บททั้งหมดของ ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: บทที่ 621 - บทที่ 630

950

บทที่ 621

จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็เพียงแค่เหลือบมองนางผาดหนึ่ง จากนั้นก็ร้องเรียกเฉวียนคุนเข้ามาเฉวียนคุนกำลังกินเคี้ยวตุ้ยๆ เต็มปาก สองตาเปล่งประกาย “นายท่าน มีอะไรหรือ?”“ไป เตรียมอาหารเช้าให้คุณหนูเฟิงสือสักชามนึง” จั๋วซือหรานกำชับขึ้นมาเฉวียนคุนรู้สึกว่าฝีมือทำอาหารของคุณหนูแทบจะพลิกแผ่นฟ้าอยู่แล้ว แค่บะหมี่ราดหน้าชามเดียว เด็กฉลาดนั่นก็กินจนตาเป็นประกาย ส่วนเขาก็เคี้ยวตุ้ยๆ เต็มปาก ส่วนเฮยหลิงนั่นก็ตัวดีเลย!เกือบจะเอาหม้อมาทุบกันอยู่แล้ว!ยิ่งไปกว่านั้นเฉวียนคุนยังรู้สึกว่า ถ้าเฮยหลิงเคยสูญเสียอิสระในตลาดมืด จนรู้สึกไม่ชอบที่ต้องมาคุดคู้อยู่ในที่ของผู้อื่นอีกล่ะก็บะหมี่ราดหน้าวันนี้ก็แทบจะทำให้ความรู้สึกไม่พอใจของเขาลดไปกว่าครึ่งเฉวียนคุนกระทั่งรู้สึกว่าที่หายไปครึ่งหนึ่งนี้ตนเองยังพูดน้อยไปด้วยซ้ำ ไม่แน่ในใจเฮยหลิงอาจจะโห่ร้องสรรเสริญคุณหนูหมื่นปีหมื่นหมื่นปีอยู่ก็ได้!แต่ว่าพวกเขาก็รู้สึกว่ามันอร่อยมากจริงๆทว่าตรงหน้าคนนี้ คุณหนูเฟิงสือเป็นถึงตระกูลเฟิงหนึ่งในห้าผู้นำตระกูลขุนนางเลยนะ!เฉวียนคุนกังวลเล็กน้อย ว่าอาหารเช้าของตนเอง จะดูถูกคุณหนูเฟิงสือคนนี้ไปไหม แล้วจะทำให้ค
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 622

“อื๋อ?” ข้อศอกจั๋วซือหรานเท้าอยู่บนโต๊ะ นิ้วรองคาง จ้องมองเฟิงหร่าน เป็นท่าทางที่กำลังตั้งใจฟัง รอคำพูดต่อไปของนางอยู่“พี่สาวจั๋ว อันที่จริง ไม่ใช่แค่ข้าที่มองออกว่าพวกเขามันเน่าไปจนถึงรากในแล้ว” ในสายตาเฟิงหร่าน มีประกายสุกใสบริสุทธิ์ไร้เดียงสา มองจั๋วซือหรานตาไม่กระพริบ “ข้าเองก็มองออก ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังคิดว่า คนอีกมากก็มองออกแล้วด้วย”จั๋วซือหรานไม่พูดอะไร ฟังเฟิงหร่านพูดต่อเงียบๆ“แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีคนยอมต่อต้านพวกเขา” เฟิงหร่านเอ่ยเสียงต่ำ “ต่อให้พวกเขาจะรู้ ว่าตระกูลนี้ เป็นพวกที่เน่าในถึงรากแก่น...แล้วมันทำไมล่ะ? พวกเขาที่รากฝังลึกเน่าเปื่อยมาหลายปี ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำอะไรได้”“ดังนั้นจึงมีคนอีกมากที่เลือกตามน้ำ” เฟิงหรานพูด หัวเราะจืดจางขึ้นมา ฟังแล้ว ดูมีความประชดประชันอยู่ “ข้าเองก็เคยคิดที่จะเลือกตามน้ำ เพราะว่าตระกูลนี้ ก็ยังค่อนข้างทำให้คนรู้สึกมั่นใจอยู่ ไม่ใช่หรือ?”“เทียบกับการต่อต้านแล้ว” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น “ทำตามกระแสไปมันง่ายกว่าเยอะ การต่อต้านเป็นเส้นทางที่ยากลำบากกว่าเสมอ”“ใช่แล้ว” เฟิงหร่านหัวเราะขึ้นมาอีก นางจ้องมองดวงตาจั๋วซือหรานจั๋วซือห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 623

จั๋วซือหรานเข้าใจความหมายจากอักษร รู้สึกว่า ในสุสานกระบี่น่าจะเป็นเศษกระบี่ที่ใช้หลอมกระบี่ให้กับลูกหลานตระกูลเฟิงถึงอย่างไรในงานหลอมใดก็ตาม ล้วนต้องมีพวกเศษชิ้นส่วนอยู่แล้วจั๋วซือหรานลองถามดู “ในสุสานกระบี่ คือเศษชิ้นส่วนกระบี่ของกระบี่ตระกูลเฟิงใช่ไหม?”เฟิงหร่านส่ายหัว “พี่สาวจั๋ว ในสุสานกระบี่คือกระบี่ตระกูลของคนในตระกูลเฟิงที่ตายไป”จั๋วซือหรานแม้จะบอกว่าคิดไม่ถึงคำตอบนี้ แต่พอได้ยินแล้วก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผลอยู่คนตายมีสุสานฝังศพ กระบี่เองก็ต้องมีสุสานกระบี่ด้วยสิแต่ว่า สีหน้าของเฟิงหรานดูแล้ว จั๋วซือหรานรู้สึกว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายแบบนั้น“เท่านี้หรือ?” จั๋วซือหรานถามต่อเฟิงหร่านยิ้มๆ เพียงแต่รอยยิ้มดูขมขื่น “ตระกูลเฟิงให้พวกเราเห็นเพียงเท่านี้ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่แค่นี้ ตามหลักการแล้ว พวกเขาคงไม่หวังให้คนในตระกูลรู้เรื่องอื่น...และไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย...”เฟิงหร่านเอ่ยขึ้น “ลูกหลานอย่างพวกเราตอนที่ไปเข้าชมสวนหลอมกระบี่ ตอนที่ถูกพาเข้าไปยังสุสานกระบี่ ข้าดันหลงทาง”“แล้วเจ้าไปเห็นอะไรมาหรือ?” จั๋วซือหรานขมวดคิ้วถาม“โถงบรรพบุรุษ...แห่งหนึ่ง? โถงศักดิ์สิทธิ์? จาก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 624

จั๋วซือหรานถามนาง “แต่เจ้าทำไมถึงรู้ล่ะ ว่าที่นั่นเป็นโถงลงโทษ? ถ้าหากมีไว้สำหรับคนเป็น โถงลงโทษมองแวบเดียวก็รู้แล้ว แต่พวกนั้น...เป็นดวงวิญญาณ ไม่ใช่ว่าตายไปแล้วหรอกหรือ?”“ข้า...ไม่แน่ใจ ” ในดวงตาเฟิงหราน มี อารมณ์ หวาดกลัวค่อยๆ ปรากฏขึ้นแล้วจั๋วซือหรานตกตะล ง “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเจ้าถึงไม่แน่ใจ?”“พี่สาวจั๋ว ท่านรู้ไหมว่าการหลอมกระบี่ตระกูลของตระกุลเฟิง...เป็นเรื่องของคนเพียงคนเดียว?” เฟิงหร่านเอ่ยขึ้น “ตามหลักการ เรื่องอย่างกระบี่ตระกูล อันที่จริงหลอมตีออกมาในฐานะอาวุธวิญญาณก็พอแล้ว แต่ว่าของตระกูลเฟิงกลับตีหลอมออกมา..เป็นภาชนะวิญญาณ”จั๋วซือหรานเข้าใจความหมายของเฟิงหร่าน ม่านตานางหดลงจ้องเฟิงหร่าน “ดังนั้นความหมายของเจ้าคือ...”เพราะการหลอมภาชนะวิญญาณ จำเป็นต้องใช้พลังดวงวิญญาณของเจ้าของภาชนะวิญญาณและพลังดวงวิญยาณเดิมทีก็เป็นของที่สำคัญอย่างมาก แต่ว่าเหล่าคนในตระกูลที่เชื่อในตระกูลเหล่านั้น ล้วนรู้สึกว่ามานำพลังดวงวิญญาณส่วนหนึ่งของตนเอง มาผนึกไว้ในสถานที่ที่ลึกลับที่สุดอย่างสวนหลอมกระบี่ของตระกูล ถือว่าปลอดภัยและมั่นคงพวกเขาไม่รู้สึกว่ามีอันตรายใด พวกเขายินยอมพร้อมใจนำพล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 625

นี่ถึงจะเป็นสาเหตุที่เฟิงหร่านหวาดกลัวจั๋วซือหรานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงถามออกมาว่า “แล้วเจ้าล่ะ?”เฟิงหร่านยิ้ม ยิ้มอย่างขมขื่น แสดงออกมาอย่างแจ่มชัดว่าอะไรคือการยิ้มที่ดูแล้วน่าเกลียดกว่าร้องไห้“ข้า? ข้ายังไม่รู้ว่าข้าโชคดีหรือว่าโชคร้าย” เฟิงหร่านมองจั๋วซ์อหราน “ในรุ่นเดียวกัน ข้ากับพี่ชาย เกรงว่าจะเป็นสองคนที่ไม่ได้ถูกผลึกพลังดวงวิญญาณเอาไว้ในสุสานกระบี่”“โอ๋? เพราอะไรกัน?” จั๋วซือหรานประหลาดใจหน่อยๆ ต่อให้เฟิงหร่านเป็นปลาที่หลุดรอดออกมาจากในตาข่าย ตระกูลเฟิงจะไม่สนใจมันก็เรื่องนึง แต่นี่กระทั่งเฟิงเหยียนก็...?เฟิงหร่านพยักหน้า “ข้ากับพี่ชายเป็นสองคนในรุ่นเดียวกันที่ไม่ได้ถูกผนึกพลังดวงวิญญาณไว้ ไม่ได้สร้างการสื่อสารกับดวงวิญญาณกับกระบี่ประจำตระกูล กระบี่ประจำตระกูลของพวกเราไม่ใช่ภาชนะวิญญาณ เป็นเพียงอาวุธวิญญาณเท่านั้น”“และเพราะข้าดวงดี ที่ได้ไปรับกระบี่วันเดียวกับพี่ชาย ตามหลักการแล้ว วันที่รับกระบี่ จำเป็นต้องมีการสื่อสารกับดวงวิญญาณ หรือก็คือ...ต้องผนึกพลังดวงวิญญาณบางส่วนเข้าไปในหินวิญญาณ แล้ววางเก็บรักษาไว้ที่สวนหลอมกระบี่”เฟิงหร่านตาเป็นประกาย “แต่ว่า! ดวงวิญญ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 626

เฟิงหร่านสูดหายใจลึกไปสองที เหมือนเป็นการปรับอารมณ์จั๋วซือหรานรู้สึกว่าแม่นางคนนี้เหมือนจะมีท่าทีที่จริงจังต่ออาหารอย่างมาก พยายามปรับอารมณ์ให้ดีก่อนแล้วค่อยกิน ราวกับว่า ไม่อยากให้อารมณ์ที่ไม่ดีของตนเองส่งผลกระทบกับความสุขในการกินอย่างไรอย่างนั้นหลังจากรอจนกินหมด จั๋วซือหรานจึงลุกขึ้นยืน เอ่ยขึ้นว่า “เอาล่ะ วันนี้ข้าอยู่เล่นกับเจ้าไม่ได้แล้ว ยังมีเรื่องต้องไปทำอีก...”จั๋วซือหรานเหลือบมองเฟิงหร่านผาดหนึ่งไม่รู้เพราะอะไร เฟิงหร่านจู่ๆ ก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีกับเฟิงหร่าน “พี่ พี่สาวจั๋ว...”จั๋วซือหรานจ้องนางอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า “ตระกูลเฟิงเรียกเจ้าเข้ามาเป็นสายลับ ต้องรู้สึกแน่นอนว่าคนที่มีนิสัยอย่างข้า จะมีวันไหนที่เชื่อเจ้า ดังนั้น...”เฟิงหร่านปิดหน้าตนเอง “จะโดนอัดอีกแล้วหรือ?” รอยปูดบวมบนหน้านางยังไม่ยุบเลยนะ ต่อให้สายเลือดตระกูลเฟิงจะมีคุณสมบัติแข็งแกร่งก็เถอะ จะให้รอยช้ำนั้นหายไปยังต้องใช้ถึงสองวันเลยจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ไม่เจ็บเสียหน่อย”“แต่มันก็ดูไม่ดีนี่นา” เฟิงหร่านตอบเสียงอ่อยจั๋วซือหรานจ้องมองเฟิงหร่านเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง เฟิงหร่านกลั้นหายใจ พี่ส
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 627

มีคำบอกเล่าของเฟิงหรานที่เป็น ‘สายลับสองหน้า’ เหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงเพียงไม่นานก็รู้ว่าจั๋วซือหรานถูกหอจันทร์เงินเพ่งเล็งอยู่ กำลังจะไปจัดการเรื่องไกล่เกลี่ยตัดสินใหม่“นางนี่มัน...ศัตรูเยอะจริงๆ ไม่ได้หยุดได้หย่อนกันเลย” มีผู้อาวุโสคนหนึ่งหัวเราะเย็นชาเอ่ยขึ้นเฟิงหร่านก้มหน้ายืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้มีปฏิกิริยาใดกับคำพูดนี้ของผู้อาวุโสในใจเฟิงหร่านคิดเงียบๆ: นั่นไม่ใช่ว่าถูกบีบออกมาหรือไรกัน? ยิ่งไปกว่านั้น พี่สาวจั๋วเองก็มีความสามารถ ถึงไม่เคยพ่ายแพ้เลยแม้จะมีศัตรูมากขนาดนี้จั๋วซือหรานพาฝูซูออกนอกเมืองไปด้วยกันฝูซูมองเส้นทางนี้แล้วรู้สึกแปลกประหลาด “คุณหนู ไม่ใช่จะไปตลาดมืดหรือ?”“จะรีบไปทำไม ออกจากเมืองก่อนสักรอบหนึ่ง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น เองหน้าเหลือบมองฝูซู ถามขึ้นว่า “ฝูซางเป็นอย่างไรบ้าง?”“พี่สาวดีขึ้นมากแล้ว” ฝูซูใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมาดูท่าอาการบาดเจ็บของฝูซางคงจะดีขึ้นมากแล้วแน่นอน ไม่เช่นนั้นชายหนุ่มที่มีอารมณ์อะไรนิดหน่อยก็เขียนแปะอยู่บนหน้าคนนี้ คงจะยิ้มไม่ออกแน่ๆ“ต้องขอบคุณคุณหนู” ฝูซูผ่อนใจโล่งออกมาถ้าไม่ใช่ตอนที่คุณหนูกำลังเป็นที่สนอกสนใจของคนทุกคน ให้พี่น
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 628

จากนั้นจึงเห็นคุณหนูของตนเองเป่าปาก!เสียงนั้นทั้งกังวานทั้งมีพลังทะลุทะลวง ราวกับชั่วพริบตาเดียวก็ส่งออกไปพื้นที่ไกลแสนไกลได้อย่างไรอย่างนั้นจากนั้น ฝูซูจึงมองเห็น...ไม่สิ พูดให้ถูกคือน่าจะได้ยินเสียงมาก่อนเขาได้ยินเสียงเสียงหนึ่ง ราวกับขานรับคุณหนู และหลังจากเสียงเป่าปากของคุณหนูดังขึ้นไม่นานเสียงหอนหมาป่าตัวหนึ่ง...ก็ดังแว่วเข้ามาฝูซูเดิมทีไม่ใช่คนที่ขี้กลัว ถึงอย่างไรนี่ก็นอกเมืองนะ ต่อให้อยู่บนถนนทางการ ก็ยังไม่ใช่ในเมืองอยู่ดี เดิมทีก็มีโอกาสเจอกับพวกสัตว์ป่าอยู่แล้วแต่ว่า เพียงไม่นานฝูซูก็เห็นเงาร่างหนึ่ง ปรากฏขึ้นไกลๆ จากนั้นก็พุ่งเข้ามาทางนี้อย่างดุดันร่างขนสีเทาขาวร่างหนึ่ง พุ่งเข้ามาตามการวิ่งทะยาน รูปร่างนั้น...ฝูซูหวาดหวั่นขึ้นมาทันทีนั่นไม่ใช่หมาป่า!พูดให้ถูกคือ นั่นไม่ใช่หมาป่าธรรมดา!“นั่นมัน...” เสียงของฝูซูสั่นพร่าจั๋วซือหรานเอ่ยตอบ “ราชาหมาป่าน้ำแข็ง”ฝูซูหน้าขาวซีด นั่นคือราชาหมาป่าหรือ!ยิ่งไปกว่านั้นด้านหลังราชาหมาป่า ยังมีหมาป่าน้ำแข็งที่รูปร่างเล็กลงหน่อยอีกตัวหนึ่งตามมาด้วย“คุณหนู ท่าน...คงไม่ใช่ว่าท่านเรียกมาหรอกใช่ไหม?” ฝูซูแม้จะ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 629

ฝูซูตกใจแทบแย่!ทั้งที่ใต้เท้าเขาเหมือนกับกลายเป็นฝ้ายไปแล้วแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับมีพลังท่วมท้นขึ้นมาทันทีพุ่งเข้ามาขวางเบื้องหน้าจั๋วซือหรานในใจกลัวแทบขาดใจ กระทั่งตายังหลับปี๋แต่กลับไม่มีความเจ็บปวดอย่างที่คาดการณ์ไว้ฝูซูตอนนี้จึงลืมตาขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และก็ได้เห็น ว่าหมาป่าน้ำแข็งที่ดุร้ายตัวนั้น เหมือนในที่สุดจะสงบลงมาแล้วแม้ท่าทางจะยังคงดูระแวดระวัง แต่ก็ไม่ได้กราดเกรี้ยวเหมือนก่อนหน้านี้ส่วนคุณหนู...ฝูซูกลอกตามองไปทางคุณหนู ตอนนี้จึงเพิ่งเห็น ว่าคุณหนูที่เดิมทีควรจะถูกตนเองบังไว้ด้านหลัง เวลานี้กลับมาอยู่ข้างกายตนเองเสียอย่างนั้นสายตานางจ้องเขม็งไปที่หมาป่าน้ำแข็งตัวนั้น สายตาของนางเหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมา“อย่างนี้นี่เอง...”ฝูซูได้ยินคุณหนูเอ่ยเสียงต่ำขึ้นคำหนึ่ง เขากำลังคิดจะถามอะไร ก็เห็นคุณหนูโค้งตัวลงลูบบนหัวหมาป่าน้ำแข็งตัวนี้ เอ่ยต่อว่า “ที่แท้เจ้าก็ตั้งท้องอยู่สินะ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังตัวขนาดนี้...”ฝูซูกระพริบตาปริบๆ และก็กระพริบตาไปอีก ครู่หนึ่งจึงตั้งตัวกลับมาได้ พูดขึ้นว่า “คุณหนู นี่ท่านรักษากระทั่งสัตว์ประหลาดเลยหรือ?! นี่...นี่กำลัง...กำล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 630

ดังนั้นจั๋วซือหรานตอนนี้จึงไม่สามารถยืนยันได้ ว่าความสามารถที่แล่นวาบเข้ามาเมื่อครู่นี้คืออะไรกันแน่ ใช่นักภาษาสัตว์หรือไม่สาเหตุที่บอกว่าเป็นความสามารถที่แล่นวาบเข้ามา ก็เพราะเวลานี้จั๋วซือหรานยังอยากที่จะลองสื่อสารกับหมาป่าน้ำแข็งที่ตั้งท้องแล้วยังคงระแวดระวังอยู่ตัวนี้ หรือราชาหมาป่าน้ำแข็งที่ครางงึ้ดงึ้ดเหมือนสุนัขตัวนั้นอีกแต่ก็เหมือนกับหินจมลงมหาสมุทรอย่างไรอย่างนั้น ไม่มีปฏิกิริยาใดตอบสนองเลยสิ่งนี้ทำให้คนรู้สึกว่าเมื่อครู่นี้อาจจะเป็นเพียงแค่...การคิดไปเองก็เป็นได้ไม่ว่าความสามารถก่อนหน้านี้จะเป็นเรื่องที่คิดไปเองหรือไม่ แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะพิสูจน์ได้ในเวลาสั้นๆ จั๋วซือหรานคิดขึ้นมานางไม่คิดจะเสียเวลาที่นี่ ในเมื่อยังพิสูจน์ไม่ได้ในเวลาสั้นๆ เช่นนั้นก็ไว้ค่อยว่ากันดังนั้น จั๋วซือหรานหลังจากปลอบโยนราชาหมาป่าน้ำแข็งและแม่หมาป่าไปครู่หนึ่ง จึงมองไปทางฝูซู เอ่ยขึ้นว่า “เอาล่ะ ไปเถอะ เจ้าขี่ตัวนี้ มันตั้งท้องอยู่ ดังนั้นเจ้าก็ระวังหน่อย...”จั๋วซือหรานคิดคิด หยุดคำว่า จากนั้นจึงพูดต่อว่า “...เอางี่ดีกว่า ข้าไปนั่งเอง เจ้าไปนั่งอีกตัว” ฝูซูรู้สึกว่า หลังจากนี้ถ้าอ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
6162636465
...
95
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status