มีคำบอกเล่าของเฟิงหรานที่เป็น ‘สายลับสองหน้า’ เหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงเพียงไม่นานก็รู้ว่าจั๋วซือหรานถูกหอจันทร์เงินเพ่งเล็งอยู่ กำลังจะไปจัดการเรื่องไกล่เกลี่ยตัดสินใหม่“นางนี่มัน...ศัตรูเยอะจริงๆ ไม่ได้หยุดได้หย่อนกันเลย” มีผู้อาวุโสคนหนึ่งหัวเราะเย็นชาเอ่ยขึ้นเฟิงหร่านก้มหน้ายืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้มีปฏิกิริยาใดกับคำพูดนี้ของผู้อาวุโสในใจเฟิงหร่านคิดเงียบๆ: นั่นไม่ใช่ว่าถูกบีบออกมาหรือไรกัน? ยิ่งไปกว่านั้น พี่สาวจั๋วเองก็มีความสามารถ ถึงไม่เคยพ่ายแพ้เลยแม้จะมีศัตรูมากขนาดนี้จั๋วซือหรานพาฝูซูออกนอกเมืองไปด้วยกันฝูซูมองเส้นทางนี้แล้วรู้สึกแปลกประหลาด “คุณหนู ไม่ใช่จะไปตลาดมืดหรือ?”“จะรีบไปทำไม ออกจากเมืองก่อนสักรอบหนึ่ง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น เองหน้าเหลือบมองฝูซู ถามขึ้นว่า “ฝูซางเป็นอย่างไรบ้าง?”“พี่สาวดีขึ้นมากแล้ว” ฝูซูใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมาดูท่าอาการบาดเจ็บของฝูซางคงจะดีขึ้นมากแล้วแน่นอน ไม่เช่นนั้นชายหนุ่มที่มีอารมณ์อะไรนิดหน่อยก็เขียนแปะอยู่บนหน้าคนนี้ คงจะยิ้มไม่ออกแน่ๆ“ต้องขอบคุณคุณหนู” ฝูซูผ่อนใจโล่งออกมาถ้าไม่ใช่ตอนที่คุณหนูกำลังเป็นที่สนอกสนใจของคนทุกคน ให้พี่น
จากนั้นจึงเห็นคุณหนูของตนเองเป่าปาก!เสียงนั้นทั้งกังวานทั้งมีพลังทะลุทะลวง ราวกับชั่วพริบตาเดียวก็ส่งออกไปพื้นที่ไกลแสนไกลได้อย่างไรอย่างนั้นจากนั้น ฝูซูจึงมองเห็น...ไม่สิ พูดให้ถูกคือน่าจะได้ยินเสียงมาก่อนเขาได้ยินเสียงเสียงหนึ่ง ราวกับขานรับคุณหนู และหลังจากเสียงเป่าปากของคุณหนูดังขึ้นไม่นานเสียงหอนหมาป่าตัวหนึ่ง...ก็ดังแว่วเข้ามาฝูซูเดิมทีไม่ใช่คนที่ขี้กลัว ถึงอย่างไรนี่ก็นอกเมืองนะ ต่อให้อยู่บนถนนทางการ ก็ยังไม่ใช่ในเมืองอยู่ดี เดิมทีก็มีโอกาสเจอกับพวกสัตว์ป่าอยู่แล้วแต่ว่า เพียงไม่นานฝูซูก็เห็นเงาร่างหนึ่ง ปรากฏขึ้นไกลๆ จากนั้นก็พุ่งเข้ามาทางนี้อย่างดุดันร่างขนสีเทาขาวร่างหนึ่ง พุ่งเข้ามาตามการวิ่งทะยาน รูปร่างนั้น...ฝูซูหวาดหวั่นขึ้นมาทันทีนั่นไม่ใช่หมาป่า!พูดให้ถูกคือ นั่นไม่ใช่หมาป่าธรรมดา!“นั่นมัน...” เสียงของฝูซูสั่นพร่าจั๋วซือหรานเอ่ยตอบ “ราชาหมาป่าน้ำแข็ง”ฝูซูหน้าขาวซีด นั่นคือราชาหมาป่าหรือ!ยิ่งไปกว่านั้นด้านหลังราชาหมาป่า ยังมีหมาป่าน้ำแข็งที่รูปร่างเล็กลงหน่อยอีกตัวหนึ่งตามมาด้วย“คุณหนู ท่าน...คงไม่ใช่ว่าท่านเรียกมาหรอกใช่ไหม?” ฝูซูแม้จะ
ฝูซูตกใจแทบแย่!ทั้งที่ใต้เท้าเขาเหมือนกับกลายเป็นฝ้ายไปแล้วแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับมีพลังท่วมท้นขึ้นมาทันทีพุ่งเข้ามาขวางเบื้องหน้าจั๋วซือหรานในใจกลัวแทบขาดใจ กระทั่งตายังหลับปี๋แต่กลับไม่มีความเจ็บปวดอย่างที่คาดการณ์ไว้ฝูซูตอนนี้จึงลืมตาขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และก็ได้เห็น ว่าหมาป่าน้ำแข็งที่ดุร้ายตัวนั้น เหมือนในที่สุดจะสงบลงมาแล้วแม้ท่าทางจะยังคงดูระแวดระวัง แต่ก็ไม่ได้กราดเกรี้ยวเหมือนก่อนหน้านี้ส่วนคุณหนู...ฝูซูกลอกตามองไปทางคุณหนู ตอนนี้จึงเพิ่งเห็น ว่าคุณหนูที่เดิมทีควรจะถูกตนเองบังไว้ด้านหลัง เวลานี้กลับมาอยู่ข้างกายตนเองเสียอย่างนั้นสายตานางจ้องเขม็งไปที่หมาป่าน้ำแข็งตัวนั้น สายตาของนางเหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมา“อย่างนี้นี่เอง...”ฝูซูได้ยินคุณหนูเอ่ยเสียงต่ำขึ้นคำหนึ่ง เขากำลังคิดจะถามอะไร ก็เห็นคุณหนูโค้งตัวลงลูบบนหัวหมาป่าน้ำแข็งตัวนี้ เอ่ยต่อว่า “ที่แท้เจ้าก็ตั้งท้องอยู่สินะ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังตัวขนาดนี้...”ฝูซูกระพริบตาปริบๆ และก็กระพริบตาไปอีก ครู่หนึ่งจึงตั้งตัวกลับมาได้ พูดขึ้นว่า “คุณหนู นี่ท่านรักษากระทั่งสัตว์ประหลาดเลยหรือ?! นี่...นี่กำลัง...กำล
ดังนั้นจั๋วซือหรานตอนนี้จึงไม่สามารถยืนยันได้ ว่าความสามารถที่แล่นวาบเข้ามาเมื่อครู่นี้คืออะไรกันแน่ ใช่นักภาษาสัตว์หรือไม่สาเหตุที่บอกว่าเป็นความสามารถที่แล่นวาบเข้ามา ก็เพราะเวลานี้จั๋วซือหรานยังอยากที่จะลองสื่อสารกับหมาป่าน้ำแข็งที่ตั้งท้องแล้วยังคงระแวดระวังอยู่ตัวนี้ หรือราชาหมาป่าน้ำแข็งที่ครางงึ้ดงึ้ดเหมือนสุนัขตัวนั้นอีกแต่ก็เหมือนกับหินจมลงมหาสมุทรอย่างไรอย่างนั้น ไม่มีปฏิกิริยาใดตอบสนองเลยสิ่งนี้ทำให้คนรู้สึกว่าเมื่อครู่นี้อาจจะเป็นเพียงแค่...การคิดไปเองก็เป็นได้ไม่ว่าความสามารถก่อนหน้านี้จะเป็นเรื่องที่คิดไปเองหรือไม่ แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะพิสูจน์ได้ในเวลาสั้นๆ จั๋วซือหรานคิดขึ้นมานางไม่คิดจะเสียเวลาที่นี่ ในเมื่อยังพิสูจน์ไม่ได้ในเวลาสั้นๆ เช่นนั้นก็ไว้ค่อยว่ากันดังนั้น จั๋วซือหรานหลังจากปลอบโยนราชาหมาป่าน้ำแข็งและแม่หมาป่าไปครู่หนึ่ง จึงมองไปทางฝูซู เอ่ยขึ้นว่า “เอาล่ะ ไปเถอะ เจ้าขี่ตัวนี้ มันตั้งท้องอยู่ ดังนั้นเจ้าก็ระวังหน่อย...”จั๋วซือหรานคิดคิด หยุดคำว่า จากนั้นจึงพูดต่อว่า “...เอางี่ดีกว่า ข้าไปนั่งเอง เจ้าไปนั่งอีกตัว” ฝูซูรู้สึกว่า หลังจากนี้ถ้าอ
ในใจฝูซูมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีนักแต่แรงกระแทกในการขี่ราชาหมาป่าเพื่อเดินทาง ก็เพียงพอที่จะกลบความรู้สึกอื่นไปหมด กระทั่งว่าฝูซูทำได้แค่นอนราบลงไปบนหลังของราชาหมาป่าน้ำแข็ง หลับตาปี๋ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงผ่อนคลายลงมาได้บ้างฝูซูเปิดหนังตาที่ตึงเครียดออกมา ก็มองเห็นว่าข้างๆ ตนเอง ร่างสง่างามในชุดแดงที่อยู่บนหลังหมาป่าน้ำแข็งตัวนั้นพอเทียบกับคนเองที่ตกใจจนกระทั่งยังไม่กล้าจะลืมตาแล้ว ฝูซูรู้สึกว่า คุณหนูนี่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ นิ่งมากๆ เลยเหมือนออกมารับลมเล่นอย่างไรอย่างนั้น?ลมพัดผ่านใบหน้านาง กระพือเส้นผมนาง ดูไม่รกรุงรัง แต่กลับยิ่งขับเด่นความสง่างามท่าทางของจั๋วซือหราน ทำเอาฝูซูฟื้นฟูกลับมาจากสภาพกระวนกระวายไม่น้อย เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นเส้นทางนี้ จึงเอ่ยถามเสียงแผ่ว “คุณหนู พวกเราจะไปที่ไหนกันหรือ?”จั๋วซือหรานตอบ “จะไปที่ป่าลึกลับ แล้วก็น่าจะยังต้องเดินทางอีกสักพักหนึ่ง ถ้าเจ้าเหนื่อยแล้วก็บอก หยุดพักผ่อนกันก่อนได้”“ป่าลึกลับ?!” ฝูซูถลึงตาโต ในสายตามีสีหน้าประหลาดใจป่าลึกลับ ตั้งอยู่ในเขตแดนเคว้นชาง เป็นป่าสัตว์ประหลาดที่อยู่ใกล้เมืองหลวงมากที่สุด ตัวป่ากว้างใหญ่ไพศาล รอบนอ
แค่เคยได้ยินเท่านั้น แต่กลับยังไม่เคยเห็นอาชีพนี้มาก่อน ทำให้คนรู้สึกว่าดูเก่งกาจดีแต่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไรแต่ว่าฝูซูก็แทบจะมีปฏิกิริยาขึ้นมาในพริบตา “นั่นไม่ใช่เหมือนกับ...ที่คุณหนูควบคุมราชาหมาป่าน้ำแข็งเช่นนี้หรอกหรือ? ความหมายนี้ใช่ไหม?”จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “อืม เป็นแบบนี้นั่นล่ะ”หลังจากนั้นจึงเห็นสีหน้าของฝูซูเปลี่ยนจากความกระวนกระวายที่ไม่ค่อยเข้าใจว่าคืออะไร กลายมาเป็นความผ่อนคลายที่เหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจขึ้นมาแล้ว“นั่น...ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะดีอยู่สิ” ฝูซูเอ่ยขึ้น “คุณหนูชนะแน่นอน ราชาหมาป่าน้ำแข็ง...ดูน่าจะเก่งกาจอยู่นะ”จั๋วซือหรานพยักหน้า “ก็เก่งกาจจริงอยู่ ความเร็วการโจมตีรวดเร็ว ร่างกายก็คล่องแคล่ว แต่ในด้านการต่อสู้ โดยเฉพาะบนเวทีประลองที่ไม่ถือว่าใหญ่มาก อาจจะมีข้อจำกัดอยู่”จั๋วซือหรานพูดถึงจุดนี้ ราชาหมาป่าน้ำแข็งจู่ๆ ก็หันหน้ามามองจั๋วซือหราน ร้องงึ๊ดงึ๊ดขึ้นมา“ข้าต่อสู้ได้ไม่เลวอยู่นะ!”จั๋วซือหรานมองตามเสียงไปทางราชาหมาป่าน้ำแข็ง ตกตะลึงไปเล็กน้อยถ้าบอกว่า ก่อนหน้าที่ได้ยินเสียงจากหมาป่าน้ำแข็งตั้งท้องที่ตนเองนั่งอยู่นี่ แล้วนางยังไม่ค่อยแน่ใจ คิดว่าตนเองน่าจ
และเพราะจั๋วซือหรานพูดคำว่าพวกคลั่งไคล้ขนนุ่มฟู และบอกว่าถัดจากนี้ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดขนนุ่มฟูพอบวกกับตลอดเส้นทางนี้ ฝูซูที่ไม่ค่อยจะหวาดกลัวหมาป่าน้ำแข็งเท่าไรแล้วดังนั้น ฝูซูจึงไม่ค่อยหวาดกลัวกับเจ้าพวกขนนุ่มฟูที่คุณหนูพูดออกมาสักเท่าไรหลังจากราชาหมาป่าน้ำแข็งพาพวกเขาเข้าไปในป่าลึกลับ ท่วงท่าพลังก็เปลี่ยนไป ต่อให้ฝูซูที่ความสามารถการรับรู้ยังไม่สู้จั๋วซือหราน ก็ยังรู้สึกได้ถึงพลังของราชาหมาป่าน้ำแข็งที่เพิ่มขึ้นกว่าก่อนหน้า...ไปไม่น้อยประสิทธิภาพเองก็เห็นได้อย่างชัดเจน พวกเขาหลังจากเข้ามาในชายขอบป่าลึกลับ ตลอดทางก็ไม่พบกับสัตว์ประหลาดอะไรเลยฝูซูที่เดิมทียังตึงเครียดเพราะเข้ามาในป่าของสัตว์ประหลาดอย่างป่าลึกลับนี้เป็นครั้งแรก แต่หลังจากที่เข้ามา ก็ไม่พบกับอันตรายเลยแม้แต่นิดเดียวทำให้ความระแวดระวังของเขาแต่เดิมผ่อนคลายลงมาบ้างแล้ว“คุณหนู ไม่เจอสัตว์ประหลาดเลยแม้แต่ตัวเดียว” ฝูซูเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพยักหน้า “มีราชาหมาป่าน้ำแข็งอยู่ที่นี่ ปกติสัตว์ประหลาดก็จะไม่เข้ามาท้าทายเท่าไร ดังนั้นที่ไม่เจอก็เรื่องปกติ”“แต่ท่านไม่ใช่ว่าจะจับ...” ฝูซูเดิมทีคิดจะถาม ว่าคุณหน
ทั้งหมดล้วนเป็นธรรมชาติทั้งสิ้นดังนั้น ถ้าหากมีอะไรไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมา จั๋วซือหรานก็สามารถสัมผัสถึงได้ อย่างเช่น นางสามารถรับรู้ว่ามีบางแห่งที่กิ่งไม้ใบหญ้าถูกพัดจนเคลื่อนไหวแต่ถ้าหากเป็นสัตว์หรือเป็นสัตว์ประหลาดล่ะก็ จะไม่หนาแน่นขนาดนั้น และจะไม่วนเวียนอยู่ที่เดิมตลอดเวลา สัตว์ประหลาดจะมีอาณาเขตของตนเองนี่เป็นมนุษย์จั๋วซือหรานโยนหน้าไม้ให้ฝูซูคันหนึ่ง“เจ้านี่ใช้เป็นใช่ไหม?” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น “ถ้าใช้ไม่เป็น ก็ลองทดสอบดูสักสองดอก ข้าจำได้ว่าเจ้าใช้ธนูได้แม่นดีอยู่ ของเล่นชิ้นนี้ที่ข้าให้กับเจ้า ขอแค่มีมือ แม้แต่ลิงก็ยังฆ่าคนได้”ฝูซูเดิมทียังรู้สึกดีใจเป็นพิเศษที่คุณหนูให้อาวุธชิ้นนี้กับตนเอง ชิ้นงานประณีตมาก ดูน่าจะร้ายกาจพอควร เขาชอบมาก รู้สึกมั่นใจขึ้นอย่างเกินเหตุ มีความรู้สึกเหมือนพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสิ่งอย่างแต่ใครจะไปรู้ ว่าประโยคต่อมาของคุณหนู จะเป็นการสาดน้ำเย็นใส่โต้งๆ ทำเอาเขาใจเย็นลงมาไม่น้อย ไม่ได้รู้สึกมั่นใจอย่างก่อนหน้าแล้วฝูซูลองกดไปสองครั้ง หาความรู้สึก ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “คุณหนู เจ้านี่มันใช้งานได้ดีเกินไปไหม?”“เช่นนั้นก็เก็บไว้ดีดี” จั๋ว
และตอนที่ฮั่วจือโจวกำลังหารือเรื่องเปิดโรงเตี๊ยมอยู่กับเจี่ยงเทียนซิงและอินเจ๋ออัน ก็ได้รู้ข่าวการพระราชทานรางวัลนี้พวกเขาสามคนสบตากัน"จักรพรรดิเฒ่านี่ร้ายจริงๆ"จั๋วซือหรานไม่ได้ส่งเสียง หลังจากได้ยินคนวังประกาศราชโองการจบ นางก็ยืนนิ่งไม่ขยับคนวังเองก็ดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรียกนางขึ้นคำหนึ่ง "แม่นางจิ่ว ขานรับราชโองการสิ"จั๋วซือหรานไม่ขยับ นางมองราชโองการฉบับนั้น อันที่จริงในใจกำลังพิจารณาจะรับดีไหมองค์จักรพรรดิเฒ่าดีดลูกคิดรอบนี้ ลูกคิดแทบจะกระเด็นมาโดนหน้านางอยู่แล้วพระราชทานเงิน พระราชทานจวน พระราชทานวังสวน สิทธิ์อำนาจพ่อค้าหลวง พวกนี้ไม่มีปัญหาอะไร ใกล้เคียงกับที่นางขอองค์จักรพรรดิเฒ่าไว้แต่การอวยยศ...แต่งตั้งขุนนางกับพื้นที่ศักดินา แบบนี้มันเกินไปจริงๆในสายตาคนนอก นางเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้รับยศมา เรียกได้ว่าจะกลายเป็นโหวหญิงชั้นสูงเพียงคนเดียวของเมืองหลวงไปเลยยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่ศักดินาให้ เรื่องดีจะตายนี่?แต่การแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแพทย์หลวง แม้จะชั่วคราว แต่ใครจะรุ้ว่าต้องนานแค่ไหน?ต้องไปเข้ากะอะไรแบบนั้น น่ารำคาญจะตายยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งข้า
จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงนี้ ก็ไม่เร่งไม่ร้อน ชนแก้วกับจั๋วอวิ๋นฉีก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ดื่มสุราในแก้วลงไปจนหมดตอนนี้ นางกับจั๋วอวิ๋นฉีก็กลายเป็นผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าของตระกูลจั๋วแล้วพอวางแก้วลง จั๋วอวิ๋นฉีก็หน้าเย็นชาลงมา เขาหน้าตาหล่อเหล่า แต่ตอนที่สีหน้าเย็นชา ก็ให้ความรู้สึกบีบคั้นที่เย็นเยียบมากเขามองไปทางผู้อาวุโสที่พูดเมื่อครู่นี้คนคนนั้นหดคอลง ไม่กล้าส่งเสียงอีกจั๋วซือหรานไม่ได้ใส่ใจ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้วตอนที่อาหารกลางวันดำเนินไปครึ่งหนึ่ง ด้านนอกประตูจู่ๆ ก็มีรายงาน ว่าคนในวังมาแล้ว"คนในวัง?" ยังมีคนไม่เข้าใจ คนในวังมาบ้านตระกูลจั๋วทำไมเพียงไม่นานก็เห็นคนวังประกาศราชโองการในชุดเรียบร้อยเดินเข้ามา เพียงแต่ว่า ดูแล้วหายใจหอบอยู่ น่าจะรีบเข้ามาพอควรคนวังประกาศราชโองการพอเห็นจั๋วซือหราน ก็เผยรอยยิ้มออกมา "แม่นางจิ่วที่แท้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง ข้าน้อยหาตัวมาพักหนึ่งแล้ว เกรงว่าจะพลาดฤกษ์ประกาศราชโองการ"สายตาของคนตระกูลจั๋ว ทยอยกันมองจั๋วซือหรานตอนนี้ คนวังประกาศราชโองการจึงลากเสียงขึ้นดังลั่น "จั๋วซือหราน...รับราชโองการ...!"จั๋วซือหรานลุกขึ้น เตรียมจะทำท่
ผู้อาวุโสสาม!?ครั้งที่แล้วที่นางกลับไปตระกูลจั๋ว คือเชิญนางไปเป็นผู้อาวุโสหรือ?!อย่าว่าแต่พวกที่มาดูมหรสพเลย กระทั่งเฉวียนคุนพอได้ยินคำเรียกนี้ก็ยังตะลึงไปและเพราะอารมณ์ในใจเขาตื่นเต้นเกินไป จึงสั่นไปทั้งตัว!เรียก เรียกว่าอะไรนะ?!นี่เรียกว่า! สะใจสินะ! เขาตอนนั้นยังจำได้ว่า คุณหนูจิ่วออกจากตระกูล ตอนนั้นคนมากมายล้วนรอดูนางเป็นตัวตลก หรือรู้สึกว่านางนี่ล่ะที่เป็นตัวตลกตอนนั้นส่งคนใช้มามากมายมาที่เรือนของนาง แต่ละคนล้วนรู้สึกเหมือนถูกเนรเทศอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกว่าจะไม่มีวันได้กลับไปเชิดหน้าชูตาอีกแล้วมีแค่เขาที่อยู่รอด! นับจากตอนนั้นเขาก็เริ่มเชื่อมั่นว่านายท่านจะต้องก้าวหน้าแน่!จั๋วซือหรานได้ยินคำเรียกนี้ สีหน้าก็ดูสงบนิ่งมากทุกคนเห็นสีหน้านางก็รู้แล้ว นางคงรู้เรื่องนี้มานานแล้วพอคนใช้รายงานเสร็จ ก็มองจั๋วซือหรานอย่างตึงเครียดขึ้นมาราวกับ...กลัวว่านางจะปฏิเสธพวกเขาถูกส่งมาเชิญนาง ถ้าหากเชิญไม่ได้ กลับไปอาจจะถูกลงโทษก็ไม่แน่ดังนั้นพวกเขาจึงมองดูการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของจั๋วซือหราน เตรียมว่าถ้าหากเห็นเค้าลางการปฏิเสธในสีหน้า พวกเขาก็จะอ้อนวอนนางทันทีแต่จั๋วซือห
ตอนที่เฉวียนคุณเคาะประตูจั๋วซือหรนา นางเพิ่งจะวุ่นกับการหลอมยา...งานช่วงเช้าเสร็จเฉวียนคุนรีบเข้ามารินชาให้นางจั๋วซือหรานรับไปดื่มสองอึก "ทำไมหรือ?"เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นว่า "นายท่าน นี่มันเรื่องอะไรกัน"สีหน้าของเฉวียนคุณปั้นยาก "เดิมทีเรือนของพวกเราก็ไม่ได้เล็กอะไร ตามหลักการแล้วก็พออาศัยอยู่"เดิมทีก็มีแค่นายท่าน ข้า เด็กฉลาด เฮยหลิง นี่ก็ไม่ใช่ว่าพออยู่เหลือเฟือหรือ"แต่ก่อนหน้านั้นก็เพิ่งจะมีใต้เท้าพวกนั้นที่ท่านช่วยกลับมาจากตระกูลเฟิง" เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นหมายถึงพวกเหล่าองครักษ์เงาของเฟิงเหยียนที่นางช่วยกลับมา"ตอนนี้ยังมีพ่อลูกสกุลเหยียนอีก" เฉวียนคุนเอ่ยต่อ "ดังนั้นห้องข้างจึงไม่ค่อยพอแล้วนะ"ห้องพักคนใช้นอกเรือนยังว่างอยู่ ปัญหาคือ เฉวียนคุนมองว่าคนเหล่านี้ นายท่านก็ไม่ได้มองพวกเขาเหมือนคนรับใช้ ดูคล้ายจะเป็นแขกมากกว่าจะให้แขกไปอยู่ในห้องพักคนใช้ก็ไม่ได้..."อา..." จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็เข้าใจความหมายของเฉวียนคุนแล้ว "อย่างนี้นี่เอง รู้แล้ว"เฉวียนคุนพยักหน้า "นายท่านเข้าใจบ้างก็ดีแล้ว ตอนนี้ยังพอจัดให้ได้ถูไถ แต่หลังจากนี้ถ้าฮูหยินกับนายท่านกลับมา ก็น่าจะจัดไม่ลง
แต่หลังจากที่พวกเขาออกไป จั๋วซือหรานกลับไม่ได้ลงมาจากบนกำแพงล้อมแต่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเจ้ายังมีเรื่องอะไรอีก"นางปวดหัว เรื่องนึงสงบลงอีกเรื่องก็ผุดขึ้นมา นางสัมผัสได้นานแล้ว ต่อให้จะเป็นตอนที่คุมเชิงกับคนตระกูลเฟิงที่ไล่ตามเฟิงหร่านมา นางก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องแอบมองอยู่จากมุมหนึ่งมาโดยตลอดแล้วพอคนจากไป นางก็รออยู่อีกพักหนึ่ง สายตาที่แอบมองอยู่นั่นก็ยังอยู่นางเองก็ขี้เกียจมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้แล้ว จึงส่งเสียงขึ้นมาตรงๆตอนนี้เอง ในมุมลับตา ก็มีเงาสองร่างเดินออกมาจั๋วซือหรานรู้จักหนึ่งในนี้ นางเลิกคิ้ว "วันนี้คึกคักเสียจริง"พอได้ยินคำนี้ เหยียนฉีก็รู้สึกเขินหน่อยๆ เขาประสานมือให้ "แม่นางจิ่ว ไม่เจอกันเสียนาน"จั๋วซือหรานพยักหน้า มองไปยังคนข้างๆ ผาดหนึ่งเหยียนฉีเอ่ยแนะนำว่า "นี่ นี่คือพ่อของข้าเหยียนเจิน"จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เข้ามาสิ"นางไม่ได้กระโจนกลับจากกำแพงล้อมหรือกระโจนออกไป แต่ยืนขึ้นย้ำไปตามสันกำแพง เดินตรงไปยังประตูหน้าพร้อมพวกเขาตอนที่พวกเขาเดินมาถึงประตูเรือนหลัก จึงมีเงาแดงร่างหนึ่งร่อนลงมาตรงหน้าพวกเขา
พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หานกวงก็พยักหน้า "ใช่แล้ว"จั๋วซือหรานมุมปากกระตุก "ไม่จบไม่สิ้นเสียที"หานกวงฟังออก ถึงความเย็นชาและขุ่นเคืองในน้ำเสียงของแม่นางจิ่วจั๋วซือหรานผลักประตูออก เดินไปที่ห้องตะวันออกเฟิงหร่านพยุงร่างขึ้นมานั่งบนเตียง นางอยู่ในชุดดำ มีบาดแผลอยู่ไม่น้อย มีเลือดซึมออกมาข้างนอกด้วยจั๋วซือหรานแค่เหลือบมอง ก็รู้ว่าปัญหาไม่ใหญ่นักนางเดินเข้าไป ใช้มือหนึ่งจับชีพจรของเฟิงหร่าน อีกมือหนึ่งโยนขวดใบหนึ่งให้นางเฟิงหร่านก็รับไปแบบมือไม้พัลวัน "พี่จั๋ว นี่คือ...""เจ็บไม่หนักมาก กินยาเอาเองเลย" จั๋วซือหรานตอบมาเฟิงหร่านเดาว่าด้านในน่าจะเป็ยารักษาอะไรบางอย่าง นางพยักหน้า "ได้เลย ขอบคุณพี่จั๋วมาก"นางเดิมทียังคิดจะเอ่ยปาก บอกเรื่องในตระกูลเฟิงกับจั๋วซือหรานแต่ก็เห็นว่าว่าหลังที่จั๋วซือหรานส่งยาให้นางแล้ว ก็หมุนตัวเดินไปนอกประตูทันทีเฟิงหร่านรีบถามขึ้น "พี่จั๋ว ท่านจะไปไหน?"จั๋วซือหรานมุถมปากกระตุก "คนตระกูลเฟิงที่ไล่สังหารเจ้ามาพวกนั้น มาล้อมอยู่นอกบ้านข้าแล้ว พอดีเลย คืนนี้ข้าจะได้ไม่ต้องไปหาพวกเขา"พูดจบ นางก็เดินออกจาห้องไปเฟิงหร่านนั่งลงบนเตียงงงๆ แล
แพงไม่ว่า แต่บางทีมีเงินก็หาซื้อไม่ได้พวกเขาตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกขึ้นได้ว่าตัวตนนักกลั่นยาของจั๋วซือหรานนั้นมีประโยชน์มากจริงๆถ้าหากเดิมทียังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง ตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้วสายตาของพวกเขาเปล่งประกายจับจ้องจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ นางมองสายตาเปล่งประกายรอบๆ จากนั้นจึงมองไปทางผู้อาวุโสใหญ่"ถ้าหากให้ข้าตัดสินใจได้ล่ะก็ เงื่อนไขนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน"เสียงของจั๋วซือหรานสงบนิ่งมาก "จะทำเช่นที่มอบให้กับตระกูลฮั่ว มอบยาลูกกลอนให้ตระกูลจั๋ว กระทั่งถ้าอารมณ์ดี จะมอบที่ขั้นสูงกว่าให้ด้วย แต่เงื่อนไขก็คือ ตระกูลจั๋วข้าต้องมีอำนาจตัดสินใจ แล้วก็ไม่ใช่ว่ามีพวกกลุ่มที่กระโจนตัวลากใบหน้าแก่ๆ ออกมาสั่งโน่นสั่งนี่กับข้า"จั๋วหลานฟังถึงคำนี้ ในใจก็อดสั่นกึกขึ้นไม่ได้เขาฟังออกถึงความหมายเชิงลึกในคำพูดนาง...ถ้าหากวันไหนที่นางไม่มีอำนาจตัดสินใจในตระกูลจั๋ว นางก็จะตัดการส่งมอบให้ได้ตลอดเวลา พวกเขาไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อยดังนั้น ไม่ว่าในใจเหล่าผู้อาวุโสที่นี่จะมีความคิด 'ฟังนางไปก่อนชั่วคราว หลังจากนี้ค่อยว่ากัน' แค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องดับมอดลงไปทันทีจั๋วซือหรานพ
ทุกคนเห็นว่าบนหน้าจั๋วซือหรานมีรอยยิ้มจางๆ อยู่ตลอดแม้จะไม่มีความหมายอะไร ลอยอยู่ผิวเผิน แต่ก็มีอยู่มาตลอดจนตอนที่คำพูดนี้ออกมา รอยยิ้มผิวเผินบนหน้านางเหล่านั้นก็หายวับไปทันทีเหลือเพียงความเย็นชาไร้ความรู้สึกนางบอกกับคนวังจดบันทึกที่อยู่ข้างๆ "รบกวนเจ้าด้วย"คนวังจดบันทึกรู้ว่าคนผู้นี้เป็นตัวตนที่สำคัญแค่ไหนสำหรับฝ่าบาทดังนั้นท่าทีจึงนอบน้อมมาก หยิบม้วนผ้าไหมเลืองทองออกมาคลี่ออกใครก็เห็นลายมังกรที่อยู่บนนั้น...นี่มันคือราชโองการ!คนวังจดบันทึกหยิบพู่กันออกมา เริ่มตวัดเขียนขึ้นบัญชาสวรรค์ จักรพรรดิรับสั่ง ตระกูลจั๋วมีบุตรสาว ชื่อนามหรูซิน จึงขอพระราชทานงานอภิเษกให้กับฉินตวนหยางปราชญ์แห่งกรมดาราศาสตร์...หลังจากได้ยินคนวังจดบันทึกอ่านประกาศร่างราชโองการจั๋วหรูซินยังคงเป็นลมไม่ได้ เพราะยาเม็ดนั้นที่จั๋วซือหรานให้มาอหังการเหลือเกิน บอกว่าจะทำให้นางสติตื่นตัว ก็ทำให้ตื่นตัวได้จริงๆดังนั้นนางจึงโกรธแค้นจนเกินทน กระอักเลือดสดออกมาจั๋วซือหรานลุกขึ้นยืน ในดวงตาไม่มีคนผู้นี้อยู่อีก ราวกับว่า ล้างแค้นสิ่งที่ควรทำเรียบร้อยคนอย่างจั๋วหรูซิน ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในสายตานางอี
ถังหยวนมองสภาพจั๋วหรูซินตอนนี้ เขาอดมีสายตาสับสนขึ้นมาไม่ได้ตรงหน้าเขามีภาพตอนที่จั๋วซือหรานถูกลงโทษแวบผ่านขึ้นมา กระดูกสันหลังที่ไม่ยอมคดงอนั่นเก้าแส้ฟาดลงไป หน้าขาวซีด เหมือนจะร่วงพับสิ้นสติ สภาพซมซานน่าเวทนาแต่ในสีหน้าท่าทาง ไม่มีท่าทีเจ็บปวดร้องไห้ชักกระตุกให้เห็นกระทั่งว่า ถังหยวนเกิดความรู้สึกลวงขึ้นมา ว่ามันควรจะเป็นเช่นนี้หรือเปล่า?แต่ตอนนี้พอเห็นท่าทางของจั๋วหรูซิน จึงมีปฏิกิริยาเข้าใจขึ้นทันที จั๋วหรูซินแบบนี้ต่างหากที่เป็นสภาพปกติแต่แบบจั๋วซือหรานนั่น เป็นตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่นจั๋วหลานมองจั๋วซือหราน "เสียวจิ่ว พอสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานเดินขึ้นไปทีละก้าวทุกคนล้วนคิดว่า หญิงสาวคนนี้ยังไม่สะใจพอ ต้องเข้าไปมองความเจ็บปวดทรมานของจั๋วหรูซินใกล้ๆ จึงจะพอใจจั๋วอวิ๋นชินอดทนอยู่ข้างๆ แม้เขาจะไม่พอใจน้องสาวคนนี้นัก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นน้องสาวจะอย่างไรก็ยังมีความรู้สึกทนไม่ไหวอยู่ เขาเตรียมจะยัดยาลูกกลอนให้กับจั๋วหรูซินแล้วแต่ตอนนี้พอเห็นจั๋วซือหรานเดินขึ้นมา แม้เขาจะหยุดเท้าลง แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจั๋วอวิ๋นชินเอ่ยขึ้นเสียงขรึม "จั๋วซือหราน หรูชินได้ร