลับมา กวาดมองเวินจื่อเฉินแวบหนึ่ง“ข้าไม่ได้ห่วงเขา”น้ำเสียงของนางเรียบเฉย ราวกับไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดส่วนร่างของมารดา นางย่อมไม่ให้เวินเฉวียนเซิ่งมาแย่งไปอีกต่อให้เขาอยากมา ก็จะไม่มีวันได้พบกับมารดาของนางอีกม่อโฉวซือไท่ส่ายหน้า สุดท้ายไม่ได้พูดสิ่งใดอีกหลังกลับไปถึงอารามสุ่ยเยว่ เวินจื่อเฉินถูกม่อโฉวซือไท่พาตัวไปส่วนเวินซื่อหลังลงจากรถม้า หันมองเป่ยเฉินหยวน“ท่านอ๋อง...”“วันนี้คำเหล่านั้นที่ข้าพูดท่านอย่าคิดมาก ยิ่งไม่ต้องรับผลกระทบจากบิดาท่าน รอวันใดที่ท่านคิดจากอารามสุ่ยเยว่ไปท่านค่อยคิด ถึงยามนั้นท่านจะเข้าใจเองว่าสิ่งที่ข้าพูดในวันนี้หมายความว่าอย่างไร”เดิมทีเวินซื่ออยากจะกล่าวขอบคุณเป่ยเฉินหยวน แต่พอนางเอ่ยปาก เป่ยเฉินหยวนทำเหมือนกลัวนางเข้าใจผิด รีบอธิบายกั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 291

    เดิมทีม่อโฉวซือไท่ที่กำลังตรวจดูบาดแผลให้เวินจื่อเฉินอยู่ ได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย“เลือกสถานที่ได้แล้วหรือ?”“เจ้าค่ะ”เวินซื่อพยักหน้า“ที่ตรงนั้นทิวทัศน์ดีหรือไม่? ลับตาคนพอหรือไม่? จะถูกคนมาพบเข้าหรือเปล่า?”ม่อโฉวซือไท่ถามคำถามสามข้อรวดเวินซื่อตอบคำถามทั้งสามข้อของนางอย่างใจเย็น “ท่านอาจารย์วางใจเถิด ที่นั่นทิวทัศน์ดีมาก ลับตาคนมาก ไม่มีผู้ใดพบนางอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”“ดี...ดี”ม่อโฉวซือไท่กล่าวคำว่าดีสองครั้งอย่างช้าๆ จากนั้นก็รับกระดูกของหลานจื่อจวินจากมือของเวินซื่อเวินซื่อได้รวบรวมโครงกระดูกของท่านแม่นางเรียบร้อยแล้ว ใส่ลงไปในกล่องบูชาซึ่งเดิมทีเป็นของที่นำมาพร้อมกับสินเจ้าสาวของสกุลหลาน ด้านบนของกล่องบูชามีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกล้วยไม้ ปกปิดกลิ่นเน่าเหม็นภายในได้ม่อโฉวซือไท่ถือกล่องบูชาใบนั้นด้วยความทะนุถนอมและหวงแหนอย่างยิ่ง ขอบตาของนางแดงก่ำเล็กน้อย “อาจารย์...ขอพูดคุยกับมารดาของเจ้าสักครู่ แล้วค่อยไปหาเจ้าทีหลัง”“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์”คำว่าทีหลังนี้ ล่วงเลยไปจนถึงมืดค่ำของวันรุ่งขึ้นเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ ในที่สุดม่อโฉวซือไท่ก็อุ้มกล่องบูชามาคืนใ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 292

    นางฟุบอยู่ข้างๆ ป้ายหลุมศพของหลานจื่อจวิน เหมือนกับตอนเด็กๆ ที่เคยนอนอยู่ข้างๆ ท่านแม่ของนางหลังจากนอนหลับไปสามวันเต็มๆ นางก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นจากความฝันอันแสนหวานนั้นในความฝัน ท่านแม่ไม่ได้จากไป ท่านพ่อไม่ได้ทรยศ พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม และพี่สี่ก็ยังคงรักและเอ็นดูนาง และที่สำคัญคือไม่มีบุคคลเช่นเวินเยวี่ยอยู่ครอบครัวของพวกเขามีความสุขมากขนาดนั้น...น่าเสียดาย มันเป็นเพียงแค่ความฝันเวินซื่อที่ตื่นขึ้นมาได้สลัดความอ่อนโยนในใจทิ้งไป และมุ่งหน้าเข้าไปในมิติเพื่อปรุงยาถอนพิษแมงป่องออกมา นำไปถอนพิษแมงป่องที่อยู่ในตัวของเวินจื่อเฉินจากนั้น ม่อโฉวซือไท่ก็ได้ส่งเวินจื่อเฉินลงจากเขาก่อนออกจากอารามสุ่ยเยว่ เวินจื่อเฉินยังคงเดินไปพลางหันกลับไปมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า หวังว่าร่างนั้นจะปรากฏตัวขึ้นน่าเสียดาย สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้เห็นกลายเป็นคนที่สองที่จากไปด้วยความผิดหวัง“อู๋โยวน่ะ ถูกทำร้ายมาหนักมาก อยากให้นางยกโทษให้เจ้านั้น ยากมาก”ประโยคนี้เป็นคำพูดของม่อโฉวซือไท่ที่พูดตอนส่งเวินจื่อเฉินจากไปเวินจื่อเฉินก้มหน้าลง เม้มริมฝีปาก เขาเอ่ยขึ้น “ไม่เป็นไร ข้าจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อชดใช้ให้

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 390

    สมุนไพรทั้งหมดนี้ในที่ดินกุยอวิ๋น เป็นสิ่งที่นางได้ตกลงไว้แล้วว่าจะมอบให้กับเป่ยเฉินหยวนเป็นสมุนไพรสำหรับทหารในกองทัพธงดำที่ออกรบเพื่อราชวงศ์ต้าหมิงมาหลายปี จนสุดท้ายร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล พิการ และเจ็บปวดบัดนี้ สมุนไพรที่ปลูกไว้ได้หนึ่งเดือนแล้วกลับถูกพวกเขาทำลายไปกว่าครึ่ง แถมยังไม่เว้นแม้แต่แปลงสมุนไพรร้ายกาจถึงเพียงนี้ นางจะกลืนความโกรธแค้นนี้ลงไปได้อย่างไรนางจะไม่ปล่อยคนที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไป และคนร้ายตรงหน้าเหล่านี้ นางก็จะไม่ปล่อยไปเช่นกัน“ท่านลุงหลาน ต้องรับพวกเขาให้ดี”ผู้เฒ่าหลานไม่คิดว่าเวินซื่อจะมีด้านนี้ด้วยเดิมทีเขาคิดว่าปกติแล้วคุณหนูน้อยผู้อ่อนโยนและใจดีมาโดยตลอดนั้น จะเหมือนกับคุณหนูใหญ่มากแต่คาดไม่ถึงว่า ภายใต้ความอ่อนโยนของคุณหนูน้อย จะยังมีด้านที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ซ่อนอยู่ช่าง...เหมือนกับนายท่านในตอนนั้นไม่มีผิด!ดวงตาที่แก่ชราของผู้เฒ่าหลานฉายแววเฉียบคม จ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาร้อนแรง ราวกับว่าเขามองเห็นภาพของเจ้าบ้านสกุลหลานในอดีตในตัวของนางมองจนหัวใจที่สงบนิ่งมานานหลายปีของเขาถึงกับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานายท่าน สกุลหลานของพวกเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 389

    “รบกวนลุงหลานเริ่มจัดหาคนในวันพรุ่งนี้ ช่วงสองสามวันนี้ลำบากท่านแล้ว”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ลำบากหรอก เพียงแต่ว่าคนร้ายที่วางยาพิษยังจับตัวไม่ได้ หากพวกเราแก้ไขตอนนี้ เกรงว่าคนร้ายนั่นจะกลับมาอีก”เวินซื่อย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีนางยิ้มเล็กน้อย “ลุงหลานวางใจได้ พรุ่งนี้ท่านจัดหาคนได้เลย คืนนี้พวกเราจะจับคน”......คืนนั้นควรจะเป็นเวลาที่เข้าสู่ห้วงนิทรา แต่กลับมีคนจำนวนหนึ่งถือถังไม้คนละใบ หลบเลี่ยงคนลาดตระเวนเหล่านั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาแอบเข้าไปในที่ดินกุยอวิ๋นอีกครั้งอย่างชำนาญ“หัวหน้า เมื่อวานพวกเราสาดยาพิษที่แปลงสมุนไพรทางตะวันออก ทางใต้ก็สาดไปหลายแห่งแล้ว คืนนี้จะเปลี่ยนไปสาดทางตะวันตกหรือทางเหนือดี?”“ได้ ไปดูทางตะวันตกก่อนก็แล้วกัน ถึงอย่างไรคุณชายสามก็บอกว่าต้องสาดให้หมด ต้องทำหมดทุกทาง”ดังนั้น คนร้ายที่ปิดบังใบหน้าทั้งเจ็ดแปดคนจึงอ้อมผ่านไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกไม่นานนัก พวกเขาก็วิ่งมาถึงที่หมาย“เจ้าสอง เจ้าสาม พวกเจ้าสองคนไปดูต้นทาง มีอะไรก็รีบเป่านกหวีด เจ้าสี่ เจ้าห้า เจ้าหก พวกเจ้าสามคนไปตักน้ำ เจ้าเจ็ด เจ้ามาทำลายสมุนไพรกับข้า”“ได้เลย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 388

    “คนร้ายกระจอกๆ พวกนั้นจับตัวได้หรือไม่?”“พวกที่มาครั้งแรกจับได้แล้วขอรับ แต่ไม่กี่วันต่อมา ก็มีมาอีกสองสามคน แถมยังระมัดระวังตัวยิ่งกว่า เจ้าเล่ห์มาก พิษที่เทในแปลงสมุนไพรก็เป็นฝีมือของพวกที่มาครั้งที่สองนี้”เวินซื่อเอ่ยถาม “มีคนได้รับผลกระทบบ้างหรือไม่?”ผู้เฒ่าหลานส่ายหน้า “ยาพิษที่เทนั้นดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่แปลงสมุนไพรของเราเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนมากนัก”เวินซื่อแค่นหัวเราะ “หากวางยาพิษคน เรื่องนี้คงไม่ง่ายดายเช่นนี้แล้ว”หลังจากที่นางทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็กำชับว่า “รบกวนลุงหลานเดินทางรอบนี้ ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืด ข้าจะไปดูที่ดินกุยอวิ๋นก่อน”ม่อโฉวซือไท่ก็อยู่ด้วยพอดี นางได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์จะไปกับพวกเจ้าด้วย ไปดูสักหน่อย”“ข้าก็ไปด้วยๆ !”ฉางเสี่ยวหานรีบยกมือออกจากอารามสุ่ยเยว่ ก็มีรถม้าเรียบง่ายคันหนึ่งจอดรออยู่ด้านนอกนี่เป็นสิ่งที่เวินซื่อสั่งให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาระยะทางระหว่างที่ดินกุยอวิ๋นถึงอารามสุ่ยเยว่ก็ไม่ถือว่าใกล้ จะให้พ่อบ้านหลานที่อายุมากแล้วเดินไปเดินมาก็คงไม่ได้ดังนั้น เวินซื่อจึงให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 387

    เป่ยเฉินหยวนไม่คิดว่านางจะยังจำเรื่องนี้ได้ และยังจัดสรรที่ดินไว้ให้เขาแล้วเขารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งอู๋โยวที่ดีเช่นนี้ เขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?เพียงแต่ว่าคนสกุลอันนั่นพูดถูก เขามีความคิดต่ำทราม หากถูกคนอื่นรู้เข้า นั่นก็เท่ากับทำลายการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น ทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของผู้อื่น เป็นเรื่องที่เลวทรามอย่างยิ่งดังนั้น เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้จึงทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้อย่างระมัดระวังเมื่อไม่มีอันหลันซิน ขบวนก็ไม่ได้ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ไม่นานก็ออกเดินทางต่อสองวันต่อมา ขบวนที่เดินทางไกลไปยังลู่โจวในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองหลวงแล้วครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ฝ่าบาททรงนำเหล่าขุนนางมาต้อนรับที่ประตูเมืองหลวงด้วยพระองค์เองสถานการณ์ยิ่งใหญ่เอิกเกริกเช่นนี้ ทำเอาเวินซื่อตกใจไม่น้อยภายหลังเวินซื่อถึงได้รู้ว่า ที่แท้ข่าวคราวจากลู่โจวก็แพร่เข้ามาถึงในเมืองหลวงแล้วหลังจากขอฝนที่จินโจวแก้ปัญหาภัยแล้งได้แล้ว เวินซื่อก็มีชื่อเสียงเรื่องการสวดอธิษฐานขอพรให้ผู้ประสบภัยพิบัติที่ลู่โจวเพิ่มขึ้นมาอีกตอนนี้ชื่อเสียงของนางไม่ได้เลื่องลือแค่ในเมืองหลวงและจินโจวสองแห่งเท่าน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 386

    ภายในป่า เงียบสงบไปครู่หนึ่ง ถึงมีเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ ดังขึ้น“เจ้าพูดถูก ข้าไม่คู่ควร”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเย็นชา สายตาเย็นเยียบ “แต่เจ้าไม่คู่ควรยิ่งกว่า”“เจ้าอยากจะใช้คนร้ายที่หลบหนีไปได้มาบีบบังคับข้า น่าเสียดาย ข้าไม่หลงกลเจ้า”เป่ยเฉินหยวนพูดจบก็ยกมือขึ้น กองทัพธงดำจำนวนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นทันที ล้อมอันหลันซินเอาไว้อันหลันซินตกใจทันที ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี“ท่านคิดจะทำอะไร?”เป่ยเฉินหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ขอบคุณอู๋โยวให้ดีเถอะ หากมิใช่เพราะนาง หัวของเจ้าคงถูกข้าตัดเอาไปเตะเล่นนานแล้ว”พูดจบเขาก็หันหลังกลับไปออกคำสั่ง “เอาตัวไป มัดให้แน่นแล้วส่งไปให้หนิงหย่วนโหว ให้เขาเฝ้าไว้ให้ดีๆ ขอแค่ไม่ตาย จะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าคนหนีไป ข้าจะเอาเรื่องกับเขา”“พ่ะย่ะค่ะ!”กองทัพธงดำหลายนายรีบเข้ามาทันทีไม่!ไม่ได้!นางจะถูกพาตัวไปไม่ได้!นางอุตส่าห์รอโอกาสนี้มาอย่างยากลำบาก หากถูกพาตัวไปแล้ว ต่อไปนางจะกลับมาหาอาซื่อได้อย่างไร!อันหลันซินเห็นท่าไม่ดี อ้าปากกำลังจะร้องตะโกน“อึก...”น่าเสียดายที่นางเพิ่งจะส่งเสียงออกมา ฝักกระบี่ก็ฟาดลงบนคอของนางอย่างแรงทำให้นางสลบไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 385

    คนที่ปรากฏตัวอยู่ด้านนอกรถม้าของเป่ยเฉินหยวนคืออันหลันซิน“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน หม่อมฉันจะทำอะไรท่านได้ ท่านจะระแวงหม่อมฉันขนาดนี้ไปทำไมเพคะ?”อันหลันซินยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้นเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้ว สายตาไม่พอใจ “มีธุระก็พูด ไม่มีธุระก็ไสหัวไป”ท่าทีที่ไม่เกรงใจเมื่อเทียบกับรอยยิ้มที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อครู่ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆอันหลันซินแค่นเสียงหัวเราะในใจเสแสร้งอะไรกันตอนนี้รู้จักปฏิบัติต่อสตรีอื่นอย่างแตกต่างเพราะอาซื่อ แต่ต่อไปความพิเศษเช่นนี้ไม่แน่ว่าจะตกไปอยู่กับสตรีอื่นอย่างไรเสีย บุรุษในโลกนี้ก็เหมือนกันหมดอันหลันซินระงับความรังเกียจในใจ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน “เอาละ รู้ว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ชอบหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันมีข้อแลกเปลี่ยน อยากจะคุยกับท่านสักหน่อยเพคะ”นางพูดเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนกลับไม่มองนางแม้แต่น้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก “อย่างเจ้า มีคุณสมบัติอะไรมาทำข้อตกลงกับข้า?”“ที่ข้ายอมให้เจ้าอยู่ในขบวนนี้จนถึงตอนนี้ ก็เพียงเพราะเห็นแก่หน้าอู๋โยว”รอยยิ้มบนใบหน้าของอันหลันซินแข็งค้าง กัดฟันเล็กน้อย“เหอะๆ หม่อมฉั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 384

    เป่ยเฉินหยวนนอนเอนกายอย่างสบายอารมณ์อยู่ในรถม้า ในขณะเดียวกันก็นอนอยู่ข้างกายเวินซื่อ หลับตาพริ้มขยับศีรษะอย่างมีความสุข ตอบคำถามของนางทีละประโยค“ได้ ไม่แรง ไม่ได้ดึงเลย ปวดนิดหน่อย เพราะซื่อเอ๋อร์ลูบให้ หัวก็เลยไม่ปวดมากแล้ว”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่นางยังจำตำแหน่งกดจุดต่างๆ บนศีรษะที่อาจารย์ม่อโฉวสอนได้ ผสมผสานกับวิธีการนวด แล้วนวดให้เป่ยเฉินหยวน ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะดีเลยทีเดียวเวินซื่อที่คิดว่าได้ผลจริงๆ ก็ยังคงตั้งใจจ้องมองศีรษะของเป่ยเฉินหยวน จดจ่ออยู่กับการผสมผสานวิธีการนวดและกดจุดต่างๆ ของนางหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในรถม้าดูเหมือนจะเงียบสงบลงอย่างสิ้นเชิงเงียบจนแม้ว่าภายนอกจะมีเสียงล้อรถดังอยู่ ก็ยังได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอภายในรถม้าเวินซื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป่ยเฉินหยวนไม่รู้ว่าหลับตาลงตั้งแต่เมื่อไรแล้วเวินซื่อเห็นดังนั้น มือที่วางอยู่บนศีรษะของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง จนกระทั่งพอสมควรแล้ว นางถึงได้ชักมือกลับก้มหน้าลงมองสีหน้าที่อ่อนล้าระหว่างคิ้วของเป่ยเฉินหยวน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เวินซื่อก็หยิบขวดน้ำทิพย์ออกมาจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 383

    “ปวดหัวหรือ? เกิดอะไรขึ้น? ปวดเป็นพักๆ หรือว่าปวดมากตลอดเวลา?”พอเวินซื่อได้ยินเป่ยเฉินหยวนบอกว่าตนเองปวดหัว ก็ไม่ทันได้ใส่ใจกับคำเรียกที่ดูเหมือนจะสนิทสนมเกินไปนั่น รีบถามอย่างกระวนกระวาย“ปวดเป็นพักๆ เหมือนกับมีคนมากมายพูดอยู่ในหัวของข้า หนวกหูมาก ปวดเหลือเกิน”เป่ยเฉินหยวนมองนางอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มผู้ซึ่งปกติแล้วสูงใหญ่และพึ่งพาได้เสมอ เวลานี้กลับดูอ่อนแอเหมือนหมาป่าตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำได้เพียงส่งเสียงร้องครางกับคนตรงหน้าเพื่อระบายความเจ็บปวดของตนเวินซื่อไม่เคยเห็นเป่ยเฉินหยวนในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้มาก่อนแม้แต่ครั้งแรกที่เห็นเขาป่วยที่ริมลำธารเล็กๆ หลังภูเขานั่น เป่ยเฉินหยวนในตอนนั้นก็ยังคงสติไว้ได้บ้างแต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้ กลับเหมือนแสดงด้านที่อ่อนแอยามเจ็บป่วยออกมาให้นางเห็นอย่างไม่มีปิดบังเวินซื่อจึงลูบหน้าผากเขาด้วยความสงสารทันที แล้วจับชีพจร “ไม่ปวดแล้วๆ ตอนนี้ข้าจะสวดมนต์ให้ท่านอ๋องเดี๋ยวนี้ ท่านนั่งฟังดีๆ อีกเดี๋ยวก็จะไม่ปวดแล้ว”แต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้กลับเหมือนจะมีความคิดต่อต้านขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเวินซื่อที่กำลังจะชักกลับ เอ่ยด้วยน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 382

    นางมองเวินซื่อด้วยความอาลัยอาวรณ์หางตากลับเหลือบไปมองเป่ยเฉินหยวนและเด็กสาวที่อยู่ข้างโต๊ะนั่นอย่างเย็นชาเพิ่มมาอีกคนแล้วแต่ไม่เป็นไร ยังไม่จบหรอกหลังจากที่นายท่านสกุลผังกลับไปแล้ว ไม่นานก็ส่งสัญญาขายตัวมาให้ตามคาด ทั้งยังเขียนหนังสือหย่าอนุภรรยาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมาหนึ่งฉบับจริงๆเมื่อได้สัญญาขายตัวและหนังสือหย่าอนุภรรยา อันหลันซินก็ไปจากที่นี่เวินซื่อให้จู๋เยวี่ยติดตามไประยะหนึ่งแน่นอนว่าเพื่อจับตาดู“เป็นอย่างไรบ้าง?”หลังจากที่จู๋เยวี่ยกลับมา เวินซื่อก็เอ่ยถาม“ดูเหมือนว่าจะมีเศษเงินที่ซ่อนเอาไว้ ซื้อของกินเล็กน้อย ห่อไว้แล้วก็ออกจากเมืองไป ดูท่าทางน่าจะกลับเมืองหลวง”กลับเมืองหลวง...จินโจวอยู่ห่างจากเมืองหลวงขนาดนี้ นางคิดจะเดินเท้ากลับไปหรือ?แล้วยังมีบิดาของนางในเมืองหลวง ทั้งภรรยาเอกและพี่สาวต่างมารดาพวกนั้น คงจะไม่ปล่อยนางไปกระมัง?ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคิดจะกลับไป?เวินซื่อขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คลายปมคิ้วไม่สิ นางจะเป็นห่วงอันหลันซินทำไมกัน?ต่อจากนี้ไปอันหลันซินจะเป็นตายร้ายดีก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางที่นางช่วยครั้งนี้ก็เพราะเห็นแก่คว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status