All Chapters of ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี: Chapter 461 - Chapter 470

997 Chapters

บทที่ 461

นางอยากดูครู่หนึ่งว่าคืออะไรแต่ก็มองไม่เห็น เพราะโคลนที่กระเซ็นขึ้นมาเข้าตานางไม่น้อยพระสนมสวี่รู้สึกคลื่นไส้ยิ่งนัก!ด้านข้างมีเสียงหัวเราะของหญิงสาวดังขึ้น “คุณหนู ข้าโยนโดนแล้วเจ้าค่ะ!”เสียงของเฟิ่งชูอิ่งดังขึ้น “เฉี่ยวหลิงเก่งจริงๆ!”พระสนมสวี่ร้องเรียก “ใครก็ได้ ใครก็ได้มานี่เร็วเข้า!”นางกำนัลที่มากับนางตะคอกด้วยความโมโห “พวกเจ้าช่างใจกล้าจริงๆ ถึงกล้าเสียมารยาทกับพระสนมสวี่!”เฟิ่งชูอิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม “อ้าว พระสนมสวี่นี่เอง ขอประทานอภัยเพคะ!”นางกล่าวคำขอโทษ แต่กลับหันไปพูดกับเฉี่ยวหลิง “โคลนเมื่อครู่เจ้าได้เติมมูลลงไปหรือไม่?”เฉี่ยวหลิงพูดด้วยความภาคภูมิใจ “แน่นอนว่าย่อมใส่ลงไปแล้ว!”พูดจบนางยังกระซิบให้เฟิ่งชูอิ่งฟังเสียงเบา “แต่ว่าคุณหนูเจ้าคะ เรื่องนี้ไม่อาจให้เสนาบดีฉินรู้นะเจ้าคะ หากท่านรู้เข้าต้องดุข้าแน่!”ตั้งแต่เฟิ่งชูอิ่งพาเฉี่ยวหลิงเข้าจวนอ๋องฉู่ แม้ไม่อาจบอกว่าสองนายบ่าวเป็นใหญ่ในจวน แต่ก็ไม่เคยหยุดนิ่งแรกเริ่มฉินจื๋อเจี้ยนรู้สึกว่าหลังจากพวกนางย้ายเข้ามา ทำให้จวนมีชีวิตชีวามากขึ้นแต่เมื่อสร้างปัญหาหลายครั้ง เขาก็เริ่มปวดหัวเขาไม่อาจตำหนิเฟิ่งชูอิ
Read more

บทที่ 462

แววตาของเฟิ่งชูอิ่งเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อพระสนมสวี่กล่าวว่าดีแล้ว เฉี่ยวหลิง เจ้ายังยืนเซ่ออยู่ทำไม?”เฉี่ยวหลิงไม่เกรงใจแม้แต่น้อย นางเทน้ำเน่าราดพระสนมสสวี่ตั้งแต่หัวจรดเท้าพระสนมสวี่ “...!!!”นางตะลึงงัน!เพราะเฉี่ยวหลิงราดอย่างมีทักษะ น้ำเน่าเหล่านั้นจึงเข้าจมูกพระสนมกลิ่นนั้นไม่อาจใช้คำว่า ‘เน่าเสีย’ มาบรรยายได้นางกำนัลที่ยืนอยู่ข้างพระสนมสวี่ก็ไม่อาจรอดพ้น น้ำเน่ากระเซ็นโดนไปทั่วเนื้อตัว ทั้งยังมีเศษผักติดไปด้วยเฟิ่งชูอิ่งพูดด้วยสีหน้าตกตะลึง “เหตุใดจึงเป็นน้ำเน่า?”เฉี่ยวหลิงตอบ “หม่อมฉันตักมาผิด จะไปตักน้ำมาใหม่เพคะ”พูดจบนางก็รีบวิ่งไปอย่างรวดเร็วเฟิ่งชูอิ่งพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “พระสนมสวี่ ขอประทานอภัยจริงๆ เพคะ”“นางไม่เคยเปิดโลกกว้าง เมื่อเจอพระสนมจึงตื่นเต้นมากไปหน่อย ตักน้ำมาผิด พระสนมรอครู่หนึ่งนะเพคะ”“พระสนมวางใจได้เพคะ หม่อมฉันจะให้นางล้างตัวพระสนมจนสะอาดสะอ้านแน่นอนเพคะ”เวลานี้พระสนมสวี่สำลักจนตะลึงงันไปแล้ว นางสูงศักดิ์มาโดยตลอด ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งตนจะถูกกระทำเช่นนี้นางโมโหจนมือสั่นเทา ชี้หน้าเฟิ่งชูอิ่ง “เจ้าช่างใจกล้ายิ่งนัก!”เฟิ่งชู
Read more

บทที่ 463

“เจ้าดูสาวใช้ของเฟิ่งชูอิ่ง แล้วมองตัวเองสิ!”นางยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห ยกเท้าเตะนางกำนัลสองทีแม้บริเวณรอบๆ จวนอ๋องฉู่ไม่มีคนมากนัก แต่ก็มีบ้านใกล้เรือนเคียงมีคนเปิดประตูออกมาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พระสนมสวี่ไม่อาจขายหน้าได้ รีบวิ่งขึ้นรถม้าของตนเองกลิ่นบนตัวพระสนมฉุนยิ่งนัก แทบจะทำให้นางอาเจียน!การมาในวันนี้เทียบกับครั้งก่อนแล้ว นางน่าเวทนากว่ามากนางกำนัลเป็นคนที่ฮ่องเต้เจาหยวนส่งมาดูแลรับใช้พระสนมสวี่ วันนี้นางถูกพระสนมสวี่ทุบตีเช่นนี้ โมโหมากเช่นเดียวกันนางรู้สึกว่าพระสนมสวี่ไม่เอาไหนจริงๆ เรื่องเล็กแค่นี้ก็ทำได้ไม่ดี!เพียงเพราะฮ่องเต้เจาหยวนมอบหมายภารกิจให้กับนาง นางจึงต้องคอยประจบพระสนมสวี่ต่อแผลไฟไหม้บนพระพักตร์ของพระสนมสวี่ หลังจากใช้ยาปรุงพิเศษของราชครูแล้วก็ดีขึ้นมากพระสนมสวี่เป็นคนรักสวยรักงาม วันนี้ตอนมานางสวมผมปลอม ใช้ผ้าคลุมพระพักตร์ จึงยังคงมีสง่าแต่วันนี้หลังจากถูกเฉ่ยวหลิงทั้งใช้น้ำเน่า ใช้สิ่งปฏิกูลสาด จนสะเก็ดแผลบนใบหน้าหลุดลอก เวลานี้บาดแผลมีแนวโน้มติดเชื้อ ปวดแสบปวดร้อนมากเวลานี้ผมปลอมของพระสนมสวี่ยุ่งเหยิง ผ้าคลุมหน้าตกหล่น ตัวพระสนมราวกับลูกสุนั
Read more

บทที่ 464

เฟิ่งชูอิ่งเบ้ปากเล็กน้อย เจ้าหมอนี่พยายามมีตัวตนจริงๆนางถามเขา “ท่านโหวมาได้อย่างไร?”ปู๋เยี่ยโหวพูดด้วยความทะนง “จวนอ๋องฉู่ไม่ใช่ว่าคิดอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”เฟิ่งชูอิ่งมองเขาครู่หนึ่ง “เมื่อครู่ข้าทำนายดวงชะตาให้ท่านโหว วันนี้ท่านโหวจะประสบหายนะเลือดตกยางออกได้”ปู๋เยี่ยโหวสะบัดพัด “ข้าคือปู๋เยี่ยโหว ผู้ใดกล้าทำให้ข้าเลือดตกยางออก?”เขายังพูดไม่จบ ก็เห็นจิ่งโม่เยี่ยเดินมาเขานึกถึงคำพูดของเฟิ่งชูอิ่ง หมุนกายหันหลังเดินจากไปเฉี่ยวหลิงยกเท้าขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาล้มลงบนพื้นทันทีช่างบังเอิญยิ่งนัก ครั้งนี้หกล้มกระแทกจมูกอีกแล้วจมูกของเขาที่เพิ่งดีขึ้น เริ่มมีเลือดไหลออกมาอีกแล้วเฟิ่งชูอิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม “จุ๊ๆ ทำนายแม่นยำเร็วจริงๆ ท่านโหว ท่านรีบร้อนเกินไปแล้วกระมัง”ปู๋เยี่ยโหว “...”เขาลูบจมูกของตนเอง มือเต็มไปด้วยเลือด รู้สึกอับอายขายหน้ายิ่งนักเขาถลึงตามองเฉี่ยวหลิงครู่หนึ่ง เฉี่ยวหลิงหมุนกำปั้น “ท่านโหว ข้ายินดีประลองกับท่านเสมอ”ปู๋เยี่ยโหว “...”เขาหัวเราะในลำคอ ลุกขึ้นแล้วเดินด้วยตนเองเฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ เจ้าหมอนี่สุดยอดจริงๆจิ่งโม่เยี่ย
Read more

บทที่ 465

เฟิ่งชูอิ่ง “...”หลางซานติดตามไปด้วย ทำให้นางไม่สะดวกที่จะทำหลายๆ เรื่องแต่หากเวลานี้นางแสดงท่าทีไม่ยินยอม เกรงว่าจะทำให้จิ่งโม่เยี่ยสงสัยด้วยเหตุนี้นางจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “ได้สิ ขอบคุณท่านอ๋องเจ้าค่ะ! มีหลางซางอยู่ด้วย ข้าอยู่ในจวนสกุลหลิน จะได้สามารถทำทุกอย่างตามอำเภอใจได้”จิ่งโม่เยี่ยมองใบหน้าของหญิงสาวที่ไม่มีความน่าสงสัยแม้แต่น้อย ชั่วขณะหนึ่งเขาไม่แน่ใจว่าตนเดาถูกหรือไม่แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เขารู้สึกว่าต้องระมัดระวังตัวสักหน่อยด้วยเหตุนี้เขาจึงยกยิ้มมุมปาก “มีข้าอยู่ เจ้าทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจอยู่แล้ว”เฟิ่งชูอิ่งยิ้ม เก็บข้าวของครู่หนึ่งก็กลับจวนสกุลหลินตอนนางเดินไปถึงหน้าจวนสกุลหลิน คนเฝ้าประตูเห็นนางราวกับเห็นผี ตกใจจนตัวสั่น “คุณหนูต่างสกุลกลับมาได้อย่างไรขอรับ?”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มตาหยีแล้วพูด “ที่นี่เป็นบ้านของข้า เหตุใดข้าจึงกลับมาไม่ได้?”พูดจบนางก็เดินเข้าไปคนเฝ้าประตูเคยพบเห็นความร้ายกาจของนางแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเวลานี้ข้างกายของนางมีหลางซางที่มองปราดหนึ่งก็รู้ว่าไม่อาจมีปัญหาด้วยได้ คนเฝ้าประตูไม่กล้าขวางแม้แต่น้อยเขาทำได้เพียง
Read more

บทที่ 466

หลินชูเจิ้ง “...!”การสนทนาระหว่างพวกเขาได้เปลี่ยนไปแล้วในตอนนี้เขากดเสียงต่ำ กล่าวว่า “ในจวนคงเอาของมากมายขนาดนี้ออกมาไม่ได้กระมัง?”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มอย่างเย็นชา “ท่านลุงยังคงร้องไห้ได้น่าเวทนาเหมือนเคย แต่เหตุใดข้าต้องเห็นใจท่าน?”“สิบปีผ่านไป ท่านลุงก็ยังคงใช้กิจการของท่านพ่อท่านแม่ข้าสร้างความสัมพันธ์อันดีกับทุกคน รับตำแหน่งขุนนาง กลายเป็นรองเจ้ากรมขุนนางขั้นสาม”“คฤหาสน์หลังนี้ ก็เป็นเงินที่พ่อแม่ของข้าซื้อไว้ให้ข้า ค่าใช้จ่ายภายในเรือนส่วนใหญ่ก็เป็นเงินของข้า”“หรือจะให้ข้าคำนวณแบบละเอียด เอาส่วนนี้เขียนรวมเข้าไปกับคฤหาสน์หลังนี้ด้วย?”เมื่อหลินชูเจิ้งได้ยินเช่นนี้ก็สะอึกไปครู่หนึ่ง เขาหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าแต่งงานกับอ๋องฉู่ น้าจะทำให้เจ้าขายหน้าไม่ได้”“เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ นอกจากรายการที่เจ้าระบุเอาไว้ ข้าจะยกเครื่องประดับหยกให้เจ้าหนึ่งชุดเป็นสินเดิมด้วย”คิ้วของเฟิ่งชูอิ่งขมวด “ท่านลุงช่างรู้สถานการณ์ปัจจุบันดีเสียจริง อยากจะจัดการท่านก็ยังหาข้ออ้างไม่ได้”หลินชูเจิ้ง “...”สีหน้าของเขาดูกระอักกระอ่วนเฟิ่งชูอิ่งกล่าวเสริมว่า “ที่ข้ากลับมาครั้งนี้ นอกจา
Read more

บทที่ 467

หลินชูเจิ้งพยักหน้า “นิสัยของแม่เจ้าบางครั้งก็หยิ่งยโส บางครั้งก็ขี้อาย นางเก่งเรื่องการทำนาย นางไม่ได้รู้จักกับพ่อของเจ้ามาก่อน”เมื่อเขากล่าวมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ “ทั้งที่ข้ารู้จักนางก่อน พ่อของเจ้ามีท่าทีเย็นชา ไม่สนใจที่จะรักนางตอบด้วยซ้ำ”“ข้าไม่เข้าใจ ข้ามอบทั้งหัวใจให้นาง เหตุใดสายตาของนางถึงมองไม่เห็นข้า ในสายตาของนางมีเพียงพ่อของเจ้าเท่านั้น”ดวงตาของเฟิ่งชูอิ่งสั่นไหว “ท่านบอกว่าพ่อของข้าเป็นคนเย็นชาอย่างนั้นหรือ?”หลินชูเจิ้งพยักหน้า “ใช่ เขาเหมือนกับก้อนน้ำแข็ง ไม่สนใจใครเลยสักคน”“แต่ทักษะของพ่อเจ้าแข็งแกร่งมาก ในปีนั้นเกิดภัยแล้งที่แคว้นซีฉู่ ฝนไม่ตกเป็นเวลานาน ทุ่งนาแห้งเหือด พืชพันธุ์เหี่ยวเฉาแห้งตาย”“แม่ของเจ้าพาคนอื่นๆ จัดแท่นบูชาขอฝน แต่ผลที่ได้กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น”“พ่อของเจ้าพาราชครูอีกหลายคนเดินทางมาที่ซีฉู่ เขาจัดตั้งค่ายกลขึ้นมา เพียงเวลาไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น ท้องฟ้าก็ปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำที่หนาแน่น จากนั้นฝนก็เริ่มตก”“หากไม่ใช่เพราะฝนตกครานั้น แคว้นซีฉู่เกรงว่าคงล่มสลายไปแล้ว”เฟิ่งชูอิ่ง “...”แม้นางอยากรู้เรื่องพ่อแม่ของตัวเอง แต่นางไม่
Read more

บทที่ 468

เขาพูดพลางทอดถอนใจว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับแม่ของเจ้า เดิมทีก็ไม่เข้ากับโลกใบนี้”“พ่อของเจ้าคืออัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับจากสำนักลี้ลับ วิถีเต๋าของเขาเป็นเลิศ เขาคือความหวังของสำนักลี้ลับ” “สำนักลี้ลับเป็นสำนักที่ฝึกฝนวิถีเต๋า ในสำนักมีข้อห้ามว่าห้ามแต่งงาน ข้าได้ยินมาว่าเขาถูกกักบริเวณหลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายในแคว้นซีฉู่ในปีนั้น”“จากนั้นเจ้าสำนักลี้ลับก็ป่วยตาย พ่อของเจ้าจึงรับช่วงสำนักลี้ลับต่อ”เฟิ่งชูอิ่งถามอย่างสงสัย “ในเมื่อพ่อแม่ของข้าไม่เคยอยู่ด้วยกัน แล้วท่านมั่นใจได้อย่างไรว่าข้าเป็นลูกสาวของพวกเขา?”หลินชูเจิ้งตอบว่า “ตอนนั้นที่ข้าบังเอิญเห็นเจ้า บนตัวเจ้ามีป้ายประจำตัว บนนั้นก็มีวันเดือนปีเกิดของเจ้า”“พอข้าคำนวณเวลาแล้ว แม่ของเจ้าตั้งท้องเจ้าก่อนที่นางจะถูกเผา”เมื่อเขาพูดจบแล้วก็มองไปที่นางแล้วทอดถอนใจประโยคหนึ่ง “เจ้าหน้าตาคล้ายแม่ของเจ้ามาก”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินเขาพูดเช่นนั้น แววตาก็พลันมืดมน ตามทฤษฎีนี้แล้ว พ่อของนางน่าจะเป็นเจ้าสำนักลี้ลับเพียงแต่ว่าการฝึกฝนของสำนักลี้ลับเป็นวิถีไร้ความปรานี แต่ก็ยังสามารถสั่นไหวหัวใจของแม่นางได้หรือ?หลายปีนั้นที
Read more

บทที่ 469

นางปฏิเสธความเป็นไปได้ที่สองนี้แทบจะในทันที เพราะหากแม่ของนางไม่รักนาง ก็คงไม่ให้เงินนางมากมายเช่นนี้ รวมไปถึงสมบัติต่างๆ เช่นนั้นก็เหลือความเป็นไปได้แรกเท่านั้น แม่ของนางสูญเสียความสามารถในการทำนายไปด้วยเหตุผลบางอย่างนางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามต่อ “นักพรตผู้นั้นก็คือคนที่ลบความทรงจำของข้าหรือ?”หลินชูเจิ้งพยักหน้า “เป็นเขา”เฟิ่งชูอิ่งสูดหายใจเข้าลึกๆ ในใจแอบสาปแช่งนักพรตสารเลวผู้นั้นท่านแม่ของนางฝากนางไว้กับนักพรตผู้นั้น นักพรตผู้นั้นควรจะเป็นคนที่นางเชื่อใจมากแต่เขาไม่เพียงแต่โยนนางไปให้หลินชูเจิ้งอย่างลวกๆ แต่ยังลบความทรงจำของนาง ตั้งค่ายกล ให้นางเป็นวัตถุดิบบำรุงจวนสกุลหลินที่นางสามารถข้ามภพมาได้ ก็เพราะว่าเจ้าของร่างเดิมถูกพวกเขาทรมานจนตาย นางพูดอย่างเย็นชา “บอกรูปพรรณสัณฐานของเขามาให้ข้าหน่อยสิ หากข้าพบเขา ข้าจะฆ่าเขาทิ้งแน่นอน!”หลินชูเจิ้งเห็นสีหน้าอาฆาตแค้นของนาง ก็รีบอธิบายรูปพรรณสัณฐานของนักพรตผู้นั้นทันทีเพียงแต่รูปร่างหน้าตาของนักพรตผู้นั้นธรรมดามาก แทบไม่มีจุดเด่นพอให้จำ หลินชูเจิ้งพูดก็เหมือนไม่ได้พูดเขาเห็นใบหน้าของเฟิ่งชูอิ่งมืดมนลงเรื่อยๆ ตัวเขาก็ห
Read more

บทที่ 470

หัวซื่อที่ปากยังมอมแมมจ้องมองไปที่หลางซานด้วยความตะลึง ตกใจจนฉี่ราด แม้แต่กรีดร้องก็ยังลืมเขากล่าวเสียงเย็นชา “หากแตะต้องพระชายาของพวกเรา คราวนี้แค่โกนผม ครั้งหน้าข้าตัดหัวเจ้าแน่”เมื่อเขาพูดจบ ก็เดินตามหลังเฟิ่งชูอิ่งไปเฟิ่งชูอิ่งมองไปที่หัวซื่อที่ถูกโกนผม จากนั้นก็มองไปที่หลางซานที่มีแววตาเย็นชา มุมปากของนางพลันกระตุกทันทีความทรงจำที่นางมีต่อหลางซานก่อนหน้านี้คือองครักษ์เย็นชาเลือดเหล็ก ตอนนี้พอมาดูแล้ว เขาก็ไม่ได้เย็นชาขนาดนั้นนางยกนิ้วโป้งให้หลางซาน จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไปเมื่อพวกเขาหันหลังกลับ เสียงกรีดร้องของหัวซื่อก็ดังขึ้นไปบนท้องฟ้าทะลุจวนสกุลหลินหลินชูเจิ้งอยู่ใกล้มาก เขารู้สึกเหมือนแก้วหูจะแตกเขาพูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “เจ้าเป็นของที่ทั้งสกปรกทั้งต่ำตม ไม่รู้จักตระหนักในตัวเอง ทำงานได้โง่เขลาที่สุด ไสหัวกลับไปเดี๋ยวนี้!”เมื่อเขาพูดจบแล้วก็อยากจะเอื้อมมือปิดปากของตัวเองยันต์ที่เฟิ่งชูอิ่งติดไว้บนตัวเขายังมีผลอยู่ แม้ว่าเขาจะรังเกียจหัวซื่อมากและไม่มีทางไปนอนกับนางอีก แต่สุดท้ายแล้วนางก็ยังเป็นภรรยาเอกของเขาต่อหน้าคนนอกและบ่าวรับใช้ ปกติแล้วเขาจะให้ความเ
Read more
PREV
1
...
4546474849
...
100
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status