บททั้งหมดของ ธุลีใจ: บทที่ 71 - บทที่ 80

100

บทที่ 71

ณ ปัจจุบัน“อย่างที่เห็น พวกเขามีเหตุผลที่จะเกลียดฉัน... ฉันทำลายความรักของพวกเขา” ฉันพึมพำในขณะที่น้ำตาคลอเบ้าการหวนคิดถึงอดีตเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับฉันเสมอ ตอนนั้นฉันไร้เดียงสาโง่เขลาและคิดว่าตัวเองจะทำให้เขารักฉันได้หลังจากที่ฉันทำลายชีวิตเขาแท้ ๆ เก้าปีผ่านไป ฉันยังคงต้องชดใช้สำหรับการรักโรแวน วูดส์“แต่มันไม่ใช่ความผิดของคุณไม่ใช่เหรอ?” อีธานถามฉันขณะที่นิ้วของเขาค่อย ๆ ลูบไล้นิ้วของฉัน“ไม่ มันคือความผิดของฉัน ฉันปล่อยให้ความหลงใหลในตัวเขาเป็นศูนย์กลางการตัดสินใจ และเพราะเหตุนั้นฉันจึงได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต” น้ำตาของฉันไหลออกมาไม่หยุดหากฉันย้อนเวลากลับไปได้ หากฉันเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้ ฉันใช้ชีวิตที่ผ่านมาด้วยความเสียใจ หากฉันยอมฟังเสียงที่คอยเตือนในหัวของฉัน หากแต่เพียงฉันใส่ใจมันแทนที่จะเพิกเฉยมัน มันคงช่วยให้ฉันไม่ต้องเจ็บปวดและเสียใจมากขนาดนี้หากตอนนั้นฉันรู้ตัวเร็วว่าฉันกำลังตั้งครรภ์ ฉันคงสามารถหนีปัญหาได้เร็วกว่านี้ ฉันจะได้จากไปและไม่บอกโรแวนว่าฉันตั้งครรภ์ลูกของเขาจะได้ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย ฉันรู้ว่ามันฟังดูชั่วร้ายมาก แต่เมื่อมองย้อนกลับไปต
Read More

บทที่ 72

แสงอ่อน ๆ ส่องกระทบใบหน้าปลุกฉันให้ตื่น ตอนแรกฉันสับสนว่าฉันมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง แต่แล้วมือหนัก ๆ ที่โอบเอวของฉันก็ทำให้ฉันนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาได้ฉันเริ่มรู้สึกตื่นตระหนกมากจนกลัวว่าจะปลุกอีธานขึ้นมา ฉันยังไม่อยากให้เขาตื่นตอนนี้ ไม่ใช่ตอนที่ฉันกำลังสติแตก ตอนที่ในหัวของฉันกำลังวุ่นวาย ฉันลุกขึ้นและออกจากเตียงอย่างเชื่องช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้เขาพลิกตัวและพึมพำอะไรบางอย่างแต่เขาไม่ได้ตื่น ฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอกในขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้าและหยิบโทรศัพท์จากตู้ลิ้นชักฉันเดินย่องไปที่ประตูและหรี่ตาเล็กน้อยเมื่อเปิดมันออกและได้ยินเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ฉันมองกลับไปด้วยใจที่เต้นระรัว ฉันรู้สึกโล่งอกทันทีที่เห็นว่าอีธานยังนอนอยู่บนเตียงผ้าห่มปกคลุมเพียงเอวของเขาลงมา เผยให้เห็นกล้ามท้องอันโดดเด่นของเขา และแขนข้างหนึ่งก็ปิดหน้าของเขาเอาไว้ ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างดังแล้วออกจากห้องไปฉันเดินลงบันไดด้วยความรู้สึกราวกับว่ากำลังหนีความอับอายแม้ว่าฉันจะอยู่ในบ้านของตัวเองก็ตาม ความเจ็บปวดระหว่างขาทั้งสองข้างเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าอีธานได้ทำหน้าที่รักษาความเจ็บปวดในใจของฉันอย่างจริงจังท
Read More

บทที่ 73

ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมต้องเป็นตอนนี้? พวกเขาต้องการอะไร?“การให้อภัยของเธอมั้ง?” เสียงเดียวกันกระซิบการให้อภัย คำง่าย ๆ แต่กลับซับซ้อนฉันจะให้อภัยพวกเขาได้อย่างไรในเมื่อพวกเขาก็ไม่ได้ให้อภัยฉันในตอนนั้น? ฉันจะให้อภัยพวกเขาได้อย่างไรเมื่อพวกเขาทำร้ายฉัน? ฉันจะปล่อยวางทุกอย่างได้อย่างไรในเมื่อพวกเขาไม่ยอมให้ฉันได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเพราะสิ่งที่เกิดขึ้น?อีธานพูดถูก ทั้งโรแวนและฉันต่างก็เมา แต่ฉันเป็นคนเดียวที่โดนทำโทษ คนเดียวที่โดนตำหนิคือฉัน ฉันเป็นคนที่ด่าว่า เป็นคนที่ถูกดูถูก คนเดียวที่โดนกลั่นแกล้งฉันเป็นคนเดียวที่โดนด่าทอด้วยอารมณ์และวาจา ฉันรับมันคนเดียวทั้งหมด ฉันรับผิดทั้งที่ไม่ควรรับ เพราะฉันรักโรแวนฉันยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ฉันรู้สึกถึงน้ำตาแห่งความโกรธที่พยายามจะไหลออกมาและครั้งนี้ฉันไม่อยากอดกลั้นอีกฉันเหนื่อยมาก เหนื่อยเหลือเกินกับการพยายามเข้มแข็ง ฉันสูญเสียมากพอ ๆ กับที่โรแวนต้องสูญเสียเพราะคืนนั้นไม่มีใครเห็นว่าความรู้สึกผิดนั้นทำให้แหลกสลายแค่ไหน ไม่มีใครเห็นว่าฉันพังทลายลงอย่างไร หรือว่าฉันต้องดิ้นรนแค่ไหน พวกเขาสนใจแต่โรแวนและเอมม่าเสมอมาทุกอย่างเกี่ยวกั
Read More

บทที่ 74

โรแวนผมกำลังเตรียมตัวไปงานเลี้ยง ผมไม่อยากจะไปแต่ก็ต้องไป ผู้ก่อตั้งมูลนิธิโฮปจัดงานเลี้ยงเพื่อแสดงความขอบคุณและเป็นเกียรติแก่ผู้บริจาคทุกคน และเนื่องจากผมเป็นหนึ่งในผู้บริจาคจำนวนมาก ผมจึงได้รับเชิญ“มีอะไรเหรอครับไบรอัน? ผมยุ่งอยู่” ผมตอบหลังจากที่มองหมายเลขผู้ที่โทรเข้ามา“เราจับคู่ดีเอ็นเอได้จากตัวอย่างเลือดที่เก็บมาจากบ้านของคุณชาร์ปได้แล้วครับ” เขาเข้าประเด็นทันทีชื่อของเธอทำให้ผมหายใจเย็นเยียบเข้าลึก คำพูดสุดท้ายที่ผมพ่นใส่เธอยังคงก้องอยู่ในห้วของผม ผมไม่ควรพูดสิ่งที่ทำให้เจ็บปวดเหล่านั้น แต่ผมโกรธมากที่เธอลงมือกับเอมม่า“แล้วไง?” ผมเร่งเร้าให้เขาพูดต่อผมหวังว่านี่จะเป็นข่าวดี ผมต้องการเพียงแค่คลี่คลายคดีของเอวาและลืมมันไปซะ“ไม่ดีเท่าไรครับ” เขาตอบและทำให้ผมส่งเสียงโอดไม่พอใจ“เกิดอะไรขึ้น?”“เราสามารถระบุตัวชายคนนั้นได้แล้ว เขาใช้ชื่อว่าอสรพิษทมิฬ เราตามหาเขามาระยะหนึ่งแล้วเนื่องจากเขาเป็นมือสังหารรับจ้าง มีคนบอกกับเราว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ปัญหาเดียวคือเราพบว่าเขาเสียชีวิตแล้วโดยมีกระสุนฝังอยู่ในกะโหลกศีรษะ” น้ำเสียงของเขาดูสงสัยบางอย่าง ซึ่งผมก็รู้สึกเช่นเดียวกั
Read More

บทที่ 75

เราไปถึงตรงเวลาและผมก็โล่งใจ พอรถจอดผมก็ลงจากรถแล้วจึงไปช่วยเอ็มม่า กล้องเริ่มจับภาพทันทีที่เราเหยียบพรมแดง“คุณวูดส์ จริงหรือเปล่าครับที่ตอนนี้คุณคบกับกับเอมม่า ชาร์ป พี่สาวของอดีตภรรยาของคุณ?” นักข่าวคนหนึ่งถาม“มีคนบอกว่าคุณเอมม่าคือรักแท้ของคุณ ในขณะที่สถานการณ์บีบบังคับให้คุณต้องคบกับเอวา ชาร์ป” นักข่าวอีกคนก็พูดขึ้น“อดีตภรรยาของคุณอยู่ที่ไหนเหรอครับคุณวูดส์?”“คุณเอมม่า คุณรู้สึกยังไงที่ได้อยู่กับผู้ชายที่เคยแต่งงานกับน้องสาวของคุณ? แถมพวกเขายังมีลูกชายด้วยกันด้วย”ผมรู้สึกว่ามือของเอมม่าบีบต้นแขนผมแน่นขึ้นเมื่อพวกเขาถามคำถามนั้นกับเธอ ผมจึงพาเธอเดินออกไปในขณะที่พวกเขาถามคำถามแล้วคำถามเล่ากับเรา ในที่สุดเราก็มาถึงทางเข้าและได้รับการต้อนรับผู้จัดงานทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก ปกติผมไม่ชอบอะไรแบบนี้แต่สถานที่ดูน่าทึ่งมาก เราถูกพาไปที่โต๊ะของเราและพบว่าเกเบรียล ทราวิส เล็ตตี้ และคริสตินนั่งลงแล้วผมไม่ทักทายใครเลย ไม่เหมือนเอมม่า ผมแค่ช่วยเอมม่านั่งที่ของเธอ จากนั้นผมก็นั่งที่ของตัวเองตอนนี้จิตใจผมไม่ได้อยู่ที่นี่ ความคิดของผมวนเวียนอยู่กับเอวาและความปลอดภัยของเธอ ผมไม่สามารถจด
Read More

บทที่ 76

ทั้งเอมม่าและคริสตินจ้องมองเธอด้วยความตกใจและโกรธ อาจเป็นเพราะไม่มีใครเคยกล้าพูดกับพวกเธอแบบนั้น เอมม่ากำมือแน่น เธอโกรธอย่างเห็นได้ชัด“พอแล้ว เล็ตตี้... ผมจะไม่ยอมให้คุณพูดกับเอมม่าแบบนั้น เธอเป็นน้องสาวของผมนะ ถ้าคุณไม่เคารพเธอก็ออกไปซะ” ทราวิสขู่ เล็ตตี้มองเอมม่าก่อนที่จะยิ้มเยาะแล้วหันไปหาทราวิส“ฉันต้องเตือนคุณไหมว่าเอวาก็เป็นน้องสาวของคุณ? แต่นั่นไม่เห็นสำคัญสำหรับคุณเลย ยังไงซะคุณก็คือหนึ่งในคนที่ดูถูกเธอและปฏิบัติกับเธอเหมือนขยะ” จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืน “ฉันยินดีที่จะไป ฉันอยากอยู่บ้านมากกว่าที่จะต้องอยู่กับพวกคนงี่เง่าและเห็นแก่ตัว ฉันเบื่อหน่ายพวกคุณทุกคน”“เล็ตตี้…” ทราวิสอ้อนวอนและเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว แต่เธอก็หันหลังแล้วเดินออกไปแล้วทั้งโต๊ะยังคงเงียบอยู่ขณะที่เราเฝ้าดูเธอเดินออกไป แต่เธอก็ไปได้ไม่ไกลเพราะถูกบอดี้การ์ดหยุดเอาไว้ จากนั้นเขาก็พาเธอกลับมาที่ห้องจัดเลี้ยงและเดินผ่านพวกเราไปที่โต๊ะของเอวาเอวาลุกขึ้นและกอดเล็ตตี้ จากนั้นพวกเธอก็นั่งลงและเริ่มพูดคุยกันไม่กี่วินาทีต่อมา บอดี้การ์ดก็มายืนที่โต๊ะของเรา“คุณครับ ผมต้องขอให้คุณออกไปด้วยครับ” เขาบอกคริสติน
Read More

บทที่ 77

“อะไรนะ?” เอมม่าที่อยู่ข้าง ๆ ผมกระซิบด้วยความตกใจทั้งห้องเงียบลง ทุกคนประหลาดใจมาก ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น ไม่มีใครคาดคิดว่าเอวาจะเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรใหญ่โตเช่นนี้ผมเคยแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นแท้ ๆ แม้แต่ผมเองยังไม่รู้เลย นั่นบ่งบอกอะไรเกี่ยวกับผมได้มากมายถ้าผมเองยังไม่รู้เรื่องนี้เกี่ยวกับเอวาด้วยซ้ำ“นายรู้เรื่องนี้ไหม?” เกเบรียลถามด้วยตาและปากที่เบิกกว้าง“ไม่” ผมกัดฟันตอบด้วยความโมโหที่พลาดเรื่องนี้ไปผมเฝ้าดูเธอเลื่อนเก้าอี้ตัวเองออกก่อนที่จะลุกขึ้น อีธานเองก็ลุกขึ้นพร้อมกับยื่นมือให้เธอ เธอวางมือของเธอไว้บนมือของเขาด้วยรอยยิ้มและเขาก็พาเธอเดินไปยังเวที ผมกัดฟันแน่นเมื่อเขาวางมือบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเธอขณะที่ช่วยเธอขึ้นบันไดเมื่อเธอขึ้นเวทีแล้ว เขาก็ก้าวลงมา เธอโอบกอดแมรี่ก่อนที่จะก้าวขึ้นไปบนโพเดียมเธอยิ้มก่อนที่จะกระแอมในลำคอ“สวัสดีค่ะ” เธอหัวเราะคิกคักอย่างประหม่า “แปลกดีนะคะ ฉันสามารถทักทายห้องที่เต็มไปด้วยวัยรุ่นจอมเกเรได้ง่ายกว่าห้องที่เต็มไปด้วยผู้ใหญ่”คำพูดนี้ทำให้เธอได้รับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากผู้คนมากมาย“ฉันไม่คิดว่าจะมีใครที่นี่ที่ไม่
Read More

บทที่ 78

“เยี่ยมเลย” เธอไม่ได้พูดอะไรอีก เธอแค่หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาแล้วเริ่มพิมพ์บางอย่างลงไป“เฮ้” เอมม่าเริ่มพูด “นั่นไม่ใช่เคเลบ คิงส์ตัน จากบริษัทคิงส์ตันเทคโนโลยีเหรอ? เขาไปหาเอวาทำไม? เขารู้จักเธอเหรอ?”ผมมองตามสายตาของเธอไป มีชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่กับเอวา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นเคยมากบริษัทคิงส์ตันเทคโนโลยีถูกก่อตั้งเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว เขาเป็นผู้บริหารที่อายุน้อยที่สุดและได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในโลกธุรกิจ ด้วยอายุเพียงยี่สิบปีเขาได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก เทคโนโลยีของเขาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเขาก็ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในกลุ่มของผู้บริหารระดับสูงถ้าผมเป็นคนไม่เอาไหน ผมคงกังวลว่าเขาจะแย่งตำแหน่งผู้ประกอบการอันดับหนึ่งของประเทศของไป เด็กหนุ่มคนนี้ทำให้บรรดานักธุรกิจคนอื่น ๆ ต้องเสียเงินกันเป็นกอบเป็นกำ“โอ้ ใช่แล้ว… เขาเป็นผู้ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิโฮป เขาเป็นเด็กกำพร้าและคุณเอวาได้ก็รับเขาไว้ภายใต้การดูแลของเธอ เธอเป็นคนสังเกตเห็นว่าเขาเป็นอัจฉริยะด้านเทคโนโลยี เธอจึงสนับสนุนให้เขาเริ่มต้นทำบางอย่างด้วยพรสวรรค์ของเขา เมื่อเขาคิดที่จะมีบริษัทของตัวเองขึ้นมา ค
Read More

บทที่ 79

“คุณกล้าดียังไง?” น้ำเสียงของเอวาเต็มไปด้วยความโกรธเบรนดายิ้มเยาะราวกับว่าเธอมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำ “ไม่ใช่ความผิดของฉันที่เด็กนี่เดินไม่มองทาง นี่เป็นชุดรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นของหลุยส์ วิตตอง และนังเด็กเวรนั่นเกือบจะทำลายชุดฉันด้วยการสาดน้ำผลไม้ใส่”เบรนดาและเอวาไม่เคยลงรอยกัน ผมรู้ว่าเอวาเคยถูกกลั่นแกล้งที่โรงเรียนและเบรนดาคือคนที่ทำให้เธอทรมานมากที่สุดเด็กผู้หญิงที่พวกเขากำลังพูดถึงกำลังหลบอยู่ข้างหลังเอวา เธอน่าจะอายุไม่เกินห้าขวบ เธอเป็นเด็กที่หน้าตาน่ารัก ใส่ชุดสีชมพูสวยงาม ใบหน้ารูปหัวใจ ริมฝีปากอิ่มและผมสีดำยาวสยายลงมาด้านหลังผมนึกภาพตัวเองมีลูกสาวตัวน้อยที่มีดวงตาสีเทาและผมสีน้ำตาลเป็นมันเงาเหมือนเอวาผมตัวแข็งทื่อทันที นี่มันอะไรกัน? ความคิดนั้นมาจากไหนกัน? ผมส่ายหัวและสลัดความคิดนั้นออกไปก่อนมุ่งความสนใจไปที่เอวา ดูเหมือนว่าเอวาจะกำลังจะสั่งสอนเบรนดา“คุณล้อฉันเล่นใช่ไหม? นั่นเป็นเหตุผลที่โง่เง่าจริง ๆ ที่จะทำร้ายเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเราอยู่ที่นี่ก็เพื่อพวกเขา” เอวาตำหนิพลางขมวดคิ้วบนใบหน้าที่สวยงามของเธอ“มันไม่ใช่เหตุผลที่โง่เง่า” เบรนดากระทืบเท้าเหมือ
Read More

บทที่ 80

“แล้วฉันต้องบอกอะไรคุณ?”“ทุกอย่าง… มูลนิธิโฮปและความจริงที่ว่าคุณไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ทำไมคุณถึงปล่อยให้พวกเราทุกคนดูถูกคุณ”เธอขมวดคิ้วก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับผม “แล้วฉันควรจะบอกคุณตอนไหน? คุณแทบไม่อยากอยู่ใกล้ฉันเลย แถมคุณยังทำทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันนาน ๆ”ผมจ้องมองเธอ มองลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลของเธอ มีบางอย่างใหม่ในดวงตาคู่นั้น บางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนและยังมีบางอย่างที่ขาดหายไปเธอพูดต่อไปในขณะที่มองออกไปที่สวน “อีกอย่าง คุณจะสนใจด้วยเหรอ? เท่าที่ฉันจำได้ คุณไม่ได้สนใจอะไรที่เกี่ยวกับฉันเลย”ผมมองคนเดินเข้าออกสวนด้วยสายตาเลื่อนลอย เธอพูดถูก ผมเคยเป็นไอ้สารเลวที่เย็นชา ตอนนั้นผมคิดเอาเองว่าผมไม่จำเป็นต้องสนใจว่าผู้หญิงที่ทำลายชีวิตผมทำอะไรอยู่ผมโกรธแค้นเอวาและมันแสดงออกมาในวิธีที่ผมปฏิบัติกับเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมภูมิใจในตัวเองเสมอที่เป็นคนดี แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ผมต้องยอมรับว่าตัวเองเป็นคนเลวมาก ถึงขนาดที่ภรรยาของผมต้องเก็บส่วนหนึ่งของชีวิตเธอเป็นความลับกับผม“เรื่องเอมม่า…” ผมกำลังจะขอโทษสำหรับคำพูดที่ผมพูดใส่เธอโดยไม่คิด แต่เธอกลับตัดบ
Read More
ก่อนหน้า
1
...
5678910
DMCA.com Protection Status