บททั้งหมดของ ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี: บทที่ 441 - บทที่ 450

997

บทที่ 441

นางตอบกลับด้วยรอยยิ้มบางๆในสายตาของราชครู รอยยิ้มบางๆ นี้ ก็คือนางจะไม่ยุ่งเรื่องนี้เจตนายิ้มที่อยู่ในดวงตาราชครูชัดเจนขึ้นหลายส่วน ทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยความดูถูกที่มีต่อเฟิ่งชูอิ่งแม้นางเป็นตัวประหลาดเฒ่าที่อยู่มาเป็นร้อยเป็นพันปี ปัจจุบันก็ยังถูกเขาหลอกจนหัวหมุนรองเจ้าราชทัณฑ์ให้คนหยุดเลือดให้เขาไปพลาง กล่าวกับราชครูที่อยู่ข้างๆ ไปพลาง “ท่านราชครูมาพอดี ไม่ทราบว่าราชครูมีวิธีอะไรที่สามารถหาตัวคนร้ายได้”เวลานี้ราชครูได้วางมาดเป็นผู้วิเศษอีกครั้ง กล่าวหลังจากสะบัดแส้นักพรตเบาๆ ทีหนึ่ง “เรื่องนี้ง่ายมาก แค่อัญเชิญดวงวิญญาณขององค์ชายหนานเยว่มา”“เขาถูกใครฆ่า ก็รู้ในทันทีแล้ว”รองเจ้าราชทัณฑ์กล่าวด้วยสีหน้าปลื้มปีติ “หากสามารถอัญเชิญดวงวิญญาณขององค์ชายหนานเยว่มาได้ ให้เขาชี้ตัวคนร้ายด้วยตัวเอง นั่นย่อมดีที่สุดแล้ว!”“เพียงแต่เรื่องนี้คนทั่วไปไม่อาจทำได้ ท่านราชครูโปรดลงมือด้วย”ราชครูกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “วันนี้ข้ามาก็เพราะเรื่องนี้”เขาพูดถึงตรงนี้ก็เหลือบมองจิ่งโม่เยี่ยแวบหนึ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ข้าได้ยินเรื่ององค์ชายหนานเยว่ถูกฆ่า กรมราชทัณฑ์ยังไม่สามารถสร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 442

หลังจากราชครูอัญเชิญดวงวิญญาณของพานเหรินซิ่นมา เขาก็เอ่ยถาม “องค์ชายใหญ่ ท่านรู้หรือไม่ว่าใครฆ่าท่าน?”เวลานี้เขามั่นใจมาก เพื่อเรื่องของวันนี้ เขาได้เตรียมการไว้มากมายเขาได้วางกลอุบายที่เกี่ยวโยงกันให้วิญญาณของพานเหรินซิ่น ทำให้พานเหรินซิ่นคิดว่าตัวเองถูกจิ่งโม่เยี่ยฆ่าเรื่องเช่นนี้ เขาทำได้ชำนาญมากทุกคนที่ได้รับการเปิดตาทิพย์ล้วนมองเห็นพานเหรินซิ่นแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่เพิ่งเคยเห็นร่างวิญญาณครั้งแรก แต่ละคนกลัวจนก้าวถอยหลังราชครูเห็นภาพนี้คิดว่าเป็นเรื่องที่ปกติมาก เพราะเมื่อครู่เขาเพิ่งปล่อยกลิ่นอายของวิญญาณร้ายออกมา ทำให้บรรยากาศของที่นี่วังเวงมากตอนที่พานเหรินซิ่นมาถึง เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาไม่ค่อยแน่ใจว่าเพราะเหตุใดตัวเองจึงมาปรากฏตัวที่นี่และทันทีที่เขามองเห็นราชครู ร่างวิญญาณก็ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นราชครูกล่าวอย่างภาคภูมิใจเล็กน้อย “ท่านบอกข้ามา ใครเป็นคนฆ่าท่าน?”“ขอแค่ท่านบอกความจริงกับข้า ข้าก็สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมให้ท่าน”เขาไม่เคยเห็นร่างวิญญาณอยู่ในสายตา ร่างวิญญาณที่คนทั่วไปกลัว ในสายตาของเขา เป็นแค่ของเล่นก็เท่านั้นดังนั้น น้ำเสียงที่เขาพูดในเวลานี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 443

ราชครูซัดฝ่ามือใส่ร่างของพานเหรินซิ่น สะกดกลิ่นอายของเขาลงพานเหรินซิ่นกรีดร้องอย่างเจ็บปวดทีหนึ่ง เขากล่าวอย่างโกรธแค้น “เจ้าเป็นถึงราชครู ไม่คู่ควรเป็นมนุษย์!”“แรกเริ่มที่ข้าเข้าเมืองหลวง เจ้าเป็นคนมาหาข้า ให้ข้าร่วมมือกับแผนการของเจ้า ให้ฆ่าจิ่งโม่เยี่ยในนามของการประลอง”“ข้าอุตส่าห์คิดว่าเจ้าเป็นพรรคพวกที่ไม่เลวคนหนึ่ง กลับคิดไม่ถึงว่าเจ้ามันเป็นปีศาจ!”“เจ้าฆ่าข้าด้วยวิธีที่อัปยศอดสูเช่นนั้นก็ช่างเถอะ ข้าตายแล้วก็ยังไม่คิดจะละเว้นข้า เจ้ามันเป็นปีศาจชัดๆ!”ทุกคนได้ยินคำพูดเหล่านี้ การแสดงออกซับซ้อนเล็กน้อยรองเจ้าราชทัณฑ์กระอักกระอ่วนจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน และยังด่าทอในใจว่าราชครูเป็นคนโง่เขลา!เขาไม่เคยเห็นใครโง่เขลาเช่นนี้มาก่อน คิดมุ่งร้ายผู้อื่น แต่ผลลัพธ์กลับมาตกที่ตัวเองจิ่งโม่เยี่ยหันไปมองทางเฟิ่งชูอิ่ง นางเลิกคิ้วเบาๆ ทีหนึ่ง บ่งบอกให้เขาใจเย็นๆ ดูละครไปเรื่อยๆ ก็พอความสนใจของราชครูในเวลานี้ถูกพานเหรินซิ่นดึงดูดไปหมดแล้ว แม้เขารู้สึกได้ว่าบรรยากาศโดยรอบผิดปกติ กลับไม่ได้คิดมากในใจเขาเกลียดชังแทบตาย แต่ใบหน้ากลับสงบนิ่งมากเขาหยิบแส้นักพรตขึ้นมาสะบัดเบา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 444

เรื่องนี้ทำให้เขาตกใจมาก เขาหันไปมอง ทุกคนกำลังใช้สายตาที่แปลกประหลาดมองเขาสีหน้าของราชครูน่าเกลียด ยืนยันกับรองเจ้าราชทัณฑ์ว่า “พวกท่านสามารถมองเห็นตั้งแต่เมื่อไร?”รองเจ้าราชทัณฑ์ตอบ “พวกเราเห็นตั้งแต่ตอนที่องค์ชายหนานเยว่ปรากฏตัวแล้ว”ราชครู “...!”นี่ก็หมายความว่าบทสนทนาระหว่างเขากับพานเหรินซิ่น รวมถึงเรื่องที่เขาทำกับพานเหรินซิ่น อยู่ในสายตาของทุกคนต่อให้ราชครูหน้าด้านเพียงใด เวลานี้ก็เริ่มไม่ไหวแล้วสีหน้าของเขาบูดบึ้งมาก หันไปมองทางเฟิ่งชูอิ่ง นางมองเขาอย่างไร้เดียงสาจิ่งโม่เยี่ยหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วกล่าว “โจรตะโกนจับโจร ซ้ำยังตะโกนต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ วันนี้ข้าได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ”ราชครูไม่ได้สนใจเขา แค่เอาแต่จ้องเฟิ่งชูอิ่งเขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้านาง กล่าวอย่างเย็นชา “เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่?”เฟิ่งชูอิ่งถอนหายใจเบาๆ หนึ่งที “ข้าเป็นคนเปิดตาทิพย์ให้พวกเขาเอง”“เมื่อครู่ท่านพูดอย่างมั่นใจเช่นนั้น ข้าย่อมต้องให้พวกเขาเห็นความสามารถของท่านในทันที”“ใครจะรู้ว่าท่านจะไม่สามารถจัดการแม้แต่ร่างวิญญาณของพานเหรินซิ่นได้ แถมยังปล่อยให้เขารู้ว่าคนร้ายก็คือท่าน”“ร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 445

เสื้อเกราะของปู๋เยี่ยโหวอาบยาพิษ!เขากล่าวอย่างโกรธแค้น “นี่ท่านโหวทำอะไร?”ปู๋เยี่ยโหวยังไม่ทันได้ตอบ ราชครูก็รู้สึกว่ามีของเย็นบางอย่างแทงทะลุจากแผ่นหลังเข้าไปที่หัวใจของเขาเมื่อเขาหันกลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าอันเยือกเย็นของจิ่งโม่เยี่ยจิ่งโม่เยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ปรักปรำข้า โยนความผิดให้ข้า นี่คือโทษตาย ข้าอนุญาตให้เจ้าไปตั้งแต่เมื่อไร?”รองเจ้าราชทัณฑ์ “...”รองเจ้าราชทัณฑ์ “...!!!”วันนี้เป็นวันที่พิเศษที่สุดวันหนึ่งตั้งแต่เขาเคยพิจารณาคดี แล้วก็เป็นวันที่มืดมนที่สุดด้วยเช่นกันเขารู้สึกว่าตัวเองดวงซวยสุดๆ ถึงมาเจอเรื่องเช่นนี้เขาตะโกนเสียงแข็ง “ท่านอ๋อง ท่านโหว หยุดเดี๋ยวนี้!”เพียงแต่ไม่ว่าจะเป็นจิ่งโม่เยี่ยหรือปู๋เยี่ยโหว ล้วนไม่มีใครสนใจเขารองเจ้าราชทัณฑ์แทบเป็นบ้าแล้ว แสร้งศีรษะทิ่มพื้นเป็นลมยังดีเสียกว่าต่อให้ราชครูจะร้ายกาจเพียงใด ข้างหน้าถูกมีดแทน ข้างหลังถูกกระบี่แทง ล้วนแทงเข้าที่จุดตายและยังถูกพิษอีก ต้องตายอย่างไร้ข้อกังขาเขายังอยากพูดอะไรบางอย่าง เมื่ออ้าปากก็มีเลือดกระอักออกมากองใหญ่ดวงตาของเขาเบิกกว้าง จ้องตรงไปทางปู๋เยี่ยโหวปู๋เยี่ยโหวกล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 446

เมื่อเล็บอันแหลมคมของราชครูกำลังจะกรีดโดนหน้าอกจิ่งโม่เยี่ย แสงสีทองสายหนึ่งวาบผ่าน ดีดเขาออกทันทีเขาเข้าใจในทันทีว่าบนตัวของจิ่งโม่เยี่ยมียันต์ที่เฟิ่งชูอิ่งวาดให้ จึงเปลี่ยนเป้าหมายทันที เล็งตรงไปที่ปู๋เยี่ยโหวเพียงแต่เขาเพิ่งเข้าใกล้ปู๋เยี่ยโหว ก็ถูกดีดจนลอยกระเด็นออกไปเช่นเดียวกันในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจปู๋เยี่ยโหวยิ้มเล็กน้อย “ข้าชอบดูเจ้าทำหน้าโง่ๆ ด้วยความตกใจยิ่งนัก!”เขาพูดจบก็ฟันกระบี่ใส่ราชครูเพียงแต่ราชครูกลายเป็นร่างวิญญาณแล้ว กระบี่ของเขาจึงไม่สามารถทำร้ายราชครูได้ราชครูเห็นสถานการณ์ผิดปกติ เตรียมหมุนกายหนีไปทันทีเพียงแต่เขาเพิ่งหมุนกาย ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่าสยดสยองเมื่อเขาตั้งสมาธิ ก็เห็นเฟิ่งชูอิ่งขวางทางไปของเขาไว้ด้วยท่าทางเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มเวลานี้แม่นยำจนน่ากลัว เหตุผลที่นางแม่นยำเช่นนี้ เพราะนางได้ช่วยเขาทำนายทิศทางนี้เป็นทางเดียวที่เขาสามารถหนีรอดราชครูยังค้นพบอีกหนึ่งเรื่อง หากมองนางในฐานะมนุษย์ นางฉลาดหลักแหลมและอ่อนโยน แต่หากมองเฟิ่งชูอิ่งในมุมของวิญญาณแรง บนตัวนางมีกลิ่นอายที่น่ากลัวแฝงอยู่กลิ่นอายเช่นนี้เกิดจากภายในสู่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 447

และในระหว่างการต่อสู้เมื่อครู่ เฟิ่งชูอิ่งได้ติดยันต์ไว้ในทุกทิศทางของกรมราชทัณฑ์เต็มไปหมด ราชครูไม่มีทางให้หนีแล้วเฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างเย็นชา “ไปตายซะเถอะ!”นางพูดจบก็หยิบยันต์กำหนึ่งขว้างใส่ราชครู ปิดทางถอยทั้งหมดของเขาสายตาที่ราชครูมองนางแทบลุกเป็นไฟ ในระหว่างการต่อสู้เมื่อครู่ ราชครูที่เป็นร่างวิญญาณได้รับบาดเจ็บหนักพอสมควรราชครูเห็นยันต์ที่พุ่งมาจากทุกสารทิศทาง ก็มุดเข้าไปในดินโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงเพียงแต่ชั่วพริบตาก่อนที่เขาจะมุดลงดิน เขาไม่สามารถหนีพ้นยันต์เหล่านั้นได้ ยันต์ปัญจอสนีแผ่นหนึ่งถูกกระตุ้นให้ทำงานแล้ว ยันต์แผ่นนั้นตกลงมา เพียงแค่พริบตาเดียว ก็ผ่าร่างวิญญาณของเขาขาดครึ่งท่อนเขาส่งเสียงกรีดร้องที่แสบแก้วหู แล้วหายไปต่อหน้าทุกคนเฟิ่งชูอิ่งตะลึงงันไปครู่หนึ่ง นางเพิ่งจะนึกขึ้นได้เรื่องหนึ่ง ร่างวิญญาณสามารถมุดเข้าไปในดินโดยทั่วไปแล้วพวกมันก็เคลื่อนไหวใต้ดิน เพียงแต่เฉี่ยวหลิงไม่เคยมุดเข้าไปในดิน ราชครูก็เพิ่งตาย ชั่วขณะนางมองข้ามเรื่องที่เขาสามารถมุดดินหนีเมื่อเฉี่ยวหลิงเห็นสถานการณ์ ก็จะมุดลงไปไล่ตามทันที กลับถูกเฟิ่งชูอิ่งคว้าเอาไว้เฉี่ยวหลิงมองไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 448

บนใบหน้าปู๋เยี่ยโหวยังมีคราบเลือดติดอยู่ เขาเอื้อมมือปิดจมูกแล้วกล่าว “ครั้งนี้ข้าไม่ได้มาหาเจ้า แต่มาหาจิ่งโม่เยี่ย”จิ่งโม่เยี่ยกล่าวพร้อมกับมองเขาอย่างเย็นชา “เจ้ามาหาข้าทำไม?”หลังจากปู๋เยี่ยโหวยิ้มแล้วยิ้มอีก เขากล่าว “ข้าจำได้ว่าตอนยังเด็ก ความสัมพันธ์ของพวกเราดีพอสมควร ยามนี้มาระลึกถึงความหลังเสียหน่อย ไม่ใช่เรื่องที่เกินไปกระมัง?”จิ่งโม่เยี่ยสบตาเขา เขามองกลับอย่างยิ้มแย้ม ผ่านไปเนิ่นนาน จิ่งโม่เยี่ยก็ยกเท้าถีบเขาจนลอยกระเด็นออกไปปู๋เยี่ยโหว “...”เขาลุกขึ้นแล้วกล่าว “จิ่งโม่เยี่ย เจ้ารอก่อนเถอะ สักวันข้าจะฆ่าเจ้า!”เขาพูดจบก็เดินจากไปอย่างโมโหหลังจากเขาไปแล้ว เฟิ่งชูอิ่งกับจิ่งโม่เยี่ยขึ้นรถม้าเฟิ่งชูอิ่งมองแผ่นหลังปู๋เยี่ยโหวอย่างครุ่นคิด เนื่องจากปกติเขาทำตัวบ้าๆ บอๆ นางตัดสินใจไม่พูดถึงเขาต่อหน้าจิ่งโม่เยี่ยเพียงแต่นางไม่พูด จิ่งโม่เยี่ยกลับกล่าว “สมัยเด็ก ความสัมพันธ์ของข้ากับเขาดีมาก สนิทสนมกันมาก”“ตอนนั้นเขาถูกท่านป้าสอนอย่างดี เป็นเด็กหนุ่มที่อ่อนโยนดั่งหยก”“การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเริ่มขึ้นหลังจากที่เสด็จพ่อสวรรคต เพราะท่านป้าปกป้องเสด็จพ่อ จึงถูกฮ่องเต้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 449

“แต่ทหารยามของจวนอ๋องก็นับว่าค่อนข้างตื่นตัว รูสุนัขนั่นข้าขุดไปขุดมาสิบกว่ารอบ ถึงจะสามารถขุดรูที่ข้าสามารถลอดเข้ามาได้”เฟิ่งชูอิ่งอดไม่ได้ที่จะกล่าว “ช้าก่อน เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารูนั่นเจ้าเป็นคนขุด หลังจากนั้นเจ้าก็เรียกมันว่ารูสุนัข?”ปู๋เยี่ยโหว “...”ถึงตอนนี้เขาก็รู้สึกว่าวิธีเรียกนี้ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าหากนั่นเป็นรูสุนัข เขาก็เป็นสิ่งมีชีวิตเพียงหนึ่งเดียวที่เข้ามา เช่นนั้นไม่เท่ากับว่าเขาก็คือ…เขาถุยเบาๆ ทีหนึ่ง “พูดผิดๆ นั่นรูคน”เฟิ่งชูอิ่งทนไม่ไหวจนหัวเราะออกมามุมปากจิ่งโม่เยี่ยก็กระตุกเช่นกัน เอ่ยถาม “เจ้าอุตส่าห์ลงทุนขุดรูสุนัขนั่น คิดจะทำอะไร?”ปู๋เยี่ยโหวตอบ “ก่อนหน้านี้ข้าบอกว่าจะขุดฐานกำแพง[1]เจ้าไม่ใช่หรือ? ข้าจะพิสูจน์ให้เห็นว่าข้าไม่ได้พูดลอยๆ”ปัจจุบันจิ่งโม่เยี่ยเริ่มไม่ค่อยเข้าใจความคิดของปู๋โหวเยี่ยแล้ว เขารู้สึกว่าสมองของปู๋เยี่ยโหวมีปัญหาจริงๆปู๋เยี่ยโหวขยับไปข้างกายเฟิ่งชูอิ่งแล้วกล่าว “แม่นางเฟิ่งพักเรือนไหน? กลางคืนเหงาหรือไม่? ต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนหรือไม่?”เฟิ่งชูอิ่งชกหน้าเขาทันที ครั้งนี้เขามีการเตรียมตัวไว้แล้ว จึงชกไม่โดนเขากล่าวอย่างม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 450

ปู๋เยี่ยโหว “...”ปู๋เยี่ยโหว “...!”เขามองเฉี่ยวหลิงที่ไม่มีดวงตาและคางแวบหนึ่ง รู้สึกว่าตนเองพบเจอเรื่องราวที่น่าสยดสยองที่สุดในโลกนี้เฉี่ยวหลิงเห็นสีหน้าเขาก็หัวเราะ “ข้าก็รู้สึกว่าเป็นเช่นนี้”นางพูดจบ ก็เตะปู๋เยี่ยโหวลอยกระเด็นออกไปปู๋เยี่ยโหว “...”เฉี่ยวหลิงยืนอยู่ข้างกายเขา มือเท้าเอวพลางกล่าว “แต่นี่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการกระทืบเจ้า”นางย่อมรู้เรื่องที่ว่าเพราะเหตุใดปู๋เยี่ยโหวสัมผัสไม่โดนราชครู กลับสามารถสัมผัสโดนนางได้ ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเพราะเฟิ่งชูอิ่งมอบยันต์ให้นางแผ่นหนึ่งก็เท่านั้นจิ่งโม่เยี่ยที่อยู่ข้างๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “สมควร!”ปู๋เยี่ยโหว “...”เขารู้สึกว่าวันนี้เขาไม่ควรมาจวนอ๋องฉู่จริงๆเขานอนอ้าแขนอ้าขาอยู่บนพื้น กล่าว “พวกเจ้าฆ่าข้าเถอะ ข้าไม่อยากอยู่แล้ว!”เฉี่ยวหลิงหันไปกล่าวกับเฟิ่งชูอิ่ง “คุณหนู ท่านช่วยข้าฆ่าเขาหน่อยเถิด จะได้จัดงานแต่งผีให้ข้าด้วยเลย”เฟิ่งชูอิ่งไม่ได้ตอบ ปู๋เยี่ยโหวสะดุ้งลุกขึ้นนั่งทันที “โลกมนุษย์สวยงามเช่นนี้ ข้ามีชีวิตอยู่ต่อดีกว่า!”เฉี่ยวหลิงเห็นสภาพนี้ของเขา จู่ๆ ก็รู้แล้วว่าวันข้างหน้าจะจัดการเขาอย่างไร
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
4344454647
...
100
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status