All Chapters of ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี: Chapter 481 - Chapter 490

997 Chapters

บทที่ 481

บุตรชายทั้งสองของนางต้องมาเข่นฆ่ากันเอง จิ่งโม่เยี่ยเลือดเนื้อเชื้อไขเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของบุตรชายคนโตของนาง นางจำเป็นต้องปกป้องเขาให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตามไทเฮายิ้มพลางกล่าวว่า "มัวยืนบื้อกันอยู่ทำไม? รีบทำพิธีต่อสิ!"ทุกคนที่อยู่ในงานจึงพลันได้สติขึ้นมา พิธีกรผู้รับหน้าที่ดำเนินงานเริ่มขานพิธีต่อ เข้าสู่ขั้นตอนของการกราบไหว้ฟ้าดิน"ครั้งแรกคำนับฟ้าดิน!""ครั้งที่สองคำนับบรรพบุรุษ!”"สามีภรรยาคำนับซึ่งกันและกัน!”"พิธีการเสร็จสิ้น ส่งคู่บ่าวสาวเข้าห้องหอ!"เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกซับซ้อนเล็กน้อย ตามความเชื่อของยุคสมัยนี้ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีแต่งงาน พวกเขาก็ถือว่าเป็นสามีภรรยากันแล้วมุมปากของจิ่งโม่เยี่ยยกสูงขึ้นเล็กน้อย สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มนับแต่นี้เป็นต้นไป เขาจะไม่ต้องโดดเดี่ยวเดียวดายอีกต่อไปหลังจากนี้ไปนางจะเป็นภรรยาของเขา จะใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวร่วมกับเขาจิ่งโม่เยี่ยยื่นมือออกไปประคองมือของนางเบาๆ พานางเดินตรงไปทางห้องหอไทเฮามองภาพที่พวกเขาเดินจับจูงมือไปด้วยกัน ใบหน้าพลันเต็มไปด้วยรอยยิ้มทว่ารอยยิ้มของนางกลับชะงักลงอย่างรวดเร็ว นางกำนัลข้างกาย
Read more

บทที่ 482

เพียงชั่วพริบตาเดียว งานมงคลก็กลายเป็นงานโศกเศร้าไว้อาลัยจิ่งสือเยี่ยนและปู๋เยี่ยโหวยืนนิ่งอยู่ข้างๆ ยังอึ้งไม่หาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เหนือกว่าความคาดหมายของทุกคนไปมากแม้แต่ปู๋เยี่ยโหวที่ปกติไม่ค่อยทำตัวจริงจัง ยามนี้ยังมีสีหน้าเคร่งขรึมอย่างยิ่งหากมองในอีกแง่มุมหนึ่ง ไทเฮาก็ทรงเป็นความอบอุ่นเสี้ยวสุดท้ายของราชวงศ์เขาหันมองจิ่งโม่เยี่ยแวบหนึ่ง เห็นดวงตาแดงก่ำ ความโกรธแค้นในดวงตาไม่อาจซ่อนเร้นได้เขารู้ว่าช่วงหลายปีมานี้ จิ่งโม่เยี่ยต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้งและการวางแผนเอาชีวิตของฮ่องเต้เจาหยวน เหตุผลสำคัญที่เขายอมอดทนอดกลั้นมาตลอดก็เพราะไทเฮาเมื่อก่อน การตายของฮ่องเต้พระองค์ก่อนและองค์หญิงใหญ่ ทำให้ไทเฮาสูญเสียบุตรชายและบุตรสาวไปอย่างละหนึ่งคนตลอดชีวิตของไทเฮา พระนางมีบุตรธิดาทั้งหมดสามคน หลังจากฮ่องเต้พระองค์ก่อนและองค์หญิงใหญ่จากไป ก็เหลือเพียงฮ่องเต้เจาหยวนเป็นบุตรชายคนเดียวและคนสุดท้ายแม้ปู๋เยี่ยโหวจะเกลียดชังฮ่องเต้เจาหยวนมากแค่ไหน แต่เพราะไทเฮายังมีชีวิตอยู่ เขาที่ไม่อยากให้ไทเฮาเสียใจ จึงพยายามอดทนกับหลายสิ่งหลายอย่างมาโดยตลอดเขาเป็นเช่นนั้น จิ่งโม่เยี่ยก็เป
Read more

บทที่ 483

เรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว ฮ่องเต้เจาหยวนก็ไม่ต้องการรักษาหน้าตาอีกต่อไปแล้วเดิมทีจิ่งโม่เยี่ยก็ไม่ได้อยากจะแตกหักกับฮ่องเต้เจาหยวนในตอนนี้หรอก แต่ในเมื่อไทเฮาทรงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องไว้หน้าใครอีกหัวหน้าทหารองครักษ์หลวงเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “ในเมื่อท่านอ๋องทรงปกป้องพระชายาถึงเพียงนี้ ก็อย่าหาว่าพวกข้าไม่เกรงใจแล้วกัน!”เมื่อกล่าวจบ เขาก็สั่งให้คนเข้าไปจับกุมจิ่งโม่เยี่ย ทว่าพวกเขาขยับตัวได้เพียงเล็กน้อย ก็ถูกคนของอีกฝ่ายฆ่าตายทั้งหมดสีหน้าของหัวหน้าทหารองครักษ์หลวงแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก “ท่านอ๋องคิดจะก่อกบฏหรือ?”จากเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ บอกให้ทุกคนทราบโดยทั่วกันว่าจิ่งโม่เยี่ยเตรียมการรับมือมาเป็นอย่างดีเขาไม่คาดคิดเลยว่า จิ่งโม่เยี่ยจะซ่อนอาวุธไว้ในห้องหอของตัวเองแววตาของจิ่งโม่เยี่ยเย็นชาและดุดัน “ก่อกบฏ? ช่างหน้าด้านกันเหลือเกินนะ ยัดเยียดความผิดแล้วยังใส่ร้ายป้ายสีกันอีก!”“ข้าไม่เคยคิดที่จะก่อกบฏ แต่สำหรับคนเนรคุณอกตัญญูเช่นนั้น ข้าไม่มีทางปล่อยเอาไว้แน่!”“เสด็จอาเป็นผู้ที่มีความกตัญญูมาโดยตลอด แต่วันนี้กลับทำเรื่องที่นอกเหนือจากข
Read more

บทที่ 484

หัวใจที่โดดเดี่ยวของจิ่งโม่เยี่ยพลันไม่รู้สึกถึงความว่างเปล่าอีกต่อไป เขาพยักหน้าเบาๆ "ไม่ต้องห่วง ข้าจะกลับมาอย่างปลอดภัย และยังจะร่วมหอกับเจ้าด้วย"เขากล่าวจบก็หันหลังเดินจากไปตอนนี้เขาเดินฝ่าแสงแดด ละอองแสงเย็นกระจ่างที่ส่องกระทบลงบนตัวเขา ทำให้เขาคล้ายมีรัศมีปกคลุมรอบร่างกาย ผสมผสานจิตสังหารและความมุ่งมั่นอันเต็มเปี่ยมเฟิ่งชูอิ่งมองตามแผ่นหลังของเขาด้วยความรู้สึกเหม่อลอยเล็กน้อยปู๋เยี่ยโหวขยับมายืนอยู่ข้างนางกล่าวว่า "เฮ้อ การไปครั้งนี้ของเขา เกรงว่าคงจะอันตรายมาก""วันนี้เกิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ขึ้น ข้าว่าไม่ใช่เขาเป็นดาวหายนะหรอก แต่เป็นดวงชะตาของเขาแข็งเกินไปมากกว่า"เฟิ่งชูอิ่งเอียงศีรษะไปมองเขา ใบหน้าของเขาไม่มีท่าทางหยอกล้อเหมือนในยามปกติ ออกจะติดเย็นชาเล็กน้อยด้วยซ้ำนางกล่าวเสียงเรียบ ว่า "เขาเป็นดาวหายนะจริงหรือไม่ ข้าย่อมรู้ดีที่สุด""อย่ากล่าวว่าเขาไม่ใช่เลย ต่อให้เขาเป็นจริงๆ ข้าก็สามารถลบล้างความโชคร้ายทั้งหมดของเขา จนกลายเป็นสามีที่ดีของข้าได้"ปู๋เยี่ยโหวฟังแล้วรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาหันมองนาง เห็นว่าสีหน้าแววตาของนางเย็นชา ไม่เหมือนในยามปกตินักเขาม
Read more

บทที่ 485

แต่เรื่องของความรู้สึก หาใช่สิ่งที่นางจะควบคุมได้เสียเมื่อไหร่?นางถอนหายใจเบาๆ "ข้าคงจะหวั่นไหวกับเขาแล้วกระมัง เมื่อครู่นี้พอเห็นเขาต้องเจ็บปวดแบบนั้น ข้าก็รู้สึกเจ็บปวดตามเขาไปด้วย""แต่สติสัมปชัญญะของข้าบอกว่า ถ้ายังฝืนอยู่ตรงนี้ต่อไป ข้าจะต้องมีชีวิตลำบากไม่มีที่สิ้นสุด""ดังนั้นแม้ว่าข้าจะสงสารเขา ไม่อยากจากเขาไปสักแค่ไหน แต่ก็ต้องไปอยู่ดี"เฉี่ยวหลิงเท้าคางด้วยมือทั้งสองข้าง กล่าวว่า "ถึงข้าจะไม่เข้าใจว่าความรักคืออะไร แต่ข้าก็อ่านนิยายประโลมโลกมามาก คนที่ตกหลุมรักแล้วมักจะไม่มีเหตุผลเลย"เฟิ่งชูอิ่งยิ้มและลูบหัวนาง "พวกเขาก็เป็นพวกเขา ข้าก็เป็นข้า ข้ารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร"นางรู้ว่าตัวเองคงจะเผลอใจไปชอบจิ่งโม่เยี่ยแล้ว ในเมื่อตอนนี้ความรู้สึกของพวกเขายังไม่ลึกซึ้งนัก ก็ควรรีบตัดใจจากไปเสียถ้ารอจนวันหน้าที่นางรักเขาลึกซึ้งแล้ว อาจจะไม่กล้าตัดใจลาจากเฉี่ยวหลิงมองนางแล้วกล่าวว่า "ไม่ว่าคุณหนูจะไปหรืออยู่ ข้าจะอยู่เคียงข้างคุณหนูตลอดไป"เฟิ่งชูอิ่งถอนหายใจเบาๆ ไม่กล่าวอะไรอีกเฉี่ยวหลิงเป็นวิญญาณร้าย ไม่สามารถอยู่ในโลกมนุษย์ได้ตลอดไป ในอนาคตถ้ามีโอกาส นางก็ต้องส่งเฉี่
Read more

บทที่ 486

เฟิ่งชูอิ่งยกมือนวดขมับ ศีรษะปวดร้าวไปหมดเฉี่ยวหลิงเห็นสีหน้าซีดเซียวของนางก็กล่าวด้วยความเป็นห่วง "คุณหนู ถ้ารู้สึกไม่สบาย ก็พักผ่อนก่อนนะเจ้าคะ"เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกเหนื่อยจริงๆ สมองนางก็สับสนไปหมด ต้องพักผ่อนสักหน่อยจริงๆ นั่นแหละแต่พอเอนตัวนอนลงก็รู้สึกว่าเตียงขรุขระไม่สบายตัว นางเรียกเฉี่ยวหลิงมาเปิดผ้าปูที่นอนดู พบว่าข้างใต้เต็มไปด้วยพุทรา ถั่วลิสง และลำไยเฟิ่งชูอิ่ง “......”นางรู้ว่านี่เป็นของจำเป็นในห้องหอของคู่แต่งงานในยุคสมัยนี้ เป็นสัญลักษณ์แห่งความสิริมงคลแต่ระหว่างนางกับจิ่งโม่เยี่ย......นางสูดหายใจลึกๆ ยกมือกดระหว่างคิ้วการตายของไทเฮาวันนี้ เป็นเรื่องที่อยู่เกินความคาดหมายของนางนางรู้ว่าไทเฮาเป็นญาติคนสุดท้ายที่จิ่งโม่เยี่ยยอมรับนับถือในใจ การที่ไทเฮาถูกฆ่าตายแบบนี้ จิ่งโม่เยี่ยจะต้องเสียใจมากแน่ๆและการที่ฮ่องเต้เจาหยวนกล้าลงมือฆ่าแม้แต่ไทเฮาเพียงเพื่อกำจัดจิ่งโม่เยี่ย แสดงให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมสุดขีดและความมุ่งมั่นที่จะฆ่าจิ่งโม่เยี่ยให้ได้ดังนั้น การก่อกบฏครั้งนี้จะต้องอันตรายมาก เลือดจะต้องนองแผ่นดินแน่วันนี้ตอนที่จิ่งโม่เยี่ยมารับตัวเจ้าสาวก็ไม่ได
Read more

บทที่ 487

ดังนั้นแม้วันนี้ใจนางจะสับสนปั่นป่วน แต่นางรู้ว่านางช่วยอะไรไม่ได้มาก จึงช่วยดูแลจวนอ๋องฉู่และคอยดูแลเฟิ่งชูอิ่งแทนเฟิ่งชูอิ่งรู้ว่านางเป็นหญิงสาวที่เข้มแข็งและเฉลียวฉลาด จึงหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคำตอบจากอีกฝ่าย "ดีแล้วล่ะ"เจิ้งเนี่ยนซินจัดอาหารให้นาง ตอนนี้นางหิวพอดีจึงกินข้าวไปสองชามเต็มๆนางเพิ่งกินเสร็จ ก็ได้ยินเสียงตะโกนให้ฆ่าดังมาจากข้างนอกสีหน้าของเจิ้งเนี่ยนซินซีดลงเล็กน้อย เฟิ่งชูอิ่งกล่าวกับเฉี่ยวหลิงว่า "เจ้าไปดูทีว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก"เฉี่ยวหลิงรับคำและรีบออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วย้อนกลับมาเร็วมาก "มีคนนำทหารมาโจมตีจวนอ๋องฉู่เจ้าค่ะ"เฟิ่งชูอิ่งไม่ได้แปลกใจมากนัก จิ่งโม่เยี่ยยกพลไปก่อกบฏในวัง จวนอ๋องฉู่ย่อมต้องกลายเป็นเป้าโจมตีอยู่แล้วช่วงหลังมานี้จิ่งโม่เยี่ยปกป้องนางแทบทุกอย่าง แถมยังปักใจจะแต่งงานกับนางโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ในสายตาคนอื่น เขาต้องเห็นนางเป็นคนสำคัญแน่นอนวันนี้ทหารองครักษ์หลวงที่ฮ่องเต้เจาหยวนส่งมาก็อ้างเรื่องของนาง คงหวังจะใช้ชีวิตนางข่มขู่จิ่งโม่เยี่ยคนที่มาโจมตีวังตอนนี้ เกรงว่าจะมีความคิดเช่นเดียวกันแต่เฟิ่งชูอิ่งไม่เคยเป็นดอกไม้บอบบาง
Read more

บทที่ 488

ฉินจื๋อเจี้ยนกล่าวต่อว่า "ตามกฎระเบียบแล้ว จวนของอ๋องสามารถมีทหารรักษาจวนได้เพียงแปดร้อยนาย จวนของอ๋องฉู่มีทหารรักษาความปลอดภัยแปดร้อยนาย และองครักษ์อีกหนึ่งร้อยนาย""ดังนั้นตอนนี้ในจวนจึงมีทหารรักษาจวนทั้งหมดประมาณหกร้อยกว่านาย คนเหล่านี้ล้วนจงรักภักดีต่อจวนอ๋องอย่างยิ่ง และทุกคนล้วนถูกคัดเลือกโดยท่านอ๋อง""แม้จำนวนคนจะไม่มากนัก แต่ทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือที่สามารถสู้คนได้หนึ่งต่อสิบ""แม้คนข้างนอกจะมีจำนวนมากกว่าเรามาก แต่เราก็ยังสามารถต้านทานเอาไว้ได้"เฟิ่งชูอิ่งมองประตูวังที่กำลังโยกคลอนอย่างรุนแรง ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย "อย่างนั้นหรือ! งั้นก็ฆ่าพวกเขาให้หมดเลย!"ฉินจื๋อเจี้ยน “......”เขามองไปที่นาง นางวางมือข้างหนึ่งไว้ด้านหลัง สายตาจ้องมองไปทางประตูใหญ่ในขณะนั้น ฉินจื๋อเจี้ยนรู้สึกอย่างประหลาดว่าเฟิ่งชูอิ่งดูคล้ายกับจิ่งโม่เยี่ยมากพวกเขามีความเยือกเย็นและความสงบนิ่งเหมือนกัน เมื่อถึงเวลาที่ต้องลงมือฆ่า ก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อยเขาถามออกไปโดยไม่รู้ตัว "จะฆ่าอย่างไร?"มุมปากของเฟิ่งชูอิ่งยกขึ้นเล็กน้อย แต่แทนที่จะตอบ นางกลับถามว่า "ข้าสามารถสั่งการองครักษ์ของจวนอ๋องได้ไหม?"ฉิ
Read more

บทที่ 489

จิ่งสือเฟิงคิดว่าการพังประตูเข้าไปในจวนจะเป็นเรื่องที่ยากมากแต่เรื่องนี้กลับผิดจากความคาดหมายของเขาไปมาก เพราะประตูบานนั้นเปิดออกได้ง่ายกว่าที่คิดไว้มากจิ่งสือเฟิงเพียงแค่สั่งให้คนบุกกระแทกเข้าไปหนึ่งครั้ง ประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกแล้วจิ่งสือเฟิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ในดวงตาฉายแววดูถูกเหยียดหยาม จวนของอ๋องฉู่ก็แค่นี้เองแต่เพื่อความปลอดภัย เขาจึงไม่ได้บุกเข้าไปเอง แต่สั่งให้คนบุกเข้าไปแทนจากนั้นเขาก็ได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิตคนที่บุกเข้าไปเหล่านั้น พอเข้าไปด้านในได้ก็มีสายฟ้าหลายสายฟาดลงมาจากด้านบน เผาพวกเขาเป็นเถ้าถ่านในทันทีจิ่งสือเฟิง "!!!!!!!"นี่มันอะไรกัน?หรือว่าคนของเขาถูกสวรรค์ลงโทษ?จิ่งสือเฟิงไม่ใช่คนกล้าหาญนัก เมื่อเห็นสายฟ้าหลายสายฟาดลงมา เขาก็ตกใจจนล้มนั่งลงกับพื้นประตูใหญ่ถูกเปิดออกกว้าง เขาจึงเห็นเฟิ่งชูอิ่งที่ยืนอยู่ข้างใน ทั้งสองคนมองจ้องตากันผ่านประตูใหญ่เฟิ่งชูอิ่งไพล่มือข้างหนึ่งไว้ด้านหลัง ใช้นิ้วกระดิกเรียกเขาขณะคิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อยสีหน้าของนางแตกต่างจากท่าทางขี้ขลาดที่เขาเคยเห็นก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิงในดวงตาของนางเจ
Read more

บทที่ 490

เพียงชั่วพริบตาเดียว พื้นที่รอบๆ ก็เกิดฟ้าผ่า เพลิงไหม้ ลมพายุ พุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างบ้าคลั่งบรรดาทหารในจวนไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ทุกคนจึงตกตะลึงไปหมด!พวกเขาร้องโหยหวนด้วยความหวาดกลัว พยายามหลบหลีกการโจมตีที่เหมือนภัยธรรมชาติซึ่งตกลงมาจากฟ้า แต่ก็ไม่อาจหลบพ้นคนในยุคสมัยนี้ส่วนใหญ่มีความเชื่อเรื่องงมงายไสยศาสตร์อยู่บ้าง เมื่อเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ พวกเขาจึงคิดไปเองโดยไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังถูกสวรรค์ลงโทษหรือไม่หลังจากเหตุการณ์มหันตภัยนี้ผ่านพ้นไป แม้พวกเขาจะไม่ถึงกับตกตายกันหมด แต่ผู้ที่รอดมาได้หากอาภรณ์ไม่ถูกเผาวอดก็เปียกโชกสภาพของพวกเขาสะบักสะบอมในพริบตาเดียวทันใดนั้นก็มีองครักษ์ของจวนอ๋องฉู่ตะโกนขึ้นว่า "อ๋องฉู่ได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์ ผู้ใดรังแกหรือดูหมิ่นพระองค์ย่อมถูกสวรรค์ลงโทษ!"เมื่อคำกล่าวนี้ลอยไปเข้าหูของทหารเหล่านั้น ก็ทำให้พวกเขาตื่นตระหนกทันทีเพราะเหตุการณ์เหล่านี้ ในสายตาของพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจาฝีมือของมนุษย์นี่คือความโกรธแค้นของสวรรค์ จึงบันดาลให้เกิดสายฟ้าและลูกไฟตกลงมาจากเบื้องบนพวกเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก และคิดจะหลบหนีโดยสัญชาตญา
Read more
PREV
1
...
4748495051
...
100
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status