บททั้งหมดของ ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ: บทที่ 21 - บทที่ 30

30

บทที่ 21

เย่มู่มู่เห็นข้อความจากจ้านเฉิงอิ้นแล้วถึงกับขำก๊าก!แท็บเล็ตเครื่องเล็ก ๆ เครื่องเดียวที่ลบฟังก์ชันส่วนใหญ่ออกไปแล้ว กลับทำให้คนโบราณตกตะลึงเสียจนร้องอุทานว่าปาฏิหาริย์เย่มู่มู่ตอบกลับไป “ไอแพดหรือเรียกอีกอย่างว่าแท็บเล็ต เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เห็นได้ทั่วไปในชีวิตคนยุคปัจจุบัน”“มันมีฟังก์ชันถ่ายรูป เจ้าค่อย ๆ ลองใช้ดูแล้วกัน ถ่ายบรรยากาศเมืองเจิ้นกวนมาให้ข้า ข้าจะได้รู้ว่าพวกเจ้ายังขาดเหลือสิ่งใด”เย่มู่มู่คิดดูแล้ว หากพวกเขาใช้วิธีสร้างกำแพงปูนซีเมนต์แบบยุคปัจจุบันจะต้องออกมาดีแน่ แต่หากเผ่าหมานรวมตัวกันบุกจู่โจมเมืองอย่างรวดเร็วการใช้ข้าวเหนียว ผงปูนขาวและหินคลุก จะช่วยให้คนโบราณลงมือทำได้ทันทีใช้ปูนซีเมนต์นั้นยังต้องเรียนรู้อีก เธอจึงจัดหาข้าวเหนียวกับหินปูนสักล็อตแล้วรีบส่งไปก่อนซ่อมกำแพงเมืองก่อน...“ขอบคุณท่านเทพยิ่ง พอจะส่งไม้ฟืนมาให้เราอีกสักชุดได้หรือไม่ ต้นไม้ทั้งเมืองถูกตัดโค่นจนหมดสิ้น ตอนนี้ไม้ที่ใช้หุงข้าวก่อไฟล้วนเป็นแผ่นไม้ที่รื้อมาจากบ้านเรือนที่เสียหาย”เย่มู่มู่เข้าใจถ่องแท้ในทันทีจินตนาการได้เลยว่าเมืองเจิ้นกวนคงไม่มีอะไรเหลือแล้วนอกจากราบคา
Read More

บทที่ 22

ครั้งที่ร้ายแรงที่สุดคือคืนส่งท้ายปีเก่า เย่ซินผลักเธอตกจากบันไดต่อหน้าต่อตาทุก ๆ คนในตระกูล เธอสลบเหมือดไปในทันที ต้องนอนพักฟื้นอยู่โรงพยาบาลถึงสามวันกว่าจะฟื้นขึ้นมาวันนั้นแม่ตบหน้าพ่ออย่างแรง ทั้งยังโวยวายจะหย่าให้ได้!หากไม่ยอมหย่าให้ก็จะเผาพวกเขาให้วอดเสียทั้งตระกูล!หลังจากเธอถูกทำร้ายในครานั้น แม่ก็ไม่ยอมกล้ำกลืนฝืนทนอีกต่อไป ถึงกับโทรเรียกญาติพี่น้องฝั่งแม่ยกโขยงกันมาเต็มคันรถพากันอาละวาดทำลายข้าวของบ้านลุงใหญ่ไปยกใหญ่ ลุงใหญ่และเหล่าอาทั้งหลาย ต่างก็ถูกตบตีไปตาม ๆ กันหลังจากนั้นย่าของเธอก็สงบลงมากทีเดียวอีกทั้งทางบ้านลุงใหญ่ก็ไม่กล้าหาเรื่องอีกพ่อเลิกบังคับให้แม่และเย่มู่มู่ต้องกลับไปบ้านนอกในทุก ๆ ปีแล้วแน่นอนว่า พ่อยังคงกตัญญูได้อย่างโง่งมเช่นเคย ที่ยังคอยช่วยเหลือเรื่องเงินให้พวกลุงใหญ่อาเล็กอย่างลับ ๆ โดยที่แม่ได้แต่ปิดตาข้างหนึ่งไป!ทว่ามีข้อแม้ว่าเงินให้ยืมไปเท่าไหร่ล้วนต้องเขียนสัญญากู้ยืมในทุก ๆ ครั้ง ต้องมีพยานบุคคล รวมถึงต้องบันทึกภาพวิดีโอตลอดกระบวนการหากเรื่องถึงโรงถึงศาล จะได้เรียกร้องให้พวกเขาคืนมาให้จนได้สิบปียี่สิบปีมานี้ที่มีพ่อคอยช่วยเ
Read More

บทที่ 23

จ้านเฉิงอิ้นกลับถูกข้าวเหนียว และแป้งข้าวเหนียวทั้งหมดห้าสิบกว่าถุงดึงดูดเข้าให้ข้าวเหนียวพวกนี้หากต้มจนเหลวเป็นน้ำ ก็เป็นอันใช้สร้างกำแพงเมืองได้!เขาเอ่ยถามเฉินอู่ “ห้องโกดังยังเหลือปูนขาวอยู่หรือไม่?”“มีขอรับ อยู่ในโกดังใต้กำแพงเมือง!”“ขนข้าวเหนียวและแป้งข้าวเหนียวไปที่นั่น และรวมพลคนงานมาซ่อมแซมกำแพงเมือง!”“ขอรับท่านแม่ทัพ!”เฉินอู่เรียกพลทหารมาช่วยกันขนย้ายข้าวเหนียวและอาหารม้าออกไปวันนี้ที่เขาเดินทางมาจากค่ายทหาร เห็นว่าชาวบ้านในเมืองล้วนมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ทั้งยังเปิดปากกล่าวทักทายด้วยความดีอกดีใจแม้ว่าใบหน้าของทุกคนจะซูบตอบ บางคนถึงขั้นหิวจนเดินแทบไม่ไหว แต่ก็ต่างช่วยประคับประคองกันไปต่อแถวรอรับโจ๊กพวกเขาไม่ได้สิ้นหวังหมดอาลัยอีกต่อไป ทว่าล้วนมีชีวิตชีวา นัยน์ตาเปี่ยมประกายความหวังสระน้ำหลังจวนแม่ทัพเดิมหวิดจะแห้งขอดเต็มที บัดนี้กลับมีน้ำใสเอ่อล้นเมื่อมีน้ำก็ย่อมมีความหวัง! ทุกคนได้อิ่มท้อง มีน้ำดื่ม แม้ว่าจะถูกกักล้อมอยู่ในเมือง แต่ก็ไม่สิ้นหวังหมดอาลัยอีก เพราะต่างมีความหวังที่จะรอดพ้น!เหล่าพลทหารแต่ละนายสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปไม่น้อยเหตุเพราะวันนี
Read More

บทที่ 24

“ท่านแม่ทัพ นี่คือสิ่งใดกัน น่าอัศจรรย์โดยแท้!”จ้านเฉิงอิ้นส่งแท็บเล็ตให้เฉินขุย “เจ้าลองใช้มือสัมผัสดู”เพียงนิ้วมือหยาบกระด้างกร้านแผลเป็นของเฉินขุยแตะเบา ๆ ลงบนหน้าจอ วิดีโอก็หยุดลงทันทีว้าว...เหล่านายทหารทั้งหลายพลันร้องอุทานเสียงดังเฉินขุยแตะบนหน้าจออีกครั้ง วิดีโอก็เล่นต่อจากเดิมตาเขาเบิกออกโตอย่างแทบไม่อยากเชื่อสายตาตน“สมเป็นของวิเศษจากท่านเทพจริง ๆ คนธรรมดาเช่นเราเกรงว่าในพันปีก็คงไม่อาจสรรค์สร้างได้!”พลทหารนายอื่น ๆ ก็อดรนทนไม่ไหวอยากสัมผัสบ้างเช่นกัน“คนเราจะเข้าไปได้อย่างไร ทั้งเขายังหยุดการเคลื่อนไหวได้อีกด้วย!”“กระหม่อมคิดว่าเป็นวิชาดูดกลืนวิญญาณของท่านเทพ ที่ดูดวิญญาณเข้าไปภายใน เจ้าคนโฉดจึงได้เชื่อฟังคำสั่งเช่นนี้!”จ้านเฉิงอิ้นได้ยินนายทหารพูดคุยกันอย่างออกรสก็อดขำไม่ได้เขาศึกษาเข้าใจวิธีการถ่ายภาพและอัดวิดีโอแล้ว เขาเอื้อมหยิบแท็บเล็ตมา กดปุ่มเปิดใช้งานกล้องถ่ายรูปแชะ~และแล้วภาพแสนคมชัดของเหล่านายทหารทั้งห้านายที่มีสีหน้าต่างกันไปก็ปรากฏขึ้นมา เขาขยายภาพและส่งให้พวกพลทหารได้ดูพวกเขาต่างเบิกตากว้าง มองดูภาพของตนด้วยความประหลาดใจ“วาดได้สม
Read More

บทที่ 25

กองทัพตระกูลจ้านเหลือทหารเพียงสองหมื่นนาย ไร้ทั้งม้าศึก ไร้ทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ดี ๆ ใช้หากข่าวที่ว่าในเมืองมีน้ำเล็ดรอดออกไป มั่วเป่ยหมานอ๋องจะต้องยกทัพมาโจมตีเมืองอย่างแน่นอน แม้ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งมากค่ามากราคาเท่าใดก็ย่อมไม่หวั่นไหว เพราะนี่เป็นถึงสายน้ำแห่งชีวิต!จ้านเฉิงอิ้นลุกขึ้นยืน เรือนคิ้วดาบบนใบหน้าหล่อเหลาคมคายขมวดมุ่นเขาเดินไปมาในกระโจมด้วยกังวลในใจพลทหารเฝ้าประตูเห็นท่าทีแล้วก็รับรู้ได้ถึงความไม่สบายใจของท่านแม่ทัพจึงได้สั่งให้ทุกคนถอยห่าง อัปเปหิตนไกลจากกระโจมมาหลายหมี่[1]ทันใดนั้น เหนือกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ก็มีถุงถ่านหินและไม้ฟืนจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาจากฟากฟ้าราวห่าฝนตุบ ตุบ ตุบ...ถ่านหินกองพะเนินอยู่เต็มกระโจม จนเมื่อกระโจมของเขารับน้ำหนักไม่ไหวอีกต่อไปก็ขาดแคว่กเสียงดัง ทั้งถ่านหินและไม้ฟืนราวหิมะถล่มก็มิปานแต่ละมวลแต่ละชิ้นหลุดทะลักทลายออกมาจากกระโจม กองพะเนินเต็มอาณาพื้นที่!“ท่านแม่ทัพ...”พลทหารที่ได้ยินเสียงต่างกุลีกุจอกันมาดู เห็นเพียงว่าภายในรัศมีสองหมี่รอบตัวจ้านเฉิงอิ้น หาได้มีสิ่งใดตกหล่นลงมา เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างไร้ภัยย่างกราย
Read More

บทที่ 26

ซ่งตั๋วปิติยินดี “ขอบคุณท่านแม่ทัพยิ่ง!”ด้วยรางวัลตอบแทนมากเช่นนี้ จะต้องมีชาวบ้านมาลงชื่อกันมากมายเป็นแน่และการผลิตอาวุธก็ย่อมเร็วขึ้นเช่นกันซ่งตั๋วเรียกพลทหารมาขนย้ายถ่านหินทั้งหมดออกไปพลทหารนายอื่น ๆ ต่างตาร้อนมองตามซ่งตั๋วขนย้ายเหล็กกล้าชั้นเยี่ยมทั้งหมดไป*ปูนซีเมนต์และอิฐที่เย่มู่มู่สั่งซื้อมาทั้งหมดต่างส่งถึงโกดังแล้วเมื่อวานเธอได้สั่งจองข้าวสารจากพ่อค้าร้านค้าข้าวเอาไว้ล่วงหน้า ข้าวสารส่วนที่เหลืออีกหนึ่งพันแปดร้อยกระสอบต่างก็ส่งมาถึงโกดังแล้วเช่นกันทว่าการเก็บปูนซีเมนต์และข้าวสารไว้ในที่เดียวกัน อย่างไรก็คงไม่ดีนักเย่มู่มู่จึงขอให้ลุงหยางผู้ดูแลโกดัง เปิดประตูใหญ่โกดังแห่งที่สองให้โกดังแรกใช้สำหรับจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ ส่วนโกดังแห่งที่สองใช้จัดเก็บเสบียงอาหารและผักผลไม้ลุงหยางเองก็คับข้องใจ เย่มู่มู่จะซื้อปูนซีเมนต์และอิฐมากมายเช่นนั้นไปทำอะไรแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรนัก เพียงเปิดประตูโกดังแห่งที่สอง ให้พ่อค้าร้านค้าข้าวขับรถเข้าไปด้านในได้เมื่อเย่มู่มู่มาถึงโกดัง ลุงหยางดูเวลาแล้ว เห็นว่าพักกินข้าวเที่ยงพอดีเขาบอกกล่าวเธอสักหน่อยแล้ว จึงได้ไปพักกินข้าว
Read More

บทที่ 27

จ้านเฉิงอิ้นจัดแจงข้าวสารและแป้งสาลีเข้าโกดัง นายทหารทั้งหลายมองดูเสบียงอาหารกองพะเนินเป็นกำแพงสูง...เสบียงอาหารที่ท่านเทพส่งมาเมื่อวานนั้น เพียงพอแค่กินได้หนึ่งวัน พวกเขายังกังวลกันว่าหากขาดแคลนเสบียงจะทำอย่างไรต่อไป?บัดนี้ สิ่งแน่นหนักในใจเหล่านั้นสลายหายไปหมดแล้วท่านเทพเป็นผู้รักษาวาจาท่านประทานอาหารมาให้อย่างเพียงพอจริง ๆ!จ้านเฉิงอิ้นวางมือลงบนกระสอบข้าวสาร มองไล่ไปตามเสบียงอาหารขาวโพลนพลางเอ่ย “หากตามที่ท่านเทพบอก เสบียงนี้เพียงพอจะอยู่ได้นานเท่าใด”หลี่หยวนจงตอบว “ข้าวสารสองแสนชั่ง แป้งสาลีสองหมื่นห้าพันชั่ง...”บัดนี้พลทหารแต่ละนายได้ข้าวสารวันหนึ่งครึ่งชั่งใช้ประทังชีพได้ยี่สิบเอ็ดวันขอรับ”นายทหารได้ยินกันถ้วนทั่ว หากเป็นเมื่อก่อนน่ะหรือ เพียงคิดก็ไม่อาจหาญกล้า!มีที่ไหนใครจะได้กินข้าววันหนึ่งถึงครึ่งชั่ง เกรงว่าจะมีแต่เชื้อพระวงศ์ขุนนางที่กล้าฟุ่มเฟือยได้เพียงนั้น!ภายนอกเมืองกำลังประสบทุพภิกขภัยครั้งใหญ่!แต่ในเมืองของพวกเขา กลับผ่านไปอย่างสุขสันต์ดังแดนสวรรค์ทุกคืนวันคิดถึงตรงนี้ ทหารแต่ละนายต่างก็ยิ่งอยากมีชีวิตรอด อยากตีฝ่าวงล้อมออกไป อยากทำลายเผ่าหม
Read More

บทที่ 28

ส่วนคนที่เหลือไปช่วยกันซ่อมแซมกำแพงเมือง!ฟ้าค่อย ๆ มืดลง จ้านเฉิงอิ้นมองดูอาหารสองสามอย่างและข้าวหลายกล่องบนโต๊ะ มุมปากผุดพรายยิ้มนุ่มนวล ท่านเทพมาโปรดสัตว์อีกแล้วเมื่อคืนวานเป็นปลาน้ำแดง วันนี้เป็นซี่โครงหมูนึ่ง เนื้อวัวผัดแห้ง ผัดผัก และซุปมะเขือเทศใส่ไข่นางช่างทุ่มเทส่งอาหารมาให้เขาเต็มกำลังจริง ๆเขาเปิดกล่องอาหารออกแล้วเรียกสวี่หมิงกับเถียนฉินมากินด้วยกัน ทั้งสองกลับส่ายหน้า “ท่านแม่ทัพ พวกข้าน้อยทานกันที่กองทัพกันแล้วขอรับ”“วันนี้เป็นข้าวสวยหุงสุกหนึ่งมื้อ ผัดหมูจานหนึ่ง ผัดกะหล่ำปลีหนึ่งจาน และน้ำแกงฟักเขียว... อร่อยมากจริง ๆ”“ใช่ขอรับ ที่แท้ข้าวสวยหุงก็อร่อยเช่นนี้ ทั้งหอมละมุน ไม่ติดฝาดบาดคอ รสชาติกลมกล่อม เคี้ยวไปยังมีรสหวานอีกด้วย”จ้านเฉิงอิ้นจึงเลือกกินเพียงซี่โครงหมูนึ่งกับซุป ส่วนที่เหลือยกให้เถียนฉิน ให้เขานำกลับไปให้ลุงหลี่เถียนฉินรับไว้หลังมื้ออาหาร จ้านเฉิงอิ้นมองกระบะทรายจำลองภูมิศาสตร์เผ่าหมานรวมตัวกันห่างออกไปราวสามสิบลี้[1] กองกำลังหลักทั้งสิ้นประจำอยู่ที่ประตูเมืองด้านหลังมีทหารเผ่าหมานกว่าแสน ขัดขวางการติดต่อระหว่างกองทัพตระกูลจ้านและแคว
Read More

บทที่ 29

เย่มู่มู่ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของร้านค้า สอบถามราคาและประสิทธิภาพของชุดเกราะทว่าร้านค้าโดยส่วนใหญ่ผลิตชุดเกราะโบราณสำหรับคอสเพลเยอร์ ไม่ก็เป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉากในการถ่ายละครเท่านั้น ประสิทธิภาพใช้งานจริงเป็นอย่างไรพวกเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัดเช่นกัน เธอสอบถามร้านค้าไปกว่าสิบแห่ง ในที่สุดก็พบร้านหนึ่งที่ผลิตอาวุธโบราณจำลอง และมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเองเนื่องด้วยเธอต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก พ่อค้าจึงต่อสายวิดีโอคอลกับเธอด้วยตัวเองทั้งยังทดสอบให้เธอได้ดู การใช้กระบี่ยาวฟันลงไปบนชุดเกราะเคร้ง~เกิดประกายไฟพุ่งขึ้นมา ทั้งกระบี่ของเขายังเกิดรอยบิ่น ทว่าชุดเกราะยังคงสภาพสมบูรณ์ไร้ความเสียหายพ่อค้าเลื่อนกล้องเข้าไปใกล้ชุดเกราะเพื่อให้เย่มู่มู่เห็นชัด ๆ ว่าชุดเกราะมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับแตกหักเย่มู่มู่เอ่ย “ฉันเห็นร้านคุณมีดาบกระบี่ที่ลับคมแล้ว ลองใช้ดาบคุณฟันชุดเกราะคุณให้ดูหน่อยสิคะ”มาแบบนี้ พ่อค้าก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อยเธอจึงพูดต่อว่า “ฉันว่าจะสั่งสักหมื่นชุดขึ้นไป แต่พ่อค้าต้องให้ฉันดูก่อนนะคะ ว่าชุดเกราะของคุณแข็งแรงแค่ไหน”เมื่อได้ยินว่าจะสั่งซื้อเป็นหมื่นชุด ซึ่ง
Read More

บทที่ 30

เห็นว่าผ่านไปนานแล้วนางยังคงไม่ตอบกลับ จ้านเฉิงอิ้นจึงส่งกระดาษมาอีกหลายแผ่น “ท่านเทพ?”“ทำให้ท่านเทพเป็นกังวลแล้ว ล้วนเป็นความผิดข้าเอง ข้าจะไม่ทำให้ท่านเทพผิดหวัง จะนำพาปวงประชาฝ่าวงล้อมออกไปให้จงได้”“ท่านเทพหลับแล้วหรือ? เช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว”เย่มู่มู่เห็นกระดาษขาว จึงรีบตอบกลับ“ข้าไปช่วยซื้อเครื่องใช้ยุทธภัณฑ์มา ได้ชุดเกราะมาพันชุด ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังห้าพันเล่ม หน้าไม้ราชวงศ์ฉินร้อยคัน…”จ้านเฉิงอิ้นตอบ “ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังคือสิ่งใด? หน้าไม้ราชวงศ์ฉินเล่า? กองทัพของข้ายังมีธนูและศรอยู่”เย่มู่มู่เพิ่งฉุกคิดขึ้นมาได้ แคว้นต้าฉี่คงยังไม่มีหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังเองก็เป็นเกิดขึ้นหลังจากยุคของพวกเขาราวหนึ่งพันห้าร้อยปีเห็นจะได้ “ส่งแท็บเล็ตมาให้ข้า ข้าจะโหลดวิดีโอการใช้งานอาวุธให้เจ้าเรียนรู้”แท็บเล็ตถูกส่งกลับมาเย่มู่มู่เปิดดูแกลเลอรีเห็นภาพถ่ายภาพหนึ่งมีชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงห้าคนอยู่ในชุดเกราะ ทว่าเสื้อผ้าด้านในกลับมอซอยิ่งผมเผ้ายุ่งเหยิง หนวดเครารุงรัง ดวงตาทอประกาย ต่างเมียงมองมายังกล้องด้วยความฉงนสนเท่ห์เย่มู่มู่ยังสังเกตเห็น ว่าฉากหลังของพวกเข
Read More
ก่อนหน้า
123
DMCA.com Protection Status