ฉินจื๋อเจี้ยนเห็นว่านางยอบกายคารวะได้อย่างสง่างาม ไม่ได้ขี้ขลาดหวาดกลัวเหมือนในข่าวลือเขาจึงเกิดความเสียดายแทนนางขึ้นมา นางออกจะเป็นคนดี น่าเสียดายที่คงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานเขาจึงเอ่ย “ได้ ถ้าอย่างนั้นข้าจะรอการมาเยือนของคุณหนูเฟิ่ง”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้าให้เขาเล็กน้อยฉินจื๋อเจี้ยนจึงหันไปหาฮวาซื่อ “คุณหนูเฟิ่งเป็นว่าที่พระชายาของท่านอ๋อง ตอนนี้ถึงนางจะยังเป็นคุณหนูต่างสกุลในจวนสกุลหลิน แต่ก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว“ฮูหยินอุตส่าห์ช่วยสั่งสอนกฎระเบียนให้นาง ข้าขอแสดงความขอบคุณแทนท่านอ๋องด้วย“เพียงแต่หลังจากนี้ไปตอนที่ฮูหยินจะสั่งสองกฎระเบียบให้นาง รบกวนช่วยคิดถึงฐานะของนางให้ดีๆ ด้วย“จวนอ๋องฉู่แม้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่ก็ดีกว่าจวนสกุลหลินอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็มีคำว่าอ๋องประดับอยู่ คงไม่ยอมปล่อยให้ใครมาดูหมิ่นกันง่ายๆใบหน้าของฮวาซื่อดำคล้ำเหมือนตับหมูทันทีคำพูดของฉินจื๋อเจี้ยนไม่มีคำหยาบอยู่แม้แต่น้อย ทว่ามันกลับเหมือนการชี้หน้าด่าฮวาซื่อเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงกล้ามายังแกว่าที่พระชายาอ๋องฉู่!ฮวาซื่อจึงเอ่ยว่า “ฉินจ๋างสื่อกล่าวหนักเกินไปแล้ว ข้าก็แค่พูดคุยกับชูอิ่งเฉยๆ”ฉินจื๋
Read more