Share

บทที่ 490

Author: ดอกถังร่วงหล่น
เพียงชั่วพริบตาเดียว พื้นที่รอบๆ ก็เกิดฟ้าผ่า เพลิงไหม้ ลมพายุ พุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างบ้าคลั่ง

บรรดาทหารในจวนไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ทุกคนจึงตกตะลึงไปหมด!

พวกเขาร้องโหยหวนด้วยความหวาดกลัว พยายามหลบหลีกการโจมตีที่เหมือนภัยธรรมชาติซึ่งตกลงมาจากฟ้า แต่ก็ไม่อาจหลบพ้น

คนในยุคสมัยนี้ส่วนใหญ่มีความเชื่อเรื่องงมงายไสยศาสตร์อยู่บ้าง เมื่อเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ พวกเขาจึงคิดไปเองโดยไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังถูกสวรรค์ลงโทษหรือไม่

หลังจากเหตุการณ์มหันตภัยนี้ผ่านพ้นไป แม้พวกเขาจะไม่ถึงกับตกตายกันหมด แต่ผู้ที่รอดมาได้หากอาภรณ์ไม่ถูกเผาวอดก็เปียกโชก

สภาพของพวกเขาสะบักสะบอมในพริบตาเดียว

ทันใดนั้นก็มีองครักษ์ของจวนอ๋องฉู่ตะโกนขึ้นว่า "อ๋องฉู่ได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์ ผู้ใดรังแกหรือดูหมิ่นพระองค์ย่อมถูกสวรรค์ลงโทษ!"

เมื่อคำกล่าวนี้ลอยไปเข้าหูของทหารเหล่านั้น ก็ทำให้พวกเขาตื่นตระหนกทันที

เพราะเหตุการณ์เหล่านี้ ในสายตาของพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจาฝีมือของมนุษย์

นี่คือความโกรธแค้นของสวรรค์ จึงบันดาลให้เกิดสายฟ้าและลูกไฟตกลงมาจากเบื้องบน

พวกเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก และคิดจะหลบหนีโดยสัญชาตญา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 491

    เฟิ่งชูอิ่งยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย หัวคิ้วของนางยกสูงขึ้น แล้วกางนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ออก แล้วงอนิ้วที่เหลืออีกสามนิ้วในตอนนั้น จิ่งสือเฟิงได้ยินเสียงนางกล่าวคำว่า "ปัง" อย่างเลือนรางเขาไม่รู้ว่าคำนี้หมายความว่าอะไร แต่รู้ว่ามันเป็นท่าทางที่ยั่วยุท้าทายและดูอันตรายมากครั้งนี้จิ่งสือเฟิงตกใจจนปัสสาวะราดอุจจาระเล็ด สองขาอ่อนแรงจนยืนไม่อยู่โชคดีที่องครักษ์ของเขาทำงานอย่างเต็มความสามารถ แบกเขาขึ้นหลังแล้วรีบพุ่งตัวออกจากตรอกไปอย่างรวดเร็วฉินจื๋อเจี้ยนมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดจนมึนงงไปหมดเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบอกว่านางจะเป็นคนสั่งการองครักษ์ของจวนเอง เขาก็เห็นด้วยโดยไม่มีเงื่อนไข แต่หลังจากตกลง เขาก็ยังแอบรู้สึกกังวลอยู่บ้างเขารู้ว่านางเชี่ยวชาญด้านศาสตร์ลี้ลับ และมีความสามารถในการก่อเรื่องเป็นอันดับหนึ่ง แต่การบัญชาการต่อสู้ของคนหลายร้อยคนแบบนี้ นางอาจจะไม่ชำนาญนักแต่การจัดการและบัญชาการของนางวันนี้กลับคล่องแคล่วมากวันนี้นางควบคุมสั่งการคนจำนวนน้อย แม้จะไม่สามารถบ่งบอกได้ว่านางมีความสามารถทางทหาร แต่ความสามารถนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่สตรีในห้องหอจะมีกันได้เขาไม่ได้คิดว่าความผิดปกติของนาง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 492

    เฟิ่งชูอิ่งกล่าวกับเฉี่ยวหลิงว่า "เรามาทำท่าเมื่อสักครู่ซ้ำอีกครั้งเถอะ"เฉี่ยวหลิงพยักหน้า นางหยิบลูกธนูขึ้นมาและยืนอยู่ตรงหน้าเฟิ่งชูอิ่ง เฟิ่งชูอิ่งแตะลูกธนูเบาๆ แล้วเฉี่ยวหลิงก็พลิกทิศทางของลูกธนูในทันทีจากนั้นนางก็ขว้างลูกธนูออกไปอย่างแรง ลูกธนูปักเข้าไปในลำต้นของต้นไม้ข้างๆ อย่างรุนแรงฉินจื๋อเจี้ยน “......”เอาล่ะ เขาเข้าใจแล้ว!แล้วก็ได้เปิดหูเปิดตาด้วย!มันเป็นเพียงการใช้ประโยชน์จากการที่คนอื่นมองไม่เห็นเฉี่ยวหลิง แล้วใช้กลวิธีดึงดูดความสนใจทางสายตาอย่างแยบยลเฟิ่งชูอิ่งถามว่า "ท่านฉินจ๋างสื่อมีคำถามอื่นอีกไหม?"เฉี่ยวหลิงยิ้มให้เขาแล้วดวงตาของนางก็หลุดออกมาจากเบ้าตา ก่อนนางจะกดมันกลับเข้าไปอย่างใจเย็นฉินจื๋อเจี้ยน "...ไม่มีแล้วพ่ะย่ะค่ะ!"เฟิ่งชูอิ่งจึงพาเฉี่ยวหลิงกลับห้องฉินจื๋อเจี้ยนรู้ว่าเฉี่ยวหลิงไม่ใช่มนุษย์ และรู้ว่านางมักจะทำคางและลูกตาหลุดบ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่เขาเห็น เขาก็ยังรู้สึกขวัญผวาทุกครั้งไปหลังจากเฟิ่งชูอิ่งกลับห้องแล้ว เฉี่ยวหลิงกล่าวอย่างมีความสุขว่า "วันนี้คุณหนูดูยิ่งใหญ่สุดๆ ไปเลย ทำให้คนพวกนั้นตกอกตกใจกันหมด!""คุณหนูไม่รู้หรอกว่า ข้านั่ง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 493

    นางจะช่วยเขาเอาชนะคนที่มาล้อมโจมตีจวนอ๋อง และจะช่วยหากองกำลังเสริมมาให้เขาอีกกองหนึ่งนางมองดูตราพยัคฆ์ที่จิ่งสือเยี่ยนให้นางมา การลากจิ่งสือเยี่ยนเข้ามาพัวพันในเรื่องนี้อาจจะดูไม่ค่อยยุติธรรมนัก แต่เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับจิ่งสือเยี่ยนนางไม่รู้ว่าในนิยายต้นฉบับ จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยกลายเป็นศัตรูกันเพราะอะไร แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขายังดีอยู่การที่จิ่งโม่เยี่ยก่อการปฏิวัติในวังครั้งนี้ ถ้าสามารถระดมกำลังทหารกองทัพอวี๋ซานของจิ่งสือเยี่ยนมาช่วยได้ ก็เท่ากับผูกจิ่งสือเยี่ยนให้ลงเรือลำเดียวกับจิ่งโม่เยี่ยเมื่อไทเฮาสิ้นพระชนม์ จิ่งสือเยี่ยนก็จะเป็นเชื้อพระวงศ์เพียงคนเดียวในเมืองหลวงที่มีความสัมพันธ์ดีกับจิ่งโม่เยี่ย เฟิ่งชูอิ่งไม่อยากให้ทั้งสองคนนี้เป็นศัตรูกันเฉี่ยวหลิงถามนางว่า "แต่ตอนนี้จวนอ๋องฉู่ถูกล้อมแน่นหนาราวกับปราการเหล็ก คุณหนูจะออกไปได้อย่างไรเจ้าคะ?"มุมปากของเฟิ่งชูอิ่งยกขึ้นเล็กน้อย "ตอนที่ข้าสั่งการให้ทหารรักษาการณ์พวกนี้ไปจัดการจิ่งสือเฟิง จริงๆ แล้วข้ากำลังดูแผนการปฏิบัติงานของพวกเขา และมองหาจุดอ่อนในการผลัดเปลี่ยนเวรยามของพวกเขา"เฉี่ยวหลิงถ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 494

    เฟิ่งชูอิ่งสูดลมหายใจลึกๆ หยิบตราพยัคฆ์ออกมาดู แล้วเก็บใส่อกเสื้อตามความเคยชิน เตรียมตัวจะปีนข้ามกำแพงนางเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าจึงหยิบบันไดออกมาจากกำไลมิติของนาง แล้วปีนขึ้นกำแพงอย่างรวดเร็วระหว่างที่นางปีนขึ้นไปนั้น นางก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอิสรภาพตอนนี้ระหว่างนางและอิสรภาพ มีเพียงกำแพงตรงหน้าขวางกั้นเอาไว้อย่างเดียวเมื่อนางหันไปจะหยิบบันไดไปวางอีกด้าน ก็เหลือบไปเห็นจิ่งโม่เยี่ยยืนอยู่บนกำแพง จ้องมองมาที่นางอย่างเย็นชาเฟิ่งชูอิ่ง "!!!!!!"นางตกใจจนเกือบพลัดตกจากกำแพง!มือแกร่งข้างหนึ่งคว้าจับคอเสื้อของนางไว้จากนั้นก็โน้มตัวเข้ามาใกล้ กดร่างของนางไว้กับขอบกำแพงจิ่งโม่เยี่ยมองนางด้วยรอยยิ้มที่ไม่คล้ายการยิ้มและกล่าวว่า "ชายารัก เจ้าจะไปไหนหรือ?"เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำเรียกขานเช่นนี้ก็ขนลุกขนพองไปทั่วร่างวันนี้หลังจากพวกเขากราบไหว้ฟ้าดินกันเรียบร้อย ก่อนที่เขาจะแยกตัวออกไป เขาก็ไม่ได้เรียกนางเช่นนี้เสียหน่อยตอนนี้ใบหน้าของเขาปกคลุมไปด้วยความเย็นชาเหมือนมีเกล็ดน้ำแข็งเคลือบทับ ดวงตาดอกท้อแม้จะยิ้มแย้ม แต่กลับไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด เขาแผ่บรรยากาศเย็นชาจนเหมือนก้อ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 495

    หลังจากเขาได้ยินคำตอบของนางก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย "เมื่อครู่นี้ข้ามองผิดไป ตรงนี้คือทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจวน ไม่ใช่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ"เฟิ่งชูอิ่ง “......”รอยยิ้มบนใบหน้านางแข็งค้าง สายตาว่างเปล่ามองไปที่จิ่งโม่เยี่ยนางกระจ่างแจ้งเลยว่าถูกจิ่งโม่เยี่ยหลอกปั่นหัวแล้วนางสูดหายใจลึกๆ แล้วเอ่ยถามว่า "ท่านอ๋อง ท่านกำลังหยอกเย้าข้าอยู่หรือ?"จิ่งโม่เยี่ยกล่าวเสียงเย็นชา "ชายารักกำลังรู้สึกหวั่นใจหรือ?"เฟิ่งชูอิ่งไม่รู้จะตอบคำกล่าวของเขาอย่างไรพวกเขาทั้งสองคนต่างก็รู้อยู่แก่ใจ เหลือเพียงการเปิดเผยความลับที่ซ่อนเอาไว้เท่านั้นมือของเฟิ่งชูอิ่งกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว ใคร่ครวญในใจว่านางควรจะสารภาพความจริงกับอีกฝ่ายดีไหมแต่จิ่งโม่เยี่ยกลับยื่นมือเข้าไปในอกเสื้อของนาง นางตกใจมากจึงคว้ามือของเขาไว้นางรู้ว่าหากเขาเห็นตราพยัคฆ์ในอกเสื้อของนางขึ้นมา ด้วยนิสัยขี้หวาดระแวงของเขา ไม่ว่านางจะอธิบายอย่างไรก็คงจะไร้ผลนางหัวเราะเสียงหวาน "ท่านอ๋อง แม้ว่าคืนนี้จะเป็นคืนแต่งงานร่วมหอของพวกเรา แต่สถานที่นี้ไม่เหมาะสมนัก ท่านอย่าทำแบบนี้เลยเพคะ!"จิ่งโม่เยี่ยแค่นเสียงหัวเราะเย็นชา ใช้มือหยิบต

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 496

    เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเข้าใจแล้ว ไม่ว่านางจะกล่าวอะไรตอนนี้ เขาก็ไม่คิดจะเชื่อนางทั้งนั้นอีกอย่างคำกล่าวหาของเขาก็ได้เปิดเผยข้อมูลมากมาย นั่นคือเขารู้เรื่องกองทัพอวี๋ซานของจิ่งสือเยี่ยนอยู่แล้วถ้าอย่างนั้นเนื้อเรื่องในนิยาย เขาจะไม่เตรียมการป้องกันกองทัพอวี๋ซานของจิ่งสือเยี่ยนได้อย่างไร?หากจะคิดแบบนั้น ก็คงสรุปได้เพียงอย่างเดียวว่าเขาทราบทุกอย่างดี เพียงแต่ไม่คิดจะป้องกันเพราะตั้งใจจะตายอยู่แล้วนางรู้สึกสับสนและซับซ้อนจนทำอะไรไม่ถูกแล้วจิ่งโม่เยี่ยยื่นมือมาบีบคางของนาง กล่าวว่า "ทำไม? ข้ากล่าวแทงใจดำของเจ้า จนเจ้าพูดไม่ออกเลยหรือ?"เฟิ่งชูอิ่งเก็บงำความรู้สึกในแววตา กล่าวเสียงเรียบว่า "ถ้าท่านอ๋องปักใจไปแล้วว่าข้ามีความสัมพันธ์กับเขา ไม่ว่าข้าจะกล่าวอะไรท่านก็ไม่เชื่ออยู่ดี""ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้ายังจะกล่าวอะไรได้อีกล่ะ?"ดวงตาของจิ่งโม่เยี่ยแดงก่ำ วันนี้เขาดีใจมากที่ได้แต่งงานกับนาง แต่ใจของนางไม่เคยอยู่ที่เขาเลยสักครั้งเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าในใจของนางไม่มีเขาอยู่ นางยอมแต่งงานกับเขาเพราะสถานการณ์บังคับเขาคิดว่าถ้าเขาปฏิบัติต่อนางอย่างดี สักวันจะต้องทำให้นางมีใจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 497

    นางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า "ใช่ ข้าต้องไป"จิ่งโม่เยี่ยหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เสียงหัวเราะของเขาจะดังขึ้นเรื่อยๆเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาแล้วรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย จึงขยับตัวออกห่างโดยไม่รู้ตัวผ่านไปสักพัก จิ่งโม่เยี่ยก็หยุดหัวเราะ "ข้าช่างน่าสมเพชเสียจริง""ที่แท้การมอบหัวใจให้ใครสักคนแล้วถูกเหยียบย่ำจนไม่เหลือชิ้นดี มันเป็นความรู้สึกแบบนี้นี่เอง""ที่แท้ความรู้สึกของเสด็จพ่อที่ทุ่มเทให้กับพระสนมสวี่ แต่กลับไม่ได้รับความอบอุ่นกลับคืนมาสักคำ มันเป็นเช่นนี้นี่เอง""ข้าไม่ใช่เสด็จพ่อ ข้าจะไม่ยอมให้เรื่องในอดีตเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิมอีก"เฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางคลุ้มคลั่งของเขาแล้วยิ่งรู้สึกกลัว นางลองเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง "แปลว่าท่านอ๋องจะปล่อยข้าไปหรือเพคะ?""ปล่อยเจ้าไป?" จิ่งโม่เยี่ยหัวเราะลั่น "เจ้าฝันไปเถอะ!""เมื่อเจ้าแต่งงานกับข้าแล้ว ไม่ว่าเป็นหรือตาย เจ้าก็ต้องเป็นของข้า!""หากเจ้าอยากไป ก็ทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่!"กล่าวจบเขาก็คว้าตัวนางขึ้นแล้วโยนลงจากกำแพงทันทีการกระทำของเขาไม่มีความปรานีเลยแม้แต่น้อย เฟิ่งชูอิ่งไม่ทันตั้งตัวจึงร่วงกระแทกพื้นอย่างแรงตอนที่ตกลงมาก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 498

    ข้อสรุปนี้ทำให้เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว บุรุษผู้นี้อาจจะรักนางจริง แต่เขาจะไม่ยอมให้นางจากไปอย่างแน่นอนและเมื่อเขารู้ว่านางไม่ได้รักเขา ด้วยความหยิ่งทะนงของเขาและบทเรียนจากฮ่องเต้พระองค์ก่อน เขาก็จะไม่บังคับฝืนใจนางอีกเขาเป็นคนเผด็จการ ขี้หวาดระแวง และไม่ยอมให้เกิดเรื่องที่เขาควบคุมไม่ได้ความรู้สึกของเขาที่มีต่อนางเป็นสิ่งที่เขาควบคุมไม่ได้ และการที่นางหนีไปอีกครั้งก็เป็นสิ่งที่เขาควบคุมนางไม่ได้...ดังนั้นครั้งนี้นางจะต้องตายอย่างแน่นอนนางรู้มาตลอดว่านิสัยของเขามีความหมกมุ่นและบ้าคลั่ง และตอนนี้เขาก็แค่นำสองสิ่งนี้มาใช้กับนางอย่างสมบูรณ์แบบนางเข้าใจนิสัยของเขาดี ในเมื่อเขาตัดสินใจที่จะฆ่านางแล้ว เขาจะไม่มีวันใจอ่อนอีกเพราะในใจของเขา เขาถือว่านางเป็นสตรีที่เหมือนกับพระสนมสวี่ และเขาจะไม่ยอมให้เรื่องราวระหว่างฮ่องเต้พระองค์ก่อนกับพระสนมสวี่เกิดขึ้นซ้ำรอยกับเขาอีกนางไม่อยากตาย จึงต้องดิ้นรนหาทางช่วยเหลือตัวเองแต่ตอนนี้จิ่งโม่เยี่ยได้เอาข้าวของทุกอย่างบนตัวนางไปหมดแล้ว นางไม่มียันต์ ไม่มีกำไลมิติ แม้แต่ปิ่นปักผมหรือเครื่องประดับก็ไม่มีติดตัวสักชิ้นอีกทั้งเมื่อ

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status