บททั้งหมดของ ธุลีใจ: บทที่ 91 - บทที่ 100

100

บทที่ 91

ฉันเดินทางมาซื้อเฟอร์นิเจอร์ กระนั้นจิตกลับไม่ได้จดจ่ออยู่มันเลย ฉันซื้อบ้านหลังใหม่ มันเหมาะสมและเข้ากับความชื่นชอบของฉันเป็นอย่างมาก เรียบง่ายแต่ก็อบอุ่น บ้านหลังใหม่อยู่ในระแวกเพื่อนบ้านที่ดีและยังอยู่ใกล้กับโรงเรียนของโนอาอีกด้วย ฉันรู้สึกชอบทันทีที่ได้เห็น อีกทั้งยังมีสนามหญ้าหลังบ้านขนาดใหญ่ซึ่งโนอาสามารถวิ่งเล่นได้เต็มที่ไม่เหมือนบ้านหลังเก่า“คุณตั้งใจเลือกอยู่หรือเปล่าเนี่ย?” เล็ตตี้เอ่ยถามด้วยความหงุดหงิดเธอมาช่วยฉันเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านใหม่ ซึ่งฉันก็ซื้อบ้านมาได้สามวันแล้ว บ้านหลังใหม่ยังเป็นบ้านโล่ง ๆ อยู่เลย พูดกันตามตรงฉันยังไม่มีเตียงนอนเลยด้วยซ้ำ ฉันต้องเอาฟูกมาปูนอนกับพื้นอยู่“ขอโทษทีนะเล็ตตี้…พอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ” ฉันกล่าวขอโทษเมื่อคิดว่ามีคนจ้องจะเอาชีวิตของคุณอยู่ หลายสิ่งหลายอย่างก็กลายเป็นด้อยความสำคัญไป เรื่องพวกนี้ไม่ได้มีความสำคัญเทียบเท่ากับการมีชีวิตอยู่ให้นานมากพอที่จะเห็นลูกน้อยของคุณเติบโต ฉันยังคงทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่แม้รู้ว่าเพิ่งเฉียดความตายมาได้อีกครั้ง มีใครบางคนตั้งใจลอบวางเพลิงบ้านฉัน คนเหล่านั้นต้องการให้ฉันไฟครอกตายทั้งเป็น
Read More

บทที่ 92

ฉันส่งยิ้มให้เธอเราหาร้านน่ารัก ๆ แห่งหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว เมื่อนั่งประจำที่อาหารของพวกเราทั้งสองก็มาเสิร์ฟในเวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น เราสั่งอาหารพื้น ๆ เหมือนกัน เฟรนช์ฟรายซ์ เบอร์เกอร์ ปีกไก่ทอดและมิลก์เชคบทสนทนาของเรานั้นลื่นไหลอย่างมาก เราไม่ได้พูดคุยเรื่องใหญ่อะไรเพียงแค่มุกตลก เพลิดเพลินกับมื้ออาหารและรู้สึกสนุกที่ได้อยู่ด้วยกัน ช่วงเวลานั้นฉันลืมปัญหาที่มีและรู้สึกดีจริง ๆ“โอ้ย อิ่มจนแทบจะคิดอะไรอย่างคนอื่นเขาไม่ได้แล้ว” เล็ตตี้เล่นมุก ฉันจึงหัวเราะออกมา ความสุขเอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่นั้นของเธอ ซึ่งดูน่ารักใช่ย่อย“แหม พูดอย่างกับถึงจุดสุดยอดอย่างนั้นแหละ” ฉันเล่นมุกบ้างเธอหัวเราะตอบโต้ “ใช่เลยจ้า อาหารทำให้ฉันถึงจุดสุดยอด”ฉันหัวเราะพลางบอกเธอว่ามันไม่มีเรื่องแบบนั้นสักหน่อย คำว่าอาหารและจุดสุดยอดไม่ควรมารวมกันในประโยคเดียว“ได้สิ…ก็อาหารทำให้เรามีความสุขใช่ไหมเล่า แม้จะไม่เหมือนกันเสียทีเดียว แต่ก็เป็นความสุขเดียวกับที่เจ้าหนูน้อยของทราวิส…”ฉันสำลัก “อย่ากล้าพูดจนจบประโยคนะ…ไม่เคยได้ยินหรือว่าปลาหมอน่ะตายเพราะปาก” ฉันมองเธอด้วยสายตาหวาดหวั่น “บอกเอาไว้เลยนะว่าสิ
Read More

บทที่ 93

“ก็แกหลงโรแวนขนาดนั้น คิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของแกลงหรือไง?” เอมม่าเย้ยหยันและฉันก็ตอกกลับ“แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเป็นเธอมากกว่านะที่หลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้น…แล้วถ้าไม่ว่าอะไรฉันขอตัวนะ เธอทำให้ฉันเสียเวลามากเกินพอแล้ว”“ฉันยังพูดไม่จบนะ นางบ้า” ฉันไม่สนใจเธอแต่คำพูดต่อมาทำให้ฉันตัวแข็งทื่อ“ฉันสาบานเอาไว้ตรงนี้เลย เอวา ถ้าแกเดินไปอีกก้าวเดียว ฉันจะตามล่าหาไอ้เด็กเหลือขอลูกชายแกให้มาชดใช้เรื่องนี้ มันเองก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องเสียทุกอย่างไปเหมือนกัน”ฉันได้ยินเสียงสูดหายใจจากทราวิส แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจฉันขยับร่างกายไปโดยไม่ได้คิดฉันหมุนตัวและผลักเธอกระแทกเข้ากับรถตู้คันหนึ่ง ฉันใช่ท่อนแขนกดเข้าที่คอของเอมม่า ตรึงร่างของเธอเอาไว้กับรถตู้และบีบคอเธอจนหายใจไม่ออกหลักสูตรการเรียนป้องกันตัวที่ฉันเสียเงินเรียนไปเมื่ออาทิตย์ก่อนได้ใช้งานเสียที อีกทั้งฉันยังมีใบอนุญาตการครอบครองอาวุธปืนด้วย อีธานแนะนำให้ฉันพกปืนเอาไว้ป้องกันตัวหลังจากที่บ้านเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งนั้นในหัวฉันว่างโล่งตอนที่ฉันควักปืนออกมาจ่อเข้าที่ขมับของเอมม่า“ถ้าหล่อนพูดข่มขู่โนอาอีกแค่ครั้งเดียว ฉันเอาหล่อนตายแน่ ฉันจะ
Read More

บทที่ 94

ฉันยังคงรู้สึกหัวเสียอยู่แม้ว่าจะเดินทางถึงบ้านใหม่แล้วก็ตาม อาจต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งเพื่อคุ้นเคยกับการเรียกที่แห่งนี้ว่าบ้านฉันจอดรถและเดินออกมาด้วยความรู้สึกแปลกใจ โรแวนนั่งรอฉันอยู่นอกบ้าน ฉันเดินเข้าใกล้เขาพร้อมกับสายตาของเขาที่กำลังจับจ้องหน้าฉัน“ถ้าอยากจะมาด่าฉันเพราะเรื่องเอมม่า ก็เชิญเดินกลับไปที่รถแล้วขับออกไปเสียเถอะ”ฉันสาบานเลยหากเขามาที่เพื่อสร้างปัญหาแล้วล่ะก็ ฉันก็พร้อมไล่ตะเพิดเขากลับออกไปโดยไวเลย“พูดเรื่องอะไรของคุณ?” เขาเอ่ยถามพร้อมลุกขึ้นยืน ใบหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง“ฉันมั่นใจว่านางผู้หญิงคนนั้นโทรหาคุณแล้วก็เล่าเรื่องโกหกให้ฟังใช่ไหม?” ฉันเดือดพล่านเมื่อนึกถึงคำพูดของเอมม่าฉันกระแทกเท้าและยืนรอเพื่อให้เขายืนยันเรื่องนี้ ไม่งั้นทำไมเขาถึงได้มาอยู่ที่นี่ไม่นานหลังจากที่ฉันกับเอมม่าเพิ่งจะมีปากเสียงกันล่ะ?“ผมไม่รู้นะว่าคุณกำลังพูดเรื่องบ้าบออะไรอยูู่ แต่ผมไม่ได้มาเพราะปัญหาระหว่างคุณทั้งสองนะ” เขาเอ่ยพร้อมนำมือขึ้นมาเสยผม “ถ้างั้นคุณมาที่นี่ทำไม?” ฉันเอ่ยถามด้วยความอยากรู้“ทราวิสโทรมาหา แล้วบอกว่าคุณอาจต้องการคนช่วยจัดย้ายของเข้าบ้าน” เขาเดินตรงเข้าม
Read More

บทที่ 95

ฉันปลดล็อกรถขนของก่อนหันหน้ามองเขาทั้งสอง หกมืออย่างไรเสียก็ดีกว่าสี่มือ ยิ่งกว่านั้นของบางชิ้นก็มีน้ำหนักมากเสียด้วย คงเป็นเรื่องง่ายขึ้นหากให้ชายหนุ่มทั้งสองขนของเหล่านั้นแทนที่จะเป็นฉันและอีธาน “จะเลิกจ้องหน้ากันแล้วมาช่วยฉันขนของได้ไหม?” ฉันเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าไม่มีใครขยับมาช่วยเลย โรแวนเปล่งเสียงฮึดฮัดและเดินกระทืบเท้ามาทางฉัน อีธานเดินตามมาหลังจากนั้น “แล้วจะยกอะไรก่อนดี?” ฉันเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าไม่มีใครขยับตัวยกของเลยชายหนุ่มทั้งสองเริ่มทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิด ฉันมั่นใจเลยหากบอกให้กลับไปก็จะไม่มีใครไปอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่มีใครลงมือช่วยทำงานเลย หากรู้ว่ามันจะออกมาเป็นเช่นนี้ ฉันยอมจ้างคนมาช่วยเสียดีกว่า ในที่สุดอีธานจริงเริ่มขยับก่อนเป็นคนแรกและเดินไปจับปลายด้านหนึ่งของโซฟา หลังจากยืนสบสันกรามอยู่นาน โรแวนจึงเดินไปจับปลายอีกฝั่งพวกเขาย้ายโซฟาเข้าไปในห้องนั่งเล่นโดยไม่พูดอะไรเลย ฉันเดินตามเข้าไปด้วยโดยหยิบของที่ขนได้ไปเราทำงานกันอย่างเงียบเชียบ ฉันพยายามเข้าไปเชื่อมสัมพันธ์ทั้งสอง กระนั้นทั้งสองกลับดูเหมือนว่าจะอารมณ์ไม่ดีอย่างยิ่ง สามสิบนาทีต่อมา ของที่มีน้ำหนักเกือบท
Read More

บทที่ 96

โรแวน“ไปโดนใครซัดมา?” เกเบรียลเอ่ยถามพร้อมมองมองถุงน้ำแข็งที่ประคบอยู่บนใบหน้าผม“ไอ้อีธาน” ผมฮึดฮัด และตอนนี้ก็ไม่มีอารมณ์รับมือเจ้าน้องชายด้วยให้ตายสิ! ผมยังไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าจะไปต่อยกับไอ้เวรนั่น ผมหัวเสียมากจนคล้อยตามไปกับคำพูดมันเสียได้“ตำรวจนั่นน่ะหรือ?” เขาเอ่ยถามอย่างอยากรู้ “แฟนใหม่เอวาใช่หรือเปล่า?”เมื่อคำพูดนั้นจบลง ผมก็ขว้างถุงน้ำแข็งในมือกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างจัง“มันไม่ใช่แฟนเธอเว้ย” ผมเอ่ยพร้อมลุกขึ้นยืนอารมณ์ของผมตอนนี้เดือดดาลและพร้อมจะระเบิดออกมา ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเอวาถึงมองไม่เห็นว่าไอ้เวรนั่นมันเป็นจอมหลอกลวงผมไม่สามารถสืบค้นอะไรที่ลึกลงไปได้เลย ตามรายงานบอกว่าเขาเป็นชายที่ดีคนหนึ่ง ไม่มีอะไรผิดจากธรรมดา กระนั้นลางสังหรณ์ของผมบอกว่ามันไม่ใช่อย่างที่ตาเห็น มันต้องมีบางอย่างที่กวนใจผม บางสิ่งที่เขาปิดบังเอาไว้ สังหรณ์ของผมไม่เคยผิดพลาดมาก่อน “แต่จากที่ได้ยินมา เขาเป็นแฟนกันนะ… เกิดอะไรขึ้น?”ผมสูดหายใจเข้าพร้อมระงับไฟความโกรธเกรี้ยวในจิตใจลง“เรากำลังช่วยเอวาขนของเข้าบ้านใหม่อยู่และมันก็บอกให้ฉันเลิกยุ่งเสีย บอกอีกว่าเอวาเป็นของมันและมันจะไ
Read More

บทที่ 97

เกเบรียลคงเสียสติไปแล้วจริง ๆ มันก็ไม่ได้แปลกนี่ที่คนเราจะแต่งงานอยู่กินกันไปแม้ว่าจะไม่ได้รักกันเลยก็ตาม ระยะเวลาเก้าปีไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ผมไม่ได้รักเอวาเลย โดยเฉพาะหลังจากลูกไม้ที่เธอใช้เพื่อหลับนอนกับผม“ถ้างั้นก็อธิบายให้ฟังหน่อยสิว่าทำไมถึงได้หัวเสียตอนที่รู้ว่าเอวาคบหากับอีธานขนาดนี้?” เขายืนกรานถาม“ก็บอกไปแล้วไงเล่า! เอวาจะคบกับใครฉันก็ไม่ได้สนใจ แต่กลับไอ้หมอนี่มันไม่ใช่ มันมีเรื่องไม่ชอบมาพากลอยู่แน่”เราทั้งสองเอาแต่พูดเรื่องเดิมวนไปวนมาไม่จบสิ้นและนั่นทำให้ผมหัวเสียมากกว่าเดิม ผมคิดว่าอย่างน้อยเกเบรียลคงเข้าใจ แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่เข้าใจเลย เขากลับมีความคิดสุดไร้สาระว่าที่ผมโกรธเกรี้ยวอยู่เช่นนี้เป็นเพราะว่าผมมีใจให้กับเอวาและรู้สึกหึงเธออยู่“ฉันเป็นคนแรกที่ยอมรับว่าสิ่งที่เอวาทำเมื่อเก้าปีที่แล้วนั่นมันเป็นเรื่องผิด เราต่างปฏิบัติต่อเธอไม่ดีเลยเพราะเรื่องนี้ แต่ถ้าสมมติว่าเธอไม่ได้โกหกล่ะ หากเธอเมาไร้สติตามที่บอกจริง ๆ เล่า? สมมติว่าสิ่งที่เธอพูดมันคือความจริงเล่า?“เป็นไปไม่ได้”“อย่างนั้นหรือ? พวกเราทุกคนต่างพากันจับคู่ให้นายกับเอมม่า แล้วกีดกันเอวา หลังจ
Read More

บทที่ 98

บุคคลนิรนามฉันเดินไปมารอบห้องในอะพาร์ตเมนต์พร้อมรู้สึกสุดจะทน ฉันพยายามติดต่อไอ้เวรนั่นหลายสาย แต่มันกลับไม่รับเลยสักสายหมอนั่นหายเงียบไปตั้งแต่ไปวางเพลิงเผาบ้านเอวา และนั่นก็เป็นสิ่งที่ฉันหวาดกลัวมากเพราะไม่รู้เลยว่าหมอนั่นวางแผนทำอะไรอยู่กันแน่หากไม่รู้ว่าหมอนั่นวางแผนทำอะไรอยู่ ฉันก็คงคิดหาหนทางรับมือไม่ทันแน่ หากเขาดันทำแผนพังอย่างเจ้าอสรพิษทมิฬนั่นแน่ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นและโทรหาลูกน้องคนหนึ่ง“ครับนาย?” เบรครับสายเมื่อเสียงเรียกเขาดังครั้งแรก“แกระบุตำแหน่งมันได้แล้วหรือยัง?” ฉันเอ่ยถามฉันไม่ใช่คนที่ต้องมานั่งกังวล ไม่ใช่คนที่ต้องมานั่งเครียดอยู่กับทุกสิ่งเช่นนี้ แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป ฉันมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเอาเสียเลยว่าจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่นอนฉันไม่สามารถสลัดความรู้สึกปลุกเร้าอยู่ภายในที่กำลังกล่าวเตือนถึงหายนะที่จะเกิดขึ้น“ไม่เลยครับ…ดูเหมือนว่าเขาจะหายไปจากการจับตาของเรา” ลูกน้องตอบ ซึ่งทำให้ฉันสบถออกมา “ไม่มีใครสามารถระบุตำแหน่งเขาได้เลยครับ”ตอนที่ฉันรู้ว่าอสรพิษทมิฬถูกตามจับ ฉันรู้ว่าจำเป็นต้องกำจัดมันทิ้งไป เพราะไม่นานตำรวจต้องตามมาถึงตัวมันแน่ ดังนั้นฉั
Read More

บทที่ 99

“ไม่มีอะไร…แค่อยากได้ยินเสียงแม่เฉย ๆ” ฉันเอ่ยตอบ เสียงขาดตอนไปในตอนจบ“ไม่เป็นไรใช่ไหมลูกรัก?” แม่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแสนกังวลฉันยิ้มให้คำเรียกนี้ เธอเรียกฉันเช่นนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว “ไม่เป็นไร แค่เหนื่อยจากงานนิดหน่อยก็เท่านั้น” “ทำงานมากไปแล้วมั้งลูก ไปเที่ยวพักผ่อนบ้างอะไรบ้างก็ได้ ทำอย่างกับว่าไม่มีเงินอย่างนั้นแหละ” แม่หัวเราะออกมาฉันได้ยินเสียงเแม่ทำอะไรบางสิ่งอยู่ น่าจะเป็นเสียงหม้อและกระทะกระทบกัน อาจกำลังทำอาหารหรืออบขนมอยู่ก็เป็นได้ ฉันพนันด้วยเงินทั้งหมดที่มีเลยว่าแม่กำลังอบขนมอยู่ แม่รักการทำขนมมากกว่าสิ่งใด“เดี๋ยวพองานจบ ค่อยไปเที่ยวพักผ่อนน่ะ…ตอนนี้มีอะไรเกิดขึ้นเยอะแยะไปหมดเลย” ฉันโกหกออกไปส่วนหนึ่งตอนนี้มีหายนะลอยอยู่เหนือหัว ฉันสงสัยจริงว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนได้อย่างไร ฉันไม่ฉันคนดีและรู้ตัวมาโดยตลอด แต่ฉันก็อดภาวนาให้เรื่องเป็นไปตามที่ต้องการไม่ได้“ก็ดีจ้ะ” เธอเอ่ยตอบ “แต่อย่างน้อยก็หยุดเสาร์อาทิตย์แล้วไปพักผ่อนบ้างก็ได้ มันดีนะลูก ช่วยทำให้จิตใจปลอดโปร่งด้วยแถมยังให้ลูกได้มีโอกาสเปิดหูเปิดตามีมุมมองใหม่ ๆ” แม่แนะนำนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงได้รักแม่มา
Read More

บทที่ 100

เอวานี่ก็เป็นเวลาสองเดือนแล้วนับตั้งแต่บ้านของฉันถูกเพลิงไหม้จนไม่เหลือซาก นับตั้งแต่ตอนนั้นไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับฉันตลอดสองสามเดือนที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์ถูกโจมตีใด ๆ เลย สงบสุขเป็นอย่างมาก และฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งมากว่าเจ้าหมอนั่นจะเลิกตามไล่ฆ่าฉันเสียทีเจ้าหน้าที่ตำวจหัวหน้าชุดสอบสวนบอกว่าอย่าเพิ่งได้วางใจ เขาแนะนำให้ฉันระมัดระวังตัวและเฝ้าระวังอยู่เสมออ้างอิงจากประสบการณ์ของเขา คนร้ายเหล่านั้นไม่มีวันเลิกลาโดยง่าย เขาเสริมว่าไม่แน่เจ้านั้นอาจกำลังประวิงเวลาอยู่เพื่อวางแผน และรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อโจมตีก็เป็นได้ฉันเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะบอกทั้งหมด แต่มันยากที่จะไม่มีความหวังขึ้นมาบ้างเมื่อเรื่องราวมันเริ่มเงียบลง และเริ่มมีความรู้สึกผ่อนคลายรวมถึงจะระแวดระวังน้อยลงเมื่อพวกคนเหล่านั้นเหมือนจะไม่เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตแล้วช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมานับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตฉันเลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับช่วงเวลาที่อยู่โนอาได้หรอกนะ แต่ก็ถือว่าดีมากสิ่งที่ทำให้มันดีที่สุดก็คืออีธาน ทุกครั้งที่ฉันอยู่กับเขา ฉันได้เรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอฉันรักการที
Read More
ก่อนหน้า
1
...
5678910
DMCA.com Protection Status