All Chapters of ยอดหญิงในเงามาร: Chapter 221 - Chapter 230

306 Chapters

บทที่ 221  

เซียวอวิ๋นถิงรู้สึกอึดอัดบอกไม่ถูก ทั้งที่คำบรรยายของชีหยวนก็ระบุไว้ชัดเจนว่า อ๋องฉีเป็นคนดุร้าย และอ๋องฉีก็เป็นศัตรูของชีหยวน เหตุใดอ๋องฉีกลับทำร้ายชีหยวนไม่ลง? ที่ต้องรู้ เว้นเรื่องอดีตชาติเลื่อนลอยว่างเปล่าไร้หลักฐานไปก่อน พูดถึงเรื่องที่ใกล้ที่สุดนี้ ชีหยวนให้ชีเจิ้นจับตัวหานเยว่เอ๋อร์ออกมา เพื่อให้อ๋องฉีเสียหน้าครั้งใหญ่ จากนั้นยังทำให้อ๋องฉีสูญเสียทุกสิ่งไม่เว้นแม้กระทั่งตำแหน่งชินอ๋อง และตัดเส้นทางการเงินของอ๋องฉีไปจนหมดสิ้น หากเป็นเช่นนี้ที่อ๋องฉีลงมือทำร้ายชีหยวนไม่ลง เช่นนั้นหมายความว่าอะไรก็ชัดเจนมากแล้ว แต่ก็เพราะเข้าใจชัดเจน เซียวอวิ๋นถิงมองท่าทางมั่นใจของชีหยวนก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันใด: “ในเมื่อตัวเจ้ามั่นใจว่าเขาจะไม่สังหารเจ้า ไยจะต้องมาผูกพันธมิตรกับข้าด้วย?” ในเมื่ออ๋องฉีปฏิบัติกับชีหยวนพิเศษเพียงนี้ และชีหยวนเองก็มีความสามารถเช่นนี้แล้ว ก็น่าจะไปพึ่งพิงอ๋องฉีดีกว่า ปาเป่าซึ่งอยู่ด้านนอกตบศีรษะลิ่วจินไปแรง ๆ หนึ่งที เดิมทีลิ่วจินกำลังขี่ม้าอยู่ดี ๆ เขากำลังคิดว่าประเดี๋ยวควรจะพาตัวคุณหนูใหญ่ชีไปฝูเจี้ยนอย่างไรให้ดูยิ่งใหญ่แต่ไม่เอิกเกริก พอถูกตบศีรษะ
Read more

บทที่ 222  

เซียวอวิ๋นถิงมองนางด้วยสายตาลุ่มลึก: “คิดถึงสกุลเซี่ยให้มากเข้าไว้เถิด ในเมื่อเจ้ารู้สึกลึกซึ้งผูกพันกับสกุลเซี่ยมากถึงเพียงนี้แล้ว เช่นนั้นจงรักษาชีวิตของเจ้าให้ดี เพื่อยามนั้นจะได้พานพบกับคนสกุลเซี่ยอีกครา” หนนี้ชีหยวนเองก็ช้อนสายตาขึ้นสบตากับเขา ก่อนจะกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ: “ขอบพระทัยเพคะท่านอ๋อง ท่านอ๋องโปรดวางใจ พวกเราจะต้องสมปรารถนาทุกสิ่งอย่างแน่นอน” รถม้ามิได้หยุดที่ภูเขาป๋ายอวิ๋นซาน แต่กลับเคลื่อนตรงต่อไปบนทางหลวง มุ่งตรงไปยังเหอหนาน กลุ่มคนสองฝ่ายที่ติดตามรถม้ามาตลอดแยกจากกันทันที ภายในจวนอ๋องฉี อ๋องฉีกำลังพินิจมองเกาทัณฑ์แขนเสื้อคันนั้น แววตามืดครึ้มไร้ประกายสว่าง ขันทีสวีเดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยความระมัดระวังเป็นที่สุด ก่อนจะก้มศีรษะลงและกล่าวรายงานว่า: “ท่านอ๋อง พวกเขากลับมาแล้วขอรับ” อ๋องฉีรับคำเสียงหนึ่ง ก่อนจะโบกมืออย่างเย็นชา: “ให้พวกเขาเข้ามา” ขันทีสวีเดินนำองครักษ์คนหนึ่งเข้ามาด้านใน จากนั้นตนเองก็ออกไปจัดการปิดประตูห้องให้เรียบร้อย ภายในห้องพลันมืดลงทันใด “ท่านอ๋อง!” องครักษ์คุกเข่าลงโขกศีรษะกับพื้นก่อน จากนั้นจึงเอ่ยด้วยเสียงเบาหวิว: “คุณหนูใหญ่ช
Read more

บทที่ 223  

ความจริงอ๋องฉีเองก็บอกไม่ถูกว่าเป็นเพราะเหตุใด ถึงได้ยึดติดกับชีหยวนถึงเพียงนี้ ทั้งที่ชาติก่อนตอนเขาสิ้นลมหายใจตายในมือของชีหยวน สิ่งที่คิดไว้ในใจคือต่อให้ลงนรกก็จะไม่มีวันปล่อยนางชั้นต่ำผู้นี้ไปเด็ดขาด แต่เมื่อถึงคราวได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง จิตใต้สำนึกของเขาก็ยังคงเป็นการรีบตามหาตัวชีหยวนให้เจอโดยเร็ว เขาเองก็ส่งคนไปที่ชนบทเช่นกัน ทว่าท้ายที่สุดแล้วก็ช้าไปก้าวเดียว กว่าคนของเขาจะหาตัวเจอ ชีหยวนก็กลับมาถึงจวนโหวแล้ว มิหนำซ้ำยังสร้างความวุ่นวายให้จวนโหวไปไม่น้อยด้วย เพียงแต่ เขาก็ยังคงมิได้รู้สึกว่าเรื่องนี้จะมีอะไรเลวร้าย กลับมาจวนโหวได้แล้วก็ดี เขาจะได้ให้หานเยว่เอ๋อร์จับตาดูนางเอาไว้ เพียงแต่น่าเสียดาย ที่ชีหยวนยังคงดื้อรั้นหัวแข็งเหมือนชาติก่อนไม่มีผิดเพี้ยน หลังกลับมามีชีวิตอีกครั้ง นางก็ยังเลือกที่จะผูกพันธมิตรกับเซียวอวิ๋นถิงเพื่อมาจัดการเขา ก่อนหน้านี้เขาโกรธมาก และอยากจะสังหารชีหยวนให้ตายเช่นกัน อันที่จริง ตอนอยู่ที่จวนอ๋องโจว เขาเกิดจิตสังหารขึ้นมาแล้วจริง ๆ สังหารชีหยวนแล้ว ท่าทีของชีหยวนที่มีต่อสกุลหลิ่ว ก็คือท่าทีแบบเดียวกันที่มีต่อเขา! นางยังเคีย
Read more

บทที่ 224  

ว่าตามเหตุผลแล้ว อ๋องฉีควรอยู่แต่ในเรือนอย่างสงบเรียบร้อยถึงจะเป็นการดีที่สุด แต่ชัดเจนว่าอ๋องฉีไม่มีความคิดนี้อยู่เลย คิดได้ถึงตรงนี้ สายตาของหลิ่วจิงหงก็ซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะถามอย่างทนไม่ไหว: “ท่านอ๋อง เมื่อวานท่านไปที่จวนอ๋องโจวมาใช่หรือไม่ขอรับ?” สีหน้าของอ๋องฉีพลันเปลี่ยนไปทันใด ก็หันขวับกลับมาขึงตาจ้องหลิ่วจิงหง หลิ่วจิงหงสืบเท้าถอยไปก้าวหนึ่งโดยสัญชาตญาณ แต่ไหนแต่ไรมาเขาใกล้ชิดสนิทสนมกับหลานชายคนนี้มาโดยตลอด อยู่ใต้อิทธิพลของหลิ่วกุ้ยเฟย เฉกเช่นเดียวกับอ๋องฉี ส่งผลให้พวกเขาซึ่งเป็นญาติกันทางฝ่ายมารดาสนิทสนมใกล้ชิดกันมากเป็นที่สุด ทว่าระยะนี้ เขามีความรู้สึกอยู่เสมอว่าอ๋องฉีดูคล้ายเปลี่ยนไปแล้ว ในทุกการกระทำรวมถึงทัศนคติที่มีต่อสกุลหลิ่ว ล้วนเผยให้เห็นถึงความห่างเหินชัดเจน การเปลี่ยนแปลงนี้ หลิ่วจิงหงเองก็ไม่รู้ว่ามาจากที่ใด และเพราะว่าไม่รู้ จึงรู้สึกกังวลและเป็นห่วงมากเป็นพิเศษ ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก หลิ่วจิงหงเริ่มเฝ้าจับตาดูการเคลื่อนไหวขององครักษ์ลับมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้น เมื่อวานครั้นได้ยินฮูหยินใหญ่หลิ่วบอกว่าชีหยวนประจันหน้ากับนักฆ่าที่จวนอ๋อง
Read more

บทที่ 225  

ฉู่กั๋วกงตำหนิด้วยเสียงเย็นชา: “เจ้าสวะไม่เอาไหน!” ในบรรดาบุตรหลานของขุนนางชั้นสูงหลิ่วจิงหงนับว่ามีความสามารถโดดเด่นเก่งกาจมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งหน้าที่หรือการปฏิบัติตัวล้วนแต่น่าชื่นชม เพิ่งเคยถูกขึ้นเสียงตำหนิใส่หน้าโครม ๆ เช่นนี้เป็นครั้งแรก จู่ ๆ ก็ถูกฉู่กั๋วกงด่าทออย่างรุนแรงเช่นนี้ เขาพลันอึ้งงันไปทันที: “ท่านพ่อ หรือท่านไม่ทราบว่าหมิงจูนาง…หมอหลวงบอกว่า นางร่วงลงมากระแทกพื้นรุนแรงเพียงนี้ กระทบถึงเลือดลม หลังจากนี้อาจตั้งครรภ์ไม่ได้แล้ว! ท่านจะให้ข้าอดทนกล้ำกลืนโทสะนี้ไว้อย่างไร?” เขามุ่งมาดปรารถนามาตลอดว่าจะให้บุตรีของตนเองสมรสกับอ๋องฉี และเดิมหลิ่วกุ้ยเฟยเองก็ยินดีที่จะเห็นเรื่องนี้สำเร็จลุล่วงเช่นกัน ในท้ายที่สุดสัมพันธ์เครือญาติจะได้ใกล้ชิดแน่นแฟ้นขึ้น ทว่าบัดนี้หลิ่วหมิงจูกลับล้มบาดเจ็บ มิหนำซ้ำร่างกายหลังจากนี้ก็ไม่น่าจะดีมากนัก ทำให้เรื่องนี้ถูกปกคลุมด้วยเงามืดไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย พูดได้เลยว่าอนาคตของหลิ่วหมิงจูได้พังทลายลงแล้ว “นั่นเป็นเพราะนางไร้ฝีมือสู้อีกฝ่ายเอง จะโทษใครได้?” ฉู่กั๋วกงสีหน้าเย็นชา ตำหนิอย่างไร้ความปรานี: “ในเรือนเลี้ยงดูทะนุ
Read more

บทที่ 226  

ฉู่กั๋วกงตัดสินใจทันใด: “จะใช่หรือไม่ เพียงถามดูก็รู้แล้ว” เขาเอ่ยพลาง ก็เรียกให้คนสนิทของตนเองเข้ามา และออกคำสั่งด้วยเสียงเบา ราวครึ่งชั่วยามให้หลัง คนก็กลับมา พร้อมกล่าวรายงานว่า: “หลังออกจากเมืองคุณหนูใหญ่ชีท่านนั้นมิได้เดินทางขึ้นเขาป๋ายอวิ๋นซานขอรับ ทว่ามุ่งหน้าตรงไปยังทิศของเมืองเหอหนานขอรับ คนของพวกข้าเพิ่งสืบทราบมาได้ว่า ท่านอ๋องเองก็มุ่งหน้าไปที่แห่งนั้นเช่นกัน” เช่นนั้นก็ประจวบเหมาะพอดี! หลิ่วจิงหงเหลือบสายตามองไปยังฉู่กั๋วกงอย่างอดไม่ได้: “ท่านพ่อ!” “ข้ามิได้หูหนวก!” ฉู่กั๋วกงแค่นเสียงออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เงียบไปครู่หนึ่งแล้วค่อยเอ่ยขึ้นว่า: “ข้าให้ท่านแม่ของเจ้าแวะเข้าไปในวัง ไปถามกุ้ยเฟยก่อน แล้วค่อยตัดสินใจเถิด” หลิ่วจิงหงได้แต่ฝืนใจข่มอารมณ์ไว้และตอบรับคำ ทางฟากตระกูลชีในขณะเดียวกัน ชีเจิ้นเองก็เข้าวังแล้วเช่นกัน ฟังว่าชีเจิ้นมาขอเข้าเฝ้า ฮ่องเต้หย่งชางก็ปล่อยองค์หญิงหมิงเฉิงลง ก่อนจะหันไปยิ้มกับเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยและตรัสว่า: “หลังพ้นปีใหม่เป่าหรงของพวกเราก็วัยครบสิบห้าแล้ว จะต้องเข้าพิธีปักปิ่นแล้ว ข้าตั้งใจจะให้เจ้าหน้าที่กรมวังและกรมบวงสรวงดำเนินการจัด
Read more

บทที่ 227  

หลิ่วกุ้ยเฟยรักและเอ็นดูหลานสาวคนนี้เป็นที่สุด รับนางเข้ามาในวังหลวง คอยอบรมเลี้ยงดูอยู่ข้างกายมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย ยิ่งทำให้มีความคิดจะกระชับความสัมพันธ์เครือญาติให้แน่นแฟ้นขึ้น โดยให้หลานสาวคนนี้แต่งแก่บุตรชายของตนเอง ยิ่งนางรักและเอ็นดูหลานสาวคนนี้มากเพียงใด ก็ยิ่งมีความเกลียดชังชีหยวนที่ทำให้หลานสาวต้องประสบเหตุไม่คาดฝัน “เป็นแค่บุตรีจากจวนโหวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ไม่รู้จักเจียมตัวเสียบ้าง!” หลิ่วกุ้ยเฟยกระตุกมุมปากอมยิ้มอย่างเยือกเย็น: “นางคิดว่านางเป็นใครกัน?” ก่อนหน้านี้ทำให้อ๋องฉีต้องเดือดร้อน หลิ่วกุ้ยเฟยมีความทรงจำกับชีหยวนมาตั้งแต่เมื่อครานั้น เพียงแต่เมื่อตอนนั้น นางกลับรู้สึกว่านั่นเป็นเพียงแค่มดแมลงตัวหนึ่งเท่านั้น ไม่คู่ควรให้นางต้องขยับแม้กระทั่งปลายนิ้วเสียด้วยซ้ำ ทว่าบัดนี้กลับไม่เหมือนเดิมแล้ว ต้องรู้ว่า แม้จะเล็กเท่ามดเท่าปลวกตัวหนึ่ง แต่หากกัดคนขึ้นมาแล้วก็เจ็บมากเช่นกัน นางกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์: “ท่านแม่มีเมตตาเกินไปแล้ว” สวะไร้ค่าเช่นนี้ นางไม่จำเป็นต้องเปลืองแรง แค่ขยับปากก็บดขยี้ให้ตายได้แล้ว จะปล่อยให้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้เพื่ออะไร? ฮูหยินผู้เฒ
Read more

บทที่ 228  

หลิวอันมิบังอาจปกปิด “พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องมั่นใจว่าแม่นางใหญ่สกุลชีไปหาพระชายาอ๋องหลิ่ว ด้วยเหตุนี้จึงไล่ตามออกจากเมืองพ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วกุ้ยเฟยสูดลมหายใจเยือกเย็นเฮือกหนึ่ง: “เสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว!” นางข่มโทสะไว้ไม่ไหว ต่อให้เป็นเช่นนี้ ก็ควรจะสั่งองครักษ์ลับ ให้ไล่ตามชีหยวนไป รอกระทั่งชีหยวนพบพระชายาหลิ่วแล้ว ค่อยสังหารทั้งชีหยวนและพระชายาหลิ่วไปพร้อมกัน ทำแบบนี้แล้วไยจะต้องให้อ๋องฉีไปด้วยตนเองด้วย! หลิ่วกุ้ยเฟยโกรธกรุ่นจนทนไม่ไหว: “บุตรผู้สูงศักดิ์ ย่อมไม่เสี่ยงภัยโดยไม่จำเป็น! นับวันเขายิ่งถอยหลังลงทุกวันแล้ว!” ฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วกลับสังเกตถึงความผิดปกติได้อย่างเฉียบคม: “กุ้ยเฟย เดิมทีท่านอ๋องจะแจ้งเรื่องนี้กับจิงหงเลยก็ย่อมได้ หรือจะกำชับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปจัดการก็ย่อมได้ ทว่าท่านอ๋องกลับไม่ทำเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังปิดบังจิงหง…” น้ำเสียงของนางเคร่งขรึมยิ่งนัก: “เกรงว่าเหตุผลที่ท่านอ๋องต้องเดินทางไปด้วยตนเอง จะเป็นเพราะต้องการทิ้งหนทางรอดชีวิตสักทางหนึ่งไว้ให้ชีหยวน” กล่าวอีกนัย อ๋องฉีปฏิบัติต่อชีหยวนค่อนข้างแตกต่างจริง ๆ มิเช่นนั้น เรื่องนี้จะไม่ซับซ้อนแม้แต่เสี้ยวเด
Read more

บทที่ 229  

เพราะสับเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเข้าพำนักในศาลาพักม้าได้ตามแผนการที่กำหนดไว้ก่อนหน้า เมื่อไม่มีศาลาพักม้าให้อ้างแรมแล้ว ทุกคนจึงได้แต่กินลมห่มน้ำค้าง หากระท่อมที่พอกันฝนได้พักเท้าชั่วคราว และทันทีที่ปาเป่าพร้อมลิ่วจินเข้ามาในกระท่อม สีหน้าก็ย่ำแย่ลงเล็กน้อย กระท่อมหลังนี้น่าจะถูกสร้างขึ้นโดยนายพรานล่าสัตว์ สามารถใช้แวะพักผ่อนชั่วคราวได้ระหว่างเดินทางขึ้นภูเขา และเป็นเพราะเหตุผลนี้เอง ทำให้กระท่อมหลังนี้นอกจากส่วนหลังคาแล้ว ส่วนอื่นแทบไม่มีอะไรป้องกัน ลมฝนสามารถพัดเข้ามาได้ทั้งสี่ด้าน ไม่เพียงเท่านี้ กระท่อมหลังนี้มีเพียงกองฟางแห้งกองหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรเลย ชีหยวนออกเดินทางอย่างกะทันหัน ซ้ำร้ายยังไม่มีคำสั่งให้พวกเขาเตรียมสิ่งใดไว้ ดังนั้นบนรถม้าจึงไม่มีข้าวของอื่นใดเลย นอกจากผ้าห่มหนึ่งผืนที่วางอยู่ในช่องเก็บของติดผนังมาตั้งแต่แรก และไม่มีสิ่งของอื่นใดอีกแล้ว องครักษ์คนหนึ่งจุดคบเพลิงขึ้น ก่อนจะบ่นอย่างไม่สบอารมณ์: “คุณหนูใหญ่ท่านนี้คิดจะทำอะไรกันแน่? ทั้งที่มีเส้นทางที่กำหนดไว้แล้วกลับไม่เดินตาม เปลี่ยนเส้นเส้นทางเองตามใจชอบ ยอดเยี่ยม
Read more

บทที่ 230  

อ๋องฉีถึงจะฝืนใจฟังคำแนะนำของผู้ใต้บังคับบัญชา หยุดเดินทางเพื่อพักผ่อนฟื้นฟูกำลัง การเดินทางในคืนหิมะตกความจริงแล้วค่อนข้างทรมานคนทีเดียว ต่อให้อ๋องฉีจะเตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่กระนั้นก็ยังถูกความหนาวเย็นเล่นงานไปไม่น้อย สีหน้าในยามนี้เริ่มกลายเป็นสีเขียวคล้ำขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว พวกเขาไม่เลือกพำนักที่ศาลาพักม้า ทว่าพำนักในเรือนแรม คนใต้บังคับบัญชาล้วนรู้ดีว่าอ๋องฉีเป็นผู้สูงส่งล้ำค่า ครั้นเข้าประตูไปก็สั่งให้เจ้าของเรือนแรมไปบอกลูกน้องให้ต้มน้ำเตรียมไว้ ไม่นานนัก น้ำร้อนก็ถูกยกมาส่งในห้องอ๋องฉีแล้ว อ๋องฉีอาบน้ำร้อนเรียบร้อย ค่อยรู้สึกว่าตนเองได้มีชีวิตกลับมาเสียที ก็มานั่งลงข้างหน้าต่างพลางเลิกคิ้วถามผู้ใต้บังคับบัญชาว่า: “ทางไป๋หู่แจ้งมาว่าอย่างไรบ้าง? เจอตัวนางหรือไม่?” ระยะเวลาที่พวกเขาออกจากเมืองตามอีกฝ่ายที่เดินทางออกมาก่อน ความจริงก็ห่างกันไม่นานมากนัก ยิ่งไปกว่านั้นชีหยวนนั่งรถม้า ทว่าเขาตะบึงอาชา หากคำนวณจากความเร็วการเดินทางแล้ว บัดนี้เขาควรจะไล่ตามชีหยวนทันแล้วถึงจะถูก จูเชวี่ยยังไม่ทันเอ่ยวาจา ก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากหน้าห้อง อ๋องฉีจิบชาร้อนไปหนึ่งคำก่อนจะเอ่ยว
Read more
PREV
1
...
2122232425
...
31
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status