Share

บทที่ 286

Author: จิ้งซิง
เวินซื่อลุกพรวด เตรียมลงจากรถม้าไปปะทะกับท่านพ่อตัวดีของนาง

ทว่าขณะนี้ ม่อโฉวซือไท่ยื่นมือไปขวางนางเอาไว้

ม่อโฉวซือไท่ส่ายหน้าให้นาง “เจ้าไม่ต้องไป ดูแลท่านแม่ของเจ้าให้ดี มอบให้อาจารย์จัดการเถอะ”

พูดจบ ม่อโฉวซือไท่ลงจากรถม้า

เวินเฉวียนเซิ่งสามพ่อลูกที่ได้ยินความเคลื่อนไหวของรถม้าด้านหลังหันมอง เดิมทั้งสามนึกว่าจะได้เห็นเวินซื่อ แต่น่าเสียดายที่เป็นม่อโฉวซือไท่

ม่อโฉวซือไท่ไม่ได้พูดคุยกับเวินเฉวียนเซิ่งทันที

สายตาของนางกวาดมองเวินฉางอวิ้นก่อน จากนั้นค่อยกวาดมองเวินจื่อเยวี่ย

“ดูท่าวันนี้น้องสี่ของพวกเจ้าไม่ได้มาด้วย ก็น่าจะใช่ ร่างกายของเขาขี่ม้าไม่ได้”

ม่อโฉวซือไท่กล่าวเสียงเรียบ

“น้องสี่ของข้ามาหรือไม่มาไม่เกี่ยวกับท่าน เวินซื่อล่ะ ให้นางออกมาพบพวกข้า!”

ยามนี้เมื่อมีเวินเฉวียนเซิ่งอยู่ เวินจื่อเยวี่ยจึงใจกล้าไม่น้อย

มองม่อโฉวซือไท่อย่างรำคาญแวบหนึ่ง ซ้ำยังเรียกชื่อเวินซื่อออกมาโดยตรง

“นามของธิดาศักดิ์สิทธิ์เจ้าเรียกขานโดยตรงได้หรือ?”

สำหรับเด็กที่ไม่รู้จักสำนึกผิดเช่นนี้ ม่อโฉวซือไท่ไม่คิดจะไว้หน้ากัน

นางหันไปเหน็บแนมเวินเฉวียนเซิ่ง “ทำไม หลังจากจื่อจวินจากไป เจ้าที่เป็
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 287

    “เป่ยเฉินหยวน!”เวินเฉวียนเซิ่งช้ากว่าลูกชายคนโตหนึ่งก้าว เมื่อเขาก้าวไปข้างกายลูกชายคนที่สาม แล้วก้มหน้ามอง ขาข้างนั้นหักจนหักไม่ได้อีกแล้วเวินเฉวียนเซิ่งจ้องเป่ยเฉินหยวนอย่างโกรธแค้น “ท่านมีสิทธิ์อะไรลงมือกับลูกข้าเช่นนี้! ที่ท่านถีบเขาเมื่อครู่หมายจะเอาชีวิตลูกข้าหรือ?”เป่ยเฉินหยวนนั่งอยู่หลังม้าไม่สะทกสะท้าน แค่นหัวเราะใส่เวินเฉวียนเซิ่งที่คิดจะทำให้เรื่องใหญ่โต “เจิ้นกั๋วกง ข้าอยู่ที่นี่เพื่อคุ้มกันความปลอดภัยของธิดาศักดิ์สิทธิ์ตามพระบัญชา ลูกชายท่านคิดจะฝ่าการป้องกันของกองทัพธงดำ คิดจะบุกเข้าไปใกล้รถม้าของธิดาศักดิ์สิทธิ์ การกระทำอุกอาจเช่นนี้ ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา ต่อให้ข้าถีบเขาจนตายท่านจะทำอะไรได้?”“ข้าเห็นว่าคนที่กำเริบเสิบสานเป็นท่านมากกว่า!”เวินเฉวียนเซิ่งสีหน้าถมึงทึง “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะ ท่านปกป้องนางเด็กเวินซื่อมากขนาดนี้ เกรงว่าคงไม่เพียงเพราะพระบัญชาของฝ่าบาทกระมัง?”“ท่านคิดเช่นไรกับเวินซื่อ ในใจท่านรู้อยู่แก่ใจดี นึกว่าคนอื่นตาบอดกันหมดอย่างนั้นหรือ?”“เพียะ!”เมื่อสิ้นเสียงเวินเฉวียนเซิ่ง สีหน้าม่อโฉวซือไท่เปลี่ยนฉับพลัน ยกมือขึ้นแล้วฟาดลงบนหน้าเวินเฉว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 288

    ไม่ว่าอย่างไร เขาต้องนำร่างของหลานจื่อจวินกลับไปให้ได้ตอนมีชีวิตหลานจื่อจวินคือคนของจวนเจิ้นกั๋วกง ตอนตายก็ต้องเป็นผีของจวนเจิ้นกั๋วกงศพของนางต้องฝังในสุสานที่เขาเตรียมไว้ให้นางเท่านั้นจากนี้ร้อยปี พวกเขาสองสามีภรรยาจะฝังร่วมกัน“อ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ท่านอย่าใช้คำพูดเหล่านี้มาหลบหลีกคำถามที่ข้าถามท่าน วันนี้หากท่านไม่อยากให้กระทบต่อชื่อเสียงของเวินซื่อ ให้นางมอบร่างของแม่นางคืนมาซะ ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาพวกท่านต้องรับกรรมเอง...” “ไม่ต้องพูดมาก!”เป่ยเฉินหยวนเอ่ยขัดเวินเฉวียนเซิ่งกะทันหันวินาทีต่อมา เขากระโดดลงจากหลังม้า ก้าวยาวๆ ไปตรงหน้าเวินเฉวียนเซิ่งเวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากอีกฝ่าย เขากำหมัดแน่นยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เมื่อเป่ยเฉินหยวนเดินมาถึงตรงหน้า วินาทีที่อีกฝ่ายก้มมองเขาด้วยความสูงที่ได้เปรียบกว่า เวินเฉวียนเซิ่งรู้สึกอดสูอย่างประหลาด โดยเฉพาะจากนี้ที่อีกฝ่ายเอ่ยปากพูดคำเหล่านั้น ความอัปยศอดสูยิ่งพุ่งขึ้นไปยอดสุด“ข้าไม่เหมือนเจิ้นกั๋วกงอย่างท่าน ไม่ยี่หระที่จะใช้ชื่อเสียงของสตรีมาข่มขู่อีกฝ่าย แต่วันนี้เมื่อท่านคิดใช้ชื่อเสียง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 289

    เวินฉางอวิ้นตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิมจะบอกว่าใช่ก็ไม่ได้ จะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้อีกทั้งที่เมื่อครู่คนที่บุกเข้ามาคือเจ้าสาม แต่ตอนนี้กระบี่กลับมาแนบติดลำคอของเขาเกิดอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่พอใจ แล้วบั่นคอเขาในกระบี่เดียวจะทำเช่นไร?เพราะเมื่อครู่เจ้าสามบุกเข้าไปแล้วจริงๆ!ความผิดนี้เขาต้องมารับแทนจริงหรือ?ทำให้เวินฉางอวิ้นในยามนี้เกิดความโกรธเคืองที่มีต่อบิดาและน้องชายเล็กน้อยบิดาคนหนึ่งนำเอาชื่อเสียงของน้องห้ามาข่มขู่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนน้องชายคนหนึ่งบอกให้เขาอย่าบุ่มบ่ามแต่เขากลับบุ่มบ่าม!ทั้งสองคนก่อเรื่อง แต่เขากลับต้องมารับโทษแทน นี่มันอะไรกัน?เวินฉางอวิ้นรู้สึกเสียใจเล็กน้อย หากรู้แต่แรกว่าวันนี้จะเป็นเช่นนี้เขาจะไม่ตามบิดากับน้องสามมาที่นี่แม้ร่างของท่านแม่ยังอยู่ในมือน้องห้า แต่ไม่ว่าอย่างไร ด้วยความกตัญญูที่น้องห้ามีต่อท่านแม่ คงไม่ปล่อยให้ร่างของท่านแม่เป็นอะไรไปแน่นอนรอให้น้องห้าหายโกรธบ้างแล้ว เขาค่อยไปหาน้องห้าคนเดียว ไม่ดีกว่าหรือ?เวินฉางอวิ้นที่ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจอดมองบิดาอย่างตัดพ้อไม่ได้ “ท่านพ่อ ท่านกับน้องสามก่อเรื่องพอหรือยัง? วันนี้ขอให้พอเท่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 290

    หันมองเวินจื่อเฉินที่ยังหมดสติ แล้วหันมองเวินซื่อที่กอดร่างมารดาไว้แน่นสายตาของม่อโฉวซือไท่หยุดมองร่างที่ถูกห่อเอาไว้สักครู่ จากนั้นจึงเอ่ยกับเวินซื่ออย่างห่วงใย “ไม่ต้องเป็นห่วง เวินจื่อเฉินไม่เป็นไร อาจารย์จะไม่ยอมให้เวินเฉวียนเซิ่งมาแย่งชิงร่างของแม่เจ้าอีก”เมื่อเวินซื่อได้ยินประโยคแรก สายตาเหม่อลอยหันกลับมา กวาดมองเวินจื่อเฉินแวบหนึ่ง“ข้าไม่ได้ห่วงเขา”น้ำเสียงของนางเรียบเฉย ราวกับไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดส่วนร่างของมารดา นางย่อมไม่ให้เวินเฉวียนเซิ่งมาแย่งไปอีกต่อให้เขาอยากมา ก็จะไม่มีวันได้พบกับมารดาของนางอีกม่อโฉวซือไท่ส่ายหน้า สุดท้ายไม่ได้พูดสิ่งใดอีกหลังกลับไปถึงอารามสุ่ยเยว่ เวินจื่อเฉินถูกม่อโฉวซือไท่พาตัวไปส่วนเวินซื่อหลังลงจากรถม้า หันมองเป่ยเฉินหยวน“ท่านอ๋อง...”“วันนี้คำเหล่านั้นที่ข้าพูดท่านอย่าคิดมาก ยิ่งไม่ต้องรับผลกระทบจากบิดาท่าน รอวันใดที่ท่านคิดจากอารามสุ่ยเยว่ไปท่านค่อยคิด ถึงยามนั้นท่านจะเข้าใจเองว่าสิ่งที่ข้าพูดในวันนี้หมายความว่าอย่างไร”เดิมทีเวินซื่ออยากจะกล่าวขอบคุณเป่ยเฉินหยวน แต่พอนางเอ่ยปาก เป่ยเฉินหยวนทำเหมือนกลัวนางเข้าใจผิด รีบอธิบายกั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 291

    เดิมทีม่อโฉวซือไท่ที่กำลังตรวจดูบาดแผลให้เวินจื่อเฉินอยู่ ได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย“เลือกสถานที่ได้แล้วหรือ?”“เจ้าค่ะ”เวินซื่อพยักหน้า“ที่ตรงนั้นทิวทัศน์ดีหรือไม่? ลับตาคนพอหรือไม่? จะถูกคนมาพบเข้าหรือเปล่า?”ม่อโฉวซือไท่ถามคำถามสามข้อรวดเวินซื่อตอบคำถามทั้งสามข้อของนางอย่างใจเย็น “ท่านอาจารย์วางใจเถิด ที่นั่นทิวทัศน์ดีมาก ลับตาคนมาก ไม่มีผู้ใดพบนางอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”“ดี...ดี”ม่อโฉวซือไท่กล่าวคำว่าดีสองครั้งอย่างช้าๆ จากนั้นก็รับกระดูกของหลานจื่อจวินจากมือของเวินซื่อเวินซื่อได้รวบรวมโครงกระดูกของท่านแม่นางเรียบร้อยแล้ว ใส่ลงไปในกล่องบูชาซึ่งเดิมทีเป็นของที่นำมาพร้อมกับสินเจ้าสาวของสกุลหลาน ด้านบนของกล่องบูชามีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกล้วยไม้ ปกปิดกลิ่นเน่าเหม็นภายในได้ม่อโฉวซือไท่ถือกล่องบูชาใบนั้นด้วยความทะนุถนอมและหวงแหนอย่างยิ่ง ขอบตาของนางแดงก่ำเล็กน้อย “อาจารย์...ขอพูดคุยกับมารดาของเจ้าสักครู่ แล้วค่อยไปหาเจ้าทีหลัง”“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์”คำว่าทีหลังนี้ ล่วงเลยไปจนถึงมืดค่ำของวันรุ่งขึ้นเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ ในที่สุดม่อโฉวซือไท่ก็อุ้มกล่องบูชามาคืนใ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 292

    นางฟุบอยู่ข้างๆ ป้ายหลุมศพของหลานจื่อจวิน เหมือนกับตอนเด็กๆ ที่เคยนอนอยู่ข้างๆ ท่านแม่ของนางหลังจากนอนหลับไปสามวันเต็มๆ นางก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นจากความฝันอันแสนหวานนั้นในความฝัน ท่านแม่ไม่ได้จากไป ท่านพ่อไม่ได้ทรยศ พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม และพี่สี่ก็ยังคงรักและเอ็นดูนาง และที่สำคัญคือไม่มีบุคคลเช่นเวินเยวี่ยอยู่ครอบครัวของพวกเขามีความสุขมากขนาดนั้น...น่าเสียดาย มันเป็นเพียงแค่ความฝันเวินซื่อที่ตื่นขึ้นมาได้สลัดความอ่อนโยนในใจทิ้งไป และมุ่งหน้าเข้าไปในมิติเพื่อปรุงยาถอนพิษแมงป่องออกมา นำไปถอนพิษแมงป่องที่อยู่ในตัวของเวินจื่อเฉินจากนั้น ม่อโฉวซือไท่ก็ได้ส่งเวินจื่อเฉินลงจากเขาก่อนออกจากอารามสุ่ยเยว่ เวินจื่อเฉินยังคงเดินไปพลางหันกลับไปมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า หวังว่าร่างนั้นจะปรากฏตัวขึ้นน่าเสียดาย สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้เห็นกลายเป็นคนที่สองที่จากไปด้วยความผิดหวัง“อู๋โยวน่ะ ถูกทำร้ายมาหนักมาก อยากให้นางยกโทษให้เจ้านั้น ยากมาก”ประโยคนี้เป็นคำพูดของม่อโฉวซือไท่ที่พูดตอนส่งเวินจื่อเฉินจากไปเวินจื่อเฉินก้มหน้าลง เม้มริมฝีปาก เขาเอ่ยขึ้น “ไม่เป็นไร ข้าจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อชดใช้ให้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 293

    ดวงตากลมโตเหมือนลูกกวางของเวินเยวี่ยมีน้ำตาคลอ มองพี่ชายทั้งสามคนด้วยท่าทางน่าสงสาร“พี่ใหญ่ พี่สาม พี่สี่ ข้ารู้ว่าตอนนี้พวกท่านไม่เชื่อคำพูดของเยวี่ยเอ๋อร์ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของเยวี่ยเอ๋อร์จริงๆ ”เวินฉางอวิ้นขมวดคิ้วเล็กน้อย “แต่มีคนเห็นกับตาว่าคนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าได้นำศพและโลงศพของท่านแม่เราไป เจ้ายังกล้าพูดอีกหรือว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้า?”เวินเยวี่ยรู้ว่าเรื่องนี้นางไม่สามารถล้างความผิดได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นนางจึงเปลี่ยนวิธีพูด “จริงๆ แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเยวี่ยเอ๋อร์ แต่เยวี่ยเอ๋อร์บอกว่าไม่ใช่เยวี่ยเอ๋อร์ทำ ก็เพราะว่าคนทั้งสามคนที่พี่ใหญ่เห็นนั้น เป็นคนที่ท่านแม่ของข้าทิ้งไว้ให้ เพื่อปกป้องข้า เพียงแต่เพราะข้าถูกท่านพ่อพามาที่จวนเจิ้นกั๋วกง พวกเขาจึงไม่ได้ตามมาที่เมืองหลวง”นางมองไปที่ทั้งสามคนที่ตั้งใจฟังนางพูด ก่อนจะค่อยๆ แต่งเรื่องโกหกต่อไป “เมื่อหลายวันก่อน หลังจากที่ข้าโดนทำร้าย ข้าก็รู้สึกอัดอั้นตันใจจริงๆ ด้วยความโมโหเพียงชั่ววูบ จึงได้เขียนจดหมายบอกพวกเขา อยากให้พวกเขามาที่เมืองหลวงเพื่อปกป้องข้า แต่ไม่คิดว่าหลังจากที่พวกเขาได้ยินเรื่องนี้ พวกเข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 294

    “เจ้าพูดอะไรไร้สาระ? ข้าเคยพูดตอนไหนว่าจะไม่เอาเจ้าแล้ว?!”เวินเฉวียนเซิ่งโกรธจนลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที กล่าวตำหนินางด้วยความผิดหวัง “เจ้าดูเรื่องวุ่นวายที่เจ้าก่อไว้ในช่วงหลายวันมานี้สิ! มีเรื่องไหนที่ข้าไม่ได้ตามไปสะสางให้เจ้าบ้าง? แต่ครั้งนี้เจ้าทำเกินไปแล้วจริงๆ! หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ข้าที่เป็นเจิ้นกั๋วกงก็จะไม่สามารถปกป้องเจ้าได้อีก เจ้าไม่ต้องพูดเรื่องที่จะไปพบแม่ของเจ้า ใช้คำพูดแบบนี้มาข่มขู่ข้า!”พูดจบเขาก็สะบัดแขนเสื้อ หันหลังให้ ทำท่าทางไม่อยากพูดอะไรกับเวินเยวี่ยมากไปกว่านี้อีกเวินเยวี่ยร้อนใจขึ้นมาทันที “ไม่...ไม่ใช่แบบนั้นท่านพ่อ เยวี่ยเอ๋อร์ไม่ได้ข่มขู่ท่านจริงๆ เยวี่ยเอ๋อร์แค่กลัวว่าท่านพ่อจะทิ้งเยวี่ยเอ๋อร์ไปจริงๆ จึงพูดผิดไปเพราะความใจร้อน ท่านพ่อโปรดอย่าโกรธเลย เยวี่ยเอ๋อร์สำนึกผิดแล้วจริงๆ!”นางพูดไปพลางร้องไห้ไปพลางตั้งแต่เด็กนางได้ยินคนพูดว่า นางไม่เพียงแต่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับมารดาของนางในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แม้แต่ตอนร้องไห้ก็ยังเหมือนกันมากรูปลักษณ์ที่น่าสงสารนั้นเหมือนกับตอนที่นางตกหลุมรักใครบางคนเป็นครั้งแรกเมื่อยังเยาว์วัย จะไม่ทำให้เวินเฉวียนเซิ

Pinakabagong kabanata

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status