ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเจียงซุ่ยฮวนที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ดูเหมือนจะทรงนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้พระองค์ตรัสว่า "เรายุ่งกับราชการ อีกทั้งยังทุกข์กับอาการนอนไม่หลับ จึงไม่ได้สนใจเรื่องการสมรสของเจ้ากับฉู่เจวี๋ยเท่าใดนัก ทั้งไม่รู้ว่าเหตุใดพวกเจ้าจึงหย่าขาดกัน วันนี้เจ้าจงเล่าให้เราฟัง หากมีความคับข้องใจ เราจะช่วยตัดสินให้"เจียงซุ่ยฮวนเม้มริมฝีปาก นางไม่คิดจะบอกความจริง แม้ฮ่องเต้จะดูเหมือนโปรดปรานนาง แต่ฉู่เจวี๋ยเป็นพระโอรสแท้ๆ ของฮ่องเต้ ท้ายที่สุดฮ่องเต้ก็ต้องเข้าข้างฉู่เจวี๋ย อย่างมากก็แค่ตำหนิฉู่เจวี๋ยเล็กน้อยเท่านั้นนางทูลเรียบๆ "ทูลฝ่าบาท ฉู่เจวี๋ยมิได้รังแกหม่อมฉัน พวกเรานิสัยไม่เข้ากัน อีกทั้งคนที่ฉู่เจวี๋ยรักจริงๆ คือเจียงเม่ยเอ๋อร์ หม่อมฉันยินดีถอยออกมาเพื่อให้พวกเขาได้ครองคู่กันเพคะ"ฮ่องเต้ตรัสอย่างเสียดาย "น่าเสียดายจริง เป็นฉู่เจวี๋ยที่ไม่มีวาสนา"มุมปากเจียงซุ่ยฮวนปรากฏรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดา "ฝ่าบาทไม่ต้องเสียดายเพคะ พระชายาองค์ปัจจุบันของฉู่เจวี๋ย เจียงเม่ยเอ๋อร์ อนุธิดาของอ๋องหย่งหนิง เชี่ยวชาญทั้งพิณ หมากรุก อักษรศิลป์ และจิตรกรรมตั้งแต่เยาว์วัย เป็นสตรีผู้เลอเลิศอันดับหนึ
Read more